ใต้ร่มธรรม
แสงธรรมนำใจ => หยาดฝนแห่งธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: sithiphong ที่ มิถุนายน 15, 2012, 10:44:29 pm
หัวข้อ:
อานิสงส์ของการให้ทานด้วยตนเองและชวนผู้อื่น
เริ่มหัวข้อโดย:
sithiphong
ที่
มิถุนายน 15, 2012, 10:44:29 pm
อานิสงส์ของการให้ทานด้วยตนเองและชวนผู้อื่น
-http://www.pratatlanna.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=pratatlannacom&thispage=1&No=131570-
พระพุทธพจน์
"บุคคลบางคนในโลกนี้ให้ทานด้วยตน (แต่) ไม่ชักชวนผู้อื่น, เขาย่อมได้โภคสมบัติ
(แต่) ไม่ได้บริวารสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ,
บางคนไม่ให้ทานด้วยตน ชักชวนแต่คนอื่น, เขาย่อมได้บริวารสมบัติ (แต่)
ไม่ได้โภคสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ;
บางคนไม่ให้ทานด้วยตนด้วย ไม่ชักชวนคนอื่นด้วย,
เขาย่อมไม่ได้โภคสมบัติไม่ได้บริวารสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ;
เป็นคนเที่ยวกินเดน
บางคนให้ทานด้วยตนด้วย ชักชวนคนอื่นด้วย, เขาย่อมได้ทั้งโภคสมบัติและบริวารสมบัติ
ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ."
บริวาร ความหมายคือ ผู้แวดล้อม, ผู้ห้อมล้อม ติดตาม, ผู้รับใช้
คนบางคนมีสมบัติมาก แต่เพื่อนแท้ไม่มี ลูกน้องไม่ดี ไม่เชื่อฟัง (คนที่แวดล้อม
ไม่ได้เข้ามาด้วยความผูกพันในบุญกุศล บางทีอาจจะรู้สึกว่าไม่มีใครที่จริงใจเลย)
คนบางคนไม่ได้ร่ำรวย แต่พร้อมไปด้วยเพื่อนดีๆ
และผู้ที่คอยรับใช้ช่วยเหลืออย่างจริงใจ
คนบางคนไม่รวยด้วย ไม่มีเพื่อนด้วย
คนบางคนพร้อมด้วยสมบัติและเพื่อนที่ดี ผู้คอยช่วยเหลือ บริวารทั้งหลายดี
ด้วยกำลังของบุญกุศล การที่เคยร่วมบุญกันมา
วัตถุสิ่งของใดๆที่นำไปทำทาน จะเกิดผลบุญมากน้อยอย่างไร ก็เกิดที่ใจ
ไม่ได้เกิดตามวัตถุที่มากน้อยนั้นๆเลย
วัตถุที่เราหวงแหน สมบัติที่หามาได้ยากลำบาก
เรายอมแบ่งส่วนสละออกให้ผู้อื่นไปใช้ประโยชน์บ้าง ใจอย่างนี้จึงประเสริฐ
หลักการให้ทานพึงให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานด้วยความนอบน้อม
มิได้ให้ทานอย่างทิ้งให้
การทำทานด้วยจิตอนุเคราะห์ ให้ แม้ของเพียงเล็กน้อยแล้วชื่นหัวใจ
ความชื่นหัวใจนี่หล่ะเป็นยาบำรุงใจชั้นดีเชียว
ผมเคยเห็นเด็กพิการคนหนึ่งที่หูหนวก บ้านอยู่ลึกในป่า ความเป็นอยู่อัตคัต
เห็นพระและเณรผ่านมา ได้ตักน้ำเปล่าประเคนให้
พระเณรท่านฉันแล้วชื่นใจคลายร้อน ผมยังปลื้มถึงบุญของเขาไม่หายเชียว
บางคนทำบุญด้วยเงิน สมบัติต่างๆ อยากได้ผลอะไรเหมือนการลงทุน ซื้อสวรรค์
ชื้อความปลอดภัยจากเจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ ไม่ได้ทำด้วยทานจิต
ผลบุญนั้นได้น้อยมาก
เพราะความโลภซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับความสละออกความโลภเอาไปกินหมด
ทำทานด้วยความเข้าใจผิดๆ
เคยมีเจ้าของซ่องโสเภณี บริจาคสร้างวัด(ชื่อวัดคณิกาผล) สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต
วัดระฆัง
สมัยนั้นเป็นแฟชั่น คนมีเงินจริงต้องแสดงออกด้วยการสร้างวัด
เจ้าของซ่องโสเภณีก็อยากมีหน้ามีตา
สมเด็จฯ ท่านเทศน์สอนในงานที่ฉลองวัดใหม่ว่า ได้บุญเพียงสลึงเฟื้อง
แม้บุญเล็กน้อยก็อย่าประมาท ค่อยๆสะสมบุญที่เกิดจากใจสละที่ถูกต้อง
ผ่านกาลเวลาไปกองบุญย่อมเพิ่มพูน ต่อยอดอย่างคาดไม่ถึง
เหมือนคนจีนเสื่อผืนหมอนใบ ขยันประหยัดสร้างตัวมาเป็นเศรษฐี
ด้วยความที่เคารพในการเก็บเงินแม้เงินเล็กน้อยก็ตาม
ผู้ตั้งกระทู้ นันทภพ ::วันที่ลงประกาศ 07-01-2006 21:20:25
-http://board.palungjit.com/f179/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%93%E0%B8%A3-21733-43.html-
หัวข้อ:
Re: อานิสงส์ของการให้ทานด้วยตนเองและชวนผู้อื่น
เริ่มหัวข้อโดย:
ฐิตา
ที่
มิถุนายน 16, 2012, 10:06:02 am
(http://lh4.ggpht.com/-yeMqhE4tM9c/T3R0f6BodyI/AAAAAAAAFBU/qnC0a0POoBU/1024.jpg)
:12: :45: :13:
หัวข้อ:
Re: อานิสงส์ของการให้ทานด้วยตนเองและชวนผู้อื่น
เริ่มหัวข้อโดย:
แก้วจ๋าหน้าร้อน
ที่
มิถุนายน 18, 2012, 07:22:05 pm
:13: อนุโมทนาครับพี่หนุ่ม