ใต้ร่มธรรม

อริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมอันดี => มาลาบูชาครู => ข้อความที่เริ่มโดย: ฐิตา ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 08:32:08 am

หัวข้อ: เรื่องที่ลืมเขียนมานมนาน(หลวงปู่หล้า)
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 08:32:08 am

(http://www.84000.org/supatipanno/img/foot.jpg)
(http://www.84000.org/supatipanno/img/foot2.jpg)
(http://www.84000.org/supatipanno/img/foot3.jpg)
หัวข้อ: Re: เรื่องที่ลืมเขียนมานมนาน(หลวงปู่หล้า)
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 08:57:13 am

   ข้อความของหลวงปู่หล้า เขมปัตฺโต ที่เขียนถึงฝ่าเท้าของหลวงปู่มั่น
   เรื่องที่ลืมเขียนมานานคือ ....

   ( ฝ่าเท้าหลวงปู่มั่นทั้งสองข้าง เป็นตาหมากรุกหมดเต็มทั้งสองฝ่า )
   เวลาสรงน้ำท่านปรารภว่า(ฝ่าเท้าของเราไม่เหมือนหมู่เพียงเท่านี้)
   พูดค่อยๆแบบเย็นๆ (ในยุคหนองผือ สี่ปีที่ข้าพเจ้าอยู่กับองค์ท่านนั้น)
   พระเณรผู้น้อยที่ถวายข้อวัตรสรงน้ำถวายองค์ท่านนั้น ผู้สงวนฟังจึง -
   จะได้ยิน (เพราะองค์ท่านก็ปรารภค่อยแบบประหยัดไม่แกมอวด)
   
   ส่วนข้าพเจ้าไม่ได้__อาจเอื้อมถูข้างบน(ระหว่างฝ่าเท้าเสมอๆ)
   จำพวกที่ถูหลัง ตัว แขน ขา ฝ่าเท้านั้น มักจะเป็นพระ ๔-๓-๒-
   พรรษาเท่านั้นได้ถู พระผู้ใหญ่เหนือ ๕-๖-๗-๘-๙- ไปแล้วไม่ค่อย
   จะได้ถู ตัว แขน ขา เพราะองค์หลวงปู่เทสน์ว่า สรงน้ำนี้เว้นให้ผู้น้อย

   เขาสรงเสีย ถ้าพระผู้ใหญ่มาทำขวางผู้น้อย ผู้น้อยเขาระอายเก้อเขิน
   เพราะเขาไม่มีทางเอื้อมมือเข้า และเขาก็กระดากระอายดังนี้
   
   ส่วนข้าพเจ้าพรรษาอ่อน แต่อายุสามสิบกว่าในสมัยนั้น
   และการที่องค์ท่านปรารภว่า ฝ่าเท้าของเราไม่เหมือนหมู่ นั้นองค์ท่าน
   (ปรากฎว่า ปรารภครั้งเดียวเบาๆเท่านั้นไม่ได้ซ้ำๆซากๆอีก) ส่วนข้าพเจ้า
   ผู้สงวนถูฝ่าเท้าก็เห็นเป็นตาหมากรุกเต็มฝ่าเท้าทั้งสองทางจริง ข้อนี้

   ในชีวะประวัติขององค์ท่านเล่มใดๆก็ไม่ปรากฎเห็น และยุคที่องค์ท่านทรงพระ
   ชีวาอยู่ ก็บรรดาลดลใจไม่มีใครสนใจปรารภ (น่าแปลกมาก) ข้าพเจ้าก็บรรดาล
   ลืมอีกด้วย เรียกได้ว่าข้าพเจ้าไม่มีพยานก็ว่าได้ (แต่เอาตาหูตนเองเป็นพยาน)
   ยุคก่อนๆก็ไม่มีท่านผู้ใดเล่าให้ฟัง (ชะรอยจะว่าดีชั่วไม่อยู่กับฝ่าเท้าอยู่กับใจกับธรรม)
   
   o เรื่องฝ่าเท้าขององค์หลวงปู่มั่นเป็นตาหมากรุกนี้ เป็นของ
   ทรงพระลักษณะสำคัญมาก แต่ก็น่าสนใจมากว่า ไฉน
   จึงบรรดาลไม่ให้พระจำพวกผู้ใหญ่สนใจเอาลงในชีวะ
   ประวัติ(กลายเป็นของไม่สำคัญไป)ชะรอยพระผู้น้อยที่
   เห็นในเวลาสรงน้ำถวายแล้ว ไม่เล่าถวายให้พระผู้ใหญ่
   ฟัง แต่ข้าพเจ้าเองก็บรรดาลลืม ไม่ค่อยสนใจเล่าเลย

   แต่พอมาถึงยุคภูจ้อก้อตอนแก่กว่เจ็ดสิบปีกว่าๆแล้ว
   จึงระลึกเห็น เป็นของน่าแปลกมากแท้ๆที่ลืมพากันลืม
   เขียนลง แต่คราวองค์ท่านทรงพระชีวาอยู่ก็ดี หรือ
   ทรงพระมรณะกาเลก็ดี ไม่มีท่านผู้ใดสงวนปรารภ ก็เป็น
   ของคล้ายกับว่าอุตตริขึ้นมาภายหลัง แต่ก็ต้องอาศรัย
   หลักของความจริง ไม่หนีจากความจริงเฉพาะตอนนี้
   เป็นพยาน จริงก็ต้องเอาจริงเป็นพยาน เท็จก็ตรงกันข้าม
   
   o ชีวะประวัติยุคภูจ้อก้อเป็นยุคสุดท้ายภายแก่ชะราพาธ ถ้าไม่มรณะ
   กาเลไปเสียแล้ว ชีวะประวัติก็จะไม่จบได้ แต่จะอย่างไรก็ตามทีเถิด
   ต่างจะได้พิจารณาว่า เจตนาปฏิบัติพระพุทธศาสนาเพื่อประสงค์อะไรบ้าง
   และจิตใจจะอยู่ระดับใดบ้าง เหล่านี้เป็นต้น แต่บรรยาย
   พอสังเขปก็เอาละ จะบรรยายไปมากก็จะเป็นหลายวรรคหลายตอน

   และก็ความพอดีพองามในโลกนี้ไม่รู้ว่าจะอยู่ระดับใดแน่ ถ้ามาก
   เกินไปเล่มก็ใหญ่ลงทุนก็มาก ท่านผู้อ่านก็จะระอาอีก น่าพิจารณา
   และก็คล้ายๆกับว่าตนเป็นผู้ประเสริฐเลิศล้ำ ระฆังไม่ดังก็ตีจนระฆัง
   แตก แต่จะอย่างไรก็อาศรัยเจตนาเป็นเกณฑ์ ก็แล้วกันกระมัง
   
   หล้า


Credit by : http://agaligohome.fix.gs/index.php?topic=1379.msg5764;topicseen#msg5764
miracle of love
: sookjai.com
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องที่ลืมเขียนมานมนาน(หลวงปู่หล้า)
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:33:38 am
 :13: คนโบราณลายมือสวยครับ เคยเห็นลายมือปู่ปวดนะครับ แบบนี้เลยครับ อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับพี่แป๋ม