ใต้ร่มธรรม
แสงธรรมนำใจ => จิตวิวัฒน์ กระบวนการนิวเอจ นิเวศแนวลึก => พระไพศาล วิสาโล => ข้อความที่เริ่มโดย: rain.... ที่ มกราคม 18, 2011, 08:07:08 pm
-
:13: :13: :13: :13:
เปิดใจกว้าง รับฟังกันให้มากๆ
:19: :19: :19: :19:
เวลาคนอื่นพูด เราต้องเปิดใจรับฟังด้วยใจที่เปิดกว้าง แล้วเราจะเข้าใจซึ่งกันและกันได้มากขึ้น
พระไพศาล วิสาโล
เรื่องที่ต้องระวังก็คือ นอกจากปัญหากับคนนอกแล้ว เราอาจจะมีความไม่เข้าใจหรือขัดแย้งกับพวกเรากันเอง แค่ความเข้าใจผิดจากคนภายนอกก็รู้สึกแย่อยู่แล้ว ยังมาเจอกับความเข้าใจผิดจากเพื่อน ๆ ด้วยกัน ก็ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ การทำงานนั้นมักจะมีปัญหาการสื่อสาร ยิ่งทำงานกลุ่มใหญ่ ปัญหาการสื่อสารก็ยิ่งเพิ่มตามมา ทำให้มีโอกาสเข้าใจผิดกันง่าย
ดังนั้นจำต้องมีวิธีการป้องกัน เช่น พยายามเปิดใจรับฟังกันให้มากๆ โดยไม่คาดหวังล่วงหน้าหรือคิดหาข้อโต้แย้งไว้ก่อน อย่างที่เรียกว่าการฟังอย่างลึกซึ้ง (Active listening) เวลาคนอื่นพูด เราต้องฟังด้วยใจที่เปิดกว้าง แล้วเราจะเข้าใจซึ่งกันและกันได้มากขึ้น
การทำงานด้วยใจที่เปิดกว้างเป็นเรื่องสำคัญ ใจที่เปิดกว้างนี้รวมถึงการไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางหรือนึกถึงตัวเองมากเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดอัตตาขึ้น การทำงานแม้จะเสียสละเพียงใด แต่อัตตาก็อาจเกิดขึ้นได้ ทำอะไรก็อยากให้ผลออกมาถูกใจฉัน ให้คนยอมรับฉัน พอคนไม่เข้าใจฉัน ก็จะทุกข์ เสียใจว่าทำไมเขาไม่เข้าใจฉัน ฉันอุตส่าห์เสียสละมากมาย
นี่เป็นเพราะเราปล่อยให้อัตตามาเป็นใหญ่ มันก็เลยดึงเอาทุกอย่างมาสนองอัตตา หรือเรียกร้องให้ถูกใจอัตตา เวลาถูกคนวิจารณ์ ก็คิดแต่ว่า “ทำไมเขามาว่าฉัน” นี่เป็นมุมมองของอัตตา แต่ถ้าเราเปลี่ยนคำถามเสียใหม่เป็นว่า “เออที่เขาพูดมามันจริงไหม มันถูกมั้ย” เราจะได้ประโยชน์ เพราะเปิดโอกาสให้เรามาใคร่ครวญว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นประโยชน์แก่เราแค่ไหน แม้มันจะไม่ถูกใจเราก็ตาม
....................
อัตตานั้นพอเกิดขึ้นแล้วมันจะเกิดอาการถือพวกถือพ้อง รวมทั้งมีการแบ่งเขาแบ่งเรา ใครที่ทำงานกับเรา เราก็ถือว่าเป็นพวกเรา ใครที่ทำงานกับองค์กรอื่นก็ถือว่าเป็นพวกอื่น เกิดการแข่งขันกัน จนอาจเกิดความขัดแย้ง อันนี้เราต้องระวัง เพราะคนเรามักชอบแบ่งเขาแบ่งเราโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ก็ทำงานอย่างเดียวกัน ช่วยเหลือคนเดือดร้อนเหมือนกัน แต่บางทีก็มาทะเลาะกันเพียงเพราะว่าอยู่คนละองค์กรกัน กลายเป็นว่าเราไม่ได้ทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แต่ทำงานเพื่อตัวเราเอง อัตตามักทำให้เกิดแบ่งพวกแบ่งพ้องอยู่เสมอ อย่าให้มันเข้ามาเป็นใหญ่ ไม่งั้นจะกระทบกันง่าย
แต่ถ้าเรามีอัตตาน้อยลง การทำงานจะมีความสุข ไม่ว่าเจอความล้มเหลวหรือความสำเร็จ ก็ล้วนมีบทเรียนต่าง ๆ ให้เรารับรู้
ล้มเหลวก็มีประโยชน์คือทำให้รู้ว่าอะไรที่ไม่ควรทำ สำเร็จก็มีประโยชน์เพราะรู้ว่าอะไรที่ควรทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ล้มเหลวก็ไม่ทุกข์ เพราะงานล้มเหลวแต่ตัวฉันไม่ได้ล้มเหลวด้วย สำเร็จก็ไม่ลืมตัวเพราะไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง
ทำงานโดยมีอัตตาน้อยเท่าไร ก็จะสนุกและเป็นสุขมากเท่านั้น และช่วยให้ชีวิตมีความสงบเย็นมากขึ้นด้วย
ท่านอาจารย์พุทธทาสเคยกล่าวว่า ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่สงบเย็นและเป็นประโยชน์ ที่ผ่านมาเราได้ใช้ชีวิตอย่างมีประโยชน์อย่างยิ่ง แต่ก็อย่าลืมความสงบเย็น ขอให้ได้สัมผัสกับความสงบเย็นขณะที่ทำสิ่งมีประโยชน์ด้วย
ขอให้ทุกคนมีร่างกายที่เข้มแข็ง จิตใจที่สดชื่นแจ่มใส เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้อย่างเต็มที่ แม้จะมีอุปสรรค ก็ขอให้ข้ามพ้นไปได้ด้วยดี อย่าได้มีอันตรายใด ๆ มาแผ้วพาน ขอให้อานิสงส์แห่งผลบุญดังกล่าวเอื้ออำนวยให้ทุกคนเจริญงอกงามในธรรม อยู่เย็นเป็นสุข และปลอดพ้นจากความทุกข์ด้วยประการทั้งปวงเทอญ
:13: :13: :13: :13:
ขอบคุณโพสจาก http://www.carefor.org/content/view/1489/153/
-
:45: ขอบคุณครับน้องฝน