ใต้ร่มธรรม

ประชาสัมพันธ์ => 108 โทรโข่ง => ประชาสัมพันธ์ทางธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 08:48:33 am

หัวข้อ: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 08:48:33 am
พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ถ้าต้องการที่จะได้......................

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445.html

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 08:53:14 am
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=240210&d=1195311568)

รูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตร)

1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า
2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า
3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร)
4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า (หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี)
5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า (หลวงปู่หน้าปาน หรือหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด วัดโอภาสี กรุงเทพฯ)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 08:55:31 am
ประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
ลิขสิทธิ์ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

กาลามสูตร
ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมครู


1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆกันมา
3. อย่าปลงใจเชื่อ ค้วยการเล่าลือ
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฏีที่พินิจไว้แล้ว
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา

เรื่องราวเกี่ยวกับพระเทพโลกอุดร มีมาช้านานแล้ว เริ่มต้นในยุคสมัยสุวรรณภูมิ หริภุญไชย สุโขทัย อยุธยา และตนโกสินทร์ หลักฐานที่ปรากฏชัดแต่ขาดการค้นคว้า อย่างจริงจังรู้ในชนกลุ่มน้อยทางเจโตบ้าง เช่น พระอริยคุณาธาร (ปุสโสเส็ง) และหลวงปู่คำคะนิง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า คณะพระเทพโลกอุดร เคยมาพำนัก ณ ถ้ำดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวไปก็ไม่มีผู้ใดเห็นอย่างท่าน บางท่านที่มีวาสนาก็พบเห็นท่านและยืนยัน ครั้นจะเอาเข้าจริงก็ไม่สามารถพบเห็นท่าน คล้ายคนหนึ่งเคยเห็นผีแต่หลายคนอยากเห็นบ้างก็ไม่เห็น จนเกือบจะเป็นเรื่องอจิณไตย (คือเรื่องที่ไม่ควรนึกคิด) แต่ก็ไม่ใช่นิยายท่านมักอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง สามารถปรากฏได้ในสถานที่ต่าง ๆ ไม่จำกัด ทั้งผู้ที่พบเห็นก็ปราศจากความรู้ว่าเป็นพระเทพโลกอุดรองค์ใดกันแน่ เพราะมีอยู่ด้วยกันถึง 5 พระองค์ และอาจมาในรูปต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน หรือปรากฏรูปเดิม แต่ที่มีวาสนาบารมีสูงส่งก็คือ คุณดอน นนทะศรีวิไล คนลาวไปประกอบอาชีพที่ประเทศแคนาดา ท่านผู้นี้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ถือเอกามังสะวิรัติมานานกว่าสิบปีซึ่งบรมครูพระเทพโลกอุดรโปรดปรานมาก คุณดอนและครอบครัว นับถือบรมครูพระเทพโลกอุดรมาก และเล่าให้ฟังว่าได้พบเห็นบรมครูพระเทพโลกอุดรด้วยตาเนื้อ 2 ครั้ง

.
http://board.palungjit.com/f4/ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร-91379.html

.


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 08:57:00 am
ปริเฉทสาม

เริ่มสมัยรัตนโกสินทร์ในราชกาลที่ 4 ประมาณปี พ.ศ.2395 ในขณะที่พระองค์เจ้ายอดหรือพระองค์เจ้ายอดยศ บวรราโชรสราชกุมารประสูติ ณ วันพฤหัสบดี เดือน 10 แรม 2 ค่ำปีจอสัมฤทธิศก จุลศักราช 1200 พุทธสกราช 2381ในรัชกาลที่ 3 เป็นพระเจ้าลูกยาเธอนับเป็นพระราชโอรสองค์ต้นในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมายุได้ 14 พรรษาปี 2395 เป็นการปรากฎทั้งคณะพระธรรมฑูตมีดังนี้
1. พระอุตรเถระเรียกกันว่าพระครูโลกอุดรหลวงปู่ใหญ่หรือหลวงพ่อดำเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังสีเรียกท่านว่า “พระโลกอุดร”
2. พระโสณเถระเรียกกันว่าพระครูโลกอุดรเช่นกัน ฉายานามขรัวตีนโตเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ท่านว่า “พระโสอุดร”
3. พระมูนียะเรียกกันว่าหลวงปู่โพรงโพท่านอิเกสาโร หรือหลวงปู่เดินหน
4. พระฌานียะเรียกกันว่าหลวงปู่ขรัวขี้เถ้า
5. พระภูริยะเรียกกันว่าหลวงปู่หน้าปาน
ทราบโดยญาณของผมเองว่าพระอิเกสาโรเป็นศิษย์พระโสณเถระส่วนอีกสองท่านจะเป็นศิษย์พระอุตรเถระหรือพระโสณเถระยังไม่แจ้งชัดเพียงอาจารย์ผมบอกว่าท่านฌานียะ ยังมีอาจุแก่กว่าพระอุตรเถระด้วยซ้ำไปหลวงปู่ขรัวขี้เถ้ากับหลวงปู่หน้าปานจะจบกิจเป็นพระอรหันต์หรือยังมิอาจทราบได้เพียงท่านหายไปตอนตอนแรกอาจเป็นเพียงอรหัน (ตามคำวิเคราะห์ศัพท์ในตอนต้น)จึงต้องมาสร้างบารมีเพิ่มในรูปของหลวงหลวงพ่อกบวัดเขาสาริกาอำเภอบ้านหมี่จังหวัดลพบุรีก็คือท่านขรัวขี่เถ้าเผาแหลกมีอะไรท่านเผาหมดเป็นปริศนาธรรมอันหนึ่งว่า “ตูนี่แหละคือขรัวขี้เถ้า”ท่านแปรธาตุแบบสำนักโลกอุดรเป็นกบเลี้ยงลูกศิษย์จึงมีฉายาว่าหลวงพ่อกบกล่าวกันว่าเมื่อท่านมรณะภาพแล้วนำใส่โลงศพได้เกิดหายไปไม่มีร่องรอยก็ท่านตามจริงเสียเมื่อไรที่เห็นนั่นเป็นเพียงกายธรรมเท่านั้นส่วนอีกท่านหนึ่งมาในนามของหลวงพ่อโอภาสีหรือมหาชวนแห่งอาศรมบางมดท่านก็บอกว่ามหาชวนตายไปแล้วท่านเป็นพระสำเร็จมาอาศัยร่างเพื่อสร้างบารมีต่อปริศนาธรรมของท่านก็คือมีพระบรมสาทิศของล้นเกล้า ร.5 คนก็ตีความไปต่างๆนาๆว่าท่านนับถือรัชกาลที่ 5 มาเกิดบ้างก็รัชกาลที่ 5 สวรรคตในปีพ.ศ.2453ท่านมหาชวนเกิดก่อนแล้วความจริงก็คือ“ตูนี่แหละพระโลกอุดรองค์ที่ 5” ก็เท่านั้น

พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศฯน่าจะสร้างบารมีต่อเนื่องมาแต่ปางบรรพ์ ทรงมีธรรมาพิสมัยแต่ครั้งยังเยาว์วัยนอกจากจะทรงสนพระทัยในวิทยาการทางอักษรศาสตร์รัฐศาสตร์ การช่างช่างฝีมือยุทธศาสตร์จนถึงวิชาการฟ้อนรำทรงสนพระทัยในวิปัสสนากรรมฐานแต่เยาว์วัยขณะที่พระชนมายุเพียง14พรรษาฝึกฝนจนอินทรียพละฝึกฝนจนอินทรีย์พละแก่กล้าพอควรบรมครูพระเทพโลกอุดร (พระอุตร เถระ)เห็นว่าเจ้าชายท่านนี้เคยเป็นศิษย์ในความอุปการะกันมาจึงมาเข้านิมิตสอนธรรมกรรมฐานโดยต่อเนื่องในสภาพกายทิพย์(มองเห็นได้ด้วยตาใน)จนเห็นว่าบรรลุขั้นทิพยจักศุแล้วจึงปรากฏเป็นกายธรรมมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อและสามารถใช้ผัสสะจับต้องได้โดยที่ผู้ศึกษาไม่ถึงจะตู่ว่าเป็นองค์จริงแทบร้อยทั้งร้อยนั้นคือความไม่รู้จริงแล้วคิดว่ารู้สำหรับสำหรับเรื่องนี้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มหาอุปราชแห่งพระราชวังหน้าก็มิได้ทราบความจริงเท่าใดนักเพียงแต่กล่าวกันว่าพระองค์เจ้ายอดยิ่งยศมักจะหายไปคราวหนึ่งๆประมาณ 15–20 วัน คงมีแต่เจ้าจอมมารดาเอมซึ่งเป็นพระชนนีที่ทราบความเป็นไปและในการที่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญเสด็จทิวงคตด้วยโรควักกะ (ไต) พิการในปีพ.ศ.2428นั้นท่านมิได้ทิวงคตจริงแต่บรมครูพระเทพโลกอุดรหรือหลวงปู่ดำพาไปอยู่ด้วยและเสกใบพลูแทนตัวไว้เรื่องออกจะเหลือเชื่อแต่ก็น่าเชื่อเพราะปรากฏหลักฐานยืนยันจากท่านอาจารย์ชาญณรงค์ศิริสมบัติหรือท่านอภิชิโตภิกขุได้ไปพบท่านวังหน้าที่สำนักโลกอุดรแต่ไม่ใช่ถ้ำวัวแดงอย่างที่เล่าลือกันท่านวังหน้า กับ ท่านอาจารย์แจ้งฌาณ 2 รูปเป็นพี่เลี้ยงถ่ายทอดวิชาให้ท่านอภิชิโต มักเรียกว่า “ครูฝึก” โดยปกติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรจะมิได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้โดยตรงต่อเมื่อเรียนจบขั้นหนึ่งๆแล้วท่านจะต้องทอสอบความรู้และรับรองให้เรียนขั้นสูงต่อไปปัจจุบันท่านวังหน้ายังดำรงชีวิตอยู่ประมาณ 150 ปีเศษ ท่านรู้จักผมดีเรียกผมว่า"โยมประถม"ท่านอภิขิโตได้ให้ช่างวาดภาพท่านวังหน้าด้วยถ่านเครยองมองเห็นครั้งแรกเกิดความสนใจคิดว่าเป็นภาพหลวงปู่ใหญ่เพราะเป็นภาพของบรรพขิตแต่กลับเป็นภาพของท่านวังหน้าส่วนภาพที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้เป็นเพียงภาพของพระอิเกสาโรหรือหลวงปู่โพรงโพ พระโลกอุดรองค์ที่ 3 เคยมีผู้นำภาพถ่ายขนาดเล็กมาให้ชมท่านเขียนเป็นภาษาขอมว่า"ไตรโลกอุดร"หมายถีงพระโลกอุดรองค์ที่ 3 ผมเคยเรียนถามหลวงปู่ว่าในการอธิษฐานจิตพระพิมพ์โลกอุดรกรุแรกซึ่งบรรจุในเจดีย์วัดบวรสถานสุธาวาส หรือวัดพระแก้ววังหน้าหลวงปู่ได้มาในสภาพของกายทิพย์ หรือกายธรรมท่านตอบว่าท่านอยู่ในรูปแห่งกายธรรมถามท่านว่าปัจจุบันเหตุใด ท่านไม่เสด็จมาในรูปกายธรรมอีกท่านหัวเราะตอบว่าคนเราในสมัยปัจจุบันไม่เหมือนกับคนในสมัยก่อน
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 08:57:53 am
บุคลิกภาพและจริตแห่งพระโลกอุดร

พระโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ท่านไม่ใช่คนไทยเป็นชาวเนปาลแต่ละองค์มีจริตและบุคลิกภาพแตกต่างกันผู้ที่อวดรู้เห็นยากที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นพระโลกอุดรองค์ไหนดีไม่ดีไปพบหลวงปู่แจ้งฌานว่าที่พระโลกอุดรเข้าก็อาจเป็นได้หลวงปู่ท่านนี้ได้อภิญญาโลกีย์และเป็นพระสำเร็จชอบท่องเที่ยวไปทุกหนทุกแห่งนอกจากท่านอภิชิโตภิกขุแล้วยากที่ผู้อื่นจะดูออกท่านอภิชิโตมักจะสัพยอกครูฝึกว่า“นี่คนหรือผีกันแน่เห็นมากี่สิบปีร่างกายก็คงเดิมไม่แปรเปลี่ยน"สมัยยังมีการใช้รถราง บางครั้งก็จ๊ะเอ๋กันในรถก็ยังเคยถามท่านอภิชิโตว่าตามที่เขาลือกันว่าหลวงปู่สุขวัดปากคลองและหลวงพ่อเงินวัดบางคลานซึ่งเป็นสานุศิษย์สายโลกอุดรไม่มรณะภาพจริงอาจารย์เคยพบบ้างไหมท่านตอบว่าไม่เคยพบเป็นอันแสดงว่าสายของพระโลกอุดรมีอยู่หลายสายด้วยกันและยังแยกออกเป็นสายในดงและสายนอกดงสายในดงคือไปศึกษาความรู้จากองค์ท่านสายนอกดงนำมาสอนกันสืบต่อไปอาจเป็นทั้งฆราวาสและบรรพชิตเช่นอาจารย์พัวแก้วพลอย อาจารย์ฉลอง เมืองแก้ว อาจารย์ชมสุคันธรัตเป็นต้นพยายามศึกษาให้แตกฉานนะครับอย่าเขียนเรื่องเรื่อยเปื่อยจะเป็นบาปหลวงปู่ท่านเคยตำหนิว่ามีชายแก่นำชื่อท่านไปขายถามว่าเป็นตัวผมหรือเปล่าท่านว่าไม่ใช่ ที่ผมทำไปนั้นถูกต้องแล้ว
องค์ที่หนึ่งพระอุตรเถระหรือหลวงปู่ใหญ่ คือบรมครูเทพโลกอุดรลักษณะรูปร่างสันทัดผิวกายค่อนข้างดำคล้ำจึงมีฉายาว่า “หลวงพ่อดำ” มีจิตเยี่ยงพระโพธิสัตว์เจ้าบรรลุอภิญญาหกแ่ต่ในบทสวดกล่าวว่าเตวิชโชคือวิชชาสามซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับปฏิสัมภิทาญาณแต่ในบทสวดก็กล่าวว่าท่านบรรลุซึ่งปฏิสัมภิทาญานเช่นกันท่านได้วางหลักสูตรในการฝึกสมาธิซึ่งเรียกว่า“วิทยาศาตร์ทางใจ” มิใช่วิชาไสยศาสตร ์และมิใช่มายากลศิษย์ในดงนอกดงสามารถแปรธาตุได้เช่นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อปานวัดคลองด่านหลวงปู่สุขวัดปากคลองท่านอภิชิโตภิกขุอาจารย์พัวแก้วพลอยอาจารย์ฉลองเมืองแก้วหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง ฯลฯเป็นต้นท่านเชี่ยวชาญในวิชาแพทย์ท่านเชี่ยวชาญในวิชาแพทย์และเภสัชกรรมใจดีประกอบด้วยเมตตามีอารมณ์ขันหากจะกล่าวถึงหัวหน้าคณะพระธรรมฑูตซึ่งเดินทางมาเผยแพร่พระพุทธศาสนายังสุวรรณภูมิแหลมทองคงได้แก่พระโสณเถระซึ่งท่านเป็นน้องชาย ซึ่งเป็นน้องชายพระอุตรแต่บรรลุอรหันต์ก่อนพี่ชายบทบาทของพระอุตรเถระจึงไม่ค่อยมีปรากฏและพระโสณเถระก็บรรลุปฏิสัมภิทาญาณเช่นกันมิฉะนั้นจะสอนศาสนาแก่คนต่างชาติได้อย่างไรปฏิสัมภิทาญาณสี่มีดังนี้
1. อัตถปฏิสัมภิทาคือความแตกฉานในอรรถเข้าใจถืออธิบายอรรถแห่งภาษิตให้พิศดาร และ เข้าใจคาดคะเนล่วงหน้าถึงผลอันจักมีเข้าใจผล
2. ธรรมปฏิสัมภิทาคือความแตกฉานในธรรมเข้าใจถือเอาใจความแห่งอธิบายนั้น ๆตั้งเป็นกระทู้หรือหัวข้อขึ้นได้สาวเหตุในหนหลังให้เข้าใจเหตุ
3. นิรุตติปฏิสัมภิทาคือความแตกฉานในภาษาและรู้จักใช้ถ้อยคำตลอดจนรู้ถึงภาษาต่างประเทศ
4. ปฏิภาณสัมภิทาความแตกฉานในปฏิภาณมีไหวพริบเข้าใจทำให้สบเหมาะในทันทีหรือในเมื่อเหตุเกิดขึ้นโดยฉุกเฉินหรือกล่าวตอบโต้ได้ทันท่วงที
ท่านมีสภาวะจิตที่รวดเร็วมากเพียงนึกถึงท่านท่านจะบอกให้นิมิต "เมื่อเจ้าต้องการพบเรา เราก็มาเรามาจากทางไกลด้วยความรวดเร็วยิ่งในการตรวจพพิมพ์ของท่านซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าท่านเป็นบรมครูพระเทพโลกอุดรท่านอภิชิโตภิกขุมอบให้เป็นสมบัติบอกว่าอาจารย์ท่านคือหลวงปู่ดำเสกให้เคยทดลองให้ท่านอาจารย์วิเชียรคำไสสว่างชีปะขาวผู้ทรงคุณกำหนดจิตดูท่านอาจารย์บอกว่าพระนี้ว่องไวและรวดเร็วยิ่งต่อมาเพื่อเป็นการพิสูจน์ทดสอบได้นำพระพิมพ์ที่ว่านำไปตรวจสอบกับพระพิมพ์โลกอุดรกรุวังหน้าปรากฏว่าเหมื่อนกันทุกประการ
องค์ที่สองพระโสณเถระหรือหลวงปู่ตีนโต รูปกายสูงใหญ่ผิวดำทรงคุณสมบัติเช่นองค์ที่หนึ่งเว้นวิชาแพทยใจดี
เยือกเย็นประกอบด้วยเมตตาธรรมชอบผาดโผนเหินฟ้านภาลัยโขดเขินเนินไศลเป็นที่สัญจร
องค์ที่สามพระมูนียะหรือพระอิเกสาโร หลวงปู่โพรงโพหลวงปู่เดินหนล้วนเป็นองค์เดียวกันมีบุคลิกภาพอันสง่างามปรากฏตามภาพซึ่งใช้บูชากันอยู่ในปัจจุบันเชี่ยวชาญในวิชาแปรธาตุเป็นผู้คงแก่เรียนชอบเจริญอศุภกรรมฐาน 10 มักสร้างรูปบูชาเป็นโครงกระดูกพูดน้อยค่อนข้างเคร่งขรึมคล้ายดุแต่ก็ไม่ดุเป็นอาจารย์หลวงพ่อเงินบางคลาน หลวงปู่สุขวัดปากคลองห่มจีวรสีหมองคล้ำหากปรากฏภาพในนิมิตมักจะปรากฏเส้นเกสายาวจรดเอวทีเดียวแสดงว่า “อิเกสาโร” (เกสาแปลว่าเส้นผม)ท่านมีบทบาทไม่น้อยตามความรู้สึกน่าจะมีบทบาทมากกว่าองค์อื่นๆด้วยซ้ำไป
องค์ที่สี่พระณานียะฉายาหลวงปู่ขรัวขี้เถ้าเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อแช่มวัดตาก้องจังหวัดนครปฐมท่านมีรูปกายค่อนข้างสูงใหญ่ขนตาดกยาวแปลกกว่าองค์อื่นมีอำนาจ แต่ขี้เล่นใจดีนิมิตไม่แน่นอนอาจเป็นรูปพระภิกษุ ท่านจะชื่ออะไรไม่ทราบแต่แปรธาตุเสกใบมะม่วงเป็นกบนำพร่ายำเลี้ยงสานุศิษย์เลยเรียกกันว่าหลวงพ่อกบท่านมาสร้างบารมีต่อปริศนาธรรมคือขรัวขี้เถ้าเผาแหลกมีอะไรเผาหมด แบบเถ้าสู่เถ้าผงคลีสู่ผงคลีดินจะใหญ่สักปานใดมันก็ไม่พ้นจากความเป็นขี้เถ้าหรอกที่สุดก็มรณะภาพและศิษย์นำใส่โลงศพรอวันเผาหลวงปู่เกิดหายไปไร้ร่องรอยเลยไม่มีการฌาปนกิจศพ
องค์ที่ห้าพระภูริยะหลวงปู่หน้าปานบางคนก็เรียกท่านว่าหลวงปู่แก้มแดงเคยเรียนถามท่านอภิชิโตภิกษุท่านบอกว่าขรัวหน้าปานองค์นี้สำเร็จปรอทล่องหนย่นทางเก่งถ้าท่านเอาลูกปรอทอมทางซึกซ้ายแก้มซ้ายจะแดงถ้าเปลี่ยนเป็นอมทางแก้มขวาทางด้านขวาจะแดงจึงเกิดถกเถียงกันไม่รู้จบท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ขรัวขี้เถ้ามาสร้างเสริมบารมีในระยะเวลาเดียวกันโดยอาศัยร่างท่านมหาชวนหรือหลวงพ่อโอภาสีแห่งอาศรมบางมดท่านเป็นภิกษุทรงศีลเมื่อมีผู้ซักถามท่านก็บอกตามตรงว่าพระมหาชวนได้ตายไปแล้วอาตมาเป็นพระสำเร็จมาอาศัยร่างสร้างบารมีต่อ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 08:59:00 am
วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร

จะเป็นภาพถ่ายหรือรูปหล่อของหลวงปู่ท่าน หรือพระพิมพ์ที่หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานจิตไว้ย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น หลวงปู่ท่านโปรดผู้ประพฤติอยู่ในศีลธรรม ชอบอาหารมังสะวิรัติ ชอบฟังคำสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ชอบบูชาด้วยดอกมะลิสด น้ำฝน 1 แก้ว เทียนหนักหนึ่งบาท 1 คู่ ธูปหอม 5 ดอก (คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้าหรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปานหรือหลวงพ่อโอภาสี วัดโอภาสี บางมด) ) การปฏิบัติธรรมสังวรณ์ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ประกอบด้วยศีล 5 เป็นอย่างน้อย ย่อมเป็นสิ่งพึงพอใจของหลวงปู่และทั้งยังให้ความสุชความเจริญทั้งคดีโลกและคดีธรรมแก่ผู้ปฏิบัติ

สำหรับพิมพ์อรหันต์ พิมพ์ปิดตา และพิมพ์มหากัจจายนะซึ่งเป็นองค์เดียวกันแต่ปางต่างกันหากจะอาราธนาอย่างพิศดารก็ย่อมกระทำได้ กล่าวคือพิมพ์อรหันต์ใหญ่ พิมพ์อรหันต์กลางและพิมพ์อรหันต์น้อย อยู่ในหมวดพระมหากัจจายนะรูปงามซึ่งเป็นรูปเดิมก่อนการอธิษฐานวรกายให้ต่อท้ายด้วยคาถาดังนี้

พิมพ์อรหันต์
อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม
(เชยยะ อ่านว่า ไชยะ ; รูปะวะระ แปลว่า รูปงาม)
*** โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม ***

สำหรับสำหรับพิมพ์พระปิดตาซึ่งเป็นปางอธิษฐานวรกายให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วยพระคาถาต่อไปนี้
พิมพ์พระภควัมปติ(ปิดตา)
ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
*** โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***

สำหรับพิมพ์พุงพลุ้ยที่นิยมเรียกกันว่า พระสังกัจจายน์ คำนี้ไม่มีศัพท์นี้ในภาษาบาลี ที่ถูกต้องคือ พระมหากัจจายนะ เถระเจ้าอัน
เป็นปางหลังจากที่นิมิตวรกายแล้ว ให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วย พระคาถาต่อไปนี้
อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
***โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***
จะเห็นว่าตัดเอาคำว่า รูปะวะระออกไปเพราะสิ้นความงดงามแล้ว

พระพิมพ์ของคณะพระเทพโลกอุดรนั้นทุกรูปแบบทุกพิมพ์ทรงมีอานุภาพครอบจักรวาล อาราธนาทำน้ำมนต์ประสิทธิ์ยิ่งนัก โดยให้นำเอาพระแช่ในภาชนะที่บรรจุน้ำเรียบร้อยแล้ว บูชาด้วยดอกไม้ จุดธูปเทียน แล้วอธิษฐานตามความมุ่งหมาย เสร็จแล้วให้รีบนำพระขึ้นเช็ดน้ำด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด ผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปบรรจุตลับ องค์พระจะไม่ละลายลบเลือนและไม่ควรแช่ในน้ำนานเกินควร จงทะนุถนอมให้จงดี เพราะหาไม่ได้อีกแล้ว

สำหรับท่านที่มีพระอันเป็นทิพยสมบัติอันทรงคุณค่า โดยได้รับสืบทอดมาจากบรรพชนหรือได้รับจากทางใดทางหนึ่งก็ตาม เสมือนมีแก้วสารพัดนึกอยู่กับตัว ไม่จำเป็นต้องขวนขวายในอิทธิวัตถุอื่นอีก

วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร

คำบูชาบรมครูพระโลกอุดร
นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯลฯ ( 3 จบ )
โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อะภิญญาธะโร ปฎิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรา นุสาสะโก โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต อิฐะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ ปะระมะสาริกะธาตุ วะชิรัญจา ปิวานิตัง โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง เวเรนะ สุภาสิตัง โลกุตตะโร จะ มหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา มะหาเถรา นุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

บทสวด แบบย่อหรืออาราธนาพระพิมพ์ (ได้ทุกทรงพิมพ์)
โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
หรือภาวนา ๓ จบ , ๗ จบ , ๙ จบ (เช้า-เย็น ตื่นนอนและก่อนนอน)
โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ

หมายเหตุ : บทความที่นำมาเสนอนี้ได้รับการอนุญาตในการคัดลอกและเรียบเรียงเพื่อเผยแพรเป็นวิทยาทานจากท่าน อาจารย์ ประถม อาจสาครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นพระคุณและความกรุณาอย่างยิ่ง

ผมขอเสริมนะครับ ท่านสามารถอาราธนาเป็นภาษาไทย ได้นะครับ ถ้ายังจำบทสวดของท่านไม่ได้ครับ

ท่านที่ห้อยพระหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่ท่านเมตตาเสกให้นั้น หากมีความจำเป็นที่ต้องไปในสถานที่อโคจรทั้งหลาย ผมมีบทสวดที่ใช้ในการนี้มาฝากทุกท่านครับ

ก่อนที่จะเข้าไปในสถานที่อโคจรให้สวด อิติภะคะโว
กลับออกมาจากสถานที่อโคจรให้สวด โสภะคะวา

หรือก่อนที่จะเข้าไปในสถานที่อโคจรให้สวด อะระหัง
กลับออกมาจากสถานที่อโคจรให้สวด หังระอะ


สำหรับท่านที่ได้บูชาพระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร อธิษฐานจิตไว้ให้นั้น ผมขอเรียนชี้แจงให้ทราบกันนะครับว่า การวางพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลต่างๆ ต้องวางไว้ในที่เหมาะสม ควรใช้พวงมาลัยไว้พระพิมพ์ (เป็นการไหว้หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร และเทวดาผู้ที่รักษาพระพิมพ์) พวงมาลัยที่ใช้ไหว้นั้น ต้องเป็นพวงมาลัยที่มีดอกรัก ,ดอกมะลิ ,ดอกกุหลาบ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ห้ามใช้พวงมาลัยที่เป็นดอกดาวเรืองโดยเด็ดขาด ส่วนการวางพวงมาลัย ควรหาพานมาเพื่อใช้ในการวางพวงมาลัยครับ


หากท่านใดที่ได้ทำบุญไม่ว่าจะเป็นการทำบุญเรื่องอะไรก็ตาม ควรที่จะกรวดน้ำให้กับองค์ผู้อธิษฐานจิต(ผู้เสก) ,พระองค์ท่านผู้มีพระราชดำรัสหรือพระบัณฑูรให้สร้าง ,ผู้สร้าง(ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า,วังหลวง,วังหลัง,ช่างราษฎร์) ,เจ้าของเดิม และเทวดาประจำองค์พระพิมพ์ด้วยทุกๆครั้งนะครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:00:27 am

  :12:  ดีใจๆๆ คุณหนุ่มมาแล้ว..
อนุโมทนาบุญกับกองทุนหาพระถวายวัดด้วยนะคะ... :13:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:01:37 am
15-06-2009 04:21 PM

เมื่อวานนี้(วันอาทิตย์ที่ ๑๔ มิ.ย.) ก็ได้ประชุมจัดตั้งชมรม"รักษ์พระวังหน้า" ไปเรียบร้อยแล้ว ก็อยากจะนำเรื่องราวของ"ชีวิต"มาให้ลองพิจารณา และหากมีความเชื่อถือในเรื่องราวของชีวิตที่กำลังจะเดินไปนี้ ก็นำไปปรับใช้กันให้เหมาะกับสถานการณ์..

ชมรมรักษ์พระวังหน้า ลงมติตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๔.๑๕ น. คะแนนเสียง ๑๑:๑๑ อาจารย์ปู่ประถมจึงลงความเห็นสุดท้ายว่าชื่อ"รักษ์พระวังหน้า"น่าจะเหมาะสมที่สุด

ตรวจดูจากปฏิทินโหราศาสตร์ที่จัดทำตามแนวทางของท่านอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ท่านว่าตรงกับเทวีแห่งฤกษ์ ดิถีราชาโชค ซึ่งเกณฑ์ราชาโชคนี้มีจนถึงเวลา ๑๕.๑๖ น.เท่านั้น ซึ่งการประชุมก็ไม่ได้ไปดูฤกษ์ยามมาก่อนแต่อย่างไร เป็นการสอบทานภายหลังว่าเป็นอย่างไรตามประสาความอยากรู้...

ตามหลักทักษาแล้วชื่อ"รักษ์พระวังหน้า"นี้มีตำแหน่งเป็น"มนตรี" หมายถึงความมีชื่อเสียง เกียรติ ความเจริญ...(ให้สภาวะในลักษณะนี้ไปในทางดี) หากเป็นชื่อ"พระวังหน้า"ตามหลักทักษาก็จะเป็น"อุตสาหะ" ก็จะเหนื่อยหน่อย เป็นเรื่องของการบำเพ็ญวิริยะบารมี...

มาว่ากันถึงช่วงชีวิตของ"รักษ์พระวังหน้า" และกำลังของดวงดาวที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะมีด้วยกัน ๘ ดวงที่มีอิทธิพลอย่างมากตามช่วงอายุซึ่งผมคิดว่า การรู้เท่าทันการณ์บางอย่างข้างหน้า ก็จะทำให้การจัดการปัญหาข้างหน้าเป็นไปอย่างรู้เท่าทัน อีกทั้งเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมจริงๆ ไม่ใช่เพื่อส่วนตัวนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ มีอุปสรรคเกิดขึ้น ก็จะได้ละวางอารมณ์ กิเลสทางกาย วาจา และใจได้อย่างทันการณ์ เมื่อพิจารณาตามกำลังดาวที่เข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว หากนำจุดเด่น และจุดด้อยของกำลังดาวนี้เป็นแนวทางก็จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมาก
:::เพชร:::
พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

หน้าที่ 1566 กระทู้พระวังหน้า




.


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:03:49 am
ชมรมรักษ์พระวังหน้า

ผมยืนยันว่า ชมรมนี้ สมัครได้ยาก เมื่อสมัครแล้วก็ยากกว่าอีก

การตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน เป็นสิ่งที่ผมคิดไว้ในการที่จะคัดกรองท่านที่มีความศรัทธาในคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณ-อุตร) ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5 ต้องมีความศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม , มีความมุ่งมั่น , ความอดทน , ความเพียร ,ความพยายาม และ ฯลฯ

กว่าจะสมัคร ก็สมัครได้ยาก สมัครแล้วต้องรักษาการตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ยิ่งยากกว่า เนื่องจากหากสมัครมาเพื่อต้องการพระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลแต่เพียงอย่างเดียว ผมจะบอกว่า ท่านที่สมัครมาในลักษณะนี้ได้พระพิมพ์และวัตถุมงคลไปได้แน่นอน แต่ผลที่จะติดตามมาในอนาคตก็คือ การปฎิบัติธรรม เมื่อท่านตั้งใจจะปฎิบัติธรรมเพื่อจุดมุ่งหมายคือพระนิพพานเมื่อไหร่ ท่านปฎิบัติธรรมมาได้ระยะหนึ่ง ท่านทำได้แค่ไหน ท่านปฎิบัติได้แค่ไหน ท่านก็จะอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน เนื่องจากการทึ่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ ฯลฯ กว่าจะตามไปแก้ไข โอ้ ไม่อยากคิดเลย

ผมเองก็บอกมาหลายครั้งมากแล้วว่า กว่าที่ผมจะมาได้พบ ได้เห็น ได้รู้จักพระวังหน้า ก็เป็นระยะเวลาเป็น 10 ปี เสียเงินไปมากมาย
แล้วท่านมีโอกาสดีกว่าผมมากนัก ไม่ต้องเสียเวลา(ซึ่งไม่รู้ว่า หาแล้วจะได้พบ ได้เห็น หรือไม่) ไม่ต้องเสียเงิน(ก็หลายแสนอยู่)

คงบอกเพียงเท่านี้ครับ ลองอ่านดูในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ดูนะครับ

โมทนาสาธุครับ

พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

มาย้ำครับ

ต้องมีความศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม , มีความมุ่งมั่น , ความอดทน , ความเพียร ,ความพยายาม และ ฯลฯ ในเรื่ององค์ความรู้ของท่านอาจารย์ประถม เรื่องคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณ-อุตร) ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5 และ พระวังหน้า ครับ

หมายเหตุ หลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5 คือ กลุ่มหลวงปู่ที่ท่านอยู่ที่ชั้นสุทธาวาส ซึ่งท่านสามารถตัดเข้าสู่พระนิพพานได้ตลอดเวลา แต่หลวงปู่ท่านยังไม่ไป เนื่องจากสาเหตุส่วนหนึ่งเพราะหลวงปู่ท่านยังห่วงลูกหลานของท่านอยู่

หลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5 คือ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว , หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้น
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:06:20 am
ผลการประชุมชมรมรักษ์พระวังหน้า

การประชุมในวันนี้ เรื่องสำคัญเป็นเรื่องการคัดเลือกประธานชมรม ,รองประธานชมรม 2 ท่าน ,เลขานุการ และเหรัญญิก

มาแจ้งให้สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมได้ทราบว่า การคัดเลือกโดยการโหวตของสมาชิก สรุปออกมาก็คือ

ประธานชมรมรักษ์พระวังหน้า
พี่ปกรณ์

รองประธานชมรมรักษ์พระวังหน้า
คุณเพชร
คุณnongnooo

เลขานุการและเหรัญญิกชมรมรักษ์พระวังหน้า
คุณsithiphong

วันนี้เป็นวันที่หลายๆท่าน ที่ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นกันมาก่อน ได้มาพบปะ เจอะเจอกัน แต่ละท่าน ดูแล้วเป็นกันเองอย่างมาก ผมว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสุขมากวันนึง

สำหรับพระพิมพ์ที่ผมได้มอบให้และพี่ท่านนึงได้มอบให้ชมรมรักษ์พระวังหน้าและผมได้นำมามอบให้กับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า ท่านได้ตัวอย่างไปแล้ว ก็ลองนำไปพิจารณาดู ให้ดูตามที่ผมแนะนำนะครับ อีกประการหนึ่ง เมื่อดูพระพิมพ์ต่างๆ ก็ให้นึกเป็นพุทธานุสติด้วย ได้สองชั้นนะครับ

โมทนาสาธุครับ

http://board.palungjit.com/f179/พம.ml#post2274616

หน้าที่ 1607
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:08:28 am
กองทุนหาพระถวายวัด
การที่จะอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ไปถวายตามวัดต่างๆนั้น ต้องใช้หลักการในการพิจารณาเบื้องต้น คือ

การต้องไปแจ้งความประสงค์กับเจ้าอาวาสวัดนั้นๆก่อน

ต่อมาก็คือ

1.ต้องดูว่า วัดที่เราจะไปถวายนั้น ต้องมีที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ที่เหมาะ ที่สมควร

2.พระภิกษุหรือวัดที่เราจะไปถวาย พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ต้องไม่มีการปรามาสโดยเด็ดขาด

3.ท่านผู้ที่ถวาย จะเป็นตัวแทนของคณะกองทุนหาพระถวายวัด ในการถวาย พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ

4.ท่านผู้ที่ถวาย ต้องบอกรายละเอียดเบื้องต้นของ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ได้

การถวายพระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ จะมีอยู่ 2 กรณีก็คือ

1.การถวายเพื่อบรรจุตามพระเจดีย์ หรือ ฐานพระพุทธรูป หรืออื่นๆ
2.การถวายพระภิกษุ เพื่อไว้มอบให้กับผู้ที่ไปทำบุญที่วัดนั้นๆ หรือเป็นการแจกฟรีกับผู้ที่ไปทำบุญที่วัดนั้นๆ การถวายในข้อนี้ ควรมีเอกสาร(พิมพ์รายละเอียดของของพระพิมพ์ที่จะถวายด้วย)

สิ่งต่างๆที่ผมได้บอกไปนั้น เพื่อป้องกันในการที่เราจะไปสร้างกรรมให้กับพระภิกษุ ที่อยู่ที่วัดนั้นๆ กรรมที่พระภิกษุกระทำ จะมากกว่ากรรมที่บุคคลธรรมดากระทำ มากกว่าเยอะเลย

โมทนาสาธุครับ
http://board.palungjit.com/f179/พ�...2445-1875.html

http://board.palungjit.com/groups/กองทุนหาพระถวายวัด-1513.html

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:10:51 am
เรียนท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และสมาชิกคณะพระวังหน้าทุกๆท่าน

หากท่านใดที่ได้เป็นตัวแทนของคณะ ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระธาตุพระอรหันต์ ไปถวายตามวัดต่างๆ หากท่านเจ้าอาวาสบอกว่า พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ ที่อัญเชิญไปถวายนั้น ไม่แท้ หรือ ไม่ใช่ของจริง หรือ ดูแล้วไม่น่าจะใช่ หรือคำพูดทำนองนี้

ขอให้ท่านอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระธาตุพระอรหันต์ กลับมา ไม่ต้องถวาย เนื่องจากเราไม่ต้องการที่จะให้พระสงฆ์ไปปรามาส ซึ่งทำให้เกิดกรรมหนักครับ

อีกประการคือ เราสามารถที่จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ พระธาตุพระอรหันต์ ไปถวายที่วัดอื่นๆอีกมาก

อย่าลืมนะครับ ทำในทุกๆเรื่อง ต้องมีสติ และใช้สติปัญญาทางพุทธที่พระพุทธองค์ทรงสอนมาให้เกิดประโยชน์กับตนเอง และหมู่คณะ

สิ่งที่ผ่านมา จะเป็นบทเรียนให้เราเดินไป เราต้องมีฐาน เหมือนกับเราจะปลูกบ้าน ก็ต้องมีการลงเสาเข็ม เฉกเช่นเดียวกัน ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เราต้องปรับปรุงและแก้ไขตนเองให้ดียิ่งๆขึ้นไปครับ

โมทนาสาธุครับ http://board.palungjit.com/f179/พம.2445-1927.html


หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

หมายเหตุ 1 พระวังหน้า ที่ผมนำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ และผมได้บอกบุญในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

แต่หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

ซึ่งเรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:12:19 am
เรียนท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน

ผมเองมีแนวคิดมาหลายวันแล้วว่า ปัจจุบันนี้ มีคนชั่วขโมยพระพุทธรูป ออกมาจากวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนชั่วเหล่านี้ ไม่ได้เกรงกลัวบาปกรรม และ กฎหมายกันเลย

ผมก็เลยคิดว่า จะหาพระพุทธรูป คืนกลับสู่วัด โดยอาจจะเป็นพระพุทธรูปใหม่ๆ นำไปถวายตามวัดต่างๆ ที่ผม และคณะ จะเห็นสมควร แต่จะไม่เป็นพระพุทธรูปเก่า เนื่องจากจะเป็นการไปส่งเสริมให้คนชั่ว ขโมยออกจากวัดอีก

นอกจากพระพุทธรูปแล้ว ผมยังคิดว่า จะหาพระวังหน้า ไปถวายพระภิกษุผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ซึ่งก็แล้วแต่ท่านจะนำไปทำอะไร (เช่น การแจก , การบรรจุในพระเจดีย์ต่างๆ , การบรรจุไว้ใต้ฐานพระพุทธรูป เป็นต้น)

อาจจะรวมทั้งการไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ หรือ พระธาตุ ไปถวายตามวัดต่างๆด้วย

ผมก็เลยคิดจะทำกองทุนขึ้นมาสักกองหนึ่ง บัญชีที่ใช้อาจจะเป็นบัญชีของผม หรือ เป็นบัญชีที่ใช้ชื่อร่วมกันสองท่าน หรือ มากกว่านั้น

ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า มีความเห็นอย่างไรบ้างสำหรับกองทุนนี้ และ เรื่องของบัญชีที่ใช้ในการเข้าเงินร่วมทำบุญครับ
http://board.palungjit.com/f179/เ�...ml#post2938272


http://board.palungjit.com/groups/กองทุนหาพระถวายวัด-1513.html

.

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:16:35 am
ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:20:26 am
 31-07-2010, 09:46 PM
โพสโดย psombat


สวัสดีครับ

วันนี้ถือว่าเป็นที่โชคดีของผมกับคณะที่ได้มีโอกาสถวาย...
1. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกกุสันโธ
2. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกัสสะโป
3. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามสมณะโคดม
4. พระพิมพ์วังหน้า TOP1,...4
5. ปัจจัย
แด่...หลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เวลาราว 12:43 พอถวายเสร็จในเสี้ยววินาที (43) เห็นท่านหลับตานิ่งซักพักหนึ่งครับ (ตามรูป)

โมทนาสาธุร่วมกันครับ


ลืมบอกว่าระหว่างการรอถวายก็ได้มีญาติโยม-พระ ห้ามว่า... อย่าถวายท่านเลย เพราะเป็นวัตถุมงคลและแม้จักถวายท่านก็ไม่เก็บไว้หรอก พร้อมทั้งระบุเวลาที่ท่านจะออกมาก็บ่ายๆ 2-3 หรือเย็นนู่น(ผมไปถึงวัด ~11:00) บางคนก็บอกว่าท่านไม่อยู่ออกไปข้างนอก พอถามว่าไปไหนก็ตอบไม่ได้ เหมือนไม่อยากให้เราถวายจริงๆ ซึ่งในเรื่องนี้ผมเองก็เคยได้ยินมาบ่อยๆ แต่ด้วยความตั้งใจอยากมาถวายท่านจริงๆอะไรจะเกิดก็ไม่กลัวแล้ว พร้อมทั้งอธิบายให้เข้าใจเจตนาทุกคนก็ได้ชี้แนะให้ไปรอท่านที่ไหน

และที่สำคัญงานนี้ผมได้รับแจกพระที่เป็นมวลสารของหลวงตามหาบัว ประกอบด้วย ชานหมาก ข้าวก้นบาตรและเกศาครูบาอาจารย์มาอีกด้วย เมื่อพิจารณาดูดีๆกลับมีพระธาตุสีสันเหมือนเพชรปรากฏอยู่จำนวนมาก (ตามรูป ไม่กล้าเอาออกมาถ่ายข้างนอก เกรงว่าจะหายหรือหลุดไป) ทั้งนี้ก็ได้ขอดูพระจากคนอื่นๆก็เป็นพิมพ์อื่นและเห็นมีน้อยมาก ปีติและปลื้มใจจริงๆครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1069413&d=1280586937)
.

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-1963.html
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 09:22:10 am
เมื่อวานนี้ ผมและคุณNatachai เป็นตัวแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด ได้อัญเชิญและถวาย

1.พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ
2.พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน
3.พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กัสสปะ
4.พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม
5.พระธาตุ พระอรหันต์ พระนาม อัญญาโกณฑัญญะ
6.พระธาตุ พระอรหันต์ พระนาม พระราหุล
7.พระธาตุ พระอรหันต์ พระนาม พระอุบาลี
8.พระธาตุ พระอรหันต์ พระนาม พระอานนท์

ไปถวายเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ (กรุงเทพมหานคร)

มาโมทนาบุญกับกองทุนหาพระถวายวัดกันครับ

มาประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม

วัดบางบำหรุ กำลังมีการซ่อมแซมพระอุโบสถ ซึ่งต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมาก ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกๆท่าน ไปร่วมทำบุญกันที่วัดนะครับ

โมทนาบุญทุกประการ

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-1963.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2010, 02:53:36 pm
เนื่องด้วยคุณพุทธันดร ได้มาหาผมที่ทำงาน และฝากเงินไว้กับผม บอกผมว่า ให้ร่วมทำบุญกับผม แล้วแต่ผมจะนำไปทำบุญอะไรก็สุดแล้วแต่ผม
และน้องพรสว่าง_2008 ได้โทร.มาหาผมเมื่อคืนนี้ แจ้งว่า มีความประสงค์จะร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร และ กองทุนหาพระถวายวัด

วันนี้ ผมได้ดำเนินการโอนเงินร่วมทำบุญ ของคุณพุทธันดร และคุณพรสว่าง_2008 ดังนี้

คุณพุทธันดร
1.ร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร
2.ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
3.ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พระองค์ (ในทุกๆเรื่อง) ที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง
4.ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด

คุณพรสว่าง_2008
1.ร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร
2.ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด

มาโมทนาบุญกับคุณพุทธันดร และคุณพรสว่าง_2008กันครับ

โมทนาบุญทุกประการ

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-1963.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 03, 2010, 05:07:55 pm
โมทนาสาธุครับ  :46:

(psombat)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 03, 2010, 05:49:37 pm
โมทนาสาธุครับ  :46:

(psombat)

ยินดีต้อนรับสู่ เว็บใต้ร่มธรรม ครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ สิงหาคม 03, 2010, 11:41:37 pm
55 ทัพหน้า(ชมรมพระวังหน้า)มาแล้ว จะรับไหวไหมนะ ศึกหนักครั้งนี้ อโยธยาใต้ร่มธรรม คงต้องเตรียมการศึกครั้งใหญ่กว่าทุกครั้งเป็นแน่แท้..

 :13:อนุโมทนาสาธุครับพี่หนุ่ม
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: กระตุกหางแมว ที่ สิงหาคม 03, 2010, 11:44:51 pm
เว็ปใต้ร่มธรรมเริ่มเป็นที่โจษจันท์แย้ว
กูรูเริ่มทยอยหลั่งไหลกันเข้ามาที่นี่ :02:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 04, 2010, 10:41:25 pm
ยินดีต้อนรับ คุณ NATACHAI , คุณtawatd และคุณส. เพ็งพล  สู่เว็บใต้ร่มธรรมครับ


.

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: nongnooo ที่ สิงหาคม 05, 2010, 09:13:24 pm
สวัสดีครับ มาทักทายและ โมทนา บุญด้วยประการทั้งปวงครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 05, 2010, 09:36:23 pm
สวัสดีครับ มาทักทายและ โมทนา บุญด้วยประการทั้งปวงครับ

ยินดีต้อนรับ กูรู สู่เว็บใต้ร่มธรรมครับ

 :47:
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 06, 2010, 09:34:35 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=289000&d=1204627154)

ธาตุ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้

รูปนี้ ผมขอสงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำรูปนี้ไปทำประโยชน์เพื่อการพาณิชย์หรือเพื่อการอื่นๆ ไม่ว่าทั้งทางตรง และทางอ้อมโดยเด็ดขาด

ธาตุองค์นี้ อยู่ที่บ้านผม
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 10:16:31 am
สำหรับรูปเต็มๆ ของพระกริ่งปวเรศ รุ่นปี 2434

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=760098&d=1258252950)

ผมสงวนลิขสิทธิ์ ครับ

ตามที่เคยบอกไว้  จะนำมาลงในเว็บใต้ร่มธรรม 

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 11:03:50 am
พระกริ่งปวเรศ เนื้อทองคำ

รุ่น  ปี พ.ศ. 2434

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079311&d=1281154379)

sithiphong สงวนลิขสิทธิ์
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 11:05:49 am
ผลของการสแกน เนื้อของพระกริ่ง


g คือ ทองคำ
s คือ เงิน
c คือ ทองแดง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079310&d=1281154379)

sithiphong สงวนลิขสิทธิ์


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 11:22:09 am
ผลของการสแกน เนื้อของพระกริ่ง


g คือ ทองคำ
s คือ เงิน
c คือ ทองแดง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079310&d=1281154379)

sithiphong สงวนลิขสิทธิ์


.

หมายเหตุ

สำหรับพระกริ่งปวเรศ ทั้ง 4 องค์นี้  ผมไม่ได้ให้ทางครูบาอาจารย์ผมตรวจสอบ เนื่องจากครูบาอาจารย์ผม ไม่ค่อยสบาย  ไม่สามารถตรวจสอบพลังอิทธิคุณได้ 

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 11:24:13 am
นี่คือ แผ่นทองคำ  ที่เขียนอธิบายพิมพ์ของพระวังหน้า 

ซึ่งมีอยู่หลายแผ่นมาก 

ผมนำมาลงให้ชมเป็นตัวอย่างครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=344178&d=1213982322)


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 11:39:04 am
พระสมเด็จ (เนื้อทองคำ)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079370&d=1281156592)


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 12:07:25 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079407&d=1281158273)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:25:12 pm
รูปถวายพระอุปคุตและพระศรีอริยเมตตรัย ณ วัดอุปคุต จ.เชียงใหม่ วันที่ 2 เม.ย. 53
รูปถวายพระเครื่องวังหน้าและแผ่นหยกวัดท่อใหญ่(วางศิลาฤกษ์วิหารหลวงปู่โต+หล่อรอยพระพุทธบาท)

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-1966.html


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:25:39 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079959&d=1281187376)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:26:11 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079960&d=1281187376)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:26:36 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079951&d=1281187357)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:27:08 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079953&d=1281187357)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:27:43 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079952&d=1281187357)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:28:09 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079955&d=1281187357)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:28:55 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079956&d=1281187357)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:29:29 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079958&d=1281187357)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แปดคิว ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:34:54 pm
 :45: :45: :45:อนุโมทนาสาธุ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แปดคิว ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:39:42 pm

คุณหนุ่มอยู่ตรงไหนชิ้ชัดเลยครับ :06:



(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1069413&d=1280586937)


หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:47:03 pm

คุณหนุ่มอยู่ตรงไหนชิ้ชัดเลยครับ :06:



(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1069413&d=1280586937)

ผมไม่ได้ไปครับ

น้อง ส.เพ็งผล เป็นผู้ถวายแทน คณะกองทุนหาพระถวายวัดครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แปดคิว ที่ สิงหาคม 07, 2010, 08:52:43 pm
 :47: :47: :46:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 08, 2010, 09:44:57 pm
วันนี้ คุณNatachai และผม ได้เป็นตัวแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด อัญเชิญพระบูชา หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ปางภัตตกิจ หน้าตัก 9" และพระพิมพ์ของวังหน้า จำนวน 1,000 องค์ ไปถวายท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ

ท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ ได้ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด จำนวน 30,000 บาท

มาโมทนาบุญกับท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ และคณะกองทุนหาพระถวายวัดกันครับ

ผมได้นำรูปของพระอุโบสถ ที่กำลังบูรณะ มาฝากทุกๆท่าน และขอเชิญชวนทุกๆท่าน ไปร่วมทำบุญบูรณะพระอุโบสถกันครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1081741&d=1281278583)
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 08, 2010, 09:45:28 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1081738&d=1281278583)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 08, 2010, 09:45:54 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1081739&d=1281278583)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 08, 2010, 09:46:16 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1081740&d=1281278583)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 08, 2010, 11:36:35 pm
08:55 PM   
ปฐม

 ขอรบกวนครับผม

สวัสดีครับคุณsithiphong พอดีผมได้มาอ่านเจอกระทู้ นี้เข้าครับผม ผมมีความเคารพหลวงปู่เทพโลกอุดรกับสมเด็จโตและหลวงปู่ทวดมากครับ ผมอยากจะทราบจิงๆครับว่าถ้าผมอยากจะรบกวนขอแบ่งบูชาพระสมเด็จวังหน้าสักองค์ไว้เลี่ยมคล้องคอไว้เป็นมงคลสูงสุด ในชีวิตพอจะได้ไหมครับ เพราะผมอยู่ทางใต้พระสมเด็จไม่ค่อยจะมีและตัวผมเองไม่ค่อยจะมีความรู้ด้านดูพระเครื่องครับผม รบกวนช่วยบอกด้วยนะครับผม ถ้าเป็นการรบกวนก็ขออภัยด้วยนะครับเพราะผมเพิ่งมาอ่านเจอจิงๆครับ


 


-------------------------------------------------------------------

ผมให้ร่วมทำบุญ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ จำนวน 1,000 บาท

ผมจะจัดส่งพระสมเด็จ ที่หลวงปู่อิเกสาโร และ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตไปให้

หรือ

หากจะรับฟรี ผมมีเงื่อนไข โดยต้องตั้งจิต ตั้งสัจจะ บนเว็บครับ

ผมให้ได้ครับ แต่ต้องมีข้อแม้ 4 ข้อคือ
1.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน ประเทศไทย ตลอดชีวิต
2.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน ศาสนาพุทธ ตลอดชีวิต
3.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน สถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดชีวิต
4.ห้อยพระที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) อธิษฐานจิต องค์ที่ผมได้ให้คุณปฐมทุกวันและตลอดชีวิต ยกเว้นแต่ไม่สบาย ต้องนอนโรงพยาบาล หรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถห้อยได้เท่านั้น

ผมขอให้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานตามนี้ครับ

"ข้าพเจ้า บุคคลที่ใช้ชื่อในเว็บพลังจิตว่า ปฐม ขอตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานด้วยกาย วาจา ใจ ต่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ , พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,เทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า ,คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะพระธรรมทูต คณะโสณะ-อุตระ) ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี , หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ และพยามัจจุราชเจ้า ว่า
ข้าพเจ้าขอรับพระที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรมหรังสี อธิษฐานจิต ไปเพื่อสักการะบูชา ,ขอห้อยทุกวันตลอดชีวิต ยกเว้นแต่ไม่สบาย ต้องนอนโรงพยาบาล หรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถห้อยได้เท่านั้น
และทำตามข้อแม้อีก 3 ข้อคือ
1.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน ประเทศไทย ตลอดชีวิต
2.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน ศาสนาพุทธ ตลอดชีวิต
3.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน สถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดชีวิต

หากข้าพเจ้าทำได้ตามที่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จทุกๆประการ แต่หากข้าพเจ้าทำไม่ได้ตามที่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบแต่ความทุกข์ ความเสื่อม ความล้มเหลวทุกๆประการ และขอให้มีผลโดยเร็วฉับพลันและตลอดไป

ข้าพเจ้า ได้อ่านและเข้าใจข้อความของการตั้งจิตตั้งสัจจะและสาบานนี้โดยตลอดแล้ว และถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้อ่านและหรือไม่เข้าใจข้อความของการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานนี้ แต่หากว่าข้าพเจ้าได้นำข้อความการตั้งจิตตั้งสัจจะและสาบานนี้ ลงในเว็บพลังจิต ให้ถือว่าข้าพเจ้าได้เข้าใจทั้งหมดแล้วอีกทั้งยินดีในการปฎิบัติตามการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบาน และนำข้อความการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานนี้ ลงในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....เว็บพลังจิต ในการขอรับพระวังหน้าที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์อธิษฐานจิต และยินดีในการปฎิบัติตามการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานนี้ และการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานนี้ มีผลในคำตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานต่อข้าพเจ้าตลอดกาล"

ผมขอให้คัดลอกข้อความในเครื่องหมาย "..." ด้านบน แล้วนำมาโพสลงในกระทู้พระวังหน้านี้ เมื่อโพสแล้วผมจะจัดส่งพระที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ)และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต จำนวน 1 องค์ให้ครับ

ถามว่า ทำไมถึงต้องให้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน
ตอบว่า ผมเองประสบกับเรื่องราวต่างๆมาอย่างมากมาย ในกระทู้พระวังหน้าฯ จึงต้องคัดเลือกการรับพระโดยต้องมีศรัทธา ,ความเชื่อ และอื่นๆ อย่างเต็มร้อย ผมจึงจะมอบให้ครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 08, 2010, 11:37:29 pm
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม 
พรุ่งนี้กระผมจะโอนเงินร่วมบุญครับคุณอา โอนแล้วจะแจ้งในกระทู้นี้นะครับคุณอาขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง 
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 08, 2010, 11:38:48 pm
ข้อความส่วนตัว: Re: ขอถามก่อนตั้งสัจจะครับ 
10:22 PM   
ปฐม

 Re: ขอถามก่อนตั้งสัจจะครับ

ขอขอบพระคุณครับคุณอาที่ทำเพื่อชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้ออื่นผมไม่กลัวเลยครับคุณอา แต่ผมกลัวจะเผลอใส่ผิดไปเพราะผมมีพระเยอะครับคุณอา ผมอาจจะเสียสัตย์ได้แม้ครั้งเดียวก็ถือว่าผิดครับคุณอา ผมเลยขอร่วมบุญครับคุณอา ขอขอบพระคุณในน้ำใจที่มีให้นะครับคุณอาแม้ไม่เคยรู้จักกันครับผม ผมโอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับผม ถึงแม้ว่าผมอยากจะบูชาพระวังหน้าก็ไม่เป็นไรครับอา
 

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-1967.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 09, 2010, 09:46:55 am
นี่คือ แผ่นทองคำ  ที่เขียนอธิบายพิมพ์ของพระวังหน้า 

ซึ่งมีอยู่หลายแผ่นมาก 

ผมนำมาลงให้ชมเป็นตัวอย่างครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=344178&d=1213982322)


.
พระแก้วมณีโชติ (บรรทัดแรก) ไม่เห็นพี่พูดถึงเลยครับ พอจะขยายความให้น้องๆบ้างมั๊ยครับ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 09, 2010, 10:42:54 am
นี่คือ แผ่นทองคำ  ที่เขียนอธิบายพิมพ์ของพระวังหน้า 

ซึ่งมีอยู่หลายแผ่นมาก 

ผมนำมาลงให้ชมเป็นตัวอย่างครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=344178&d=1213982322)


.
พระแก้วมณีโชติ (บรรทัดแรก) ไม่เห็นพี่พูดถึงเลยครับ พอจะขยายความให้น้องๆบ้างมั๊ยครับ
ขอบคุณครับ

สำหรับพระแก้วมณีโชติ  น่าจะเป็นพระที่คล้ายๆกับพระหินสี หรือ เนื้อน้ำประสานครับ

น่าจะเป็นอย่างนั้น 

เพราะองค์จริงตามรูป พี่เองยังไม่เคยเห็นเลยเช่นกัน

สิ่งที่เรายังไม่รู้  ยังมีอีกมากครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 09, 2010, 12:00:01 pm
ขอบคุณครับ
บังเอิญไปอ่านเจอใน "http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=prasomdej&id=2865"

เขาบอกว่า "... พระแก้วมณีโชติ
ท้าวมหาพรหมสร้าง , สีม่วง: มหาโชค มหาลาภ มหาเศรษฐี, สีหลือง: เสริมบารมี, สีแดง: มหาอุตม์ปืนแตก, ประกายเงิน: มหาเศรษฐี พระมหาทรัพย์ พลังดีเยี่ยม เสริมดวง

" ก็พอดีกับพี่ post แผ่นทองจารึกด้วย :)  
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 09, 2010, 03:56:23 pm
วันนี้ คุณNatachai และผม ได้เป็นตัวแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด อัญเชิญพระบูชา หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ปางภัตตกิจ หน้าตัก 9" และพระพิมพ์ของวังหน้า จำนวน 1,000 องค์ ไปถวายท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ

ท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ ได้ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด จำนวน 30,000 บาท

มาโมทนาบุญกับท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ และคณะกองทุนหาพระถวายวัดกันครับ

ผมได้นำรูปของพระอุโบสถ ที่กำลังบูรณะ มาฝากทุกๆท่าน และขอเชิญชวนทุกๆท่าน ไปร่วมทำบุญบูรณะพระอุโบสถกันครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1081741&d=1281278583)
.

