ใต้ร่มธรรม

อิ่มกาย อิ่มใจ => สุขภาพกับชีวิต => เมนูใส ใส่ใจสุขภาพ => ข้อความที่เริ่มโดย: กระตุกหางแมว ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:02:54 pm

หัวข้อ: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: กระตุกหางแมว ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:02:54 pm
(http://www.farmkaset.org/upload_files/ati229.jpg)

กระเจี๊ยบ มีอยู่สองชนิด คือ กระเจี๊ยบแดง และ การะเจี๊ยบเขียว ที่เรารู้จักกันทั่วไป มักจะเป็น กระเจี๊ยบแดง ที่เอามาต้มเป็น น้ำกระเจี๊ยบ ที่หลายท่าน ชอบดื่ม เพราะ สดชื่น และ มีประโยชน์ นั่นเอง แต่กับ อีกหนึ่งกระเจี๊ยบ คือ กระเจี๊ยบเขียว เป็นอะไรที่ เรา ๆ ท่าน ๆ ถ้าไม่ใช่เด็กบ้านสวน หรือ เด็กต่างจังหวัด ก็คงไม่รู้หรอก ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร มีคุณค่า ประโยชน์อย่างไร วันนี้เลยเอามาฝากกัน


    กระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชล้มลุกมีอายุประมาณ 1 ปี เจริญเติบโตได้ดีในเขตอากาศกึ่งร้อน คือมีอุณหภูมิระหว่าง 18-35 องศาโดยประมาณ เป็นพืชที่สามารถนำมาเป็น สมุนไพร ได้ เพราะมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยรักษาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร

ชื่อสามัญ : Okra
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Abelmoschus esculentus Linn.
ชื่ออื่น : Lady's Finger

    ประเทศอินเดียเรียกว่า บินดี (Bhindi) ส่วนประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียนเรียกว่า บามี (Bamies)

    ส่วนของประเทศไทยนั้นแบ่งแยกเป็นภาค ได้ดังนี้
    ภาคกลาง : กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบมอญ มะเขือทะวาย มะเขือมอญ
    ภาคเหนือ : มะเขือพม่า มะเขือขื่น มะเขือมอญ มะเขือละโว้

ถิ่นกำเนิด
    กระเจี๊ยบเขียวนั้นเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบ แอฟริกาตะวันตก ประเทศซูดาน

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
    ลำต้น : มีขนหยาบและมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร
    ใบ : ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว คล้ายฝ่ามือเรียงสลับกัน และมีขนหยาบ
    ดอก : มีสีเหลือง ที่โคนกลีบด้านในมีสีม่วงออกแดง ออกตามซอกใบ ก้านชูเรณูรวมกันเป็นลักษณะคล้ายหลอด
    ฝัก : คล้ายนิ้วมือผู้หญิง ตามฝักมีขนอ่อนๆทั่วฝัก มีสันเป็นเหลี่ยมตามยาว 5 เหลี่ยม ฝักกระเจี๊ยบมีทรงยาวสีเขียว ฝักอ่อนมีรสชาติหวานกรอบอร่อย ส่วนฝักแก่จะมีเนื้อเหนียว

แหล่งเพาะปลูก
    ในประเทศไทยนั้นพื้นที่ที่มีการปลูกกระเจี๊ยบเขียวมาก ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง มีหลายจังหวัด ได้แก่ นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร พิจิตร กาญจนบุรี ราชบุรี ระยอง และนครนายก

สรรพคุณทางยา
    กระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชที่มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะในฝักกระเจี๊ยบนั้นมีสารเมือกพวกเพ็กติน (Pectin) และกัม (Gum) ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้ลุกลาม รักษาความดันให้เป็นปกติ เป็นยาบำรุงสมอง มีสรรพคุณเป็นยาระบายและสามารถแก้โรคพยาธิตัวจี๊ดได้ด้วย แต่ต้องรับประทานติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน

    ( ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย )


    คนไม่เคย รับประทาน ฝักกระเจี๊ยบเขียว อาจจะ รับประทานไม่เป็น รับประทานยากกันสักหน่อย คนสมัยก่อน ชอบเอาไป ต้ม หรือ ต้มราดกะทิสด กินกับ น้ำพริกกะปิ ปลาทู รสชาติ กรอบหวานอร่อยมาก แต่ที่หลาย ๆ คนออกจะไม่ชอบ กระเจี๊ยบเขียว เพราะ ฝักของมัน ข้างในจะมี ยางเมือก ๆ หุ้มเมล็ดอยู่ ทำให้ พิอักพิอ่วน หากคนไม่ชอบ แต่หารู้ไม่ว่า นั่นเป็นสิ่งมีประโยชน์เหลือคณานับ ของกระเจี๊ยบเขียวเลยทีเดียว

