(http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/05/Y9244821/Y9244821-1.jpg)
เรื่องย่อในพระธรรมบท (ปัณฑิตวรรค)
เรื่องพระราธเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภท่านพระราธะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า นิธีนํว ปวตฺตารํ เป็นต้น
ราธะเป็นพราหมณ์ตกยาก พักอาศัยอยู่ในวัด และช่วยงานเล็กๆน้อยๆในวัด เช่น ดายหญ้า กวาดบริเวณ ถวายสิ่งของมีน้ำล้างหน้าเป็นต้น แก่พระภิกษุทั้งหลาย ข้างภิกษุทั้งหลายก็ได้อนุเคราะห์แก่ราธพราหมณ์ ด้วยการให้อาหาร และสิ่งของอื่นๆ แต่ก็ไม่ยอมบวชเป็นภิกษุให้ แม้ว่าราธพราหมณ์จะต้องการบวชเป็นภิกษุมากก็ตาม
อยู่มาวันหนึ่ง ในตอนเช้าตรู่ เมื่อพระศาสดาทรงตรวจดูสัตวโลกด้วยญาณพิเศษ ทอดพระเนตรเห็นราธพราหมณ์นั้นแล้ว และทรงทราบว่าราธพราหมณ์นี้จะได้บรรลุพระอรหัตตผล พระศาสดาจึงได้เสด็จไปหาราธพราหมณ์ผู้ชราภาพนั้น และได้ทรงทราบว่าภิกษุทั้งหลายในวัดนั้นไม่ต้องการให้พราหมณ์นั้นบวชเป็นพระภิกษุ ดังนั้นพระศาสดาจึงทรงเรียกประชุมพระภิกษุทั้งหลาย แล้วตรัสถามว่า “ภิกษุทั้งหลาย มีใครๆระลึกถึงคุณของพราหมณ์นี้บ้างไหม” พระสารีบุตรเถระกราบทูลว่า “พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ระลึกได้ เมื่อข้าพระองค์เที่ยวบิณฑบาตอยู่ในกรุงราชคฤห์ พราหมณ์นี้ให้คนถวายภิกษาทัพพีหนึ่ง ที่เขานำมาเพื่อตน ข้าพระองค์ระลึกถึงคุณของพราหมณ์นี้ได้” พระศาสดาจึงตรัสว่า “หากเป็นเช่นนั้น การที่เธอช่วยพราหมณ์ผู้มีอุปการะหลุดพ้นจากทุกข์จะมิสมควรหรือ” พระสารีบุตรทูลสนองพระดำรัสและได้ให้พราหมณ์นั้นบวชแล้ว จากนั้นพระสารีบุตรได้แนะนำพร่ำสอนพระภิกษุชรานี้และภิกษุชรานี้ก็เป็นผู้ว่าง่าย ย่อมรับโอวาทของพระสารีบุตรเถระด้วยความเคารพ เมื่อบวชได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น ก็ได้บรรลุพระอรหัตตผลแล้ว
ภายหลังวันหนึ่ง พวกภิกษุสนทนากันในโรงธรรมว่า “พระสารีบุตรเถระ เป็นผู้กตัญญูกตเวที ระลึกถึงอุปการะแค่ภิกษาทัพพีหนึ่ง ให้พราหมณ์ตกยากบวชแล้ว แม้พระราธเถระก็เป็นผู้อดทนต่อโอวาท ได้ท่านผู้ควรแก่การสั่งสอนเหมือนกันแล้ว” พระศาสดาสดับคำสนทนาของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุควรเป็นผู้ว่าง่ายเหมือนราธะ แม้อาจารย์ชี้โทษกล่าวสอนอยู่ ก็ไม่ควรโกรธ ควรเห็นบุคคลผู้ให้โอวาท เหมือนบุคคลผู้บอกขุมทรัพย์ให้”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 76 ว่า
นิธีนํว ปวตฺตารํ
ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ
นิคยฺหวาทึ เมธาวึ
ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเช
ตาทิสํ ภชมานสฺส
เสยฺโย โหติ น ปาปิโยฯ
(อ่านว่า)
นิทีนังวะ ปะวัดตารัง
ยัง ปัดเส วัดชะทัดสินัง
นิคัยหะวาทิง เมทาวิง
ตาทิสัง ปันดิตัง พะเช
ตาทิสัง พะชะมานัดสะ
เสยโย โหติ นะ ปาปิโย.