โมทนาสาธุครับ   :32: รูปอะไรครับเนี่ย ?
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 09, 2010, 05:51:14 pm
ขอบคุณครับ
บังเอิญไปอ่านเจอใน "http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=prasomdej&id=2865"

เขาบอกว่า "... พระแก้วมณีโชติ
ท้าวมหาพรหมสร้าง , สีม่วง: มหาโชค มหาลาภ มหาเศรษฐี, สีหลือง: เสริมบารมี, สีแดง: มหาอุตม์ปืนแตก, ประกายเงิน: มหาเศรษฐี พระมหาทรัพย์ พลังดีเยี่ยม เสริมดวง

" ก็พอดีกับพี่ post แผ่นทองจารึกด้วย :)

ที่ว่า  สี  จะเป็นเรื่องของ  ออร่า ครับ



.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 09, 2010, 06:21:39 pm
วันนี้ คุณNatachai และผม ได้เป็นตัวแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด อัญเชิญพระบูชา หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ปางภัตตกิจ หน้าตัก 9" และพระพิมพ์ของวังหน้า จำนวน 1,000 องค์ ไปถวายท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ

ท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ ได้ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด จำนวน 30,000 บาท

มาโมทนาบุญกับท่านเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ และคณะกองทุนหาพระถวายวัดกันครับ

ผมได้นำรูปของพระอุโบสถ ที่กำลังบูรณะ มาฝากทุกๆท่าน และขอเชิญชวนทุกๆท่าน ไปร่วมทำบุญบูรณะพระอุโบสถกันครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1081741&d=1281278583)
.

โมทนาสาธุครับ   :32: รูปอะไรครับเนี่ย ?

รูป พระเทพฯท่านเสด็จไปที่วัดบางบำหรุ ครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 09, 2010, 06:38:02 pm
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sittiporn.s 
ตอบใน G-MAILแล้วนะครับพร้อมทั้ง CC. คุณสมบัติกันพลาดไว้อีกคน

----------------------------

ขอบคุณครับพี่สิทธิพร
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 09, 2010, 06:41:03 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079407&d=1281158273)

ขอบคุณครับพี่สิทธิพร


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 09, 2010, 07:04:32 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1079407&d=1281158273)

ขอบคุณครับพี่สิทธิพร


.

สำหรับการแจ้งกลับมาของพี่สิทธิพร

เป็นการแจ้งว่า  ใช่หรือไม่ใช่

ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งบนบอร์ดครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 09, 2010, 10:15:48 pm
sithiphong, nongnooo และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้


สวัสดีครับท่านกูรูnongnooo
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 11, 2010, 04:36:24 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1086152&stc=1&d=1281519069)
สวัสดีวันแม่แห่งชาติล่วงหน้า 1 วัน

ขอคุณแม่ของทุกๆคน มีสุขภาพ พลานามัย แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญแด่ลูกๆทุกคนครับ

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 12, 2010, 09:58:38 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1064831&stc=1&thumb=1&d=1280369153)

องค์ที่ 1

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 12, 2010, 09:59:14 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1064830&stc=1&thumb=1&d=1280369153)

องค์ที่ 2
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 13, 2010, 08:36:14 am
มีข้อมูลใหม่จากช่างทองในเรื่องของพระสมเด็จทองคำ หรือพระที่บุด้วยทองคำ
เนื้อพระเป็นทอง ต้องผิวตึง เรียบ ไม่มีรูพลุน (มองด้วยตาเปล่า)
หากบุด้วยทอง(อย่างหนา) ทองคำต้องเป็นเนื้อเกือบบริสุทธิ์ คือมีความอ่อน ไม่งั้นบุไม่สวยครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 15, 2010, 08:48:33 pm
วันนี้  ผมไปที่บ้านท่านอาจารย์ประถม  ได้นำพระวังหน้า ของพี่เปี๊ยก  ไปให้กับพี่เปี๊ยก 

ผมนัดกับพี่เปี๊ยกและคุณNatachai ไปเจอกัน  และไปนั่งแยกพิมพ์พระวังหน้า  พอตอนบ่ายนั่งแยกพิมพ์เรียบร้อย  ถึงเวลาที่จะนำพระวังหน้าของพี่เปี๊ยก  นำไปให้ชมกัน  ได้นั่งอธิบายเรื่องพระวังหน้าให้กับหลายๆท่าน(สองในหลายๆท่าน  มี Dr.อยู่ 2 ท่าน)  ฟังกัน

ได้เห็นพระวังหน้า  หลากรุ่นหลายพิมพ์  อีกทั้ง ชุดหยก ที่เป็นขนาดบูชา และ ห้อยคอ 

ทั้ง พระพุทธ , พระสังกัจจายน์ , พระแม่กวนอิม , องค์กวนกง(กวนอู) , ฮก ลก ซิ่ว  (ขนาดบูชาทั้งหมด)

เห็นกันก็ตะลึงกันไป

อ่า  ท่าน Dr.ครับ  ตกลงที่เห็นในวันนี้  ดีป่าวครับ  แรงป่าวครับ  อิอิ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 15, 2010, 08:54:09 pm
ในวันงานล้างพระ ของกองทุนหาพระถวายวัด ในวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2553 ที่่จะถึงนี้  ว่าจะนำพระวังหน้าไม่น้อยกว่า 4-5000 องค์  ไปล้างกัน  เพืิ่อไว้ถวายวัด หรือ รอไว้บรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆ

ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า  ไปร่วมงานบุญกันครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 15, 2010, 08:54:58 pm
sithiphong, ส. เพ็งพล และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้


สวัสดีครับ

.


หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 16, 2010, 08:54:31 am
สวัสดี...เช้าวันจันทร์ครับ  :32:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 16, 2010, 01:48:05 pm
ผมได้รับ Email จากน้องพัชมา นำมาบอกบุญกันให้ทราบ

"ขอเชิญร่วมทำบุญถวายปัจจัย เป็นค่าภัตตาหาร, ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำมัน และอื่นๆตามความจำเป็น แด่พระอาจารย์.... ซึ่งจำพรรษา ณ สถานปฏิบัติธรรมสวนทิพย์โลกอุดร ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ โดยขอเชิญชวนผู้ที่มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมทำบุญครั้งนี้ ได้ที่คุณพัชริดา พร้อมทั้งแจ้งชื่อ (เพื่อพระอาจารย์..........จะได้แผ่เมตตาให้) ภายในวันพฤหัสบดีที่ 19 ส.ค. 53 ก่อน 12.00 น. เพื่อคุณสิทธิพร จะนำปัจจัยดังกล่าวไปถวายต่อไปค่ะ"



หากท่านใดมีความประสงค์จะร่วมทำบุญ โดยผ่านทางผม ขอให้ท่านแจ้งความประสงค์และโอนเงินเข้ามาที่บัญชีผม (หากไม่ทราบให้โทร.สอบถามผม) และแจ้งชื่อ - นามสกุล ภายในวันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2553 เวลา18.00 น. ซึ่งในวันพุธที่ 19 สิงหาคม 2553 ในตอนเช้าผมจะได้นำเงินทั้งหมดที่ร่วมทำบุญฝากกับลูกน้องพี่สิทธิพรที่จะมาหาผม

หากท่านใดที่รู้จักกับพี่สิทธิพร สามารถแจ้งไปที่พี่สิทธิพรได้โดยตรงครับ

โมทนาบุญทุกประการ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 16, 2010, 06:11:15 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1093272&d=1281957671)

พระสมเด็จ รุ่นที่มีพระบรมฯ , พระธาตุ และน้ำประสาน โรยอยู่ด้านหน้าองค์พระสมเด็จครับ


.

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 16, 2010, 06:13:12 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1093273&d=1281957671)


พระสิวลี (ขนาดห้อยคอ) ของวังหน้า 

หลวงปู่พระสิวลีเถระเจ้า ท่านอธิษฐานจิตเอง


.


หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: พรสว่าง ที่ สิงหาคม 17, 2010, 12:52:02 pm
หวัด D ครับพี่หนุ่ม  :02:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 17, 2010, 07:22:55 pm
หวัด D ครับพี่หนุ่ม  :02:

ยินดีต้อนรับสู่เว็บใต้ร่มธรรมครับ

 :33:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 18, 2010, 02:48:58 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1093272&d=1281957671)

พระสมเด็จ รุ่นที่มีพระบรมฯ , พระธาตุ และน้ำประสาน โรยอยู่ด้านหน้าองค์พระสมเด็จครับ


.

เห็นแล้วรู้สึกมึนหัวครับ  
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 18, 2010, 02:50:37 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1093273&d=1281957671)


พระสิวลี (ขนาดห้อยคอ) ของวังหน้า 

หลวงปู่พระสิวลีเถระเจ้า ท่านอธิษฐานจิตเอง


.

งามครับ  :02:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 19, 2010, 09:44:49 am
องค์ไฉซิงเอี้ย

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1097417&d=1282186080)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1097418&d=1282186080)


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1097434&d=1282186690)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 20, 2010, 10:00:24 am
เมื่อวานนี้ คณะกองทุนหาพระถวายวัด ได้ถวายชุดหยก แด่พระอาจารย์รูปหนึ่ง จำนวน 300 องค์

ซึ่งผมได้ฝากกับพี่สิทธิพร (เป็นตัวแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด) นำไปถวายที่สวนทิพย์โลกอุดร ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่

มาโมทนาบุญกับคณะกองทุนหาพระถวายวัดกันครับ

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ สิงหาคม 20, 2010, 12:01:54 pm
^^ มาร่วมอนุโมทนาครับพี่หนุ่ม อนุโมทนาสาธุครับพี่
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 21, 2010, 08:53:35 am
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1019792&d=1277459581)
พระนาคปรกองค์สวยที่สุดในเมืองไทย(ในความเห็นผม) ประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ ท่าเตียน กทม.

สวัสดีเช้าวันเสาร์ โมทนาสาธุกับสิ่งดีๆที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆนะครับท่านพี่

เช้านี้รู้สึกจิตใจมันเต็ม สุขใจอะไรบอกไม่ถูก หลังไหว้พระ ถวายน้ำ น้ำชา นมจืดเสร็จ ก็มานั่งทานกาแฟอยู่นี้ จึงได้นำพระสมเด็จ TOTT4 มาส่องดู จู่ๆน้ำตาผมก็ไหลพลากไม่หยุด

คืนวันก่อนก็ฝันเจอหลวงตามหาบัวท่านมอบจีวรให้ พร้อมกับเปรยๆเป็นภาษาอิสานว่า 'นามสกุลนี่คือสีคุ้นๆหนอ' แต่ผมก็ได้ถวายท่านคืนซะนี่ แถมยังได้เจอคุณพ่อ พระอาจารย์ผมที่ท่านได้ล่วงลับแล้วในคานี้ด้วยซีหุหุ

จึงขอนอบน้อมกายใจ กราบนมัสการขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ คณะองค์หลวงปู่ผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา พระอริยะสงฆ์เจ้าทุกๆพระองค์ หลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จโต พระมหาโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ ท่านท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ ท่านท้าวมหาพรหมองค์อื่นๆ องค์เทพเทวาทุกสวรรค์ชั้นฟ้า

ตัวกระผมจักกระทำความดีตามวิถีแห่งพุทธะ ที่สามารถจะกระทำได้ตราบจนชีวิตจะเข้าสู่พระพิพพาน พร้อมกันนี้จะชักนำคนรอบข้างให้มีสัมมาทิฏฐิด้วยนะครับ   
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 21, 2010, 10:14:08 pm
โมทนาบุญทุกประการครับ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 22, 2010, 08:44:31 am
สวัสดีครับ วันนี้เป็นดีในการสร้างบ้านผมอีกวาระ คือจะทำพิธีเริ่มสร้างบันได ผมเองคงได้ทำพิธีด้วยตัวเองอีกวาระ

นานแล้วที่ผมไม่ได้เล่าประสบการณ์การถวายพระบรมฯ ,พระธาตุ พระพิมพ์วังหน้า แด่วัดต่างๆ ในครานี้เป็นประสบการณ์จากคณะตัวแทนผมอีกที วันนี้ขอสองวัดละกันนะครับ

    * คณะแรก เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ท่านเป็นตัวแทนกรมศิลปากร ในการบูรณะวัดโบราณ สำคัญต่างๆ
    * ได้นำพระบรมฯขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามสมณโคดม
    * พระธาตุพระโมคคัลลานเถระเจ้า พระสารีบุตรเถระเจ้า พระพิมพ์วังหน้า
    * ถวายแด่ท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ทอง จ.นครนายก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2553
    * วัดนี้ชื่อเป็นเจดีย์ทองก็จริง แต่ไม่มีพระบรมฯมาก่อน และพึ่งจะสร้างพระธาตุเสร็จ
    * มีการนิมนต์พระวัดหลวงสำคัญจากใน กรุงเทพฯ เช่น วัดบวรฯ วัดสระเกศ วัดระฆังฯ มาสวดสมโภช ณ วันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา
    * ในตอนนั้น พระอาทิตย์ทรงกลด สวยงามมาก ผู้ที่ร่วมอยู่ในพิธีเพ่งพระอาทิตย์ทรงกลด ได้โดยตาไม่พล่า หรือแสบตาเลย
    * ท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดนี้จักนำพระบรมฯ กับพระธาตุบางส่วนที่ผมมอบให้ตัวแทนเพิ่มเติมไปถวายแด่ วัดพิชัยญาติการาม เชิงสะพานพุทธ จ.กรุงเทพฯ และสถานปฎิบัติธรรมโมลี เขาใหญ่ จ.นครราชสีมาอีกด้วยนะครับ

    * คณะที่สอง ถวายแด่ครูบาไตร์ยเทพ (ผู้ซึ่งนั่งเรือรบแห่งกองทัพเรือไปปลุกเศกพระตรงสะดือทะเล)
    * แห่งอาศรมพรหมธาดาพุทธาสถาน แม่เตี๋ย จอมทอง เชียงใหม่ เมื่อ 23 มิ.ย. 2553
    * ก่อน หน้าที่คณะเราจักนำพระบรมฯไปถวายก็มีคนอยากลองดีกับท่าน คือเอาพระบรมฯของเก๊ไปถวายด้วยนะครับ (มีคนเรียก แต่ท่านเดินผ่านไปเฉยเลย)
    * สำหรับคณะนี้ได้แจ้งผมมาว่า ท่านอ่านรายนามกองทุนหาพระถวายวัดและประวัติพระพิมพ์วังหน้าโดยละเอียดแล้ว ท่านก็กล่าวว่า "เจตนาดี ใช้ได้"

ทั้งสองเรื่องที่กล่าวมานี้ ตัวแทนอยากบอกให้รับรู้ในความปีติของท่าน และให้พวกเรากองทุนหาพระถวายวัดได้มีกำลังใจในการทำงานด้านสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปครับผม

อ่อ ตัวแทนผม ท่านรู้จักดีกับหลวงพ่อเที่ยง แห่งวัดระฆังด้วยนะครับ

มาโมทนาสาธุ ย้อนหลังร่วมกันครับ

โพสโดย ส.เพ็งผล หรือ psombat
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 22, 2010, 12:02:41 pm
คู่วังหน้า-วังหลัง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1101594&stc=1&thumb=1&d=1282453084)


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1101594&d=1282453084)

ต่างกันตรงที่ใช้นิ้วโป้ง มือขวา และ นิ้วโป้ง มือซ้าย กดด้านหลังองค์พระ อธิษฐานจิตโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ในปีพ.ศ.2409 สร้างเป็นที่ระลึกให้วังหน้าและวังหลัง

อัญเชิญหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า อธิษฐานจิตเดี่ยว(อีก)

หนักทางด้านเมตตามหานิยม

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 22, 2010, 12:03:50 pm
เต่าเงิน เต่าทอง
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1101595&stc=1&thumb=1&d=1282453084)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1101595&d=1282453084)

ให้มีโชคลาภ และป้องกันคุณไสย ได้ทั้งครอบครัว ป้องกันได้ทั้งบ้าน

หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อัญเชิญหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า อธิษฐานจิต (ก่อนหลวงปู่ศุข ท่านมรณภาพ 9 ปี)

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 22, 2010, 08:33:05 pm
ผมมาตามคำเฉลยวันละหลายรอบแล้ว และแล้วก็มาเสียที สุดยอดครับพี่  :13:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 22, 2010, 08:39:39 pm
ผมมาตามคำเฉลยวันละหลายรอบแล้ว และแล้วก็มาเสียที สุดยอดครับพี่  :13:

sithiphong, ส. เพ็งพล และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

พี่จะทยอยมาเฉลยที่นี่ครับ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 22, 2010, 08:43:19 pm
โมทนาสาธุครับผม
 :02:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 23, 2010, 09:26:15 am
sithiphong, ส. เพ็งพล และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้


สวัสดีตอนเช้าครับ

สำหรับรูปที่นำมาลงล่าสุดที่เว็บใต้ร่มธรรม  โหลดไปแล้ว


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1101594&d=1282453084)

68.9 KB, ดาวน์โหลด 4 ครั้ง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1101595&d=1282453084)

18.2 KB, ดาวน์โหลด 5 ครั้ง


ที่มา Attachments Posted by sithiphong
เว็บพลังจิต


หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 23, 2010, 09:28:32 am
sithiphong, ส. เพ็งพล และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

มี 3 บุคคลทั่วไป  มาสอดแนม  อิอิ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 23, 2010, 12:02:33 pm
เมื่อสักพักใหญ่ๆนี้ พระอาจารย์รูปหนึ่งที่สำนักปฎิบัติธรรมสวนทิพย์โลกอุดร ท่านได้โทร.มาร่วมโมทนาบุญกับคณะกองทุนหาพระถวายวัด ในการถวายชุดหยก 300 องค์

ท่านให้พรกับคณะกองทุนหาพระถวายวัด จำนวน 38 ท่าน ตามรายชื่อที่ผมได้ส่งไปพร้อมกับชุดหยก

โมทนาบุญกับคณะกองทุนหาพระถวายวัดครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 23, 2010, 10:18:17 pm

สำหรับพระสมเด็จ เนื้อผงยาวาสนาและผงยาจินดามณีครับ

(http://www.palungjit.com/board/attachment.php?attachmentid=175497&stc=1&d=1180245229)

รูป ผมขอสงวนลิขสิทธิ์ครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 24, 2010, 08:30:20 am

สำหรับพระสมเด็จ เนื้อผงยาวาสนาและผงยาจินดามณีครับ

(http://www.palungjit.com/board/attachment.php?attachmentid=175497&stc=1&d=1180245229)

รูป ผมขอสงวนลิขสิทธิ์ครับ

องค์ปัญจสิริ มุมล่างขวามือ แบบเดียวกันนี้
ได้รับเมตตาจากพี่หนุ่มมา 1 องค์ ตอนนี้อยู่ในตลับทอง-เงิน ประกบกันกับ TOP4 ไปไหนๆก็มั่นใจเกินร้อย

โมทนาสาธุครับพี่ :13:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 24, 2010, 09:16:30 am
ไว้วันงานผ้าป่ามหากุศล สนส.ผาผึ้ง เพื่อร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง

ว่าจะนำชุดสุดยอดเครื่องรางของวังหน้า และวังหลวง ไปให้ชมชุดนึง 

นำไปหลายๆชุดไม่ไหว  เนื่องจากหนักคอมาก

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 24, 2010, 11:22:52 am
องค์ซ้ายมือ  หลวงปู่พระอานนท์เถระเจ้า
หลวงปู่พระอานนท์เถระเจ้า อธิษฐานจิตเอง

องค์ขวามือ  หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า
หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า อธิษฐานจิตเอง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1105075&d=1282624450)



.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 24, 2010, 11:26:02 am
พระกริ่งปวเรศ เนื้อทองคำ

เก๊

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=721305&d=1281154379)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 24, 2010, 11:37:56 am
องค์ซ้ายมือ  หลวงปู่พระอานนท์เถระเจ้า
หลวงปู่พระอานนท์เถระเจ้า อธิษฐานจิตเอง

องค์ขวามือ  หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า
หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า อธิษฐานจิตเอง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1105075&d=1282624450)



.

กราบนมัสการ หลวงปู่พระอานนท์เถระเจ้า
กราบนมัสการ หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า

กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ  
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 24, 2010, 11:42:51 am
น่าจะเป็นพระแก้วบุศราคัมครับ
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1104926&d=1282620898)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 24, 2010, 11:45:22 am
พระกริ่งปวเรศ เนื้อทองคำ

เก๊

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=721305&d=1281154379)

เป็นงั้นไป...
 :30:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 25, 2010, 09:04:58 am
เรียน ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , สมาชิกคณะพระวังหน้า และคณะสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด ทุกๆท่าน



ในวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2553  เป็นวันที่น้องอุ้มจะไปทำบุญ  โดยพระภิกษุรูปหนึ่ง(ที่ผม ,น้องสมบัติ และคณะพี่ชนิดา ได้เคยไปกราบท่านมา)  จะทำบุญโดยนิมนต์พระภิกษุมาสวด ในการที่พระภิกษุรูปหนึ่งสร้างพระพุทธรูปด้านหน้ากุฎิของท่าน และมีการจัดเรื่องของอาหารถวายพระภิกษุที่นิมนต์มาสวด อีกทั้งเลี้ยงผู้ที่ไปร่วมงาน และอื่นๆ



หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญในการนี้  ขอให้ท่านแจ้งความประสงค์มาที่ผม  ว่าจะทำบุญเท่าไหร่  และ โอนเงินเข้ามาที่บัญชีผม(ให้โทร.สอบถามเลขที่บัญชีกับผม)  ภายในวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2553  เวลา 15.00 น. 



ผมจะได้โอนเงินไปให้น้องอุ้มได้ทันเวลา ครับ



โมทนาบุญทุกประการ



หมายเหตุ  หากต้องการทราบว่า พระภิกษุรูปหนึ่ง  ชื่ออะไร  ให้โทร.สอบถามผม  ผมจะไม่แจ้งบนบอร์ดครับ





.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 25, 2010, 09:06:02 am
สององค์นี้หล่ะครับ? :)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 25, 2010, 09:28:11 am
สององค์นี้หล่ะครับ? :)

อ่า  จำพวงมาลัยได้ อิอิ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 25, 2010, 09:44:01 am
สององค์นี้หล่ะครับ? :)

อ่า  จำพวงมาลัยได้ อิอิ


.


ผมจำโต๊ะหินขัดได้ดีครับ หุหุ สงสัยจะขลังมากเลยนะ ตลอดระยะเวลาการมาพักของสำคัญที่นี่ หุหุ

ประเดี๋ยวผมจะทยอยนำก้น(เฉพาะฐาน)พระกลุ่มนี้มาลง คิดว่าไงครับ?
 :45:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 25, 2010, 10:00:13 am
สององค์นี้หล่ะครับ? :)

อ่า  จำพวงมาลัยได้ อิอิ


.


ผมจำโต๊ะหินขัดได้ดีครับ หุหุ สงสัยจะขลังมากเลยนะ ตลอดระยะเวลาการมาพักของสำคัญที่นี่ หุหุ

ประเดี๋ยวผมจะทยอยนำก้น(เฉพาะฐาน)พระกลุ่มนี้มาลง คิดว่าไงครับ?
 :45:

อ่า  ใจเย็นๆครับ 

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 25, 2010, 10:18:20 am
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1106274&d=1282705085)

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 26, 2010, 08:13:23 am
ขันสาคร

หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ อธิษฐานจิต

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1107609&d=1282785063)

สำหรับขันสาครใบนี้  ผ่านพิธีโสกันต์ของพระราชโอรส และ พระราชธิดา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  หลายพระองค์แล้วครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ สิงหาคม 26, 2010, 09:16:39 am
แม่เจ้า .. ใหญ่จัง :46:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 28, 2010, 09:01:52 pm
วันนี้  คณะกองทุนหาพระถวายวัด  ได้มีกิจกรรมในงานบุญ  คือการนำพระพิมพ์ต่างๆ  นำมาทำความสอาด  เพื่อที่จะไว้ถวายพระภิกษุ  หรือ นำไปบรรจุในพระเจดีย์ต่างๆ  หรือ ฐาน่ชุกชี  หรือ สถานที่ที่มีความเหมาะสม 

ในงานวันนี้  พระพิมพ์ต่างๆ ที่นำไปล้าง  น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-4000 องค์  ซึี่งส่วนใหญ่จะเป็นพระวังหลวง  ที่กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นต้น) อธิษฐานจิต  ซึ่งสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านมีพระเมตตามาบอกพี่ท่านหนึ่งทางสมาธิ  หลวงปู่ท่านบอกว่า ให้ชื่อรุ่นนี้ว่า  "ของดี รัตนโกสินทร์"

นอกจากการล้างพระแล้ว  ทางคุณมลและครอบครัวได้ทำอาหารมาเลี้ยงท่านที่มาร่วมในกิจกรรมการล้างพระ  ผมเองก็ได้ร่วมทำบุญในส่วนนี้

ผมและน้อง ส.เพ็งผล  ได้ร่วมกันทำบุญค่าน้ำ ค่าไฟ  ที่บ้านท่านอาจารย์ประถม  ด้วย

นอกเหนือจากนี้  หลายๆท่านที่ไปร่วมงานกิจกรรมนี้  ได้ร่วมทำ่บุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งด้วย

มาโมทนาบุญกับคณะกองทุนหาพระถวายวัด และทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญกันในวันนี้ครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 29, 2010, 09:25:20 pm
วันนี้  คณะกองทุนหาพระถวายวัด  ได้มีกิจกรรมในงานบุญ  คือการนำพระพิมพ์ต่างๆ  นำมาทำความสอาด  เพื่อที่จะไว้ถวายพระภิกษุ  หรือ นำไปบรรจุในพระเจดีย์ต่างๆ  หรือ ฐาน่ชุกชี  หรือ สถานที่ที่มีความเหมาะสม 

ในงานวันนี้  พระพิมพ์ต่างๆ ที่นำไปล้าง  น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-4000 องค์  ซึี่งส่วนใหญ่จะเป็นพระวังหลวง  ที่กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นต้น) อธิษฐานจิต  ซึ่งสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านมีพระเมตตามาบอกพี่ท่านหนึ่งทางสมาธิ  หลวงปู่ท่านบอกว่า ให้ชื่อรุ่นนี้ว่า  "ของดี รัตนโกสินทร์"

นอกจากการล้างพระแล้ว  ทางคุณมลและครอบครัวได้ทำอาหารมาเลี้ยงท่านที่มาร่วมในกิจกรรมการล้างพระ  ผมเองก็ได้ร่วมทำบุญในส่วนนี้

ผมและน้อง ส.เพ็งผล  ได้ร่วมกันทำบุญค่าน้ำ ค่าไฟ  ที่บ้านท่านอาจารย์ประถม  ด้วย

นอกเหนือจากนี้  หลายๆท่านที่ไปร่วมงานกิจกรรมนี้  ได้ร่วมทำ่บุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งด้วย

มาโมทนาบุญกับคณะกองทุนหาพระถวายวัด และทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญกันในวันนี้ครับ

.

สำหรับงานล้างพระ ของคณะกองทุนหาพระถวายวัด ในวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2553

นำรูปมาให้ชมกัน

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1112822&d=1283090312)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1112823&d=1283090312)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1112824&d=1283090312)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1112825&d=1283090312)



หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ สิงหาคม 30, 2010, 12:19:53 am
 :13: อนุโมทนาครับพี่หนุ่ม
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: NATACHAI ที่ กันยายน 01, 2010, 12:16:33 am
 :45:  :45:  :45: อนุโมทนาครับแม่ทัพ(ธรรม)หนุ่ม
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 01, 2010, 11:17:17 am
มาเล่าให้ฟัง ประสบการณ์ที่ห้อยแม่นางกวัก(ของวังหน้า)

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2553  ตอนเที่ยงๆ  ผมได้ไปซื้อขนมเทียน  ก่อนหน้าที่ผมจะซื้อขนมเทียน มีผู้หญิงคนนึงมาซื้อ  น่าจะหลายร้อยบาท  พอผู้หญิงคนนั้นซื้อเรียบร้อย  ผมเองก็ได้ซื้อขนมเทียนต่อ  ราคาอันละ 5 บาท  ผมซื้อ 20 อัน  ปรากฎว่า แม่ค้าบอกกับผมว่า ลดให้ 5 บาท  เพื่อนๆที่ไปด้วยกันก็เลยบอกแม่ค้าว่า  ก็แถมให้ 1 อัน ไม่ต้องลดราคา แม่ค้าก็เลยหยิบให้อีก 1 อัน  ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่ผู้หญิงคนนึ่งมาซื้อ  ไม่ได้ลดเลย

พอกลับมาถึงที่ทำงาน  ตอนประมาณ บ่ายสองโมง  ปกติจะมีคนขายไอศครีมขึ้นมาถามว่า วันนี้ใครจะทานอะไรบ้าง  ผมเองก็สอบถามน้องคนนึงว่า จะทานหรือเปล่า น้องเขาตอบว่าทาน ผมก็สอบถามลูกค้า 2 คนว่า ทานไอศครีมรสอะไร  พอได้ความก็สั่งไอศครีมมา 4 ถ้วย พร้อมทั้งจ่ายเงินให้  สั่งเสร็จ เจ้านายผมเดินออกมาจากห้อง มาบอกว่า  หนุ่มๆ ไม่ต้องออก เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง  คนขายไอศครีมก็เลยนำเงินมาคืนผม และรับเงินจากเจ้านายผมไป  โดยปกติเจ้านายผมไม่เคยเลี้ยงอะไรใครเลย  ก็เลยเป็นเรื่องดังในที่ทำงานมากๆ

เรื่องต่อมา  งานผมเอง ผมแทบหาลูกค้าไม่ได้เลย  แต่พอได้ห้อยแล้ว  ตอนนี้ทำงานแทบไม่ทันเลยครับ  งานเข้ามาตลอด

ของจริงต้องพิสูจน์ได้
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 01, 2010, 11:31:57 am
 :37:กวักเดี่ยวองค์จิ๋วกะกวักคู่องค์ใหญ่ แบบไหนแรงกว่าพี่
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 01, 2010, 12:00:00 pm
:37:กวักเดี่ยวองค์จิ๋วกะกวักคู่องค์ใหญ่ แบบไหนแรงกว่าพี่

ตอนนี้ใส่แต่กวักคู่ครับ

ก็เลยยังไม่รู้ว่า กวักเดี่ยว หรือ กวักคู่  องค์ไหนดีกว่ากัน

แต่พี่ว่า  น่าจะเหมือนๆกันครับ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 01, 2010, 12:49:08 pm
ขอบคุณครับ
ผมก็ลืมไปว่าเคยเลี่ยมกรอบเงินองค์ใหญ่ให้น้องแขวน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเลี่ยมทององค์เล็กให้เขา ต้องถามคนใกล้ตัวดีกว่าเนอะ หุหุ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 01, 2010, 02:29:22 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1116940&d=1283326116)

สุดยอดมากครับ

กรอบสแตนเลสระเบิด
พระธาตุเสด็จเกาะที่เหรียญ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 01, 2010, 02:37:57 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=696292&d=1253064388)

 :07: :07: :07: :07: :07:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 03, 2010, 11:06:27 am
อ้างอิงตาม mail เพื่อน และการโอนเงินร่วมทำบุญกับผมมาดังนี้ครับ

"บ่ายนี้ผมโอนเงินไปให้ 2,400 นะครับ ตามที่เคยบอกนายไว้
ทำบุญในนามของผู้ที่ได้รับพระสมเด็จนะมี
1. พ่อแฝง
2. แม่แก้ว
3. นายอดุลย์
4. นายดาวรุ่ง
5. นางมลทิวา
6. ป้าโสภา (ป้าอยู่ข้างบ้านนะ)"

ผมได้กระจายโอนเงินไปทำบุญให้เพื่อนผมดังต่อไปนี้

1. ร่วมปิดงานสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง 800 บาท
2. ร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร 800 บาท
3. ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด 800 บาท

ผมตั้งจิตอธิษฐานในบุญที่ทำให้และโมทนาสาธุร่วมกันครับ
 
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 04, 2010, 11:29:05 pm
มากล่าวยินดีต้อนรับ ชาววังหน้าที่พลังจิตที่เข้ามาในเว็บใต้ร่มธรรม

NATACHAI
nongnooo
Pinkcivil
tawatd
ปฐม
พรสว่าง
ส. เพ็งพล
เจ้าสัวน้อย
เฉลิมพล
เอ๋เชียงใหม่
และ ผมเอง(อีกชื่อ) คือโชคชัยชนะ


ยินดีต้อนรับทุกๆท่านครับ

 :13:
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 05, 2010, 10:33:59 am
มากล่าวยินดีต้อนรับ ชาววังหน้าที่พลังจิตที่เข้ามาในเว็บใต้ร่มธรรม

NATACHAI
nongnooo
Pinkcivil
tawatd
ปฐม
พรสว่าง
ส. เพ็งพล
เจ้าสัวน้อย
เฉลิมพล
เอ๋เชียงใหม่
และ ผมเอง(อีกชื่อ) คือโชคชัยชนะ


ยินดีต้อนรับทุกๆท่านครับ

 :13:
.
ยินดีต้อนรับคณะรักษ์พระวังหน้าและตัวเอง หุหุ :47:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 05, 2010, 06:54:44 pm
พระแม่ธรณี และ แม่นางกวัก 
สร้างขึ้นที่วังหน้า

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1122605&stc=1&d=1283687727)

ขอกราบองค์พระแม่ธรณี , แม่นางกวัก และ พระแม่โพสพ เป็นอย่างสูงครับ
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 05, 2010, 07:23:00 pm
พระสมเด็จ เนื้อทองคำ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1122626&stc=1&d=1283689486)



.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: krit2521 ที่ กันยายน 06, 2010, 09:39:41 pm
หวัดดีครับพี่ผม กฤษณ์ ครับ กำลังศึกษาพระวังหน้าและหลังอยู่ครับช่วยแนะนำด้วย :47: :47: :47:krit_tnk@hotmail.com
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: :::เพชร::: ที่ กันยายน 06, 2010, 10:53:40 pm
มาละ อ่านจบแล้ว..
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: :::เพชร::: ที่ กันยายน 06, 2010, 10:56:27 pm
มีลายแทงให้ดูโด้ยยยยยย...ดูเหมือนอะไรที่ไม่ได้เห็นที่นั่น กลับมาเห็นที่นี่..!!!
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 07, 2010, 10:08:29 am
มีลายแทงให้ดูโด้ยยยยยย...ดูเหมือนอะไรที่ไม่ได้เห็นที่นั่น กลับมาเห็นที่นี่..!!!

หายอึดอัดมั๊ยท่านพี่  
 :45:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 07, 2010, 06:38:25 pm
มีลายแทงให้ดูโด้ยยยยยย...ดูเหมือนอะไรที่ไม่ได้เห็นที่นั่น กลับมาเห็นที่นี่..!!!

อ่า  ต้องคอยชมต่อไป

ผมจะทยอยนำมาลงที่นี่  ให้ได้ศึกษากันครับ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 07, 2010, 06:40:13 pm
มาละ อ่านจบแล้ว..

ยินดีต้อนรับคุณเพชร สู่เว็บใต้ร่มธรรมครับ

ถึงแม้บ้านหลังนี้ จะเล็ก (ไม่ใช่บ้านเล็กครับ หุหุ)  แต่ก็อบอุ่นไปด้วยความรักครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: :::เพชร::: ที่ กันยายน 07, 2010, 07:22:31 pm
ขอประเดิมด้วยภาพพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ ๒๔๐๘ ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื้อโลหะ ๓ พิมพ์จาก ๔๔ พิมพ์ มีทั้ง เนื้อปูนเพชร หน้าเดียว และ ๒ หน้า และแบบบรรจุกริ่ง และไม่บรรจุกริ่ง
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 07, 2010, 10:45:14 pm
พระสมเด็จ เนื้อทองคำ

แบบว่า ดูกันจะๆ ครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1126244&d=1283874418)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 08, 2010, 09:47:06 am
.


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1124157&d=1283773149)

พระบูชา องค์พระศรีอาริยเมตตรัย

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: krit2521 ที่ กันยายน 08, 2010, 04:48:56 pm
พระสมเด็จ เนื้อทองคำ

แบบว่า ดูกันจะๆ ครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1126244&d=1283874418)
พึงเคยเห็นเต็มๆๆชอบมากครับพี่ :46: :46:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 08, 2010, 10:04:45 pm
ยินดีต้อนรับ พี่ sittiporn  สู่เว็บใต้ร่มธรรม ครับ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 09, 2010, 09:03:55 pm
สมเด็จอัศนี ( องค์นี้ ปี พ.ศ.2412)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=197257&d=1187416547)

ท่านผู้อธิษฐานจิต
1.สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
2.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์) วัดบวรนิเวศวิหาร
3.สมเด็จพระพุฒาจารย์ทัด
4.พระพุฒาจารย์ มา อินทโร
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 09, 2010, 09:19:44 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1128724&d=1284042126)

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 09, 2010, 09:20:19 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1128724&d=1284042126)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1128724&d=1284042126)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 09, 2010, 09:24:00 pm
พระสมเด็จ กลักไม้ขีด

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=351231&d=1214963835)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 10, 2010, 08:31:36 am
พิมพ์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

รุ่นทูลเกล้าถวายรัชกาลที่ 5


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=197258&d=1187416547)
รูปสงวนลิขสิทธิ์ครับ


หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เนื้อผงอิทธะเจที่ท่านลบเอง
รุ่นนี้นำขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 10, 2010, 09:18:33 am
เรียนพี่เปี๊ยกครับ

รูปหลวงพ่อเงิน ที่ผมบอกว่า มีฟันครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=691684&d=1252493437)

รูปสงวนลิขสิทธิ์
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: krit2521 ที่ กันยายน 11, 2010, 07:24:58 am
สมเด็จอัศนี ( องค์นี้ ปี พ.ศ.2412)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=197257&d=1187416547)

ท่านผู้อธิษฐานจิต
1.สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
2.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์) วัดบวรนิเวศวิหาร
3.สมเด็จพระพุฒาจารย์ทัด
4.พระพุฒาจารย์ มา อินทโร
สวยมากเลยพี่
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 11, 2010, 09:50:05 pm

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
นอก จากโพสนี้ที่แจ้งว่า พระกริ่งปวเรศ รุ่นเนื้อเงินสเตอร์ริง ซิลเวอร์ ที่หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ ท่านอธิษฐานจิตเดี่ยวแล้ว ยังมีบางองค์ ที่กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ ท่านอธิษฐานจิตกับหลวงปู่กรมพระยาปวเรศด้วย ซึ่งผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นคนละพระราชพิธีหลวง แต่ในปีเดียวกันคือ ปี พ.ศ.2434 ครับ

.
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Natachai อ่านข้อความ

พิธีนี้เป็นพิธีใหญ่ระดับที่เรียกว่า "พระราชพิธีหลวง" มีพระเกจิฯที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นหลายองค์ที่ได้ร่วมอธิฐานจิต ภายหลังจากที่เสร็จพิธีอธิฐานจิต ผู้สร้างเก็บเข้าวังหมด สามัญชนในวัดแทบจะไม่ได้สัมผัส จึงทำให้ไม่ได้มีการบรรทึกไว้ในประวัติศาสตร์ พระกริ่งฯรุ่นนี้แจกจ่ายเฉพาะลูกหลานและคนสนิทของพระองค์ท่าน จึงทำให้รู้จักเฉพาะในวงบรมวงศานุวงศ์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sittiporn.s อ่านข้อความ
จารทั้งองค์ ,หมุดทอง ,ใต้ฐานบุทอง ,กริ่งระฆังทอง ตกสำรวจ


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sittiporn.s อ่านข้อความ
พระราชพิธีหลวง"ฉลองสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระสังราช "หลังจากว่างเว้นอยู่หลายปี


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Natachai อ่านข้อความ

ส่วนผสมของโลหะที่ใช้สร้างพระเครื่อง

คง มีหลายท่านที่ชื่นชอบพระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่างๆ ที่มีส่วนผสมของโลหะหลายชนิดและมีชื่อเรียกเฉพาะเช่น เนื้อสำริดหรือสัมฤทธิ์ เนื้อสัตตโลหะ เนื้อนวโลหะ เป็นต้น
ใน การทำ พระเครื่องและวัตถุมงคลนั้น ในสมัยโบราณได้มีการเล่นแร่แปรธาตุกัน แต่ละสำนักซึ่งส่วนใหญ่สามารถแบ่งหรือแจกแจงมวลสารโลหะที่ใช้ทำพระเครื่อง ได้ดังนี้
เนื้อนวโลหะ ประกอบไปด้วย โลหะ 9 อย่างได้แก่ ทองคำ เงิน ทองแดง จ้าวน้ำเงิน เหล็กละลายตัว ชิน ตะกั่วน้ำนม ปรอท สังกะสี
เนื้อสัตตโลหะประกอบด้วย ทองคำ ทองแดง จ้าวน้ำเงิน เหล็ก ตะกั่ว ปรอท
โลหะ สัมฤทธิ์โบราณ ประกอบไปด้วยธาตุบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไปโดยมี แร่ทองคำและเงินเป็นหลัก ถ้าไม่มีจะไม่ถือว่าเป็นสัมฤทธิ์ และที่เป็นหลักอีกอย่างคือทองแดง ซึ่งจะใช้มากเพื่อให้ได้ปริมาณ

เนื้อ สำริดหรือสัมฤทธิ์ ประกอบด้วยตระกูลของสัมฤทธิ์ที่ถูกต้องตามสูตรโบราณมีอยู่ 5 ตระกูล คือ สัมฤทธิ์ผล สัมฤทธิ์โชค สัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์คุณ และสัมฤทธิ์เดช รวมเป็นสัมฤทธิ์ 5 ตระกูล อันมีความพิสดารดังต่อไปนี้

1. สัมฤทธิ์ผล คือสัมฤทธิ์แดง หรือตริยโลหะ มีมงคลความหมายถึง พระรัตนตรัยเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อสาม ผสมด้วยโลหะธาตุ 3 ชนิด คือ ทองแดง เป็นส่วนใหญ่และเจือด้วยเงินกับทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะแดงคล้ายนาก แต่มีผิวเจือด้วยวรรณะคล้ำๆ คล้ายสีมะขามเปียก โบราณถือว่าเป็นมงคลวัตถุ อำนวยผลนานาประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเมตตามหานิยม พระพุทธรูปสมัยอู่ทองโดยเฉพาะพระพุทธรูปอู่ทองหน้าแก่มักสร้างด้วยเนื้อนี้

2. สัมฤทธิ์โชค คือสัมฤทธิ์เหลือง หรือปัญจโลหะ เป็นโบราณนิยามหมายถึงเบญจขันธ์ (ขันธ์ 5) คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อห้า ได้แก่ ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี เงิน ทองคำ มีวรรณะเหลืองคล้ายเนื้อกลองมโหระทึก หรือขันลงหิน มีแววนกยูงภายในเนื้อ เป็นสัมฤทธิ์ที่ให้คุณหนักไปทางด้านลาภผล กับความสำเร็จ พระพุทธรูปสกุลช่างสุโขทัยบางยุคและพระเชียงแสน พระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราชแพ บางรุ่น และพระกริ่งพระชัยวัฒน์ของท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์บางรุ่นก็สร้างด้วยเนื้อนี้

3. สัมฤทธิ์ศักดิ์ คือสัมฤทธิ์ขาว หรือสัตตโลหะ เป็นมงคลนามหมายถึง โพชฌงค์ 7 คือ องค์ธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ มี 7 ประการ ได้แก่ สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ และอุเบกขา สัมฤทธิ์ศักดิ์เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเจ็ด ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว เงิน และทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะหม่นคล้ำน้อยๆ แต่มีแวววรรณะขาวผสมผสานอยู่ นับถือกันว่าอำนวยผลในด้านอำนาจ มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด

4. สัมฤทธิ์คุณ คือสัมฤทธิ์เขียว หรือนวโลหะ หมายถึงนัยของธรรมอันสูงสุดในพระศาสนา อันได้แก่ นวโลกุตรธรรม อันมี มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 สัมฤทธิ์คุณเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดช ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว ชิน จ้าวน้ำเงิน เงิน และทองคำ แต่สัมฤทธิ์ตระกูลนี้แก่ส่วนผสมของเนื้อเงินมากกว่าธรรมดา ฉะนั้น เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน แต่ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะถูกไอเหงื่อ จะมีวรรณะคล้ำเจือเขียวเตยหม่นแกมเหลืองอ่อนคล้ำมีแววขาวโดยตลอดเนื้อ สัมฤทธิ์ชนิดนี้อำนวยคุณวิเศษเช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดชทุกประการ

5. สัมฤทธิ์เดช คือสัมฤทธิ์ดำ หรือนวโลหะ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์คุณ แต่มีสัดส่วนการผสมได้เกณฑ์ถูกต้องตามมูลสูตรมากที่สุด ดังนั้นภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะต้องไอเหงื่อ จะดำสนิท ประหนึ่งนิลดำ เรียกกันว่า "สัมฤทธิ์เนื้อกลับ" โบราณถือว่าสัมฤทธิ์นวโลหะทั้ง 2 ประเภทนี้ เป็นสัมฤทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด หรือเป็นยอดของสัมฤทธิ์ อำนวยผลในด้านมหาอุตม์อันสูงส่ง คืออำนาจตะบะเดชะ มหานิยม ลาภผล ความสำเร็จ คงกระพัน แคล้วคลาด ทุกประการ สูตรผสมเนื้อสัมฤทธิ์เดช หรือนวโลหะ ที่เป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ยุคกรุงศรีอยุธยา ตกทอดมาอยู่กับ สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพนฯ พระพุฒาจารย์มา ครั้งยังเป็นพระมงคลทิพยะมุนี วัดจักรวรรดิฯ และสมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ ครั้งยังเป็นพระเทพโมลีตามลำดับ เกณฑ์อัตราส่วนผสมของโลหะทั้ง 9 ชนิด มีดังนี้

1) ชิน หนัก 1 บาท
2) จ้าวน้ำเงิน หนัก 2 บาท
3) เหล็กละลายตัว หนัก 3 บาท
4) ตะกั่วเถื่อน หนัก 4 บาท
5) ปรอท หนัก 5 บาท
6) สังกะสี หนัก 6 บาท
7) บริสุทธิ์ (ทองแดงเถื่อน) หนัก 7 บาท
8) เงิน หนัก 8 บาท
9) ทองคำ หนัก 9 บาท

เนื้อ ทองสัมฤทธิ์เดชนี้ เราจะเห็นได้ว่า ส่วนผสมใช้ทองคำมากกว่าโลหะอื่นๆ ซึ่งหนักถึง 9 บาท จึงจะได้น้ำหนักของเนื้อสัมฤทธิ์เดชเพียง 45 บาทเท่านั้น ซึ่งก็จะสร้างเป็นองค์พระไม่ได้มากนัก ในปัจจุบันจึงไม่มีใครกล้าทำเนื้อทองสัมฤทธิ์เดช ซึ่งเป็นนวโลหะจริงๆ ตามสูตรโบราณเนื่องจากจะสิ้นเปลืองมาก

การ สร้างพระเครื่องและเหรียญใน ปัจจุบันนี้ได้ทำให้คนเข้าใจผิดกันมาก โดยเรียกโลหะผสมชนิดเนื้ออ่อนๆ ชนิดหนึ่งว่าเป็นเนื้อนวโลหะ และเรียกโลหะผสมชนิดเนื้อกลับว่า เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นการตรงกันข้าม เพราะคำว่านวโลหะ หมายถึงเนื้อทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้าตามแบบโบราณเท่านั้น
ครับ เรื่องของ เนื้อทองสัมฤทธิ์ก็มีเท่าที่เล่ามานี้แหละครับ ส่วนเนื้อโลหะอื่นๆ ที่นำมาสร้างพระเครื่องก็ยังมีอีกมาก เช่นเนื้อชิน เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ และเนื้ออัลปาก้าเป็นต้น

โดย Dumrong
...............................................................
จาก ข้อมูลของบทความด้านบนนำมาศึกษา เมื่อใช้ครีม wenol ขัดผิวเนื้อพระกริ่งปวเรศ (สมเด็จวังบูรพา) พ.ศ.2434 ที่มีสีผิวกลับดำ โดยการสังเกตุความเข้มของสีผิวที่แตกต่างกัน ทำให้ทราบว่าในขณะที่นำโลหะฯทั้งหมดมาใส่เบ้าหลอมโลหะการกระจายตัวของโลหะมี ความแตกต่างกัน เกิดจากคุณสมบัติความถ่วงจำเพาะของโลหะทำให้พบเนื้อของพระกริ่งฯ 2 วรรณะหลักๆ ดังนี้คือ
สัมฤทธิ์คุณ เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน พระส่วนใหญ่ที่พบจะมีเนื้อนี้มากที่สุด
สัมฤทธิ์เดช เนื้อภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ มีจำนวนไม่มากนัก(แก่ทองคำ)


---------------------------------------------------------

sithiphong

สำหรับรุ่นพระกริ่งปวเรศ มีมากกว่าที่บอกนะครับ ทั้งพระกริ่งปวเรศเนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ หรือ ที่พี่สิทธิพรแจ้งว่า หมุดทอง ,ใต้ฐานบุทอง ,กริ่งระฆังทอง ตกสำรวจ

ยังมี บุทองคำ และ หลายพิมพ์ที่สร้างในเมืองไทยอีกครับ

และการนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง พิธีเดียวกันกับ พระกริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ เช่นกัน

อยู่กับผม ผมไม่ได้ให้ใครไปเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์ละ 1 องค์ครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 14, 2010, 10:23:29 pm
ที่มา ���������

อยากโชคดี อยากมีโชคลาภ ควรทำอย่างไร?


ถาม - อยากโชคดี อยากมีโชคลาภ จะไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนดี ?


ตอบ - นี่คุณกำลังจะถามผมล่ะซิว่า จะไปขอหวยที่ไหนดี ?
ถ้าผมรู้นะคุณ ผมไปขอเองดีกว่า จะได้รวย ไม่ต้องมานั่งตอบปัญหาอย่างนี้หรอก
บอกคุณได้เลยนะครับว่า ไม่มีที่ไหนหรอกครับ ที่คุณจะไปขอให้รวย ขอให้มีความสุข ขอให้มีความสำเร็จได้
เพราะทุกอย่างที่คุณ "ขอ" น่ะ คุณต้องทำเองครับ

นี่คือกฎแห่งกรรม ตามหลักศาสนาพุทธ เพราะ "กรรม" คือการกระทำ ทำกรรมใดก็ได้กรรมนั้น ไม่ทำ
ก็ไม่ได้ เด็ดขาด!
คุณอาจจะเถียงว่า ไปหาพระ หาหลวงพ่อ หาเจ้าพ่อเจ้าแม่ ไปไหว้พระที่ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพระพุทธรูปและพระสงฆ์ ท่านเหล่านี้สามารถบันดาลให้คุณมี คุณได้ คุณเป็นตามปรารถนาหลวงพ่อ หลวงปู่ เจ้าพ่อเจ้าพ่อเจ้าแม่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงก็เลยได้หน้าไป

ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงได้มี ได้เป็น ได้ดังใจปรารถนาน่ะ คุณทำเองทั้งนั้น
แต่คุณไม่รู้ตัวเองต่างหาก

สมมติว่าคุณไปขอให้พระ หรืออะไรก็ได้ที่ศักดิ์สิทธิ์ขอให้ถูกหวย คนที่ไปขอน่ะมีกี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น กี่แสนคน ขอรางวัลที่ 1 ทั้งนั้น นาน ๆ หรอกครับ จะมีบอกว่า ขอให้ถูกรางวัลที่ 4 ที่ 5

แล้วรางวัลที่ 1 น่ะ มีกี่รางวัล รางวัลเดียวครับ คนไปขอกันเป็นแสน คุณก็ต้องไปเข้าคิวรออีกแสนงวด ถึงจะได้ ลองคำนวณดูนะครับว่า แสนงวดน่ะมันกี่ชาติ ????

