สมเด็จพระธีรญาณมุนี
คติชีวิตเปรียบด้วยของ ๗ อย่าง
โดยสมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณกมหาเถระ ป.ธ.๙)
ชีวิตน้อยนิดเดียว พลันจะดับ มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก อุปมาเหมือน
1.เหมือนหยาดน้ำค้าง ธรรมดาหยาดน้ำค้างที่ปลายใบหญ้า
เมื่อพระอาทิตย์อุทัยต้องไอร้อน ก็พลันจะหายไปไม่ตั้งอยู่นานฉันใด
ชีวิตมนุษย์ทั้งหลายนี้เล่า เมื่อชาติมีแล้ว ก็มีชรา พยาธิ มรณะ
คอยรุมเผาไม่ให้เป็นไปนาน พลันสาบสูญอันตรธานเสีย
แต่ยังไม่ทันไร เกิดแล้วก็แก่เฒ่าเจ็บตาย ในชั่วยังไม่ทันถึงร้อยปี
2.เหมือนต่อมน้ำ ธรรมดาว่า ต่อมน้ำอันตั้งขึ้น
เพราะฝนเม็ดโตตกกระทบพื้นโดยกำลังแรง
ย่อมพลันจะแตกไปไม่ตั้งอยู่นาน ฉันใด
ชีวิตนี้เกิดขึ้นเพราะความประชุมแห่งเหตุ
เมื่อเหตุสลายจากกันแล้ว ก็พลันที่จะดับ ฉันนั้น
3.เหมือนร้อยไม้ขีดลงในน้ำ ธรรมดาว่าน้ำเป็นของไม่แยกจากกัน
เมื่อบุคคลเอาไม้ขีดให้แยกจากกัน พอไม่มีไม้คั่น
ก็กลับเลื่อนไหลเข้าหากันอีก รอยปรากฎในชั่วเวลา
ไม้ขีดกำลังขีดลงฉันใด ชีวิตนี้ยังเป็นไปได้ ก็เพราะปัจจัยอุดหนุน
หมดปัจจัยแล้วก็หมดกันสมด้วยพระพุทธภาษิตว่า
อายุ อุสมา จ วิญญานัง ยทา กายัง ชหันติมัง
อปวิฎโฐ ตทา เสติ เอตถ สาโร น วิชชติ.
ความว่า เมื่อใดอายุ ไออุ่น และวิญญาณ ละกายนี้เสีย
เมื่อนั้น กายนี้ย่อมนอนทอดหาแก่นสารมิได้
4.เหมือนลำธารอันไหลมาจากภูเขา
ธรรมดาว่ากระแสน้ำในลำธารไหลไปไกลกำลังเชี่ยว
นำเอาสิ่งที่อาจนำไปได้ ไม่มีหยุดสักขณะ
มีแต่จะไหลไปอย่างเดียวฉันใด วันคืนล่วงไป ๆ
ก็นำเอาชีวิตล่วงไปตามด้วย
ไม่มีพักสักขณะมีแต่จะรุกไปส่วนเดียวฉันนั้น
5.เหมือนก้อนเขฬะ ธรรมดาว่าบุรุษมีกำลัง
จะถ่มก้อนเขฬะที่ปลายลิ้นโดยไม่ยากฉันใด
ชีวิตนี้ก็เป็นของจะดับได้ง่ายฉันนั้น
6.เหมือนชิ้นเนื้อนาบไฟ ธรรมดาว่า
ชิ้นเนื้อที่บุคคลเอาลงในกะทะเหล็กอันร้อนตลอดวันยังค่ำ
ย่อมจะพลันไหม้ไม่ตั้งอยู่ได้นานฉันใด ชีวิตก็ต้องเพลิงกิเลส
และเพลิงทุกข์เผาผลาญให้เหี้ยมเกรียมไม่ทนอยู่นานฉันนั้น
7.เหมือนโคที่เขาจะฆ่า ต้องนำไปสู่ที่ฆ่า ยกเท้าเดินไปเท่าใด
ความตายก็ใกล้เข้ามาเท่านั้น ชีวิตนี้ วันคืนล่วงไปเท่าใด
ก็ใกล้ความตายเข้าไปเท่านั้น เหมือนกัน
--------------------------------------------------------------------------------
ที่มา http://www.chakkrawat.com/nansara/motto_02.html
ขอบพระคุณที่มา http://www.loengjit.com/board/index.php?topic=1200.msg3011;topicseen#new