(http://upic.me/i/qx/blueseabeautystupidflooddetection.jpg)
วิเวกที่ท่านยังไม่รู้จัก
(ธรรมบรรยายของหลวงพ่อพุทธทาส ห้องหนังสือเรือนธรรม
จัดพิมพ์ เนื่องในโอกาส "๑๐๐ ปีพุทธทาส")
ท่านสาธุชนผู้มีความสนใจในธรรมทั้งหลาย การบรรยายประจำวันเสาร์ในวันนี้ อาตมาจะขอบรรยายเรื่องสิ่งที่เรียกว่าวิเวกอีกสักครั้งหนึ่ง ทั้งที่เคยบรรยายมาบ้างแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่มีอะไรๆ พิเศษอยู่บ้าง และหาว่าฉายหนังซ้ำก็ไม่เป็นไร เพราะเหตุที่ว่า ท่านทั้งหลายยังไม่รู้จักมากพอ หรือว่ายังจะต้องรู้จักอีก คือเราจำเป็นที่จะต้องมีใช้ รู้จักใช้ ให้ทันแก่เหตุการณ์ หรือให้เหมาะสมแก่กรณีนั้นๆ
คำว่าวิเวก บางคนกลัว เห็นว่ามันเดี่ยวโดดว้าเหว่แล้วก็กลัว ไม่ชอบ ไม่สนใจ อย่างนี้ก็มี มันเป็นเรื่องของคนเข้าใจผิด หรือเรื่องของความขลาด ถ้าเป็นเรื่องปกติธรรมดาแล้วก็ต้องพอใจในสิ่งที่เรียกว่า วิเวก
นี่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมี ไม่มีวิเวกก็หมาย ความว่ามันกลัดกลุ้ม มันฟุ้งซ่าน มันกลุ้ม ถ้ามองกันในแง่นี้ วิเวกก็เป็นยาแก้กลุ้ม ถ้าสามารถทำให้ได้ตามที่ต้องการทันที มันก็ต้องเป็นยอดของศิลปะ คนต้องเก่งมากถึงจะสามารถทำสิ่งที่เรียกว่าวิเวกให้เกิดขึ้นในจิตใจได้ ตามที่ต้องการทันอกทันใจ วิเวกได้
ยาแก้กลุ้มใจ เท่านี้มันก็มีค่ามาก เหมือนกับว่าคนต้องกินยาหอม เรียกหายาหอมกินแก้กระวนกระวายใจ แต่วิเวกมันเป็นยาวิเศษไกลไปกว่านั้น มันแก้กลุ้มใจชนิดที่รุนแรงที่ลึกซึ้ง มากมายกว่านั้นมาก ควรจะสนใจกันดูถึงขนาดให้รู้จักกันอย่างชัดเจน เอามาใช้เมื่อไรก็ได้
พระพุทธเจ้าก็ตรัสสรรเสริญว่ามันเป็นความสุขของผู้ที่ยินดีในธรรม เห็นธรรมะแล้ว ทำใจให้ว่าง ให้ปลอดโปร่ง ให้ปราศจากสิ่งรบกวน หมายความว่าจิตใจเกลี้ยง ไม่มีสิ่งรบกวน มันพิเศษที่ตรงนี้
ถ้าว่าจิตใจมันกลุ้มอยู่ด้วยสิ่งรบกวนเหมือนควันไฟรบกวน กองไฟรบกวน ยุงรบกวน ริ้นรบกวน มันก็ไม่ไหว ถ้ามันเกลี้ยง ไม่มีอะไรรบกวน นั่นล่ะเป็นที่น่าพอใจ สบายดี ขอให้สนใจกันไว้
ในความหมายหนึ่ง เราเรียกกันว่าเป็นที่พักผ่อนของวิญญาณอันดิ้นรน วิญญาณมันดิ้นรนๆ ไปตลอดเวลา ไม่มีเวลาที่จะพักผ่อน เพราะมันไม่มีวิเวก พอมีวิเวก ความดิ้นรนนั้นมันก็หยุด วิเวกจึงเป็นที่พักผ่อนของวิญญาณที่ดิ้นรน ของจิตที่ดิ้นรน ที่ดิ้นรนอย่างแรงกล้าก็คือดิ้นรนไปตามอำนาจของกิเลส ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องของคนธรรมดา ไม่ใช่เรื่องพิเศษที่ไหน ไกลไปจากเรื่องของคนธรรมดา ขอให้ท่านทั้งหลายสนใจรู้จักตัวเอง รู้จักควบคุมให้ได้วิเวกทันตามที่ต้องการ
พิจารณาดูเพื่อศึกษาสิ่งนี้ให้เข้าใจประจักษ์ชัด วิเวกเป็นชื่อของจิตก็ได้ คือจิตมันวิเวก ไม่มีอะไรรบกวนจิต เป็นชื่อของภาวะหรืออาการก็ได้ คืออาการที่ไม่มีอะไรรบกวน แม้ที่สุดเป็นชื่อของสถานที่ก็ได้ สถานที่นี้มันวิเวก สถานที่นี้ไม่มีอะไรรบกวน ดูหลายๆ ด้านแล้วมันก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น เป็นชื่อของจิตที่วิเวกก็ได้ เป็นชื่อของภาวะอาการที่มันมีความวิเวกก็ได้ เป็นชื่อสถานที่ที่ทำให้เกิดความวิเวกก็ได้
วิเวกคำนี้แปลว่าอะไร วิเวกตามตัวหนังสือคำนี้ มันก็แปลว่าหนึ่งหรือเดี่ยว เดี่ยวอย่างที่สุด ถ้าดี่ยวอย่างที่สุดก็ไม่มีสิ่งที่สองที่จะรบกวน ไม่มีสิ่งรบกวน ในทางวัตถุ สิ่งของก็ไม่รบกวน ไม่มีอะไรปรุงแต่งให้เป็นอย่างนั้น ให้รู้สึกอย่างนี้ ให้รู้สึกอย่างนั้น ให้เปลี่ยนไปตามการปรุงแต่ง ไม่มีอะไรที่จะปรุงแต่ง มันก็เรียกว่าวิเวก
ไม่ได้หมายความถึงความเหงาเปล่าเปลี่ยว ไม่มีอะไรเป็นเพื่อนสรวลเสเฮฮา ก็ฟังดูแล้วคนเรายังชอบสรวลเสเฮฮา คนธรรมดาบางคนเหงาไม่มีลูก ไม่มีหลาน ไม่มีหมู ไม่มีหมา ให้มันสับสนวุ่นวาย เขาว่ามันเหงามันอยู่ไม่ได้ ต้องมีเด็กมีเล็กทำให้วุ่นวาย เขาจึงพอใจว่ามันปกติดี ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ชอบวิเวกไม่ได้ จะเห็นว่าวิเวกเป็นความเหงา หวาดเสียวน่ากลัวไปอีก ไม่เอา ไม่ต้องการ
เราสามารถทำให้จิตวิเวก ซึ่งเป็นของทำยาก มันจึงเรียกว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งได้เหมือนกัน เพราะมันทำยาก เพราะมันงดงาม งดงามหรือไม่งดงามท่านทั้งหลายลองคิดดู ทำให้จิตเกลี้ยง ไม่มีอะไรรบกวน เยือกเย็นสนิทนี่ งดงามหรือไม่งดงาม และมันทำยากหรือมันทำง่าย ก็ขอให้คิดดูอีกทีหนึ่ง มันจะทำไม่ได้มั้ง จะทำจิตให้สงบระงับวิเวก มันจะทำไม่ได้ มันจะยอมแพ้ ก็ไปหาอะไรมากลบเกลื่อนๆ ให้มันยุ่งไปเสีย ให้มันสนุกสนานไปเสียทางอื่น คือกลบเกลื่อนกระทั่งว่า ไปหาสิ่งเสพติด ซื้อเหล้ามากินเสีย สูบยาเสพติดหรือทำอะไรชนิดที่ให้มันกลบเกลื่อนไปเสียอย่างนี้โดยมาก นี่มันไม่รู้จักวิเวก พอกลุ้มขึ้นมามันก็ต้องไปซื้อเหล้ากิน หรือต้องไปเล่นหวัวเอาอย่างที่มันไม่จำเป็นหรือไม่ควรจะทำ เพื่อจะกลบเกลื่อนความรำคาญใจของมัน จิตที่มันดิ้นรน ดิ้นรน ดิ้นรน ปัญหานี่ไม่ใช่เล็กน้อย ปัญหานี่เกิดแก่วัยรุ่น ลูกหลานของเรา วัยรุ่นทั้งหญิงทั้งชาย กำลังมีจิตที่ดิ้นรน ดิ้นรน ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าวิเวก เท่ากับดิ้นรนเข้าไปในดงแห่งความวินาศโดยไม่รู้สึกตัว ปัญหาก็เกิดขึ้นมามากมาย เป็นโรคภัยไข้เจ็บ เป็นเรื่องเสียหาย เป็นเรื่องวิวาท เป็นเรื่องทำลายชีวิตอะไรกัน มากไกลออกไปอีก นี่ไม่รู้จักวิเวก ไม่รู้จักที่พักผ่อนของจิตอันดิ้นรน
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/988/988/images/Putatartpiknu/Putthtart1.jpg)
มันไม่สำเร็จด้วยพิธีรีตอง จะรดน้ำมนต์หรือจะแขวนพระเครื่องหรือจะทำอะไร พิธีรีตองอย่างไหนๆ ก็ไม่อาจจะให้เกิดวิเวกหรือความว่างได้ นอกจากจะทำให้มันถูกวิธี วิธีของธรรมะ ที่จะทำให้เกิดความว่างหรือวิเวก
“พิธี” ใช้ไม่ได้ แต่ “วิธี” ใช้ได้ พิธีมันไปด้วยความงมงาย ด้วยความไม่รู้ มันเป็นไสยศาสตร์เสียโดยมาก “พิธี” พึ่งไม่ได้ แต่ “วิธี” เป็นเทคนิคที่ถูกต้อง พึ่งได้ มีวิธีแสวงหา วิธีที่ถูกต้องมาใช้ให้เพียงพอ เราก็จะมีวิเวกได้ กระทั่งจะมีวิเวกได้แม้ที่กลางโรงละคร วิเวกอยู่ท่ามเครื่องจักรอุตสาหกรรมอันแสนอึกทึกครึกโครม “วิธี”เท่านั้นที่มันจะช่วยได้ “พิธี” มันช่วยไม่ได้
เมื่อไม่รู้จักก็ต้องอยู่กับความยุ่งความวุ่นวาย ความดิ้นรนจนชินเป็นนิสัยไปเอง ไม่เคยรู้สึกสำนึกว่าที่วิเวกนั้นมีอยู่ สุนัขขี้เรื้อนไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ตรงไหนที่จะไม่ต้องเกา มันไม่รู้ที่ที่จะไม่ต้องเกา นี่สุนัขขี้เรื้อน มันก็ไม่มีที่หยุดที่สงบหรือที่วิเวก ต้องเป็นสุนัขที่หายแล้ว หรือใครช่วยมันหน่อย มันจะรู้จักที่ที่ไม่ต้องเกา
พระพุทธเจ้าท่านช่วยโปรดสัตว์ทั้งหลายที่ไม่รู้จักวิเวก ที่เป็นสุนัขขี้เรื้อนกันอยู่โดยมาก ตรงนี้สิทำอย่างนี้สิ ได้กายวิเวก ทำอย่างนี้สิได้จิตตวิเวก อย่างนี้สิได้อุปธิวิเวก เราจึงได้พบสิ่งที่เรียกว่าวิเวก
ขอให้ท่านทั้งหลายฟังดูให้ดีและคิดดูให้ดี คิดด้วยจิตใจที่เป็นธรรม หัวข้อที่อาตมากล่าวว่าวิเวกที่ท่านยังไม่รู้จัก เท่ากับดูถูกท่านทั้งหลายว่ายังไม่รู้จัก ดูถูกหรือไม่ดูถูกก็ดูเอาเอง ถ้าท่านรู้จักแล้วมันก็ไม่ใช่ดูถูก แต่ถ้าท่านยังไม่รู้จักจริงๆ มันก็คือดูถูก ขอเปลื้องความดูถูกออกไปเสียให้หมดคือรู้จักมันเสีย รู้จักวิเวกให้ถูกต้อง ให้ตรงตามที่เป็นจริงว่ามันเป็นอย่างไร
โลกนี้มันยังไม่มีวิเวก และมันบ้ากันหนักขึ้นไปอีก ตั้งระบบอุตสาหกรรมขึ้นมาผลิตสิ่งที่ยั่วให้ไม่วิเวก สิ่งที่ผลิตออกมาจากระบบอุตสาหกรรมนี่สนองกิเลสทั้งนั้น มันไม่จำเป็น ไม่เจอพระนิพพานทั้งนั้น มันไม่มีวิเวก
แต่มนุษย์จะพอใจที่จะเจริญจะก้าวหน้าทางระบบอุตสาหกรรม สรรเสริญเยินยอแข่งขันกันทั้งโลก มันเจริญโดยระบบอุตสาหกรรม จะเป็นเรื่องทางวัตถุทั้งนั้น ไม่มีเรื่องทางจิตทางวิญญาณ ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมไหน สอนเรื่องจิตทางวิญญาณ ทำจิตให้สงบ มีแต่เรื่องผลิตวัตถุสวยงามมีเสน่ห์ออกมายั่วยวนให้มันหลงใหลไปมากขึ้น
น่าสงสารวัยรุ่นของเราทั้งหญิงทั้งชาย ตกเป็นเหยื่อของสิ่งล่อหลอกยั่วยวนเหล่านี้ แล้วก็หลงใหลกันไป เรื่องมันจึงเกิดมากขึ้นๆ เรื่องลำบากยุ่งยากเกิดมากขึ้น อันตรายกับตัวเองก็มากขึ้น บิดามารดาก็น้ำตาตกมากขึ้น เพราะลูกวัยรุ่นไปหลงใหลสิ่งยั่วยวนของระบบอุตสาหกรรม ให้เขาศึกษาเรื่องวิเวก ให้ลูกหลานของเราศึกษาเรื่องวิเวก แล้วเขาก็จะไม่โง่ ไม่ไปหลงใหลในระบบยั่วยวนของสิ่งยั่วยวนที่อุตสาหกรรมผลิตออกมา อย่างนี้มีใช้แล้ว พอของใหม่ออกมาดีกว่าสวยกว่าก็ซื้ออีก มันเป็นเรื่องที่ไม่มีที่รู้จักสิ้นสุด ถึงพ่อของมันก็ดี มีรถยนต์อย่างนี้ใช้แล้ว พออย่างใหม่ออกมาก็ซื้อใหม่ ก็เลยซื้อกันเป็นราคาล้าน บ้านเรือนก็เหมือนกัน อย่างนี้พออยู่ได้ ก็สร้างใหม่อีกแล้ว ไม่อยู่บ้านราคาล้าน ล้านไม่พอก็หลายล้านก็ผ่อนกับเทวดา มันก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้น ไม่มีวิเวก ไม่มีความสงบ
มองดูสิ่งเหล่านี้เถิด จะเห็นโทษว่ามันยุ่งไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งเจริญมันยิ่งยุ่ง ยิ่งเจริญทางวัตถุมันก็ยิ่งยุ่ง ถ้ายิ่งเจริญทางธรรมะแล้วก็ยิ่งสงบเย็น ยิ่งเจริญทางวัตถุมันยิ่งยุ่ง มันไม่ยุ่งเปล่านะ มันส่งเสริมความเห็นแก่ตัวนะ คือส่งเสริมกิเลส พอกิเลสมันขึ้นสูงสุดมันก็ฆ่ากันวินาศ ความเจริญทางวัตถุถ้าควบคุมไว้ไม่ได้โลกก็วินาศ เพราะความเจริญทางวัตถุมันส่งเสริมความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ตัวส่งเสริมกิเลส กิเลสสูงสุดมันก็ฆ่ากันวินาศ ไม่มีวิเวกเหลือสักนิดหนึ่ง
เอาละเป็นอันว่ามารู้จักโลกทั้งโลกว่ายังมีวิเวก ขอให้สนใจเรื่องวิเวก ให้ได้กายวิเวกทางกาย จิตตวิเวกทางจิต ให้ได้อุปธิวิเวกทางสติปัญญา โลกนี้ก็จะมีวิเวก มีความสงบเยือกเย็นเป็นสุข เป็นโลกของมนุษย์ที่ถูกต้อง เดี๋ยวนี้โลกมันยิ่งวุ่นวาย พวกลิงมันหัวเราะ พวกคนป่ามันหัวเราะ นี่ก็ไม่รู้จักว่าถูกหัวเราะและก็ไม่ละอาย เพราะเหมือนๆ กันไปหมด พูดเรื่องวิเวก ก็เพื่อประโยชน์อย่างนี้ ว่าเรายังไม่ได้รับ เรายังไม่มี
ขอให้เราพยายามกันอย่างยิ่งที่จะศึกษาเรื่องนี้ เข้าใจเรื่องนี้ และดึงให้มันมี ค่อยๆ มีไปตามลำดับ มีกายวิเวก ทางกาย ทางวัตถุ มีจิตตวิเวก วิเวกทางระบบจิต อุปธิวิเวก วิเวกทางสติปัญญาอันสูง วิมุตติ เพราะวิเวกอันสุดท้ายคือนิพพาน จบที่นิพพาน
วิเวกกับนิพพานในที่นี้เป็นของสิ่งเดียวกัน คือหยุดไม่ปรุงแต่ง สงบเย็น เป็นวิสังขาร ไม่มีอะไรปรุงแต่งได้ เป็นอตัมมยตา คือคงที่ คงที่ ไม่มีอะไรมาปรุงแต่งได้ เรื่องก็จบ เป็นพระอรหันต์บรรลุนิพพาน
นี่คือวิเวกที่ท่านยังไม่รู้จักใช่มั้ย ถ้าท่านรู้จักก็ขอโทษ ล่วงเกินว่าไม่รู้จัก แต่ถ้าไม่รู้จักก็ช่วยกันรู้จักเถอะ รู้จักวิเวก พยายามรู้จักวิเวก ให้มีวิเวกให้อยู่ด้วยวิเวก มันจะได้สงบเย็น สงบเย็น ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ และพบพระพุทธศาสนา
คำบรรยายสมควรแก่เวลา ขอยุติการบรรยายเป็นโอกาสให้พระคุณเจ้าทั้งหลายสวดบทพระธรรม ธรรมสาธยาย มีใจความส่งเสริมให้เกิดกำลังใจ กล้าหาญ พากเพียรพอใจในการที่จะปฏิบัติธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้าให้สำเร็จประโยชน์ยิ่งๆ ขึ้นไปทุกๆ ระดับสืบต่อไป ณ กาลบัดนี้
(http://wallbase1.org/thumbs/rozne/thumb-1027160.jpg)
Credit by : http://www.ruendham.com/book_detail.php?id=24&content=285&name_content=%C7%D4%E0%C7%A1%B7%D5%E8%B7%E8%D2%B9%C2%D1%A7%E4%C1%E8%C3%D9%E9%A8%D1%A1 (http://www.ruendham.com/book_detail.php?id=24&content=285&name_content=%C7%D4%E0%C7%A1%B7%D5%E8%B7%E8%D2%B9%C2%D1%A7%E4%C1%E8%C3%D9%E9%A8%D1%A1)
Pics by : Google
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต * อกาลิโกโฮม
สุขใจดอทคอม
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