ก็จะมีคนเถียงล่ะว่า ไปไหว้พระ หรือไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา กลับมาถูกหวยเลย แต่ถ้าคุณศึกษาเรื่องกรรมให้ดี คุณจะรู้ว่ามันเป็น "กรรม" ของคุณเองที่คุณจะต้องได้ อย่างเช่น ถึงเวลาแล้ว ไม่ต้องซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่ ไม่ต้องทำอะไร ก็ได้มาเอง

เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งไม่รู้กี่ร้อยครั้ง อย่างเช่น สามล้อถีบรถรับจ้างอยู่ดี ๆ ร้อยวันพันเดือนไม่เคยซื้อล็อตเตอรี่เลย พอซื้อคู่เดียว รวยเป็นล้าน คนบางคนได้เงินมาอย่างไม่รู้ตัว ได้โชคมาอย่างชนิดไม่คาดฝัน

นั่นเป็นเพราะเมื่ออดีต (เวลาที่ผ่านมาแล้ว ไม่ว่าจะนานแค่ 1 นาที หรือนานเป็นชาติ ๆ) คุณทำมาแล้วตรงนั้น คุณถึงได้ตรงนี้

เพราะศาสนาสอนว่า ไม่มีเหตุก็ไม่มีปัจจัย คือไม่มีอะไรที่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ

และไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นเพราะ "บังเอิญ"
ไม่มีอะไร "ได้" มาโดยไม่มีการ "ให้" ก่อน

คุณได้เงิน ได้โชค เพราะคุณเคยให้เงิน ให้โชคมาก่อน (กับใคร กับอะไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คุณต้องเคยให้มาก่อน)
นี่ก็เป็นเหมือนตรรกวิทยาที่บอกคุณว่า เมื่อคุณ "ได้" ตรงนี้ ปัจจุบันนี้ เพราะคุณเคย "ให้" มาก่อนในอดีต

ถ้าอนาคตคุณอยากได้อย่างนี้ (อย่างปัจจุบันที่คุณได้) คุณก็ต้องให้ตั้งแต่วันนี้ (ซึ่งจะกลายเป็นอดีตในวันข้างหน้า)

เพราะฉะนั้น ในวันนี้คุณต้องเริ่มต้นให้ก่อน แล้วอนาคตคุณก็จะได้เอง
ตรงนี้อ่านดี ๆ อย่างง ค่อย ๆ อ่าน ถ้างง นั่งพักก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่อ่านอย่างช้า ๆ
ผมล่ะชอบใจที่ หลวงพ่อคูณ ท่านตอบคำถามคนที่ถามท่านว่า มากราบหลวงพ่อ มาให้หลวงพ่อเคาะกระบาลแล้วถูกหวย ท่านตอบว่า กูไม่ได้ทำให้มันถูกหวย มันจะถูกของมันอยู่แล้ว โชคของมัน ดวงของมัน พอดีมันมาหากู ถึงมันไม่มาหากู มันก็ถูกก็ได้ของมันอยู่ดี

ผมฟังแล้ว แอบกราบหลวงพ่อในใจนับครั้งไม่ถ้วน

จำไว้นะครับ ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้ร้องขอ ไม่ได้สอนให้บนบานศาลกล่าว ไม่ได้สอนให้เป็นผู้รับอย่างเดียว

แต่ศาสนาพุทธสอนให้เราปฏิบัติ สอนให้กระทำ สอนให้พิสูจน์ด้วยตัวเอง
ลองคิดด้วยเหตุผลนะครับ ถ้าใครก็ตามที่ "ขอ" ได้ ก็จะมีคนขออีกเป็น....


.
 (http://www.extrasoul.com/old2.html)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: NATACHAI ที่ กันยายน 18, 2010, 01:53:33 pm
 :06:
 :yoyo103:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 20, 2010, 08:55:34 am
:06:
 :yoyo103:

พระสวยนะครับท่าน  :02:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: NATACHAI ที่ กันยายน 20, 2010, 09:40:47 am
 :yoyo039: :yoyo031: :yoyo003:

ขอบคุณครับ พระกริ่งปวเรศ 2434 หากปล่อยทิ้งไว้สัก 10 วันจะเห็นเนื้อภายในมีวรรณะดั่งสีทองคำ และหากปล่อยทิ้งไว้สัก 3 เดือนมองผ่านๆ คนไม่รู้จะมองคล้ายๆวรรณะทองเหลือง

หากพระกระทบกันจะมีเสียงก้องกังวานคล้ายเสียงลูกแก้วกระทบกัน

 :yoyo072:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 20, 2010, 09:51:06 am
:yoyo039: :yoyo031: :yoyo003:

ขอบคุณครับ พระกริ่งปวเรศ 2434 หากปล่อยทิ้งไว้สัก 10 วันจะเห็นเนื้อภายในมีวรรณะดั่งสีทองคำ และหากปล่อยทิ้งไว้สัก 3 เดือนมองผ่านๆ คนไม่รู้จะมองคล้ายๆวรรณะทองเหลือง

หากพระกระทบกันจะมีเสียงก้องกังวานคล้ายเสียงลูกแก้วกระทบกัน

 :yoyo072:
อ่าใช่ครับ ขอบคุณมากครับ
พูดไปแล้วก็อดเห็นใจพวกที่เรียกว่าเซียน...ไม่ได้
เขาขอดูเพราะสนิทกัน...และบอกว่า "พระใหม่พี่" ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ปล่อยให้เขาตามหาพระพานิชย์เพื่อปากท้องเขาต่อไป
สำหรับผม ผ่านภายนอกตั้งแต่เห็นงานระดับเทพแล้วนะครับ ยิ่งเอาไปล้างแล้วเห็นผิวไฟแวววาวเป็นรุ้งเลย
ตามข้อมูลที่ท่านเผยแพร่มา ผมว่า...ท่านเป็นพระกริ่ง...ที่ยิ่งกว่าพระกริ่ง...จริงๆ สาธุ สาธุ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 23, 2010, 09:02:41 am
นำมาฝากกันแต่เช้า เดี๋ยววันนี้ งานยังยุ่งมากเหมือนเมื่อวาน
ตอนกลับมาจากอบรม งานเต็มโต๊ะ ต้องพยายามรีบเคลียร์งานออกไปให้ได้มากที่สุดครับ

จตุคามรามเทพ (รุ่นนี้ เป็นรุ่นสมัยรัชกาลที่ 5ครับ)

ขอเชิญทัศนา

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1146799&d=1285205347)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 23, 2010, 09:19:35 am
นำมาฝากกันแต่เช้า เดี๋ยววันนี้ งานยังยุ่งมากเหมือนเมื่อวาน
ตอนกลับมาจากอบรม งานเต็มโต๊ะ ต้องพยายามรีบเคลียร์งานออกไปให้ได้มากที่สุดครับ

จตุคามรามเทพ (รุ่นนี้ เป็นรุ่นสมัยรัชกาลที่ 5ครับ)

ขอเชิญทัศนา

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1146799&d=1285205347)
สวยขนาดนี้ ขออนุญาตอัญเชิญมาชมสักองค์นะครับท่านพี่  :08:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: NATACHAI ที่ กันยายน 23, 2010, 03:06:41 pm
 :39:
จตุคามรามเทพ  จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จตุคามรามเทพ หมายถึงเทพรักษาพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราชสององค์ คือ ท้าวขัดตุคาม และ ท้าวรามเทพ ซึ่งเดิมในความเชื่อของศาสนาพราหมณ์เป็นเทพชั้นสูง และมีอยู่ทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย แต่เมื่อภูมิภาคแถบอุษาคเนย์นี้รับอิทธิพลของพุทธศาสนาเข้ามา ท้าวขัดตุคาม และ ท้าวรามเทพ จึงถูกเปลี่ยนสถานะเป็นเทวดารักษาพระบรมธาตุและเปลี่ยนชื่อให้เป็นมงคลเป็น ท้าวจตุคาม และสถิตอยู่บนที่บานประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ ในปี พ.ศ. 2530 เมื่อมีการตั้งดวงเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ จึงมีการอัญเชิญจตุคามรามเทพไปสถิต ณ ที่นั้นเป็นต้นมา

ความหมายและความเชื่อ

ชาวนครศรีธรรมราชมีคติความเชื่อที่ว่า องค์จตุคาม คือ พระเสื้อเมือง จตุ หมายถึง สี่ คาม (คาม-มะ) เขตคาม หมายถึง อาณาเขตหรือบ้าน เมื่อรวมกันนัยความหมายที่มากกว่าความเป็นทิศทั้ง 4 ของบ้าน หรืออาณาเขต คือทิศทั้งสี่ซึ่งหมายถึงทิศที่มีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ดูแลอยู่ ความหมายของจตุคามจึงเป็น ตำแหน่งของผู้เป็นใหญ่ทั้งสี่ทิศมีท้าวจตุมหาราช ปกป้องคุ้มครองดูแล พระเสื้อเมืองจึงมีความหมายที่ควรเป็นตำแหน่งๆหนึ่ง เพียงแต่ปราชญ์โบราณของเมืองสมมติขึ้นเป็นท้าวจตุคาม ผู้เป็นใหญ่ใน 4 ทิศ

องค์รามเทพ คำว่า ราม มีรากฐานมาจากพระราม ที่หมายถึงพระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระมหากษัตริย์ คำว่าเทพ ก็คือเทวดา นัยความหมายคือเป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็นสมมติเทพเมื่อองค์รามเทพเป็นพระทรง เมือง คำว่าทรงเมืองพ้องกับคำว่า ครองเมือง นั่งเมือง หรือผู้ปกครองบ้านเมืองซึ่งก็คือเจ้าเมืองหรือพระมหากษัตริย์

เชื่อกันว่าเดิมนั้น องค์จตุคามรามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช มีพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช เชื่อว่ามีพระวรกายเป็นสีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า " ราชันดำแห่งทะเลใต้ " หรือมีอีกราชสมัญญานามนึงว่า " พญาพังพกาฬ " และต่อมาสำเร็จวิชาจตุคามศาสตร์ และทรงบำเพ็ญบุญเพื่อสร้างบารมีอธิษฐานจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มนุษย์ทั้งปวง
ตราประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีรูปพระบรมธาตุอยู่ตรงกลาง

แต่หากเชื่อกันว่าจตุคามรามเทพคืออดีตกษัตริย์ศรีวิชัยแล้ว ดังเช่นพระเจ้าวิษณุราชที่ ปรากฏในหลักจารึกกรุงศรีวิชัย อยู่ในราว พ.ศ. 1318 ผู้สร้างพระบรมธาตุเมืองนครฯ จะดูขัดแย้งกันเพราะ เป็นยุคสมัยที่ห่างจากพระเจ้าจันทราภาณุ ก่อนถึง 400 ปี

พระบรมธาตุปรากฏชัดว่า มีสององค์ คือองค์จตุคามกับท้าวรามเทพ แต่ภายหลังได้รวมเป็นองค์จตุคามรามเทพเพียงองค์เดียว ก็มิได้ผิดจากหลักศาสตร์ของการสร้าง เฉกเช่นการอธิบายในหลักของตรีมูรติ ของศาสนาฮินดูที่เป็นการรวมกันของมหาเทพทั้ง 3 พระองค์ ดังนั้น จตุคามรามเทพ จึงหมายถึง ดวงพระวิญญาณแห่งอดีตบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าผู้มาสถิตย์เป็นผู้คุ้มครองดูแล บ้านเมืองทั้งสี่ทิศทรงฤทธิ์อำนาจอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยบารมีธรรม 10 ประการ แห่งพระโพธิสัตว์ ผู้มีความเมตตาต่อมนุษย์ผู้ทุกนาม เป็นพระเทวราชโพธิสัตว์

จตุคามรามเทพ มีบริวารเป็นทหารกล้า 4 นาย คือ พญาชิงชัย, พญาหลวงเมือง, พญาสุขุม และพญาโหรา เป็นกำลังหลักในการปราบพราหมณ์ที่เคยปกครองเมืองอยู่ก่อน เมื่อได้บ้านเมืองแล้ว ก็ได้สร้างพระบรมธาตุ สถาปนาเมือง 12 นักษัตร หรือกรุงศรีธรรมาโศกราช ฝังรากฐานพระพุทธศาสนาอย่างถาวร จนได้รับเทิดพระเกียรติว่า พญาศรีธรรมาโศกราช หรือ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

ปัจจุบัน จตุคามรามเทพ ได้รับความนับถืออย่างกว้างขวาง โดยเชื่อว่าทรงฤทธานุภาพในทุก ๆ ด้าน ตามจารึกของชาวศรีวิชัยได้บอกว่า " มีอานุภาพดุจดังพระอาทิตย์และพระจันทร์ ที่ขจัดความมืดมัวในโลก " การขออธิษฐานจากพระองค์นั้นทำได้โดยมีเงื่อนไข 3 ประการ

   1. อธิษฐานขอในสิ่งที่เป็นไปได้ โดยไม่ขัดต่อศีลธรรม
   2. เมื่อได้รับสิ่งที่หวังแล้ว ต้องรักษาสัจจะที่ได้ให้ไว้กับพระองค์
   3. ควรจะสร้างกุศลกรรมถวายแด่องค์จตุคามรามเทพ

แต่ที่สำคัญ อย่าลำพังเพียงอธิษฐาน ต้องสร้างกุศลกรรมให้แก่ตนเองให้ครบทุกด้านด้วย คือ ให้ทาน รักษาศีล และบำเพ็ญภาวนา

ภาพลักษณ์ของจตุคามรามเทพ โดยมากจะปรากฏเป็นองค์เทพบุตรในท่านั่ง มี 4 กร ถืออาวุธต่าง ๆ และนายทหาร 4 นาย นั้น จะปรากฏในรูปของหนุมาน 4 กร ถืออาวุธในท่วงท่าต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เป็นไปตามศิลปะศรีวิชัยที่มักสร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาแทนความหมายต่าง ๆ

ประวัติ
ในการจัดสร้างรูปเคารพขององค์จตุคามรามเทพ เมื่อปี พ.ศ. 2530 เป็นครั้งแรกในรูปแบบพระผงสุริยัน-จันทรา ดวงตราพญาราหู มีแวดล้อมด้วยพระราหู 8 ตน ตรงกลางมีรูปของเทวรูปประทับนั่ง 2 เศียร 4 กร ทรงเครื่องอาวุธ และผู้สร้างในสมัยนั้นก็ให้ความหมายไว้ว่าคือรูปจำลองสมมติของพระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร เป็นตัวแทนขององค์จตุคามรามเทพกษัตริย์แห่งศรีวิชัย

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2538 ทางโหราศาสตร์เกิดสุริยคราสพาดผ่านประเทศไทย ซึ่งเกิดกระแสตื่นตัวไปทั่วประเทศในเรื่องของพระราหูกินเมือง ประชาชนต่างก็หาวัตถุมงคลหาเครื่องรางของขลังมาแขวนติดตัวเพื่อแก้เคล็ดและ สะเดาะเคราห์ ประกอบกับนิตยสารพระเครื่องกรุงสยาม ได้ลงประวัติการสร้างทำให้มีคนรู้จักบ้าง จึงได้มีการเช่าหากันไปในบางส่วน

ในต้นปี พ.ศ. 2550 จตุคามรามเทพได้รับความนิยมอย่างยิ่ง จนกลายเป็นกระแสในสังคมไทย จากข่าวการพระราชทานเพลิงศพของขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจมือ ปราบ ผู้ริเริ่มการจัดสร้างจตุคามรามเทพขึ้นเป็นบุคคลแรก ได้มีการสร้างจตุคามรามเทพขึ้นในวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีหลายรุ่น พระเกจิหลายองค์ปลุกเสก หลายคนพากันแย่งชิงจนเกิดเป็นเหตุให้ฆาตกรรมกัน ก็มี และผลจากกระแสนี้ส่งผลให้จตุคามรามเทพรุ่นแรกที่ผลิตออกมาในปี พ.ศ. 2530 มีราคาพุ่งไปถึงกว่า 40 ล้านบาท จากเดิมที่มีราคาเพียง 49 บาทเท่านั้น

กระแสความศรัทธาได้พุ่งทะยานขึ้นจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็น พุทธพาณิชย์ และแฟชั่นบูชาขยายวงกว้างไปทุกชนชั้น จตุคามรามเทพได้ถึงจุดความนิยมสูงสุดกลายเป็นวัตถุบูชาที่ถูกผลิตขึ้นมากมาย ใกล้หนึ่งพันรุ่นที่มีการปลุกเสกแบบรายวัน เกือบทุกวัด เกือบทุกแผงพระ และแม้แต่ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถาบัน และองค์กรต่าง ๆ นำจตุคามรามเทพมาจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ทั้งการกุศลและไม่ใช่กุศล

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มีการประเมินมูลค่าเงินหมุนเวียนของจตุคามรามเทพมีมูลค่าสูงถึง 2.2 หมื่นล้านบาท ผลักดันจีดีพีของประเทศโตขึ้น 0.1-0.2 % ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา และทำให้กรมสรรพากรพิจารณาการจัดเก็บภาษีจากการสร้างและเช่าบูชาจตุคามรามเทพด้วย

คาถาสำหรับบูชาจตุคามรามเทพ
ตั้งสมาธิให้จิตใจสงบจากนั้นท่อง ( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมามัมพุทธัสสะ) 3 จบ แล้วให้กล่าวตามบทสวดดังต่อไปนี้ "จะตุคามรามะเทวัง โพธิสัตตัง มะหาคุณัง มะหิทธิกัง อะหัง ปูเชมิ สิทธิลาโภ นิรันตะรัง นะโมพุทธายะ" ข้าพเจ้าขอบูชา ท้าวจตุคามรามเทพโพธิสัตว์ ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ มีฤทธานุภาพไพศาล ขอความสำเร็จและลาภ จงมีแก่ข้าพเจ้า เป็นนิรันดร
อ้างอิงจาก...http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E

.............    * พระวัชรสัตว์นาคปรก  *......................

เป็นพระพุทธรูปนาคปรกทรงเครื่อง ด้านหลังมีตัวนาคแผ่พังพาน เป็นพระวัชรสัตว์ในลัทธิวัชรยานของกัมพูชา คำว่า วัชรสัตว์ เป็นพระนามที่เขมรใช้เรียกพระอาทิพุทธะหรือพระมหาไวโรจนะ พระพุทธเจ้าองค์ที่ 6 ของพุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน ซึ่งศิลปเขมรนิยมสร้างออกมาในรูปแบบพระพุทธรูปนาคปรก

................ผู้สร้างออกแบบในสมัย ร.5 ท่านไม่ได้สร้างรูปเหมือนของท้าวจตุคามรามเทพ แต่ที่สร้างเป็น พระวัชรสัตว์นาคปรก  คนไม่รู้เดวก็ได้งงและเข้าใจผิดได้นะจ๊ะ...ผมว่าอะไรคล้ายๆมีเยอะแต่ถามท่านซะหน่อยใช่ท่านป่าว
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: NATACHAI ที่ กันยายน 23, 2010, 03:25:12 pm
  :yoyo003:  :yoyo0008:
วันนี้ผมได้โอนเงินทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง 30,000 บาท(สามหมื่นบาท) โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคุณหนุ่ม รายละเอียดตามเอกสารการโอนเงิน

" อิทัง ปุญญะ พลัง " ผลบุญใดที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

และข้าพเจ้า  ขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพญายมราช ขอพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา เทพเจ้าทั้งหลายและพญายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี ที่เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ผลบุญใดที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า จงมีความคล่องตัวทุกประการจงมีแก่ข้าพเจ้า และความไม่มีจงอย่าเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า ( ทั้งหลาย ) ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด

อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ ( กราบ )

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ ( กราบ )

สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ( กราบ )

.......โมทนาบุญทุกประการครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 23, 2010, 03:28:30 pm
  :yoyo003:  :yoyo0008:
วันนี้ผมได้โอนเงินทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง 30,000 บาท(สามหมื่นบาท) โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคุณหนุ่ม รายละเอียดตามเอกสารการโอนเงิน

" อิทัง ปุญญะ พลัง " ผลบุญใดที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

และข้าพเจ้า  ขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพญายมราช ขอพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา เทพเจ้าทั้งหลายและพญายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี ที่เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ผลบุญใดที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า จงมีความคล่องตัวทุกประการจงมีแก่ข้าพเจ้า และความไม่มีจงอย่าเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า ( ทั้งหลาย ) ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด

อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ ( กราบ )

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ ( กราบ )

สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ( กราบ )

.......โมทนาบุญทุกประการครับ
โมทนาสาธุครับท่าน :46:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 23, 2010, 03:42:08 pm
:39:
จตุคามรามเทพ  จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จตุคามรามเทพ หมายถึงเทพรักษาพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราชสององค์ คือ ท้าวขัดตุคาม และ ท้าวรามเทพ ซึ่งเดิมในความเชื่อของศาสนาพราหมณ์เป็นเทพชั้นสูง และมีอยู่ทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย แต่เมื่อภูมิภาคแถบอุษาคเนย์นี้รับอิทธิพลของพุทธศาสนาเข้ามา ท้าวขัดตุคาม และ ท้าวรามเทพ จึงถูกเปลี่ยนสถานะเป็นเทวดารักษาพระบรมธาตุและเปลี่ยนชื่อให้เป็นมงคลเป็น ท้าวจตุคาม และสถิตอยู่บนที่บานประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ ในปี พ.ศ. 2530 เมื่อมีการตั้งดวงเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ จึงมีการอัญเชิญจตุคามรามเทพไปสถิต ณ ที่นั้นเป็นต้นมา

ความหมายและความเชื่อ

ชาวนครศรีธรรมราชมีคติความเชื่อที่ว่า องค์จตุคาม คือ พระเสื้อเมือง จตุ หมายถึง สี่ คาม (คาม-มะ) เขตคาม หมายถึง อาณาเขตหรือบ้าน เมื่อรวมกันนัยความหมายที่มากกว่าความเป็นทิศทั้ง 4 ของบ้าน หรืออาณาเขต คือทิศทั้งสี่ซึ่งหมายถึงทิศที่มีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ดูแลอยู่ ความหมายของจตุคามจึงเป็น ตำแหน่งของผู้เป็นใหญ่ทั้งสี่ทิศมีท้าวจตุมหาราช ปกป้องคุ้มครองดูแล พระเสื้อเมืองจึงมีความหมายที่ควรเป็นตำแหน่งๆหนึ่ง เพียงแต่ปราชญ์โบราณของเมืองสมมติขึ้นเป็นท้าวจตุคาม ผู้เป็นใหญ่ใน 4 ทิศ

องค์รามเทพ คำว่า ราม มีรากฐานมาจากพระราม ที่หมายถึงพระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระมหากษัตริย์ คำว่าเทพ ก็คือเทวดา นัยความหมายคือเป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็นสมมติเทพเมื่อองค์รามเทพเป็นพระทรง เมือง คำว่าทรงเมืองพ้องกับคำว่า ครองเมือง นั่งเมือง หรือผู้ปกครองบ้านเมืองซึ่งก็คือเจ้าเมืองหรือพระมหากษัตริย์

เชื่อกันว่าเดิมนั้น องค์จตุคามรามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช มีพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช เชื่อว่ามีพระวรกายเป็นสีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า " ราชันดำแห่งทะเลใต้ " หรือมีอีกราชสมัญญานามนึงว่า " พญาพังพกาฬ " และต่อมาสำเร็จวิชาจตุคามศาสตร์ และทรงบำเพ็ญบุญเพื่อสร้างบารมีอธิษฐานจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มนุษย์ทั้งปวง
ตราประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีรูปพระบรมธาตุอยู่ตรงกลาง

แต่หากเชื่อกันว่าจตุคามรามเทพคืออดีตกษัตริย์ศรีวิชัยแล้ว ดังเช่นพระเจ้าวิษณุราชที่ ปรากฏในหลักจารึกกรุงศรีวิชัย อยู่ในราว พ.ศ. 1318 ผู้สร้างพระบรมธาตุเมืองนครฯ จะดูขัดแย้งกันเพราะ เป็นยุคสมัยที่ห่างจากพระเจ้าจันทราภาณุ ก่อนถึง 400 ปี

พระบรมธาตุปรากฏชัดว่า มีสององค์ คือองค์จตุคามกับท้าวรามเทพ แต่ภายหลังได้รวมเป็นองค์จตุคามรามเทพเพียงองค์เดียว ก็มิได้ผิดจากหลักศาสตร์ของการสร้าง เฉกเช่นการอธิบายในหลักของตรีมูรติ ของศาสนาฮินดูที่เป็นการรวมกันของมหาเทพทั้ง 3 พระองค์ ดังนั้น จตุคามรามเทพ จึงหมายถึง ดวงพระวิญญาณแห่งอดีตบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าผู้มาสถิตย์เป็นผู้คุ้มครองดูแล บ้านเมืองทั้งสี่ทิศทรงฤทธิ์อำนาจอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยบารมีธรรม 10 ประการ แห่งพระโพธิสัตว์ ผู้มีความเมตตาต่อมนุษย์ผู้ทุกนาม เป็นพระเทวราชโพธิสัตว์

จตุคามรามเทพ มีบริวารเป็นทหารกล้า 4 นาย คือ พญาชิงชัย, พญาหลวงเมือง, พญาสุขุม และพญาโหรา เป็นกำลังหลักในการปราบพราหมณ์ที่เคยปกครองเมืองอยู่ก่อน เมื่อได้บ้านเมืองแล้ว ก็ได้สร้างพระบรมธาตุ สถาปนาเมือง 12 นักษัตร หรือกรุงศรีธรรมาโศกราช ฝังรากฐานพระพุทธศาสนาอย่างถาวร จนได้รับเทิดพระเกียรติว่า พญาศรีธรรมาโศกราช หรือ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

ปัจจุบัน จตุคามรามเทพ ได้รับความนับถืออย่างกว้างขวาง โดยเชื่อว่าทรงฤทธานุภาพในทุก ๆ ด้าน ตามจารึกของชาวศรีวิชัยได้บอกว่า " มีอานุภาพดุจดังพระอาทิตย์และพระจันทร์ ที่ขจัดความมืดมัวในโลก " การขออธิษฐานจากพระองค์นั้นทำได้โดยมีเงื่อนไข 3 ประการ

   1. อธิษฐานขอในสิ่งที่เป็นไปได้ โดยไม่ขัดต่อศีลธรรม
   2. เมื่อได้รับสิ่งที่หวังแล้ว ต้องรักษาสัจจะที่ได้ให้ไว้กับพระองค์
   3. ควรจะสร้างกุศลกรรมถวายแด่องค์จตุคามรามเทพ

แต่ที่สำคัญ อย่าลำพังเพียงอธิษฐาน ต้องสร้างกุศลกรรมให้แก่ตนเองให้ครบทุกด้านด้วย คือ ให้ทาน รักษาศีล และบำเพ็ญภาวนา

ภาพลักษณ์ของจตุคามรามเทพ โดยมากจะปรากฏเป็นองค์เทพบุตรในท่านั่ง มี 4 กร ถืออาวุธต่าง ๆ และนายทหาร 4 นาย นั้น จะปรากฏในรูปของหนุมาน 4 กร ถืออาวุธในท่วงท่าต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เป็นไปตามศิลปะศรีวิชัยที่มักสร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาแทนความหมายต่าง ๆ

ประวัติ
ในการจัดสร้างรูปเคารพขององค์จตุคามรามเทพ เมื่อปี พ.ศ. 2530 เป็นครั้งแรกในรูปแบบพระผงสุริยัน-จันทรา ดวงตราพญาราหู มีแวดล้อมด้วยพระราหู 8 ตน ตรงกลางมีรูปของเทวรูปประทับนั่ง 2 เศียร 4 กร ทรงเครื่องอาวุธ และผู้สร้างในสมัยนั้นก็ให้ความหมายไว้ว่าคือรูปจำลองสมมติของพระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร เป็นตัวแทนขององค์จตุคามรามเทพกษัตริย์แห่งศรีวิชัย

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2538 ทางโหราศาสตร์เกิดสุริยคราสพาดผ่านประเทศไทย ซึ่งเกิดกระแสตื่นตัวไปทั่วประเทศในเรื่องของพระราหูกินเมือง ประชาชนต่างก็หาวัตถุมงคลหาเครื่องรางของขลังมาแขวนติดตัวเพื่อแก้เคล็ดและ สะเดาะเคราห์ ประกอบกับนิตยสารพระเครื่องกรุงสยาม ได้ลงประวัติการสร้างทำให้มีคนรู้จักบ้าง จึงได้มีการเช่าหากันไปในบางส่วน

ในต้นปี พ.ศ. 2550 จตุคามรามเทพได้รับความนิยมอย่างยิ่ง จนกลายเป็นกระแสในสังคมไทย จากข่าวการพระราชทานเพลิงศพของขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจมือ ปราบ ผู้ริเริ่มการจัดสร้างจตุคามรามเทพขึ้นเป็นบุคคลแรก ได้มีการสร้างจตุคามรามเทพขึ้นในวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีหลายรุ่น พระเกจิหลายองค์ปลุกเสก หลายคนพากันแย่งชิงจนเกิดเป็นเหตุให้ฆาตกรรมกัน ก็มี และผลจากกระแสนี้ส่งผลให้จตุคามรามเทพรุ่นแรกที่ผลิตออกมาในปี พ.ศ. 2530 มีราคาพุ่งไปถึงกว่า 40 ล้านบาท จากเดิมที่มีราคาเพียง 49 บาทเท่านั้น

กระแสความศรัทธาได้พุ่งทะยานขึ้นจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็น พุทธพาณิชย์ และแฟชั่นบูชาขยายวงกว้างไปทุกชนชั้น จตุคามรามเทพได้ถึงจุดความนิยมสูงสุดกลายเป็นวัตถุบูชาที่ถูกผลิตขึ้นมากมาย ใกล้หนึ่งพันรุ่นที่มีการปลุกเสกแบบรายวัน เกือบทุกวัด เกือบทุกแผงพระ และแม้แต่ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถาบัน และองค์กรต่าง ๆ นำจตุคามรามเทพมาจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ทั้งการกุศลและไม่ใช่กุศล

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มีการประเมินมูลค่าเงินหมุนเวียนของจตุคามรามเทพมีมูลค่าสูงถึง 2.2 หมื่นล้านบาท ผลักดันจีดีพีของประเทศโตขึ้น 0.1-0.2 % ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา และทำให้กรมสรรพากรพิจารณาการจัดเก็บภาษีจากการสร้างและเช่าบูชาจตุคามรามเทพด้วย

คาถาสำหรับบูชาจตุคามรามเทพ
ตั้งสมาธิให้จิตใจสงบจากนั้นท่อง ( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมามัมพุทธัสสะ) 3 จบ แล้วให้กล่าวตามบทสวดดังต่อไปนี้ "จะตุคามรามะเทวัง โพธิสัตตัง มะหาคุณัง มะหิทธิกัง อะหัง ปูเชมิ สิทธิลาโภ นิรันตะรัง นะโมพุทธายะ" ข้าพเจ้าขอบูชา ท้าวจตุคามรามเทพโพธิสัตว์ ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ มีฤทธานุภาพไพศาล ขอความสำเร็จและลาภ จงมีแก่ข้าพเจ้า เป็นนิรันดร
อ้างอิงจาก...http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E

.............    * พระวัชรสัตว์นาคปรก  *......................

เป็นพระพุทธรูปนาคปรกทรงเครื่อง ด้านหลังมีตัวนาคแผ่พังพาน เป็นพระวัชรสัตว์ในลัทธิวัชรยานของกัมพูชา คำว่า วัชรสัตว์ เป็นพระนามที่เขมรใช้เรียกพระอาทิพุทธะหรือพระมหาไวโรจนะ พระพุทธเจ้าองค์ที่ 6 ของพุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน ซึ่งศิลปเขมรนิยมสร้างออกมาในรูปแบบพระพุทธรูปนาคปรก

................ผู้สร้างออกแบบในสมัย ร.5 ท่านไม่ได้สร้างรูปเหมือนของท้าวจตุคามรามเทพ แต่ที่สร้างเป็น พระวัชรสัตว์นาคปรก  คนไม่รู้เดวก็ได้งงและเข้าใจผิดได้นะจ๊ะ...ผมว่าอะไรคล้ายๆมีเยอะแต่ถามท่านซะหน่อยใช่ท่านป่าว
นับถือครับ ...ข้อความสำคัญๆสุดท้ายนะ ... สุดยอด!
เรียนท่าน NATACHAI
งั้นที่ถูกต้อง เราควรอาราธนาบูชา หรือกล่าวพระนามท่านว่าอย่างไรครับผม
พระวัชรสัตว์นาคปรกหรือพระอาทิพุทธะหรือพระมหาไวโรจนะ
หรือพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 6 นั้น ใช่พระองค์เดียวกับพระมังคละพุทธเจ้าหรือไม่
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: NATACHAI ที่ กันยายน 23, 2010, 06:22:31 pm

เรียนท่าน NATACHAI
งั้นที่ถูกต้อง เราควรอาราธนาบูชา หรือกล่าวพระนามท่านว่าอย่างไรครับผม
พระวัชรสัตว์นาคปรกหรือพระอาทิพุทธะหรือพระมหาไวโรจนะ
หรือพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 6 นั้น ใช่พระองค์เดียวกับพระมังคละพุทธเจ้าหรือไม่
[/quote]

พระฯ ท่านบอกว่า...ไม่ใช่ครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 24, 2010, 08:31:46 am

เรียนท่าน NATACHAI
งั้นที่ถูกต้อง เราควรอาราธนาบูชา หรือกล่าวพระนามท่านว่าอย่างไรครับผม
พระวัชรสัตว์นาคปรกหรือพระอาทิพุทธะหรือพระมหาไวโรจนะ
หรือพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 6 นั้น ใช่พระองค์เดียวกับพระมังคละพุทธเจ้าหรือไม่

พระฯ ท่านบอกว่า...ไม่ใช่ครับ
[/quote]
ขอบคุณมากครับ
เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า หากท่านเปิดเผยความจริงมากเกินไปจะมีทั้ง+และ-กับคนทั่วๆไป
แต่สำหรับผม ยินดีรับฟังและจะสืบค้นให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ  :46:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 24, 2010, 09:44:16 am
สวัสดีเช้าวันศุกร์แห่งชาติเช่นกันครับ

สำหรับงานใหญ่ปลายปีนี้ ผมจะเริ่มเตรียมงานไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไว้ผมจัดเตรียมรายละเอียด แล้วจะแจ้งให้ทราบกันอีกครั้ง

.

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 26, 2010, 08:25:24 am

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ somlatri อ่านข้อความ
เรียน คุณ Nongnoo ครับ
ผมกราบขอความรู้ด้วยครับว่า พระพิมพ์สมเด็จหลังลายดอกพิกุลนั้น ท่านใดสร้าง และท่านใดเป็นผู้เสกครับ คือว่าผมได้รับความเมตตาจากพี่สิทธิพรมา 1 องค์ และได้มีวาสนาอารธนาบูชามาได้เพิ่มอีกครับ ขอบพระคุณในวิทยาทานล่วงหน้าครับ
คงภัค
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ somlatri อ่านข้อความ
น้อง ผู้หญิงในรูป เป็นลูกสาวผมเองครับ ตอนนี้เรียนอยู่ปี2 มศว ครับ เธอได้รับความเมตตาจากปู่ประถมให้พระพิมพ์เมตตาสามโลก และพระพิมพ์นางพญากรุใต้ฐานชุกชีครับ ตอนนี้ลูกสาวผมได้บูชาพระพิมพ์เมตตาสามโลกติดตัวอยู่ครับ
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo อ่านข้อความ
My pleasure krub but for this question I would like khun sithiphong will answer better than me .I just tell that very good krub .(sorry I use iPhone answer)
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: อ่านข้อความ
มาปูเสื่อรอฟังด้วยคนครับ
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: อ่านข้อความ
ชื่อพิมพ์มีความไพเราะเสนาะหูมากครับ ทำยังไงถึงจะได้มามั่งนะ...หุ...หุ..
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: อ่านข้อความ
ช่วยแปลให้ครับ..

ด้วยความยินดีครับ แต่คุณสิทธิพงศ์สามารถตอบคำถามนี้ได้ดีกว่าผม ซึ่งในเบื้องต้นผมสามารถกล่าวได้ว่าดีมากครับ (ขอโทษด้วยครับที่ผมเขียนตอบด้วยภาษาอังกฤษ)

-----------------------------------------------------------

sithiphong

ประเด็นที่ผมไม่ได้ตอบ หลังจากสอบถามผม มาทาง Email แล้ว

1.ในพระวังหน้า วังหลวง หลวงปู่เทพโลกอุดร พญาเหล็ก และอื่นๆ ยังไม่ถูกต้อง ซึ่งการที่ขึ้นความรู้ต่างๆ ต้องพิจารณาให้ถูกต้อง

โดยส่วนตัวผม องค์ความรู้ที่ได้มานั้น ต้องมาจาก จากท่านอาจารย์ประถม และครูบาอาจารย์ผมทั้งฆารวาสและพระภิกษุ ซึ่งผมเชื่อว่า ยังไม่มีคณะไหน ที่มีองค์ความรู้ที่รู้จริงได้ขนาดนี้


2.ในพระวังหน้า วังหลวง หลวงปู่เทพโลกอุดร พญาเหล็ก และอื่นๆ มีผู้ที่คัดลอกในเรื่องขององค์ความรู้ ท่านอาจารย์ประถม โดยไม่แจ้งว่า ข้อมูลอ้างอิง ได้มาจากไหน แล้วนำไปเพิ่มเติม ซึ่งความรู้ที่เพิ่มเติมก็ไม่ใช่ความรู้ที่ถูกต้อง มั่วมา นั่นก็คือ สันยาสี ในเรื่องนี้ ผมเคยนำมาลงในกระทู้พระวังหน้าฯนี้แล้ว


3.ในพระวังหน้า วังหลวง หลวงปู่เทพโลกอุดร พญาเหล็ก และอื่นๆ มีเรื่องของ zeedflower หรือ โอม วังหลวง ซึ่งผมได้คัดออกจาก PaLungJit.com > กลุ่มชมรม > พระเครื่อง-วัตถุมงคล > พระวังหน้า

และในบล็อค รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว ที่ไปโฆษณา ตาม Profile ของสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า ว่า มาชมได้นะครับฟรีตลอดงาน ไม่เสียตังค์ แล้วก็สบายใจไม่มีใครบังคับ ลิงค์นี้เลย >>ทั้งสมเด็จวังหน้าและวัดพระแก้วความรู้เพียบเชิญจ่ะ >>>>>>> รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว และด้านหน้า บอกว่า เป็นสมเด็จที่งดงามไม่แพ้วัดไหนๆ อยู่ที่การเรียนรู้ไม่ได้อยู่ที่บุญวาสนา..เวปนี้เป็นของเพื่อนๆบนโลกใบนี้ ทุกคน แต่ในความเป็นจริง พระวังหน้า ขึ้นอยู่กับ " วาสนา และ บารมี " ครับ

และ ในบล็อค รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว มีทั้งของจริง และ ของเก๊

แถมผมยังไม่เห็นว่า รุ่นไหน หรือ พิมพ์ไหน ในบล็อค รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว จะเป็นรุ่นที่สุดยอด เห็นแต่รุ่นที่ธรรมดา เท่านั้น

หวังว่า คงเข้าใจที่ผมไม่ได้ตอบไป เนื่องจาก เดี๋ยวจะมีผู้ไม่ประสงค์ดี นำข้อมูลผม(ที่ผมได้จากครูบาอาจารย์) นำไปยำกับข้อมูลเก๊ อีก ครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2033.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 26, 2010, 08:27:23 am

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ somlatri อ่านข้อความ
ขอบพระคุณครับ.................................
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ somlatri
เรียน คุณ Nongnoo ครับ
ผมกราบขอความรู้ด้วยครับว่า พระพิมพ์สมเด็จหลังลายดอกพิกุลนั้น ท่านใดสร้าง และท่านใดเป็นผู้เสกครับ คือว่าผมได้รับความเมตตาจากพี่สิทธิพรมา 1 องค์ และได้มีวาสนาอารธนาบูชามาได้เพิ่มอีกครับ ขอบพระคุณในวิทยาทานล่วงหน้าครับ
คงภัค

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ somlatri
น้องผู้หญิงในรูป เป็นลูกสาวผมเองครับ ตอนนี้เรียนอยู่ปี2 มศว ครับ เธอได้รับความเมตตาจากปู่ประถมให้พระพิมพ์เมตตาสามโลก และพระพิมพ์นางพญากรุใต้ฐานชุกชีครับ ตอนนี้ลูกสาวผมได้บูชาพระพิมพ์เมตตาสามโลกติดตัวอยู่ครับ

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo
My pleasure krub but for this question I would like khun sithiphong will answer better than me .I just tell that very good krub .(sorry I use iPhone answer)

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
มาปูเสื่อรอฟังด้วยคนครับ

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
ชื่อพิมพ์มีความไพเราะเสนาะหูมากครับ ทำยังไงถึงจะได้มามั่งนะ...หุ...หุ..

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
ช่วยแปลให้ครับ..

ด้วยความยินดีครับ แต่คุณสิทธิพงศ์สามารถตอบคำถามนี้ได้ดีกว่าผม ซึ่งในเบื้องต้นผมสามารถกล่าวได้ว่าดีมากครับ (ขอโทษด้วยครับที่ผมเขียนตอบด้วยภาษาอังกฤษ)




อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ประเด็นที่ผมไม่ได้ตอบ หลังจากสอบถามผม มาทาง Email แล้ว

1.ในพระวังหน้า วังหลวง หลวงปู่เทพโลกอุดร พญาเหล็ก และอื่นๆ ยังไม่ถูกต้อง ซึ่งการที่ขึ้นความรู้ต่างๆ ต้องพิจารณาให้ถูกต้อง

โดยส่วนตัวผม องค์ความรู้ที่ได้มานั้น ต้องมาจาก จากท่านอาจารย์ประถม และครูบาอาจารย์ผมทั้งฆารวาสและพระภิกษุ ซึ่งผมเชื่อว่า ยังไม่มีคณะไหน ที่มีองค์ความรู้ที่รู้จริงได้ขนาดนี้


2.ในพระวังหน้า วังหลวง หลวงปู่เทพโลกอุดร พญาเหล็ก และอื่นๆ มีผู้ที่คัดลอกในเรื่องขององค์ความรู้ ท่านอาจารย์ประถม โดยไม่แจ้งว่า ข้อมูลอ้างอิง ได้มาจากไหน แล้วนำไปเพิ่มเติม ซึ่งความรู้ที่เพิ่มเติมก็ไม่ใช่ความรู้ที่ถูกต้อง มั่วมา นั่นก็คือ สันยาสี ในเรื่องนี้ ผมเคยนำมาลงในกระทู้พระวังหน้าฯนี้แล้ว


3.ในพระวังหน้า วังหลวง หลวงปู่เทพโลกอุดร พญาเหล็ก และอื่นๆ มีเรื่องของ zeedflower หรือ โอม วังหลวง ซึ่งผมได้คัดออกจาก PaLungJit.com > กลุ่มชมรม > พระเครื่อง-วัตถุมงคล > พระวังหน้า

และในบล็อค รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว ที่ไปโฆษณา ตาม Profile ของสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า ว่า มาชมได้นะครับฟรีตลอดงาน ไม่เสียตังค์ แล้วก็สบายใจไม่มีใครบังคับ ลิงค์นี้เลย >>ทั้งสมเด็จวังหน้าและวัดพระแก้วความรู้เพียบเชิญจ่ะ >>>>>>> รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว และด้านหน้า บอกว่า เป็นสมเด็จที่งดงามไม่แพ้วัดไหนๆ อยู่ที่การเรียนรู้ไม่ได้อยู่ที่บุญวาสนา..เวปนี้เป็นของเพื่อนๆบนโลกใบนี้ ทุกคน แต่ในความเป็นจริง พระวังหน้า ขึ้นอยู่กับ " วาสนา และ บารมี " ครับ

และ ในบล็อค รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว มีทั้งของจริง และ ของเก๊

แถมผมยังไม่เห็นว่า รุ่นไหน หรือ พิมพ์ไหน ในบล็อค รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว จะเป็นรุ่นที่สุดยอด เห็นแต่รุ่นที่ธรรมดา เท่านั้น

หวังว่า คงเข้าใจที่ผมไม่ได้ตอบไป เนื่องจาก เดี๋ยวจะมีผู้ไม่ประสงค์ดี นำข้อมูลผม(ที่ผมได้จากครูบาอาจารย์) นำไปยำกับข้อมูลเก๊ อีก ครับ

--------------------------------------------------------------------

sithiphong
  #40659

ผมเองมีองค์ความรู้ เมื่อเทียบกับครูบาอาจารย์ผม ผมรู้้เพียง 1 - 2% เท่านั้น

แต่

zeedflower หรือ โอม วังหลวง และ สันยาสี มีความรู้เรื่องพระวังหน้า ยังสู้ผมไม่ได้ ยังห่างอีกเยอะครับ

ผมเอง เห็นพระวังหน้า มาไม่น้อยกว่า แสนองค์ครับ


.

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2033.html
.


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 26, 2010, 08:33:50 am
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน )     
sithiphong, somlatri, ชวภณ ศ.+, ปฐม, เอ๋เชียงใหม่

------------

สำหรับ โอม วังหลวง ยังดูแท้ เป็นเก๊ ดูเก๊ เป็นแท้ ครับ


อยากให้คุณอ๊อด ระวังเรื่องข้อมูลไว้ให้มากๆๆๆๆๆๆ

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ กันยายน 28, 2010, 11:08:04 am

เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมาผมได้จัดเตรียม
1. พระบรมฯสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามสมณโคดม
2. พระธาตุพระอรหันต์ประกอบด้วย พระธาตุพระสิวลีเถระเจ้า,พระอุบาลีเถระเจ้า
3. พระธาตุคณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา มี หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า,หลวงปู่อุตตระเถระเจ้า,หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า,หลวงปู่พระมูนิยะเถระเจ้า(อิเกสาโร),หลวงปู่พระฌานิยะเถระเจ้า,หลวงปู่ภูริยะเถระเจ้า,หลวงปู่แจ้งฌาณเถระเจ้า,หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ
4. พระพิมพ์วังหน้าพร้อมประวัติ

เพื่อมอบให้เจ้าหน้าที่ปลัดอำเภอศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อัญเชิญไปวัดในต่างๆในเขตรับผิดชอบ รวมทั้งสิ้น 36 ชุด

และเมื่อบ่ายวันเสาร์ผมได้มอบอีก 1 ชุดให้คุณลุงผมได้ถวาย รษก.เจ้าอาวาสวัดสันเนินดินแดง ต.วังชะภู อ.ขาณุวลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ในวาระฌาปนกิจศพบุตรชาย (น้องชายผม) ที่พึ่งจะได้รับตำแหน่งรองปลัดฯ - น่าเสียดายยิ่ง

โมทนาสาธุบุญร่วมกันครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1151728&stc=1&thumb=1&d=1285553703)(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1151729&stc=1&thumb=1&d=1285553703)(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1151730&stc=1&thumb=1&d=1285553703)(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1151732&stc=1&thumb=1&d=1285553703)
       

   
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 03, 2010, 12:05:48 pm
เรื่องของพระกริ่งปวเรศ
บาตรน้ำมนต์หลวงปู่กรมพระยาปวรศ
และขันสาครหลวงปู่กรมพระยาปวเรศ

สำหรับพระกริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริงซิลเวอร์ และ เนื้อทองคำ

ท่านผู้ให้สร้างพระกริ่งปวเรศ เป็นไวยาวัจกร และ กลุ่มศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่กรมพระยาปวเรศ

ปีที่สร้างคือ ปี พ.ศ.2434 สร้างที่ทวีปยุโรป (ประเทศฝรั่งเศษ อาจจะมีประเทศอังกฤษ และ ประเทศอิตาลี ด้วย)

เรื่องของเนื้อ จะประกอบไปด้วยเนื้อเงินสเตอร์ริงเป็นหลักใหญ่ครับ



.



.



.

พระกริ่งปวเรศ เนื้อทองคำ ที่ผมเคยนำไปสแกนมา
องค์นี้แท้ครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1161480&stc=1&d=1286080317)

ทองคำ 65.30 %
เงิน 16.80 %
ทองแดง 17.80 %

น้ำหนัก 28.77 กรัม


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1161481&stc=1&d=1286080317)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1161482&stc=1&d=1286080317)




สัมฤทธิ์ตอนที่ 1
คอลัมน์ ชมรมพระเครื่อง

โดย แทน ท่าพระจันทร์

สวัสดี ครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน มีท่านผู้อ่านได้ถามมาถึงเรื่องเนื้อโลหะผสมและเนื้อสัมฤทธิ์กันมาก ซึ่งความจริงผมเองเคยได้เขียนถึงโลหะสัมฤทธิ์ตามสูตรโบราณไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่บางท่านยังไม่ได้อ่านจึงขอให้เขียนถึงอีกครั้ง จึงได้นำเอาของเก่ามาเล่ากันใหม่ครับ แต่จะไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วทุกตัวอักษรเพราะผมไม่ได้เก็บต้นฉบับไว้ เขียนใหม่กันสดๆ แต่สูตรของโลหะยังคงเดิมตามแบบโบราณทุกประการ โดยขอนำข้อความบางตอนที่ท่านอาจารย์ ตรียัมปวายได้เคยเขียนไว้มาให้อ่านกันครับ

คำว่าสัมฤทธิ์ตาม พจนานุกรม หมายความว่า น. ความสำเร็จ ถ้าหมายถึงโลหะก็จะหมายถึงโลหะเจือชนิดหนึ่งประกอบด้วยทองแดงกับดีบุก ทองสัมฤทธิ์หรือสัมฤทธิ์ ก็เรียก เขียนว่าสำริดก็มี

โลหะผสมที่นำ มาสร้างพระพุทธรูปหรือพระรูปหล่อลอยองค์ โดยมากใช้โลหะธาตุทองแดงผสมกับดีบุกและโลหะธาตุอื่นๆ แล้วแต่จะผสมกันไปตามสูตรของใครของมัน และในปัจจุบันเรียกกันว่า "เนื้อสัมฤทธิ์" แต่ถ้าจะพูดถึงโลหะสัมฤทธิ์ตามสูตรโบราณแท้ๆ นั้นเขามีหลักมีเกณฑ์ในการผสมโลหะ และเพื่อให้เป็นสิริมงคล จึงได้ใช้คำเรียกโลหะผสมชนิดนี้ว่า "สัมฤทธิ์" ซึ่งหมายถึงการสัมฤทธิ์ผล หรือสัมฤทธิ์ประโยชน์ตามความปรารถนา ทั้งนี้หมายความถึง ความสำเร็จนับแต่เริ่มต้นในการผสมโลหะตามสูตร การลงอักขระเลขยันต์ให้สำเร็จเป็นอิทธิวัตถุ บังเกิดเป็นมงคลและความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และในประการสุดท้ายเมื่อนำอิทธิวัตถุสำเร็จไปใช้แล้ว ก็ย่อมจะอำนวยให้สำเร็จประโยชน์ตามที่ปรารถนาได้ อาจสรุปได้ว่า แม้เพียงแต่การผสมโลหะต่างๆ ตามมูลสูตร แผ่เป็นแผ่นลงอักขระเลขยันต์ แล้วหล่อหลอมรวมกัน ก็ถือได้ว่าเป็นของวิเศษสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องรางของขลังได้ทันที ฉะนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า โลหะสัมฤทธิ์เป็นมงคลโลหะที่เหมาะสมที่สุดแก่การที่จะนำมาสร้างเป็นองค์พระ ปฏิมา

โลหะสัมฤทธิ์ตามโบราณ ซึ่งใช้โลหะธาตุบริสุทธิ์ต่างๆ ตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไปและอย่างมากที่สุดจะไม่เกิน 9 ชนิด หล่อหลอมผสมกันตามอัตราส่วนสำเร็จขึ้นมาเป็นโลหะชนิดใหม่เรียกว่า "สัมฤทธิ์" อย่างไรก็ดีโลหะสัมฤทธิ์จะต้องใช้โลหะตระกูลสูง 2 ชนิด คือ ทองคำและเงิน เป็นส่วนผสมหลักอยู่ด้วยเสมอ มิฉะนั้นจะไม่ถือว่าเป็นโลหะสัมฤทธิ์ นอกจากนี้จะต้องมีโลหะยืนโรงอีกชนิดหนึ่ง คือทองแดง ซึ่งจะต้องใช้มากเพื่อให้ได้ปริมาณ

ตระกูลของสัมฤทธิ์ที่ถูกต้องตามสูตรโบราณมีอยู่ 5 ตระกูล คือ สัมฤทธิ์ผล สัมฤทธิ์โชค สัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์คุณ และสัมฤทธิ์เดช รวมเป็นสัมฤทธิ์ 5 ตระกูล อันมีความพิสดารดังต่อไปนี้

1. สัมฤทธิ์ผล คือสัมฤทธิ์แดง หรือ ตริยโลหะ มีมงคลความหมายถึง พระรัตนตรัยเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อสาม ผสมด้วยโลหะธาตุ 3 ชนิด คือ ทองแดง เป็นส่วนใหญ่และเจือด้วยเงินกับทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะแดงคล้ายนาก แต่มีผิวเจือด้วยวรรณะคล้ำๆ คล้ายสีมะขามเปียก โบราณถือว่าเป็นมงคลวัตถุ อำนวยผลนานาประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเมตตามหานิยม พระพุทธรูปสมัยอู่ทองโดยเฉพาะพระพุทธรูปอู่ทองหน้าแก่มักสร้างด้วยเนื้อนี้

2. สัมฤทธิ์โชค คือสัมฤทธิ์เหลือง หรือปัญจโลหะ เป็นโบราณนิยามหมายถึงเบญจขันธ์ (ขันธ์ 5) คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อห้า ได้แก่ ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี เงิน ทองคำ มีวรรณะเหลืองคล้ายเนื้อกลองมโหระทึก หรือขันลงหิน มีแววนกยูงภายในเนื้อ เป็นสัมฤทธิ์ที่ให้คุณหนักไปทางด้านลาภผล กับความสำเร็จ พระพุทธรูปสกุลช่างสุโขทัยบางยุคและพระเชียงแสน พระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราชแพ บางรุ่น และพระกริ่งพระชัยวัฒน์ของท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์บางรุ่นก็สร้างด้วยเนื้อนี้

วันนี้หมดหน้ากระดาษพอดี พรุ่งนี้ผมจะเล่าต่อเรื่องเนื้อสัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์คุณและสัมฤทธิ์เดชจนจบครับ

ด้วยความจริงใจ

แทน ท่าพระจันทร์


จากนสพ ข่าวสด




สัมฤทธิ์ตอนที่ 2
คอลัมน์ ชมรมพระเครื่อง
แทน ท่าพระจันทร์

สวัสดี ครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เราก็มาคุยเรื่องของโลหะเนื้อสัมฤทธิ์กันต่อ เมื่อวันก่อนก็ได้คุยกันถึงสัมฤทธิ์ผล และสัมฤทธิ์โชคกันไปแล้ว สัมฤทธิ์ที่เหลืออีก 3 เนื้อก็คือสัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์คุณ และสัมฤทธิ์เดช มาว่ากันต่อเลยนะครับ

3. สัมฤทธิ์ศักดิ์ คือสัมฤทธิ์ขาว หรือสัตตโลหะ เป็นมงคลนามหมายถึง โพชฌงค์ 7 คือ องค์ธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ มี 7 ประการ ได้แก่ สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ และอุเบกขา สัมฤทธิ์ศักดิ์เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเจ็ด ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว เงิน และทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะหม่นคล้ำน้อยๆ แต่มีแวววรรณะขาวผสมผสานอยู่ นับถือกันว่าอำนวยผลในด้านอำนาจ มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด

4. สัมฤทธิ์คุณ คือสัมฤทธิ์เขียว หรือนวโลหะ หมายถึงนัยของธรรมอันสูงสุดในพระศาสนา อันได้แก่ นวโลกุตรธรรม อันมี มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 สัมฤทธิ์คุณเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดช ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว ชิน จ้าวน้ำเงิน เงิน และทองคำ แต่สัมฤทธิ์ตระกูลนี้แก่ส่วนผสมของเนื้อเงินมากกว่าธรรมดา ฉะนั้น เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน แต่ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะถูกไอเหงื่อ จะมีวรรณะคล้ำเจือเขียวเตยหม่นแกมเหลืองอ่อนคล้ำมีแววขาวโดยตลอดเนื้อ สัมฤทธิ์ชนิดนี้อำนวยคุณวิเศษเช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดชทุกประการ

5. สัมฤทธิ์เดช คือสัมฤทธิ์ดำ หรือนวโลหะ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์คุณ แต่มีสัดส่วนการผสมได้เกณฑ์ถูกต้องตามมูลสูตรมากที่สุด ดังนั้นภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะต้องไอเหงื่อ จะดำสนิท ประหนึ่งนิลดำ เรียกกันว่า "สัมฤทธิ์เนื้อกลับ" โบราณถือว่าสัมฤทธิ์นวโลหะทั้ง 2 ประเภทนี้ เป็นสัมฤทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด หรือเป็นยอดของสัมฤทธิ์ อำนวยผลในด้านมหาอุตม์อันสูงส่ง คืออำนาจตะบะเดชะ มหานิยม ลาภผล ความสำเร็จ คงกระพัน แคล้วคลาด ทุกประการ สูตรผสมเนื้อสัมฤทธิ์เดช หรือนวโลหะ ที่เป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ยุคกรุงศรีอยุธยา ตกทอดมาอยู่กับ สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพนฯ พระพุฒาจารย์มา ครั้งยังเป็นพระมงคลทิพยะมุนี วัดจักรวรรดิฯ และสมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ ครั้งยังเป็นพระเทพโมลีตามลำดับ เกณฑ์อัตราส่วนผสมของโลหะทั้ง 9 ชนิด มีดังนี้

1) ชิน หนัก 1 บาท

2) จ้าวน้ำเงิน หนัก 2 บาท

3) เหล็กละลายตัว หนัก 3 บาท

4) ตะกั่วเถื่อน หนัก 4 บาท

5) ปรอท หนัก 5 บาท

6) สังกะสี หนัก 6 บาท

7) บริสุทธิ์ (ทองแดงเถื่อน) หนัก 7 บาท

8) เงิน หนัก 8 บาท

9) ทองคำ หนัก 9 บาท

เนื้อ ทองสัมฤทธิ์เดชนี้ เราจะเห็นได้ว่า ส่วนผสมใช้ทองคำมากกว่าโลหะอื่นๆ ซึ่งหนักถึง 9 บาท จึงจะได้น้ำหนักของเนื้อสัมฤทธิ์เดชเพียง 45 บาทเท่านั้น ซึ่งก็จะสร้างเป็นองค์พระไม่ได้มากนัก ในปัจจุบันจึงไม่มีใครกล้าทำเนื้อทองสัมฤทธิ์เดช ซึ่งเป็นนวโลหะจริงๆ ตามสูตรโบราณเนื่องจากจะสิ้นเปลืองมาก


การสร้างพระเครื่องและ เหรียญในปัจจุบันนี้ได้ทำให้คนเข้าใจผิดกันมาก โดยเรียกโลหะผสมชนิดเนื้ออ่อนๆ ชนิดหนึ่งว่าเป็นเนื้อนวโลหะ และเรียกโลหะผสมชนิดเนื้อกลับว่า เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นการตรงกันข้าม เพราะคำว่านวโลหะ หมายถึงเนื้อทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้าตามแบบโบราณเท่านั้น
ครับ เรื่องของเนื้อทองสัมฤทธิ์ก็มีเท่าที่เล่ามานี้แหละครับ ส่วนเนื้อโลหะอื่นๆ ที่นำมาสร้างพระเครื่องก็ยังมีอีกมาก เช่นเนื้อชิน เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ และเนื้ออัลปาก้าเป็นต้น ซึ่งถ้ามีโอกาสก็ค่อยมาเล่าสู่กันฟังใหม่นะครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อนครับ

ด้วยความจริงใจ



แทน ท่าพระจันทร์


ที่มา นสพ ข่าวสด






.
 (http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/lofiversion/index.php?t1170.html)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 09:26:49 am
01-10-2010, 04:58 PM    #41020 
sithiphong
สมาชิก
 
 
 

วันที่สมัคร: Dec 2005
สถานที่: ชมรมรักษ์พระวังหน้า
ข้อความ: 37,926
Groans: 129
Groaned at 132 Times in 83 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 25,790
ได้รับอนุโมทนา 237,465 ครั้ง ใน 31,970 โพส
พลังการให้คะแนน: 16484
 ที่มา ยังไม่ได้รับเงินคืนจากคุณยายผีป่า

เมื่อวานนี้, 09:35 AM  #177 
มันตรัย
สมาชิก

 ครับ

เห็นเรื่องยาวเป็นรามเกียรต์ เลยเข้ามาอ่านมาชม ใครมีเรื่องตอนแรกๆส่งลิงค์ให้อ่านหน่อยซิครับ แต่ที่น่าแปลก ตอนที่ผมรบกับพระสมเด็จมือผีวังหน้า คุณยายฯออกมาช่วยรบเต็มที่ หากเป็นทหารก็ถือว่าเป็นทัพหน้า บาดเจ็บแผลยังไม่แห้งดี แต่ตอนนี้พวกที่คุณยายเคยข่วยรบ ไปไหนกันหมดล่ะ ไหงปล่อยให้คุณยายฯที่รัก ผจญภัยตัวคนเดียวลำพัง ไม่แมนๆ
 




เมื่อวานนี้, 10:30 AM  #178 
กำธร นครปฐม
สมาชิก


 อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มันตรัย 
เห็นเรื่องยาวเป็นรามเกียรต์ เลยเข้ามาอ่านมาชม ใครมีเรื่องตอนแรกๆส่งลิงค์ให้อ่านหน่อยซิครับ แต่ที่น่าแปลก ตอนที่ผมรบกับพระสมเด็จมือผีวังหน้า คุณยายฯออกมาช่วยรบเต็มที่ หากเป็นทหารก็ถือว่าเป็นทัพหน้า บาดเจ็บแผลยังไม่แห้งดี แต่ตอนนี้พวกที่คุณยายเคยข่วยรบ ไปไหนกันหมดล่ะ ไหงปล่อยให้คุณยายฯที่รัก ผจญภัยตัวคนเดียวลำพัง ไม่แมนๆ
 
////////////////////////////////
ธรรมดาของกองทัพที่ใกล้จะแตกแล้ว ย่อมจะมีทหารหนีเอาตัวรอดเป็นธรรมดาครับ คุณมันตรัย

 


เมื่อวานนี้, 11:29 AM  #180 
joni_buddhist
สมาชิก

 

วันที่สมัคร: Sep 2005
สถานที่: 35 ถนนเจริญกรุง55 ยานนาวา สาทร กทม.10120
อายุ: 29
ข้อความ: 8,915
Groans: 7
Groaned at 32 Times in 30 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 115
ได้รับอนุโมทนา 79,427 ครั้ง ใน 9,761 โพส
พลังการให้คะแนน: 5823


 อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มันตรัย 
เห็นเรื่องยาวเป็นรามเกียรต์ เลยเข้ามาอ่านมาชม ใครมีเรื่องตอนแรกๆส่งลิงค์ให้อ่านหน่อยซิครับ แต่ที่น่าแปลก ตอนที่ผมรบกับพระสมเด็จมือผีวังหน้า คุณยายฯออกมาช่วยรบเต็มที่ หากเป็นทหารก็ถือว่าเป็นทัพหน้า บาดเจ็บแผลยังไม่แห้งดี แต่ตอนนี้พวกที่คุณยายเคยข่วยรบ ไปไหนกันหมดล่ะ ไหงปล่อยให้คุณยายฯที่รัก ผจญภัยตัวคนเดียวลำพัง ไม่แมนๆ
 
///////////////////////////////
เห็นด้วยกับพี่มันตรัยครับตอนพวกเรา อ.เล็ก พลูโตสู้กับสมเด็จเก๊ ยายผีป่ามาอ้างโน่นอ้างนี่ โทรมายิงในโทรศัพท์ผมแล้วก็มาโพสว่าโทรมาแล้วผมไม่รับ ผมลงพระโคนสมอกรุวังหน้าก็หาว่าผมรับว่าพระสมเด็จวังหน้า อ้างว่าตาของคุณยายรู้จักหลวงปู่มั่นอย่างดี ส่วนเรื่องมีญาติเป็นนายพลเขมรก็เป็นเรื่องของแก มีญาติเป็นนายพลทำไมเงินกะอีแค่นี้หามาใช้ไม่ได้ อีกอย่างยายจะรวยจริงหรือเปล่าคุณคมน์ก็ดูพฤติกรรมเอาสิครับ ไหนว่าเคยขายสมุนไพรได้เงินมากมายไง หนีไปตอบกระทู้อื่นอีก ผมว่าหากเว็บปล่อยให้คนแบบนี้ลอยนวลได้เว็บคงเสียหายอีกเยอะครับ
 

.
--------------------------------------------

ทั้งสามโพสนี้ ผมไม่เห็นด้วย
ไม่เห็นด้วยอย่างไร ไว้ถึงบ้านแล้วจะมาตอบครับ
.

