(http://www.seesod.com/storage34/oGbyaDx9VT1278049107/o.jpg)
โยนิโสมนสิการ
ทบทวน ความรู้ความเข้าใจในปฏิจจสมุปบาทธรรม
อย่างแยบคาย
โดยวางใจ เป็นกลาง...
พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนว่า การศึกษาที่แท้จริงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมนุษย์รู้จักคิด วิเคราะห์ วิจารณ์อย่างรอบคอบและรอบด้านจึงจะทำให้เกิดปัญญาแตกฉาน เรียกว่า โยนิโสมนสิการ
โดยวิธีการคิดแบบโยนิโสมนสิการมี 10 วิธีด้วยกัน คือ...
1.วิธีคิดแบบคุณค่าแท้และคุณค่าเทียม ไม่ติดในรูปร่างภายนอกของวัตถุ เมื่อจะอุปโภคบริโภคสิ่งใดก็จะคิดถึงประโยชน์ก่อน หรือเรียกได้ว่าเสพปัจจัยด้วยคุณค่าที่แท้จริง ทำให้ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุ
2.วิธีคิดแบบคุณโทษและทางออกเล็งเห็นว่าทุกสิ่งมีทั้งคุณและโทษ ต้องรู้จักแยกแยะว่าคุณและโทษอยู่ตรงไหน และทางเลือกที่ดีกว่าเป็นอย่างไร
3.วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม คิดหาประโยชน์จากเรื่องต่างๆ จากทั้งแง่ดีและแง่เสียโดยพยายามถือเอาประโยชน์ให้ได้ เช่น เรื่องของความตาย ถ้าเราคิดถึงความตายแล้วเป็นเหตุให้ทำความดีได้ ก็ถือว่าเป็นการปลุกเร้าให้มีความพยายามในการทำความดี ถือว่าเป็นการคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม
4.วิธีคิดแบบอรรถสัมพันธ์ เป็นการคิดแบบเชื่อมโยงหลักการกับความมุ่งหมาย อาทิ การกระทำบางอย่างไม่สำเร็จเพราะมิได้วางเป้าหมายให้ชัดเจน หรือบางครั้งเป้าหมายชัดเจนแต่การกระทำไม่สอดคล้องกันจึงไม่สำเร็จ เป็นต้น
5.วิธีคิดแบบอริยสัจเป็นการคิดแก้ปัญหาที่สาเหตุการคิดแบบนี้คล้ายกับการคิดแบบวิทยาศาสตร์ คือ ต้องมีการตั้งปัญหาคิดสมมติฐาน รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาคำตอบของปัญหานั้น ๆ
6.วิธีคิดแบบสืบสาวหาเหตุและปัจจัย การคิดพิจารณาสืบค้นหาเหตุและปัจจัย ทำให้รู้ได้ว่าสิ่งที่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุใด และมีปัจจัยใดที่เกี่ยวข้องบ้าง
7.วิธีคิดแบบสามัญลักษณะวิธีคิดแบบนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวิธีคิดแบบรู้เท่าทันธรรมดา นั่นคือรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ มีเกิดขึ้น แปรเปลี่ยน และดับสลายไป เพื่อจะได้ไม่ยึดมั่นถือมั่นและไม่เป็นทุกข์จนเกินไป
8.วิธีคิดแบบเป็นอยู่ในปัจจุบัน คือ มีสติสัมปชัญญะ รู้ตัวอยู่ตลอด เนื่องจากการคิดแบบไม่ยอมอยู่ในปัจจุบัน การจมอยู่กับอดีตหรือคิดล่วงหน้าไปในอนาคตจะทำให้เกิดวิตกกังวล หรือเกิดอันตรายได้ เช่น การขับรถ ถ้าขณะขับไม่มีสติอยู่กับตัว ก็อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
9.วิธีคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ เป็นการคิดแบบแยกย่อยเป็นส่วนๆ เพื่อหาความสอดคล้องสัมพันธ์กันเป็นองค์รวม การคิดแบบนี้จะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้ดียิ่งขึ้น เพราะไม่มองแต่ภาพรวมแต่มองลึกลงไปถึงรายละเอียดด้วย
10.วิธีคิดแบบแยกแยะประเด็นการคิดแบบแยกแยะประเด็นมีประโยชน์มากในการดำเนินชีวิตประจำวันยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรารู้จักแยกแยะหน้าที่ของตนเองก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตได้เป็นอย่างดี เช่น ในฐานะที่เป็นนักเรียนก็ควรที่จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนโดยแบ่งเวลาเรียนกับเวลาเล่นให้เป็น เป็นต้น
ขอบคุณน้อง"บางครั้ง"ค่ะ
:13: http://www.sookjai.com/index.php?topic=4648.new#new