ใต้ร่มธรรม

คลายวิถีทุกข์ด้วยธรรมะ => ปัญหาชีวิต ความทุกข์ ความรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: ฐิตา ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2011, 12:26:15 pm

หัวข้อ: ครึ่งหนึ่งของชีวิต : กุญแจความสุข
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2011, 12:26:15 pm

(http://gallery.photo.net/photo/9725693-lg.jpg)

ครึ่งหนึ่งของชีวิต
(หนังสือ : กุญแจความสุข)

มนุษย์เราเกิดมาเพื่อ "ใช้ชีวิต" และ "รอคอยใครสักคน"
ใครบางคน...ที่มีความคิดสอดคล้องกับเราอย่างพอดิบพอดี
และ...ใครบางคน...ที่อยากมีลมหายใจไว้เพื่อยืนอยู่ข้างๆ เราตลอดไป

ฉันเคยได้ยินว่า... "ใครบางคน" นั้น...หมายถึง "ครึ่งหนึ่งของชีวิต"
ที่ถ้าหากเราตามหาเจอ...ชีวิตที่เหลืออยู่ของเราก็จะไม่เงียบเหงา
ที่ถ้าหากเราตามหาเจอ...
ชีวิตที่เหลืออยู่ของเราก็จะ "อบอุ่น" และ "ปลอดภัย"

(http://statics.atcloud.com/files/entries/1/14507/images/1_thumbnail.jpg)

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า...
ณ เวลานี้ ฉันตามหา "ครึ่งหนึ่งของชีวิต" เจอหรือยัง
ถ้ายัง – ฉันมี "ครึ่งหนึ่งของชีวิต" หรือไม่
แต่ถึงอย่างนั้น...ฉันก็รู้สึกดีใจ ดีใจ และ ดีใจ
ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวจากคนรอบข้างว่า "ฉันเจอใครบางคนที่รอคอยแล้ว"
 
ฉันไม่ใช่คนที่เชื่อในเรื่องของพิธีการแต่งงาน
แม้ว่าถ้าเอาเข้าจริงๆ แล้วด้วยสังคม...และด้วยครอบครัว
ก็คงทำให้ฉันหลีกเลี่ยงธรรมเนียมปฏิบัตินี้ไปไม่ได้
แต่ฉันชอบบรรยากาศ...และชอบไปงานแต่งงานมากที่สุด
โดยเฉพาะ "งานแต่งงานของเพื่อน"

เพราะนอกจากจะเป็นการรวบรวมเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานแล้ว
กลิ่นของความรักและความสุขของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ลอยอบอวลอยู่ในงานนั้น....
มันยังทำให้ฉันรู้สึกสดชื่น...และ "ตื่น" จากการหลับใหลในภวังค์ของความเร่งรีบในชีวิต

(http://statics.atcloud.com/files/entries/2/27842/images/1_thumbnail.jpg)

หลังจากนั้น ฉันจะกลับมาจากงานด้วยรอยยิ้ม
และกลับมาทำงานได้ด้วยกำลังใจที่ถูกเติมเต็มมาแล้วจนล้น

แล้วในคืนวันเสาร์...หลังจากที่วันแรกของปีผ่านไปได้เพียง 19 วัน
ฉันก็ได้พบกับความรู้สึกดีๆ อย่างนั้นอีกครั้ง
ฉันมีโอกาสได้ไปงานแต่งงานของเพื่อนสมัยเรียน

วินาทีแรกที่ไปถึง...วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าเพื่อน
ความรู้สึกแรกที่แวบเข้ามาในสมอง
ก็เหมือนกับทุกครั้งที่ได้ไปงานของเพื่อนคนอื่นๆ นั่นคือ...

"ดีจังเลยนะ" ที่เราได้มีโอกาสได้รู้จักใครสักคน
และใช้ชีวิตมาด้วยกันในคำว่า "เพื่อน"
ยั่งยืนยาวนาน...มาจนถึงวันหนึ่งที่ต่างฝ่ายต่างได้ทำงาน
ได้เรียนรู้ความเป็น "ผู้ใหญ่"
หากความสัมพันธ์กลับไม่เคยจางหายไปไหน
มันยังคงอยู่ตรงที่เดิม...แม้ว่านานๆ เราจะเจอกันสักที

ยั่งยืนยาวนาน...มาจนถึงวันหนึ่งที่เราได้แสดงความยินดี
ในวันที่เพื่อนมีความสุขที่สุดในชีวิต  และมันจะยั่งยืนยาวนานต่อไป...
จนถึงวันที่ต่างฝ่ายต่างแก่เฒ่า  และเราจะยังเรียกอีกฝ่ายว่า "เพื่อน"

ฉันเดินเข้าไปสวมกอดเพื่อน
และกระซิบเบาๆว่า "ดีใจด้วยนะ"

มันเป็นฉากตอนที่พบเห็นได้ในละคร...
มันเป็นฉากตอนที่อ่านเจอได้ในนิยาย
ที่เมื่อยังเล็ก...ฉันเคยคิดว่าในชีวิตจริงคนเราจะทำอะไรน่าอายอย่างนี้ได้ไหม

(http://i25.tinypic.com/11955iq.jpg)


กระทั่งฉันได้พบในเวลาต่อมาว่า
การสวมกอดเพื่อนและร้องไห้ด้วยความยินดี
เป็นเรื่องที่เมื่อทำแล้ว...ทำให้ฉันเชื่อมั่นในตัวเองว่า...
"ยังคงมีหัวใจ ไว้รู้สึก"

 
(http://statics.atcloud.com/files/entries/3/30811/images/1_thumbnail.jpg)

ก่อนหน้าวันที่ฉันจะมางานแต่งงานของเพื่อนคนนี้ไม่กี่วัน
ฉันได้ทราบข่าวจากเพื่อนอีกคนว่า
เธอเพิ่งเลิกกับแฟนที่รักกันมานานกว่า 7 ปี
เพราะอะไร...ฉันไม่ได้ถาม

สาเหตุอะไร...ฉันไม่อยากรู้

(http://statics.atcloud.com/files/entries/1/16816/images/1_thumbnail.jpg)

และฉันบอกกับเธอว่า "ไม่เป็นไรนะ" แทนคำว่า "เสียใจด้วย"
นั่นเพราะฉันเชื่อว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ "ครึ่งหนึ่งของชีวิต" ของเธอ
"เสียใจด้วย" จึงไม่ใช่คำปลอบที่เธอน่าจะได้รับ
แต่คำว่า "ไม่เป็นไรนะ" ต่างหาก ที่เธอควรจะได้ยิน

(http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/5515.gif)

และฉันเชื่อว่าเธอคงจะรู้...
ว่าหลังจากประโยคนั้นฉันอยากบอกอะไร

"ใช้ชีวิตและรอคอยใครบางคนต่อไปด้วยรอยยิ้มเถอะนะ
อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีใคร
เพราะเธอจะมีฉันเสมอ...ตลอดไป
ตราบใดที่เรายังคงหายใจ และเรียกกันว่า...เพื่อน"


(http://statics.atcloud.com/files/entries/6/65301/images/1_thumbnail.jpg)

http://atcloud.com/stories/65301
Pics by : Google
สุขใจดอทคอม * อกาลิโกโฮม
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