ยังไม่ได้รับเงินคืนจากคุณยายผีป่า
 
http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-2051.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 09:36:07 am
01-10-2010, 05:00 PM

สำหรับjoni_buddhist เคยเป็นทีมงาน ซึ่งมีการขอกันให้เป็นทีมงาน

พอเป็นทีมงานแล้ว ใช้อีกชื่อที่สมัครไว้ มาขายของ

ทางเว็บก็เลยปลดออกจากการเป็นทีมงานครับ

เรื่องของยายผีป่า ผมเองไม่ทราบเรื่องจริงโดยละเอียด ว่ามีการพูดคุยกันอย่างไร มีการเสี้ยมสอนกันหรือไม่ มีการบิดเบือนเรื่องต่างๆหรือไม่

ดังนั้น ผมจึงไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

สำหรับ มันตรัย , กำธร นครปฐม , joni_buddhist และคนอื่นๆที่สนใจจะพิสูน์พระวังหน้า และที่บอกว่า ผมไม่แมน หรือหนี หรืออื่นๆ อย่างนี้ดีกว่า เพื่อเป็นการพิสูจน์เรื่องพระวังหน้า ที่ผมให้ร่วมทำบุญ มีจริงหรือไม่ ไม่ยาก
ผมเองนั้น โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ผม สอนผมให้เป็นคนจริง เป็นลูกผู้ชายตัวจริง หากเป็นลูกผู้ชายตัวจริง เป็นแมนจริง ตามที่โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์สั่งสอนมา ก็ให้ไปสาบานกันที่วัดพระแก้ว แ่ละ วัดโสธร หากทำตามที่ผมบอกทุกขั้นตอน เมื่อจบในทุกขั้นตอนแล้ว ผมมีเงินให้คนละ 10,000 บาท

1.ไปวัดพระแก้ว
1.1ไปเขียนชื่อ - นามสกุล ของตนเอง และเซ็นชื่อของตนเองลงในใบตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบาน และอ่านใบตั้งจิต ตั้งสัจจะ และ สาบาน ในพระอุโบสถวัดพระแก้ว ให้เสียงดังฟังชัดที่ผมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ยินกันทุกคน
1.2เมื่อสาบานเรียบร้อยแล้ว ให้เดินทางไปบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ไปที่ท่าช้าง หรือ ท่าพระอาทิตย์ หรือ ท่าพระจันทร์ แล้วหยิบพระสมเด็จวังหน้า ที่ประกอบไปด้วย พระสมเด็จ top of the top 1 , พระสมเด็จ top of the top 4 , พระพิมพ์ฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ปี 2408 และพระสมเด็จ วังหน้า ให้หยิบทั้ง 4 พิมพ์ เมื่อหยิบมาแล้วให้หักกลางองค์แล้วโยนขึ้นใช้เท้าเตะลงแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ทำทั้ง 4 องค์

เมื่อทำเรียบร้อยแล้ว ให้เดินทางไปที่วัดโสธร

1.3ให้อ่านใบตั้งจิต ตั้งสัจจะ และ สาบาน ในพระอุโบสถวัดโสธร ให้เสียงดังฟังชัดที่ผมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ยินกันทุกคน
1.2เมื่อสาบานเรียบร้อยแล้ว ให้เดินทางไปบริเวณแม่น้ำข้างวัดโสธร แล้วหยิบพระสมเด็จวังหน้า ที่ประกอบไปด้วย พระสมเด็จ top of the top 1 , พระสมเด็จ top of the top 4 , พระ พิมพ์ฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ปี 2408 และพระสมเด็จ วังหน้า ให้หยิบทั้ง 4 พิมพ์ เมื่อหยิบมาแล้วให้หักกลางองค์แล้วโยนขึ้นใช้เท้าเตะลงแม่น้ำข้างวัดโสธร ให้ทำทั้ง 4 องค์

เมื่อทำเรียบร้อยตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว

ผมมอบเงินให้คนละ 10,000 บาท

ผมขอเชิญคุณKomodo และ คุณMBNY ด้วย เพื่อมาเป็นพยาน ผมมอบค่าเสียเวลาให้ท่านละ 5,000 บาทครับ

 
 


ผมจะ pm ไปหาทั้งสามคน (มันตรัย , กำธร นครปฐม , joni_buddhist ) และ pm ไปหา คุณKomodo และ คุณMBNY ตามโพสนี้ด้วยครับ

อ่านแล้วรีบๆหน่อยน๊ะ มันตรัย , กำธร นครปฐม , joni_buddhist

ส่วนข้ออ้าง เรื่องของเป็นรูปพระพุทธรูป ไม่ต้องอ้าง ถ้าอ้างแสดงว่ามันตรัย , กำธร นครปฐม , joni_buddhist เก็บรูปภาพที่เป็นรูปพระพุทธเจ้า และ พระสงฆ์ที่มีตามโบร์ชัวร์พระ หรือ หนังสือพระ หรือ หนังสือพิมพ์ เก็บไว้บูชาทั้งหมด


ย้ำว่า ผมเองนั้น โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ผม สอนผมให้เป็นคนจริง เป็นลูกผู้ชายตัวจริง หากเป็นลูกผู้ชายตัวจริง เป็นแมนจริง ตามที่โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์สั่งสอนมา


ผมpm ไปเรียบร้อยแล้ว

รอเวลาให้ตกลง เพื่อเก็บกวาดให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด


การตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน
บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong โดยมีชื่อและนามสกุล คือ ...................................................
กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ ......... โดยมีชื่อและนามสกุล คือ .............................................................
ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ 
,พระมหาโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,พญามัจจุราชเจ้า และเทพเทวดาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 
และขออัญเชิญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์   
,พระมหาโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,พญามัจจุราชเจ้า และเทพเทวดาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 
มาเป็นสักขีพยาน ในการตั้งจิต ตั้งสัจจะ และ สาบานในครั้งนี้ ว่า     
พระเครื่อง(หรือพระพิมพ์)ในกล่องที่ 1 , กล่องที่ 2 , กล่องที่ 3 และกล่องที่ 4 เป็นพระที่สร้างขึ้นที่วังหน้า
นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส และในพระราชตำหนักภายในวังหน้า 
และสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 เป็นความจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong 
จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ.....   
จงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่   
ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล     
แต่ถ้าพระเครื่อง(หรือพระพิมพ์)ในกล่องที่ 1 ,กล่องที่ 2 ,กล่องที่ 3 และกล่องที่ 4เป็นพระที่สร้างขึ้นที่วังหน้า
นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส และในพระราชตำหนักภายในวังหน้า 
และสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 เป็นความเท็จ เป็นการโกหก หลอกลวง     
ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความวิบัติตลอดกาล 
และต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติ
ตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ..... จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล 
การตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ของบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ ......... โดยมีชื่อและนามสกุล คือ ...........
.................................................. หากตัวข้าพเจ้าได้ถูกให้มาหรือใช้หรือให้กระทำการแทนหรือจ้างหรือวาน
หรืออื่นๆที่เป็นลักษณะของการให้กระทำการแทนบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ .................................... 
โดยมีชื่อและนามสกุล คือ ............................................................. หรือการโกหกในเรื่องของการบอกชื่อ
และนามสกุลจริง หรือการโกหกที่เกี่ยวข้องในเรื่องอื่นๆ ขอให้ถือว่า บุคคลต่างๆกระทำการร่วมกันในการ-
ตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบาน และไม่มีการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ตลอดกาล
และไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป       
 ข้าพเจ้า ได้อ่านและเข้าใจข้อความของการตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานนี้โดยตลอดแล้ว 
และถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้อ่าน ,ไม่ตั้งใจที่จะอ่านและเข้าใจข้อความของการตั้งจิต ตั้งสัจจะ 
และสาบานนี้ แต่หากว่าข้าพเจ้าได้ถือใบตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานนี้แล้ว หรือ เขียนชื่อ 
หรือลงนาม (ไม่ว่าจะเขียนอะไรในช่องลงนาม ....... ผู้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน)ในใบตั้งจิต 
ตั้งสัจจะและสาบานฉบับนี้ ให้ถือว่า ข้าพเจ้า ได้อ่านและเข้าใจข้อความของการตั้งจิต ตั้งสัจจะ 
และสาบานนี้โดยตลอดแล้ว เพื่อเป็นหลักฐาน ข้าพเจ้าขอเขียนชื่อหรือลงนามในช่อง 
ลงนาม........... ผู้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ไว้เป็นสำคัญ ณ วัน เดือน ปีที่ระบุไว้ด้านล่างของ
ช่องลงนามนี้ แล้ว         
 ลงนาม .............................................................................. ผู้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน
  วันที่ .............. เดือน .............................. ปี พ.ศ.......................

 01-10-2010, 07:34 PM    #41028 
sithiphong
สมาชิก
 
 
 

วันที่สมัคร: Dec 2005
สถานที่: ชมรมรักษ์พระวังหน้า
ข้อความ: 37,926
Groans: 129
Groaned at 132 Times in 83 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 25,790
ได้รับอนุโมทนา 237,471 ครั้ง ใน 31,971 โพส
พลังการให้คะแนน: 16484
 ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 16 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน )  [ แนะนำเรื่องเด่น ] 
sithiphong, Komodo, ปฐม

สวัสดีครับคุณคม
 

sithiphong
พระสมเด็จ Top of the top 1 คือ พระสมเด็จที่สร้างขึ้นที่วังหน้า นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ก่อนปี พ.ศ.2415 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้อาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ อธิษฐานจิต

พระสมเด็จ Top of the top 4 คือ พระสมเด็จที่สร้างขึ้นที่วังหน้า นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ก่อนปี พ.ศ.2415 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้อาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม อธิษฐานจิต

พระพิมพ์ฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ปี 2408 เป็นพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ท่านคิดแบบพิมพ์ขึ้น สร้างที่วังหน้า ก่อนปี พ.ศ.2408

พระสมเด็จ วังหน้า ที่จะนำไป เป็นพระสมเด็จ ที่เนื้อพระสมเด็จมี พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ และ น้ำประสาน อยู่ในเนื้อพระ


หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 09:46:02 am
ขอบคุณครับคุณคม

ขอนำลงในชาวรักษ์พระวังหน้าได้รับทราบกันครับ

ข้อความส่วนตัว: Re: ที่พาดพิงถึง 
Recipients: joni_buddhist, MBNY, sithiphong, กำธร นครปฐม, มันตรัย | ตอบกลับทุกคน...
 
 วันนี้, 07:34 PM   
Komodo
ทีมงานเว็บพลังจิต (คมน์)

 

วันที่สมัคร: Aug 2006
สถานที่: อยู่ในความทรงจำ
ข้อความ: 9,061
Groans: 54
Groaned at 99 Times in 74 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 79,605
ได้รับอนุโมทนา 104,874 ครั้ง ใน 8,659 โพส
พลังการให้คะแนน: 3862


 Re: ที่พาดพิงถึง




--------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ตอบตามลิงค์นี้
http://board.palungjit.com/f179/%E0%...ml#post3860624

.
 

ผมว่า เราอย่าทะเลาะกันเลยครับ พี่น้องกัน ถ้าเห็นไม่ตรงกันก็ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าครับ

สำหรับเรื่องเงิน ผมคงรับไม่ได้ครับ แต่ถ้าทุกท่านพร้อมจะไปกันจริง ผมจะไปเป็นพยานให้ครับ

โมทนา
 

---------------------------------------

01-10-2010, 07:46 PM    #41032 
sithiphong
สมาชิก

 ข้อความส่วนตัว: Re: ที่พาดพิงถึง 
Recipients: Komodo, MBNY, sithiphong, กำธร นครปฐม, มันตรัย | ตอบกลับทุกคน...
 
 วันนี้, 07:41 PM   
joni_buddhist
สมาชิก

 

วันที่สมัคร: Sep 2005
สถานที่: 35 ถนนเจริญกรุง55 ยานนาวา สาทร กทม.10120
อายุ: 29
ข้อความ: 8,916
Groans: 7
Groaned at 32 Times in 30 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 115
ได้รับอนุโมทนา 79,428 ครั้ง ใน 9,761 โพส
พลังการให้คะแนน: 5823


 Re: ที่พาดพิงถึง




--------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Komodo
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ตอบตามลิงค์นี้
http://board.palungjit.com/f179/%E0%...ml#post3860624

.
 

ผมว่า เราอย่าทะเลาะกันเลยครับ พี่น้องกัน ถ้าเห็นไม่ตรงกันก็ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าครับ

สำหรับเรื่องเงิน ผมคงรับไม่ได้ครับ แต่ถ้าทุกท่านพร้อมจะไปกันจริง ผมจะไปเป็นพยานให้ครับ

โมทนา
 

ขอบคุณครับคุณคม

.
 

ผมไมได้โดนปลดจากทีมงานนะครับ และผมลาออกนะครับอีกอย่างพระสมเด็จเก๊จะทำอย่างไรก็เก๊อย่าเดือดร้อนใจเลย ครับ คนเขารู้กันหมดแล้วครึ่งค่อนประเทศ
 

------------------
sithiphong

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน )  [ แนะนำเรื่องเด่น ] 
sithiphong, joni_buddhist, ปฐม, มูริญโญ่


จะได้รู้ไงครับ ว่าแท้ หรือ เก๊

ผมเป็นคนจริง โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ผม สั่งสอนว่า ให้เป็นคนจริง กล้าโพส ต้องกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ เพราะว่า หากไม่กล้ารับผิดชอบในการพิสูจน์ในสิ่งที่ตนเองกระทำ ก็คิดดูเองว่า เป็นอย่างไรก็แล้วกัน


ผมไม่เคยเ็ป็นมาเฟีย

ผมเป็นคนจริง โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ผม สั่งสอนว่า ให้เป็นคนจริง กล้าโพส ต้องกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ เพราะว่า หากไม่กล้ารับผิดชอบในการพิสูจน์ในสิ่งที่ตนเองกระทำ ก็คิดดูเองว่า เป็นอย่างไรก็แล้วกัน


.


 
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 09:53:57 am
01-10-2010, 07:58 PM    #41038 
joni_buddhist
สมาชิก 

ที่แท้ก็พวกอ้างหากินกับวัดพระแก้วไม่รู้เบื้องต่ำเบื้องสูงของเก๊แบกะดินต็มท่าพระจันทร์มาท้าไปสบถสาบาน ทำไมนิสัยเป็นคนขี้สบถสาบานเช่นนี้น้อสมเด็จที่แม้วัดระฆังยังไม่มีแถมต้องการันตีขรัวโตสร้างเองเดินไปตรงไหนของท่าพระจันทร์มีทุกจุดยังมีหน้ามาท้า คนอย่างคุณไม่คู่ควรมาท้าผมให้ไปวัดพระแก้วหรอกของสูงยังดึงมาได้คนอาไรไม่รู้เรื่อง

อย่ามาดึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงบารมีและพระอรหันต์เถระเจ้ามาเกลือกกลั้วเลยคุณหนุ่มผมไม่ไปหรอกคุณเอ้ยท้าไปก็เท่านั้นผมนับถือปู่โต ปู่โลกหอุดร บูรพกษัตริย์แต่ผมปฏิเสธพระเก๊มือผีที่เอามาหากินหลอกบุญหลอกขายที่เป็นฝีมือท่าพระจันทร์ครับแม้มันจะทำหนังสือสี่สีเก๊ก็เก๊วันยันค่ำ


----------------------

sithiphong

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 13 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน )  [ แนะนำเรื่องเด่น ] 
sithiphong, jirautes, joni_buddhist, ปฐม, มูริญโญ่


joni_buddhist ว่าไง

ไม่ต้องวิ่งไปหาข้ออ้าง อีกทั้งแม่น้ำทั้งห้าร้อยล้านสายมาอ้าง

แค่ไปสาบาน 2 วัด แถมรับตังอีก 10,000 บาท แบบสบายๆ


http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-2052.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 10:01:31 am
joni_buddhist
สมาชิก

พวกนี้ไม่ลดตัวไปเกลือกกลั้วกับคนอย่างคุณหรอก คนจริงความจริงไม่ต้องสาบานวันนึงคนก็รู้เก็บ5000ไว้เลี้ยงตัวเองยามกรรมมันตามทันเถอะครับ


---------------

sithiphong
สมาชิก

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joni_buddhist 
อย่ามาดึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงบารมีและพระอรหันต์เถระเจ้ามาเกลือกกลั้วเลยคุณหนุ่มผมไม่ไปหรอกคุณเอ้ยท้าไปก็เท่านั้นผมนับถือปู่โต ปู่โลกหอุดร บูรพกษัตริย์แต่ผมปฏิเสธพระเก๊มือผีที่เอามาหากินหลอกบุญหลอกขายที่เป็นฝีมือท่าพระจันทร์ครับแม้มันจะทำหนังสือสี่สีเก๊ก็เก๊วันยันค่ำ


sithiphong   อ้างไปเรื่อย

ไปเมื่อไหร่ดีล่ะ

ผมเป็นคนจริง โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ผม สั่งสอนว่า ให้เป็นคนจริง กล้าโพส ต้องกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ เพราะว่า หากไม่กล้ารับผิดชอบในการพิสูจน์ในสิ่งที่ตนเองกระทำ ก็คิดดูเองว่า เป็นอย่างไรก็แล้วกัน


-------------------------------------------

01-10-2010, 08:02 PM

joni_buddhist
สมาชิก
10000บาทเงินสกปรกก็ไม่อยากได้ครับผมทำงานด้านยุติธรรมไร่นาสาโทมีมากมายครับ

เงินหามาจากการหลอกลวงผู้อื่นแอบอ้างบารมีพระมหากษัตริย์ของโสโครกไม่เอาครับ

ผมกล้าไงบอกว่าของคุณมันเก๊พระฝีมือท่าพระจันทร์มั่วเม็ดแอบอ้างสมเด็จโต ทองตกที่ไหนก็เป็นทองครับ คนเขารู้ทั้งบ้านทั้งเมืองว่าเก๊ ยังลืมหูลืมตาหลอกก็กรรมใครกรรมมันครับ

----------------------------------------------

sithiphong
สมาชิก

joni_buddhist ว่าไง

ไม่ต้องวิ่งไปหาข้ออ้าง อีกทั้งแม่น้ำทั้งห้าร้อยล้านสายมาอ้าง

แค่ไปสาบาน 2 วัด แถมรับตังอีก 10,000 บาท แบบสบายๆ



ของแบบนี้ ต้องพิสูจน์

ผมเป็นคนจริง โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ผม สั่งสอนว่า ให้เป็นคนจริง กล้าโพส ต้องกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ เพราะว่า หากไม่กล้ารับผิดชอบในการพิสูจน์ในสิ่งที่ตนเองกระทำ ก็คิดดูเองว่า เป็นอย่างไรก็แล้วกัน



--------------------------------

joni_buddhist

ออกมาท้าคนอื่นแล้วอยากไปสวรรค์โหยนิสัยอาฆาต ยังห่างอีกไกลครับ

ก็ขี้เกียจโพสแระแต่จะบอกเอาไว้เก็บเงินสกปรกโสโครก ไร้จริยธรรมหลอกลวงของคุณเอาไว้เถอะนะ ไว้เลี้ยงตัวเองขี้เกียจเถียงกะคนมืดมัวอย่างคุณอ่านะเอะอะอ้างฟ้าอ้งพระเบื่อมุขเก่าๆๆกี่ปีก็แบบนี้ท้ามาตั้งแต่พี่เล็กพลูโต ไม่เปลี่ยนมุขเลยเลิกโพสแระเอามันส์5555
__________________


01-10-2010, 08:09 PM    #41051 
sithiphong
สมาชิก
 

การตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน
บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong โดยมีชื่อและนามสกุล คือ ...................................................
กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ ......... โดยมีชื่อและนามสกุล คือ .............................................................
ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ 
,พระมหาโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,พญามัจจุราชเจ้า และเทพเทวดาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 
และขออัญเชิญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ 
 
,พระมหาโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,พญามัจจุราชเจ้า และเทพเทวดาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 
มาเป็นสักขีพยาน ในการตั้งจิต ตั้งสัจจะ และ สาบานในครั้งนี้ ว่า 
 
 
 
พระเครื่อง(หรือพระพิมพ์)ในกล่องที่ 1 , กล่องที่ 2 , กล่องที่ 3 และกล่องที่ 4 เป็นพระที่สร้างขึ้นที่วังหน้า
นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส และในพระราชตำหนักภายในวังหน้า 
และสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 เป็นความจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong 
จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ..... 
 
 
จงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ 
 
 
ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล 
 
 
 
แต่ถ้าพระเครื่อง(หรือพระพิมพ์)ในกล่องที่ 1 ,กล่องที่ 2 ,กล่องที่ 3 และกล่องที่ 4เป็นพระที่สร้างขึ้นที่วังหน้า
นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส และในพระราชตำหนักภายในวังหน้า 
และสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 เป็นความเท็จ เป็นการโกหก หลอกลวง 
 
 
 
ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความวิบัติตลอดกาล
 
และต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติ
ตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ..... จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล 
การตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ของบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ ......... โดยมีชื่อและนามสกุล คือ ...........
.................................................. หากตัวข้าพเจ้าได้ถูกให้มาหรือใช้หรือให้กระทำการแทนหรือจ้างหรือวาน
หรืออื่นๆที่เป็นลักษณะของการให้กระทำการแทนบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ .................................... 
โดยมีชื่อและนามสกุล คือ ............................................................. หรือการโกหกในเรื่องของการบอกชื่อ
และนามสกุลจริง หรือการโกหกที่เกี่ยวข้องในเรื่องอื่นๆ ขอให้ถือว่า บุคคลต่างๆกระทำการร่วมกันในการ-
ตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบาน และไม่มีการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ตลอดกาล
และไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป 


 ข้าพเจ้า ได้อ่านและเข้าใจข้อความของการตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานนี้โดยตลอดแล้ว 
และถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้อ่าน ,ไม่ตั้งใจที่จะอ่านและเข้าใจข้อความของการตั้งจิต ตั้งสัจจะ 
และสาบานนี้ แต่หากว่าข้าพเจ้าได้ถือใบตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานนี้แล้ว หรือ เขียนชื่อ 
หรือลงนาม (ไม่ว่าจะเขียนอะไรในช่องลงนาม ....... ผู้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน)ในใบตั้งจิต 
ตั้งสัจจะและสาบานฉบับนี้ ให้ถือว่า ข้าพเจ้า ได้อ่านและเข้าใจข้อความของการตั้งจิต ตั้งสัจจะ 
และสาบานนี้โดยตลอดแล้ว เพื่อเป็นหลักฐาน ข้าพเจ้าขอเขียนชื่อหรือลงนามในช่อง 
ลงนาม........... ผู้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ไว้เป็นสำคัญ ณ วัน เดือน ปีที่ระบุไว้ด้านล่างของ
ช่องลงนามนี้ แล้ว
 
 ลงนาม .............................................................................. ผู้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน
 วันที่ .............. เดือน .............................. ปี พ.ศ.......................




หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:14:23 pm
01-10-2010, 08:26 PM        #41053
sithiphong
สมาชิก

สำหรับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า หรือ คณะพระวังหน้า ย่อมทราบดีว่า เงินที่ผมได้บอกบุญในเว็บพลังจิต

เรื่อง ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

และ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุง ไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

จะทราบดีว่า ผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่โอนเข้าบัญชีทั้งสองบัญชีได้หรือไม่

การบิดเบือนเรื่องที่ผมนำเงินของสงฆ์มาใช้ กรรมนั้นเกิดขึ้นมาแล้ว และกรรมที่กระทำบนอินเตอร์เน็ตที่สามารถไปได้ไกลมาก หากมีผู้ที่หลงเชื่อ กรรมก็จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผมเองจะไม่ไปตอบในกระทู้อื่นๆ เนื่องจากจะไ้ด้ให้กระทำกรรมกันอย่างต่อเนื่องต่อๆไป จะไ้้ด้กระทำต่างกรรม ต่างวาระ และผู้ที่หลงเชื่อ ก็จะได้พากันไปนรกกันเยอะๆ


สำหรับบางท่านที่ได้ร่วมทำบุญกับผม และหรือ รับพระวังหน้าจากผม จะบอกว่า ต่อให้แก๊งค์บัวใต้น้ำทั้งแก๊งค์ นำเงินในชาตินี้ รวมกับเงินที่หาได้อีกร้อยล้านชาติมารวมกัน ยังมีไม่เท่ากับบางท่านที่ได้ร่วมทำบุญกับผม และหรือ รับพระวังหน้าจากผม

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:15:22 pm
1-10-2010, 09:28 PM        #41057
:::เพชร:::
สมาชิก

วันนี้ผมยุ่งทั้งวัน พรุ่งนี้มีสอบเรื่องกระษัย เปิดonline โลก 3.2 เอาไว้ทั้งวัน แล้วอ่านหนังสือเตรียมสอบวันพรุ่งนี้ พอเข้ามาดูอีกที ทำไมมันเล๊ะตุ้มเปะแบบนี้ไปได้หว่า..เฮ้อ...

ผู้ที่เห็นว่าพระวังหน้าเก๊ ผมเองก็เห็นด้วย และก็ไม่เห็นด้วยบางประการ อยู่ที่พวกคุณๆไปดูเอาตรงไหนของท่าพระจันทร์(ทั้งๆที่พระวังหน้าทั้งเก๊ และจริงไม่ได้มีแต่ที่ท่าพระจันทร์) ผมก็ไม่เคยปฏิเสธว่าไม่มีเก๊ แต่เมื่อมีเก๊ก็ต้องมีจริง มีจริงก็ต้องมีเท็จ เป็นไปไม่ได้ว่าจะมีแต่จริง เป็นไปไม่ได้ที่จะมีแต่เท็จ แต่ตรงนี้ทุกท่านก็มีสิทธิ์คิดไปต่างๆนานาตามข้อมูลที่สืบหา ตั้งเรื่องจะหาเท็จก็จะเจอแต่เท็จ ตั้งเรื่องว่าจะหาแต่จริงก็จะเจอแต่จริง อยู่ที่คิดอย่างไรตั้งใจอย่างไรมากกว่าครับ

ที่คุณๆกล่าวหาคุณสิทธิพงศ์(อาจจะเนื่องด้วยที่ไม่ชอบลีลาการชวนท้าสาบาน ซึ่งผมเองไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ของคุณหนุ่ม โดยส่วนตัวของผมเอง แม้ว่าจะเชื่อว่าพระวังหน้ามีจริง ก็แสดงเจตจำนงด้วยการไม่กดอนุโมทนา) ว่า

"10000บาทเงินสกปรกก็ไม่อยากได้...."

"เงินหามาจากการหลอกลวงผู้อื่นแอบอ้างบารมีพระมหากษัตริย์ของโสโครก.."

ผมไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ เพราะ คุณสิทธิพงศ์เขามีงานประจำทำ และเป็นเงินจากหยาดเหงื่อแรงงานเขาเอง อีกทั้งเงินทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญกันเข้ามา ก็ไม่ได้โอนเข้าบัญชีในชื่อของคุณสิทธิพงศ์แต่อย่างใด แม้เงินยังไม่เคยเห็น ไม่เคยรับ ไม่เคยจับต้องด้วยเลย อันนี้เป็นความสัตย์จริง สามารถให้ทางทีมงานส่งตัวแทนเข้ามาตรวจสอบได้ครับ ทุกอย่างโปร่งใส สะอาดหมดจด หากสงสัยตรงไหนก็สามารถขอบัญชีเงินฝากของผู้มีชื่อในบัญชีเข้ามาตรวจสอบได้ ทุกเวลาครับ

จึงเรียนมาด้วยความเคารพ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2053.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:18:04 pm

ความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
ทานลงครับ

ของอร่อยๆแบบนี้ ต้องรีบทานครับ

ผมบอกคุณเพชรแล้วไงว่า อย่างไรก็ต้องเจอครับ ตราบใดที่กระทู้พระวังหน้าฯยังมีอยู่ แถมตอนนี้ พระวังหน้า ดังมากๆซะด้วย พวกที่ขายพระไม่ได้ ก็เลยต้องโวยวาย

และ

ต้องแหย่ผม ผมก็จะโกรธ จะได้ลากผมเข้าไปรุม

แต่ผมไม่ตอบในกระทู้อื่นๆ ผมมาตอบในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ ครับ

__________________________________

01-10-2010, 09:43 PM        #41061
:::เพชร:::
สมาชิก

ใจเย็นๆครับ แขกเขามาเยี่ยมที่ห้องรับแขก ก็ต้องต้อนรับขับสู้ด้วยมิตรไมตรีจิต ไปโอกฮากใส่เขาชวนสาบานไปหาท่านลุงท่าเดียว ใครที่ไหนจะยอมคู๊ณณณณณณณณ...หุ..หุ...ให้เขานั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนก็ได้ ครับ

__________________________________

Komodo
ทีมงานเว็บพลังจิต (คมน์)

สวัสดีครับ ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า

1. น้องจอห์นนี่ลาออกจากทีมงานเองนะครับ ไม่ได้โดนปลด
2. เรื่องพระวังหน้านั้น ตอบยากนะครับว่ามี หรือไม่มี เพราะไม่มีการพิสูจน์อย่างแน่ชัด สำหรับเว็บเองไม่ได้มีหน้าที่พิสูจน์ตรงนี้ และคิดว่า ถ้าใครเอาพระมาหากินจริง ก็คงไม่เจริญแน่ ๆ ดังนั้นเว็บจึงเชื่อว่าทุกคนเป็นคนดีครับ

โมทนา

ปล. วันนี้วันพระนะครับ อย่าทะเลาะกันเลยนะครับ โมทนา


__________________________________

01-10-2010, 09:51 PM        #41063
sithiphong
สมาชิก
แขกพวกนี้ เข้ามาอย่างไร อ่านแล้วย่อมรู้ว่า มาทำไมครับ

ผมเป็นประเภท ไม่รอช้า ต้องการเก็บกวาดให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกันไป

.

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:20:41 pm

01-10-2010, 10:08 PM        #41065
:::เพชร:::
สมาชิก

ผมก็ไม่ได้อยาก post อะไรที่ซ้ำๆ มันเปลืองพื้นที่เวบมากๆ ยังดีที่เปลี่ยนมาใช้โลก3.2 เลยพอจะหักกลบลบความล่าช้าใน IE ได้บ้าง ถึงตอนนี้ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่ให้ข้อมูลหน่อยครับ

อย่างที่บอก พระวังหน้าจริงก็มี เท็จก็มี พระวังหลวงเท็จก็มี จริงก็มี ตามข้อมูลนี้ครับ ดูรายละเอียดทีละภาพถึงข้อเท็จจริงเองดีกว่าครับ

ที่วัดภูค่าว จ.กาฬสินธุ์ ลองเดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์ชาญณรงค์ขอความรู้เกี่ยวกับพระพุทธรูป พระเครื่อง พระบรมรูป ร.๕ จากพระท่าน ก็จะทราบข้อมูลเบื้องต้นในการสืบค้นต่อไป หากมีใจอยากศึกษาจริงก็ต้องพยายามขวนขวายหาความจริง ความรุ้ไม่ได้ประมวลวางไว้ตรงข้างหน้า แบบนั้นมันง่ายไปครับ อีกทั้งพระท่านเป็นผู้มีศีล ๒๒๗ ไม่โกหกหลอกลวงแน่ ภาพทั้งหมดผมเป็นผู้ถ่ายเอง เนื่องจากส่วนของพิพิธภัณฑ์นี้มีกระจกปิดอยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้า แสงสว่างสะท้อนย้อนแสง และมีแสงไม่พอครับ....

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1159312&stc=1&thumb=1&d=1285945350)

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2054.html

ที่วัดภาษี เอกมัย กรุงเทพนี้เอง พระครุปลัดสุเทพ ปัญญาวชิโร ประธานโครงการ หรือจะติดต่อเจ้าอาวาสวัดศรีมหาโพธิ์โดยตรงสอบถามรายการวัตถุมงคลที่ทางวัด นออกให้ญาติโยมทำบุญสร้างพระพุทธวิหารเจดีย์หลวงพ่อสามพี่น้อง ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองคืเจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุเสด็จวางศิลาฤกษ์ พระพุทธวิหารเจดีย์หลวงพ่อสามพี่น้อง และทรงยกช่อฟ้าอุโบสถ จากพระท่าน ก็จะทราบข้อมูลเบื้องต้นในการสืบค้นต่อไป หากมีใจอยากศึกษาจริงก็ต้องพยายามขวนขวายหาความจริง ความรุ้ไม่ได้ประมวลวางไว้ตรงข้างหน้า แบบนั้นมันง่ายไปครับ อีกทั้งพระท่านเป็นผู้มีศีล ๒๒๗ ไม่โกหกหลอกลวงแน่ ....

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1159416&stc=1&thumb=1&d=1285946779)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1159417&stc=1&thumb=1&d=1285946779)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:23:04 pm

01-10-2010, 10:34 PM        #41069
Pinkcivil
สมาชิก
พี่หนุ่มใจเย็นๆครับ วันนี้เห็นภาพบัวใต้น้ำชัดเจนมากๆเรยครับ

บางคนไม่มีค่าที่เราจะไปทะเลาะด้วยอ่ะครับ ปรามาสมากๆ เดี่ยวเวรกรรมก็ทำหน้าที่เองครับ ในเนตนี่ นักเลงคีย์บอร์ดเยอะครับ คนที่โลกทัศน์แคบ คิดได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นครับ
__________________

 01-10-2010, 10:45 PM        #41071
sithiphong
สมาชิก
นึกได้ กลับลงมาโพสอีกรอบ

มีบางคนที่ฝึกมโนนึกด้วยครับ

นั่งไปนั่งมา นึกได้ว่า ตัวเองเป็นรัชกาลที่ 3 กลับมาเกิดใหม่

ไม่รู้ว่า ทำไมถึงได้คิดมหาบัดซบได้ขนาดนั้นก็ไม่รู้

อยู่ไปก็รกแผ่นดิน ให้หญ้าขึ้นรก ยังมีประโยชน์กว่าอีก

หรืออย่างคุณเพชรบอก รกอากาศ อิอิ



.
__________________


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joni_buddhist อ่านข้อความ
ผม กล้าไงบอกว่าของคุณมันเก๊พระฝีมือท่าพระจันทร์มั่วเม็ดแอบอ้างสมเด็จโต ทองตกที่ไหนก็เป็นทองครับ คนเขารู้ทั้งบ้านทั้งเมืองว่าเก๊ ยังลืมหูลืมตาหลอกก็กรรมใครกรรมมันครับ

01-10-2010, 10:50 PM        #41073
Pinkcivil
สมาชิก


ผม ไม่อยากคุยว่า ผมมีของเยอะแค่ไหน แต่ของที่พวกเซียนว่าแท้หายากๆอย่างพระสมเด็จ พิมพ์ที่เซียนนิยมนี่ สิบนิ้วผมนับไม่ถ้วน ไม่รวมอื่นๆอีกมากมาย บางอย่างบางชิ้น บางคนทั้งชีวิตไม่เคยได้เห็นหรือรู้ด้วยซ้ำไป

ผมได้ร่วมทำบุญสร้างเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ซึ่งผมก็ช่วยหลวงพี่ท่านสร้างมาตั้งแต่เริ่มทำห้องน้ำ จนสร้างเจดีย์ และเมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสเจอคุณหนุ่ม ตอนงานผ้าป่า ซึ่งผมได้รับพระวังหน้าจากคุณหนุ่ม โดยที่คุณหนุ่มไม่ได้เงินจากผมเรย แม้แต่บาทเดียว เป็นพระที่คุณหนุ่มนำมามอบให้คนที่ร่วมทำบุญ ซึ่งต้องขออนุโมทนากับคุณหนุ่มและคณะอีกครั้ง

พระวังหน้าที่ผมได้มา ผมได้มีโอกาสให้รุ่นพี่ผมซึ่งท่านสามารถจับกระแส-พลังของพระได้ (ถ้าคนที่ทำงานอยู่ปูนซิเมนต์ไทยจะรู้จัก) พระสมเด็จกลักไม้ขีดที่ได้มา พลังเหมือนพระสมเด็จที่เซียนเล่นองค์ไม่รู้กี่ล้านบนคอผม ผมก็งงเหมือนกันว่าพลังเหมือนกันเรย มารู้รายละเอียดตอนหลังถึงได้เข้าใจ

อยากบอกคุณว่า โลกนี่มันกว้างใหญ่ไพศาล อย่าปรามาสอะไรโดยไม่รู้ตัว เวรกรรมทำงานของมันอยู่ตลอดเวลา ขอโทษที่พูดตรงๆครับ

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:26:59 pm
01-10-2010, 10:50 PM        #41074
:::เพชร:::
สมาชิก

การกล่าวบอกปัดว่า ไม่มีสิ่งพิสูจน์ได้นั้นง่ายเกินไปหากมีใจอยากศึกษาก็ไม่ยากเกินกว่าความ สามารถที่จะสืบค้นได้ ผมเพียงนำข้อมูลมาให้ชมบางส่วนเพื่อเป็นก้าวเริ่มต้นของท่านที่สนใจ ความรู้ไม่ได้ใส่ซองบะหมี่สำเร็จรูป แกะซองแล้วรู้ทุกอย่าง ต้องอาศัยวันเวลา ข้อเท็จจริงๆต่างๆเริ่มปรากฎ บุคคลที่เชื่อถือได้ก็มี สถานที่เชื่อถือได้ก็มี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยในที่นี้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มี ผมเองก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่ต้องให้ความรู้ที่เกิดจากการบังคับเคี่ยว เข็ญ ผมเลือกที่จะอธิบายเท่าที่จะอธิบายได้ เลยจากขอบเขตนี้แล้ว ก็ขอวางอุเบกขาครับ แต่ก็ยังจะทำความดีกับสิ่งที่ได้ตั้งใจไว้ก็เท่านั้นครับ ทุกท่านก็ไม่จำเป็นต้องเห็นชอบก็ได้ครับ สบายๆ ไม่เดือดร้อนตัวเอง และผู้อื่นยังไงก็ได้ครับ

ขอความกรุณาใช้วจีกรรมที่สุภาพต้อนรับผู้มาเยือนห้องรับแขกด้วยมิตรไมตรีจิตครับ
__________________


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: อ่านข้อความ
วันนี้ ผมยุ่งทั้งวัน พรุ่งนี้มีสอบเรื่องกระษัย เปิดonline โลก 3.2 เอาไว้ทั้งวัน แล้วอ่านหนังสือเตรียมสอบวันพรุ่งนี้ พอเข้ามาดูอีกที ทำไมมันเล๊ะตุ้มเปะแบบนี้ไปได้หว่า..เฮ้อ...

ผู้ที่เห็นว่าพระวังหน้าเก๊ ผมเองก็เห็นด้วย และก็ไม่เห็นด้วยบางประการ อยู่ที่พวกคุณๆไปดูเอาตรงไหนของท่าพระจันทร์(ทั้งๆที่พระวังหน้าทั้งเก๊ และจริงไม่ได้มีแต่ที่ท่าพระจันทร์) ผมก็ไม่เคยปฏิเสธว่าไม่มีเก๊ แต่เมื่อมีเก๊ก็ต้องมีจริง มีจริงก็ต้องมีเท็จ เป็นไปไม่ได้ว่าจะมีแต่จริง เป็นไปไม่ได้ที่จะมีแต่เท็จ แต่ตรงนี้ทุกท่านก็มีสิทธิ์คิดไปต่างๆนานาตามข้อมูลที่สืบหา ตั้งเรื่องจะหาเท็จก็จะเจอแต่เท็จ ตั้งเรื่องว่าจะหาแต่จริงก็จะเจอแต่จริง อยู่ที่คิดอย่างไรตั้งใจอย่างไรมากกว่าครับ

ที่คุณๆกล่าวหาคุณสิทธิพงศ์(อาจจะเนื่องด้วยที่ไม่ชอบลีลาการชวนท้าสาบาน ซึ่งผมเองไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ของคุณหนุ่ม โดยส่วนตัวของผมเอง แม้ว่าจะเชื่อว่าพระวังหน้ามีจริง ก็แสดงเจตจำนงด้วยการไม่กดอนุโมทนา) ว่า

"10000บาทเงินสกปรกก็ไม่อยากได้...."

"เงินหามาจากการหลอกลวงผู้อื่นแอบอ้างบารมีพระมหากษัตริย์ของโสโครก.."

ผมไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ เพราะ คุณสิทธิพงศ์เขามีงานประจำทำ และเป็นเงินจากหยาดเหงื่อแรงงานเขาเอง อีกทั้งเงินทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญกันเข้ามา ก็ไม่ได้โอนเข้าบัญชีในชื่อของคุณสิทธิพงศ์แต่อย่างใด แม้เงินยังไม่เคยเห็น ไม่เคยรับ ไม่เคยจับต้องด้วยเลย อันนี้เป็นความสัตย์จริง สามารถให้ทางทีมงานส่งตัวแทนเข้ามาตรวจสอบได้ครับ ทุกอย่างโปร่งใส สะอาดหมดจด หากสงสัยตรงไหนก็สามารถขอบัญชีเงินฝากของผู้มีชื่อในบัญชีเข้ามาตรวจสอบได้ ทุกเวลาครับ

จึงเรียนมาด้วยความเคารพ

01-10-2010, 10:59 PM        #41076
Pinkcivil
สมาชิก


เห็นด้วยกับคุณเพชรครับ อยากให้อ่านหลายๆรอบครับ หวังว่าจะได้เกิดปัญญาขึ้นนะครับ
__________________


 01-10-2010, 11:06 PM        #41077
sittiporn.s
สมาชิก
เมื่อช่วงคำนำกำลังเชี่ยว ผมจึงไม่อยากขวางลำ อยากพูดว่า
ทั้งๆที่รู้ว่า พระวังหน้า,คณะหลวงปู่ฯเลือกคน,ไม่ใฃ่คนเลือกพระ,
ทั้งๆที่รู้ว่า ผู้ที่คู่ควรเท่านั้นจึงจะมีโอกาศครอบครองชั่วคราว
ทั้งๆที่รู้ว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ทั้งๆที่รู้ว่า พยายมราชท่านมีจริง
ทั้งๆที่รู้ว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ทั้งๆที่รู้ว่า ควรคบคนเฉพาะคนที่ควรคบเท่านั้น
ทั้งๆที่รู้ว่า ความโกรธทำให้ขาดสติ
ทั้งๆที่รู้ว่า ปล่อย วาง ว่าง โปร่ง หยุด นิ่ง สงบ เท่านั้นที่ทำให้เราอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุข
ทั้งๆที่รู้ว่า ฯ( อืกมากมาย ) ที่องค์ความรู้ตนเองมีอยู่มากมายแม้เพียง 1%ของอาจารย์ปู่ ,คณาจารย์ หรือคณะเผยแผ่ฯ
กรุณาตอบผมหน่อยว่า ถอยหลังกลับไปทำไม
ทำไมไม่เร่งเดินไปข้างหน้าให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งปณิธานไว้โดยเร็วที่สุด
เวลาคุณเหลืออีกเท่าไร
ฯลฯ
โมทนาสาธุครับ
__________________

01-10-2010, 11:10 PM        #41078
Komodo
ทีมงานเว็บพลังจิต (คมน์)

วันนี้วันพระครับ อภัยให้กันได้ก็อภัยนะครับ

โมทนา
__________________

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2054.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:28:23 pm
01-10-2010, 11:32 PM        #41081
:::เพชร:::
สมาชิก
กรรมที่นำไปสู่นรก


ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย และพระคุณเจ้าที่เคารพ วันนี้อาตมามีโอกาสพบกับบรรดาท่านพุทธบริษัทตามปกติ เอายังงี้ก็แล้วกันนะ คือว่าเราพูดกันถึงเหตุมานานแล้ว การที่นำเอาเรื่องราวของหลวงพ่อปานและคณะศิษยานุศิษย์ก็ดี หรือว่าพระรุ่นท่าน พระเพื่อนท่านก็ตาม เอามาเล่าให้บรรดาท่านพุทธบริษัทฟัง อันนี้เป็นเหตุ เหตุที่บอกก็บอกว่าถ้าใครทำความดีแบบนั้น ใครทำความชั่วแบบนั้นจะไปสู่อบายภูมิ หรือว่าไปสู่สวรรค์ ไปสู่พรหมไปสู่นิพพาน นี่เรียกว่าเราเล่าต้นทาง แล้วก็พาดพิงไปถึงปลายทางว่า ถ้าทำแบบนี้ละก็ ท่านจะต้องไปนรก หรือว่าไปสวรรค์ ไปทำแบบนี้ละก็ ท่านจะต้องไปนรก หรือว่าไปสวรรค์ ไปพรหมโลก หรือไปนิพพาน ตอนต้นเรากล่าวกันอย่างนั้น
ต่อจากนี้ไป จะขอให้เรื่องที่พูดนี้ เรียกกันว่าเรื่อง "ไตรภูมิ"
ไตรภูมิ แปลว่า ภูมิสาม ภูมิ ก็แปลว่า แผ่นดินหรือสถานที่อยู่ เป็นสถานที่ที่อยู่กัน เราเรียกกันว่าภูมิ สำหรับภูมิในที่นี้ จะกล่าวถึงอบายภูมิ แล้วก็สวรรค์ พรหมโลก ดีไม่ดี ก็จะย่องพูดถึงเรื่องนิพพานสักนิดหนึ่ง เพราะกันตัวอาตมาเองเป็นมิจฉาทิฏฐิ สำหรับคนอื่นไม่เกี่ยว อาตมาน่ะเป็นห่วงตัวเอง ห่วงความเป็นมิจฉาทิฏฐิของตัวเอง ที่เทศน์ว่าพระนิพพานสูญมานาน ใครเขาจะถามถึงพระนิพพานก็บอกเลย บอกว่าพระนิพพานนี่มีสภาพสูญ มีอุปมาดุจหนึ่งว่าควันไฟที่ลอยไปในอากาศ จะมีที่เกาะที่พักมันก็ไม่มีฉันใด แม้พระที่เข้าสู่พระนิพพานก็เหมือนกัน มีสภาพเหมือนควันไฟ นี่ไปค้านกับคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้า เพราะว่าไปค้นในพระไตรปิฎก ไปพบเอาตอนที่พระพุทธเจ้าทรมานท้าวผกาพรหมที่ท้าผกาพรหมท่านบอกว่า พรหมเท่านั้นแหละเป็นความสุขสูงสุด และพรหมไม่เป็นอนัตตา พรหมเป็นอัตตาไม่มีการสลายตัว
ทั้งนี้ก็เพราะว่าอาศัยพวกระฆังเล็ก ๆ ทั้งหลายสนับสนุนยุยงส่งเสริม เห็นว่าท่านผกาพรหมเป็นพรหมที่มีวาสนาบารมีมากก็เลยยุท่านส่งเดชเข้าให้ ท่านผกาพรหมก็เมามัน ไอ้เสียงคนนี่ บรรดาท่านพุทธบริษัทกรอกหูนาน ๆ มันอดจะเขวไม่ได้หรอก เป็นเรื่องธรรมดา
ทีนี้ในเมื่อท่านผกาพรหมท่านมาเข้าแล้วท่านก็เลยคิดว่าในเมื่อพรหมเป็นอมตะ เป็นแดนไม่ตาย เป็นแดนที่มีความสุขมากที่สุด เวลานี้พระสมณโคดมออกจากตระกูลศากยราชมาบวชแล้วก็ประกาศว่า สิ่งที่สูงสุดยิ่งกว่านั้นมีอยู่ คือ พระนิพพาน ยิ่งกว่าพรหม สูงกว่าพรหมมีพระนิพพานเป็นที่ไป แล้วก็เป็นแดนสูงสุด มันจะจริงหรือไม่จริงเราไม่เชื่อ เมื่อพระพุทธเจ้าทราบวาระน้ำจิตของท่านผกาพรหมก็เสด็จไปสู่พรหม ท้าทายกันด้วยเรื่องฤทธิ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นการทรมาน ในที่สุดพระพุทธเจ้าก็บอกว่า หากว่าท่านเก่งจริงละก้อ เล่นซ่อนหากับเรา พระพุทธเจ้าให้ท้าวผกาพรหมซ่อนก่อน จะซ่อนที่ไหนก็ตาม พระพุทธเจ้าก็มองเห็น ในที่สุดหมดท่า ก็ให้พระพุทธเจ้าซ่อนบ้าง พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ซ่อน ท่านประทับนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วก็ทำให้ท้าวผกาพรหมไม่เห็น พระองค์ก็ทรงแสดงเสียงให้ ปรากฏท้าวผกาพรหมก็มองไม่เห็นว่าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ตรงไหน เป็นอันว่าท้าวผกาพรหมยอมแพ้พระพุทธเจ้า
ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสว่า ผกาพรหมเธอเป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะคำป้อยอของคนอื่น บรรดามารทั้งหลาย คำว่า มารในที่นี้ไม่ได้แปลว่า ยักษ์ มาร แปลว่า ผู้ฆ่า คือ ความเห็นที่ไม่ถูกทางของบุคคลผู้ยุยงส่งเสริม พยายามเกลี้ยกล่อมชักจูงเธอให้เห็นผิด เธอเกิดเป็นพรหมชั้นสูงแล้วมาเกิดเป็นพรหมชั้นต่ำแล้วก็ต่ำลงมา อาศัยที่เธอบำเพ็ญบารมีมามาก ไปเป็นพรหมเสียหลายร้อยกัปหลายพันกัปจึงลืมสภาวะเดิม ลืมเรื่องของการจุติ การเกิดการตายในแดนที่ไม่ใช่พระนิพพาน ต่อจากนี้ไปเธอจงเป็นผู้เห็นถูก
ในที่สุดท้าวผกาพรหมก็ยอมรับคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงตรัสว่า ดินแดนที่มีสุขยิ่งกว่านี้มีอยู่ นั่นคือ พระนิพพาน
เห็นไหมเล่า บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท พระพุทธเจ้าทรงยืนยันพระนิพพานว่าเป็นดินแดนพิเศษ เป็นทิพย์พิเศษสูงยิ่งกว่าพรหม คราวนี้เรื่องของพรหม เรื่องของเทวดา เรื่องพระนิพพานนี่ ถ้าเรายังไม่เห็น เราก็อย่าพึ่งรับรองกันนักว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง ถ้าใครเขาถามขึ้นก็บอกว่าพูดตามตำรากันไว้ก่อน ต่อมาเมื่อเราเข้าถึงทิพจักขุญาณ แล้วก็สามารถเจริญวิปัสสนาถึงระดับพอที่จะเห็นพระนิพพานได้ ตอนนั้นเราค่อยพูดกันเรื่องพระนิพพาน จะพูดกันได้ตอนไหน ก็ตอนที่ท่านทั้งหลายเจริญสมถะพอสมควรจนได้ทิพจักขุญาณแล้ว แล้วก็เจริญวิปัสสนาญาณให้เข้าถึงโคตรภูญาณ โคตรภูรู้จักไหม? ถ้าไม่รู้จักก็จะบอกว่า อยู่ระหว่างโลกียะ กับ โลกุตตระ ส่วนหนึ่งของใจยังเป็นโลกียชน อีกส่วนหนึ่งของใจจะเป็นโลกุตตรชน จะเป็นพระโสดาบัน ตอนนั้นแหละท่านทั้งหลายจะอาศัยทิพจักขุญาณเห็นพระนิพพานได้แบบสบาย ๆ ตอนนั้นแหละบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย เราพูดกันถึงเรื่องพระนิพพาน
เวลานี้ท่านเห็นเปรตบ้างไหม? เปรตมีสภาพหยาบที่สุด ถ้าหากว่าท่านไม่สามารถจะเห็นเปรตก็อย่าเพิ่งพูดเรื่องของพระนิพพาน ถ้าพูดแล้วมันผิด ที่นี้เรื่องของพระกรรมฐานนี่นะ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท มีหลวงพี่องค์หนึ่งท่านสอนมาทางอากาศ ว่าอย่าเที่ยวนำพูดเพ้อเจ้อไปนะ เรื่องกรรมฐานนี่ ต้องพูดเฉพาะในเวลาที่สมควร ถ้ายังไม่ถึงเวลาสมควรมาพูดละ ดีไม่ดีเป็นอวดอุตตริมนุสสธรรม ตีความหมายเป็นอย่างงั้นนะ
อาตมาฟังแล้วก็สงสัย ไม่รู้ว่าพระอะไร ได้ยินแต่เสียง ก็อยากจะถามท่านเสียตอนนี้เลยว่า ไอ้ "เวลาสมควร" น่ะ มันตรงไหนเวลาเท่าไหร่ เมื่อไรจึงจะสมควร เวลานี้บรรดาท่านพุทธบริษัทที่เป็นฆราวาสเขาเจริญพระกรรมฐานกัน มีหลายท่านได้ทิพจักขุญาณ ไปนั่งอายเขามานี่หลายคนแล้วนะ จะบอกให้ ผู้หญิงบางทีเรียนนอกเรียนนามาตั้งแต่อายุ ๖ ขวบ ๗ ขวบ กว่าจะเข้ามานับถือพระพุทธศาสนาก็ ๓๐ ปีเศษ เขาได้ทิพจักขุญาณ เขาสามารถใช้กำลังจิตรักษาโรคก็ได้
นี่อำนาจพระกรรมฐานเข้าไปถึงฆราวาสแล้วหลวงพี่ แล้วถ้าหล่วงพี่ยังจะมรานั่งคอยเวลา "สมควร" น่ะ นี่ถามจริง ๆ เถอะพ่อคุณ บวชเข้ารมาเวลานี้น่ะ ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า?
ที่พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า การบวชจะต้องถือกฎ ๓ อย่าง เป็นสำคัญ
๑. อธิศีลสิกขา รักษาศีลยิ่งกว่าฆราวาส
๒. อธิจิตสิกขา ทำจิตให้มั่นคงในสมาธิที่เรียกกันว่า ได้ฌาน
๓. อธิปัญญาสิกขา ทำจิตใจของเราให้ผ่องใสจากกิเลส
นี่คงจะบวชเข้ามาแล้วก็ทำตัวเป็นฆราวาสเอาเอ่น แล้วเวลาพูดก็เห็น อ้างพระอาจารย์อะไรต่อพระอาจารย์อะไร พระอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้นยังเมาอยู่ในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ตามธรรมดาน่ะ พระที่บวชเข้ามาน่ะ เขาเกาะพระพุทธเจ้ากันนะ เขาไม่ได้เกาะพระที่มีกิเลส ก็หลวงพี่ไปเกาะพระที่มีกิเลสเป็นสรณะ แล้วกิเลสมันจะหมดหัวได้ยังไง แสดงว่า กิเลสยังเต็มหัวอยู่
เรื่องของพระกรรมฐานเป็นเรื่องธรรมดาที่พุทธบริษัทควรรู้ ถ้าเราไม่พูดเมื่อไรเขาจะรู้ จะมานั่งหลอกลวงเขากินอยู่ หรือว่าเราบวชเข้ามาแล้วน่ะ ดียังงั้นดียังงี้ ควรแก่การไหว้ สักการะของบรรดาพุทธบริษัท แต่ความจริงแล้วจะพูดเรื่องพระกรรมฐานก็บอกไม่สมควร นีมันดีหรือหลวงพี่?
จำไว้นะ จำไว้ให้ดีว่า เราบวชเข้ามาแล้ว จงเอาสวรรค์ เอาพรหมโลก เอาพระนิพพานเป็นปัจจัยของเรา เอาสิ่งทั้งสามประการเป็นที่พึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่เราจะบวช เวลานี้นักปรูดทั้งหลาย ( ไม่ใช่นักปราชญ์ ) ตัดความสำคัญออก
เมื่อก่อนนี้เวลาเขาจะบวชกับอุปัชฌาย์ว่า
"นิพพานนัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา" ซึ่งแปลเป็นใจความว่า "ข้าพเจ้าขอรับผ้ากาสาวพัสตร์เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน"
แต่เวลานี้นักปรูดทั้งหลายตัดทิ้งไป ใช้อะไรเสียก็ไม่ทราบ ไปขึ้น เอสาหัง ก็ปรารภพระนิพพานในเบื้องต้นเหมือนกัน ในเมื่อเราบวชเข้ามาปรารภพระนิพพาน แล้วเวลาเราบวชเข้าแล้วจริง ๆ เราจะมาปรารภ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพื่อประโยชน์อะไร
เป็นอันว่า หลวงพี่เข้าใจผิดเสียแล้วนะ หลวงพี่นะดีไม่ดี ผมจะบอกว่า หลวงพี่นั่นแหละ เวลานี้กำลังใจยังทรามกว่าฆราวาสที่เป็นผู้หญิงหลายคนที่เขาปฏิบัติตนได้ดี กว่าหลวงพี่นะ เพราะเห็นว่าควรแล้ว
เวลานี้กรรมฐานตั้งสำนักกันอย่างกับดอกเห็ด มีทั่วประเทศ มีกระทั่งนอกประเทศ ถ้าเวลานี้ยังไม่สมควรพูดเรื่องกรรมฐาน เวลาไหนมันจะควร หรือว่าจะรอให้กิเลสมันเลยหัวไปสักหน่อยแล้วจึงจะควร อันนี้เราฟังกันไว้แล้วก็คิดด้วยนะ ถ้าหลวงพี่องค์นั้นรับฟังละก้อเอาไปคิดด้วย แล้วก็จงรู้ตัวเสียด้วยว่าเราทำเราพูดน่ะมันไม่ควร
เอาละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท อาตมาเป็นคนปากเสียเป็นปกติ แต่เสียแบบนี้เสียในฐานะเพื่อจะตักเตือนเพื่อนพระด้วยกัน ให้บวชให้เป็นพระ ไม่ใช่บวชเข้ามาแล้ว แล้วก็จะเอาปฏิปทาอย่างอื่นมาใช้ ประเดี๋ยวจะพูดให้ฟัง เรื่องทะเลาะกันแล้วนะ หลวงพี่องค์นั้นก็เหมือนกัน ทีหลังจะทะเลาะกับผลละก้อ ฟังเรื่องต่อไปว่าท่านชอบอะไร
วันนี้ เรามาเริ่มเรื่องไตรภูมิกัน แล้วเราจะไปไหนกันก่อนล่ะ มีอบายภูมิสี่ คือ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดียรัจฉาน นี่จัดเป็นภูมิที่หนึ่ง ภูมิที่สองก็ได้แก่ สวรรค์ชั้นกามาวจรสวรรค์ ภูมิที่สามก็ได้แก่ พรหม พระนิพพานยังไม่เกี่ยว สามภูมินี่เราจะไปไหนกันก่อน ขอชวนบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท และพระคุณเจ้าที่เคารพ ไปเที่ยวนรกกันก่อนดีกว่า
ต่อจากนี้ไป เราไปทัศนาจรนรกกัน แน่ะ พูดทันสมัยเสียด้วย ไอ้ทัศนาจรนี่น่ะ มันเป็นศัพท์บาลีแกมไทย ทัศนะ จระ จระเป็นภาษาบาลี ไทยล่อจรเข้าให้ ก็เรียกว่าเที่ยวไปดูนรก ทัศนาจร แปลว่า เที่ยวดู ดูอะไร ดูนรก ตานี้เราจะไปนรก เราก็มาคิดดูว่า เราจะไปอยู่เลยหรือว่าเราจะไปเที่ยว ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทมีความสมัครใจจะอยู่นรกขุมไหน ตามอาตมาไปแล้วก็สมัครใจอยู่ได้เลย อาตมาจะบอกปฏิปทาให้ว่า เขาบำเพ็ญบารมีอะไร? จึงจะอยู่ขุมนรกนั้นได้ แต่ใครไม่อยากอยู่ก็ไปเที่ยวเฉย ๆ ก็แล้วกัน เวลากลับก็กลับด้วยกัน
ทีนี้เวลานำเที่ยวเวลานี้ใช้ยานอะไรเป็นพิเศษ? ไม่ยาก ใช้ยานหนังสือ เรียกว่าใช้ยานหนังสือเอาพระไตรปิฎกเป็นหลัก นี่.. คนชั้นดีเขาต้องทำยังงี้นะ นี่..ไม่มีใครเขายกก็ยกมันเองละ ไปมัวคอยชาวบ้านยกย่องสรรเสริญ เมื่อไรเขาจะยก ก็เอาพระไตรปิฎกเป็นหลัก แล้วก็เอาเรื่องที่พระคณาจารย์ทั้งหลายที่ทรงฌาน ทรงญาณพิเศษ อย่างพระโมคคัลลาน์ไปพบเห็นมา เอามาพูดต่อ รวมกันเข้าไป ญาติโยมทั้งหลายจะได้ทราบว่าตอนนี้ ที่นี้นรกชั้นนี้ สวรรค์ชั้นนี้ วิมานแบบนั้น เขาบำเพ็ญบารมีอะไรเข้าไว้ จึงจะได้อยู่อย่างนั้น นี่เป็นอันว่าเข้าใจ
ทีนี้ต่อจากนี้ไป ก่อนที่จะเดินทางไปนรก เราก็มาหาทุนกันก่อน ไปไหนไม่มีทุนนั้นไม่ได้ ทุนในทสี่นี้ไม่ใช่เงิน ไม่ใช่ทอง แต่ว่าเป็นทุนการบำเพ็ญบารมี เรามาพูดกันเสียก่อนว่า บารมีทสี่จะทำให้คนลงนรกน่ะ มันมียังไง เขาจึงได้ลงกันได้

นรกน่ะ แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ
นรกขุมใหญ่ และ ยมโลกียนรก
แล้วก็เฉพาะนรกขุมใหญ่แต่ละขุมกันมีนรกบริวารด้านละ ๔ ขุม ๔ ด้าน เป็นอันว่านรกขุมใหญ่ ๑ ขุม มีนรกบริวาร ๑๖ ขุม แต่ว่าสัตว์นรกที่จะผ่านนรกบริวารก็ผ่านแต่เพียง ๔ ขุม เพราะออกด้านใดด้านหนึ่งก็ผ่านสี่ขุม นรกขุมใหญ่นี่เราเรียกกันว่า นรกแป๊ะเจี๊ยะ หมายความว่า ลงโทษไม่จำกัดโทษ ไม่ใช่แยกประเภท
สำหรับยมโลกียนรกนั่นแยกประเภท คือ หมายความว่า ถ้าคนใดทำกรรมชั่วไปลงนรกขุมใหญ่ก่อน ลงขุมนี้เวลาจะออกจากขุมนี้ผ่านนรกบริวาร ๔ ขุม ถ้ากรรมชั่วอย่างหนักยังไม่หมดก็ไปลงขุมโน้นต่อไป ออกจากขุมนั้นก็ผ่านนรกบริวารอีก ๔ ขุม นรกขุมใหญ่นี้ เรียกกันว่า นรกแป๊ะเจี๊ยะ ไม่จำกัดโทษ ตรงกันข้ามกับยมโลกียนรก เขาแยกโทษเข้าไว้
ทีนี้มาว่ากันไป นรกขุมใหญ่มีโทษอะไร นี่ศึกษาบารมีการลงนรกเสียก่อน คนที่จะลงนรกต้องสร้างบารมี ต้องบำเพ็ญบารมี ถ้าบารมีไม่ถึงเขาก็ขับไปสวรรค์บ้าง ขับไปพรหมโลกบ้าง ขับมาเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เป็นสัตว์เดียรัจฉานบ้าง เป็นเปรตบ้าง เป็นอสุรกายบ้าง เขาไม่ยอมให้ลง แต่ถ้าหากว่ามีบารมีสมควร เขาก็ยินดีรับเอาไว้ในนรก นี่เฉพาะนรกขุมใหญ่นะ
บรรดาพระคุณเจ้าที่เคารพที่กำลังรับฟัง และ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท จะพูดให้ฟังว่านรกขุมใหญ่มีอะไรบ้างที่เราจะได้ไปน่ะ ต้องสร้างบารมีอะไร บารมีที่จะลงนรกขุมใหญ่นั้น ท่านกล่าวว่า ต้องสร้างบารมี ๑๐ อย่างครบถ้วน สุดแล้วแต่หนักเบา ถ้าสร้างเบาหน่อยก็ลงนรกขุมที่ ๑ หนักลงไปอีกนิดก็ลงนรกขุมที่ ๒ หนักลงไปอีกหน่อยก็ลงนรกขุมที่ ๓ หนักไปตามลำดับ ถ้าหนักเต็มที่ลงนรกขุมที่ ๘ เรียกว่า อเวจีมหานรก แล้วก็มีนรกพิเศษอีกอย่างหนึ่ง ถ้าหนักล้นเกินไปละก้อ ลงโลกันตนรก แล้วจึงจะถอยมาสู่อเวจีมหานรก
บารมีที่เขาปฏิบัติ ๑๐ อย่าง ก็คือ กรรมบถ ๑๐ ใครไม่เคารพกรรมบถ ๑๐ ต้องลงนรกขุมใหญ่ ๑๐ หรือเรียกว่า ใครไม่เคารพในกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการ มีโอกาสได้อยู่นรกขุมใหญ่สบาย ๆ มีวาสนาบารมีมาก
กรรมบถทั้ง ๑๐ ประการ ที่ควรเว้นมีอะไร คือ
๑.เราต้องไม่ฆ่าสัตว์ ถ้าเราฆ่าสัตว์ ก็เรียกว่า เราไม่เคารพในกรรมบถข้อนี้
๒.การลักทรัพย์
๓.การประพฤติผิดในกาม ทั้งเมียเขา ทั้งลูกเขา ทั้งผัวเขา ทั้งลูกจ้างของเขา ขี้ข้าเขา ทาสเขา ทั้งนั้น จิปาถะ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นการไม่เคารพในกรรมบถ ๑๐
๔.ไม่พูดโกหกมดเท็จ
๕.ไม่ส่อเสียดยุยงส่งเสริมให้เขาแตกร้าวกัน
๖.ไม่พูดคำหยาบ
๗.ไม่พูดจาเพ้อฝัน เลอะเทอะหาประโยชน์มิได้
๘.ไม่เพ่งเล็งอยากจะลักทรัพย์ ขโมยทรัพย์ ปล้นทรัพย์ แย่งทรัพย์ คดโกงทรัพย์ของบุคคลอื่น
๙.ไม่จองล้างจองผลาญ ที่เรียกกันว่า ความพยาบาท
๑๐.ไม่มีความเห็นไม่ตรงกับพระพุทธเจ้า ไอ้ส่วนที่เลวคิดว่าดี ส่วนที่ดีคิดว่าเลว ที่พระพุทธเจ้าตักเตือนแล้วไม่เอา
นี่การบำเพ็ญบารมีเพื่อจะอยู่ในนรกขุมใหญ่ บำเพ็ญกันให้ครบ ๑๐ อย่างดีไหม บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท
เอ๊ะ..๑๐ อย่างนี่ ไม่มีน้ำเมาไว้ด้วยนะ น่ากลัวนรกขุมใหญ่นี่เขาไม่รับคนชอบดื่มเหล้า คนชอบดื่มเหล้านี่ควรจะดีใจนะ นรกขุมใหญ่เขาไม่รับแล้ว มันดีไม่พอ อย่าลืมนะบรรดาท่านผู้ฟัง และญาติโยมพุทธบริษัทที่กำลังรับฟัง และพระคุณเจ้าที่เคารพ อยากจะไปนรกท่องให้ดีนะ เฉพาะนรกขุมใหญ่
๑. พยายามฆ่าสัตว์เข้า
๒. ลักทรัพย์ ขโมยทรัพย์ ปล้นทรัพย์ แย่งชิงทรัพย์ คดโกงทรัพย์ ใครเขามาทำบุญสุนทาน กันเข้ากระเป๋าไว้บ้าง
๓. ไอ้เรื่องกาเมสุมิจฉาจาร เหมาะเมื่อไรว่าเมื่อนั้น ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องเลือกจะเป็นลูกใคร เมียใคร ขี้ข้าใคร คนรับใช้ใคร ลูกจ้างใคร ไม่เกี่ยว มีโอกาสจัดการเรื่อยไป แล้วผัวใครด้วยนะ
๔. เรื่องความจริงไม่ต้องพูดกัน โกหกมันดะ
๕. ยุยงส่งเสริมให้แตกร้าวกันเสีย มันสนุกดี มันทะเลาะกันได้ มันตีกันได้ มันฆ่ากันได้ เราสบายใจ
๖. เรื่องวาจาสุภาพอย่าไปพูดมัน พูดหยาบ ๆ คาย ๆ มึงวาพาโวย ด่าพ่อล่อแม่ใครก็ได้ตามอัธยาศัย
๗. เรื่องที่เป็นเรื่องอย่าพูด พูดมันแต่เรื่องที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน
๘. ทรัพย์สินของใครมีอยู่ ถ้าชอบใจ ตั้งใจเลยว่า เราจะขโมยของเขา
๙. จองล้างจองผลาญ จ้องประหัตประหารมันเรื่อยไปไม่ว่าใคร
๑๐. คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไม่มีความหมาย เราไม่เชื่อ มาพูดอะไรกัน เรื่องสวรรค์ เรื่องนรก เรื่องอะไรต่ออะไรไม่เห็นมีความหมาย เราไม่เชื่อ
เอาละ บำเพ็ญบารมี ๑๐ อย่าง อย่างนี้พอ พอที่จะลงนรกขุมใหญ่ได้แบบสบาย ๆ พระยายมไม่รังเกียจ
ตานี้ มานรกขุมเล็กอีก ๑๐ ขุม เรียกกันว่า ยมโลกียนรก ทำรับเฉพาะ เรียกว่ารับเฉพาะ ไม่ใช่นรกแป๊ะเจี๊ยะ ทำอย่างนี้อยู่ขุม ๑ ได้ ทำอย่างนี้อยู่ขุม ๒ได้ เขาเรียกกันว่าอะไร จะพูดบารมีให้ฟัง เวลามันใกล้จะหมด
ถ้าอยากจะอยู่นรกขุมที่ ๑ ฆ่าสัตว์ให้หนัก
อยากจะอยู่นรกขุมที่ ๒ เจ้าชู้ให้หนัก
อยากจะอยู่นรกขุมที่ ๓ ลักขโมยให้หนัก คดโกงเขาให้หนัก
ขุมที่ ๔ ดื่มน้ำเมาให้หนัก
ขุมที่ ๕ โกงเงินทำบุญให้หนัก ทายกกับพระนี่ระวังนะ ระวัง ถ้าชอบใจอยู่ ขุมที่ ๕ สำหรับยมโลกียนรก โกงให้หนัก
ขุมที่ ๖ เป็นข้าราชการ โกงให้หนัก
ขุมที่ ๗ เรื่องซื่อตรงไม่มีสำหรับเขา
ขุมที่ ๘ เรื่องเมตตาปรานี ไม่มีสำหรับเขา
ขุมที่ ๙ ด่าดะไม่เลือกว่าใคร
ขุมที่ ๑๐ ซ้อมคู่ครองให้หนัก
นี่เป็นบารมีสำหรับยมโลกียนรกส่วนใหญ่ คนฆ่าสัตว์แล้วก็เลยลงนรกขุมใหญ่มาก่อน พ้นจากนรกขุมใหญ่แล้วเข้านรกบริวาร ๔ ขุม แล้วจึงมาเข้าขุมที่ ๑
นี่เขามาคิดบัญชีกันต่างหากเฉพาะอย่าง สำหรับนรกขุมใหญ่น่ะ เป็นนรกแป๊ะเจี๊ยะ ไม่ยอมคิดบัญชีให้ เรียกว่าอะไร ๆ ก็ไปรวมอยู่ก่อน เสร็จจากนรกขุมใหญ่ ก็มาไล่เบี้ยกันทีหลังว่าแกมีโทษอะไรบ้าง ฉันจะจัดการกับแกตามโทษนั้น
เอาละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน นี่พูดไปพูดมา พูดมาพูดไป ก็เห็นว่าจะหมดเวลา ๓๐ นาทีเสียแล้วกระมัง เพราะดูเวลามันก็หมดแล้วนี่ เมื่อหมดแล้วสำหรับพุธนี้ ก็ยังไม่ได้อะไร เพียงแต่ได้อารัมภบทมาบำเพ็ญบารมีลงนรกกัน เมื่อรู้บารมีแล้ว ก็ตั้งใจไว้จะไปนรกขุมไหน เอาละ สำหรับวันนี้ก็หมดเวลาแล้ว อาตมาก็ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านศาสนิกชนผู้รับฟังทุกท่าน สวัสดี

ที่มา.......
__________________ (http://www.putthawutt.com/html/menu.html)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:29:28 pm
01-10-2010, 11:32 PM        #41081
:::เพชร:::
สมาชิก
กรรมที่นำไปสู่นรก


ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย และพระคุณเจ้าที่เคารพ วันนี้อาตมามีโอกาสพบกับบรรดาท่านพุทธบริษัทตามปกติ เอายังงี้ก็แล้วกันนะ คือว่าเราพูดกันถึงเหตุมานานแล้ว การที่นำเอาเรื่องราวของหลวงพ่อปานและคณะศิษยานุศิษย์ก็ดี หรือว่าพระรุ่นท่าน พระเพื่อนท่านก็ตาม เอามาเล่าให้บรรดาท่านพุทธบริษัทฟัง อันนี้เป็นเหตุ เหตุที่บอกก็บอกว่าถ้าใครทำความดีแบบนั้น ใครทำความชั่วแบบนั้นจะไปสู่อบายภูมิ หรือว่าไปสู่สวรรค์ ไปสู่พรหมไปสู่นิพพาน นี่เรียกว่าเราเล่าต้นทาง แล้วก็พาดพิงไปถึงปลายทางว่า ถ้าทำแบบนี้ละก็ ท่านจะต้องไปนรก หรือว่าไปสวรรค์ ไปทำแบบนี้ละก็ ท่านจะต้องไปนรก หรือว่าไปสวรรค์ ไปพรหมโลก หรือไปนิพพาน ตอนต้นเรากล่าวกันอย่างนั้น
ต่อจากนี้ไป จะขอให้เรื่องที่พูดนี้ เรียกกันว่าเรื่อง "ไตรภูมิ"
ไตรภูมิ แปลว่า ภูมิสาม ภูมิ ก็แปลว่า แผ่นดินหรือสถานที่อยู่ เป็นสถานที่ที่อยู่กัน เราเรียกกันว่าภูมิ สำหรับภูมิในที่นี้ จะกล่าวถึงอบายภูมิ แล้วก็สวรรค์ พรหมโลก ดีไม่ดี ก็จะย่องพูดถึงเรื่องนิพพานสักนิดหนึ่ง เพราะกันตัวอาตมาเองเป็นมิจฉาทิฏฐิ สำหรับคนอื่นไม่เกี่ยว อาตมาน่ะเป็นห่วงตัวเอง ห่วงความเป็นมิจฉาทิฏฐิของตัวเอง ที่เทศน์ว่าพระนิพพานสูญมานาน ใครเขาจะถามถึงพระนิพพานก็บอกเลย บอกว่าพระนิพพานนี่มีสภาพสูญ มีอุปมาดุจหนึ่งว่าควันไฟที่ลอยไปในอากาศ จะมีที่เกาะที่พักมันก็ไม่มีฉันใด แม้พระที่เข้าสู่พระนิพพานก็เหมือนกัน มีสภาพเหมือนควันไฟ นี่ไปค้านกับคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้า เพราะว่าไปค้นในพระไตรปิฎก ไปพบเอาตอนที่พระพุทธเจ้าทรมานท้าวผกาพรหมที่ท้าผกาพรหมท่านบอกว่า พรหมเท่านั้นแหละเป็นความสุขสูงสุด และพรหมไม่เป็นอนัตตา พรหมเป็นอัตตาไม่มีการสลายตัว
ทั้งนี้ก็เพราะว่าอาศัยพวกระฆังเล็ก ๆ ทั้งหลายสนับสนุนยุยงส่งเสริม เห็นว่าท่านผกาพรหมเป็นพรหมที่มีวาสนาบารมีมากก็เลยยุท่านส่งเดชเข้าให้ ท่านผกาพรหมก็เมามัน ไอ้เสียงคนนี่ บรรดาท่านพุทธบริษัทกรอกหูนาน ๆ มันอดจะเขวไม่ได้หรอก เป็นเรื่องธรรมดา
ทีนี้ในเมื่อท่านผกาพรหมท่านมาเข้าแล้วท่านก็เลยคิดว่าในเมื่อพรหมเป็นอมตะ เป็นแดนไม่ตาย เป็นแดนที่มีความสุขมากที่สุด เวลานี้พระสมณโคดมออกจากตระกูลศากยราชมาบวชแล้วก็ประกาศว่า สิ่งที่สูงสุดยิ่งกว่านั้นมีอยู่ คือ พระนิพพาน ยิ่งกว่าพรหม สูงกว่าพรหมมีพระนิพพานเป็นที่ไป แล้วก็เป็นแดนสูงสุด มันจะจริงหรือไม่จริงเราไม่เชื่อ เมื่อพระพุทธเจ้าทราบวาระน้ำจิตของท่านผกาพรหมก็เสด็จไปสู่พรหม ท้าทายกันด้วยเรื่องฤทธิ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นการทรมาน ในที่สุดพระพุทธเจ้าก็บอกว่า หากว่าท่านเก่งจริงละก้อ เล่นซ่อนหากับเรา พระพุทธเจ้าให้ท้าวผกาพรหมซ่อนก่อน จะซ่อนที่ไหนก็ตาม พระพุทธเจ้าก็มองเห็น ในที่สุดหมดท่า ก็ให้พระพุทธเจ้าซ่อนบ้าง พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ซ่อน ท่านประทับนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วก็ทำให้ท้าวผกาพรหมไม่เห็น พระองค์ก็ทรงแสดงเสียงให้ ปรากฏท้าวผกาพรหมก็มองไม่เห็นว่าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ตรงไหน เป็นอันว่าท้าวผกาพรหมยอมแพ้พระพุทธเจ้า
ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสว่า ผกาพรหมเธอเป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะคำป้อยอของคนอื่น บรรดามารทั้งหลาย คำว่า มารในที่นี้ไม่ได้แปลว่า ยักษ์ มาร แปลว่า ผู้ฆ่า คือ ความเห็นที่ไม่ถูกทางของบุคคลผู้ยุยงส่งเสริม พยายามเกลี้ยกล่อมชักจูงเธอให้เห็นผิด เธอเกิดเป็นพรหมชั้นสูงแล้วมาเกิดเป็นพรหมชั้นต่ำแล้วก็ต่ำลงมา อาศัยที่เธอบำเพ็ญบารมีมามาก ไปเป็นพรหมเสียหลายร้อยกัปหลายพันกัปจึงลืมสภาวะเดิม ลืมเรื่องของการจุติ การเกิดการตายในแดนที่ไม่ใช่พระนิพพาน ต่อจากนี้ไปเธอจงเป็นผู้เห็นถูก
ในที่สุดท้าวผกาพรหมก็ยอมรับคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงตรัสว่า ดินแดนที่มีสุขยิ่งกว่านี้มีอยู่ นั่นคือ พระนิพพาน
เห็นไหมเล่า บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท พระพุทธเจ้าทรงยืนยันพระนิพพานว่าเป็นดินแดนพิเศษ เป็นทิพย์พิเศษสูงยิ่งกว่าพรหม คราวนี้เรื่องของพรหม เรื่องของเทวดา เรื่องพระนิพพานนี่ ถ้าเรายังไม่เห็น เราก็อย่าพึ่งรับรองกันนักว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง ถ้าใครเขาถามขึ้นก็บอกว่าพูดตามตำรากันไว้ก่อน ต่อมาเมื่อเราเข้าถึงทิพจักขุญาณ แล้วก็สามารถเจริญวิปัสสนาถึงระดับพอที่จะเห็นพระนิพพานได้ ตอนนั้นเราค่อยพูดกันเรื่องพระนิพพาน จะพูดกันได้ตอนไหน ก็ตอนที่ท่านทั้งหลายเจริญสมถะพอสมควรจนได้ทิพจักขุญาณแล้ว แล้วก็เจริญวิปัสสนาญาณให้เข้าถึงโคตรภูญาณ โคตรภูรู้จักไหม? ถ้าไม่รู้จักก็จะบอกว่า อยู่ระหว่างโลกียะ กับ โลกุตตระ ส่วนหนึ่งของใจยังเป็นโลกียชน อีกส่วนหนึ่งของใจจะเป็นโลกุตตรชน จะเป็นพระโสดาบัน ตอนนั้นแหละท่านทั้งหลายจะอาศัยทิพจักขุญาณเห็นพระนิพพานได้แบบสบาย ๆ ตอนนั้นแหละบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย เราพูดกันถึงเรื่องพระนิพพาน
เวลานี้ท่านเห็นเปรตบ้างไหม? เปรตมีสภาพหยาบที่สุด ถ้าหากว่าท่านไม่สามารถจะเห็นเปรตก็อย่าเพิ่งพูดเรื่องของพระนิพพาน ถ้าพูดแล้วมันผิด ที่นี้เรื่องของพระกรรมฐานนี่นะ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท มีหลวงพี่องค์หนึ่งท่านสอนมาทางอากาศ ว่าอย่าเที่ยวนำพูดเพ้อเจ้อไปนะ เรื่องกรรมฐานนี่ ต้องพูดเฉพาะในเวลาที่สมควร ถ้ายังไม่ถึงเวลาสมควรมาพูดละ ดีไม่ดีเป็นอวดอุตตริมนุสสธรรม ตีความหมายเป็นอย่างงั้นนะ
อาตมาฟังแล้วก็สงสัย ไม่รู้ว่าพระอะไร ได้ยินแต่เสียง ก็อยากจะถามท่านเสียตอนนี้เลยว่า ไอ้ "เวลาสมควร" น่ะ มันตรงไหนเวลาเท่าไหร่ เมื่อไรจึงจะสมควร เวลานี้บรรดาท่านพุทธบริษัทที่เป็นฆราวาสเขาเจริญพระกรรมฐานกัน มีหลายท่านได้ทิพจักขุญาณ ไปนั่งอายเขามานี่หลายคนแล้วนะ จะบอกให้ ผู้หญิงบางทีเรียนนอกเรียนนามาตั้งแต่อายุ ๖ ขวบ ๗ ขวบ กว่าจะเข้ามานับถือพระพุทธศาสนาก็ ๓๐ ปีเศษ เขาได้ทิพจักขุญาณ เขาสามารถใช้กำลังจิตรักษาโรคก็ได้
นี่อำนาจพระกรรมฐานเข้าไปถึงฆราวาสแล้วหลวงพี่ แล้วถ้าหล่วงพี่ยังจะมรานั่งคอยเวลา "สมควร" น่ะ นี่ถามจริง ๆ เถอะพ่อคุณ บวชเข้ารมาเวลานี้น่ะ ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า?
ที่พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า การบวชจะต้องถือกฎ ๓ อย่าง เป็นสำคัญ
๑. อธิศีลสิกขา รักษาศีลยิ่งกว่าฆราวาส
๒. อธิจิตสิกขา ทำจิตให้มั่นคงในสมาธิที่เรียกกันว่า ได้ฌาน
๓. อธิปัญญาสิกขา ทำจิตใจของเราให้ผ่องใสจากกิเลส
นี่คงจะบวชเข้ามาแล้วก็ทำตัวเป็นฆราวาสเอาเอ่น แล้วเวลาพูดก็เห็น อ้างพระอาจารย์อะไรต่อพระอาจารย์อะไร พระอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้นยังเมาอยู่ในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ตามธรรมดาน่ะ พระที่บวชเข้ามาน่ะ เขาเกาะพระพุทธเจ้ากันนะ เขาไม่ได้เกาะพระที่มีกิเลส ก็หลวงพี่ไปเกาะพระที่มีกิเลสเป็นสรณะ แล้วกิเลสมันจะหมดหัวได้ยังไง แสดงว่า กิเลสยังเต็มหัวอยู่
เรื่องของพระกรรมฐานเป็นเรื่องธรรมดาที่พุทธบริษัทควรรู้ ถ้าเราไม่พูดเมื่อไรเขาจะรู้ จะมานั่งหลอกลวงเขากินอยู่ หรือว่าเราบวชเข้ามาแล้วน่ะ ดียังงั้นดียังงี้ ควรแก่การไหว้ สักการะของบรรดาพุทธบริษัท แต่ความจริงแล้วจะพูดเรื่องพระกรรมฐานก็บอกไม่สมควร นีมันดีหรือหลวงพี่?
จำไว้นะ จำไว้ให้ดีว่า เราบวชเข้ามาแล้ว จงเอาสวรรค์ เอาพรหมโลก เอาพระนิพพานเป็นปัจจัยของเรา เอาสิ่งทั้งสามประการเป็นที่พึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่เราจะบวช เวลานี้นักปรูดทั้งหลาย ( ไม่ใช่นักปราชญ์ ) ตัดความสำคัญออก
เมื่อก่อนนี้เวลาเขาจะบวชกับอุปัชฌาย์ว่า
"นิพพานนัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา" ซึ่งแปลเป็นใจความว่า "ข้าพเจ้าขอรับผ้ากาสาวพัสตร์เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน"
แต่เวลานี้นักปรูดทั้งหลายตัดทิ้งไป ใช้อะไรเสียก็ไม่ทราบ ไปขึ้น เอสาหัง ก็ปรารภพระนิพพานในเบื้องต้นเหมือนกัน ในเมื่อเราบวชเข้ามาปรารภพระนิพพาน แล้วเวลาเราบวชเข้าแล้วจริง ๆ เราจะมาปรารภ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพื่อประโยชน์อะไร
เป็นอันว่า หลวงพี่เข้าใจผิดเสียแล้วนะ หลวงพี่นะดีไม่ดี ผมจะบอกว่า หลวงพี่นั่นแหละ เวลานี้กำลังใจยังทรามกว่าฆราวาสที่เป็นผู้หญิงหลายคนที่เขาปฏิบัติตนได้ดี กว่าหลวงพี่นะ เพราะเห็นว่าควรแล้ว
เวลานี้กรรมฐานตั้งสำนักกันอย่างกับดอกเห็ด มีทั่วประเทศ มีกระทั่งนอกประเทศ ถ้าเวลานี้ยังไม่สมควรพูดเรื่องกรรมฐาน เวลาไหนมันจะควร หรือว่าจะรอให้กิเลสมันเลยหัวไปสักหน่อยแล้วจึงจะควร อันนี้เราฟังกันไว้แล้วก็คิดด้วยนะ ถ้าหลวงพี่องค์นั้นรับฟังละก้อเอาไปคิดด้วย แล้วก็จงรู้ตัวเสียด้วยว่าเราทำเราพูดน่ะมันไม่ควร
เอาละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท อาตมาเป็นคนปากเสียเป็นปกติ แต่เสียแบบนี้เสียในฐานะเพื่อจะตักเตือนเพื่อนพระด้วยกัน ให้บวชให้เป็นพระ ไม่ใช่บวชเข้ามาแล้ว แล้วก็จะเอาปฏิปทาอย่างอื่นมาใช้ ประเดี๋ยวจะพูดให้ฟัง เรื่องทะเลาะกันแล้วนะ หลวงพี่องค์นั้นก็เหมือนกัน ทีหลังจะทะเลาะกับผลละก้อ ฟังเรื่องต่อไปว่าท่านชอบอะไร
วันนี้ เรามาเริ่มเรื่องไตรภูมิกัน แล้วเราจะไปไหนกันก่อนล่ะ มีอบายภูมิสี่ คือ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดียรัจฉาน นี่จัดเป็นภูมิที่หนึ่ง ภูมิที่สองก็ได้แก่ สวรรค์ชั้นกามาวจรสวรรค์ ภูมิที่สามก็ได้แก่ พรหม พระนิพพานยังไม่เกี่ยว สามภูมินี่เราจะไปไหนกันก่อน ขอชวนบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท และพระคุณเจ้าที่เคารพ ไปเที่ยวนรกกันก่อนดีกว่า
ต่อจากนี้ไป เราไปทัศนาจรนรกกัน แน่ะ พูดทันสมัยเสียด้วย ไอ้ทัศนาจรนี่น่ะ มันเป็นศัพท์บาลีแกมไทย ทัศนะ จระ จระเป็นภาษาบาลี ไทยล่อจรเข้าให้ ก็เรียกว่าเที่ยวไปดูนรก ทัศนาจร แปลว่า เที่ยวดู ดูอะไร ดูนรก ตานี้เราจะไปนรก เราก็มาคิดดูว่า เราจะไปอยู่เลยหรือว่าเราจะไปเที่ยว ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทมีความสมัครใจจะอยู่นรกขุมไหน ตามอาตมาไปแล้วก็สมัครใจอยู่ได้เลย อาตมาจะบอกปฏิปทาให้ว่า เขาบำเพ็ญบารมีอะไร? จึงจะอยู่ขุมนรกนั้นได้ แต่ใครไม่อยากอยู่ก็ไปเที่ยวเฉย ๆ ก็แล้วกัน เวลากลับก็กลับด้วยกัน
ทีนี้เวลานำเที่ยวเวลานี้ใช้ยานอะไรเป็นพิเศษ? ไม่ยาก ใช้ยานหนังสือ เรียกว่าใช้ยานหนังสือเอาพระไตรปิฎกเป็นหลัก นี่.. คนชั้นดีเขาต้องทำยังงี้นะ นี่..ไม่มีใครเขายกก็ยกมันเองละ ไปมัวคอยชาวบ้านยกย่องสรรเสริญ เมื่อไรเขาจะยก ก็เอาพระไตรปิฎกเป็นหลัก แล้วก็เอาเรื่องที่พระคณาจารย์ทั้งหลายที่ทรงฌาน ทรงญาณพิเศษ อย่างพระโมคคัลลาน์ไปพบเห็นมา เอามาพูดต่อ รวมกันเข้าไป ญาติโยมทั้งหลายจะได้ทราบว่าตอนนี้ ที่นี้นรกชั้นนี้ สวรรค์ชั้นนี้ วิมานแบบนั้น เขาบำเพ็ญบารมีอะไรเข้าไว้ จึงจะได้อยู่อย่างนั้น นี่เป็นอันว่าเข้าใจ
ทีนี้ต่อจากนี้ไป ก่อนที่จะเดินทางไปนรก เราก็มาหาทุนกันก่อน ไปไหนไม่มีทุนนั้นไม่ได้ ทุนในทสี่นี้ไม่ใช่เงิน ไม่ใช่ทอง แต่ว่าเป็นทุนการบำเพ็ญบารมี เรามาพูดกันเสียก่อนว่า บารมีทสี่จะทำให้คนลงนรกน่ะ มันมียังไง เขาจึงได้ลงกันได้

นรกน่ะ แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ
นรกขุมใหญ่ และ ยมโลกียนรก
แล้วก็เฉพาะนรกขุมใหญ่แต่ละขุมกันมีนรกบริวารด้านละ ๔ ขุม ๔ ด้าน เป็นอันว่านรกขุมใหญ่ ๑ ขุม มีนรกบริวาร ๑๖ ขุม แต่ว่าสัตว์นรกที่จะผ่านนรกบริวารก็ผ่านแต่เพียง ๔ ขุม เพราะออกด้านใดด้านหนึ่งก็ผ่านสี่ขุม นรกขุมใหญ่นี่เราเรียกกันว่า นรกแป๊ะเจี๊ยะ หมายความว่า ลงโทษไม่จำกัดโทษ ไม่ใช่แยกประเภท
สำหรับยมโลกียนรกนั่นแยกประเภท คือ หมายความว่า ถ้าคนใดทำกรรมชั่วไปลงนรกขุมใหญ่ก่อน ลงขุมนี้เวลาจะออกจากขุมนี้ผ่านนรกบริวาร ๔ ขุม ถ้ากรรมชั่วอย่างหนักยังไม่หมดก็ไปลงขุมโน้นต่อไป ออกจากขุมนั้นก็ผ่านนรกบริวารอีก ๔ ขุม นรกขุมใหญ่นี้ เรียกกันว่า นรกแป๊ะเจี๊ยะ ไม่จำกัดโทษ ตรงกันข้ามกับยมโลกียนรก เขาแยกโทษเข้าไว้
ทีนี้มาว่ากันไป นรกขุมใหญ่มีโทษอะไร นี่ศึกษาบารมีการลงนรกเสียก่อน คนที่จะลงนรกต้องสร้างบารมี ต้องบำเพ็ญบารมี ถ้าบารมีไม่ถึงเขาก็ขับไปสวรรค์บ้าง ขับไปพรหมโลกบ้าง ขับมาเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เป็นสัตว์เดียรัจฉานบ้าง เป็นเปรตบ้าง เป็นอสุรกายบ้าง เขาไม่ยอมให้ลง แต่ถ้าหากว่ามีบารมีสมควร เขาก็ยินดีรับเอาไว้ในนรก นี่เฉพาะนรกขุมใหญ่นะ
บรรดาพระคุณเจ้าที่เคารพที่กำลังรับฟัง และ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท จะพูดให้ฟังว่านรกขุมใหญ่มีอะไรบ้างที่เราจะได้ไปน่ะ ต้องสร้างบารมีอะไร บารมีที่จะลงนรกขุมใหญ่นั้น ท่านกล่าวว่า ต้องสร้างบารมี ๑๐ อย่างครบถ้วน สุดแล้วแต่หนักเบา ถ้าสร้างเบาหน่อยก็ลงนรกขุมที่ ๑ หนักลงไปอีกนิดก็ลงนรกขุมที่ ๒ หนักลงไปอีกหน่อยก็ลงนรกขุมที่ ๓ หนักไปตามลำดับ ถ้าหนักเต็มที่ลงนรกขุมที่ ๘ เรียกว่า อเวจีมหานรก แล้วก็มีนรกพิเศษอีกอย่างหนึ่ง ถ้าหนักล้นเกินไปละก้อ ลงโลกันตนรก แล้วจึงจะถอยมาสู่อเวจีมหานรก
บารมีที่เขาปฏิบัติ ๑๐ อย่าง ก็คือ กรรมบถ ๑๐ ใครไม่เคารพกรรมบถ ๑๐ ต้องลงนรกขุมใหญ่ ๑๐ หรือเรียกว่า ใครไม่เคารพในกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการ มีโอกาสได้อยู่นรกขุมใหญ่สบาย ๆ มีวาสนาบารมีมาก
กรรมบถทั้ง ๑๐ ประการ ที่ควรเว้นมีอะไร คือ
๑.เราต้องไม่ฆ่าสัตว์ ถ้าเราฆ่าสัตว์ ก็เรียกว่า เราไม่เคารพในกรรมบถข้อนี้
๒.การลักทรัพย์
๓.การประพฤติผิดในกาม ทั้งเมียเขา ทั้งลูกเขา ทั้งผัวเขา ทั้งลูกจ้างของเขา ขี้ข้าเขา ทาสเขา ทั้งนั้น จิปาถะ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นการไม่เคารพในกรรมบถ ๑๐
๔.ไม่พูดโกหกมดเท็จ
๕.ไม่ส่อเสียดยุยงส่งเสริมให้เขาแตกร้าวกัน
๖.ไม่พูดคำหยาบ
๗.ไม่พูดจาเพ้อฝัน เลอะเทอะหาประโยชน์มิได้
๘.ไม่เพ่งเล็งอยากจะลักทรัพย์ ขโมยทรัพย์ ปล้นทรัพย์ แย่งทรัพย์ คดโกงทรัพย์ของบุคคลอื่น
๙.ไม่จองล้างจองผลาญ ที่เรียกกันว่า ความพยาบาท
๑๐.ไม่มีความเห็นไม่ตรงกับพระพุทธเจ้า ไอ้ส่วนที่เลวคิดว่าดี ส่วนที่ดีคิดว่าเลว ที่พระพุทธเจ้าตักเตือนแล้วไม่เอา
นี่การบำเพ็ญบารมีเพื่อจะอยู่ในนรกขุมใหญ่ บำเพ็ญกันให้ครบ ๑๐ อย่างดีไหม บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท
เอ๊ะ..๑๐ อย่างนี่ ไม่มีน้ำเมาไว้ด้วยนะ น่ากลัวนรกขุมใหญ่นี่เขาไม่รับคนชอบดื่มเหล้า คนชอบดื่มเหล้านี่ควรจะดีใจนะ นรกขุมใหญ่เขาไม่รับแล้ว มันดีไม่พอ อย่าลืมนะบรรดาท่านผู้ฟัง และญาติโยมพุทธบริษัทที่กำลังรับฟัง และพระคุณเจ้าที่เคารพ อยากจะไปนรกท่องให้ดีนะ เฉพาะนรกขุมใหญ่
๑. พยายามฆ่าสัตว์เข้า
๒. ลักทรัพย์ ขโมยทรัพย์ ปล้นทรัพย์ แย่งชิงทรัพย์ คดโกงทรัพย์ ใครเขามาทำบุญสุนทาน กันเข้ากระเป๋าไว้บ้าง
๓. ไอ้เรื่องกาเมสุมิจฉาจาร เหมาะเมื่อไรว่าเมื่อนั้น ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องเลือกจะเป็นลูกใคร เมียใคร ขี้ข้าใคร คนรับใช้ใคร ลูกจ้างใคร ไม่เกี่ยว มีโอกาสจัดการเรื่อยไป แล้วผัวใครด้วยนะ
๔. เรื่องความจริงไม่ต้องพูดกัน โกหกมันดะ
๕. ยุยงส่งเสริมให้แตกร้าวกันเสีย มันสนุกดี มันทะเลาะกันได้ มันตีกันได้ มันฆ่ากันได้ เราสบายใจ
๖. เรื่องวาจาสุภาพอย่าไปพูดมัน พูดหยาบ ๆ คาย ๆ มึงวาพาโวย ด่าพ่อล่อแม่ใครก็ได้ตามอัธยาศัย
๗. เรื่องที่เป็นเรื่องอย่าพูด พูดมันแต่เรื่องที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน
๘. ทรัพย์สินของใครมีอยู่ ถ้าชอบใจ ตั้งใจเลยว่า เราจะขโมยของเขา
๙. จองล้างจองผลาญ จ้องประหัตประหารมันเรื่อยไปไม่ว่าใคร
๑๐. คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไม่มีความหมาย เราไม่เชื่อ มาพูดอะไรกัน เรื่องสวรรค์ เรื่องนรก เรื่องอะไรต่ออะไรไม่เห็นมีความหมาย เราไม่เชื่อ
เอาละ บำเพ็ญบารมี ๑๐ อย่าง อย่างนี้พอ พอที่จะลงนรกขุมใหญ่ได้แบบสบาย ๆ พระยายมไม่รังเกียจ
ตานี้ มานรกขุมเล็กอีก ๑๐ ขุม เรียกกันว่า ยมโลกียนรก ทำรับเฉพาะ เรียกว่ารับเฉพาะ ไม่ใช่นรกแป๊ะเจี๊ยะ ทำอย่างนี้อยู่ขุม ๑ ได้ ทำอย่างนี้อยู่ขุม ๒ได้ เขาเรียกกันว่าอะไร จะพูดบารมีให้ฟัง เวลามันใกล้จะหมด
ถ้าอยากจะอยู่นรกขุมที่ ๑ ฆ่าสัตว์ให้หนัก
อยากจะอยู่นรกขุมที่ ๒ เจ้าชู้ให้หนัก
อยากจะอยู่นรกขุมที่ ๓ ลักขโมยให้หนัก คดโกงเขาให้หนัก
ขุมที่ ๔ ดื่มน้ำเมาให้หนัก
ขุมที่ ๕ โกงเงินทำบุญให้หนัก ทายกกับพระนี่ระวังนะ ระวัง ถ้าชอบใจอยู่ ขุมที่ ๕ สำหรับยมโลกียนรก โกงให้หนัก
ขุมที่ ๖ เป็นข้าราชการ โกงให้หนัก
ขุมที่ ๗ เรื่องซื่อตรงไม่มีสำหรับเขา
ขุมที่ ๘ เรื่องเมตตาปรานี ไม่มีสำหรับเขา
ขุมที่ ๙ ด่าดะไม่เลือกว่าใคร
ขุมที่ ๑๐ ซ้อมคู่ครองให้หนัก
นี่เป็นบารมีสำหรับยมโลกียนรกส่วนใหญ่ คนฆ่าสัตว์แล้วก็เลยลงนรกขุมใหญ่มาก่อน พ้นจากนรกขุมใหญ่แล้วเข้านรกบริวาร ๔ ขุม แล้วจึงมาเข้าขุมที่ ๑
นี่เขามาคิดบัญชีกันต่างหากเฉพาะอย่าง สำหรับนรกขุมใหญ่น่ะ เป็นนรกแป๊ะเจี๊ยะ ไม่ยอมคิดบัญชีให้ เรียกว่าอะไร ๆ ก็ไปรวมอยู่ก่อน เสร็จจากนรกขุมใหญ่ ก็มาไล่เบี้ยกันทีหลังว่าแกมีโทษอะไรบ้าง ฉันจะจัดการกับแกตามโทษนั้น
เอาละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน นี่พูดไปพูดมา พูดมาพูดไป ก็เห็นว่าจะหมดเวลา ๓๐ นาทีเสียแล้วกระมัง เพราะดูเวลามันก็หมดแล้วนี่ เมื่อหมดแล้วสำหรับพุธนี้ ก็ยังไม่ได้อะไร เพียงแต่ได้อารัมภบทมาบำเพ็ญบารมีลงนรกกัน เมื่อรู้บารมีแล้ว ก็ตั้งใจไว้จะไปนรกขุมไหน เอาละ สำหรับวันนี้ก็หมดเวลาแล้ว อาตมาก็ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านศาสนิกชนผู้รับฟังทุกท่าน สวัสดี

ที่มา.......
__________________
 (http://www.putthawutt.com/html/menu.html)

 01-10-2010, 11:42 PM        #41083
sittiporn.s
สมาชิก
คุณหนุ่ม
คุณเพชรชี้ทางสว่างให้แล้ว
พิจารณา
กวาดขยะ,มะเร็งในอารมณ์ของตนเองลงนรกให้หมด
ดีกว่ามั๊ย
อมความทุกข์ไว้ในอารมณ์ตนเอง
หนีไปนอน จะหลับตาลงเหรอ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:31:37 pm
 01-10-2010, 11:51 PM        #41084
:::เพชร:::
สมาชิก
ขอเป็น post สุดท้ายสำหรับคืนนี้ครับ ก่อนจะไปทบทวนตำราเพื่อสอบในวันพรุ่งนี้เช้า...

ผมขอเสนออย่างนี้ดีไม๊ ลองฟังดูก่อนนะครับ และขอให้ไม่ต้องกดอนุโมทนาให้ผมแม้แต่ click เดียว....

ผมรักเพื่อนผม ดังนั้นเมื่อเห็นสิ่งที่ผิดแผกไปจากการเผยแผ่ธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ต้องท้วงติงกัน ผมไม่ใช่คนพูดอ้อมค้อม และด้วยเหตุนี้ เพื่อนผมจึงเข้าใจผมว่าไม่ได้มุ่งร้ายเขา

ผมเชื่อว่าเพื่อนผมไม่ได้ชั่ว ไม่ได้โกงเงินสงฆ์ ไม่ได้หลอกลวงผู้ทำบุญ เพราะเขาไม่ได้รู้เรื่องว่าท่านได้โอนเงินไปหรือไม่ เขาไม่ได้เห็นเงิน เขาไม่ได้จับต้องเงิน เขาไม่ได้นับเงิน เขาไม่ได้ไปถอนเงิน เขาไม่ได้ใช้เงิน เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นหยาดเหงื่อแรงงานอันสุจริตของเขา สามารถพิสูจน์ความจริงของข้อนี้ได้ หลักฐาน และพยานชัด ผมเชื่อว่า หากมีคำกล่าวหาในทำนองนี้อีก เขามีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องผู้กล่าวหาเขาได้ และเชื่อว่า เขาจะเป็นผู้ชนะในที่สุด และขอบอกก่อนว่า เขาจะไม่ยอมความใดๆ ฉนั้นขอให้คิดให้ดีๆก่อนกล่าวหาเพื่อนของผมคนนี้ครับ...