(แปลว่า)
พึงเห็นคนที่คอยชี้โทษ
คอยพูดจาดุด่าห้ามปราม
มีปัญญา เหมือนผู้มาบอกขุมทรัพย์ให้
ควรคบกับผู้นั้น ซึ่งเป็นคนฉลาด
เพราะเมื่อคบกับผู้นั้น
จะมีแต่ประโยชน์ ไม่มีข้อเสียหาย.
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น.
เรื่องภิกษุอาคันตุกะ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพวกภิกษุอาคันตุกะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปชเหยฺย เป็นต้น
ภิกษุประมาณ 500 รูป จำพรรษาอยู่ในแคว้นโกศล ออกพรรษาแล้ว ปรึกษากันว่า “จักเฝ้าพระศาสดา” จึงไปยังพระเชตวัน ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว นั่งอยู่ ณ ที่สุดข้างหนึ่ง พระศาสดาทรงพิจารณาธรรมที่เป็นปฏิปักษ์แก่จริยาของพวกเธอ
ได้ตรัสสอนด้วย พระธรรมบท 3 พระคาถา เหล่านี้ว่า
กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย
สุกกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต
โอกา อโนกมาคมฺม
วิเวเก ยตฺถ ทูรมํฯ
(อ่านว่า)
กันหัง ทำมัง วิบปะหายะ
สุกกัง พาเวถะ ปันดิโต
โอกา อะโนกะมาคำมะ
วิเวเก ยัดถะ ทูระมัง.
(แปลว่า)
บัณฑิตออกจากบ้าน
มาสู่ความเป็นผู้ไร้บ้าน
ก็ควรจะละทิ้งธรรมดำ(อกุศลกรรมบถ 10)
มีความยินดีในวิเวก(นิพพาน)
ที่ยินดีได้ยากฯ
ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย
หิตฺวา กาเม อกิญฺจโน
ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ
จิตฺตเกฺลเสหิ ปณฺฑิโตฯ
(อ่านว่า)
ตัดตะราพิระติมิดเฉยยะ
หิดตะวา กาเม อะกินจะโน
ปะริโยทะเปยยะ อัดตานัง
จิดตักกะะเลเสหิ ปันดิโต.
(แปลว่า)
บัณฑิตควรละกามสุขเสียให้ได้
เป็นผู้ไร้นิวรณ์
ชำระตนให้ผ่องแผ้ว
จากเครื่องเศร้าหมอง.
เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ
สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ
อาทานปฏินิสฺสคฺเค
อนุปาทาย เย รตา
ขีณาสวา ชุติมนฺโต
เต โลเก ปรินิพฺพุตาฯ
(อ่านว่า)
เยสัง สำโพทิยังเคสุ
สำมา จิดตัง สุพาวิตัง
อาทานะปะตินิดสักเค
อะนุปาทายะ เย ระตา
ขีนาสะวา ชุติมันโต
เต โลเก ปะรินิบพุตา.
(แปลว่า)
ผู้มีจิตฝึกอบรมถูกต้องดีแล้ว
ในองค์ธรรมเครื่องตรัสรู้
ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น
ยินดีในการสละความยึดมั่นถือมั่นเสียแล้ว
เป็นผู้มีอาสวะกิเลสสิ้นแล้ว
มีความรุ่งเรือง
บรรลุนิพพานในโลกนี้ได้แล้ว.
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น.
(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSKFB6lLQkha_NdCJ7sOE_WGl3_MZKgLlh0-5Yd9m08PsHozF4lhg)
นำมาแบ่งปันโดย :
one mind : http://agaligohome.com/index.php?topic=4613.0 (http://agaligohome.com/index.php?topic=4613.0)
Pics by : Google
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต * อกาลิโกโฮม
สุขใจดอทคอม
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