ใต้ร่มธรรม

แสงธรรมนำใจ => หยาดฝนแห่งธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛ ที่ กรกฎาคม 23, 2010, 10:30:32 am

หัวข้อ: มัทวะ
เริ่มหัวข้อโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛ ที่ กรกฎาคม 23, 2010, 10:30:32 am
(http://www.tairomdham.net/index.php?action=dlattach;topic=361.0;attach=186;image)

(http://lh4.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TEftE_dRx7I/AAAAAAAAAvM/YKFo3xwGYWw/buddha1-1.gif)


มัททวะเป็นไฉน คือ อ่อนโยน ความละมุนละไม ความไม่แข็ง ความไม่กระด้าง

ความเจียมใจ อันใด นี้เรียกว่า มัททวะ

บุคคลชื่อว่าเจียมใจเพราะอรรถว่ามีใจเจียมด้วยไม่มีมานะภาวะแห่งบุคคลผู้

เจียมใจชื่อว่าความเจียมใจ


เป็นชีวิตประจำวันที่ต้องอาศัยการสังเกตุจริง ๆ มิฉะนั้นก็ไม่สามารถที่รู้จัก

สภาพธรรมในขณะที่สภาพธรรมนั้น ๆ ปรากฏ

สำหรับการที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมทุกคนก็คงจะทราบแน่ว่าไม่ใช่การอบรมเจริญ

ปัญญาเพียงชาติเดียว 2 ชาติ 3 ชาติและในแต่ละชาติก็สั้นมากการที่บุคคลใดเกิดมา

ในชาตินี้จะมีชื่อเสียงมีสกุลมีมิตรสหายมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นถ้าพิจารณาแล้ว

ก็จะเห็นได้ว่าขณะที่เป็นอกุศลมากกว่าขณะที่เป็นกุศลถ้าชาตินี้หมดไปคือ.............................

ผ่านไปซึ่งก็จะต้องหมดไปแน่นอนผ่านไปโดยไม่มีสี่งใดเหลือในความเป็นบุคคลนี้อีก

และเมื่อเกิดชาติหน้าสามารถจะระลึกได้อาจจะรู้สึกเสียดายว่า

ชาตินี้ทำกุศลน้อยไปหรือว่าเสียเวลากับสี่งที่ไม่มีสาระมากไป

แต่ขณะนี้ กำลังเป็นชาตินี้อยู่แต่ทั้ง ๆ รู้ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะกิเลส

หรือว่าหมดกิเลสได้

ถ้ากล่าวถึงกิเสที่มากมายที่สะสมมามากในอดีตอนันตชาติก็เป็นของที่แน่นอนค่ะ

ที่จะเห็นชัดว่าช่างละยากเพราะว่าสะสมมามากแต่ลองคิดถึงกิเลสเพียงขณะเดียว

ไม่ต้องคิดถึงกิเลสมาก ๆ ที่สะสมมที่จะดับเป็นสมุทเฉทขอให้เป็นเพียงกิเลส

ขณะหนึ่งขณะใดที่จะละในขณะนั้นละได้ไหมลองคิดดูนะคะกำลังสนุกละสิคะ

กิเลสในขณะนั้นเพียงขณะเดียวไม่ต้องคิดถึงถึงขณะที่สะสมมามากมายเพียงแต่

ละขณะ ๆ ที่่นึกจะละกิเลสในขณะที่มีกิเลสอยู่ยังละไม่ได้เพราะฉะนั้นตามความเป็น

จริงแล้วเมื่อกิเลสมีมากยี่งกว่าเพียงขณะเดียว ๆ การที่จะละกิเลสจึงเป็นเรื่องที่จะ

ต้องอบรมเจริญปัญญาอีกนานทีเดียว


ข้อธรรมคำสอนของอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มูลนิธิบ้านธรรมมะ บุคโล ธนบุรี

ธรรมะน่าคิดพิจารณาวันนี้

ผู้แสวงหาที่ไม่ฉลาดในธรรมย่อมไม่เห็นแจ้งนิพพานที่อยู่ในตัว - สนฺติเก น วิชานนฺติ มฺคคา

ธมฺมสฺส อโกวิทา(ปัคคัยหสูตร ๑๘/๑๔๒)

ธรรมะประจำวันที่ 23/07/2010

การพิจารณานามรูปที่หยาบและละเอียด
หัวข้อ: Re: มัทวะ
เริ่มหัวข้อโดย: (〃ˆ ∇ ˆ〃) ที่ กรกฎาคม 23, 2010, 10:42:01 am
อนุโมทนาสาธุค่ะ เพลงเย็นดีจัง
หัวข้อ: Re: มัทวะ
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กรกฎาคม 23, 2010, 04:05:10 pm
 :13: อนุโมทนาครับ
หัวข้อ: Re: มัทวะ
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ กรกฎาคม 24, 2010, 04:19:39 am

 :13: :19: :13:

         :43:
หัวข้อ: Re: มัทวะ
เริ่มหัวข้อโดย: rain.... ที่ กรกฎาคม 24, 2010, 08:59:51 pm
 :07:อนุโมทนา  วันทามิ