ใต้ร่มธรรม
วิถีธรรม => จิตภาวนา-ปัญญาบารมี => แนวทางปฏิบัติธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: lek ที่ มกราคม 05, 2011, 06:09:53 pm
-
วิธีปฏิบัติของผู้เล่าเรียนมาก *
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
ผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์วินัยมาก มีอุบายมากเป็นปริยายกว้างขวาง
ครั้งมาปฏิบัติทางจิต จิตไม่ค่อยจะรวมง่าย
ฉะนั้นต้องให้เข้าใจว่าความรู้ที่ได้ศึกษามาแล้วต้อง
เก็บใส่ตู้ใส่หีบไว้เสียก่อน
ต้องมาหัดผู้รู้คือจิตนี้
หัดสติให้เป็นมหาสติ หัดปัญญาให้เป็นมหาปัญญา
กำหนดรู้เท่ามหาสมบัติ-มหานิยม
อันเอาออกไปตั้งไว้ว่าอันนั้นเป็นอันนั้น
เป็นวันคืนเดือนปี เป็นดินฟ้าอากาศกลางหาว
ดาวนักขัตฤกษ์สารพัดสิ่งทั้งปวง
อันเจ้าสังขารคืออาการจิต
หากออกไปตั้งไว้บัญญัติไว้ว่าเขาเป็นนั้นเป็นนี้
จนรู้เท่าแล้ว เรียกว่า กำหนดทุกข์ สมุทัย
เมื่อทำให้มาก-เจริญให้มาก รู้เท่าเอาทันแล้ว
จิตก็จะ รวมลงได้ เมื่อกำหนดอยู่ก็ชื่อว่าเจริญมรรค
หากมรรคพอแล้ว นิโรธ ก็ไม่ต้องกล่าวถึง
หากจะปรากฏชัดแก่ผู้ปฏิบัติเอง
เพราะศีลก็มีอยู่ สมาธิก็มีอยู่
ปัญญาก็มีอยู่ในกาย วาจา จิต นี้ที่เรียกว่าอกาลิโก
ของมีอยู่ทุกเมื่อโอปนยิโก
เมื่อผู้ปฏิบัติมาพิจารณาของที่มีอยู่ ปจฺจตฺตํ จึงจะรู้เฉพาะตัว
คือ มาพิจารณากายอันนี้ให้เป็นของอสุภะเปื่อยเน่า แตกพังลงไป
ตามสภาพความเจริญของภูตธาตุ ปุเพสุ ภูเตสุ ธมฺเมสุ
ในธรรมอันมีมาแต่เก่าก่อนสว่างโร่อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
ผู้มาปฏิบัติพิจารณาพึงรู้อุปมารูปเปรียบดังนี้
อันบุคคลผู้ทำนาก็ต้องทำลงไปในแผ่นดิน ลุยตมลุย โคลนตากแดดกรำฝน
จึงจะเห็นข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าวสุกมาได้และได้บริโภคอิ่มสบาย
ก็ล้วนทำมาจากของมีอยู่ทั้งสิ้นฉันใด ผู้ปฏิบัติก็ฉันนั้น
เพราะศีล สมาธิ ปัญญา ก็อยู่ในกาย วาจา จิต ของทุกคนฯ
(หมายเหตุ : เป็นธรรมเทศนาในปัจฉิมสมัยของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
ซึ่งพระภิกษุทองคำ ญาโณภาโส และพระภิกษุวัน อุตตโม จดบันทึกไว้)
ขอบพระคุณที่มาhttp://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=36123
-
:13: อนุโมทนาครับพี่เล็ก ขอบคุณครับผม