ใต้ร่มธรรม
คลายวิถีทุกข์ด้วยธรรมะ => ปัญหาชีวิต ความทุกข์ ความรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: rain.... ที่ สิงหาคม 01, 2010, 09:10:12 pm
-
คือว่า เรื่องมีอยู่ว่า ฝนไปทำบุญที่วัดแห่งนึงนะงับ แล้วพระที่ใครหลายๆคนเคารพนับถือ(มาก)ในทางที่ดูหมอ ทำนายทายทักและแก้ดวง สะเดาะเคราะห์ คือเรื่องของเรื่องคือฝนไปทำโรงทาน(ประมาณนั้น)แล้วหลวงปู่(ที่เค้าเรียกกัน)ท่านทักฝนว่า "เราอะ ดวงไม่ดีนะ ซวย (พูดคำนี้เลยนะ)มีหนี้สินเยอะใช่มั้ยเรา ฝนก็ ค่ะพยักหน้าหงึกๆ :12: ในใจก็เอาแล้วมั้ยล่ะงานงอกแระช้าน555+ ดวงไม่ดีเลยนะเรามารดน้ำมนต์นะ มาให้ปู่เหยียบด้วย (คงจะเปนการสะเดาะเคราะห์มั้งฝนคิดอ่ะ)คือทักหลายอย่างมากค่ะ ไม่มีดีเลยอ่ะ จริงๆฝนก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้และไม่ค่อยชอบดูดวง เพราะเชื่อตัวเองมากกว่า เชื่อในความดีที่ตัวเราทำ อะไรที่มันจะเกิด ใครก็คงห้ามไม่ได้ :38:แต่ว่าท่านก็ทักซะน่ากลัวเลยอ่ะ แถมบอกคนในครอบครัวจะเกิดอุบัติเหตุถึงตายเลยนะถ้าไม่พามารดน้ำมนต์กะปู่ เง่ออออองานงอกเลยฝนอะ แง :24:ทำไงดี ไม่เชื่อ แต่ก็คิด นี่เปนเรื่อง ทุกข์เพราะความคิดอีกแล้วใช่ป่าวอ่ะงับ เฮ้ออออ เซรงงงสุดๆ
-
ข้าพเจ้า ขอถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่อุบัติขึ้นมาในโลก ทุกๆพระองค์
พร้อมทั้งพระธรรม และ พระสงฆ์
ว่าเป็น สรณะ ที่พึ่งตลอดชีวิต"
-
เศษกรรมของพระโมคคัลลานะที่ถูกตามฆ่า
ลองอ่านดูท่านเป็นอรหันต์ยังต้องชดใช่กรรม
ในครั้งนั้น พระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ พระนครราชคฤห์ และพระโมคคัลลานะได้พำนักอยู่ ณ ตำบลกาฬศิลา พลันก็มีโจรพวกหนึ่ง ได้พากันมาล้อมกุฏิของพระโมคคัลลานะเอาไว้ หมายจะจับตัวไปฆ่าตามที่พวกเดียรถีย์จ้างมา แต่พระโมคคัลลานะก็สามารถใใช้ฤทธิ์หายตัวหนีไปได้ พวกโจรก็ยังไม่ละความพยายาม ยังคงติดตามจับตัวท่านเพื่อหมายจะเข่นฆ่า จนเวลาผ่านไปสองเดือนย่างเข้าสู่เดือนที่ 3 พวกโจรก็ยังไม่ย่อท้อ
พระโมคคัลลานะผู้มีฤทธิ์สามารถเหาะหรือหายตัวได้หากต้องการกระทำ แต่ท่านเกิดความสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใดโจรเหล่านี้ จึงติดตามราวีท่านอย่างไม่รู้จบสิ้นทั้งที่รู้ว่าท่านเป็นผู้มีฤทธิ์
พวกโจรทั้งหลายไม่มีทางทำอะไรท่านได้เลย พระโมคคัลลานะคิดว่าชะรอยคงจะเป็นกรรมเก่าที่ท่านทำไว้ ยังเหลือเศษกรรมตามมาสนองผลหรืออย่างไร จึงได้กำหนดจิตด้วยญาณเพื่อตรวจดูกรรมเก่าที่ท่านเคยสร้างสมเอาไว้ในแต่ละชาติ ก่อนที่จะเกิดมาเป็นพระอัครสาวกในชาติปัจจุบัน
ในญาณพระโมคคัลลานะ เห็นเป็นนิมิตรว่า ครั้งหนึ่งในชาติอดีตท่านเคยเกิดเป็นบุตรของผู้มีฐานะคนหนึ่ง ของเมืองพาราณสี และท่านเป็นคนที่มีความขยันขันแข็งดูแลเอาใจใส่ ในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี เป็นที่รักใคร่แก่บิดามารดาเป็นอันมาก
อยู่ต่อมาวันหนึ่งบิดามารดาของท่านได้ปรึกษากันว่า "ลูกเราตรากตรำงานหนักเหลือเกินอีกทั้งยังไม่มีคู่ครอง เห็นทีจะต้องเสาะหาหญิงสักคนมาเป็นคู่และช่วยผ่อนงานบ้าง" เมื่อคิดดังนั้นแล้ว ทั้งสองก็นำความที่ปรึกษากันไปบอกแก่บุตรของตน
เมื่อบุตรได้ฟังดังนั้นจึงรีบปฏิเสธ บอกว่าตนไม่ได้คิดที่จะมีครอบครัว อยากจะขอปฏิบัติดูแลบิดาและมารดา ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่บิดามารดาก็ยังคงอ้อนวอนอยู่มิได้ขาด ลูกชายก็ยังไม่ยอมอยู่ดี ในที่สุดทั้งสองจึงจัดหาหญิงคนหนึ่งมาให้เป็นภรรยา แม้บุตรชายจะไม่ปรารถนาแต่ก็จำรับไว้ ครั้นอยู่ต่อมา ผู้เป็นภรรยาซึ่งเป็นหญิงใจบาปมีความรังเกียจที่ตนต้องปฏิบัติต่อพ่อแม่ของสามี จึงพยายามหาเรื่องใส่ความ เพื่อให้สามีของตนมีความรังเกียจและนำพ่อแม่ของตนไปอยู่เสียที่อื่น นางจะได้มีความสะดวกสบาย
แม้ว่าผู้เป็นภรรยาจะพยายามพูดจาใส่ความประการใด สามีก็หาได้เชื่อฟังไม่ ยังคงปฏิบัติต่อบิดามารดาของตนเหมือนก่อนมา ผู้เป็นภรรยาก็ยิ่งหาอุบายหนักขึ้น โดยในขณะที่สามีไม่อยู่บ้าน นางได้แกล้งเอาของโสโครกมาเทที่กลางบ้าน และเครื่องใช้สอยก็ขนออกมาวางกองเกะกะเกลื่อนบ้าน
เมื่อสามีกลับมาเห็นเข้า ก็ดุด่าภรรยาของตน ผู้ภรรยาก็ทำมารยาไม่ว่ากล่าวอย่างไร รีบทำการเก็บกวาดให้เป็นที่เรียบร้อย ครั้นวันต่อ ๆ มา ก็ทำมารยาเช่นเดิม ครั้นหลายวันเข้าสามีบังเกิดความสงสัย จึงเรียกภรรยาเข้ามาไต่ถาม นางภรรยาได้โอกาสจึงรีบใส่ไคล้ทันที
"ที่ท่านเห็นบ้านช่องเลอะเทอะเปรอะเปื้อนนี้จะด้วยเหตุที่ข้าขี้เกียจก็หาไม่ แต่เป็นเพราะพ่อแม่ของพี่นั่นแหละ กระทำการเช่นเดียวกันทุกวัน เหมือนจะแกล้งให้ข้าอยู่บ้านนี้ไม่ได้ ข้ารึพยายามอดทน แต่พ่อแม่ของพี่ก็ยังทำเหมือนเดิม"
เมื่อถูกเป่าหูเช่นนี้ทุกวัน และด้วยความรักภรรยา ผู้เป็นสามีก็ชักมีความเห็นคล้อยตาม และเชื่อว่าคำบอกเล่าของภรรยาเป็นความจริง จึงคิดหาทางที่จะกำจัดพ่อแม่ของตนเสีย
วันหนึ่งผู้เป็นบุตรจึงได้บอกกับบิดามารดาของตนว่า "พ่อกับแม่อยู่ทางนี้ ญาติของเราที่อยู่ต่างบ้านนั้นมีความคิดถึงเป็นอันมาก แม้ท่านทั้งสองเองก็ย่อมมีความผูกพันธ์ต้องการจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนมิใช่หรือ"
"ถูกแล้วลูกรัก" ทั้งสองบอกแก่บุตรของตน
"ถ้าเช่นนั้นก็อย่าช้าอยู่เลย ลูกได้จัดเตรียมเกวียนไว้แล้ว"
พ่อแม่หลงเชื่อจึงนั่งเกวียนไปกับบุตรของตน ครั้นถึงกลางป่าเปลี่ยว ลูกชายได้ให้ผู้เป็นบิดาจับเชือกบังคับวัย ส่วนตัวเองแอบลงจากเกวียนไป ซ่อนในป่าใหญ่ แล้วดัดเสียงเป็นโจรป่าหมายจะเข้าปล้น
พ่อแม่ทั้งสองนั้นเป็นหญิงและชายชรา หูตาไม่ค่อยดี เข้าใจว่ามีโจรจะมาปล้นจริง ๆ จึงตะโกนบอกให้ลูกชายของตนหนีเอาตัวรอดไปด้วยความเป็นห่วง แม้ภัยกำลังมาถึงตนก็ยังเป็นห่วงลูกชายด้วยความรักของผู้เป็นพ่อแม่
แต่ลูกชายนั้นความหลงได้ครอบงำดวงจิต จึงปลอมตัวเป็นโจรร้าย และทำอันตรายแก่พ่อแม่ของตนจนถึงแก่ชีวิต โดยหลงเชื่อคำยุยงของผู้เป็นภรรยา และจากผลกรรมที่ได้สร้างไว้ในครั้งนั้น ยังผลให้ผู้เป็นบุตรต้องตกนรกหมกไหม้ และต้องถูกเขาทุบตีจนตายเป็นเช่นนี้มาแล้วหลายร้อยชาติ จนถึงชาติสุดท้าย เศษกรรมที่เคยสร้างไว้ก็ยังตามมาสนอง
เมื่อทราบถึงเศษกรรมที่เหลือของท่านด้วยญาณ พระโมคคัลลานะจึงไม่คิดหลบหนีแต่อย่างใด ยอมให้พวกโจรจับตัวไปทุบตี จนร่างของท่านแหลกเหลว จนคิดว่าท่านคงเสียชีวิตแน่แล้ว จึงพากันหลบหนีไป
พระโมคคัลลานะได้เข้าญาณประสานกระดูกให้กลับเหมือนเดิมด้วยอำนาจฤทธิ์ แล้วเหาะไปเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อทูลลาเข้านิพพาน พระพุทธองค์จึงให้ท่านแสดงปาฏิหาริย์เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการเทศนาธรรมสอนประชาชนเสียก่อน
หลังจากนั้นพระโมคคัลลานะจึงได้เสด็จนิพพาน ที่ตำบลกาฬศิลานั่นเอง เมื่อภิกษุทั้งหลายทราบข่าวการเข้าสู่นิพพานของท่านโมคคัลลานะ ก็บังเกิดความแปลกใจเพราะธรรมดาท่านเป็นผู้มีฤทธิ์ เหตุไฉนจึงมาพ่ายแพ้แก่โจรป่า
ในครั้งนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสเล่าเรื่องราวของผลกรรมในชาติอดีต ให้แก่ภิกษุทั้งหลายได้ฟังจนเป็นที่เข้าใจ
กรรมเมื่อมีช่องทางก็ต้องส่งผลของเขาครับ
แต่จิตใจที่เชื่อหมั่นและพร้อมจะยอมรับตากหากที่จะหลุดพ้นได้ http://www.oknation.net/blog/ngern42/2007/10/04/entry-1
-
อีกเรื่องจะเล่าให้ฟังนี้เกิดขึ้นกะตัวเองเมื่อหกปีที่แล้วรู้สึกว่าตัวเองดวงไม่ดีเอามากๆ(ดูดวงให้ตัวเองจากประสพการ) เลยตัดสินใจบวชคือปฏิบัติแก้กรรมเอง พอดีตอนเดินทางไปเจอหมอดูเราก็เลยลองเข้าไปดูเพราะเขาอ้างว่าเขาดูแม่นมากดูใครไม่เคยพลาดเขาดูแล้วเขาบอกว่าเราดวงไม่ดีนะต้องเสดาะเคราะห์เราก็นั่งฟังเพราะเรารู้ของเราแล้ว
เราเลยบอกว่าตอนนี้กำลังจะบวชเดี๋ยวคงจะเบาลงเอง เขาบอกว่าไม่หายหรอกต้องเสดาะอย่างเดียวเขาก็ไห้ไปซื้อไข่แผงและน้ำโหลมาเขาจะทำพิธีให้ถ้าไม่เชื่ออย่าหาว่าไปเตือนนะเขาว่าเพราะเคยดูให้ผู้ช่วยไม่เชื่อเหมือนกันกลับโดนไล่ยิ่งถึงมาให้ทำให้ ( เราก็เลยคิดบอกไปว่าถ้าบวชรักษาศิลภาวนาแก้ไม่ได้ก็ให้มันตายไป) แต่ก็ไม่อยากแย่งให้เขาเสียหน้าก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรพอแค่นี้ละ จากวันนั้นถึงวันนี้หลังบวชเสร็จชีวิตเรากลับดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์พอสองปีกลับไปอีกที่ไม่รู้ว่าหมอคนนั้นไปไหนแล้ว ศัทธาความเชื่อหมั่นและความไม่ลังเลส่งสัยต่างหากที่จะคุ้มครองเราไม่ใช่คนอื่น
สัตว์โลกทั้งหลายมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์กรรมมุนาวัตตีโลโก
-
พี่เองก็ไม่ใช่คนเชื่อดวงตั้งแต่เล็กๆแล้วครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเราเองครับ ถ้าเรามั่นใจว่าเราเป็นคนดี ทำดีแล้ว ก็ขอให้ยึดมั่นใจจุดนี้ครับ
ถ้ามีจริงๆ..ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ต้อง เข้าใจว่าสิ่งนั้นก็ต้องเกิด เราจะไปห้ามหรือขัดขวางมันไม่ได้หรอก ยิ่งจะกลับหนักกว่าเดิมนะ
เหมือนกรรม เราไม่มีทางหนีพ้นหรอก ถึงพ้นตอนนี้ ก็ยังมีในโอกาสต่อไป..ผลัดไปอีกเรื่อยๆ ...
วิธีสะเดาะเคราะห์มีหลากหลายทางครับ ไม่จำเป็นต้องไปทำกับพระหรือพ่อมดหมอผี หรือคนที่เชี่ยวชาญวิชาอาคมคนทรงอะไรครับ
ทำบุญกับคน มูลนิธิ การบริจาคทาน สิ่งของต่างๆก็ได้บุญ อย่างเป็นเจ้าภาพโรงทานในวันนั้นๆหรือบริจาคเลือดบริจาคโลหิต ไถ่ชีวิตสัตว์
มีหลากหลายแนวครับ
พี่ไม่เห็นด้วยนะในกรณีที่ให้ท่านไปเหยียบไปอะไร พี่ว่าดูไม่งามครับ พี่ไม่คิดว่าตรงนี้เป็นกิจของสงฆ์นะ(กรณีที่เป็นพระ) (ความคิดส่วนตัวครับ)
ในกรณีนี้พี่ว่า หลวงปู่นี่ เป็นสงฆ์อ่ะเปล่าหรือคนธรรมดาแต่แบบว่าร่างทรง อันนี้พี่ยิ่งไม่เชื่อเลยนะ อย่าไปเชื่อมากหมอดูหรือคนทรง..
พี่ขอให้กำลังใจน้องฝนให้เชื่อมั่นในความดีที่เราทำครับ
ถ้าเกิดมีใครมาบอกกับฝนอีก ให้ไปเหยียบไปทำพิธี ค่ะๆไปแล้วก็ยิ้มๆ ก็ได้ แต่ไม่ไป ไปทำบุญแบบอื่นแทนก็ได้ครับ..
เรื่องนี้ บอกคุณพ่อแม่ฝน หรือญาติผู้ใหญ่ก็ดีนะ เล่าให้ฟัง เผื่อท่านให้คำปรึกษาที่ดีกว่านี้ อย่าด่วนตัดสินใจคนเดียวครับ ..
พี่เชื่อว่า ความดีจะคุ้มครองคนดีเสมอนะ ไม่ว่าจะอย่างไร..
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นในมุมของพี่คนเดียวนะ เดี๋ยวมีพี่ๆคนอื่นมาแนะนำฝนอีกทีครับ
พี่เชื่อในความดีที่ฝนทำ จะชักนำสิ่งดีๆและกัลยาณมิตรที่ดีมาช่วยให้พ้นจากสิ่งที่เกิดทุกข์หรือเหตุการณ์ร้ายๆทั้งปวงครับ
ให้กำลังใจฝนนะครับ
ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ
-
ต้องถามน้องฝนก่อนว่า เชื่อเรื่องดวงดาวลิขิต หรือชีวิตเป็นไปตามดวงหรือเปล่า
แล้วเรื่องสะเดาะเคราะห์แก้กรรม เชื่อหรือไม่ แค่ไหน?
ถ้าเชื่อก็ให้ทำไปตามความเชื่อนั้น เพื่อความสบายใจเป็นอันดับแรก
และหากมันจะไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่น ต้องเดือดร้อนกายและใจในภายหลัง
แล้วจะถามอีกว่า เชื่อในพระสัพพัญญุตญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแค่ไหน?
แค่ชีวิต!
หรือว่าแค่ตามๆเขาไป...
พระศาสดาทรงตรัสรู้ฯ.. นั่นย่อมหมายถึงทรงรู้แจ้งในโลกฯ รู้รอบ รู้หมด และรู้จริง
เมื่อทรงค้นพบจนรู้แจ้งชัด ก็นำความจริงที่ทรงรู้อันนั้น มาแจ้ง มาบอกกล่าว มาเปิดเผย
ให้หมู่สัตว์ฯที่ยังไม่รู้ ในเรื่องราวของความทุกข์ ที่มาจากการเกิด แก่ เจ็บ และตาย
ทรงบอกสาเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวงนั้นว่ามาจากไหน และชี้หนทางที่จะดับทุกข์นั้นเสีย..
ทรงตรัสบอกไม่ใช่หรือว่า
ก็กรรมนั่นแหละที่นำเรามาเกิด
ก็กรรมนั่นแหละที่นำเรา ให้แก่ เจ็บ และตาย
ไม่ใช่ดวงหรือโชคชะตาแต่อย่างใดเลย ที่นำมาซึ่งทุกข์ฯทั้งหลายเหล่านี้(นี่ท่านฯไม่เคยทรงตรัส)
ถ้าการรดน้ำมนต์ บีบนวด เหยียบตัว เป่าเสก ลงเลขยันต์ สามารถขจัดปัดเป่า แก้ทุกข์ได้จริง
พระพุทธองค์ ผู้ทรงรู้แจ้งเห็นจริง ก็คงจะตรัสบอกไว้แล้ว
ว่ากรรมวิธีที่เรียกว่า การสะเดาะเคราะห์นั้น สามารถแก้กรรมฯได้ สามารถช่วยให้เราพ้นจากทุกข์ได้
ถ้าหากเราจะไปถามผู้ที่ดูดวงชะตาให้เราว่า เคราะห์ที่ท่านเห็นนี้มันเกิดขึ้นมาจากไหน เกิดขึ้นเพราะอะไร
ท่านผู้นั้นก็จะตอบไปตามความรู้ความเห็น(ของท่าน)
ว่าเกิดขึ้นจากสิ่งนั้น สิ่งนี้ อย่างโน้น อย่างนี้
และส่วนมากก็จะมาจบลงที่ เป็นเพราะกรรมฯ..
แล้วเราเชื่อหรือเปล่าว่า ทุกๆเรื่องราวที่เกิดขึ้น และมีผลกระทบกับตัวเรา
เกิดขึ้นเพราะกรรม หรือการกระทำของเราเอง ไม่ว่าจะเกิดจากการกระทำในอดีตอันใกล้ หรือไกล
มันก็ล้วนเกิดจากฝีมือของเราเองทั้งนั้น
ถ้าด้วยเหตุด้วยผล และด้วยการพิจารณาไตร่ตรองที่ถี่ถ้วน ถูกต้องและตรงทางแล้ว
ดวงดาว ปีเกิด ชื่อ-นามสกุล โหงวเฮ้ง ไฝ-ปาน อะไรต่างๆเหล่านี้
จะเป็นตัวกำหนด ชี้นำ และลิขิตชีวิตให้เราได้จริงหรือ
น้ำมัน น้ำมนต์ เครื่องราง-ของขลัง เวทย์มนต์-คาถา สิ่งเหล่านี้
คุ้มครองป้องกัน รักษา และปัดเป่าไม่ให้เราต้องรับผลแห่งกรรมได้จริงหรือ
เปลี่ยนกรรมที่เป็นอกุศล ให้เป็นกุศลกรรม ด้วยการอาบน้ำมนต์ รดน้ำมัน
ได้อย่างนั้นหรือเปล่า..
กุศลวิบากย่อมเกิดจากกรรมคือการกระทำ ก็ต้องแก้ด้วยกรรมคือการกระทำเช่นเดียวกัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบอกวิธีแก้กรรม ที่ตรงทิศ ไม่ผิดทาง และได้ผลจริงไว้แล้ว
คือการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา..
ถ้าเชื่อและศรัทธาในพระรัตนตรัยจริง ขอให้เชื่อและศรัทธาอย่างตั้งมั่น มั่นคง
อย่าหวั่นไหว เอนเอียง หรือคลอนแคลน..
เมื่อเป็นชาวพุทธ นับถือพุทธศาสนา จงใช้ยาที่ชื่อว่าธรรมะนี้แหละ
รักษากายและใจ ให้หายจากโรคร้ายทั้งปวง
เพราะเป็นยาที่ใช้รักษาได้ผลจริง ยิ่งกว่ายาขนานใดๆในโลกนี้..
พี่เพียวและพี่ๆน้องๆทุกคนที่นี่ ให้ให้น้องฝนมีกำลังใจที่กล้าแข็งและมั่นคง ในการดำรงความดีเอาไว้
และความดีนั้นจะช่วยคุ้มครอง ปกปักรักษา กายและใจของน้องให้ปลอดภัยจากสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย..
:19:
ตายเสียดีกว่าถ้าจะให้หมดศรัทธาในพระรัตนตรัย..
ท่องเอาไว้ จะทำให้เรามีกำลังใจกล้าแข็ง ที่จะเอาชนะสิ่งไม่ดีทั้งปวง..
:13:
-
:07: ขอบคุณน้องเพียวที่อธิบายละเอียดน่ะค่ะ
เรื่องหมอดู ,พระทำนายทายทักนี้
มีผู้รู้ท่านเคยกล่าวไว้ว่า ให้ถามพวกเค้าว่าในกระเป๋าเรามีเงินอยู่เท่าไหร่
ถ้าเค้าบอกได้ถูกต้อง จึงค่อยเชื่อที่เค้าทายทักค่ะ..
สัมมาทิฏฐิทำให้ไม่อยากจะเชื่อ แต่เหตุที่เห็นด้วยตาว่าเป็นพระ! และที่
คาดเดา เหวิ่ยงสุ่ม ทายทัก.. ก็บังเอิญตรงกับเหตุการณ์ที่เป็นอยู่จริง
จึงอาจทำให้กังวลได้ เป็นธรรมดา..
พิจารณาที่คุณครูแทน น้องบอล น้องเพียวบอก ความไม่เชื่อคำทายทัก
ก็น่าจะมั่นคง ไม่ตามคิดได้...
:13: :19: :13:
-
เพราะเชื่อตัวเองมากกว่า เชื่อในความดีที่ตัวเราทำ อะไรที่มันจะเกิด ใครก็คงห้ามไม่ได้
:13: ขอให้เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเองนะคะ
คิด + มอง + ทุกอย่าง + :19:
:47: เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
ก่อนอื่นต้องมั่นใจในตนเองก่อนนะฝน
เราทำความดี..ก็คงไม่มีอะไรเลวร้ายสำหรับเรา
ถ้าเราไม่มั่นใจ..ก็ทำบุญสะเดาะเคราะห์นั่นละจะได้สบายใจ
ไม่มีอะไรหนักหนายิ่งกว่าใจเราเองหรอก
พี่ก็แนะนำได้เท่านี้ในแบบของพี่..คงไม่แน่นเท่าพี่ๆด้านบน..
-
คือว่า เรื่องมีอยู่ว่า ฝนไปทำบุญที่วัดแห่งนึงนะงับ แล้วพระที่ใครหลายๆคนเคารพนับถือ(มาก)ในทางที่ดูหมอ ทำนายทายทักและแก้ดวง สะเดาะเคราะห์ คือเรื่องของเรื่องคือฝนไปทำโรงทาน(ประมาณนั้น)แล้วหลวงปู่(ที่เค้าเรียกกัน)ท่านทักฝนว่า "เราอะ ดวงไม่ดีนะ ซวย (พูดคำนี้เลยนะ)มีหนี้สินเยอะใช่มั้ยเรา ฝนก็ ค่ะพยักหน้าหงึกๆ :12: ในใจก็เอาแล้วมั้ยล่ะงานงอกแระช้าน555+ ดวงไม่ดีเลยนะเรามารดน้ำมนต์นะ มาให้ปู่เหยียบด้วย (คงจะเปนการสะเดาะเคราะห์มั้งฝนคิดอ่ะ)คือทักหลายอย่างมากค่ะ ไม่มีดีเลยอ่ะ จริงๆฝนก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้และไม่ค่อยชอบดูดวง เพราะเชื่อตัวเองมากกว่า เชื่อในความดีที่ตัวเราทำ อะไรที่มันจะเกิด ใครก็คงห้ามไม่ได้ :38:แต่ว่าท่านก็ทักซะน่ากลัวเลยอ่ะ แถมบอกคนในครอบครัวจะเกิดอุบัติเหตุถึงตายเลยนะถ้าไม่พามารดน้ำมนต์กะปู่ เง่ออออองานงอกเลยฝนอะ แง :24:ทำไงดี ไม่เชื่อ แต่ก็คิด นี่เปนเรื่อง ทุกข์เพราะความคิดอีกแล้วใช่ป่าวอ่ะงับ เฮ้ออออ เซรงงงสุดๆ
!!! ดูดวงมาว่าจะถึง ฆาต เมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ยังมานั่งจิ้มแป้นพิมพ์ตอบคำถามอยู่ตอนนี้เลยครับ !!!
จิตเราสำคัญสุดครับ หากให้สบายใจก็ ไปทำบุญปล่อยสัตว์สิ่ครับ อย่างเดินไปตลาดหาซื้อปลาไปปล่อย :45:
ป.ล.