   
    จาก ข้อมูล ของ วิสาหกิจชุมชนสนามจันทร์ ซึ่งแปรรูป กระเจี๊ยบเขียว ให้ข้อมูลว่า

    รับประทานฝักกระเจี๊ยบ 10 -15 ฝัก ตอนเย็นหรือก่อนนอน สามารถ ลดอาการท้องผูก
    รับประทาน 3 – 5 ฝัก ก่อนอาหาร ทุกวัน สามารถ รักษา แผลในกระเพาะอาหาร
    รับประทาน 10 – 15 ฝัก ทุกวัน สามารถ บำรุงตับ
    รับประทาน 5 ฝัก ก่อนอาหาร 3 มื้อ ติดต่อกันทุกวัน สามารถ กำจัด พยาธิตัวจี๊ด
    รับประทาน 30 – 40 ฝัก ตอนเย็น หรือ ก่อนนอน สามารถ ดีท็อกซ์ลำไส้ อุจจาระตกค้าง
    รับประทานสม่ำเสมอ เป็นเส้นใยอาหารธรรมชาติ มีแคลเซียม และ วิตามินสูง
    รับประทานประจำ มี โฟเลต สูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงสมอง และ พัฒนาการ ทารก
    ใน ครรภ์ 40 ฝักแห้ง มีโฟเลต เทียบเท่าที่คนต้องการในหนึ่งวัน 10 ฝัก มีโฟเลต เท่ากับ 25% ของความต้องการในหนึ่งวัน

    เมื่อรู้แล้วว่า ฝักกระเจี๊ยบเขียว มีคุณค่า และ ประโยชน์ อเนกอนันต์ อย่างนี้แล้ว ใครหลายคนที่ชอบรับประทานอยู่แล้ว คงดีใจ แต่หากใครยังไม่เคยทาน ก็ลองดูนะครับ อาจจะติดใจแบบผมก็เป็นได้ เพราะ ผมไม่เคยทานมาก่อน พอทานแล้วก็ ติดใจล่ะครับ ชอบมาก ๆ

    อ้อ...ท่านไม่ต้องไปหาก ฝักกระเจี๊ยบต้มมากินทุกวัน ๆ ก็ได้นะครับ อีกอย่าง การที่ ไส้ของฝัก เป็นเมือกอาจจะทำให้ ท่านไม่สะดวกที่จะรับประทาน เดี๋ยวนี้ เค้ามีผลิตออกมาเป็นแบบ ของขบเคี้ยว กินเล่น หรือ ที่เรียกกินติดปากว่า สแน็ก นั่นแหล่ะครับ เป็น ฝักกระเจี๊ยบกรอบ มีหลายรสชาติ ทีเดียว กินง่ายและ อร่อยด้วยครับ มีขายทั่วไปนะครับ ลองไปหากันดู

    เป็นไงครับ ของพื้นบ้านกินง่าย พืชผักริมรั้ว เดี๋ยวนี้ ขึ้นชั้นเป็น ของ รับประทาน ที่มีประโยชน์มากมาย แถมถูกแปรรูปให้ ถูกปากกินง่าย ไม่ต้องไปฝืนกิน แบบว่า รู้ว่ามีประโยชน์แต่ไม่ทรมานปาก ทรมานท้อง อีกต่อไป ลองดูนะครับ ประโยชน์มากมาย กับ ฝักกระเจี๊ยบเขียว

................


ขอขอบคุณ  :   NEVER-AGE.com
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:04:57 pm
 :23: แต่ก่อนคุณแม่ผมทำในทานประจำ หลังบ้านจะปลูกต้นกระเจี๊ยบต้นโตๆเต็มไปหมด

 :19: ขอบคุณครับเพื่อนเลิฟ
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: กระตุกหางแมว ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:07:14 pm
:23: แต่ก่อนคุณแม่ผมทำในทานประจำ หลังบ้านจะปลูกต้นกระเจี๊ยบต้นโตๆเต็มไปหมด

 :19: ขอบคุณครับเพื่อนเลิฟ
ชม. จับผิดมาอีกแล้วครับ

"แต่ก่อนคุณแม่ผมทำในทานประจำ"

น่าจะเป็น "ทำให้ทาน" มากกว่านะครับ..55+ :12:
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 10:10:09 pm
 :42: โทษทีครับ ไล่ตาม กระทู้เพื่อน แล้วผมเบลอ อิอิ

แก้เป็นแต่ก่อนคุณแม่ผมทำให้ทานประจำ :13:
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กรกฎาคม 29, 2010, 07:58:47 am
 :06: อิอิ ขอโทษทีเพื่อนช่วงนี้ผมเบลอ อิอิ ว่าแต่ทำไมแก๋วจ๋าต้องมาเบลอห้องทามะบ่อยๆด้วย อุ๊ย หมดแรง เปงลม ทามะคุงอุ้มทีสิ  :26: 555+
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ ที่ กรกฎาคม 29, 2010, 11:18:41 pm
 
:45: ขอบคุณน๊าคะ ทามะที ^^ .. :37: พี่ไม่ค่อยชอบทานกระเจี๊ยบเท่าไหร่ค่ะ .. :30: ..แต่ว่า ประโยชน์อื้อซ่างี๊ สงสัย ต้องฝึกทานให้มากกว่าเดิมละค่ะ แต่เคยทานกระเจี๊ยบอบกรอบ .. มันๆอร่อยดีค่ะ กรอบๆเหมือนเวลาเราทานขนมกรุบกรอบอ่าค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: Pure+ ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 10:50:31 pm
ไม่อยากได้ยินอะไรที่มีคำว่าเขียวๆ.. :11: :24:
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 11:14:04 pm
ไม่อยากได้ยินอะไรที่มีคำว่าเขียวๆ.. :11: :24:


 อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า อะ อาววว ..  เป็นไรไปอีกอ่าคะ พี่ชายจ๋า โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไร (http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/pic_emotion/dek_noi/001.gif)ไม่ร้องน๊าคะ(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/Vegetable/Nu_zom/emotion_042_orange.gif) เตะ ช้า เตะ :19:  .. :12:


หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: Plusz ที่ สิงหาคม 03, 2010, 12:01:37 am
ขอบคุณค่ะ แต่ว่า อิ๋มไม่ค่อยจะชินกับรสชาติของมันสักเท่าไร T-T
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: กระตุกหางแมว ที่ สิงหาคม 03, 2010, 01:21:43 am
ไม่อยากได้ยินอะไรที่มีคำว่าเขียวๆ.. :11: :24:
พี่เพียวมีความหลังอะไรกับสีเขียวครับเนี่ย..อยากรู้จิง(นะเออ) :01:
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ สิงหาคม 03, 2010, 02:47:10 pm

ตอนที่คุณย่ายังอยู่ ท่านปิ้งค่ะ จิ้มน้ำพริกกะปิ ไม่ค่อยมีเมือก

ถ้านำไปแกงส้ม ท่านว่าให้ใส่น้ำมะขามเปียกปรุงรสให้เสร็จก่อน
ค่อยใส่กระเจี๊ยบเขียว พอเดือดอีกทีให้นำขึ้นเลยจะกรอบอร่อย
ไม่มีเมือกค่ะ

ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเค้านำไปทำเทมปุระ(ชุบแป้งทอดกรอบฟูๆ)แล้ว
เค้ายังให้ชาวไร่แถวเพชรบุรี ปลูกแบบปลอดสารพิษ คัดขนาดฝัก
อ่อน ขนาดเท่าๆกัน ส่งไปขายเมืองเค้าค่ะ แบบว่าแพงมากๆ เนื่อง
จากนักวิจัยของเค้ารายงานคุณสมบัติอันอเนกอนันต์..

แต่ชาวไร่เค้าขายได้ราคาสูงกว่าขายเมืองเราไม่มากเท่าไรนัก
เพราะต้องหักจากที่ไม่ได้ขนาด ฝักงอไม่สวยบ้าง ไปขายเหมา
ให้คนไทยถูกๆน่ะค่ะ..

ขอบคุณน้องที สำหรับการแบ่งปันข้อมูลนะคะ...
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: Pure+ ที่ สิงหาคม 03, 2010, 03:27:38 pm
ไม่อยากได้ยินอะไรที่มีคำว่าเขียวๆ.. :11: :24:
พี่เพียวมีความหลังอะไรกับสีเขียวครับเนี่ย..อยากรู้จิง(นะเออ) :01:
เอาอีกแล้ว บอกว่าอย่าพูดถึง..  ไม่อยากได้ยิน ..  :24:
ไม่อยากจะเล่า... ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้อีก..
ขอให้มันเป็นอดีตฯ ให้มันจมหายไปกับกาลเวลา.. :11:
...
.....
แต่ถ้าใครให้ซักยี่สิบ จะเล่าให้ฟังก้อด้ายอ่ะ.. :47:
หัวข้อ: Re: กระเจี๊ยบเขียว...คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ ที่ สิงหาคม 25, 2010, 11:08:27 pm
ไม่อยากได้ยินอะไรที่มีคำว่าเขียวๆ.. :11: :24:
พี่เพียวมีความหลังอะไรกับสีเขียวครับเนี่ย..อยากรู้จิง(นะเออ) :01:
เอาอีกแล้ว บอกว่าอย่าพูดถึง..  ไม่อยากได้ยิน ..  :24:
ไม่อยากจะเล่า... ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้อีก..
ขอให้มันเป็นอดีตฯ ให้มันจมหายไปกับกาลเวลา.. :11:
...
.....
แต่ถ้าใครให้ซักยี่สิบ จะเล่าให้ฟังก้อด้ายอ่ะ.. :47:


  :12:   ทีอ่ายยยย เขียวววหลังเนี่ยยยย มะยักกะ ไม่อยากได้ยินแฮะ แถมยังอยากได้อีกตังหากค่ะ คนร๊าวววววว  :25: