ใต้ร่มธรรม

บล็อก => บทความ (Blog) => ข้อความที่เริ่มโดย: Pure+ ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:01:43 pm

หัวข้อ: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Pure+ ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:01:43 pm
บทนี้มอบให้เพื่อนร่วมทุกข์ในเหตุการณ์ความสูญเสียที่พ้นผ่าน..
(http://www.tourthai.com/gallery/images024/baimai1.jpg)

..โอ้เอ๋ย ว่าเอย ว่าโศก
ฤๅโลก โศกริน สิ้นไหว
หลุดร่วง หล่นรัว ทั่วไป
ร่ำไห้ ระทม ถมฤดี

ขอไว้ อาลัย ผู้จาก
ทุกข์ยาก ตรากตน หม่นศรี
ให้สู่ แดนสรวง ปวงมี
สิ้นเคราะห์ เสียที น้องพี่คอย

ถึงผู้ ยังอยู่ อู่หลัง
สิ้นเนื้อ เรือพัง ยับย่อย
ต้องอด ต้องอยาก พราก-คอย
ถดถอย ทุกข์ตรม สมบ่ดี

ขอจง มีใจ กล้าแกร่ง
สู้ให้ สุดแรง เต็มที่
ขอพระ คุ้มครอง ป้องชีวี
หมดทุกข์ เสียที แต่นี้เอย..๐

หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Pure+ ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:19:33 pm
บทนี้มอบให้ใครต่อใคร..รวมทั้งตัวเอง
(http://www.bloggang.com/data/nooyingja/picture/1216910886.jpg)

..พรหมลิขิตขีดทางสร้างให้เจอ
กรรมบำเรอก่อเกื้อเหลือไฉน
พาให้พบประสพอยู่ดังคู่ใจ
ขีดให้ใครต่อใครพบประสพกัน

ถึงแสนไกลถิ่นใดในใต้หล้า
ยังดึงมาให้บรรจบพบเธอฉัน
แต่ถึงใกล้แนบสนิทจนชิดกัน
ยังผลักดันให้เหินห่างจนร้างลา

นี่หรือคือกรรมกระหวัดที่จัดสรร
ให้พบกันหรือแยกอยู่สุดกู่หา
ให้ได้พบแล้วมาพรากให้จากลา
ให้ก่นหาร่ำถึงคู่อยู่อาจิน

กรรมไม่จัดให้เช่นนี้ดีกว่าไหม
อย่าจัดให้ได้มาพบสบถวิล
อย่าให้ต้องเจอเพื่อพรากจากอาจินต์
อย่าให้ยินยลคู่เพื่อกู่ลา

ขอตั้งจิตอธิษฐานบนบานกู่
แม้ได้อยู่ชมชิดสนิทหา
เป็นคู่บุญแต่ก่อนครั้งที่ตั้งมา
ขออย่าได้ไคลคลาลาจากกัน

ให้ได้อยู่ร่วมสร้างหนทางนี้
ให้ได้มีใจจิตไม่ผิดผัน
ให้ก่อเกื้อเจือจานเนิ่นนานวัน
จวบจนพลันสิ้นบุญที่หนุนเอย
..๐
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: กระตุกหางแมว ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:20:52 pm
ขอบคุณสำหรับกลอนดีๆครับพี่  :25:
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:35:20 pm
บทนี้มอบให้เพื่อนร่วมทุกข์ในเหตุการณ์ความสูญเสียที่พ้นผ่าน..
(http://www.tourthai.com/gallery/images024/baimai1.jpg)

..โอ้เอ๋ย ว่าเอย ว่าโศก
ฤๅโลก โศกริน สิ้นไหว
หลุดร่วง หล่นรัว ทั่วไป
ร่ำไห้ ระทม ถมฤดี

ขอไว้ อาลัย ผู้จาก
ทุกข์ยาก ตรากตน หม่นศรี
ให้สู่ แดนสรวง ปวงมี
สิ้นเคราะห์ เสียที น้องพี่เอย

ถึงผู้ ยังอยู่ อู่หลัง
สิ้นเนื้อ เรือพัง ยับย่อย
ต้องอด ต้องอยาก พราก-คอย
ถดถอย ทุกข์ตรม สมบ่ดี

ขอจง มีใจ กล้าแกร่ง
สู้ให้ สุดแรง เต็มที่
ขอพระ คุ้มครอง ป้องชีวี
หมดทุกข์ เสียที แต่นี้เอย..๐




(http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/graphic_1/1348/253348/7d23b271ae0f1ef8d3c8156c7cf63b80_1228362634.gif)



สาธุ!~  :13: ขอร่วมไว้อาลัย  :11:  แด่..ผู้จากไป สูญเสีย ..จากเหตุการณ์ความไม่สงบฯที่พ้นผ่าน..ไปนี้ และ ขอให้ เหตุการณ์นั้นผ่านไปแล้วไปลับอย่าได้กลับมา หลอก มา หลอน ฤๅ เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเช่นนั้นกับ ... ผู้ที่ รัก  :19: เกิด พร้อมพลีชีพปกป้อง ..
ประเทศชาติ(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:eHHh07JpjPKmOM)และองค์พ่อหลวงท่าน ที่ อยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินไทยแบบไร้การแบ่งแยก ในเชื้อชาติ ศาสนา ฐานันดรใดๆ ทุกสถาน .. นี้ อีกเลยนะคะ.. :07:  ....ขอขอบพระคุณพี่เพียวด้วยนะคะ สำหรับบทกลอนไว้อาลัย..ที่ใช้ภาษาเรียบง่าย แต่กินใจในเนื้อความ ข้างต้นนี้ด้วยค่ะ..


(http://diary.yenta4.com/images_icon/sario/singer.gif) (http://diary.yenta4.com/images_icon/sario/singer.gif) (http://diary.yenta4.com/images_icon/sario/singer.gif)





หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:40:38 pm
 :19: ในใจเราถ้ามีกวีแล้ว..
 ย่อมมีความสวยงามแห่งจิต..ตั้ง..ยึดอยู่เสมอ
 พี่เพียวร่ายอักษร..ดั่งต้องมนต์ตรา ใครๆที่ได้อ่านล้วนเกิดศรัทราแห่งกวีนิพนธ์

  :13:ขอบคุณครับพี่เพียวสุดหล่อ
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Pure+ ที่ กรกฎาคม 29, 2010, 08:23:53 pm
บทนี้ขอนอกกรอบสักหนึ่งบท!
(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:sViJ8shvp7pWfM::&t=1&usg=__Y4d1HxkCFwcbld4cY9NyF13519Q=)

"๐..การเมือง เป็นจุดเรือง เรื่องอำนาจ
ผูกขาด ทุกชนชาติ เผ่าเชื้อ
ไม่มีธาร น้ำใจ จะให้เจือ
ไม่มีเผื่อ แผ่ผลพวง ให้ปวงชน

ไม่ว่าจะ ชาติใด ในโลกหล้า
การเมืองเหมือน หมาบ้า น่าสับสน
พลิกและผัน ปั่นป่วน ชวนวกวน
สัปดน กลิ้งกลอก หลอกและลวง

เศรษฐกิจ รุกฆาต ที่บาดเนื้อ
สุดจะเหลือ หม่นสุข ทุกข์ใหญ่หลวง
นักการเมือง ฉ้อราษฏร์ จนชาติกลวง
ไม่มีห่วง ปวงชน บนแผ่นดิน

ทนไปเถิด เพื่อนพ้อง เหล่าน้องพี่
ชุบชีวี ให้แกร่ง เหมือนแท่งหิน
สักวันหนึ่ง เมื่อฟ้าทอง ส่องผืนดิน
เหล่าเหลือบลิ้น ก็จะสิ้น ชีวาวาย