:41: :41: ผมเคยซื้อกบไปปล่อยด้วยตัวใหญ่มาก แต่ปล่อยไปแล้วมันไม่ยอมกระโดดไปไหนเลย ตัวใหญ่มากด้วยไม่รู้เป็นไงมั่งตอนนี้ :41: :41:
:43:
-
!!! ดูดวงมาว่าจะถึง ฆาต เมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ยังมานั่งจิ้มแป้นพิมพ์ตอบคำถามอยู่ตอนนี้เลยครับ !!!
จิตเราสำคัญสุดครับ หากให้สบายใจก็ ไปทำบุญปล่อยสัตว์สิ่ครับ อย่างเดินไปตลาดหาซื้อปลาไปปล่อย :45:
ป.ล.
:41: :41: ผมเคยซื้อกบไปปล่อยด้วยตัวใหญ่มาก แต่ปล่อยไปแล้วมันไม่ยอมกระโดดไปไหนเลย ตัวใหญ่มากด้วยไม่รู้เป็นไงมั่งตอนนี้ :41: :41:
:43:
ผมเคยปล่อยเต่าแล้วมันไม่ยอมลงน้ำ..ผมเลยจับมันโยนเลย..สวดยอดอิอิ
อนุโมทนาครับพี่โอ :yoyo078:
-
มีเพื่อนของเพื่อนแม่คนนึงเป็นผู้ชาย แต่เค้าใจดี ใจบุญ เป็นคนเงียบ ๆ หน้าตาเค้าจะยิ้ม ๆ
วันนั้นเค้านั่งรถไปเที่ยวกับเพื่อนเค้า แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นมดตัวน้อยตัวนิดตัวหนึ่ง
กำลังเดินเตร็ดเตร่ไปมาอยู่ในรถ ไม่มีใครรู้ว่าเค้าคิดอะไร แต่เค้าก็บอกเพื่อนให้จอดรถ
เพื่อนก็งงว่าให้จอดทำไม เค้าก็ค่อย ๆ จับมดตัวนั้นไปปล่อยลงที่พงหญ้าแถวนั้น
แล้วก็แค่ยิ้ม ๆ แล้วปล่อยให้เพื่อนงงต่อปายย
เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น .....
3 วันผ่านไป .... เค้ากับเพื่อนก็ได้นั่งรถไปด้วยกันแล้วผ่านบริเวณที่เค้านำมดไปปล่อยอีกครั้ง
เค้าก็บอกให้เพื่อนจอดรถตรงนี้เดี๋ยว เพื่อนก็งงรอบสอง ว่าให้จอดทำไม
เค้าก็เพียงแต่พูดยิ้ม ๆ ว่า " จะแวะเยี่ยมมดตัวนั้นหน่อยหนะ " ..... :06:
-
ต้องถามน้องฝนก่อนว่า เชื่อเรื่องดวงดาวลิขิต หรือชีวิตเป็นไปตามดวงหรือเปล่า
แล้วเรื่องสะเดาะเคราะห์แก้กรรม เชื่อหรือไม่ แค่ไหน?
จริงๆแล้ว ฝนเป็นคนที่ไม่เคยดูดวง และไม่เชื่อเรื่องดูดวงอ่ะงับ เชื่อตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่ และเชื่อเรื่องเวรกรรมมากกว่า อย่างถ้ามีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับตัวฝนเอง ฝนก็จะมานั่งนึกว่า เออหนอสิ่งที่เกิดขึ้นกะเราคงเปนเพราะไปทำกรรมอันนั้น....อันนี้มาแน่นอนเลย มาณนั้นค่ะ แต่พอดีว่า เรื่องที่เล่ามานั้นเป็นพระที่คน(ดังๆก็มี)หลายๆคนเคารพนัพถือและศรัทธา+เชื่อในสิ่งที่ท่านทักอ่ะงับ ละพอคนที่ไปด้วยได้ยินท่านทัก โดยที่ฝนไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ท่านดูดวงหรือถามท่านเรื่องดวงของฝนเลย ทีนี้ก็เลยเปนเรื่องใหญ่โตในวงสนทนา ว่าฝนต้องงั้น ต้องงี้นะ ต้องไปแก้ดวงนะ ฯลฯ ฝนเลยว่าเพระาคำพูดของบรรดาญาติมิตรทั้งหลายทำให้ฝนเขวแหงมเลยอ่ะ เลยกลายเป็นว่ามีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่ก้นะ :05:ตอนนี้ฝนมานั่งนึกๆคิดๆถึงสิ่งที่ฝนประสพมาจากพระ(หลวงปู่)ท่านนี้คือในความรู้สึกของฝนเองฝนมองว่าท่านเปนแบบ "พุทธพาณิชย์" ประมาณว่า ใครอยากได้ตะกรุดหนังเสือ บริจาค1,000บาทรับไปเลย บริจาค500บาทรับ..... บริจาค300 - 200 - 100 รับ ฯลฯ ถึงตอนนี้ จากกะทู้คำแนะนำและกำลังใจจากพี่ๆและที่สำคัญที่สุดการตัดสินใจโดยไตรตรองอย่างถี่ถ้วนดีแล้วของตัวฝนเอง ฝนเชื่อในความดี เชื่อในเรื่องของเวรกรรม อะไรจะเกิดมันก็คงไม่มีใครห้ามได้ ฝนขอเปนฝนที่เชื่อมั่นในความดีงามของพระพุทธเจ้า เชื่อในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ทำดีย่อมได้ดี :07: :07: :07: ขอบคุณทุกคำแนะนำ ขอบคุณทุกกำลังใจมากมายงับ :yoyo108: :yoyo108:สู้ๆ ย้ากกกกกกกกกก ฝนพิฆาตมาแว้ววววววว แป่ว!!!!!
-
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=NPxvjyXfCxo[/youtube]
-
ต้องถามน้องฝนก่อนว่า เชื่อเรื่องดวงดาวลิขิต หรือชีวิตเป็นไปตามดวงหรือเปล่า
แล้วเรื่องสะเดาะเคราะห์แก้กรรม เชื่อหรือไม่ แค่ไหน?
จริงๆแล้ว ฝนเป็นคนที่ไม่เคยดูดวง และไม่เชื่อเรื่องดูดวงอ่ะงับ เชื่อตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่ และเชื่อเรื่องเวรกรรมมากกว่า อย่างถ้ามีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับตัวฝนเอง ฝนก็จะมานั่งนึกว่า เออหนอสิ่งที่เกิดขึ้นกะเราคงเปนเพราะไปทำกรรมอันนั้น....อันนี้มาแน่นอนเลย มาณนั้นค่ะ แต่พอดีว่า เรื่องที่เล่ามานั้นเป็นพระที่คน(ดังๆก็มี)หลายๆคนเคารพนัพถือและศรัทธา+เชื่อในสิ่งที่ท่านทักอ่ะงับ ละพอคนที่ไปด้วยได้ยินท่านทัก โดยที่ฝนไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ท่านดูดวงหรือถามท่านเรื่องดวงของฝนเลย ทีนี้ก็เลยเปนเรื่องใหญ่โตในวงสนทนา ว่าฝนต้องงั้น ต้องงี้นะ ต้องไปแก้ดวงนะ ฯลฯ ฝนเลยว่าเพระาคำพูดของบรรดาญาติมิตรทั้งหลายทำให้ฝนเขวแหงมเลยอ่ะ เลยกลายเป็นว่ามีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่ก้นะ :05:ตอนนี้ฝนมานั่งนึกๆคิดๆถึงสิ่งที่ฝนประสพมาจากพระ(หลวงปู่)ท่านนี้คือในความรู้สึกของฝนเองฝนมองว่าท่านเปนแบบ "พุทธพาณิชย์" ประมาณว่า ใครอยากได้ตะกรุดหนังเสือ บริจาค1,000บาทรับไปเลย บริจาค500บาทรับ..... บริจาค300 - 200 - 100 รับ ฯลฯ ถึงตอนนี้ จากกะทู้คำแนะนำและกำลังใจจากพี่ๆและที่สำคัญที่สุดการตัดสินใจโดยไตรตรองอย่างถี่ถ้วนดีแล้วของตัวฝนเอง ฝนเชื่อในความดี เชื่อในเรื่องของเวรกรรม อะไรจะเกิดมันก็คงไม่มีใครห้ามได้ ฝนขอเปนฝนที่เชื่อมั่นในความดีงามของพระพุทธเจ้า เชื่อในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ทำดีย่อมได้ดี :07: :07: :07: ขอบคุณทุกคำแนะนำ ขอบคุณทุกกำลังใจมากมายงับ :yoyo108: :yoyo108:สู้ๆ ย้ากกกกกกกกกก ฝนพิฆาตมาแว้ววววววว แป่ว!!!!!
:13: ความสวยงามในความแข็งแกร่งแห่งความดี อนุโมทนาครับผม พี่น้องเราเป็นกำลังใจให้เสมอนะ โย่ว สู้ๆครับ
-
=[]= ทักซะน่ากลัวเลยค่ะ อิอิ เป็นอิ๋มก๊คิดมากค่ะ T-T