(http://www.dhammathai.org/kaveedhamma/data/imagefiles/891.jpg)
เรื่องย่อในพระธรรมบท (อรหันตวรรค)
เรื่องหมอชีวก
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในสวนมะม่วงของหมอชีวก ทรงปรารภปัญหาอันหมอชีวกทูลถาม ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า คตทฺธิโน เป็นต้น
ครั้งหนึ่ง พระเทวทัตร่วมคบคิดกับพระเจ้าอชาตศัตรู ได้พยายามสังหารพระศาสดาโดยกลิ้งหินก้อนใหญ่ลงมาจากยอดเขาคิชฌกูฏ หินก้อนนั้นได้ตกลงมาปะทะกับยอดเขาเบื้องล่างแตกกระจาย มีสะเก็ดพุ่งไปถูกพระบาทของพระศาสดาถึงกับห้อพระโลหิต ทรงได้รับความเจ็บปวดมาก พระศาสดาถูกนำไปยังวัดสวนมะม่วงของหมอชีวก หมอชีวกได้ถวายเภสัชที่ชะงัด เพื่อให้แผลหายเร็วและได้พันแผลที่พระบาทเอาไว้ แต่หมอชีวกจะต้องไปให้การรักษาแก่คนไข้ผู้หนึ่งในเมือง จึงกราบทูลพระศาสดาว่าตนจะกลับมานำเอายาที่พอกเอาไว้นี้ออกในตอนเย็น หมอชีวกกลับมาเมื่อตอนที่ประตูเมืองปิดเสียแล้ว จึงออกมาพบพระศาสดาไม่ได้ เขาเกิดความวิตกกังวลว่า “แย่จริง เราทำกรรมหนักเสียแล้ว ที่เราถวายเภสัชอย่างชะงัด พันแผลที่พระบาทของพระตถาคตเจ้า ดุจคนสามัญ เวลานี้เป็นเวลาแก้แผลนั้น เมื่อแผลนั้นอันเรายังไม่แก้ ความเร่าร้อนในพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า จักเกิดตลอดคืนยังรุ่ง”
ขณะนั้น พระศาสดาตรัสเรียกพระอานนทเถระมาเฝ้า รับสั่งว่า “อานนท์ หมอชีวกมาในเวลาเย็นไม่ทันประตู เขาคิดว่าเป็นเวลาที่จะต้องแก้ผ้าปิดแผลนั้นแล้ว เธอจงแก้ผ้าปิดแผลนี้เถิด” เมื่อพระเถระแก้ผ้าปิดแผลนั้นออก แผลหายสนิท เหมือนสะเก็ดไม้หลุดออกจากต้นไม้ เมื่อหมอชีวกมาที่วัดในตอนเช้าตรู่และได้ทูลถามพระศาสดาว่า “พระเจ้าข้า ความเร่าร้อนเกิดขึ้นในพระสรีระของพระองค์หรือไม่” พระศาสดาตรัสว่า “ชีวก ความเร่าร้อนทั้งปวงของตถาคตสงบราบคาบแล้ว ที่ควงโพธิพฤกษ์”
จากนั้น พระศาสดาตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 90 ว่า
คตทฺธิโน วิโสกสฺส
วิปฺปมุตฺตสฺส สพฺพธิ
สพฺพคนถปฺปหีนสฺส
ปริฬาโห น วิชฺชติฯ
(อ่านว่า)
คะตัดทิโน วิโสกัดสะ
วิบปะมุดตัดสะ สับพะทิ
สับพะคันถับปะฮีนัดสะ
ปะริลาโห นะ วิดชะติ.
(แปลว่า)
ผู้เดินทางถึงที่หมายแล้ว
ไม่มีความโศก
หลุดพ้นโดยสิ้นเชิง
กำจัดกิเลสเครื่องร้อยรัดได้ทั้งหมดแล้ว
จะไม่มีความเร่าร้อน.
เมื่อจบพระธรรมเทศนา ชนเป็นอันมากได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดปัตติผลเป็นต้น.
เรื่องหญิงคนใดคนหนึ่ง
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภหญิงคนใดคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า รมณียานิ เป็นต้น
พระภิกษุผู้ถือบิณฑบาตเป็นวัตรรูปหนึ่ง เรียนกัมมัฏฐานในสำนักของพระศาสดาแล้ว เข้าไปบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในสวนแห่งหนึ่ง และก็มีหญิงนครโสเภณีคนหนึ่งทำการนัดหมายกับชายผู้หนึ่งเพื่อไปหาความสุขทางกามารมณ์ด้วยกัน แต่ชายที่นัดหมายกันนั้นไม่ได้มาตามนัด นางนครโสเภณีหันมาพบพระภิกษุรูปนั้นนั่งสมาธิอยู่ก็ได้เกิดความคิดขึ้นว่า พระก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน คงจะพอ “แก้ขัด” ได้บ้าง จึงใช้มารยายั่วยวนพระภิกษุนั้นด้วยวิธีการต่างๆ พระภิกษุนั้นแทนที่จะเกิดความกำหนัดกลับเกิดธรรมสังเวชแผ่ซ่านไปทั่วสรีระ พระศาสดาประทับอยู่ในพระคันธกุฎี ทอดพระเนตรเห็นพระภิกษุนั้นด้วยตาทิพย์และได้ทรงแผ่โอภาสไปตรัสกับภิกษุรูปนั้นว่า “ภิกษุ ที่ที่ไม่รื่นรมย์ของพวกคนผู้แสวงหากามนั่นแหละ เป็นที่รื่นรมย์ของผู้มีราคะปราศจากแล้วทั้งหลาย”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัส พระธรรมบท พระคาถาที่ 99 ว่า
รมณียานิ อรญฺญานิ
ยตฺถ น รมตี ชโน
วีตราคา รเมสฺสนฺติ
น เต กามคเวสิโนฯ
(อ่านว่า)
ระมะนียานิ อะรันยานิ
ยัดถะ ระ ระมะตี ชะโน
วีตะราคา ระเมดสันติ
นะ เต กามะคะเวสิโน.
(แปลว่า)
พระอรหันต์ผู้ปราศจากราคะแล้ว
จักยินดีในป่า อันน่ารื่นรมย์
ที่ผู้แสวงหากามไม่ยินดีกัน
เพราะท่านไม่ใช่ผู้แสวงหากามอีกแล้ว.
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง พระเถระนั้นได้บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย มาโดยอากาศ ทำการชมเชย ถวายบังคมพระบาททั้งสองของพระตถาคต แล้วหลีกไป.
(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSj5Buh1JU5K6zmAcOPjg5fAC2csJJy1lqZjUbjOPDIkx3EhBkC)
นำมาแบ่งปันโดย :
one mind : http://agaligohome.com/index.php?topic=4624.0 (http://agaligohome.com/index.php?topic=4624.0)
Pics by : Google
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต * อกาลิโกโฮม
สุขใจดอทคอม
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