หากเพื่อนผมเขากล่าววาจาหยาบคาย ท้าสาบานอีก ผมอยากจะให้เพื่อนๆที่ไม่ชอบแนวทางนี้งดการเข้าชม และการ post กระทู้"พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.." ๑ อาทิตย์ เพื่อเป็นการประท้วงที่ไม่เห็นชอบกับวิธีการดังกล่าว การที่เพื่อนผมเขาชอบวิธีการนี้ เพราะเขาคิดว่า เพื่อนๆชอบกัน จึงเข้ามาชมกระทู้กันมากมายเป็นล้าน click เป็นอะไรที่เขาชื่นชอบมาก ดังนั้นหากเพื่อนๆไม่ชอบวิธีการนี้ ขอความกรุณาอย่าได้กดเข้ามาชม เข้ามา post นะครับ หากอีก ๑ อาทิตย์ต่อมาเขาทำตัวน่ารักก็ค่อยเข้ามาชม เข้ามา post กันใหม่ ถือว่า ให้โอกาสเพื่อนผมเขาได้ปรับตัว ปรับวิธีการ เผยแผ่ธรรม ผมจะบอกความลับให้ หากเพื่อนๆไม่เข้ากระทู้ ภาระกิจของเขาจะยิ่งยืดยาวออกไป ไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือเสร็จแต่ก็ช้ามากๆ

ผมเชื่อว่า เพื่อนผมเป็นบุคคลที่สอนได้
__________________

02-10-2010, 12:31 AM        #41086
sittiporn.s
สมาชิก
ผมขอเข้ามาชม แต่จะ CLICK ไม่เห็นด้วย ถ้าไม่ตรงตามความคิดเห็นของผมครับ อย่างน้อยจะได้ให้เขาคิดว่าผมยังเป็นลูกค้ากระทู้นี้ครับ ไม่ว่ากันนะครับ

__________________

2-10-2010, 06:45 AM        #41087
sithiphong
สมาชิก
เรื่องพระวังหน้า ในบางครั้งผมเองไม่ต้องการให้คนรุ่นหลังโง่งมงาย จึงต้องสู้กับแก๊งค์บัวใต้น้ำ

หากไม่สู้ ผมคงไม่สามารถที่จะดึงคนให้กลับมาฉลาดได้บางส่วน ถ้าผมไม่สู้ในวันก่อนๆ จะมีวันนี้หรือไม่ครับ

เรื่องของงานบุญ ผมไม่ห่วงและกังวล เนื่องจากงานบุญไม่ว่าจะเป็นงานที่ สนส.ผาผึ้ง หรือ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ไม่ใช่งานที่ผมต้องทำเพียงคนเดียว เป็นงานของผู้ที่่ศรัทธาใน สนส.ผาผึ้ง และ สนส.บ่อเงินบ่อทอง

ส่วนเรื่องการให้ความรู้ เรื่องพระวังหน้า ก็แล้วแต่วาระ โอกาส และ วาสนา ในอนาคต

โดยส่วนตัวแล้ว หากไม่ีมีการพาดพิงมาถึงผม ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้น ผมรังเกียจ เคยมีคำโบราณว่า หากเจองูกับแขก ให้ตีแขกก่อน หากเจอแขกกับเจอนักการเมือง ให้ตีนักการเมืองก่อน และหากเจอนักการเมืองกับเสี้ยนพระ ให้ตีเสี้ยนพระก่อน

ผมเองยังคงยืนหยัดในคำที่ผมได้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และ สาบานไว้ว่า จะขอปกป้องพระวังหน้า ส่วนวิธีการต้องดูกันเป็นกรณีไป คนบางพวก ไม่สามารถที่จะพูดดีด้วยได้ เนื่องจากผลประโยชน์ของตัวเอง

ถึงแม้จะเหลือผมเพียงคนเดียว ผมยังยืนยันจะรักษาคำตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ของผมไว้แน่นอน
.
__________________

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:34:44 pm
ตอนนี้ รอมันตรัย , กำธร นครปฐม ว่าจะเป็นลูกผู้ชายตัวจริงเสียงจริง กล้าสมเป็นผู้ชายหรือเปล่า

ผม เป็นคนจริง โคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ผม สั่งสอนว่า ให้เป็นคนจริง กล้าโพส ต้องกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ เพราะว่า หากไม่กล้ารับผิดชอบในการพิสูจน์ในสิ่งที่ตนเองกระทำ ก็คิดดูเองว่า เป็นอย่างไรก็แล้วกัน

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2055.html




รอมันตรัย , กำธร นครปฐม

http://board.palungjit.com/f179/%E0%...ml#post3862230

__________________

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม อ่านข้อความ
พี่ เพชรที่เคารพครับผมขออนุญาติไม่เห็นด้วยนะครับพี่ท่าน ผมว่าพี่ๆที่ร่วมงานกันมาคงคุยกับคุณอาหนุ่มได้ครับทำความเข้าใจกันได้ ผมเห็นว่าไม่มีเรื่องที่เราจะมาลงโทษกันเองนะครับพี่ท่าน คุยกันได้ครับ ส่วนเรื่องที่ห้ามคนเข้ามานี่ผมไม่เห็นด้วยครับ ผมคนนึงละที่ขอเข้ามาทุกวัน หุหุหุ

 02-10-2010, 07:27 AM        #41093
sithiphong
สมาชิก
เราไม่ทะเลาะกันครับ

เพียงแต่เป็นห่วง ก็ต้องเตือนกัน

ความเห็นย่อมไม่เหมือนกันแน่นอนครับ


.
__________________
http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2055.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:35:49 pm
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joni_buddhist อ่านข้อความ
ผม กล้าไงบอกว่าของคุณมันเก๊พระฝีมือท่าพระจันทร์มั่วเม็ดแอบอ้างสมเด็จโต ทองตกที่ไหนก็เป็นทองครับ คนเขารู้ทั้งบ้านทั้งเมืองว่าเก๊ ยังลืมหูลืมตาหลอกก็กรรมใครกรรมมันครับ

02-10-2010, 09:58 AM        #41097
tuilan
สมาชิก
ผมว่าไม่เก๊นะครับ ผมได้ทำบุญและรับพระวังหน้าจากพี่เค้า ผมอาราธนาแล้วเอาไว้บนหัวนอน ฝันเห็นเลยครับ และเจอหลายองค์ด้วย ผมก็เลยได้กราบเกจิหลายรูปในฝัน วันต่อมาก็โดนหวยอีก โชคสามชั้นเลยครับ ได้ทำบุญ ได้กราบเกจิ ได้โชคลาภ ไม่เชื่อเพื่อนๆที่ทำงานเป็นพยานได้ครับ เขายังอยากร่วมบุญเลย คนกรรมหนาอย่างคุณคงไม่เคยเจออย่างผมละซิ คงว่างมากละนะวันนี้

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
...ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) กล่าวว่า เคล็ดลับสู่ความสำเร็จสุดยอดในทางธรรม คือ จะต้องมีสัจจะอันแน่วแน่และมีขันติธรรมอันมั่นคง จึงจะฝ่าฟันอุปสรรค บรรลุความสำเร็จได้
...อาตมามีกฎอยู่ว่า เช้าตีห้าไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง อากาศจะหนาว ต้องตื่นทันที ไม่มีการผัดเวลา แล้วเข้าสรงน้ำ ชำระกายให้สะอาด แล้วจึงได้สวดมนต์และปฏิบัติสมถกรรมฐานหนึ่งชั่วโมง พอหกโมงตรงก็ออกบิณฑบาต เพื่อปฏิบัติตามปฏิปทาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...ฝึกจิตให้ได้ผลต้องตรงต่อเวลา กลับจากบิณฑบาตแล้ว ก็เอาอาหารตั้งไว้ ตักน้ำใส่ตุ่ม เสร็จแล้วฉันอาหารเช้า โดยปกติอาตมาฉันมื้อเดียวเว้นไว้มีกิจนิมนต์ จึงฉันสองมื้อ สี่โมงเช้าถึงเที่ยง ถ้ามีรายการไปเทศน์ ก็ไปเทศน์ตามที่นัดไว้ วันไหนไม่ติดเทศน์ก็จะปิดประตูกุฏิทันที ไม่ให้ใครๆเข้าไป ในช่วงเวลานั้นเป็นเวลาศึกษาตำรา เวลาบ่ายโมงจึงออกรับแขก บ่ายสามโมงไม่ว่าใครจะมาอาตมาจะให้ออกจากกุฏิไปหมด เพราะถึงเวลาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ฉะนั้น จุดสำคัญจงจำไว้ เราจะปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น ต้องมีสัจจะเพื่อตน โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ถึงเวลาทำสมาธิต้องทำ ไม่มีการผัดผ่อนใดๆ ทั้งสิน
หลักการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
1.จะต้องมีสัจจะต่อตนเอง
2.จะต้องไม่คล้อยตามอารมณ์ของมนุษย์
3.พยายามตัดงานในด้านสังคมออก และไม่นัดหมายใครในเวลาปฏิบัติกรรมฐาน
ดังนั้นเมื่อจะเป็นนักปฏิบัติธรรมจำเป็นจะต้องมีกฎเกณฑ์ของเราเพื่อฝึกจิตให้เข้มแข็ง
ทางแห่งความหลุดพ้น
...เจ้าประคุณสมเด็จฯ มักจะกล่าวกับสานุศิษย์ทั้งหลายอยู่เสมอว่าชีวิตมนุษย์อยู่ได้ไม่ถึงหนึ่ง ร้อยปีก็ต้องตายและถูกหามเข้าป่าช้า ดังนั้นจึงควรประพฤติปฏิบัติอยู่ใน ศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏท่านเปรียบเทียบว่า มนุษย์อาบน้ำ ชำระกายวันละสองครั้งเพื่อกำจัดเหงื่อไคลสิ่งโสโครกที่เกาะร่างกาย แต่ไม่เคยคิดจะชำระจิตให้สะอาดแม้เพียงนาที ด้วยเหตุนี้ ทำให้จิตใจของมนุษย์ ยุคปัจจุบันเศร้าหมองเคร่งเครียดและดุดัน ก่อให้เกิดปัญหาความพิการในสังคมความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน จนกระทั่งเกิดความขัดแย้ง และกลายเป็นสงครามมนุษย์ฆ่ามนุษย์ด้วยกัน
แต่งใจ
...ขอให้ท่านได้พิจารณาไตร่ตรองให้จงดีเถิดว่า ร่างกายของเรานี้ไฉนจึงต้องชำระทุกวันทั้งเช้าและเย็นจะขาดเสียไม่ได้ทั้ง ที่หมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นนิจ แต่ยังมีกลิ่นไม่น่าอภิรมย์ออกมา แม้จะพยายามหาของหอมมาทาทับ ก็ปกปิดกลิ่นนั้นไม่ได้ ...ใจของเราล่ะ ซึ่งเป็นใหญ่กว่าร่างกายเป็นผู้สั่งบัญชางาน ให้กายแท้ๆ มีใครเอาใจใส่ชำระสิ่งสกปรกออกบ้าง ตั้งแต่เล็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันสั่งสมสิ่งไม่ดีไว้มากเพียงใด หรือว่ามองไม่เห็นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง ทำความสะอาดหรือ?
กรรมลิขิต
...เราทั้งหลายเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติแล้ว ล้วนแต่มีกรรมผูกพันกันมาทั้งสิ้น ผูกพันในความเป็นมิตรบ้างเป็นศัตรูบ้าง แต่ละชีวิตก็ย่อมที่จะเดินไปตามกรรมวิบากของตนที่ได้กระทำไว้ ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นเครื่องลิขิต
อดีตกรรม ถ้ากรรมดี เสวยอยู่
ปัจจุบันกรรม สร้างกรรมชั่ว ย่อมลบล้าง
อดีตกรรม กรรมแห่งอกุศล วิบากตน
ปัจจุบัน สร้างกรรมดี ย่อมผดุง
เรื่องกฎแห่งกรรม ถ้าเป็นชาวพุทธแล้ว เขาถือว่าเป็นกฎแห่งปัจจังตัง ผู้ที่ต้องการรู้ ต้องทำเอง รู้เอง ถึงเอง แล้วจึงจะเข้าใจ
นักบุญ
...การทำบุญก็ดี การทำสิ่งใดก็ดี ถ้าเป็นการทำตนให้ละทิฏฐิมานะทำเพื่อให้จิตเบิกบาน ย่อมเสวยบุญนั้นในปรภพ มนุษย์ทุกวันนี้ทำแบบมีกิเลส ดังนั้น บางคนนึกว่าเข้าสร้างโบสถ์เป็นหลังๆ แล้วเขาจะไปสวรรค์หรือเปล่า เขาตายไปอาจจะต้องตกนรก เพราะอะไรเล่า เพราะถ้าเขาสร้างด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ เป็นการทำเพื่อเอาบุญบังหน้าในการเสวยความสุขส่วนตัวก็มี บางคนอาจเรียกได้ว่าหน้าเนื้อใจเสือ คือข้างหน้าเป็นนักบุญ ข้างหลังเป็นนักปล้น
ละความตระหนี่มีสุข
...ดังนั้นบุญที่เขาทำนี้ถือว่า ไม่เป็นสุข หากมาจากการก่อกรรม บุญนั้นจึงมีกระแสคลื่นน้อยกว่าบาปที่เขาทำเอาไว้หากมีใครเข้าใจคำว่า บุญ นี้ดีแล้ว การทำบุญนี้จุดแรกในการทำก็เพื่อไม่ให้เรานี้เป็นคนตระหนี่ รู้จักเสียสละเพื่อความสุขของผู้อื่น ธรรมดาเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อมีทุกข์ก็ควรจะทุกข์ด้วย เมื่อมีความสุขก็ควรสุขด้วยกัน
อย่าเอาเปรียบเทวดา
...ในการทำบุญ สิ่งที่จะได้ก็คือ ระหว่างเราผู้เป็นมนุษย์เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนี้จะเป็นมงคล ทำให้จิตใจเบิกบานดีนี่คือการเสวยผลแห่งบุญในปัจจุบัน ทีนี้การทำบุญเพื่อจะเอาผลตอบแทนนั้น มนุษย์นี้ออกจะเอาเปรียบเทวดา ทำบุญครั้งใด ก็ปรารถนาเอาวิมานหนึ่งหลังสองหลัง การทำบุญแบบนี้เรียกว่า ทำเพราะหวังผลตอบแทนด้วยความโลภ บุญนั้นก็ย่อมจะไม่มีผล ท่านอย่าลืมว่า ในโลกวิญญาณเขามีกระแสทิพย์รับทราบในการทำของมนุษย์แต่ละคนเขามีห้องเก็บบุญ และบาปแห่งหนึ่งอันเป็นที่เก็บบุญและบาปของใครต่อใครและของเรื่องราวนั้นๆ กรรมของใครก็จะติดตามความเคลื่อนไหวของตนๆนั้น ไปตลอดระหว่างที่เขายังไม่สิ้นอายุขัย
บุญบริสุทธิ์
...การที่สอนให้ทำบุญโดยไม่ปรารถนานั้นก็เพื่อให้กระแสบุญนั้นบริสุทธิเป็น ขั้นที่นึ่ง จะได้ตามให้ผลทันในปัจจุบันชาติ แต่ถ้าตามไม่ทันในปัจจุบันชาติ ก็ติดตามไปให้เสวยผลในปรภพ คือ เมื่อสิ้นอายุขัยจากโลกมนุษย์ไปแล้ว ฉะนั้น เขาจึงสอนไม่ให้ทำบุญเอาหน้า ทำบุญอย่าหวังผลตอบแทน สิ่งดีที่ท่านทำไปย่อมได้รับสนองดีแน่นอน
สั่งสมบารมี
...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับนักปฏิบัติธรรมแล้ว การทำบุญทำทานย่อมเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติจิตให้บรรลุธรรมได้เร็วขึ้นเป็น บารมีอย่างหนึ่ง ในบารมีสิบทัศที่ต้องสั่งสม เพื่อให้สำเร็จมรรคผลนิพพาน
เมตตาบารมี
...การทำบุญให้ทานเพียงแต่เรียกว่า ทานบารมี หากบำเพ็ญสมาธิจิตจนได้ญาณบารมี และโดยเฉพาะการบำเพ็ญทุกอย่างนั้น ถ้าท่านให้โดยไม่มีเจตนาแห่งการให้ ให้สักแต่ว่าให้เขาท่านก็ย่อมได้กุศลเรียกว่าไม่มากและทัศนคติของอาตมาว่า การบำเพ็ญเมตตาบารมีในภาวนาบารมีนั้นได้กุศลกรรมกว่าการให้ทาน
แผ่เมตตาจิต
...ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสัมฤทธิ์ผลนั้น เกิดจากกรรม 3 อย่าง คือ มโนกรรม เป็นใหญ่ แล้วค่อยแสดงออกมาทางวจีกรรม หรือกายกรรมที่เป็นรูป การบำเพ็ญสมาธิจิตเป็นกุศลดีกว่า เพราะว่า การแผ่เมตตา 1 ครั้ง ได้กุศลมากกว่าสร้างโบสถ์ 1 หลัง ขณะจิตที่แผ่เมตตานั้น จะเกิดอารมณ์แจ่มใส สรรพสัตว์ไม่มีโทษภัย ตัวท่านก็ไม่มีโทษภัย ฉะนั้น เขาจึงว่านามธรรมมีความสำคัญกว่า
อานิสงส์การแผ่เมตตา
...ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ต้องรู้จักคำว่า แผ่เมตตา คือต้องเข้าใจว่า ความวิเวกวังเวงแห่งการคิดนึกของเราแต่ละบุคคลนั้น มีกระแสแห่งธาตุไฟผสมอยู่ในจิตและวิญญาณกระจายออกไปเมื่อจิตของเรามี เจตนาบริสุทธิ์ เมื่อจิตของเราเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อนั้นเขาก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา เสมือนหนึ่งเราให้เขากินอาหาร คนที่กินอาหารนั้นย่อมคิดถึงคุณของเรา หรืออีกนัยหนึ่งว่าเราผูกมิตรกับเขาๆก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา แม้แต่คนอันธพาล เราแผ่เมตตาจิตให้ทุกๆวัน สักวันหนึ่งเขาก็ต้องเป็นมิตรกับเราจนได้ เมื่อจิตเรามีเจตนาดีต่อดวงวิญญาณทุกๆดวง ดวงวิญญาณทุกๆดวงย่อมรู้กระแสแห่งจิตของเรา เรียกว่ามนุษย์เรานี้มีกระแสธาตุไฟออกจากสังขาร เพราะเป็นพลังแห่งการนั่งสมาธิจิต วิญญาณจะสงบ ธาตุทั้ง 4 นั้น จะเสมอแล้วจะเปล่งเป็นพลังงานออกไป ฉะนั้น ผู้ที่นั่งสมาธิปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จิตแน่วแน่แล้ว โรคที่เป็นอยู่มันจะหายไป ถ้าสังขารนั้นไม่ใช่จะพังเต็มทีแล้ว คือไม่ถึงวาระสิ้นอายุขัย หรือว่าสังขารนั้นร่วงโรยเกินไปแล้ว ก็จะรักษาให้มันกระชุ่มกระชวยได้หรือจะให้มันสบายหายเป็นปกติดั่งเดิมได้
ประโยชน์จากการฝึกจิต
...ผู้ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนมีสมาธิแน่วแน่ เมื่อจิตนิ่งก็รู้ตน เริ่มพิจารณาตน รู้ตนเองได้ ปัญญาก็เกิดขึ้น ปัญญานี้เรียกว่า ปัญญาภายในจากจิตวิญญาณ ซึ่งเราจะใช้ปัญญานี้ได้แน่นอน เมื่อเกิดมีปัญหาขึ้นในชีวิตตลอดระยะเวลาอันยาวนานข้างหน้า นี่คือประโยชน์ของการฝึกจิตแล้ว คุณของสมาธิยังเป็นพลังป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัย เจ็บป่วยได้ กล่าวคือ การบำเพ็ญจิต จนจิตสงบนิ่งแล้ว ระบบต่างๆทางประสาทจะได้รับการพักผ่อน เป็นการปรับธาตุในกายให้เกิดพลังจิตเข้มแข็ง กายเนื้อก็จะแข็งแรงกระชุ่มกระชวยด้วย โลหิตในร่างกายจะหมุนเวียนสะดวกขึ้น ความตึงเครียดตามร่างกายและประสาทต่างๆ จะผ่อนคลายเป็นปกติ โรคต่างๆจะลดน้อยลงโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง หายป่วยได้ด้วยการฝึกจิตและเดินจงกรม
คัดลอกจากหนังสือ เรียน ธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โตพรหมรังสี
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:38:31 pm
 02-10-2010, 09:59 AM        #41098
มูริญโญ่
สมาชิก

บางครั้งการเข้ามาโพสที่กระทู้นี้ผมว่าเปรียบเสมือนการเข้ามาพูดคุย
กับเพื่อนรวมแล้วมันก็คือเสมือนคนในครอบครัวเดียวกันเท่าที่รู้จักทุกคนน่าคบหมดครับ
มีแต่ความจริงใจผมเลยคิดว่า การที่มีบุคคลบางคนหรือบางกลุ่มพยายามเข้ามาตำหนิหรือ
ด่าทอต่อว่าจะด้วยความมันหรืออะไรก็แล้วแต่นะครับ อันที่จริงผมถามตรงๆเลยนะครับ
1. เงินที่ร่วมทำบุญมันเงินของพวกผมใช่มั้ยครับ
2. ผมไม่ได้เกี่ยวดองเป็นญาติกับคุณไม่ทราบว่าคุณเดือดร้อนอะไรครับ
3. การร่วมบุญของผมหรือเพื่อนๆเกิดจากความเต็มใจไม่ได้มีใครบังคับ
ไม่ว่าพระที่ได้จากคุณหนุ่มในความรู้สึกของคุณจะดีหรือไม่ผมว่า
อันที่จริงผมเป็นผู้ทำบุญออกเงินเองไม่ได้ไปรบกวนเงินของพวกคุณ
ไม่ทราบว่า คุณเดือดร้อนอะไรครับ หรือว่าอยู่ว่างๆเลยเข้ามากวนมันเล่นๆ
4. ผมไม่สนใจว่าคุณจาทำอะไรมีไร่นามากมายทำงานด้านไหน แต่ .......
,,,,,,,, ผมว่าการกระทำแบบนี้เค้าเรียกว่าไม่มีมารยาทครับ ,,,,,,,,,,


จริงๆผมเบื่อเรื่องคุยตำแหน่งใหญ่โตผมเบื่อพวกอวดรวย
เพื่อนที่รู้จักในชมรมผมว่ามีทุกอย่างมีหลายชนชั้น แต่
เวลาผมไปนั่งคุยกัน " ไม่เคยมีใครคุยใหญ่โตซักคน "
ทั้งๆที่ในความรู้สึกผม " ไม่ธรรมดานะครับ "
__________________

02-10-2010, 10:18 AM        #41100
tuilan
สมาชิก
ผมไม่ได้เข้าข้างนะครับแต่ การที่คุณ joni ทำตัวเป็นสายตรวจควรจะมีหลักฐาน และเหตุผลมากกว่าอรมณ์นะครับ คิดก่อนพูด แล้วค่อยลงมือกระทำ จะได้สบายใจหลายๆฝ่าย ไม่ไช่คิดอะไรก็โพล่งออกมา ทำให้เค้าเสียหาย การกระทำของคุณไม่ถูกต้องนะครับ ไม่รู้ว่าคุณได้รับการอบรมณ์มามากน้อยแค่ไหน ทำอะไรโง่ๆ ไร่นาสาโทมีมาก ก็กลับไปกินหญ้าแถวนาคุณนั่นละ จะได้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเผื่อจะฉลาดขึ้น ยังขาดมากสำหรับคนอย่างคุณ ขอบคุณครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2055.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:41:32 pm

 02-10-2010, 11:40 AM        #41105
nongnooo
สมาชิก
เริ่มเลยครับ
ผมว่าตั้งแต่ที่ได้เข้ามาในกระทู้จนได้เป็นสมาชิกและร่วมงาน บุญกันนั้น ปัญหานี้พบมาโดยตลอด ผู้ที่ไม่เชื่อก็จะว่ามือผี ฝีมือท่าพระจันทร์ ขายหน้าร้านขายยาที่บางรัก ต่างๆนานา แล้วก้จะตามมาด้วยคุณหนุ่มชวนท้าสาบาน ซึ่งทุกครั้งก็จะมาเป็นรูปแบบนี้ทุกครั้งครับ
1. วัตถุประสงค์ที่คุณหนุ่มชวนไปสาบานเพราะพวกคุณไม่เชื่อกัน บอกว่าเก๊ท่าพระจันทร์ ถึงเวลาก็จะตอบว่าผมไม่อยากจะไปสบงสบาน เกลือกกลั่วกับพวกคุณหรอก ในความเป็นจริงก็คือ คุณหนุ่มกำลังหลอกให้พวกคุณปรามาส พระรัตนตรัย อยู่ครับ ใจลึกๆคุณก็คงกลัวบ้างเช่นกัน
2. ผมขอค้านคุณหนุ่มในประเด็นที่ว่าเพราะการท้าสาบานจึงมีวันนี้ ผมเห็นต่างครับ ผมเห็นว่าถ้าคุณหนุ่มไม่ทำเช่นนี้ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของสัตว์โลก กระทู้และพระวังหน้าจะดังกว่าวันนี้มากๆครับ
3.กรณียายผีป่า เข้ามาช่วยตอบโต้เรื่องพระวังหน้า ก็เพราะว่าของมันมีจริงจะปฎิเสธได้อย่างไร ส่วนกรณีของตัวยายผีป่าเป็นเรื่องระหว่าง บุคคล 2ฝ่าย เราเป็นบุคคลที่3ไม่อาจทราบได้ว่า ความจริงคืออะไร ย่อมไม่สามารถ ตอบหรือให้ความเห็นได้ พวกที่พูดไปว่าทำไมไม่เข้าไปช่วย จริงๆแล้วไม่น่าพูดออกมาเลย มันแสดงถึงภูมิปัญญาของผู้พูดจริงๆครับ
4. เรื่องของงานบุญ จะหาว่าแอบตั้งวงเชียร์กันแล้ว เมื่อขายพระนำเงินมาแบ่งกัน โหคิดไปนั่น คิดน่ะคิดได้ครับ แต่กาลเวลา และความจริงพิสูจน์ตัวเองเสมอ ไม่จำเป็นต้องบรรยายอีก
5.ผมว่าเราก็กลับไปสู่จุดเดิมที่คุยกันหลายครั้งว่า คุณหนุ่มก็อย่าอารมณ์ ใครอยากพูดอะไรทำอะไร ก็เป็นเรื่องของตัวเค้าเอง เราก็เรา เค้าก็เค้า ครับ
__________________

02-10-2010, 12:27 PM        #41106
tawatd
สมาชิก

ผมขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของทีมงานชมรมรักษ์พระวังหน้าฯ ว่าไม่ได้หาผลประโยชน์จากเงินทำบุญแต่ประการใด
ผมได้ร่วมบริจาคทำบุญกับคุณหนุ่มและคณะมานาน ทราบว่าคุณหนุ่มได้เสียสละเวลา ทรัพย์สิน ความรู้ความสามารถให้กับพระวังหน้าเป็นอย่างมาก คนที่ได้ร่วมงานย่อมรู้ดีและยืนยันได้ว่าคุณสิทธิพงษ์เป็นคนดีและเสียสละ อย่างไร
ผมเชื่อว่าสิ่งที่คุณมันตรัยเขียนคนทั่วไปไม่เชื่อถือหรอก ลงคะแนนดูก็ได้ ผมรู้จักตัวตนของคุณสิทธิพงษ์แล้ว แต่ยังไม่รู้จักตัวตนจริงของคุณมันตรัยเลย

ได้รับข้อมูลจากท่านไฟดูดว่า บางคนที่โจมตีในกระทู้พระวังหน้าว่า พระวังหน้าเป็นพระเก๊ เป็นพวกซื้อขายพระกำไรแค่ 100-200 ก็เอา จึงทำให้เชื่อได้ว่า คำที่โพสไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้เชื่อถือได้
คณะพระวังหน้าที่ผมรู้จักทุกคน มีอาชีพ ความรู้ และฐานะทางสังคมที่เชื่อถือได้ ดังนั้นการกล่าวหาว่าคณะฯ หรอกหาเงินจากการทำบุญ จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ขอยืนยัน
ขอโมทนาบุญครับ
__________________

02-10-2010, 02:32 PM        #41108
เอ๋เชียงใหม่
สมาชิก

ผมยืนยันด้วยอีกคนครับ เท่าที่ผมเคยคุยกับสมาชิกชมรมหลายคน เขาเป็นคนจริงครับ โดยเฉพาะคุณหนุ่มนอกจากจะเป็นคนจริงแล้วยังเป็นคนตรงครับ ใครแรงมาก็แรงไปเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยล่ะ แต่โดยรวมแล้วน่าคบครับคนนี้


__________________

 02-10-2010, 02:42 PM        #41109
somlatri
สมาชิก

พฤษก พกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคงสำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

ไ่ม่มีกรรมใด ไม่ตอบสนองผู้กระทำ - เป็นกำลังใจให้คุณหนุ่มครับ

ถ้าท่านใดได้เคยอ่านนวนิยาย ที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลาเขียนนานที่สุดในโลก นาม "เพชรพระอุมา" ของคุณอาฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ แล้วจะทราบว่าชื่อ "มันตรัย" นั้นคือตัวอะไรในเรื่องนี้ครับ เชิญชวนอ่านครับ ถ้ายังไม่ได้อ่าน แล้วท่านจะไม่ผิดหวัง
__________________



หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:43:07 pm
 02-10-2010, 03:02 PM        #41111
กำธร นครปฐม
สมาชิก

ผมมาแล้วครับคุณหนุ่ม ก่อนอื่นผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ผมไม่เคยเข้าไปดูในกระทู้ของคุณ ที่ขายพระวังหน้า เข้าไปดูก็ในวันนี้ที่คุณ pm มาให้ผมเข้าในกระทู้ของคุณ ที่คุณขายพระวังหน้าก็ไม่เกี่ยวกับผม ผมไม่เคยพาดพิงคุณ เพราะไม่รู้จักกับคุณมาก่อน การที่ผมตอบคุณมันตรัยในกระทู้นั้น คุณมันตรัยก็ไม่ได้เอ่ยชื่อคุณ และผมก็ไม่รู้ว่าคุณเคยมีอะไรกับคุณมันตรัยมาก่อน หรือไม่ ผมเข้ามาเป็นสมาชิกในเว็บพลังจิต ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการขายพระวังหน้าของคุณ หรือของใครมาก่อน คุณดูกระทู้ของคุณในนี้ก็รู้ เพราะผมถือว่าทางใครทางมันครับ อาชีพใครอาชีพมัน ตรงกันข้าม เมื่อผมเข้ามาดูตามที่คุณ pm บอกผม ผมกลับชื่นชมคุณด้วยซ้ำว่าเป็นสะพานบุญที่ดี แต่เรื่องที่คุณท้าผมให้ไปหักพระแล้วเอาเท้าถีบลงแม่น้ำนั้น ผมไม่ทำครับ และตัวผมเองก็ไม่ชอบสาบถสาบานอะไรกับใคร และลบหลู่พระรัตนตรัยครับ และผมไม่ทราบว่าคุณเป็นลูกศิษย์ใคร หรือใครเป็นโคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ของคุณครับ ที่ไม่สอนคุณถึงเรื่องพระรัตนตรับ ทำให้คุณท้าทายผม คุณมันตรัย และคุณจอนนี่ โดยการลบหลู่พระรัตนตรัย จำไว้นะครับ ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน ส่วนคุณมันตรัยรู้จักกันตอนไปวัดทุ่งสามัคคีธรรม และคุณจอนนี่นั้น ผมเจอตอนที่ไปวัดหลวงปู่เรือง แค่ครั้งเดียวทั้งสองคน ส่วนผม ๆ บอกได้ครับว่าผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม และหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย รวมทั้งหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน และอีกหลายหลวงพ่อ หลวงปู่ ที่ผมไปกราบและร่วมทำบุญกับท่าน ส่วนหลวงปู่เทพโลกอุดร จะมีจริงหรือไม่นั้น ผมไม่รู้ และไม่ลบหลู่ ครูบาอาจารย์ของคนอื่น เพราะครูบาอาจารย์ของผมสอนและพ่อแม่ผมสอนไว้ว่า ครูบาอาจารย์ของใครใครก็รักและเคารพครับ หวังว่าคุณคงเข้าใจนะครับและโปรดดูกระทู้ของคุณให้ดี สองพันกว่าหน้านั้น ผมไม่เคยมาโพสต์พาดพิงของคุณในกระทู้ของคุณ และไม่เคยมาดูซักเท่าไหร่ และอย่างที่บอก ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพวกคุณยายผีป่า บ้าง ปล.ขออนุโมทนากับกุศลผลบุญของคุณที่ได้เป็นสะพานบุญมา ณ ที่นี้ และ ผมคงไม่ไปสาบานกับคุณ ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้า แต่ผมกลัวบาป และเสียเวลาทำงานของผม ผมทำงานราชการครับ ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ บางวัน ก็ไปทำงาน และเลี้ยงลูก ทำบุญบ้างเป็นบางครั้ง คงไม่มีเวลาแน่ ๆ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ

_________________

02-10-2010, 04:56 PM        #41112
sithiphong
สมาชิก

เวลา ที่โพสอะไรก็ตาม หัดดูความจริงบ้าง เดี๋ยวนี้ ข้าราชการต้องพัฒนา ซึ่งข้าราชการที่ผมรู้จัก ได้ีมีการพัฒนากันมาก ปรับปรุงตัวเพราะมีตัวชี้วัด น้องชายผมเอง ก็เป็นผู้ที่เข้าไปประเมินการทำงานของหน่วยงานราชการหลายๆหน่วยงาน

เงินที่ร่วมทำบุญ ผู้ที่ทำบุญก็โอนเข้าไปบัญชี ซึ่งแต่ละบัญชีผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ เป็นผู้มีอำนาจลงนามในการสั่งจ่ายเงิน

หัดดูบ้าง ไม่ใช่ว่าเฮตามกันไป

ผมเองก็มีงานทำ ไม่ได้มีอาชีพขายพระ

เวลา ที่ผมบอกให้โทร.ไปหาพระอาจารย์นิล ที่ท่านสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง หรือ หลวงพ่อแผน ที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ก็ไม่ยักมีคนไหนที่โทร.ไปสอบถามเรื่องเงินสักคนเดียว

เรื่องของการลบหลู่พระรัตนตรัย ผมนับถือคุณกำธรมาก ที่เวลาเห็นรูปพระพุทธรูปตามหนังสือพิมพ์ หรือ โบว์ชัวร์ขายพระ หรือ อยู่ตามข้างทาง หยิบเก็บกลับบ้านเพื่อสักการะบูชา นี่คือการไม่ลบหลู่พระรัตนตรัย

เรื่องของการเกรงกลัวต่อบาปเป็นสิ่งที่ดี เพราะสิ่งที่ไม่รู้ ยังมีอีกมากนัก หัดวางอุเบกขาไว้บ้าง เพราะกรรมที่ปรามาสพระวังหน้า เป็นกรรมหนัก จะหนักอย่างไร ผมเคยอธิบายไว้ในกระทู้ที่คุณบอกว่า ยาวกว่า 2,000 หน้านี่ครับ

.
__________________

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:45:48 pm

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มูริญโญ่ อ่านข้อความ
บางครั้งการเข้ามาโพสที่กระทู้นี้ผมว่าเปรียบเสมือนการเข้ามาพูดคุย
กับเพื่อนรวมแล้วมันก็คือเสมือนคนในครอบครัวเดียวกันเท่าที่รู้จักทุกคนน่าคบหมดครับ
มีแต่ความจริงใจผมเลยคิดว่า การที่มีบุคคลบางคนหรือบางกลุ่มพยายามเข้ามาตำหนิหรือ
ด่าทอต่อว่าจะด้วยความมันหรืออะไรก็แล้วแต่นะครับ อันที่จริงผมถามตรงๆเลยนะครับ
1. เงินที่ร่วมทำบุญมันเงินของพวกผมใช่มั้ยครับ
2. ผมไม่ได้เกี่ยวดองเป็นญาติกับคุณไม่ทราบว่าคุณเดือดร้อนอะไรครับ
3. การร่วมบุญของผมหรือเพื่อนๆเกิดจากความเต็มใจไม่ได้มีใครบังคับ
ไม่ว่าพระที่ได้จากคุณหนุ่มในความรู้สึกของคุณจะดีหรือไม่ผมว่า
อันที่จริงผมเป็นผู้ทำบุญออกเงินเองไม่ได้ไปรบกวนเงินของพวกคุณ
ไม่ทราบว่า คุณเดือดร้อนอะไรครับ หรือว่าอยู่ว่างๆเลยเข้ามากวนมันเล่นๆ
4. ผมไม่สนใจว่าคุณจาทำอะไรมีไร่นามากมายทำงานด้านไหน แต่ .......
,,,,,,,, ผมว่าการกระทำแบบนี้เค้าเรียกว่าไม่มีมารยาทครับ ,,,,,,,,,,
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มูริญโญ่ อ่านข้อความ
จริงๆผมเบื่อเรื่องคุยตำแหน่งใหญ่โตผมเบื่อพวกอวดรวย
เพื่อนที่รู้จักในชมรมผมว่ามีทุกอย่างมีหลายชนชั้น แต่
เวลาผมไปนั่งคุยกัน " ไม่เคยมีใครคุยใหญ่โตซักคน "
ทั้งๆที่ในความรู้สึกผม " ไม่ธรรมดานะครับ "


----------------------------------------------------

 02-10-2010, 05:00 PM        #41113
sithiphong
สมาชิก

ถูกต้องที่สุดครับ

คนที่เขาใหญ่จริง มีเงินมากจริง ไม่คุยโวครับ

ผมเองรู้จักกับคนที่ผมคิดว่า ต่อให้ใช้โดยไม่หาเงินเพิ่ม ใช้อีกล้านชาติ ก็ใช้ไม่หมดครับ

คนที่เขาใหญ่จริง ก็ไม่เห็นมาคุยโวว่า ข้านี่ใหญ่โต แต่เวลาพูดจา ทำให้เรายิ่งเกรงใจมากขึ้นไปอีก

ไม่เคยเห็นจริงๆ
.
__________________

02-10-2010, 05:01 PM        #41114
chantasakuldecha
สมาชิก

วัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ผมเป็นสมาชิกชมรมฯคนนึง การที่เราจะร่วมบุญหรืออยากจะทำบุญนั้นใจต้องมาก่อนครับ ผมนั้นเคยไปร่วมบุญกับคุณหนุ่มมาก็หลายครั้งทุกครั้งก็มีประสบการณ์ อย่างที่คนไม่เคยเจอก็ต้องอึ้ง ผมขอยืนยันว่า
- ของแท้ต้องพิสูจน์ได้
- พระท่านเลือกคน
__________________


02-10-2010, 05:03 PM        #41115
sithiphong
สมาชิก

ผมเองพยายามนำมาโพสในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุง ไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

แต่อีกส่วนหนึ่ง ผมจะแ้จ้งให้พี่แอ๊วทราบ

อีกเรื่อง หากใครสงสัย ให้ pm เข้ามาหาผม ผมจะส่งเบอร์โทร.ของพระอาจารย์นิล ให้ จะได้โทร.สอบถามท่านโดยตรงเอง จะได้หายสงสัย

__________________

02-10-2010, 05:25 PM        #41119
chantasakuldecha
สมาชิก
 
โมทนา สาธุ สาธุ เพราะว่าศรัทธา
ชาวพุทธควรมีศรัทธา 4 อย่าง
   ตามคำสอนในพุทธศาสนา ขาวพุทธควรมีศรัทธา 4 อย่าง คือ
1. ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คือ เชื่อว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จริง เป็นผู้ประกอบด้วยพระปัญญาธิคุณ พระวิสุทะคุณ และ พระมหากรุราธิคุณ
2. กัมมสัทธา เชื่อเรื่องกรรม คือ เชื่อว่ากรรมมีจริง
3. วิปากสัทธา เชื่อเรื่องผลของกรรม คือ เชื่อว่ากรรมที่บุคคลทำไม่ว่าดีหรือชั่ว ย่อมให้ผลเสมอ
4. กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตน คือ เชื่อว่าผลที่เราได้รับเป็นผลแห่งการกระทำของเราเอง ซึ่งอาจจะเป็นกรรมที่ทำในปัจจุบันชาติหรืออดีตชาติ
   จาก รสิกาญจน์ [๑๙ พ.ค. ๒๕๔๙ 16:15:17]


__________________

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2056.html (http://www.bkkonline.com/scripts/it/question.asp?Q=657)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:48:06 pm
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มันตรัย
เห็น เรื่องยาวเป็นรามเกียรต์ เลยเข้ามาอ่านมาชม ใครมีเรื่องตอนแรกๆส่งลิงค์ให้อ่านหน่อยซิครับ แต่ที่น่าแปลก ตอนที่ผมรบกับพระสมเด็จมือผีวังหน้า คุณยายฯออกมาช่วยรบเต็มที่ หากเป็นทหารก็ถือว่าเป็นทัพหน้า บาดเจ็บแผลยังไม่แห้งดี แต่ตอนนี้พวกที่คุณยายเคยข่วยรบ ไปไหนกันหมดล่ะ ไหงปล่อยให้คุณยายฯที่รัก ผจญภัยตัวคนเดียวลำพัง ไม่แมนๆ

กำธร นครปฐม
สมาชิก
ธรรมดาของกองทัพที่ใกล้จะแตกแล้ว ย่อมจะมีทหารหนีเอาตัวรอดเป็นธรรมดาครับ คุณมันตรัย


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ กำธร นครปฐม
ผม มาแล้วครับคุณหนุ่ม ก่อนอื่นผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ผมไม่เคยเข้าไปดูในกระทู้ของคุณ ที่ขายพระวังหน้า เข้าไปดูก็ในวันนี้ที่คุณ pm มาให้ผมเข้าในกระทู้ของคุณ ที่คุณขายพระวังหน้าก็ไม่เกี่ยวกับผม ผมไม่เคยพาดพิงคุณ เพราะไม่รู้จักกับคุณมาก่อน การที่ผมตอบคุณมันตรัยในกระทู้นั้น คุณมันตรัยก็ไม่ได้เอ่ยชื่อคุณ และผมก็ไม่รู้ว่าคุณเคยมีอะไรกับคุณมันตรัยมาก่อน หรือไม่ ผมเข้ามาเป็นสมาชิกในเว็บพลังจิต ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการขายพระวังหน้าของคุณ หรือของใครมาก่อน คุณดูกระทู้ของคุณในนี้ก็รู้ เพราะผมถือว่าทางใครทางมันครับ อาชีพใครอาชีพมัน ตรงกันข้าม เมื่อผมเข้ามาดูตามที่คุณ pm บอกผม ผมกลับชื่นชมคุณด้วยซ้ำว่าเป็นสะพานบุญที่ดี แต่เรื่องที่คุณท้าผมให้ไปหักพระแล้วเอาเท้าถีบลงแม่น้ำนั้น ผมไม่ทำครับ และตัวผมเองก็ไม่ชอบสาบถสาบานอะไรกับใคร และลบหลู่พระรัตนตรัยครับ และผมไม่ทราบว่าคุณเป็นลูกศิษย์ใคร หรือใครเป็นโคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ของคุณครับ ที่ไม่สอนคุณถึงเรื่องพระรัตนตรับ ทำให้คุณท้าทายผม คุณมันตรัย และคุณจอนนี่ โดยการลบหลู่พระรัตนตรัย จำไว้นะครับ ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน ส่วนคุณมันตรัยรู้จักกันตอนไปวัดทุ่งสามัคคีธรรม และคุณจอนนี่นั้น ผมเจอตอนที่ไปวัดหลวงปู่เรือง แค่ครั้งเดียวทั้งสองคน ส่วนผม ๆ บอกได้ครับว่าผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม และหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย รวมทั้งหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน และอีกหลายหลวงพ่อ หลวงปู่ ที่ผมไปกราบและร่วมทำบุญกับท่าน ส่วนหลวงปู่เทพโลกอุดร จะมีจริงหรือไม่นั้น ผมไม่รู้ และไม่ลบหลู่ ครูบาอาจารย์ของคนอื่น เพราะครูบาอาจารย์ของผมสอนและพ่อแม่ผมสอนไว้ว่า ครูบาอาจารย์ของใครใครก็รักและเคารพครับ หวังว่าคุณคงเข้าใจนะครับและโปรดดูกระทู้ของคุณให้ดี สองพันกว่าหน้านั้น ผมไม่เคยมาโพสต์พาดพิงของคุณในกระทู้ของคุณ และไม่เคยมาดูซักเท่าไหร่ และอย่างที่บอก ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพวกคุณยายผีป่า บ้าง ปล.ขออนุโมทนากับกุศลผลบุญของคุณที่ได้เป็นสะพานบุญมา ณ ที่นี้ และ ผมคงไม่ไปสาบานกับคุณ ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้า แต่ผมกลัวบาป และเสียเวลาทำงานของผม ผมทำงานราชการครับ ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ บางวัน ก็ไปทำงาน และเลี้ยงลูก ทำบุญบ้างเป็นบางครั้ง คงไม่มีเวลาแน่ ๆ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ

.

-------------------------------------------------

 02-10-2010, 05:52 PM        #41123
sithiphong
สมาชิก
นำมาเทียบให้ดู

ตามที่ผมบอกเช่นกัน

เวลา ที่โพสอะไรก็ ตาม หัดดูความจริงบ้าง เดี๋ยวนี้ ข้าราชการต้องพัฒนา ซึ่งข้าราชการที่ผมรู้จัก ได้ีมีการพัฒนากันมาก ปรับปรุงตัวเพราะมีตัวชี้วัด น้องชายผมเอง ก็เป็นผู้ที่เข้าไปประเมินการทำงานของหน่วยงานราชการหลายๆหน่วยงาน

เงินที่ร่วมทำบุญ ผู้ที่ทำบุญก็โอนเข้าไปบัญชี ซึ่งแต่ละบัญชีผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ เป็นผู้มีอำนาจลงนามในการสั่งจ่ายเงิน

หัดดูบ้าง ไม่ใช่ว่าเฮตามกันไป

ผมเองก็มีงานทำ ไม่ได้มีอาชีพขายพระ

เวลา ที่ผมบอกให้โทร.ไปหาพระอาจารย์นิล ที่ท่านสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง หรือ หลวงพ่อแผน ที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ก็ไม่ยักมีคนไหนที่โทร.ไปสอบถามเรื่องเงินสักคนเดียว

เรื่องของการลบหลู่พระรัตนตรัย ผมนับถือคุณกำธรมาก ที่เวลาเห็นรูปพระพุทธรูปตามหนังสือพิมพ์ หรือ โบว์ชัวร์ขายพระ หรือ อยู่ตามข้างทาง หยิบเก็บกลับบ้านเพื่อสักการะบูชา นี่คือการไม่ลบหลู่พระรัตนตรัย

เรื่องของการเกรงกลัวต่อบาปเป็นสิ่งที่ดี เพราะสิ่งที่ไม่รู้ ยังมีอีกมากนัก หัดวางอุเบกขาไว้บ้าง เพราะกรรมที่ปรามาสพระวังหน้า เป็นกรรมหนัก จะหนักอย่างไร ผมเคยอธิบายไว้ในกระทู้ที่คุณบอกว่า ยาวกว่า 2,000 หน้านี่ครับ

__________________

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:50:22 pm

02-10-2010, 05:56 PM        #41125
กำธร นครปฐม
สมาชิก

ข้าราชการ ยุคนี้ต้องพัฒนาอยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วง ถามน้องชายคุณได้เลย ว่าแต่ละหน่วยงานเขามีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างไร และถ้าไม่พัฒนาผมก็คงอยู่ไม่ได้ คงจะถูกให้ออกจากราชการไปแล้วครับ และผมได้บอกไปแล้วว่าคุณมันตรัย ไม่ได้เอ่ยชื่อถึงคุณ และผมเองก็ไม่ได้เจตนาพาดพิงถึงคุณ เพราะไม่มีชื่อคุณอยู่ในโพสต์นั้นครับ


ส่วนเรื่อง เงินทำบุญ นั้นก็เหมือนกัน ขออนุญาตครับ ผมไม่ได้กล่าวในข้อนี้ และไม่รู้เรื่องราวรายละเอียดอะไรด้วยผมไม่เคยพูดถึงครับ และถ้าคุณทำจริง ก็ขออนุโมทนา และคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไรใคร ดังคำที่ว่า "ทองแท้ย่อมไม่กลัวร้อน เพชรอยู่ที่ไหนย่อมเป็นเพชร" ครับ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องคุ้มครองคุณแน่นอนครับ ไม่ต้องกลัวครับ และเรื่องที่คุณให้โทรไปหาพระอาจารย์นิล นั้น ผมก็ไม่รู้ เพราะได้บอกไปแล้วว่าผมไม่เข้ามาดูรายละเอียดในกระทู้ของคุณ เพราะฉะนั้นถือว่าไม่เกี่ยวกับผมครับ


ส่วน ที่คุณนับถือผมว่าเวลาเห็นรูปพระพุทธรูปตามหนังสือพิมพ์ หรือโบว์ชัวร์ขายพระ หรืออยู่ตามข้างทางหยิบเก็บกลับบ้านเพื่อสักการะบูชา นั้น ผมก็ไม่ได้โพสต์ว่าผมทำอย่างที่คุณกล่าวอ้าง และก็ขอขอบคุณที่คุณนับถือผม ในเมื่อผมไม่ได้ทำอย่างนั้น ก็ขอคืนคำว่า "นับถือ"นี้กลับไปให้คุณครับ เพราะผมถือว่าไม่ใช่ของ ๆ ผม ผมจึงไม่กล้ารับ และขอคืนให้เจ้าของครับ
และขอบอกอีกครั้งว่า เรื่องพระวังหน้าในกระทู้ของคุณ ผมเองก็เพิ่งจะเข้ามาดูตอนที่คุณ pm มาถึงผมให้เข้ามาแค่นั้น ส่วนเรื่องจะมีจริงหรือไม่นั้น ผมเองไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ ก็ไม่ขอออกความเห็นครับ


ขอ ขอบคุณที่ช่วยเตือนให้ผมวางอุเบกขา ขอบคุณมากครับ ส่วนกรรมที่ปรามาสพระวังหน้า เป็นกรรมหนัก จะหนักอย่างไร นั้นผมไม่เคยดูที่คุณอธิบายไว้ครับ เพราะได้บอกแต่แรกแล้วว่า ผมเพิ่งจะเข้ามาดูกระทู้ของคุณเป็นวันแรก ถ้าจะให้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ คงดูไม่ไหว และผมเองก็ไม่เคยปรามาสพระวังหน้าครับ จึงไม่จำเป็นต้องหาอ่านครับ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ และผมเองก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเข้ามาในกระทู้ของคุณอีก เพราะผมได้ชี้แจงให้คุณทราบหมดแล้ว และหากคุณจะตอบกระทู้ของผมไปในทางใด ผมเองคงจะไม่มาตอบในนี้อีกแล้ว เพราะผมเชื่อคุณครับ ที่ว่า "ให้วางอุเบกขา"
ปล.ขอบ คุณที่นำรูปการทำบุญของคุณมาให้ดู ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยความจริงใจในการเป็นสะพานบุญของคุณครับ และก็อย่าลืมครับ "ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟครับ เพชรอยู่ที่ไหนย่อมเป็นเพชร"

__________________

 02-10-2010, 06:07 PM        #41126
sithiphong
สมาชิก

ผมเตือนไว้ ว่า อย่าไปเฮตาม

เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้น ก็จะเหมือนกับผู้กระทำร่วม

เช่น เพื่อนชวนไป ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าไปไหน ก็ไป แต่ที่ไหนได้ เพื่อนไปลักทรัพย์ เมื่อตำรวจจับได้ จะอ้างว่า ผมไม่รู้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะขโมย ก็คงไม่ได้


มาย้ำอีกครั้งว่า หากไม่รู้เรื่อง ก็วางอุเบกขา แล้วเรื่องราวก็จะไม่เกิดขึ้นกับตัวคุณ



.
อีกเรื่องที่จะบอกและเตือน

ไม่ว่าจะเป็นรูปพระพุทธรูปที่เป็นกระดาษ หรือ รูปพระพุทธรูปที่เป็นพระเครื่อง เหมือนกันครับ แตกต่างเพียงมวลสารเท่านั้น


.
__________________

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2057.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:52:14 pm
 02-10-2010, 07:09 PM        #41129
jirautes
สมาชิก

ไ่ม่มีกรรมใด ไม่ตอบสนองผู้กระทำ - เป็นกำลังใจให้คุณหนุ่มครับ

__________________

02-10-2010, 08:56 PM        #41133
sithiphong
สมาชิก

น่าจะจบแล้ว

เพราะเข้ามาครบแล้ว

มันตรัยเข้ามาแล้ว พร้อมกับ หัวตก หางตก ออกไป

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1160927&stc=1&thumb=1&d=1286027762)

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2057.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 08, 2010, 06:11:56 am
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1160927&d=1286027762)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 08, 2010, 09:51:23 am
มาร่วมโมทนาบุญกับบุญกฐิน ณ วิเวกสถาน ถ้ำระฆังทองเอือมระอาศรัทธาธรรม

1.คณะกองทุนหาพระถวายวัด (รองประธาน)
1.1พี่เมตตา
1.2คุณปฐม
1.3คุณพรสว่างและครอบครัว
1.4คุณธวัช
1.5ผมและภรรยา

2.พี่สิทธิพร
3.คุณแด๋น
4.พี่สมสิทธิ์
5.พี่แอ๊ว
6.คุณศรุต
7.คุณnongnooo
8.คุณสมบัติ

เพื่อนที่ทำงาน
9.คุณปฐม
10.คุณจรัล
11.คุณวันทนา


มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

อย่าลืมกรวดน้ำกันครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ ตุลาคม 08, 2010, 10:05:57 am
มาร่วมโมทนาบุญกับบุญกฐิน ณ วิเวกสถาน ถ้ำระฆังทองเอือมระอาศรัทธาธรรม

1.คณะกองทุนหาพระถวายวัด (รองประธาน)
1.1พี่เมตตา
1.2คุณปฐม
1.3คุณพรสว่างและครอบครัว
1.4คุณธวัช
1.5ผมและภรรยา

2.พี่สิทธิพร
3.คุณแด๋น
4.พี่สมสิทธิ์
5.พี่แอ๊ว
6.คุณศรุต
7.คุณnongnooo
8.คุณสมบัติ

เพื่อนที่ทำงาน
9.คุณปฐม
10.คุณจรัล
11.คุณวันทนา


มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

อย่าลืมกรวดน้ำกันครับ
โมทนาสาธุครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 08, 2010, 10:21:47 am
งานบุญ งานต่อไป จะเป็นเรื่องที่ผมคิดไว้จะทำ แต่จะมาบอกบุญกัน

ผมจะไปซื้อ ยาสามัญประจำบ้าน ตั้งใจจะถวาย พระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่ง

ซึ่งทั้งสององค์ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องได้ใช้แน่นอน


ความคืบหน้าจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ส่วนรายละเอียด ผมจะแจ้งให้ทุกๆท่านทราบทาง Email ครับ


โมทนาสาธุครับ


http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-2074.html#post3888206

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 10, 2010, 10:37:27 pm
วันนี้ คณะกองทุนหาพระถวายวัด ได้ถวายพระบูชาองค์พระศรีอาริยเมตตรัย จำนวน 2 องค์ , พระบูชาหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า จำนวน 1 องค์ และ พระสมเด็จหลังเบี้ย จำนวน 400 องค์ ถวายวัดที่จังหวัดเลย โดยมอบให้พี่เปี๊ยก เป็นตัวแทนของคณะกองทุนหาพระถวายวัด

สำหรับวันนี้ มีผู้ที่มาล้างพระ ทั้งหมด 5 ท่าน รวมพี่จิ๋ว ก็เป็น 6 ท่าน มาร่วมกันล้างพระ สำหรับพระบูชาองค์พระศรีอาริยเมตตรัย จำนวน 2 องค์ , พระบูชาหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า จำนวน 1 องค์ ครอบครัวคุณณฑนน ล้างองค์พระทั้งครอบครัวเลย

มาโมทนาบุญกับคณะกองทุนหาพระถวายวัดกันครับ

ส่วนเรื่องของการทำบุญและสังฆทาน ผมจะแจ้งให้ทุกๆท่านทราบทาง Email ครับ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ ตุลาคม 10, 2010, 11:15:48 pm
 อนุโมทนาครับพี่หนุ่ม^^ :13:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 11, 2010, 09:10:03 am
เมื่อวานนี้ คุณณฐนน และครอบครัว ได้ร่วมทำบุญในการซื้อยาถวายพระอาจารย์นิล และพระอาจารย์รูปหนึ่ง จำนวน 1,000 บาท , ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด 1,000 บาท

คุณธวัช ได้ร่วมทำบุญในการซื้อยาถวายพระอาจารย์นิล และพระอาจารย์รูปหนึ่ง จำนวน 500 บาท ,และได้มอบเงินทำบุญให้กับผม จำนวน 1,000 บาท ซึ่งแจ้งว่า ให้ทำบุญตามแต่ที่ผมจะจัดสรรในการทำบุญอะไรก็ได้ หากทำบุญแล้วผมจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับว่า ได้ทำบุญอะไรไปบ้าง

พี่เปี๊ยก ได้ร่วมทำบุญในงานกฐิน ที่ ถ้ำระฆังทอง เอือมระอาศรัทธาธรรม จำนวน 1,000 บาท

มาโมทนาบุญกับคุณณฐนน,ครอบครัวคุณณฐนน , คุณธวัช และพี่เปี๊ยกกันครับ

โมทนาบุญทุกประการ


http://board.palungjit.com/f179/เธžเธฃเธฐเธงเธฑเธ‡เธซเธ™เน‰เธฒ-เธ—เธตเนˆเธซเธฅเธงเธ‡เธ›เธนเนˆเธšเธฃเธกเธ„เธฃเธนเน€เธ—เธžเน‚เธฅเธเธญเธธเธ”เธฃเน€เธชเธ-เธ–เน‰เธฒเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธฃเธ—เธตเนˆเธˆเธฐเน„เธ”เน‰-22445-2076.html#post3898836
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 11, 2010, 09:18:26 am
เรียน ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , คณะพระวังหน้า และคณะกองทุนหาพระถวายวัดทุกๆท่าน

ผมได้ส่งเรื่อง....ไปให้ทุกๆท่านทาง Email แล้วนะครับ รบกวนตอบกลับมาด้วยครับ

ขอบคุณครับ

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-2076.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ ตุลาคม 13, 2010, 01:50:48 pm
ผมรวบรวมปัจจัยที่เพื่อนๆร่วมทำบุญรับพระพิมพ์วังหน้ากับผมมา
และได้โอนเงินเข้า บช. ตามรายนามสถานที่ทำบุญรวม 6,000 บาทดังนี้

- กองทุนหาพระถวายวัด ชมรมรักษ์พระวังหน้า 1,000-
- ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร 1,000-
- ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง จ.ชัยภูมิ 1,000-
- ร่วมถวายสังฆทานยาแด่พระอาจารย์ทั้งสองรูป ชมรมรักษ์พระวังหน้า 1,000-
- ร่วมทอดกฐิน ณ.วิเวกสถาน ถ้ำระฆังทองฯ จ.เพชรบูรณ์ 1,000-
- ร่วมทอดกฐิน,สร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ณ.สนส.บ่อเงินบ่อทอง จ.ฉะเชิงเทรา 1,000-

