ใต้ร่มธรรม

ริมระเบียงรับลมโชย => ดูหนัง ดูเรา ดูโลก ( Movie and Wisdom ) => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊กซ ที่ มีนาคม 17, 2011, 09:30:45 am

หัวข้อ: ฉลอง ครบรอบ "100 ปี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช" ใน หนังฟอร์มยักษ์ อุโมงค์ผาเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ มีนาคม 17, 2011, 09:30:45 am

(http://img.kapook.com/image/Movie%203/outrage-pic01.jpg)

(http://img.kapook.com/image/Movie%203/eternity-n01-02.jpg)



ฉลอง ครบรอบ "100 ปี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช" และ "40 ปี สหมงคลฟิล์ม" เสี่ยเจียง จับมือ หม่อมน้อย อีกครั้ง ทุ่มทุนสร้างหนังฟอร์มยักษ์ อุโมงค์ผาเมือง ประชันนักแสดงชั้นนำล้นจอ!!! (สหมงคลฟิล์ม)

          หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับภาพยนตร์รักพีเรียดสุดละเมียดเรื่อง ชั่วฟ้าดินสลาย เมื่อปีที่ผ่านมา มาในปีนี้ เสี่ยเจียง - สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ จับมือผู้กำกับชั้นครู หม่อมน้อย - ม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล อีกครั้ง พร้อมทุ่มทุนสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง อุโมงค์ผาเมือง เนื่องในโอกาสครบรอบ "100 ปีชาตกาลของ พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช" และ "40 ปีของบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด" ซึ่งทั้งสองวาระได้เวียนมาครบในปี 2554 นี้


(http://img.kapook.com/image/Movie%203/mkr.jpg)

พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช

(http://img.kapook.com/image/Movie%203/eternity-n01-01.jpg)


          ภาพยนตร์เรื่อง อุโมงค์ผาเมือง เป็นภาพยนตร์ย้อนยุคไปในอาณาจักรล้านนาไทยเมื่อ 700 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของคดีฆาตกรรมพิศวงระหว่างขุนศึกนักรบ, โจรป่า และเจ้านางผู้เลอโฉม ซึ่งดัดแปลงมาจากบทละครเวทีเรื่อง "ราโชมอน" อันเป็นวรรณกรรมชิ้นเอกของ "พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช" เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่ และอัจฉริยภาพของท่านผู้เป็นปูชนียบุคคลผู้สร้างคุณูปการแก่สังคมไทย รัฐบุรุษและเอกศิลปินแห่งชาติที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "บุคคลสำคัญของโลก" จาก องค์การยูเนสโก โดยได้ระดมทีมนักแสดงชั้นนำไม่ว่าจะเป็น อนันดา เอเวอริงแฮม, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, มาริโอ้ เมาเร่อ, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, ดอม เหตระกูล, ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ และ รัดเกล้า อามาระดิษ มาประชันบทบาทสุดเข้มข้นล้นจอ ซึ่งหม่อมน้อยได้เผยถึงโปรเจ็คต์ใหม่ล่าสุดนี้ว่า

          "ภาพยนตร์ ใหม่ที่กำลังทำคือเรื่อง อุโมงค์ผาเมือง ซึ่งผมดัดแปลงมาจากบทละครเวทีสนุกเข้มข้นน่าติดตามของท่านคึกฤทธิ์เพื่อฉลอง ครบรอบ 100 ปีเกิดของท่าน และยังครบรอบ 40 ปีของสหมงคลฟิล์มพอดีด้วย ก็เป็นการร่วมฉลองสองวาระยิ่งใหญ่นี้ไปพร้อม ๆ กันเลย ถือเป็นโอกาสอันดีที่เสี่ยเจียงยินดีทุ่มทุนสร้าง และมอบความไว้วางใจให้ผมกำกับหนังเรื่องใหม่อีกครั้งหลังจากเพิ่งเสร็จสิ้น ชั่วฟ้าดินสลาย ไปเมื่อปีที่แล้วนี้เอง หนังเรื่องนี้ก็ได้นักแสดงชั้นดียอดฝีมือแห่งยุคมาร่วมประชันบทบาทมากมาย

          ทั้งอนันดา, พลอย เฌอมาลย์, มาริโอ้, อ๊อฟ พงษ์พัฒน์, คุณหม่ำ, ดอม เหตระกูล และยังมีอีกหลายคนที่จะมาร่วมสร้างสีสันให้กับหนังเรื่องนี้ ซึ่งรับรองได้ว่านักแสดงทุกคนจะสร้างความแปลกใหม่ และเปลี่ยนแปลงคาแร็คเตอร์อย่างที่ไม่เคยแสดงมาก่อนแน่นอน" อุโมงค์ผาเมือง อยู่ระหว่างการถ่ายทำอย่างพิถีพิถันที่จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย และลำปาง เพื่อเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่เฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของค่ายสหมงคลฟิล์ม[/COLOR]

http://www.zonezeed.com/ForumId-10166-ViewForum.aspx (http://www.zonezeed.com/ForumId-10166-ViewForum.aspx)
หัวข้อ: Re: ฉลอง ครบรอบ "100 ปี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช" ใน หนังฟอร์มยักษ์ อุโมงค์ผาเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ มีนาคม 17, 2011, 09:44:38 am
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/ra6.jpg)



ราโชมอน หนังญี่ปุ่นโบราณผลงานกำกับของ อากิระ คุโรซาว่า ในปี1950 เป็นหนังเรื่องนึงที่ทำให้เราต้องคิดถึงอยู่บ่อยๆ
การได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ จากคนหลายฝ่าย บางครั้งเราตะโกนก้องในใจว่า "เอาชั้นออกไปจากวังวนของราโชมอนเดี๋ยวนี้ "
เรื่องเดียวกัน ที่ได้รับการบอกเล่าที่แตกต่างกัน เรื่องราวคนละด้าน คนละมุม จากผู้ร่วมเหตุการณ์หลายคน

ราโชมอน

เรื่องราวการตายของซามูไรคนหนึ่ง กับการให้การของโจรร้าย คนตัดไม้ วิญญานซามูไรในร่างคนทรง และหญิงสาวผู้เป็นภรรยาของซามูไร
4 พยาน ปากเอก

คนตัดไม้เป็นผู้พบศพ

อีก 3 ที่เหลือ ต่างเล่าเรื่องในมุมที่ตัวเองเป็นพระเอก นางเอก
ความดีความชอบใดๆ ล้วนอยู่ที่ตัว

สิ่งเลวหากต้องทำ นั่นก็เพราะจำเป็น

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/ra4.jpg)   
                                       
ภรรยาซามูไรขณะให้การต่อผู้พิพากษา
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/Ra8.jpg) 
                                       
อีกสีหน้านึง ระวังตัว หรือโดนจับผิด
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/capture42.jpg)   
                                     
ต่างคนต่างให้การราวกับตัวเองเป็นพระเอก
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/capture44.jpg) 
                                       
ซามูไรว่า เค้าฆ่าตัวตายเองต่างหาก
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/capture10.jpg) 
                                       
เมื่อคนตัดไม้พบศพ
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/capture13.jpg) 
                                       
เมื่อพระธุดงค์ พบซามูไรและภรรยากลางป่า
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/capture41.jpg)
                                         
สายตาแบบนี้ เชื่อได้มั้ย ?
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/capture02a.jpg) 
                                         
ผมเป็นโจรใจงาม เชื่อเถอะ
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/capture04a.jpg) 
                                         
ชั้นจะปกป้องศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง
 
แล้วใครกันแน่ ที่บอกเล่าเรื่องจริง หรือต่างคนต่างเล่าตามจุดประสงค์ของตนเอง
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/813/3813/images/ra7.jpg)   
                                     
คำให้การมีทั้ง ข่มขืน ไม่ได้ข่มขืน และยินยอม
 

มันก็เหมือนหลายๆเรื่องในเหตุการณ์ปัจจุบัน
ต่างคนต่างเล่าในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเล่า
ต่างคนต่างเล่าในสิ่งที่ตัวเองอยากให้คนอื่นเชื่อ
ต่างคนต่างเล่าในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเชื่อ
 
จริงคือเท็จ เท็จคือจริง
จริงคือเท็จ เท็จคือจริง
จริงคือเท็จ เท็จคือจริง
 

หากไม่แยกแยะ พิจารณาอย่างรอบคอบ เราก็จะตกอยู่ในวังวนของ ราโชมอน

http://www.oknation.net/blog/pook17/2007/05/23/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/pook17/2007/05/23/entry-1)

Rashomon Trailer (Akira Kurosawa, 1950) (http://www.youtube.com/watch?v=xCZ9TguVOIA#ws)
หัวข้อ: Re: ฉลอง ครบรอบ "100 ปี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช" ใน หนังฟอร์มยักษ์ อุโมงค์ผาเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ มีนาคม 17, 2011, 09:48:55 am
"ราโชมอน" เรื่องลวงๆในโลกกลมๆ (http://www.oknation.net/blog/hesse004/2007/11/23/entry-1)



(http://www.be2hand.com/images/upload_shop/200707/200707-30-134548-1.jpg)
ผมมีโอกาสได้อ่าน “ราโชมอน” ฉบับละครเวทีที่หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ท่านได้เรียบเรียงขึ้นเมื่อปี 2508 โดย “ราโชมอน” เป็นนิยายเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่ ริวโนสุเกะ อากิตางาวะ นำมาเรียบเรียงขึ้นใหม่เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า ราโชมอนจัดเป็นวรรณกรรมคลาสสิคเรื่องหนึ่งของโลกตะวันออกเลยก็ว่าได้ครับ

สำหรับ “Rashomon” (1950)ในภาคภาพยนตร์นั้นก็ขึ้นชั้นเป็นหนังคลาสสิคเช่นเดียวกัน ด้วยฝีมือการกำกับของจักรพรรดิแห่งโลกภาพยนตร์ญี่ปุ่นอย่าง “อากิระ คูโรซาว่า” (Akira Kurosawa) คูโรซาว่าทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความลุ่มลึกมากขึ้นเพราะแม้เรื่องราวจะเรียบง่ายแต่กลับเต็มไปด้วยมิติด้านมืดของมนุษย์

ราโชมอนของคูโรซวานั้นมี Tagline เป็นภาษาอังกฤษที่กระชับว่า The husband, the wife...or the bandit? ซึ่งถ้าท่านผู้อ่านที่เคยอ่านหนังสือหรือเคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วย่อมเข้าใจความหมายคำโปรยของหนังเรื่องนี้ดีครับ

หนังเรื่องนี้มีท้องเรื่องอยู่ที่ญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 12 โดยคูโรซาวาเลือกที่จะเปิดบทหนังด้วยบทสนทนาระหว่างพระกับคนตัดฟืน ซึ่งทั้งคู่กำลังติดฝนอยู่ในวัดร้างแห่งหนึ่ง ใกล้ประตูราโชมอนหรือแปลเป็นไทยได้ว่า “ประตูผี” นั่นเอง

จากนั้นก็มีชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งในหนังสือของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ใช้ว่า “คนทำช้อง” เข้ามาร่วมแจมด้วย โดยระหว่างรอฝนหยุดตกนั้นทั้งสามได้พูดถึงเรื่อง การตายของซามูไรคนหนึ่ง และการจับมหาโจรอย่าง “โทโจมารุ”ได้ รวมไปถึงเรื่องของเมียซามูไรผู้ตายนั้น

จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ใช้ตัวละครไม่มากเลยครับ แต่จุดเด่นกลับอยู่ที่บทสนทนาของตัวละครซึ่งจะว่าไปแล้วมันสะท้อนให้เห็นความคิดของมนุษย์เราได้ดี

ตามธรรมเนียมเดิมครับ, ผมขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียดมากไปกว่านี้เนื่องจากเกรงจะเสียอรรถรสในการชมหรือการอ่าน อย่างไรก็ตามผมว่าประเด็นที่น่าสนใจใน “ราโชมอน” นั้นอยู่ที่ความอ่อนแอของมนุษย์เราที่จะพูด “ความจริง” หากความจริงนั้นไม่เป็นประโยชน์กับเรา หากความจริงนั้นอาจทำให้เราต้องเดือดร้อน หรือ หากความจริงนั้นจะกลับมาทำร้ายเราภายหลัง ด้วยเหตุนี้เองที่คูโรซาว่าได้ชำแหละถึงด้านมืดของความเป็นมนุษย์ออกมาให้เห็นผ่านบทสนทนาของตัวละครทั้งหมด

คูโรซาวาใช้เทคนิคที่ชาญฉลาดในการถ่ายทำโดยให้ตัวละครแต่ละคนเล่าเรื่องของตัวเองเหมือนกำลังจะสารภาพอะไรบางอย่างกับคนดูตัดสิน โดยใช้กล้องจับไปที่ใบหน้าของตัวละคร ทำให้รู้สึกได้ว่าเขากำลังพูดอยู่กับเราสองต่อสอง

ผมเชื่อว่าตัวละครทุกคนในเรื่องมีเหตุผลของการเล่าเรื่องลวงซึ่งแตกต่างกันไป หรือ บางทีเรื่องนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ซึ่งคูโรซาวาแกก็ไม่ได้เฉลยหมดว่าความจริงมันคืออะไร

มหาโจรอย่างโทโจมารุก็ย่อมมีเหตุผลในการเล่าเรื่องของตัวเองให้ดูยิ่งใหญ่ เก่งกาจ น่าเกรงขาม ซามูไรผู้ตายก็ยังอุตส่าห์เข้าร่างทรงมาเล่าเรื่องของการตายของตัวเองให้ดูมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เมียซามูไรก็ต้องพยายามชี้ให้เห็นถึงเหตุผลว่าทำไมตนเองถึงตกอยู่ในสภาพ “หนึ่งหญิงสองชาย” ขณะที่คนนอกอย่างคนตัดฟืนซึ่งคูโรซาว่าต้องการจะให้เป็นคนเฉลยเรื่องนี้นั้นก็ยังเล่าความจริงที่ตนเองเห็นแบบกั๊กๆ ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ดูเหมือนพี่แกจะพูดความจริงออกมาไม่หมดโดยเล่าแต่เรื่องที่จะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนภายหลัง

จะว่าไปแล้วการไม่พูดความจริงเนี่ยมันมีหลายระดับดีนะครับตั้งแต่ “อำ” “โกหก” “ขี้ตู่” ขี้ตั๊ว” “ขี้ฮก” “โป้ปดมดเท็จ” ไปจนกระทั่ง ตอ...อะไรทั้งหลายนั้นล้วนแล้วแต่เป็นด้านมืดของมนุษย์เราทุกคนเลยก็ว่าได้ซึ่งไม่จำกัดเพศ ชนชั้น หรือ ชาติพันธุ์

เพียงแต่เราจะกล่าวสิ่งเหล่านั้นได้อย่างแนบเนียนหรือถูกที่ถูกเวลาหรือเปล่า ยกตัวอย่างเช่น คำว่า “อำ” กับ “โป้ปดมดเท็จ” นั้น ถูกนำมาใช้คนละบริบทกันเลย อำนั้นให้อารมณ์ขำๆสนุกๆ แต่โป้ปดมดเท็จนั้นแสดงให้เห็นถึงความชั่วช้าสามานย์ทั้งที่มันก็อยู่ในตระกูล “โกหก”เหมือนกัน

ในทฤษฎีเกม (Game theory)ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาคนั้น มีเกมหนึ่งที่ชื่อว่า Prisoner Dilemma หรือเกมที่คิดขึ้นเพื่อป้องกันการฮั้วของคนสองคน ซึ่งเกมนี้ได้กลายเป็นเครื่องมือของตำรวจในการแยกสอบปากคำคนร้ายเพื่อเค้นความจริงออกมาโดยใช้ “ขนาดของการลงโทษและความไม่เชื่อใจกันของคนร้ายเวลาแยกสอบปากคำ”เป็นกลไกในการสอบสวน

คนบางคนโกหกจนลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยโกหกอะไรไว้บ้าง คนบางคนพยายามปกปิดเรื่องที่ตัวเองโกหกคนอื่นและพยายามหาเหตุผลมากลบเกลื่อนหักล้างแต่จนแล้วจนรอด “ความจริงก็คือความจริง” ความจริงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นความเท็จได้

พูดถึงเรื่องนี้ ทำให้ผมนึกถึงหนังอีกเรื่องหนึ่งที่กล่าวถึงประเด็นการโกหกได้ดีมากๆ นั่นคือ Infernal Affairs (2002) ของ แอนดรูว์ เลา (Andrew Lau ) และ อลัน มัก (Alan Mak) ครับ หนังกล่าวถึง โจรปลอมตัวมาเป็นตำรวจ และ ตำรวจก็ปลอมตัวไปเป็นโจร ผมชอบหนังเรื่องนี้ครับเนื่องจากเป็นหนังมาเฟียที่ว่ากันว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งไม่แพ้ The God Father เลยทีเดียว

ยิ่งดูหนังเรื่องนี้มากครั้งเท่าไร ผมยิ่งเห็นใจ “อาหมิง”ที่แสดงโดยพี่หลิวเต๋อหัว ซึ่งโกหกทุกคนมาตลอดตั้งแต่ภาคแรกยันภาคสุดท้าย พูดง่ายๆ คือ “โกหกมาทั้งชีวิต” จนท้ายที่สุดแล้วแกก็ไม่สามารถโกหกตัวเองได้อีกต่อไป ดูเหมือนว่ายิ่งโกหกมากขึ้นเท่าไร ยิ่งกลายเป็นนิสัยและสันดานไปในที่สุด และวันหนึ่งเราอาจจะมองเห็นตนเองในสายตาที่แปลกไปเพราะเราจะไม่มีวันรู้ว่าตัวตนที่แท้ของเรานั้นเป็นใครกันแน่

กลับมาที่ “ราโชมอน” ต่อครับ, ทุกวันนี้เหตุการณ์แบบราโชมอนมีอยู่ให้เห็นเต็มไปหมดตั้งแต่บนโรงพัก ในชั้นศาล งานการเมือง แม้กระทั่งวงการบันเทิงก็ยังเล่นราโชมอนกันเลย

อย่างที่ผมเรียนไปตอนต้นแล้วว่าจุดเด่นของหนังเรื่องนี้อยู่ที่บทพูด ด้วยเหตุนี้เองบทพูดหลายตอนนั้นมีความน่าประทับใจมาก แม้จะเป็นบทง่ายๆแต่มันกลับมีความลึกซึ้งอยู่ภายในตัวเองอย่างที่คนทำช้องพูดไว้ว่า “มนุษย์ชอบโกหก ผู้คนเขาไม่พูดความจริงกันหรอก” ซึ่งบทภาษาอังกฤษบอกไว้อย่างนี้ครับว่า “No one tells a lie after he's said he's going to tell one”หรือลองอีกประโยคมั๊ยครับ “It's human to lie. Most of the time we can't even be honest with ourselves.” จะเห็นได้ว่าทัศนะการมองโลกของตาคนทำช้องนั้นดูจะขวางกับความคิดเชิงอุดมคติซึ่งต่างจากตัวละครอย่างพระโดยสิ้นเชิง แต่ก็ดูเหมือนสิ่งที่ตาคนนี้พูดมันก็มีส่วนถูกบ้างไม่ใช่หรือครับ เพราะไม่งั้นแกจะไม่พูดประโยคอย่าง “Maybe goodness is just make-believe.” ท่านผู้อ่านเห็นว่ายังไงครับที่ “บางทีความดีก็เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองทั้งนั้น”

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=160014 (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=160014)