เกิดเป็นคน ต้องดิ้นรน อดทนสู้
ยืนหยัดอยู่ ท้าชะตา พาที่หมาย
ให้โลกเห็น เด่นเป็นหลัก จักท้าทาย
ใดอย่าหมาย กำหนด มาบดบัง

ใช่ว่าโชค หรือชะตา ฟ้าจะแกล้ง
ใช่ว่าแสง จะสิ้นหมด ถูกกดขัง
ใช่ว่าธรรมฯ จะอำลา ศรัทธาพัง
ใช่ว่ารัง จะเลิกร้าง สร้างทางดี..๐
"

ใช่ว่าใช่ จะใช่ และใช่ว่า...
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กรกฎาคม 29, 2010, 09:53:32 pm
 :13: ชอบพี่เพียวก็ตรงนี้นี่แหละครับ อนุโมทนาครับพี่
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Plusz ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 04:47:59 pm
โดนอย่างแรง >.,<   :19:
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Pure+ ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 08:13:49 pm
บทนี้มอบให้คนที่ยังถูกล่ามเอาไว้..
(http://www.watnai.org/live/images/stories/untitled-1.gif)

" .. มีหนทาง ใดบ้าง จะล้างจิต
ให้เพียงพิศ ผ่องผัด ประภัสสร
เป็นจิตดั้ง เดิมแท้ ที่แน่นอน
ไม่ไหลย้อน กลับไปเกิด เปิดทวาร

มีหนทาง บางปัญหา ที่น่าคิด
ให้ชีวิต ว่ายวน บนสังสารฯ
เป็นห่วงโซ่ ผูกไว้มั่น อนันต์กาล
สุดเนิ่นนาน แสนล้านกัปป์ นับทางไกล

โซ่เส้นนี้ มีอะไร ให้ชวนคิด
โซ่ชีวิต แห่งตน แต่หนไหน
ผูกติดอยู่ เป็นคู่ตน ทุกคนไป
มัดเอาไว้ ไม่ให้ออก นอกบ่วงมารฯ

คือต้นทิศ ปฏิจจ-สมุปบาท
โซ่แห่งชาติ-ภพ-ตน-ผลสังสารฯ
ต้องตัดทิ้ง ห่วงข้อ ต่อมานาน
อุปาทาน "กู"จึงหาย คลาย"อัตตา"

ตัดเพียงหนึ่ง ไม่ต้องถึง ซึ่งสิบสอง
ห่วงที่คล้อง อยู่เห็น เช่นตัณหาฯ
ชาติ-แลภพ บรรจบ เวทนา-
อวิชชา-สังขาร-วิญญาณครอง

นามรูป-สฬาย-ตนะหก
ชราตก มรณะ-ผัสสะหมอง
อุปาทาน ว่าตัวกู มาอยู่ครอง
ทั้งสิบสอง คือบ่วงจอง โซ่คล้องนาน

จะตัดทาง ทุกอย่าง ไม่ให้เหลือ
สิ้นเศษเยื่อ ไม่เผื่อใย ให้ประหาร
ต้องตัดขั้ว ตัวสมุปฯ อุปาทาน
อันตรธาน ตัวตนดับ ไม่กลับคืน.. "
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: (〃ˆ ∇ ˆ〃) ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 08:35:38 pm
กระทู้นี้ลงกลอนไว้หมดเลย ดีไม่ลงยันต์ไว้ด้วยนะเนี่ย  ... อันสุดท้ายล่ามโซ่อีก จ๊ากกก
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: แปดคิว ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 08:46:56 pm
หยิบเอากลอนขึ้นมานั่งพินิจ          ใจก็คิดจะวางลงที่ตรงไหน