ขอส่งบุญการชำระหนี้สงฆ์ถึง
...รายนามผู้ร่วมทำบุญกับผมดังนี้
นายบุญช่วย หาญฟ้าเขียว
พ่อแฝง พันใจ
แม่แก้ว พันใจ
แม่จันทร์ศรี กลิ่นฟุ้ง
นายดาวรุ่ง พันใจ
นางมลทิวา กลิ่นฟุ้ง
นายเฑติกร ตุ้ยปัน
น.ส.กัญญ์ณพัชญ์ ศรีใจติ๊บ
นายประเสริฐ ศุภเลิศตระกูล
น.ส.ศศิธร พันธุ์วัฒนสกุล
http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-2080.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 14, 2010, 08:59:23 am
สำหรับงานบุญ สังฆทานยา ถวายพระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่ง

เดิมผมเองตั้งใจว่า สำหรับ 3 ท่านแรก ที่ได้แสดงเจตนาในการร่วมทำบุญและโอนเงินร่วมทำบุญมา 3 ท่านแรก ผมจะมอบพระบูชา พระมหากัจจายนะ หน้าตัก 3" ให้

ตอนนี้มีผู้ที่โอนเงินร่วมทำบุญเกิน 3 ท่านแล้ว

ท่านแรกโอนเงินร่วมทำบุญมาเมื่อวันที่ 8 ตค.2553

ท่านที่สองและท่านที่สามมอบเงินร่วมทำบุญเมื่อวันที่ 10 ตค.2553 (ผมนำเข้าบัญชีเมื่อ 11 ตค.2553)

ท่านที่สี่โอนเงินร่วมทำบุญเมื่อวันที่ 13 ตค.2553

มาเฉลยสำหรับท่านที่ได้รับ พระบูชา พระมหากัจจายนะ หน้าตัก 3"

1.คุณปฐม
2.คุณณฑนน (โคราช)
3.คุณธวัช (น่าน)

สำหรับท่านที่ 4 ก็ไม่ต้องเสียใจนะครับ น้องpsombat

โมทนาบุญทุกประการ

เมื่อคืนนี้ ผมคุยกับพี่สิทธิพร เรื่องของประสบการณ์ของพระพิมพ์ของวังหน้าที่ผมห้อยอยู่

พี่สิทธิพรบอกผมว่า หนุ่มก็ลองเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันบ้าง

ผมบอกพี่สิทธิพรว่า ที่ผมไม่ได้เล่าเรื่องออกอากาศก็เนื่องจากว่า ผมไม่ต้องการให้ทราบว่า ผมเองทำงานที่ไหน เนื่องจากพระวังหน้าที่ห้อย จะขึ้นอยู่กับอาชีพที่ผู้สวมใส่ห้อยอยู่ด้วย

ไว้ผมเรียบเรียงดู แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-2081.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 19, 2010, 08:31:02 pm
 ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
วันนี้ คุณธวัช , คุณปฐม , พี่ที่ทำงาน , ผมและผบทบ. ได้โอนเงินร่วมทำบุญช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

โดยผมได้โอนเงินจำนวน 1,400 บาท เข้าบัญชีกระแสรายวัน ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเลขที่ 0143003689 ชื่อบัญชี ครอบครัวข่าวช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 53

มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2093.html#post3934593
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 19, 2010, 08:33:09 pm
มาแจ้งข่าวบุญด่วนมาก

เมื่อสักพักนี้ พี่แอ๊วได้โทร.มาแจ้งผมเรื่อง "กฐินตกค้าง วัดที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้"

มาแจ้งเรื่อง คร่าวๆก่อน พรุ่งนี้พี่แอ๊วจะส่งรายละเอียดมาแจ้งให้ผมทราบอีกครั้ง

วัดที่สามจังหวัดชายแดนภาคใ้ต้ จำนวน 119 วัด ยังไม่มีเจ้าภาพกฐิน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านดูแลเรื่องนี้อยู่ ได้มีรับสั่งกับท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ในเรื่องนี้

ท่านเ้จ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ท่านรับเรื่องกฐินมาจำนวน 64 วัด แต่มีวัดจำนวน 34 วัด ซึ่งได้มีเ้จ้าภาพแล้ว ยังคงเหลืออีก 30 วัด

การทอดกฐินในครั้งนี้ จะทอดกฐินในวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์

ผมเองได้จองผ้าไตรไว้ 5 ชุด โดย 3 ชุดมีเจ้าภาพก็คือ

1.ชมรมรักษ์พระวังหน้า
2.คณะกองทุนหาพระถวายวัด
3.ผม,ผบทบ.และครอบครัว

ส่วนผ้าไตรชุดที่ 4 และ ที่ 5 ยังไม่มีเจ้าภาพ (หากไม่มีเจ้าภาพ ผมจะแยกโดย ชุดที่ 4 จะเป็นครอบครัวผม และชุดที่ 5 จะเป็นครอบครัวผบทบ.ผม)

ผ้าไตรครบชุด ประมาณ 2,000 - 2,500 บาท

กฐินอีก 30 วัด พี่แอ๊วได้โทร.มาบอกว่า อยากได้จำนวนเงินกฐินกองละ 3,000 บาท หรือมากกว่านั้น โดยเงินที่ร่วมทำบุญจะกระจายไปในกองกฐินทุกๆกอง

ผมให้ร่วมทำบุญเฉพาะสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , คณะพระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด เท่านั้น เนื่องจากเงินที่ร่วมทำบุญ จะโอนเข้าบัญชีส่วนตัวผม รายละเอียดบัญชีที่ผมจะให้โอนเงิน ผมจะแจ้งให้ทราบทาง Email เท่านั้นครับ

ซึ่งสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , สมาชิกคณะพระวังหน้า และ สมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด ผมได้แจ้งรายชื่อแล้วว่า ท่านอยู่ในส่วนไหนครับ

การทอดกฐินในครั้งนี้ จะทอดกฐินในวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ดังนั้น การโอนเงินร่วมทำบุญ ต้องโอนเงินภายในวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2553 นี้เท่านั้น

ผมรอรายละเอียดทั้งหมดจากพี่แอ๊ว ในวันพรุ่งนี้ครับ

โมทนาบุญทุกประการ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2093.html#post3934593
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 19, 2010, 09:29:46 pm

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
มาแจ้งข่าวบุญด่วนมาก

เมื่อสักพักนี้ พี่แอ๊วได้โทร.มาแจ้งผมเรื่อง "กฐินตกค้าง วัดที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้"

มาแจ้งเรื่อง คร่าวๆก่อน พรุ่งนี้พี่แอ๊วจะส่งรายละเอียดมาแจ้งให้ผมทราบอีกครั้ง

วัดที่สามจังหวัดชายแดนภาคใ้ต้ จำนวน 119 วัด ยังไม่มีเจ้าภาพกฐิน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านดูแลเรื่องนี้อยู่ ได้มีรับสั่งกับท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ในเรื่องนี้

ท่านเ้จ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ท่านรับเรื่องกฐินมาจำนวน 64 วัด แต่มีวัดจำนวน 34 วัด ซึ่งได้มีเ้จ้าภาพแล้ว ยังคงเหลืออีก 30 วัด

การทอดกฐินในครั้งนี้ จะทอดกฐินในวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์

ผมเองได้จองผ้าไตรไว้ 5 ชุด โดย 3 ชุดมีเจ้าภาพก็คือ

1.ชมรมรักษ์พระวังหน้า
2.คณะกองทุนหาพระถวายวัด
3.ผม,ผบทบ.และครอบครัว

ส่วนผ้าไตรชุดที่ 4 และ ที่ 5 ยังไม่มีเจ้าภาพ (หากไม่มีเจ้าภาพ ผมจะแยกโดย ชุดที่ 4 จะเป็นครอบครัวผม และชุดที่ 5 จะเป็นครอบครัวผบทบ.ผม)

ผ้าไตรครบชุด ประมาณ 2,000 - 2,500 บาท

กฐินอีก 30 วัด พี่แอ๊วได้โทร.มาบอกว่า อยากได้จำนวนเงินกฐินกองละ 3,000 บาท หรือมากกว่านั้น โดยเงินที่ร่วมทำบุญจะกระจายไปในกองกฐินทุกๆกอง

ผมให้ร่วมทำบุญเฉพาะสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , คณะพระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด เท่านั้น เนื่องจากเงินที่ร่วมทำบุญ จะโอนเข้าบัญชีส่วนตัวผม รายละเอียดบัญชีที่ผมจะให้โอนเงิน ผมจะแจ้งให้ทราบทาง Email เท่านั้นครับ

ซึ่งสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , สมาชิกคณะพระวังหน้า และ สมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด ผมได้แจ้งรายชื่อแล้วว่า ท่านอยู่ในส่วนไหนครับ

การทอดกฐินในครั้งนี้ จะทอดกฐินในวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ดังนั้น การโอนเงินร่วมทำบุญ ต้องโอนเงินภายในวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2553 นี้เท่านั้น

ผมรอรายละเอียดทั้งหมดจากพี่แอ๊ว ในวันพรุ่งนี้ครับ

โมทนาบุญทุกประการ

-----------------------------------------------

.
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Pinkcivil อ่านข้อความ
ผมกับแฟนร่วมทำถวายผ้าไตร 1 ชุดครับ

ส่วนเรื่องกฐินทราบจากลุงต้อย(สถาพร) เหมือนกัน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดอ่ะครับ

-----------------------------------------------

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
สำหรับชุดผ้าไตร และ เงินร่วมทำบุญ

เรื่องนี้ ผมขออนุญาต ถอนเงินของชมรมรักษ์พระวังหน้า มาจำนวน 10,000 บาท เพื่อมาร่วมในงานบุญนี้ และผมจะแจ้งและขอโทษท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระัวังหน้าทุกๆท่านทราบทาง Email ในการที่ผมตัดสินใจโดยพละการครับ

.
สำหรับชุดผ้าไตร ยังเหลืออีก 1 ชุด ครับ


.
ส่วนคุณธวัช และ คุณปฐม ที่ได้โอนเงินมาให้ผม และบอกผมว่า แล้วแต่ผมจะนำไปทำบุญอะไรสุดแล้วแต่ผม ผมจะนำเงินของคุณธวัช และ คุณปฐม ทั้งหมด ทำบุญในงานมหากฐินในงานนี้นะครับ

บุญใหญ่มากครับงานนี้

เป็นงานกฐินตกค้าง และ วัดก็อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยครับ

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 19, 2010, 09:35:17 pm
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ tawatd อ่านข้อความ
ผมขอร่วมทำบุญในชุดผ้าไตรอีก 1 ชุด ที่เหลือครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2094.html#post3934845
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 19, 2010, 09:36:15 pm
สำหรับท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า และ ท่านสมาชิกคณะกองทุนหาพระถวายวัด ทุกๆท่าน

หากท่านใดมีความประสงค์ที่ต้องการร่วมทำบุญผ้าไตรเพิ่มเติม แจ้งผมเข้ามาได้ ไม่เกิน 6.00 น.วันพรุ่งนี้ (วันพุธที่ 20 ตุลาคม 2553) นี้ เพราะว่าผมจะได้แจ้งรายชื่อเพิ่มเิติมกับพี่แอ๊วได้ถูกต้อง


โมทนาสาธุครับ

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 19, 2010, 09:37:35 pm

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chantasakuldecha อ่านข้อความ
โมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ
ผมและครอบครัว ขอร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าไตรและร่วมบุญ10,000บาทครับ โอนบ/ช ใดช่วยแจ้งด้วยครับจะได้รีบดำเนินการ
โมทนาบุญทุกประการครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2094.html#post3934860
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 19, 2010, 10:04:07 pm
อ้างจาก: sithiphong;3931968
มาแจ้งข่าว

บ้านคุณณฑนน น้ำไม่ได้เข้าตัวบ้าน เนื่องจากอยู่ที่สูง แต่เดินไปที่ซอยบ้าน น้ำครึ่งเอว

บ้านคุณเฉลิมพล ตอนนี้กำลังใช้กระสอบทรายกั้นน้ำอยู่ น้ำยังทรงๆตัวอยู่

ส่งกำลังใจไปช่วยคุณณฑนน , คุณเฉลิมพล และชาวโคราช และผู้ประสบภัยน้ำท่วมกันครับ

.

มาแจ้งข่าวคุณณฑนน และ คุณเฉลิมพล

คุณณฑนน ได้ไปอยู่บ้านคุณแม่  ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน  และที่บ้านคุณณฑนน  น้ำท่วมไม่ถึง  ท่วมแต่ร้านขายอาหาร  น้ำที่มา  ก็ไม่แรงมาก

ส่วนคุณเฉลิมพล  ตอนนี้ต้องใช้กระสอบทรายกันน้ำ และ ต้องช่วยกันวิดน้ำออกจากบ้านอยู่บ่อยๆครับ

แต่ก็ยังไม่น่าเป็นห่วงมาก

ส่งกำลังใจไปช่วยคุณณฑนน , คุณเฉลิมพล และผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้กันครับ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 20, 2010, 06:01:18 pm
ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพร่วมถวายกฐินตกค้างจำนวน 30 วัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1187997&d=1287578297)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 20, 2010, 06:05:55 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1187880&d=1287572990)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1187881&d=1287572990)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 20, 2010, 08:52:59 pm
เรียนคุณหนุ่มค่ะ

พี่ขอแก้ไขรายละเอียดเรื่องตัวเลขตามที่ได้โทร.เรียนคุณหนุ่มไว้นะคะ
พี่พิมพ์รีบๆ เลยผิดพลาดไป ต้องขออภัยด้วยค่ะ ตัวเลขที่ถูกต้องคือ กฐินกองละ
3,000 บาท จำนวน 100 กอง ก็จะได้ยอดเงิน 300,000 บาท
สำหรับจัดสรรให้วัดละ10,000 บาท จำนวน 30 วัด
แต่ถ้ามีผู้ร่วมทำบุญเกินกว่าที่ตั้งไว้ ก็จะได้ร่วมทำบุญไปกับทุกวัด
ถือเป็นมหาสังฆทานเลยนะคะ ที่มีโอกาสได้ร่วมถวายกฐินพร้อมกันทีเดียว 119 วัด
มีพระภิกษุสงฆ์มาชุมนุมร่วมกันถึง 595 รูป ( วัดละ 5 รูป )

กำหนดการคร่าวๆ คือทางในวังจะจัดเลี้ยงภัตตาหารเพลพระที่นิมนต์มาทั้งหมด
หลังจากนั้นจะเป็นการถวายผ้าพระกฐินและผ้ากฐินพร้อมกันทุกวัด
ให้แล้วเสร็จภายในเวลาบ่ายโมง เพราะหน่วยทหารจะต้องส่งพระกลับวัดก่อนค่ำ
แล้วผู้ที่เดินทางไปทำบุญก็ต้องรีบเดินทางออกจากพื้นที่พร้อมๆกัน
เพื่อความปลอดภัย ซึ่งพี่จะร่วมเดินทางไปกับคณะของท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลด้วยค่ะ

การได้ร่วมทำบุญในมหากฐินครั้งนี้
พี่คิดว่ามีอานิสงส์มากเพราะนอกจากจะได้อานิสงส์ของกฐินแล้ว
ถือว่าได้ร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศล
และได้ช่วยงานของพระศาสนาให้ยั่งยืนด้วย เพราะพระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่อย่างยากลำบาก และเสียสละเพื่อเจริญศรัทธาของชาวพุทธ ณ ที่นั้น
ปัจจัยที่ทำบุญเมื่อเทียบกับว่าแต่ละวัดต้องใช้ซ่อมแซมเสนาสนะภายในวัดและ เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าอาหารพระ ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ ยังคิดว่าน้อยไปที่จะต้องใช้ประโยชน์ภายใน 1 ปี เพราะไม่มีใครกล้าเข้าไปทำบุญ ขนาดถึงกาลกฐินแล้วยังไม่มีเจ้าภาพ แม้แต่ชาวบ้านในท้องถิ่นเลย สงสารพระที่ท่านจำพรรษามาจนครบไตรมาสด้วย ท่านจะได้มีกำลังใจในการที่จะเจริญศรัทธาญาติโยมต่อไป

พี่ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณหนุ่มด้วยนะคะ
ที่เป็นกำลังของพระศาสนาอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ปีนี้
สนส.ผาผึ้งไม่ได้รับกฐิน เพราะมีพระจำพรรษาเพียง 3 รูป คือ พระอาจารย์นิล
พระอาจารย์ตุ้ย และพระอีก 1 รูป
จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่คุณหนุ่มได้นำหมู่คณะร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินครั้งนี้
เมื่อแล้วเสร็จจากงานกฐินก็คงต้องจัดผ้าป่าปิดงานพระเจดีย์อีกครั้ง
รวมทั้งผ้าป่าระบบประปาและห้องน้ำของ สนส.ผาผึ้ง แต่ค่อยว่ากันอีกทีนะคะ

พี่ขอรบกวนคุณหนุ่มช่วยรวบรวมปัจจัย และรายชื่อเจ้าภาพทั้งหมด ในนามชมรมทั้ง
2 ชมรมด้วยนะคะเพื่อจะได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้สำหรับผู้ที่ต้องการ
และหากมีผู้ประสงค์จะร่วมทำบุญโดยที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของชมรมเลย

**พี่ขอแจ้งบัญชีธนาคารไว้เป็นสาธารณะได้
โดยขอให้แจ้งหน้าเว็บว่าร่วมทำบุญจำนวนเท่าไหร่ พี่จะได้จัดการได้ถูกต้อง
บัญชีของพี่นะคะ : ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลขที่บัญชี
.................ชื่อบัญชี พิชญ์สินี ชาญปรีชญาค่ะ**

จากพี่แอ๊ว แจ้งมาให้ผมทราบทาง Email ครับ

---------------------------------------------

เรื่อง เลขที่บัญชีของพี่แอ๊ว สำหรับท่านใดที่ไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , สมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด และ สมาชิกคณะพระวังหน้า ที่ผมได้แจ้งให้ทราบทาง Email แล้วนั้น มีความประสงค์ทึ่จะร่วมทำบุญ ผมจะ pm หมายเลขบัญชีให้ท่านทราบครับ

sithiphong

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 20, 2010, 08:53:30 pm
สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าภาพผ้าไตร

1.ชมรมรักษ์พระวังหน้า ( 10,000 บาท)
2.คณะกองทุนหาพระถวายวัด ( 10,000 บาท)
3.sithiphong และครอบครัว ( 10,000 บาท)
4.คุณPinkcivil และครอบครัว
5.คุณchantasakuldecha และครอบครัว (12,500 บาท)
6.คุณtawatd และครอบครัว
7.คุณdragonlord และครอบครัว


ท่านที่ร่วมทำบุญ และโอนเงินร่วมทำบุญแล้ว
1.คุณnongnooo และครอบครัว ( 1,000 บาท)
2.คุณปฐม ( 1,000 บาท)


โมทนาบุญทุกประการ

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 20, 2010, 09:02:46 pm
ผมลืมแจ้งให้ทราบ สำหรับงานบุญของคณะกองทุนหาพระถวายวัด

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะกองทุนหาพระถวายวัด ได้ถวายพระวังหน้าและพระวังหลวง แด่พระอาจารย์รูปหนึ่ง โดยฝากพี่สิทธิพร อัญเชิญไปถวายที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2,000 องค์

มาโมทนาบุญกับคณะกองทุนหาพระถวายวัดกันครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%...ml#post3938860
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 21, 2010, 08:18:45 pm
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าภาพผ้าไตร

1.ชมรมรักษ์พระวังหน้า ( 10,000 บาท)
2.คณะกองทุนหาพระถวายวัด ( 10,000 บาท)
3.sithiphong และครอบครัว ( 10,000 บาท)
4.คุณPinkcivil และครอบครัว
5.คุณchantasakuldecha และครอบครัว (12,500 บาท)
6.คุณtawatd และครอบครัว
7.คุณdragonlord และครอบครัว ( 2,500 บาท)


ท่านที่ร่วมทำบุญ และโอนเงินร่วมทำบุญแล้ว
1.คุณnongnooo และครอบครัว ( 1,000 บาท)
2.คุณปฐม ( 1,000 บาท)
3.คุณpsombat ( 555 บาท)


โมทนาบุญทุกประการ


เมื่อสักพักนี้ ผมได้แจ้งงานบุญ กฐินตกค้าง จำนวน 30 วัด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับพี่ใหญ่

พี่ใหญ่แจ้งมาว่า ร่วมทำบุญกฐิน และ ถวายผ้าไตร 1 ชุด

มาโมทนาบุญกับพี่ใหญ่กันครับ

โมทนาบุญทุกประการครับ

พี่แอ๊วแจ้งว่า ขอให้ผมโอนเงินร่วมทำบุญให้กับพี่แอ๊ว ภายในวันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553

ผม รบกวนให้โอนเงินร่วมทำบุญให้ผม ภายในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553 เพื่อที่ผมจะได้รวบรวมรายชื่อผู้ร่วมทำบุญ , ตรวจสอบเงินที่โอนเข้ามา และ โอนให้พี่แอ๊วได้ถูกต้อง

ผมเองก็กลัวครับ บุญใหญ่แบบนี้ กรรมหนักเป็นธรรมดา ไม่อยากให้พลาด

ส่วน เรื่องของกฐิน หากเป็นกฐินตกค้าง นั่นหมายความว่า พระภิกษุที่อยู่ในพรรษา ย่อมต้องการกฐิน เพื่อที่จะได้รับอานิสงค์ของกฐิน อย่างเต็มที่ และ การที่ได้รับกฐิน ทำให้พระภิกษุ เวลาที่เดินทางไปไหน จะได้ไม่ต้องพวงเรื่องการครองผ้าสังฆาติ ทำให้มีความสดวกสบายมากขึ้น

อีก เรื่องก็คือ วัดที่จะไปร่วมทำบุญกฐิน ยังเป็นสถานที่มีความอันตรายอยู่มาก เหตุเกิดจากกลุ่มคนไทยบางกลุ่ม ก่อเหตุความวุ่นวาย เพื่อประโยชน์ของพรรคพวกตนเองในการรับเงินจากนอกประเทศ ทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยกล้าที่จะไปทำบุญที่วัด เกรงในอันตรายต่างๆ

บุญของกฐินตกค้าง จะมีอานิสงค์มากกว่ากฐินปกติครับ

สำหรับ ท่านใดที่จองผ้าไตรไว้ เมื่อทำบุญโอนเงินมาที่บัญชีผมแล้ว บุญนั้นก็สำเร็จตามที่ตั้งใจแล้ว และขอให้ท่านกรวดน้ำตามที่ผมได้เคยEmail ไปให้นะครับ

โมทนาบุญทุกประการ

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 21, 2010, 08:27:13 pm
มาแจ้งเรื่องของผ้าไตร

ผ้าไตรที่ทางสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , คณะพระวังหน้า และคณะกองทุนหาพระถวายวัด ทุกๆท่าน  ร่วมกันทำบุญ รวม 30 ชุด

พี่แอ๊วได้ติดต่อกับช่างที่ทำชุดผ้าไตร ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย  และทางช่างก็ได้ลดราคาให้ในราคาพิเศษ  ชุดละ 2,000 บาท  รวมทั้งหมด(ที่สั่งทำ) 29 ชุด

ผมจะโอนเงินค่าผ้าไตรให้พี่แอ๊ว  ในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553 พร้อมกับเงินกฐิน

ส่วนผ้าไตร  ทางช่างจะนัดกับทางพี่แอ๊ว ในการนำส่งให้กับพี่แอ๊วในวันพฤหัสที่ 28 ตุลาคม 2553 ครับ

สำหรับรายนามผู้ร่วมทำบุญผ้าไตร

1.ชมรมรักษ์พระวังหน้า 1 ชุด
2.คณะกองทุนหาพระถวายวัด 1 ชุด
3.ผมและ ผบทบ. 1 ชุด
4.คุณธวัช 1 ชุด
5.คุณศรุต 1 ชุด
6.คุณdragonlord 1 ชุด
7.พี่เปี๊ยก 1 ชุด
8.คุณณฑนน 1 ชุด
9.คุณพรเกียรติ 5 ชุด
10.พีีแอ๊ว 3 ชุด
11.คณะพี่สิทธิพร 13 ชุด
รวมทั้งหมด 29 ชุด

ส่วนอีก 1 ชุดเป็นของพี่ใหญ่

โมทนาบุญทุกประการครับ


.

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2097.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 21, 2010, 09:00:12 pm
มาแจ้งเรื่องของผ้าไตร

ผ้าไตรที่ทางสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , คณะพระวังหน้า และคณะกองทุนหาพระถวายวัด ทุกๆท่าน  ร่วมกันทำบุญ รวม 30 ชุด

พี่แอ๊วได้ติดต่อกับช่างที่ทำชุดผ้าไตร ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย  และทางช่างก็ได้ลดราคาให้ในราคาพิเศษ  ชุดละ 2,000 บาท  รวมทั้งหมด(ที่สั่งทำ) 29 ชุด

ผมจะโอนเงินค่าผ้าไตรให้พี่แอ๊ว  ในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553 พร้อมกับเงินกฐิน

ส่วนผ้าไตร  ทางช่างจะนัดกับทางพี่แอ๊ว ในการนำส่งให้กับพี่แอ๊วในวันพฤหัสที่ 28 ตุลาคม 2553 ครับ

สำหรับรายนามผู้ร่วมทำบุญผ้าไตร

1.ชมรมรักษ์พระวังหน้า 1 ชุด
2.คณะกองทุนหาพระถวายวัด 1 ชุด
3.ผมและ ผบทบ. 1 ชุด
4.คุณธวัช 1 ชุด
5.คุณศรุต 1 ชุด
6.คุณdragonlord 1 ชุด
7.พี่เปี๊ยก 1 ชุด
8.คุณณฑนน 1 ชุด
9.คุณพรเกียรติ 5 ชุด
10.พีีแอ๊ว 3 ชุด
11.คณะพี่สิทธิพร 13 ชุด
รวมทั้งหมด 29 ชุด

ส่วนอีก 1 ชุดเป็นของพี่ใหญ่

โมทนาบุญทุกประการครับ


.

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2097.html

ส่วนเงินที่ท่านโอนมาเพื่อร่วมทำบุญชุดผ้าไตรมากกว่า 2,000 บาท ผมจะนำเข้าทำบุญในกองกฐินครับ

วัดทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พระภิกษุท่านอยู่ด้วยความลำบากมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัตตาหาร , การเดินทาง แม้กระทั่งการอยู่ในวัด ชาวบ้านก็ไม่กล้าที่จะไปวัด เนื่องด้วยเกรงอันตราย

ค่าใช้จ่ายในวัด ก็มีทั้งค่าน้ำ , ค่าไฟ , ค่าภัตตาหาร(ที่ผมคิดว่า ส่วนใหญ่จะทำอาหารในวัด) และยังมีอื่นๆอีกหลายๆอย่าง เช่น ยาสามัญประจำบ้าน เป็นต้น

มาร่วมกันทำบุญใหญ่กันครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ ตุลาคม 24, 2010, 01:51:57 am
อนุโมทนาครับพี่หนุ่ม^^
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 24, 2010, 02:36:32 pm
วันนี้ตอนเช้า ผมขออนุญาตเป็นตัวแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด

ในการอัญเชิญพระวังหน้า และ พระวังหลวง (บรรจุกล่องสเตนเลส) จำนวน 2 กล่อง ไปถวายท่านเจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง เพื่อบรรจุที่เจดีย์(หรือใต้ฐานพระพุทธรูป) และได้ถวายพระกริ่งปวเรศ (เนื้อนาค) รุ่นปีพ.ศ.2434 จำนวน 1 องค์ , พระกริ่งปวเรศ (เนื้อเงินสเตอร์ริงซิลเวอร์) รุ่นปีพ.ศ.2434 จำนวน 1 องค์ , พระวังหน้า (เนื้อพระธาตุ) จำนวน 2 องค์ และ พิมพ์เป็นที่รักของสามโลก (แบบที่ 2) จำนวน 200 องค์

ตอนยกกล่องสเตนเลส(ที่บรรจุพระเต็ม) ไปที่กุฎิท่าน หมดแรงครับ หนักจริงๆๆๆๆๆ

ก่อนหน้าที่จะถวาย ก็ได้ซื้อปลาดุก แล้วนำไปปล่อยลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่หน้าวัดระฆัง ซื้ออาหารปลา คือขนมปัง และ อาหารปลา เลี้ยงปลา และ เลี้ยงนก

เห็นน้ำแล้วน่ากลัวครับ กลัวว่า กทม.จะรับมือไม่ไหว

พอเสร็จงานบุญที่วัดระฆัง ประมาณ 5 โมงเช้า(กว่าๆ) ก็ไปเติมพลังที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือหน้าวัดเครือวัลย์

พอเติมพลังกันเรียบร้อย ก็เดินทางต่อไปที่บางลำภุ นำรถไปจอดไว้ที่บางลำภู

ขึ้นแท็กซี่ไปวัดพระแก้ว

ไปกราบองค์พระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมือง ผมได้ขออนุญาตเป็นตัวแทนของคณะกองทุนหาพระถวายวัด ในการอาราธนาองค์พระแ้ก้วมรกต องค์............... , องค์ ................ ในการขอให้ทุกๆพระองค์มาร่วมโมทนาบุญและเป็นพยานบุญในบุญที่คณะกองทุนหาพระ ถวายวัด ได้ทำในวันนี้

ต่อมาก็เิดินไปกราบศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ

หลังจากนั้นก็เดินทางไปที่วัดบวรนิเวศ ไปกราบพระพุทธชินสีห์ ,หลวงพ่อโต และ พระไพรีนินาศ

มาร่วมโมทนาบุญกับผมและคณะกองทุนหาพระถวายวัดกันครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 24, 2010, 03:39:41 pm
พระเทพวิสุทธิเมธี วัดระฆังโฆสิตาราม

28-10-2007, 09:04 AM


วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6177 ข่าวสดรายวัน


พระเทพวิสุทธิเมธี วัดระฆังโฆสิตาราม

คอลัมน์ มงคลข่าวสด




กล่าว ถึงชื่อ "วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร" หลายคนนึกถึงนามแห่งสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระอริยสงฆ์เรืองวิทยาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม และวัตถุมงคล "พระสมเด็จวัดระฆัง" ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 พระชุดเบญจภาคี

ทำให้ชื่อเสียงของวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร โด่งดังไปทั่วสารทิศ

กาลเวลาล่วงเลยมาจนถึงทุกวันนี้ ศรัทธาจากสาธุชนที่มีต่อวัดระฆังฯ ยังมิได้ลดลงแต่ประการใด ด้วยวัดระฆังฯ ได้ปรากฏนาม "พระเทพวิสุทธิเมธี" (เที่ยง อคฺคธมฺโม) เจ้าอารามผู้ครองวัดรูปปัจจุบัน พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา

อาจกล่าวได้ว่าท่านเป็นพระนักปราชญ์ พระนักเทศน์ และพระนักพัฒนา รวมทั้งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลกิจการคณะสงฆ์ในพื้นที่เขตปกครองเขตอีสานตอน ล่าง 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสุรินทร์

ปัจจุบันพระเทพวิสุทธิเมธี สิริอายุ 72 พรรษา 49 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 11 และเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า เที่ยง ชูกระโทก เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2478 ที่บ้านดอนชมพู ต.บิง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายโปย และนางสี ชูกระโทก

ในวัยเยาว์เป็นเด็กที่ซุกซนเที่ยวเล่นสนุกสนานไปวันๆ จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนประชาบาลวัดดอนชมพู

แม้จะมีนิสัยเกเรตามประสาเด็กวัยรุ่นเลือดร้อน แต่อีกด้านหนึ่งด้วยมีจิตใจใฝ่ธรรม จึงให้ความสนใจในพระพุทธศาสนา จึงได้มาบวชเป็นสามเณร ที่วัดสมอราย ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีพระครูพรหมวิหารี เป็นพระอุปัชฌาย์

อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะบวชเป็นสามเณรแล้วก็ตาม แต่ท่านก็ยังมิได้ละทิ้งอุปนิสัยความเป็นเลือดนักสู้ เวลามีคนมาข่มเหงรังแกท่านมักจะต่อสู้อย่างไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึง แต่ด้วยความที่มีร่างกายเป็นคนตัวเล็กมักจะเอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้

กระทั่งเจ้าอารามวัดสมอรายเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าสามเณรเที่ยงจะไม่เอาดีทางด้านการศึกษาธรรม จึงตัดสินใจนำตัวส่งไปฝากเรียนที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

แม้จะได้มีโอกาสมาศึกษาพระปริยัติธรรมถึงเมืองหลวง แต่มิได้ทำให้ความเลือดร้อนตามประสาวัยหนุ่มลดน้อยลงแต่อย่างใด

กระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสท่องคาถาชินบัญชร เกิดความปีติสุขจิตใจเป็นสมาธิยิ่ง จนมีคนมาบอกเล่าให้ฟังว่าผู้ใดได้สวดภาวนาพระคาถาชินบัญชรนี้เป็นประจำอยู่ สม่ำเสมอ จะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลสมบูรณ์พูนผล ศัตรูหมู่พาลไม่กลํ้ากราย ไม่ว่าจะไปทางใดย่อมเกิดเมตตามหานิยม

สามเณรเที่ยงจึงขอตั้งจิตอธิษฐานจะขอท่องคาถาชินบัญชรให้สำเร็จทุกถ้วนความ หากทำได้จะขอเลิกความใจร้อน จะตั้งใจเรียนศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง เพื่อตอบแทนพระคุณบุพการีและสืบทอดพระพุทธศาสนาตลอดไป

ตั้งแต่นั้นมาสามเณรเที่ยงได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ

เมื่ออายุครบบวชได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2501 ณ วัดบ้านดอนชมพู ต.บิง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยมีพระครูพินิจยติกรรม วัดใหม่สุนทร อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เป็นพระอุปัชฌาย์

ในช่วงนั้นได้กลับไปอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านเกิดเป็นเวลา 2 ปี กระทั่งได้กลับมาที่วัดระฆังฯ เพื่อศึกษาบาลี

พ.ศ.2514 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม

ท่านได้สร้างผลงานเป็นคุณูปการมากมายหลากหลายด้าน ทั้งด้านงานปกครองคณะสงฆ์ การศึกษาพระปริยัติธรรม การสาธารณประโยชน์ ด้านการพัฒนา และอื่นๆ อีกมากมาย

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2507 เป็นเลขานุการเจ้าสำนักเรียนวัดระฆังโฆสิตาราม พ.ศ.2515 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม พ.ศ.2517 เป็นรองเจ้าคณะภาค 11

พ.ศ.2519 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2536 เป็นเจ้าคณะภาค 11 พ.ศ.2547 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม

พ.ศ.2550 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีวิสุทธิโสภณ

พ.ศ.2526 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชวิสุทธิเวที

พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวิสุทธิเมธี

เจ้าคุณเที่ยงมีความสามารถในการเขียนกวีธรรมสาธกหรือกลอนธรรมะจำนวนมากมาย อาทิ บทกลอนเพื่อชีวิต ทำดีเริ่มต้นที่ตนก่อน

"จบดอกไม้ธูปเทียนเหนือเศียรเกล้า

นั่งคุกเข่าเทพนมบังคมสาส์น

บูชาพระไตรรัตน์ชัชวาล

สวดตำนานมนตราพุทธาคม

หาที่พึ่งทางใจอันใหญ่หลวง

ปลดเปลื้องบ่วงความรักกามหมักหมม

เจริญจิตภาวนาฝึกอารมณ์

ห่างระทมขมขื่นชื่นอุรา"

เจ้าคุณเที่ยงนอกจากเป็นพระนักปกครองแล้ว ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดระฆังฯ มักได้รับนิมนต์ให้ร่วมพิธีพุทธาภิเษกและอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลชื่อดัง อยู่เป็นประจำ

เนื่องจากพื้นเพของท่านเป็นชาวโคราช พระของท่านส่วนมากได้ถูกนำไปแจกให้กับลูกศิษย์ลูกหาทางภาคอีสานเป็นส่วนใหญ่

เกียรติคุณด้านมงคลปูชนียวัตถุที่สร้างชื่อให้กับเจ้าคุณเที่ยง คือ พระสมเด็จเนื้อดินและปิดตาเนื้อดิน สร้างจากเนื้อดินหุ่นหรือดินไทย ที่เหลือจากพิธีการสร้างหล่อรูปเหมือนสมเด็จโต จึงนำดินนั้นมาสร้างเป็นพระเครื่องเนื้อดินมีลักษณะสีดำเกรียม เมื่อปี พ.ศ.2500

เจ้าคุณเที่ยงมีหลักธรรมคำสอนง่าย ด้วยการใช้เมตตาธรรมในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์และประชาชน ให้เน้นความสำคัญของพระพุทธศาสนาที่มีคุณค่าใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติบ้านเมือง ที่สามารถดำรงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

"การสวดมนต์ไหว้พระ ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ทำให้จิตใจเกิดความสงบ เมื่อเกิดความสงบแล้ว สมาธิและปัญญาจะเกิดตามมา คนเราขอเพียงมีสมาธิและปัญญาการทำงานให้สำเร็จย่อมไม่ใช่เรื่องยาก"

ทุกวันนี้ "พระเทพวิสุทธิเมธี" หรือเจ้าคุณเที่ยง ในวัย 72 ปี ยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยมิรู้เหน็ดเหนื่อย

http://www.matichon.co.th/khaosod/vi...MHhNQzB5T0E9PQ==


.

http://board.palungjit.com/f10/%E0%B...%A1-97628.html

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 24, 2010, 03:40:52 pm
รายนามเจ้าคณะภาค-รองเจ้าคณะภาค มหานิกาย พ.ศ. 2553

เจ้าคณะภาค 11

พระธรรมธีรราชมหามุนี
(เที่ยง อคฺคธมฺโม ป.ธ.9)

วัดระฆังโฆสิตาราม
แขวงศิริราช
เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพมหานคร 10700

รองเจ้าคณะภาค อันดับที่ 1
พระเทพปริยัติมุนี
(สมคิด เขมจารี ป.ธ.9)

วัดทองนพคุณ
แขวงคลองสาน
เขตคลองสาน
กรุงเทพมหานคร 10600



รองเจ้าคณะภาค อันดับที่ 2
พระราชวรเมธี
(แผ่ว ปรกฺกโม ป.ธ.9)

วัดเทพธิดาราม
แขวงสำราญราษฎร์
เขตพระนคร
กรุงเทพมหานคร 10200


เขตปกครอง

นครราชสีมา
บุรีรัมย์
ชัยภูมิ
สุรินทร์

รวม 4 จังหวัด
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 27, 2010, 06:04:08 pm
สรุปการร่วมทำบุญงานกฐินตกค้าง 119 วัด ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ที่พี่แอ๊วได้มาบอกบุญในส่วนของวัดที่ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลได้บอกบุญผ่านทางพี่แอ๊วมา ในจำนวน 30 วัด) ในนามของชมรม รักษ์พระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด , คณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน


เรียนท่านสมาชิกชมรม รักษ์พระวังหน้า , ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน

ผมมาแจ้งรายละเอียดล่าสุดสำหรับงานกฐินตกค้าง 119 วัด ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พี่แอ๊วได้มาบอกบุญในส่วนของวัดที่ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลได้บอกบุญผ่านทางพี่แอ๊วมา ในจำนวน 30 วัด

สำหรับเงินที่ร่วมทำบุญในกองกฐิน จำนวนเงิน 201,000 บาท โดยมีท่านที่ร่วมทำบุญจำนวน 55 ท่าน

คณะคุณPinkcivil ได้ร่วมทำบุญมาทั้งหมด 100,000 บาท
ผมทำบุญเพิ่มอีก 1,000 บาท
ท้ายสุดมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามร่วมทำบุญจำนวน 16,991 บาท

รวมจำนวนเงินที่ผมโอนไป 200,000 บาท
มีอยู่ 1 ท่านที่โอนเงินร่วมทำบุญเข้าบัญชีพี่แอ๊ว จำนวน 1,000 บาท

รวมจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญในนามของชมรม รักษ์พระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด , คณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน จำนวน 201,000 บาท

ส่วนเงินที่ร่วมทำบุญในชุดผ้าไตร จำนวน 30 ชุด(ซึ่งหักผ้าไตรของพี่ใหญ่ จำนวน 1 ชุดผ้าไตร และหักผ้าไตรในส่วนของพี่แอ๊ว จำนวน 3 ชุดผ้าไตร) คงเหลือชุดผ้าไตร จำนวน 26 ชุดๆละ 2,000 บาท มีท่านที่ร่วมทำบุญในชุดผ้าไตร จำนวน 26 ท่าน(ไม่รวมในส่วนของพี่แอ๊ว จำนวน 3 ชุด) รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 52,000 บาท

จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญทั้งหมด 201,000 บาท + จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญชุดผ้าไตร 52,000 บาท + จำนวนเงินที่คณะพี่แอ๊วร่วมทำบุญชุดผ้าไตร 6,000 บาท

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 259,000 บาท

มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

ขอโมทนาบุญในทุกๆบุญกับทุกๆท่านครับ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 27, 2010, 06:06:11 pm
รายนามผู้ร่วมบุญกฐิน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (เฉพาะชุดผ้าไตร) ไม่รวมเงินกฐิน
No. ผู้ร่วมทำบุญ ทำบุญชุดผ้าไตร ทำบุญชุดผ้าไตรชุดละ
1. พี่ใหญ่ และครอบครัว 1 ชุด ไปรับผ้าไตรแล้ว
2. ชมรมรักษ์พระวังหน้า 1 ชุด 2,000.00
3. คณะกองทุนหาพระถวายวัด 1 ชุด 2,000.00
4. sithiphongและครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
5. ภรรยา.sithiphongและครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
6. คุณtawatd และครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
7. คุณchantasakuldecha และครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
8. คุณdragonlord และครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
9. คุณjirautes และครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
10. คุณพิชญ์สินี ชาญปรีชญา และครอบครัว และคณะเพื่อนๆ 3 ชุด 6,000.00
11. คณะคุณPinkcivil 5 ชุด 10,000.00
12. คุณพิทักษ์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
13. คุณศักดา , คุณศุภลักษณ์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
14. คุณธนะรัตน์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
15. คุณผจญศึก และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
16. คุณพรรษพนธ์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
17. คุณภาคภูมิ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
18. คุณสัญชัย และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
19. คุณผจญศึก และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
20. คุณธนะรัตน์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
21. คุณภาคภูมิ , คุณอุดมสิทธิ์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
22. คุณชัยรัตน์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
23. คุณนิวัตร์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
24. พนักงานบริษัท พรีบิลท จำกัด(มหาชน) และบริษัทในเครือ 1 ชุด 2,000.00
 รวมทั้งสิ้น 30 ชุด 58,000.00
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 27, 2010, 06:08:07 pm
รายนามผู้ร่วมบุญกฐิน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
No. ผู้ร่วมทำบุญ จำนวนเงิน
1. พี่ใหญ่และครอบครัว 10,000.00
2. ชมรมรักษ์พระวังหน้า 8,000.00
3. คณะกองทุนหาพระถวายวัด 8,000.00
4. sithiphongและครอบครัว 9,845.00
5. คุณtawatd และครอบครัว 500.00
6. คุณchantasakuldecha และครอบครัว 10,500.00
7. คุณdragonlord และครอบครัว 500.00
8. คุณnongnooo และครอบครัว 1,000.00
9. คุณปฐม และครอบครัว 1,000.00
10. คุณพ่อ + คุณแม่ ของคุณปฐมและครอบครัว 1,000.00
11. คุณpsombat และครอบครัว 555.00
12. คุณjirautes และครอบครัวและครอบครัวเพื่อนบ้าน 2,000.00
13. คุณสุวารี (เพื่อนpsombat) และครอบครัว 500.00
14. คุณจรัล และครอบครัว 100.00
15. คุณวันทนา และครอบครัว 100.00
16. คุณปิยรัตน์และครอบครัว 100.00
17. คุณปฐมและครอบครัว 100.00
18. คุณปนัดดาและครอบครัว 100.00
19. คุณนรเสฎฐ์และครอบครัว 3,000.00
20. คุณรุจิภาส 100.00
21. คุณปราณี 100.00
22. คุณจุฑามาศ 100.00
23. คุณคณิศร 100.00
24. คุณสุวรรณา 100.00
25. คุณเฉลิมพล และครอบครัว 500.00
26. คุณสิทธิพร และครอบครัว 2,000.00
27. คุณชัยรัตน์ และครอบครัว 2,000.00
28. คุณวิโรจน์ และครอบครัว 2,000.00
29. คุณณฐ และครอบครัว 2,000.00
30. คุณธนู และครอบครัว 2,000.00
31. คุณธวัชชัย และครอบครัว 2,000.00
32. คุณนฤนาถ และครอบครัว 2,000.00
33. คุณชัชลี และครอบครัว 2,000.00
34. คุณเลิศลักษณ์ และครอบครัว 2,000.00
35. คุณราชันย์ และครอบครัว 2,000.00
36. คุณคงภัค และครอบครัว (โอนเงินร่วมทำบุญเข้าบัญชีพี่แอ๊ว) 1,000.00
37. คุณชลลดา + จุรีพร(เพื่อนคุณdragonlord ) และครอบครัว 600.00
38. คุณสมสิทธิ์ และครอบครัว 3,000.00
39. คุณเขมชาติ และครอบครัว 300.00
40. คุณอรุณ และครอบครัว 609.00
41. คุณนิพิฐพนธ์ และครอบครัว 600.00
42. คณะคุณPinkcivil 100,000.00
43. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 16,991.00
 รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 201,000.00
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: Siranya ที่ ตุลาคม 27, 2010, 09:55:44 pm
กราบอนุโมทนาบุญกับคุณหนุ่มและคณะด้วยค่ะสาธุ :45: :45: :45:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: ส. เพ็งพล ที่ ตุลาคม 29, 2010, 05:50:09 pm
รายนามผู้ร่วมบุญกฐิน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (เฉพาะชุดผ้าไตร) ไม่รวมเงินกฐิน
No. ผู้ร่วมทำบุญ ทำบุญชุดผ้าไตร ทำบุญชุดผ้าไตรชุดละ
1. พี่ใหญ่ และครอบครัว 1 ชุด ไปรับผ้าไตรแล้ว
2. ชมรมรักษ์พระวังหน้า 1 ชุด 2,000.00
3. คณะกองทุนหาพระถวายวัด 1 ชุด 2,000.00
4. sithiphongและครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
5. ภรรยา.sithiphongและครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
6. คุณtawatd และครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
7. คุณchantasakuldecha และครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
8. คุณdragonlord และครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
9. คุณjirautes และครอบครัว 1 ชุด 2,000.00
10. คุณพิชญ์สินี ชาญปรีชญา และครอบครัว และคณะเพื่อนๆ 3 ชุด 6,000.00
11. คณะคุณPinkcivil 5 ชุด 10,000.00
12. คุณพิทักษ์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
13. คุณศักดา , คุณศุภลักษณ์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
14. คุณธนะรัตน์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
15. คุณผจญศึก และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
16. คุณพรรษพนธ์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
17. คุณภาคภูมิ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
18. คุณสัญชัย และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
19. คุณผจญศึก และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
20. คุณธนะรัตน์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
21. คุณภาคภูมิ , คุณอุดมสิทธิ์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
22. คุณชัยรัตน์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
23. คุณนิวัตร์ และพนักงานในหน่วยงาน 1 ชุด 2,000.00
24. พนักงานบริษัท พรีบิลท จำกัด(มหาชน) และบริษัทในเครือ 1 ชุด 2,000.00
 รวมทั้งสิ้น 30 ชุด 58,000.00

โมทนาสาธุ สาธุครับ  :46:
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 29, 2010, 09:29:04 pm
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
สรุปการร่วมทำบุญงานกฐินตกค้าง 119 วัด ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ที่พี่แอ๊วได้มาบอกบุญในส่วนของวัดที่ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลได้บอกบุญ ผ่านทางพี่แอ๊วมา ในจำนวน 30 วัด) ในนามของชมรม รักษ์พระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด , คณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน


เรียนท่านสมาชิกชมรม รักษ์พระวังหน้า , ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน

ผมมาแจ้งรายละเอียดล่าสุดสำหรับงานกฐินตกค้าง 119 วัด ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พี่แอ๊วได้มาบอกบุญในส่วนของวัดที่ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลได้บอกบุญ ผ่านทางพี่แอ๊วมา ในจำนวน 30 วัด

สำหรับเงินที่ร่วมทำบุญในกองกฐิน จำนวนเงิน 201,000 บาท โดยมีท่านที่ร่วมทำบุญจำนวน 55 ท่าน

คณะคุณPinkcivil ได้ร่วมทำบุญมาทั้งหมด 100,000 บาท
ผมทำบุญเพิ่มอีก 1,000 บาท
ท้ายสุดมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามร่วมทำบุญจำนวน 16,991 บาท

รวมจำนวนเงินที่ผมโอนไป 200,000 บาท
มีอยู่ 1 ท่านที่โอนเงินร่วมทำบุญเข้าบัญชีพี่แอ๊ว จำนวน 1,000 บาท

รวมจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญในนามของชมรม รักษ์พระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด , คณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน จำนวน 201,000 บาท

ส่วนเงินที่ร่วมทำบุญในชุดผ้าไตร จำนวน 30 ชุด(ซึ่งหักผ้าไตรของพี่ใหญ่ จำนวน 1 ชุดผ้าไตร และหักผ้าไตรในส่วนของพี่แอ๊ว จำนวน 3 ชุดผ้าไตร) คงเหลือชุดผ้าไตร จำนวน 26 ชุดๆละ 2,000 บาท มีท่านที่ร่วมทำบุญในชุดผ้าไตร จำนวน 26 ท่าน(ไม่รวมในส่วนของพี่แอ๊ว จำนวน 3 ชุด) รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 52,000 บาท

จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญทั้งหมด 201,000 บาท + จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญชุดผ้าไตร 52,000 บาท + จำนวนเงินที่คณะพี่แอ๊วร่วมทำบุญชุดผ้าไตร 6,000 บาท

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 259,000 บาท

มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

ขอโมทนาบุญในทุกๆบุญกับทุกๆท่านครับ


.



.



.



พี่แอ๊วโทร.มาแจ้งผมเมื่อสักพักนี้

สำหรับงานบุญกฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางเว็บพลังจิตร่วมทำบุญมาประมาณ 3 แสนกว่าบาท

ซึ่งรวมทั้งทางนามของชมรม รักษ์พระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด , คณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน ร่วมทำบุญไป 201,000 บาท เพียงแค่ 2 คณะ ได้เงินมากกว่า 500,000 บาท และยังมีเงินจากทางวัดห้วยมงคลอีกประมาณ 300,000 บาทที่จะสมทบ และยังมีทางคณะอื่นๆอีก ดังนั้น ในการร่วมทำบุญกฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ เป็นการร่วมทำบุญทั้ง 119 วัด

โมทนาบุญกับทุกๆท่านทุกๆประการครับ


.
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ทรงมีความเป็นห่วงเป็นใย พระภิกษุที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

และทำให้ทุกๆท่านได้มีโอกาสได้ทำบุญใหญ่กันในครั้งนี้

ขอกราบขอบพระคุณในความมีพระราชหฤทัยที่ทรงมีพระเมตตาในหลายๆเรื่องครับ

สำหรับใบอนุโมทนาบัตร

พี่แอ๊วแจ้งว่า ได้แฟ็กซ์รายชื่อผู้ขอใบอนุโมทนาบัตรกับทางสมุหราชองค์รักษ์เรียบร้อยแล้ว


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 29, 2010, 09:30:26 pm
นำมาลงอีกครั้ง เผื่อจะได้ใช้ในการกรวดน้ำครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2115.html

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
มาแจ้งข่าวบุญด่วนมาก

เมื่อสักพักนี้ พี่แอ๊วได้โทร.มาแจ้งผมเรื่อง "กฐินตกค้าง วัดที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้"

มาแจ้งเรื่อง คร่าวๆก่อน พรุ่งนี้พี่แอ๊วจะส่งรายละเอียดมาแจ้งให้ผมทราบอีกครั้ง

วัดที่สามจังหวัดชายแดนภาคใ้ต้ จำนวน 119 วัด ยังไม่มีเจ้าภาพกฐิน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านดูแลเรื่องนี้อยู่ ได้มีรับสั่งกับท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ในเรื่องนี้

ท่านเ้จ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ท่านรับเรื่องกฐินมาจำนวน 64 วัด แต่มีวัดจำนวน 34 วัด ซึ่งได้มีเ้จ้าภาพแล้ว ยังคงเหลืออีก 30 วัด

การทอดกฐินในครั้งนี้ จะทอดกฐินในวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์

ผมเองได้จองผ้าไตรไว้ 5 ชุด โดย 3 ชุดมีเจ้าภาพก็คือ

1.ชมรมรักษ์พระวังหน้า
2.คณะกองทุนหาพระถวายวัด
3.ผม,ผบทบ.และครอบครัว

ส่วนผ้าไตรชุดที่ 4 และ ที่ 5 ยังไม่มีเจ้าภาพ (หากไม่มีเจ้าภาพ ผมจะแยกโดย ชุดที่ 4 จะเป็นครอบครัวผม และชุดที่ 5 จะเป็นครอบครัวผบทบ.ผม)

ผ้าไตรครบชุด ประมาณ 2,000 - 2,500 บาท

กฐินอีก 30 วัด พี่แอ๊วได้โทร.มาบอกว่า อยากได้จำนวนเงินกฐินกองละ 3,000 บาท หรือมากกว่านั้น โดยเงินที่ร่วมทำบุญจะกระจายไปในกองกฐินทุกๆกอง

ผมให้ร่วมทำบุญเฉพาะสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , คณะพระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด เท่านั้น เนื่องจากเงินที่ร่วมทำบุญ จะโอนเข้าบัญชีส่วนตัวผม รายละเอียดบัญชีที่ผมจะให้โอนเงิน ผมจะแจ้งให้ทราบทาง Email เท่านั้นครับ

ซึ่งสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , สมาชิกคณะพระวังหน้า และ สมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด ผมได้แจ้งรายชื่อแล้วว่า ท่านอยู่ในส่วนไหนครับ

การทอดกฐินในครั้งนี้ จะทอดกฐินในวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ดังนั้น การโอนเงินร่วมทำบุญ ต้องโอนเงินภายในวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2553 นี้เท่านั้น

ผมรอรายละเอียดทั้งหมดจากพี่แอ๊ว ในวันพรุ่งนี้ครับ

โมทนาบุญทุกประการ


.

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพร่วมถวายกฐินตกค้างจำนวน 30 วัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้









.

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1187997&d=1287578297)

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
เรียนคุณหนุ่มค่ะ

พี่ขอแก้ไขรายละเอียดเรื่องตัวเลขตามที่ได้โทร.เรียนคุณหนุ่มไว้นะคะ
พี่พิมพ์รีบๆ เลยผิดพลาดไป ต้องขออภัยด้วยค่ะ ตัวเลขที่ถูกต้องคือ กฐินกองละ
3,000 บาท จำนวน 100 กอง ก็จะได้ยอดเงิน 300,000 บาท
สำหรับจัดสรรให้วัดละ10,000 บาท จำนวน 30 วัด
แต่ถ้ามีผู้ร่วมทำบุญเกินกว่าที่ตั้งไว้ ก็จะได้ร่วมทำบุญไปกับทุกวัด
ถือเป็นมหาสังฆทานเลยนะคะ ที่มีโอกาสได้ร่วมถวายกฐินพร้อมกันทีเดียว 119 วัด
มีพระภิกษุสงฆ์มาชุมนุมร่วมกันถึง 595 รูป ( วัดละ 5 รูป )

กำหนดการคร่าวๆ คือทางในวังจะจัดเลี้ยงภัตตาหารเพลพระที่นิมนต์มาทั้งหมด
หลังจากนั้นจะเป็นการถวายผ้าพระกฐินและผ้ากฐินพร้อมกันทุกวัด
ให้แล้วเสร็จภายในเวลาบ่ายโมง เพราะหน่วยทหารจะต้องส่งพระกลับวัดก่อนค่ำ
แล้วผู้ที่เดินทางไปทำบุญก็ต้องรีบเดินทางออกจากพื้นที่พร้อมๆกัน
เพื่อความปลอดภัย ซึ่งพี่จะร่วมเดินทางไปกับคณะของท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลด้วยค่ะ

การได้ร่วมทำบุญในมหากฐินครั้งนี้
พี่คิดว่ามีอานิสงส์มากเพราะนอกจากจะได้อานิสงส์ของกฐินแล้ว
ถือว่าได้ร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศล
และได้ช่วยงานของพระศาสนาให้ยั่งยืนด้วย เพราะพระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่อย่างยากลำบาก และเสียสละเพื่อเจริญศรัทธาของชาวพุทธ ณ ที่นั้น
ปัจจัยที่ทำบุญเมื่อเทียบกับว่าแต่ละวัดต้องใช้ซ่อมแซมเสนาสนะภายในวัดและ เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าอาหารพระ ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ ยังคิดว่าน้อยไปที่จะต้องใช้ประโยชน์ภายใน 1 ปี เพราะไม่มีใครกล้าเข้าไปทำบุญ ขนาดถึงกาลกฐินแล้วยังไม่มีเจ้าภาพ แม้แต่ชาวบ้านในท้องถิ่นเลย สงสารพระที่ท่านจำพรรษามาจนครบไตรมาสด้วย ท่านจะได้มีกำลังใจในการที่จะเจริญศรัทธาญาติโยมต่อไป

พี่ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณหนุ่มด้วยนะคะ
ที่เป็นกำลังของพระศาสนาอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ปีนี้
สนส.ผาผึ้งไม่ได้รับกฐิน เพราะมีพระจำพรรษาเพียง 3 รูป คือ พระอาจารย์นิล
พระอาจารย์ตุ้ย และพระอีก 1 รูป
จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่คุณหนุ่มได้นำหมู่คณะร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินครั้งนี้
เมื่อแล้วเสร็จจากงานกฐินก็คงต้องจัดผ้าป่าปิดงานพระเจดีย์อีกครั้ง
รวมทั้งผ้าป่าระบบประปาและห้องน้ำของ สนส.ผาผึ้ง แต่ค่อยว่ากันอีกทีนะคะ

พี่ขอรบกวนคุณหนุ่มช่วยรวบรวมปัจจัย และรายชื่อเจ้าภาพทั้งหมด ในนามชมรมทั้ง
2 ชมรมด้วยนะคะเพื่อจะได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้สำหรับผู้ที่ต้องการ
และหากมีผู้ประสงค์จะร่วมทำบุญโดยที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของชมรมเลย

**พี่ขอแจ้งบัญชีธนาคารไว้เป็นสาธารณะได้
โดยขอให้แจ้งหน้าเว็บว่าร่วมทำบุญจำนวนเท่าไหร่ พี่จะได้จัดการได้ถูกต้อง
บัญชีของพี่นะคะ : ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลขที่บัญชี
.................ชื่อบัญชี พิชญ์สินี ชาญปรีชญาค่ะ**

จากพี่แอ๊ว แจ้งมาให้ผมทราบทาง Email ครับ

---------------------------------------------

เรื่อง เลขที่บัญชีของพี่แอ๊ว สำหรับท่านใดที่ไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , สมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด และ สมาชิกคณะพระวังหน้า ที่ผมได้แจ้งให้ทราบทาง Email แล้วนั้น มีความประสงค์ทึ่จะร่วมทำบุญ ผมจะ pm หมายเลขบัญชีให้ท่านทราบครับ

sithiphong

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 29, 2010, 09:32:43 pm
ประเทศไทยเรา มีความเจริญมาได้ทุกวันนี้ เนื่องด้วยองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และองค์พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ ทรงมีความเป็นห่วงเป็นใยประเทศชาติและประชาชนในชาติ

มันผู้ใดที่คิดไม่ดี คิดคดทรยศ โกงบ้านกินเมือง ต่อชาติ ศาสนาพุทธ องค์พระมหากษัตริย์ มันผู้นั้นเป็นคนเนรคุณ ระำยำ และ บัดซบที่สุด และไม่มีวันที่เจริญได้เลย
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 06:20:06 am
กำหนดการ (จากพี่แอ๊ว) ครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1205258&d=1288481170)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 06:20:43 am
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1205259&d=1288481170)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 06:25:15 am
sithiphong และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สวัสดีครับ

ท่านผู้อ่านจากอเมริกาครับ

UNITED STATES    CALIFORNIA    PALO ALTO

.

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 06:48:26 am
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
สรุปการร่วมทำบุญงานกฐินตกค้าง 119 วัด ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ที่พี่แอ๊วได้มาบอกบุญในส่วนของวัดที่ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลได้บอกบุญ ผ่านทางพี่แอ๊วมา ในจำนวน 30 วัด) ในนามของชมรม รักษ์พระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด , คณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน


เรียนท่านสมาชิกชมรม รักษ์พระวังหน้า , ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน

ผมมาแจ้งรายละเอียดล่าสุดสำหรับงานกฐินตกค้าง 119 วัด ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พี่แอ๊วได้มาบอกบุญในส่วนของวัดที่ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลได้บอกบุญ ผ่านทางพี่แอ๊วมา ในจำนวน 30 วัด

สำหรับเงินที่ร่วมทำบุญในกองกฐิน จำนวนเงิน 201,000 บาท โดยมีท่านที่ร่วมทำบุญจำนวน 55 ท่าน

คณะคุณPinkcivil ได้ร่วมทำบุญมาทั้งหมด 100,000 บาท
ผมทำบุญเพิ่มอีก 1,000 บาท
ท้ายสุดมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามร่วมทำบุญจำนวน 16,991 บาท

รวมจำนวนเงินที่ผมโอนไป 200,000 บาท
มีอยู่ 1 ท่านที่โอนเงินร่วมทำบุญเข้าบัญชีพี่แอ๊ว จำนวน 1,000 บาท

รวมจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญในนามของชมรม รักษ์พระวังหน้า , คณะกองทุนหาพระถวายวัด , คณะพระวังหน้า , คณะผู้ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทุกๆท่าน จำนวน 201,000 บาท

ส่วนเงินที่ร่วมทำบุญในชุดผ้าไตร จำนวน 30 ชุด(ซึ่งหักผ้าไตรของพี่ใหญ่ จำนวน 1 ชุดผ้าไตร และหักผ้าไตรในส่วนของพี่แอ๊ว จำนวน 3 ชุดผ้าไตร) คงเหลือชุดผ้าไตร จำนวน 26 ชุดๆละ 2,000 บาท มีท่านที่ร่วมทำบุญในชุดผ้าไตร จำนวน 26 ท่าน(ไม่รวมในส่วนของพี่แอ๊ว จำนวน 3 ชุด) รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 52,000 บาท

จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญทั้งหมด 201,000 บาท + จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญชุดผ้าไตร 52,000 บาท + จำนวนเงินที่คณะพี่แอ๊วร่วมทำบุญชุดผ้าไตร 6,000 บาท

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 259,000 บาท

มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

ขอโมทนาบุญในทุกๆบุญกับทุกๆท่านครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1157419&d=1285846884)


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ผมเตรียมพระบรมสารีริกธาตุ และ พระธาตุ เพื่ออัญเิชิญฝากน้องท่านนึงเป็นตัวแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด อัญเชิญถวายวัด

พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ

พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน

พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กัสสปะ

พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม

พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า

พระธาตุพระสิวลีเถระเจ้า (ส่วนสมอง , กระดูกสันหลัง และ กระดูกหน้าแข้ง)

พระธาตุ พระอัญญาโกณฑัญญะเถระเจ้า (ส่วนกะโหลกศีรษะ)

พระธาตุพระราหุลเถระเจ้า (ส่วนกระดูกซี่โครง)

และพระธาตุนิมิตร พระมหากัสสปะเถระเจ้า (ส่วนกระดูกสันหลัง)


โมทนาสาธุครับ


.

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
สำหรับน้องท่านนี้ หากอ่านโพสนี้แล้ว

พี่จะอัญเชิญไปที่ทำงานในวันพรุ่งนี้นะครับ

ส่วนธนบัตร(ขวัญถุง) 10 บาท จัดเตรียมให้ 1 ฉบับครับ





วันนี้มีหลายๆงานบุญ

1.งานบุญกฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

2.งานบุญกฐิน ถ้ำระฆังทองฯ (หลวงปู่เครา)

3.งานบุญกฐิน ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งคณะกองทุนหาพระถวายวัดได้อัญเชิญพระบรมสาีรีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ในกัปป์นี้ และพระธาตุพระอรหันต์ 4 พระองค์

อย่าลืมกรวดน้ำตามที่ผมเคยแจ้งไว้ทาง Emil กันครับ


หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 08:12:36 pm
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chantasakuldecha อ่านข้อความ
สวัสดีสมาชิกชมรมฯทุกๆท่านครับ
เมื่อ วันเสาร์ที่ 30ตค.2553 พี่ท่านนึงเป็นตัวแทนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากกองทุนถวายพระฯ ไปประดิษฐาน ณ วัดกาฬสินธุ์ จ.สุราษฎร์ธานี
และ วันนี้ อาทิตย์ที่ 31ตค2553 กระผมเป็นตัวแทนกองทุนฯ ถวายพระบรมสารีริกธาตุ ณวัดเหนือบางแพ จ.ราชบุรี และครอบครัวได้ร่วมถวายตู้พระธรรม และพี่ท่านนึงได้ร่วมถวายหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้ไม้สัก ในวันนี้ที่วัดมีงานกฐินจึงงานมหาบุญโดยแท้
ขอเชิญเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชมรมและกองทุนฯได้โดยร่วมโมทนาบุญนี้กับผมและคณะที่เดินทางไปด้วยครับ



-----------------------


โมทนาบุญทุกประการครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2117.html

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 08:27:10 pm
มารู้จักกับพระแมคงคากันนะคะ


พระแม่คงคา
ประวัติของพระแม่คงคา
ครั้งหนึ่งยักษ์บาลีได้อำนาจมากพอที่จะขับไล่เทวดาลงจากสวรรค์และเหล่าเทวดา ก็ได้ขอความช่วยเหลือจากพระวิษณุ และพระวิษณุก็ได้จำแลงกายเป็นคนแคระชื่อ วามานา และได้ใช้เล่ห์กลกับยักษ์บาลี เพื่อขออาณาจักรมากของเขาท่าที่พระองค์จะเดินได้ 3 ก้าว ก้าวแรกพระองค์ได้พื้นโลกทั้งหมด ก้าวที่ 2 พระองค์กินพื้นที่ของสวรรค์ทั้งหมด และในขณะที่พระองค์เดินก้าวที่สอง พระพรหมล้างท้าวของพระวิษณุด้วยกมันดุลา หรือกาใส่น้ำของพระองค์ ด้วยเหตุนี้เอง เจ้าแม่คงคาได้ถือกำเนิดขึ้น
และด้วยก้าวที่สาม คนแคระวามานาส่งยักษ์บาลีกลับสู่ใต้บาดาล เจ้าแม่คงคาถือกำเนิดจากน้ำในดุลาขอของพระพรหม ทรงมีความงดงามอย่างมาก และทรงเต้นรำอยู่บนสวรรค์เพื่อนำมาซึ่งความงดงามยินดีแก่สรรสิ่ง
เทวานุภาพของพระคงคาที่มีต่อมนุษย์
แม่น้ำคงคา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สามารถให้มนุษย์ผู้กระทำความชั่วอันนับว่าเป็นบาปนั้น ลงอาบและดำเกล้าชำระล้างให้สะอาดบริสุทธิ์ และปลดเปลื้องบาปกรรมให้หมดสิ้นไปได้ ดังนั้น จึงมีพิธีล้างบาปกันสืบมาแม่น้ำที่ถือว่าสำคัญที่จะล้างบาปในสมัยก่อนนั้น คือ แม่น้ำคงคา แม่น้ำสินธุ แม่น้ำโคธาวรี แม่น้ำโจวรี ซึ่งผู้ที่อยู่ห่างไกลแม่น้ำเหล่านี้ที่ไม่สามารถจะมารวมกัน ในการกระทำพิธีล้างบาป ก็อนุญาตให้ลงอาบน้ำในห้วยหนองคลอง บึง บ่อ สระแห่งใดแห่งหนึ่ง แต่ข้อสำคัญต้องระลึกอยู่ว่า ตนได้อาบน้ำในแม่น้ำที่ได้ระบุชื่อมาแล้วนั้น
รูปลักษณ์ของพระคงคา
รูปลักษณ์ของพระคงคาเขียนต่างกันคือ เป็นเทพนารีรูปงาม กายสีน้ำไหล มีสี่กร กรขวาทั้งสองถือก้อนศิลา กรซ้ายถือใบไม้หนึ่งกร ถือหม้อน้ำหนึ่งกรบ้าง บางแห่งเขียนว่า มีสามเศียร หกกรถือคัมภีร์และดอกบัว มีกายสีขาวผ่อง มีรัศมีเทวนารีสีขาว พาหนะมักจะกล่าวตรงกันคือทรงปลา
เครื่องสังเวยบูชา
หลักทั่วไป ในการสังเวยบูชาเทพ ขั้นแรกจะทำด้วยจิตเครพ ขั้นต่อมาจะเป็นการสักการะด้วยมือ ส่วนถ้าผู้ใดมีกำลังมากก็สามารถหา เครื่องบูชามาเป็นศิริมงคลมากขึ้นไปอีก สิ่งขิงที่มีสิริมงคล ได้แก่ ดอกไม้ชื่อด้วย สีดี เช่นดาวเรือง มะลิ บัว ดอกรัก กุหลาบ เป็นต้น จำพวกอาหารก็จะเป็นอาหารจำพวกมังสวิรัติ หรือขนม นม เนยต่างๆที่ชื่อเป็นสิริมงคล
สิ่งของที่อาจถวายเป็นพิเศษกับพระคงคาคือ ดอกบัวโกมุท หมากพลู และนอกจากนี้พิธีลอยกระทงก็เป็นการเคารพบูชา เพื่อขอขมาพระคงคาเช่นกันซึ่งถือว่า ธูป เทียน ดอกไม้ และสิ่งที่อยู่ในกระทงก็เป็นเครื่องสังเวย



http://www.eduzones.com/knowledge-2-5-29207.html
.



.



.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 08:30:16 pm
การบูชา พระแม่คงคา


การบูชา พระแม่คงคา พรนางผู้ยังความชุ่มชื่นแก่ผืนโลก

        พระแม่คงคา เป็นราชธิดาของพระทิมวัติและนางเมนกา ดังนั้น ตามฐานันดรศักดิ์แล้วจึงเป็นพี่สาวของพระแม่อุมา
        ตามเทวลักษณะพระคงคามีพระพักตร์เดียว สีกายดั่งสีน้ำไหล มี 4กร กรขวาทั้งสองทรงถือก้อน
ศิลา พระกรซ้ายทรงถือใบไม้ และหม้อน้ำ บาง แห่งนิยมเขียนเป็นเทวี มี 3 เศียร 6 กร พระวรกายและ
พระรัศมีโดยรอบเป็นสีขาว ถือพระคัมภีร์ ดอกบัว ฯลฯ ทรงพาหนะเป็นปลาใหญ่ บางแห่งทรงจระเข้ก็มี

      สืบมาแต่ครั้งโบราณ ชาวฮินดูทั้งหลายถือกันว่า แม่น้ำคงคา เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ และได้เรียกกว่า
พระแม่คงคา ตามความเชื่อนั่น ว่ากันว่า ใครได้มีโอกาสได้อาบน้ำจากแม่น้ำสายนี้ ก็ย่อมสามารถชำระบาป ได้ตลอดแม่น้ำสายนี้ ทั้งสาย ตนที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่า ประยาค
      ซึ่งมาจากต้นรากของภาษาบาลี ว่า  ปยาค  เพราะตรงนี้เป็นส่วนที่แม่น้ำยมุนา ไหลมาบรรจบกับ
แม่น้ำคงคา
      ขณะเดียวกันตรงนี้เองเชื่อกันอีกว่า แม่น้ำสรัสวดีไหลจากใต้ดินมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำสามสายพอดี จึงเรียกบริเวณนี้ว่า ตริเวณี ส่วนคนไทยคุ้นเคยกับชื่อเรียกว่า  จุฬาตรีคูณ ด้วยความเป็นน้ำสายศักดิ์สิทธิ์ชาวฮินดูจึงนิยมตักน้ำจากแม่น้ำสายนี้ไว้ในโอ่งในบ้าน
     ซึ่งเวลาทรงน้ำเทวรูปนิยมใช้น้ำจากแม่น้ำสายนี้ร่วมพิธีด้วย
     ตามตำนานเล่าว่า พระคงคาสวรรค์นั้นไหลเวียนจากนิ้วหัวแม่เท้าของพระวิษณุ  เหตุที่พระคงคาต้อง
จำยอมไหลสู่โลกมนุษย์เพราะเหตุว่า ท้าวสัครราชกษัตริย์  ได้ประกอบพิธีอัญเชิญพระแม่คงคาสู่โลกมนุษย์ สืบต่อมาหลายรุ่น และถึงท้าวภคีรถจึงสำเร็จแต่ด้วยความแรงของพระคงคานั้น
     อาจทำให้โลกล่มสลายได้ในพริบตา พระศิวะจึงรองรับ พระแม่คงคา ด้วยพระเกศา ให้พระคงคาไหลเวียนอยู่ในระหว่างเกศาก่อนที่จะไหลมายังโลกมนุษย์

  เครื่องบวงสรวงบูชา

การจะบูชาพระแม่คงคาสามารถเตรียมเครื่องบูชา ดังนี้

   ผ้าแพรพรรณผืนน้อย  3 สี
   ข้าวตอก น้ำนม
   ดอกไม้สีเหลือง  แก่หรือสีส้ม
   พวงมาลัยดาวเรือง
   ขนมหวาน 7 ชนิด
   ผลไม้ 5 ชนิด (ผลไม้รสหวานเท่านั้น)
   รูปปั้น พระแม่คงคา
 

  การขอพร

                การบวงสรวงบูชาพระแม่คงคา  มักจะบูชาขอพรดังต่อไปนี้

                ขอพรให้มีความฉลาดหลักแหลม มีปัญญาลึกซึ้ง

                ขอมีสงบสันติในครอบครัว ไม่มีเรื่องวุ่นวายเดือดร้อนขัดแย้งกับใคร ๆ

                ขอให้ได้รับความยุติธรรม ความเที่ยงธรรม ขอให้พ้นภัยจากความอยุติธรรม

                ขอพรให้พ้นพ้นจากภัยอันเป็นโทษจากการถูกใส่ความหรือได้รับโทษทัณฑ์ต่าง ๆ

                ขอให้พ้นจากศัตรูที่กำลังคิดปองร้าย

                ขอให้สามารถเก็บเงินออมเงินทองได้จนมั่งคั่งร่ำรวย



.

http://www.sartsaksit.net/ganes/keem/prim126.htm

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 08:36:50 pm
พระแม่คงคา เทพผู้รักษาสายน้ำ

เล่าโดย ไตรรงค์ ปิมปา คนชอบน้ำ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1206171&stc=1&d=1288532740)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1206172&stc=1&d=1288532740)

พระแม่คงคา มีประวัติดั้งนี้พระองค์เป็นพระธิดาของท้าวหิมวัตและพระนางเมนกามีน้องสาวนามว่าพระอุมาภควตีซึ่งทรงเป็นพระชายาของพระศิวะ ตามคติความเชื่อของอินเดีย ว่ากันว่าพระองค์ทรงปลาใหญ่หรือจรเข้เป็นพาหนะ พระองค์เป็นเทวีผู้ให้กำเนิดสายน้ำ คงคาตามความเชื่อของชาวอินเดีย และนอกจากนั้นชาวฮินดูยังเชื่อว่าสายน้ำ คงคานั้นสามรถชำระล้างบาปของตนได้ พระนางคงคานั้นไม่ได้มีปางอันใดเนื่องจากว่าไม่มีการแบ่งภาคลงมาเกิดแต่มีการร่วมกับองค์พระศิวะในปาง คงเคศวรนั้นเอง นอกจากนั้นก็จะคงพบในรูปเคารพของพระศิวะโดยพระองค์จะปรากฏในเทวลักษณะที่เป็นน้ำไหลจากมวยผมของพระศิวะ

พระแม่คงคาเป็นผู้ดูแลรักษาสายน้ำคงคา ซึ่งถือเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากสวรรค์ ซึ่งในอินเดียนั้นมีแม่น้ำหลายสายเช่น

    * แม่น้ำสรัสวตี (เชื่อว่าไหลมาจากพรหมโลก)
    * แม่น้ำซันโตชี(พระแม่ซันโตชีธิดาของพระพิฆเนศเป็นผู้ดูแล)
    * แม่น้ำคงคา(พระแม่คงคาเป็นผู้ดูแล)
    * แม่น้ำยมุนาหรือยมนา(เชื่อว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของพระวิษณุเทพ)

น้ำจากคงคานั้นถือว่าเป็นน้ำที่สามารถชำระบาปของมนุษย์ทั้งหลายได้ ซึ่งแม่น้ำที่ใช้ชำระบาปของมนุษย์ได้จะมีอยู่สองสายคือ

    * แม่น้ำคงคาตลอดสาย
    * แม่น้ำยมนา

บริเวณต้นน้ำที่เขายาดาคีรีของ ท่านฤาษียาดาชี ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์ลักษมีนาราซิมฮา แม่น้ำคงคานี้เมื่อจะประกอบพิธีต่างๆ จะต้องนำน้ำจากพระคงคานี้ไปร่วมในพิธีด้วย

โดยปกติแล้วบรรดาฤาษีในอินเดียจะมีหม้อน้ำติดตัวอยู่เสมอ ซึ่งจะบรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคา บริเวณที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือ "ตริเวนี" หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า "จุฬาตรีคูณ" ซึ่งมีแม่น้ำคงคาและยมนาใหลมาบรรจบกัน และเชื่อว่ามีแม่น้ำสรัสวตีไหลมาจากใต้ดินมาบรรจบกันที่นี่ด้วย ชาวฮินดูนิยมที่จะตักน้ำจากแม่น้ำคงคาไปใช้ในการสรงน้ำเทวรูปและอาบกิน

ตามตำนานว่าแม่คงคานั้นไหลเวียนอยู่ที่นิ้วเท้าของพระวิษณุ เหตุที่พระคงคาต้องใหลลงมาที่โลกมนุษย์นั้น ก็เพราะว่าท้าวสักราชได้ทำพิธีอัญเชิญพระแม่คงคา ให้ลงมาส่โลกมนุษย์สืบต่อมาหลายชั่วคนจึงสำเร็จในสมัยของท้าวภคีรถ แต่ด้วยความแรงของพระแม่คงคา ซึ่งอาจจะทำให้โลกล่มสลายไปได้ พระศิวะเจ้าจึงได้รองรับแม่คงคาด้วยมวยพระเกศก่อน แล้วจึงปล่อยลงมาสู่โลกมนุษย์

อีกตำนานว่า เดิมทีโลกมนุษย์นั้นบังเกิดความแห้งแล้งอย่างหนัก ซึ่งเกิดจากการที่พระแม่คงคา ไม่ยอมปล่อยน้ำลงมาสู่โลกมนุษย์แล้วเสด็จหนีไป จึงทำให้มนุษย์และสัตว์ล้มตายมากมาย บรรดาเทวะเห็นดังนั้นจึงไปกราบทูลเชิญพระศิวะเจ้าให้ทรงจัดการเรื่องนี้ พระองค์จึงทรงออกตามหาพระแม่คงคากลับมา แล้วให้พระแม่คืนสายน้ำให้มนุษย์ แต่พระแม่ไม่ยอมพระองค์จึงทรงใช้พระเกศรัดพระแม่คงคาจนพระนางยอมปล่อยสายน้ำออกมา

บางตำนานก็ว่าพระศิวะเจ้าทรงได้พระแม่เป็นภรรยาลับๆ ด้วยความกลัวพระแม่อุมารู้แล้วจะทรงพิโรธ จึงซ่อนพระแม่ไว้ในมวยพระเกศ ให้พระแม่ปล่อยน้ำออกมาจากพระเกศของพระองค์เพื่อล้างบาปที่พระองค์ได้ทรงทำด้วย

เทวะลักษณะของพระแม่นั้น โดยทั่วไปจะวาดมีสี่กร และทรงจระเข้เป็นพาหนะ มีตรีศูลย์เป็นอาวุธ มีหม้อกลาฮัม และหม้อน้ำ บางครั้งก็จะวาดมีสองกร และทรงอาวุธตรีศูลย์ แต่ส่วนมากที่จะได้เห็นกันก็คือ จะแสดงองค์เป็นสตรีที่ยื่นหน้าออกมาจากมวยพระเกศของพระศิวะเจ้า และมีสายน้ำพ่นออกมาจากปาก

การบูชาแม่คงคา โดยทั่วไปในอินเดียการบุชาแม่คงคาจะกระทำการเหมือนเทพองค์อื่นๆคือ จะบูชาด้วยการอารตี และสวดมนต์พระเวทย์ ซึ่งเครื่องบูชาในถาดอารตีจะประกอบด้วย

    * ดอกไม้สีส้มหรือสีเหลืองและดอกบัว
    * ผลไม้ที่มีรสหวานเท่านั้น 5 ชนิด
    * น้ำนม
    * ตะเกียงน้ำมัน
    * กำยาน
    * ขนมหวาน

และจะทำการบูชาแม่คงคาที่ริมแม่น้ำคงคา(ในอินเดีย) แต่ถ้าเป็นในต่างเมืองเช่นเมืองไทย อาจจะทำการบูชาต่อหน้ารูปแม่คงคา หรือที่แม่น้ำใหญ่ และลอยเครื่องบูชาบางส่วนไปกับสายน้ำ เว้นไว้แต่ตะเกียงกับกำยาน เครื่องบูชาที่เหลือก็จะนำมาเก็บไว้รับทานเพื่อเป็นมงคลหรือแจกจ่ายเพื่อทำทานต่อไป

แต่ถ้าเป็นการบูชาของไทยนั้นเครื่องบูชาจะประกอบด้วย

    * ผ้าแพร 3 สี
    * ข้าวตอก
    * น้ำนม
    * ดอกไม้สีเหลืองหรือส้ม
    * พวงมาลัยดอกดาวเรือง
    * ขนมหวาน 7 ชนิด
    * ผลไม้รสหวาน 5 ชนิด
    * รูปปั้นพระแม่คงคา

เจ้าคงคา ตามตำนานประเทศจีน

เจ้าคงคาคนจีนเรียกว่าเจ้าคงคาว่า ฮ้อแปะ ฮ้อ แปลว่า แม่น้ำ แปะ คือ อาเปะหรือคุณลุง แสดงว่า เจ้าแม่น้ำหรือเจ้าคงคาเป็นบุรุษไม่ใฃ่พระแม่คงคาอย่างชาวไทย ตำนานของเจ้าคงคาหรือ ฮ้อแปะถูกผูกไว้กับแม่น้ำฮวงโห โยงเรื่องถึงเทพเจ้าผู้เปิดภูเขา ซึ่งสมัยเป็นมนุษย์ท่านคือ กษัตริย์อู๊ จีนกลาง เรียกท่านว่า ต้าหวี่ แต้จิ๋วเรียกว่า หยู,อู๊,อู้หรือ ไตัอู้ หรือ แฮอู้ มีเรื่องราวเล่าว่า ขณะไต้อู้ได้กำลังวิเคราะห์สถานการนำท่วมใหญ่ ที่แม่น้ำฮวงโห้ว พลันนั้นมีชายร่างปลากล่าวแก่ไต้อู้ว่า ท่านคือ ฮ้อแปะ อยากจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม ได้ใช้แผนที่แม่น้ำที่เรียกว่า ฮ้อโต้ว มาช่วยในการหาสาเหตุที่น้ำท่วม แล้วก็ดำน้ำลงไป ฮ้อแปะเป็นเจ้าคงคาที่บางแห่งมีชื่อเรียกว่า ปิ่งอี๊ เปียอี๊ ได้เกิดอุบัติเหตุจมน้ำตายขณะที่ข้ามแม่น้ำฮวงโห้ว แต่ด้วยความที่เป็นสามัญชน เปี๊ยอี๊เป็นคนใจดีก็ได้เป็นเทวดา เง็กเซียนฮ่องเต้ได้บัญชาให้เป็นเจ้าคงคาที่ดูแลแม่น้ำ เพื่อเป็นที่ลำลือถึงความศักดิ์ของเจ้าคงคาได้มีเรื่องเล่าในราชวงศ์ถังว่า ขุนพลโป่วจื้องี้ได้ถูกส่งให้ไปดูแลพื้นที่ในลุ่มฮวงโห้ว วันหนึ่งแม่เกิดน้ำท่วม ขุนพลโป่วจื้องี้ได้ขอพรให้เจ้าคงคาคอยช่วยให้น้ำหายท่วมจะยกลูกสาวของตนให้เจ้าคงคาแต่งงานด้วย ในไม่ช้าน้ำในแม่น้ำก็หายท่วม และลูกสาวของท่าน ขุนพลโป่วจื้องี้ ก็ได้หลับโดยไม่ตื่น ท่านได้จัดงานศพกับลูกและตั้งหุ่นบูชา

ในตำนานของจีนได้มีการผนวกพญานาคและพญามังกรของจีน ยกย่องให้เป็นเจ้าแห่งคงคา และเปลี่ยนเล่งอ๋วงมีอำนาจควบคุมแหล่งน้ำทั้งหมด

พระแม่คงคา ในความเชื่อของอินเดีย (ผู้นับถือศาสนาฮินดู) จะเน้นไปด้านการไถ่บาป เครื่องชำระบาป ของแม่น้ำคงคา และยมนา โดยการใช้น้ำอาบ ล้าง และร่วมในพิธีต่างๆ เพื่อบูชาพระแม่ หรือเป็นสื่อกับเทพเจ้าองค์อื่นๆ ในในประเทศจีนจะเป็นเทพเจ้าผู้ให้ความช่วยเหลือจากปัญหาเรื่องน้ำมาก ความเชื่อในประเทศไทยในการบูชาพระแม่คงคา กลับเน้นไปในทางที่การขอขมาพระแม่คงคาในประเพณี ลอยกระทง เนื่องจากการสำนึกในพระคุณแห่งน้ำ และพระแม่คงคา ก็เป็นดังผู้แทนของน้ำ การบูชาพระแม่คงคา นับเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำ ด้วยอีกทางหนึ่ง จนทำให้ประเพณีลอกกระทง โด่งดังไปทั่วโลก


.

ขอบคุณภาพ

    * http://mahathep.exteen.com/
    * http://www.thaigoodview.com/

    ขอบคุณข้อมูล

    * http://mahathep.exteen.com/
    * http://th.wikipedia.org/wiki/
    * http://www.thaigoodview.com/


.

http://202.129.59.73/nana/legend/pramae_kongka.htm

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: Siranya ที่ ตุลาคม 31, 2010, 09:20:05 pm
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาด้วยค่ะดีจังเลยจะได้รู้และทำถูกต้อง
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 31, 2010, 09:22:40 pm
คาถาพระแม่ธรณี คาถาบูชาพระแม่ธรณี มีหลายตำรา



ตั้งนะโม ๓ จบ ว่า พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วว่า

อิติปิโสภะคะวาสะวาอะระหัง สุคะโตสวาหะ

3 จบ หลังจากนั้นสวดด้วย


ตัสสาเกษีสะโต ยะถาคงคา
โสตังปะวัตตันติ มาระเสนา
ปฏิฐาตุง อาสักโภนโต
ปะลายิงสุปาริมานานุภาเวนะมาระ
เสนาปะราชิตาทิโส ทิสัง
ปะลายันติ วิทังเสนติอะเสสะโต
อย่างน้อย 3 จบ แต่ถ้าจะให้ดี 21 จบ เพราะกำลังของแม่พระธรณี คือ 21




พระคาถาบูชาพระแม่ธรณี
   หลวงปู่เรือง ลพบุรี
ตั้ง นะโม 3 จบ ทำจิตให้สงบแล้วระลึกถึงพระคุณของพระแม่ที่มี
พระเมตตาค้ำจุนโลกนี้ให้อยู่ได้ ขอบารมีแห่งเมตตาธรรมของท่าน
จงดลบันดาลให้สิ่งที่เราปรารถนาจงเสร็จพลันด้วยเถิด แล้วภาวนา
พระคาถาบูชาดังนี้ 3 - 5 - 7 - 9 จบ ตามกำลังศรัทราเทอญ ฯ
ตัสสาเกษีสะโต ยะถาคังคา โสตังปะวัตตันติ มาระเสนาปะติฎฐาตุง
อะสักโกนโต ปะลายิงสุ ปาระมิตานุภาเวนะ มาระเสนาปะราชิตา
ทิโสทิสังปะลายันติ วิทังเสนติ อะเสสะโต
ศัตรูหมู่ปัจจามิตรจะแพ้พ่าย อธิษฐานถามถึงแม่ถึงที่อยู่หรือที่ทำมาหากิน
ก่อนจะไปอยู่หรือก่อนจะไปทำมาหากิน ไดฉมังนัก ถ้าเชื่อตามที่แม่บอก
จะมีความสุขความเจริญแล ฯ

คำบูชาพระแม่ธรณี
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะละหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะละหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะละหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
ตัสสา เภสีสะโต ยะกาคงคา โสตัง ปะวัตตันติ มะระเสนา ปติฏฐาดุง อะสัก โกนโต ปะลายิงสุ ปริมานุภาเวนะ มะระเสนา ปะระชิตา ทิโสทิสัง ปะลายังติ วิทังเสติ อะเสสะโต ฯลฯ สาธุ

[url=http://www.amatasiam.com/library/?view=yes&CatID=10&SubCatID=377&id=602]

คาถาบูชาพระแม่ธรณี

สังขาตัง โลกังกะวิทู ตันติพุดติง นะโมพุทธายะ นะมะ พะทะ

นะโมพุทธายะ

พระแม่ธรณีเจ้าขา อยู่แล้วหรือยัง

อยู่แล้วเจ้าข้า สังขาตังโลกังกะวิทู

โอมอักคี คงคา วาโย อาโป ธรณี

นะมะพะทะ
เครื่องบวงสรวงบูชา
การจะบูชาพระแม่ธรณีสามารถเตรียมเครื่องบูชา ดังนี้
ผ้าแพรพรรณผืนน้อย 3 สี ข้าวตอก น้ำนม ดอกไม้สีเหลือง แก่หรือสีส้ม
พวงมาลัยดาวเรือง ขนมหวาน 7 ชนิด ผลไม้ 5 ชนิด (ผลไม้รสหวานเท่านั้น)
รูปปั้น พระแม่ธรณี หรือรูปภาพ

การขอพร
การบวงสรวงบูชาพระแม่ธรณี มักจะบูชาขอพรดังต่อไปนี้

ขอพรให้มีความฉลาดหลักแหลม มีปัญญาลึกซึ้ง
ขอมีสงบสันติในครอบครัว ไม่มีเรื่องวุ่นวายเดือดร้อนขัดแย้งกับใคร ๆ
ขอให้ได้รับความยุติธรรม ความเที่ยงธรรม ขอให้พ้นภัยจากความอยุติธรรม
ขอพรให้พ้นพ้นจากภัยอันเป็นโทษจากการถูกใส่ความหรือได้รับโทษทัณฑ์ต่าง ๆ
ขอให้พ้นจากศัตรูที่กำลังคิดปองร้าย
ขอให้สามารถเก็บเงินออมเงินทองได้จนมั่งคั่งร่ำรวย
หลายท่านมีความเคารพนับถือ ถึงกับขนาดมีรูปบูชา หรือสักยันต์ลงบนร่างกายครับ แม้ว่าเราอาจไม่อธิษฐานขอความร่ำรวย แต่ก็พึงสำนึกว่า ผืนแผ่นดินที่เราเหยียบเดิน เราปลูกพืช เราทำสิ่งต่างๆประจำวัน ล้วนได้กระทำต่อแม่ธรณีทั้งสิ้น เราจึงควรสำนึกและระลึกถึงคุณพระแม่ธรณี และเหล่าบรรพชนที่ได้หลั่งเลือก สละชีพรักษาผืนแผ่นดินไทยนะครับ
ท่านสามารถอ่านบทความนี้ได้ที่ [url=http://www.seal2thai.org/sara/sara193.htm]


[url]http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2118.html
(http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538724204&Ntype=41)

หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ ตุลาคม 31, 2010, 10:41:33 pm
 :45: อนุโมทนาครับพี่หนุ่ม
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 07:01:57 pm
รายนามผู้ร่วมทำบุญ สังฆทานยา
No.   รายนาม   จำนวนเงิน
1.   sithiphong   991.00
2.   ผบทบ.ของsithiphong   800.00
3.   คุณปฐม   1,000.00
4.   คุณณฑนน   1,000.00
5.   คุณธวัช   500.00
6.   คุณpsombat   1,000.00
7.   คุณnewcomer   200.00
8.   คุณเฉลิมพล   500.00
9.   น้องหมอ   909.00

   ผบทบ.ของน้องหมอ   
10.   คุณพุทธันดร   100.00

   ขอขอบคุณร้านยา วิวัฒน์เภสัช (หน้ารพ.ศิริราช) ที่ได้ลดราคา

   ของยาเป็นพิเศษ และได้ถวายยาบางอย่างเพิ่มเติม

   รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น   7,000 บาท


รายละเอียด ผมส่งให้ทาง Email ครับ

โมทนาบุญทุกประการ

ผมพึ่งจัดยาลงกล่องพลาสติกเรียบร้อย

ใช้เวลาจัดยาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ

จะได้เตรียมไว้ในการถวายยา แด่พระอาจารย์ันิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่งครับ

ขอเป็นเภสัชชั่วคราวครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 06, 2010, 10:13:17 pm
วันนี้ ผมได้นิมนต์พระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่ง ไปถวายเพลที่บ้านท่านอาจารย์ประถม

และท่านที่ได้ร่วมทำบุญสังฆทานยา ผมได้ดำเนินการถวายยาแด่พระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่งเรียบร้อยแล้ว

คณะกองทุนหาพระถวายวัด ได้ถวายพระพิมพ์เป็นที่รักของสามโลก แด่พระอาจารย์นิล 200 องค์ ถวายแด่พระอาจารย์รูปหนึ่ง 200 องค์

มาโมทนาบุญร่วมกัน

ผมต้องขอโทษท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า , ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , คณะลูกศิษย์พระอาจารย์นิล และ คณะลูกศิษย์พระอาจารย์รูปหนึ่งเป็นอย่างสูงที่เปลี่ยนวันการทำบุญจากวัน พรุ่งนี้(วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2553) มาเป็นวันนี้(วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2553) ด้วย เนื่องจากท่านอาจารย์ประถม สุขภาพยังไม่ค่อยดีขึ้นเป็นปกติ ผมเกรงว่า หากมีท่านที่ไปร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก เกรงว่า จะกระทบกระเทือนสุขภาพของท่านอาจารย์ประถมครับ

หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ผมได้ทำไปไม่ถูกต้อง ผมขอน้อมรับไว้เพียงผู้เดียวครับ

ขอบคุณครับ

วันนี้ ผมได้นำเงินจำนวน 20,009 บาท ไปมอบให้ท่านอาจารย์ประถม เป็นค่าหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จฯ

ท่านอาจารย์ประถม ได้นำเงินจำนวน 9,000 บาท ร่วมทำบุญดังนี้

1.ร่วมทำบุญกฐิน(ช่วยเหลือวัดที่ถูกน้ำท่วม10 วัด (อยุธยา) ปิดรับบริจาค 6 พ.ย. 53 ) จำนวน 4,500 บาท

2.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง จำนวน 4,500 บาท

ท่านอาจารย์ประถม ท่านให้ผมมาแจ้งให้พี่สิทธิพร , ทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญหนังสือวิเคราะห์ฯ ให้มาโมทนาบุญกัน

ขอโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ประถม , พี่สิทธิพร และ ทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญหนังสือวิเคราะห์ฯครับ

.

พึ่งกลับมาถึงบ้านครับ

ออกมาจากบ้านท่านอาจารย์ประถม ประมาณ บ่ายสองโมงกว่า

ไปแวะคุยกับคุณPinkcivil ที่บ้านมา

ขอขอบคุณสำหรับอาหารเย็นที่ได้กรุณาพาผมไปทาน อาหารอร่อยมากครับ

ขอขอบคุณสำหรับของฝากจากคุณณฑนน (โคราช) และ คุณธวัช (น่าน) ครับ

ขอขอบคุณสำหรับของฝากจากพี่แอ๊วครับ
.

วันนี้ ผมได้มอบพระพิมพ์ให้ท่านอาจารย์ประถม แจกกันแบบจุใจ

แจกกันไป 3 ครั้ง

ครั้งแรก แจกพระปิดตาพิมพ์หลวงพ่อแก้ว และ พิมพ์หลวงปูุ่ศุข

ครั้งที่สอง แจกพิมพ์พระแม่ธรณี

ครั้งที่สาม แจกพิมพ์เป็นที่รักของสามโลก

แถมผมแจก ก้อนดิน , น้ำ และ เมล็ดข้าว

ได้รับกันไปอย่างจุใจ

ลองห้อยเดี่ยวๆดูครับ แล้วจะรู้ว่า ดีหรือไม่ อย่างไร

ของจริงต้องพิสูจน์ได้
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ พฤศจิกายน 06, 2010, 10:31:06 pm
 :45: อนุโมทนาครับพี่หนุ่ม
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 06, 2010, 10:35:03 pm
ผมได้รับหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จฯ มาเรียบร้อยแล้ว

ในสัปดาห์หน้า ผมจะไปซื้อซองสีน้ำตาล และเริ่มทยอยส่งให้ครับ


ขอบคุณครับ


.

คุณณฑนน ได้นำผ้าห่มไหมพรม มาถวายพระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่ง

โมทนาบุญด้วยครับ


.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 06, 2010, 10:56:56 pm
อ้างจาก: sithiphong;4008074
วันนี้ ผมได้นิมนต์พระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่ง ไปถวายเพลที่บ้านท่านอาจารย์ประถม

และท่านที่ได้ร่วมทำบุญสังฆทานยา ผมได้ดำเนินการถวายยาแด่พระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่งเรียบร้อยแล้ว

คณะกองทุนหาพระถวายวัด ได้ถวายพระพิมพ์เป็นที่รักของสามโลก แด่พระอาจารย์นิล 200 องค์ ถวายแด่พระอาจารย์รูปหนึ่ง 200 องค์

มาโมทนาบุญร่วมกัน

อ้างจาก: sithiphong;4008090
วันนี้ ผมได้นำเงินจำนวน 20,009 บาท ไปมอบให้ท่านอาจารย์ประถม เป็นค่าหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จฯ

ท่านอาจารย์ประถม ได้นำเงินจำนวน 9,000 บาท ร่วมทำบุญดังนี้

1.ร่วมทำบุญกฐิน(ช่วยเหลือวัดที่ถูกน้ำท่วม10 วัด (อยุธยา) ปิดรับบริจาค 6 พ.ย. 53 ) จำนวน 4,500 บาท

2.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง จำนวน 4,500 บาท

ท่านอาจารย์ประถม ท่านให้ผมมาแจ้งให้พี่สิทธิพร , ทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญหนังสือวิเคราะห์ฯ ให้มาโมทนาบุญกัน

ขอโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ประถม , พี่สิทธิพร และ ทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญหนังสือวิเคราะห์ฯครับ

.

เมื่อคืนนี้  ผมตั้งมือถือให้ปลุกเวลา 05.00 น.  ตอนที่ตื่นผมตื่นนอนมา 6.03 น.(ผมดูมือถือ)  ผมตกใจ  ผมเองตั้งเวลาไว้ตี 5 แต่ดันมาตืน 6 โมงเช้า

ตื่นมาตกใจ  ผมเองได้กราบเรียนพระอาจารย์รูปหนึ่ง  ว่าจะไปรับท่านที่ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร9  ...   ประมาณ 7 โมงถึง 7 โมงครึ่ง

ตื่นมารีบตาลีตาเหลือก  ออกจากบ้านได้ก็เหยียบไปเต็มที่  ปรากฎว่าไปถึงที่ประมาณ 8 โมงเช้า  ก็รีบเข้าไปกราบขอโทษที่ผมมาช้า

ตอนที่ผมขับรถให้ท่านนั่งมา  มีบทสนทนาอยู่บทหนึ่ง  ท่านสอนว่า  เรา้ต้องอยู่กับปัจจุบัน  อย่าไปติดสัญญากับอดีต  ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ผมใช้เวลาไปถึงบ้านท่านอาจารย์ประถม ประมาณ 9 โมงเช้า

วันนี้ ผมเองก็ได้บอกพี่จิ๋ว และหลายๆท่านว่า  น่าจะมีท่านที่มาร่วมงานไม่กี่ท่าน  แต่พอจะได้เวลาที่พระอาจารย์นิล และพระอาจารย์รูปหนึ่ง จะฉันเพล  ผมเลยลองดูท่านที่มาร่วมงาน  กะด้วยสายตา น่าจะประมาณเกือบๆ 30 ท่าน  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคณะลูกศิษย์ของพระอาจารย์รูปหนึ่งที่ได้ตามมาร่วมทำบุญ ด้วย

ส่วนเรื่องอาหาร  ก็เหมือนเดิม  ไม่ขาดครับ  มีอย่างอุดมสมบูรณ์จริงๆ

ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้มีส่วนในการนำภัตตาหารมาถวายพระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่ง และเลี้ยงผู้ที่มาร่วมงานครับ


http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2125.html#post4008295
.
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 12, 2010, 05:41:45 am

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2098.html

.

http://board.palungjit.com/groups/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A8-%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%9E-%E0%B8%A8-2434-%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-1912-page2.html?pp=30
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 12, 2010, 05:48:39 am
ผมขอแจ้งไว้ ณ ที่นี้ว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในทุกๆงานบุญที่ผมได้ทำ หรือ จัดขึ้น หรือกิจกรรมอื่นๆที่ผมจัดขึ้น ถึงแม้จะจัดในนามชมรมรักษ์พระวังหน้า จะไม่มีNatachai (ซึ่ง Natachai เข้ามาร่วมในการล้างพระของกองทุนหาพระถวายวัด ประมาณ 2 ครั้ง ) เข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไป

และขอความร่วมมือกับ สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , คณะพระวังหน้า และ คณะกองทุนหาพระถวายวัด ในการส่งข้อมูลให้กับสมาชิกหรือท่านอื่นๆด้วยครับ

ขอบคุณครับ

22-10-2010, 02:11 PM      #42021
http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2102.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 08:00:54 pm
ใบอนุโมทนาบัตร งานกฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1226580&d=1289653557)

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2131.html#post4036171
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 08:03:05 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1226581&d=1289653557)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 08:04:03 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1226582&d=1289653557)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 08:19:53 pm
มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง

จากสวนทิพย์โลกอุดร


มีท่านที่ถวายตู้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ ,พระธาตุพระอรหันต์ และ พระธาตุนิมิตคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ก่อนที่คณะกองทุนหาพระถวายวัดได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ ,พระธาตุพระอรหันต์ และ พระธาตุนิมิตคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ถวายพระอาจารย์รูปหนึ่งครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%...ml#post4036171

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2131.html#post4036171
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 08:20:38 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1226645&d=1289655036)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 08:21:08 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1226646&d=1289655036)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 08:22:10 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1226647&d=1289655036)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 08:22:38 pm
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1226648&d=1289655036)
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 15, 2010, 04:47:37 am
จากที่ผมแจ้งเรื่องของการยุบชมรมรักษ์พระวังหน้า ผมให้ตอบกลับมาทางEmail ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 นี้

เนื่องจากปัจจุบันมีสมาชิกแจ้งกลับมาแล้วจำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งว่า มีความประสงค์ให้ยุบชมรม

ผมขอแจ้งกับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าว่า ชมรมรักษ์พระวังหน้า ได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการแล้วครับ

ส่วนเรื่องเงินของชมรมรักษ์พระวังหน้า ผมรอคำตอบจนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 นี้ และผมจะดำเนินการตามเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกชมรมครับ

ขอขอบคุณสำหรับสิ่งที่ดีต่างๆ ที่ได้ร่วมกันทำในนามชมรมรักษ์พระัวังหน้า

ขอบคุณครับ
sithiphong

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2132.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 15, 2010, 05:06:23 am
เรียนท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัดทุกๆท่าน

ผมได้ส่งเรื่องของเงินกองทุนหาพระถวายวัดไปให้ทุกๆท่านทางEmail แล้ว ผมรบกวนแจ้งตอบกลับมาทาง Email ด้วย ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553 นี้ครับ

ขอบพระคุณอย่างสูง
sithiphong

http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2132.html
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 15, 2010, 05:22:37 am
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
จากที่ผมแจ้งเรื่องของการยุบชมรมรักษ์พระวังหน้า ผมให้ตอบกลับมาทางEmail ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 นี้

เนื่องจากปัจจุบันมีสมาชิกแจ้งกลับมาแล้วจำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งว่า มีความประสงค์ให้ยุบชมรม

ผมขอแจ้งกับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าว่า ชมรมรักษ์พระวังหน้า ได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการแล้วครับ

ส่วนเรื่องเงินของชมรมรักษ์พระวังหน้า ผมรอคำตอบจนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 นี้ และผมจะดำเนินการตามเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกชมรมครับ

ขอขอบคุณสำหรับสิ่งที่ดีต่างๆ ที่ได้ร่วมกันทำในนามชมรมรักษ์พระัวังหน้า

ขอบคุณครับ
sithiphong
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong อ่านข้อความ
เรียนท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัดทุกๆท่าน

ผมได้ส่งเรื่องของเงินกองทุนหาพระถวายวัดไปให้ทุกๆท่านทางEmail แล้ว ผมรบกวนแจ้งตอบกลับมาทาง Email ด้วย ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553 นี้ครับ

ขอบพระคุณอย่างสูง
sithiphong




-----------------------------------------


ผมจะนำทั้งแนวทางของชมรมรักษ์พระัวังหน้า และ กองทุนหาพระถวายวัด รวมกันเป็นหนึ่งเดียว และ เดินทางไปด้วยชื่อใหม่ชื่อเดียว
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 15, 2010, 05:23:34 am
สำหรับกระทู้นี้  เมื่อผมดำเนินการในเรื่องต่างๆเรียบร้อย  ผมจะปิดกระทู้นี้อย่างถาวรครับ



.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 16, 2010, 08:56:56 pm
วันนี้ ผมและคุณnongnooo ได้ไปปิดบัญชีของชมรมรักษ์พระวังหน้าเรียบร้อยแล้ว

ยอดเงิน ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2553 มีอยู่จำนวน 18,502.19 บาท

ปิดบัญชีวันนี้ มีดอกเบี้ยจำนวน 50.76 บาท

รวมเป็นยอดเงินทั้งหมด 18,552.95 บาท

ผมรอแจ้งจากสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าก่อนว่า จะนำเงินไปทำบุญที่ไหนอย่างไร

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2553 ผมจะแจ้งให้ทราบในมติอีกครั้งครับ

ขอบคุณครับ


http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2133.html

.



.



.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 07:59:05 pm
วันนี้ ผมได้ไปทำบุญหลายๆแห่งครับ

เริ่มแต่เช้า ไปกราบหลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธรฯ ผมไปกับพี่ท่านนึง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238455&stc=1&thumb=1&d=1290344134)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238456&stc=1&thumb=1&d=1290344134)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238457&stc=1&thumb=1&d=1290344134)



ก่อนที่จะเดินทางไป สนส.บ่อเงินบ่อทอง ก็ได้พบกับน้องchantasakuldecha ที่ได้มากราบองค์หลวงพ่อโสธรด้วย

นำมาฝากสำหรับท่านที่จะไปกราบหลวงพ่อโสธรครับ

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238458&stc=1&thumb=1&d=1290344134)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238459&stc=1&thumb=1&d=1290344134)


มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%...2445-2135.html

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 08:01:21 pm
หลังจากนั้น เดินทางไป สนส.บ่อเงินบ่อทอง ผม,ผบทบ.ผม , คุณtawatd ,น้องปฐม ,น้องpsombat และพี่ประทีป ได้ร่วมทำบุญในงานกฐิน สนส.บ่อเงินบ่อทอง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238460&d=1290344134)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238461&d=1290344134)


ขอโมทนาบุญกับคุณtawatd ,น้องปฐม ,น้องpsombat และพี่ประทีป ด้วยครับ

เงินกฐินทุกบาททุกสตางค์ หลวงพ่อแผนท่านบอกว่า ท่านจะนำไปสร้างศาลาปฎิบัติธรรมครับ

นำมาบอกบุญกันต่อด้วยเช่นกัน หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญสร้างศาลาปฎิบัติธรรม ตามรายละเอียดด้านล่างครับ

ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238462&d=1290344134)


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238463&d=1290344134)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238466&d=1290344160)


.

มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%...2445-2135.html

.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 08:03:17 pm
หลังจากนั้น เดินทางไป สนส.บ่อเงินบ่อทอง ผม,ผบทบ.ผม , คุณtawatd ,น้องปฐม ,น้องpsombat และพี่ประทีป ได้ร่วมทำบุญในงานกฐิน สนส.บ่อเงินบ่อทอง

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238460&d=1290344134)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238461&d=1290344134)


ขอโมทนาบุญกับคุณtawatd ,น้องปฐม ,น้องpsombat และพี่ประทีป ด้วยครับ

เงินกฐินทุกบาททุกสตางค์ หลวงพ่อแผนท่านบอกว่า ท่านจะนำไปสร้างศาลาปฎิบัติธรรมครับ

นำมาบอกบุญกันต่อด้วยเช่นกัน หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญสร้างศาลาปฎิบัติธรรม ตามรายละเอียดด้านล่างครับ

ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238462&d=1290344134)


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238463&d=1290344134)

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1238466&d=1290344160)


.

มาโมทนาบุญร่วมกันครับ

http://board.palungjit.com/f179/%E0%...2445-2135.html

.

ขอโมทนาทุกบุญกับพี่ท่านนึง(ที่ไปกับผม)ด้วยครับ



.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:50:24 pm
 :45: ร่วมอนุโมทนาครับพี่หนุ่ม
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 07:39:52 pm
วันนี้ ผมได้นำเงินของชมรมรักษ์พระวังหน้า จำนวน 4,650 บาท ไปมอบให้พี่ใหญ่ เพื่อร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธฯ

และผมได้นำเงินของลูกค้าผมหลายท่าน รวมจำนวน 500 บาท  ไปมอบให้พี่ใหญ่ เพื่อร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธฯ


มาโมทนาบุญร่วมกัน




.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:52:21 am
 :45: ร่วมอนุโมทนาครับพี่หนุ่ม
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ธันวาคม 03, 2010, 01:22:56 pm
ผมมาแจ้งเรื่องของบัญชีชมรมรักษ์พระวังหน้าและบัญชีของกองทุนหาพระถวายวัด

บัญชีชมรมรักษ์พระวังหน้า
ผมได้ปิดบัญชีไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553
ยอดเงินทั้งหมด 18,552.95 บาท

ผมได้ดำเนินการโอนเงินตามมติส่วนใหญ่ของสมาชิกฯที่ได้ลงความเห็นกันมา และผมเองได้เพิ่มเงินจำนวน 47.05 บาท เพื่อให้เป็นตัวเลขกลมๆ จะได้หารลงตัว ซึ่งจะได้ยอดเงินทั้งสิ้น 18,600 บาท หาร 4 ส่วน จะได้ส่วนละ 4,650.00 บาท

1.โอนเข้าไปในการร่วมทำบุญ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ จำนวน 4,650.00 บาท เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553

2.นำเงินไปให้พี่ใหญ่ที่บ้าน (ไปพร้อมกับคุณPinkcivil ) จำนวนเงิน 4,650.00 บาท ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2553

3.ร่วมทำบุญผ้าป่า "สวนทิพย์โลกอุดร" จำนวนเงิน 4,650.00 บาท ซึ่งการทอดผ้าป่า จะมีขึ้นในวันนี้(วันที่ 3 ธันวาคม 2553)

4.จะต้องนำเงินส่วนที่เหลือ คือ 4,650.00 บาท ไปมอบให้ท่านอาจารย์ประถม (แล้วแต่ท่านจะนำไปทำอะไรก็ได้) ซึ่งผมจะแจ้งกับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่านให้ทราบทาง Email

ส่วนเงินกองทุนหาพระถวายวัด จำนวนเงินทั้งหมด 26,330.26 บาท (รายละเอียดผมส่งรายการบัญชีไปให้ทุกๆท่านทราบทาง Email เรียบร้อยแล้ว) ผมได้โอนเงินทั้งหมด เข้าไปยังบัญชีของชมรมใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

เรียนพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ (อดีตสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และอดีตสมาชิกคณะกองทุนหาพระถวายวัด) ให้ได้ทราบกัน และขอปิดชมรมรักษ์พระวังหน้า และ กองทุนหาพระถวายวัด ครับ
sithiphong
3/12/2553

http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-2148.html
.
หัวข้อ: Re: พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ธันวาคม 03, 2010, 01:26:25 pm
- ปิดกระทู้  พระวังหน้า,ชมรมรักษ์พระวังหน้า และกองทุนหาพระถวายวัด   -