  เอาตรงกลางนี้ละหว่าเหมาะแก่ใจ         แล้วยิบได้ตัวบานพับจับขอบริม


จับประตูแล้วขึ้นตั้งยังขอบเข็ต     ยิบถูกเศษตะปูมีสนิม

เลยทิ้งไปเอาดอกใหม่ตีใส่ริม        กลอนประตูร้านซิ้มขายข้าวแกง



 :07: :07:
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Plusz ที่ สิงหาคม 03, 2010, 07:46:42 pm
บทนี้มอบให้คนที่ยังถูกล่ามเอาไว้..
(http://www.watnai.org/live/images/stories/untitled-1.gif)

" .. มีหนทาง ใดบ้าง จะล้างจิต
ให้เพียงพิศ ผ่องผัด ประภัสสร
เป็นจิตดั้ง เดิมแท้ ที่แน่นอน
ไม่ไหลย้อน กลับไปเกิด เปิดทวาร

มีหนทาง บางปัญหา ที่น่าคิด
ให้ชีวิต ว่ายวน บนสังสารฯ
เป็นห่วงโซ่ ผูกไว้มั่น อนันกาล
สุดเนิ่นนาน แสนล้านกัปป์ นับทางไกล

โซ่เส้นนี้ มีอะไร ให้ชวนคิด
โซ่ชีวิต แห่งตน แต่หนไหน
ผูกติดอยู่ เป็นคู่ตน ทุกคนไป
มัดเอาไว้ ไม่ให้ออก นอกบ่วงมารฯ

คือต้นทิศ ปฏิจจ-สมุปบาท
โซ่แห่งชาติ-ภพ-ตน-ผลสังสารฯ
ต้องตัดทิ้ง ห่วงข้อ ต่อมานาน
อุปาทาน"กู"จึงหายคลาย"อัตตา"

ตัดเพียงหนึ่ง ไม่ต้องถึง ซึ่งสิบสอง
ห่วงที่คล้อง อยู่เห็น เช่นตัณหา
ชาติ-แลภพ บรรจบเวทนา-
อวิชชา-สังขาร-วิญญาณครอง

นามรูป-สฬาย-ตนะหก
ชราตก มรณะ-ผัสสะหมอง
อุปาทาน ว่าตัวกู มาอยู่ครอง
ทั้งสิบสอง คือบ่วงจอง โซ่คล้องนาน

จะตัดทาง ทุกอย่าง ไม่ให้เหลือ
สิ้นเศษเยื่อ ไม่เผื่อใย ให้ประหาร
ต้องตัดขั้ว ตัวสมุปฯ อุปาทาน
อันตรธาน ตัวตนดับ ไม่กลับคืน.. "


อิ๋ม .. สงสัยคำ ๆ นึง
อัตตา คือไรคะ ???
 :37: :37: :37: :37:

สงสัยมากเลยค่ะตอบที T-T  :45:
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: กระตุกหางแมว ที่ สิงหาคม 03, 2010, 07:50:44 pm

อิ๋ม .. สงสัยคำ ๆ นึง
อัตตา คือไรคะ ???
 :37: :37: :37: :37:

สงสัยมากเลยค่ะตอบที T-T  :45:
อัตตา คือ อะไร
บทความนี้เขียนขึ้น ด้วยเมตตาต่อท่านทั้งหลาย ที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ในคำว่า อัตตา อย่างแท้จริง บางคนขาดสติ พล่ามเพ้อเจ้อในเรื่องของ อัตตา อันอาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อศาสนา

ข้าพเจ้าเอง ก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับคำว่า "อัตตา"  เพราะข้าพเจ้าถือว่า
"สรรพ สิ่งทั้งหลาย ทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต ล้วนมีตัวตน" การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของสรรพสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น เป็นเรื่องธรรมดา อาจนำมาใช้พิจารณาเป็นครั้งคราว หรือนำมาพิจารณา ตามแต่เหตุการณ์นั้นๆ ไม่นำมาพิจารณาอยู่เนืองๆ

ดังนั้น การอธิบายคำว่า "อัตตา" จึงเป็นการขยายความจาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับพระธรรมปิฎก ฯ  ดังต่อไปนี้.-

อัตตา คือ ตัวตน หรือในภาษา สันสกฤต ก็คือ คำว่า " อาตมัน"
คำ ว่า ตัวตน นั้น หมายถึง ตัวตนทั้งหมด ของสรรพสิ่งทั้งหลาย ในที่นี้หมายเอาเฉพาะสิ่งที่มีชีวิต และหมายเอาเฉพาะมนุษย์ เพราะสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวของท่านทั้งหลาย
ตัวตน หรือ อัตตา แท้จริง ก็คือ  ส่วนที่ประกอบกัน ด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ  หรือ ขันธ์ ๕ นั่นเอง เมื่อตัวตนหรือ อัตตา ประกอบด้วยขันธ์ ๕ แล้ว ยังแจกแยกออกไปอีกว่า อันใดอันหนึ่งในขันธ์ ๕ นั้น ก็คือตัวตน หรือ อัตตาเช่นกัน
เช่น
รูป อย่างเดียว ก็เป็น อัตตา
สัญญา คือ ความจำ ก็เป็น อัตตา
เวทนา คือ ความรู้สึก ก็เป็นอัตตา
สังขาร คือ การปรุงแต่ง ก็เป็นอัตตา
วิญญาณ หรือ จิตวิญญาณ คือ ความรับรู้ในอารมณ์ ฯ เมื่อ อายตนะภายในกระทบกับอายตนะภายนอก ก็เป็น อัตตา
ใน เรื่องของอัตตานี้ ยังสามารถอธิบายในรายละเอียด ได้อีกมากมาย เพราะการที่เราได้สัมผัสกับอายตนะภายนอก คือ รูป รส กลิ่น เสียง แสง สี โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์  นั่นหมายถึง การได้สัมผัสรับรู้ ด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ  ก็เพราะเรามีอัตตา คือ มีขันธ์ ๕
ส่วนสรรพสิ่งอื่นบางชนิด  อาจจะมีเพียง รูป อย่างเดียว หรืออาจจะมี ไม่ครบ ทั้ง ๕ ขันธ์ หรือ อาจมีครบทั้ง ๕ ขันธ์ แต่ขันธ์เหล่านั้นมีการทำงานที่จำกัด ดังเช่นสัตว์บางชนิด ,ต้นไม้ ฯลฯ มันก็คงไม่รู้ว่า ตันตนของมัน หรืออัตตา ของมันมีหรือไม่
แต่เนื่องจาก มนุษย์ มีขันธ์ ๕ ครบถ้วน บริบูรณ์ เต็มพิกัด
ความมีตัวตน หรือ อัตตาจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต ในการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน
และ ในทางศาสนาใดใดก็ตาม อัตตา หรือตัวตน ก็เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จักเป็นปัจจัยในอันที่จะทำให้บุคคลนั้นๆ สามารถบรรลุมรรคผล บรรลุนิพาน ได้ฉะนี้

จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ ทูลพันธ์
เขียนเมื่อ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๓
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Pure+ ที่ สิงหาคม 04, 2010, 08:45:40 pm
(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:khM8hodJkOO4PM::&t=1&usg=__kr0VPLoTNX5iuVI_p7qeiQYt06o=)

..มองเห็นตัวกูก้อง                 เดโช
อวดเบ่งอัตตาโต                    คับก้อง
ตนเกิดก่ออักโข                      สุดกู่
ต่อเมื่อชีพวายต้อง                  กู่ร้อง สิ้นกูฯ..
หัวข้อ: Re: บล็อกนี้มีแต่กลอน
เริ่มหัวข้อโดย: (〃ˆ ∇ ˆ〃) ที่ สิงหาคม 06, 2010, 04:27:53 pm
อัตตา หิ อัตตโน นะโถ่...เอ๊ย นาโถ  :06: