ขอบคุณค่ะพี่หนุ่ม เยอะแยะมากมายจนอ่านไม่หมดเลยค่า :14:
แต่อิ๋มอ่านอันนึงที่เกี่ยวกับ รายจ่ายของตัวเองค่ะ ตรงดี :44:
ขอบคุณค่ะพี่หนุ่ม เยอะแยะมากมายจนอ่านไม่หมดเลยค่า :14:
แต่อิ๋มอ่านอันนึงที่เกี่ยวกับ รายจ่ายของตัวเองค่ะ ตรงดี :44:
รายได้ - เงินออม = ค่าใช้จ่าย
อิอิ
.
ปปง.-กลต.เร่งสอบแคลิฟอร์เนีย ว้าว
-http://www.posttoday.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/227894/%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%95-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2-%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7-
(http://www.posttoday.com/media/content/2013/06/12/B9C95EB0111B491E9E4540DE0C059A88.jpg)
กล.ต.-ปปง.สอบเส้นทางการเงิน"แคลิฟอร์เนีย ว้าว" หลังพบเข้าข่ายฉ้อโกง สาวลึกถึงผู้สอบบัญชี
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กำลังประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) หลังพบว่า บริษัทดังกล่าวมีพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน โดยจะตรวจสอบงบดุลของบริษัทย้อนหลัง
นอกจากนี้ ยังพบว่างบดุลของบริษัท มีการเซ็นรับรองโดยผู้สอบบัญชีรายหนึ่ง จึงต้องดูว่าการตรวจสอบบัญชีนั้นถูกต้องหรือไม่ มีข้อผิดพลาดอะไร รวมทั้งต้องใช้กฎหมายใดดำเนินการ
ด้านกรมบังคับคดี เปิดรับยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายของ บริษัท แคลิฟอเนียร์ ว้าวฯ โดยเปิดให้ลูกค้า เจ้าหนี้ ยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ที่กรมบังคับคดี ฝ่ายคำคู่ความ ชั้น 2 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งตามข้อมูลพบว่ามีลูกค้าร่วม 7 หมื่นราย
ก.ล.ต.พร้อมสอบกรณีแคลิฟอร์เนียว้าวให้ถึงที่สุด
-http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20130610/510324/%E0%B8%81.%E0%B8%A5.%E0%B8%95.%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94.html-
(http://www.bangkokbiznews.com/home/media/2013/06/10/images/news_img_510324_1.jpg)
นายธวัชชัย พิทยโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ขณะนี้ ก.ล.ต.ยังไม่ได้รับเรื่องจากคณะกรรมการป้อง กันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรณีให้เข้าตรวจสอบข้อมูลของบริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (มหาชน) (CAWOW) หลัง ปปง.ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ CAWOW พบว่าบริษัทดังกล่าว มีพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่เริ่มต้นกิจการ และพบการยักยอกเงินออกนอกประเทศรวมกว่า 1.6 พันล้านบาท
"ยังไม่ได้รับเรื่องนี้ แต่คาดว่าจะมีการประสานงานกันในเรื่องนี้ระหว่าง ก.ล.ต.กับ ปปง. เพราะว่าเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันในด้านกฎหมาย เราประสานกันอยู่แล้ว ในส่วนของ ก.ล.ต.มีข้อมูลใดที่เราต้องดูเพิ่มเติมบ้าง คงเป็นในแง่ที่เกี่ยวกับ บจ. แต่ตอนนี้ยังบอกชัดเจนไม่ได้ แต่ดูจากข่าวก็เป็นเรื่องงบการเงิน แต่ยังพูดไม่ได้ เพราะเราต้องได้รับข้อมูลก่อน และเราจะตรวจสอบให้ถึงที่สุด แต่บอกไม่ได้ว่าต้องใช้เวลานานเพียงใด ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของข้อมูล"
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ก.ล.ต.ไม่สามารถตรวจสอบการกระทำความผิดของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ได้ทุกกรณี และไม่สามารถให้ความมั่นใจผู้ลงทุนได้ 100% เนื่องจากมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ดี แต่อาจจะมีบ้างในบางบริษัทที่มีปัญหา
"ในแง่ของการป้องกันผู้ลงทุนไม่ให้เกิดความเสียหายจากาการลงทุน ก็ต้องยอมรับว่าในระดับใดๆ ไม่สามารถป้องกันได้ 100% และกรณีของ CAWOW ก็ยังไม่ได้ฟันธงว่าผิดหรือไม่ อย่างไร แต่มันก็ไม่มีระบบอะไรที่ป้องกันได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งถ้าเป็นเรื่องของงบการเงิน ก็ถือว่าเป็นเรื่องของผู้สอบบัญชี แต่ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรที่ป้องกัน 100%"
อีกแล้ว!! เตือนภัย ลูกค้าธนาคาร แม้ไม่ได้เปิด e-Banking ก็โดนขโมยเงินได้!
ขอบคุณที่มา: -www.it24hrs.com-
-http://hitech.sanook.com/1388218/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94-e-banking-%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B9%80/-
จากเหตุการณ์ เตือนภัย Internet Banking รูปแบบใหม่!! ปลอมเป็นคุณ ด้วยหลักฐานปลอม สวมรอยโอนเงินออก สูญหลายแสน! ที่ เคยนำเสนอมาแล้ว….มาคราวนี้ ได้รับข้อมูลใหม่ จากผู้เสียหายอีกท่าน ที่ใช้บริการบัญชีออมทรัพย์ธนาคารเดี่ยวกันกับเคสที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ คราวนี้ หนักกว่าเดิม! เพราะผู้เสียหายรายนี้ ไม่เคยมีบัญชี Internet Banking ด้วยซ้ำ! แต่โดนคนร้ายสวมรอยใช้เอกสารปลอม เปิดบัญชีใหม่แบงค์เดียวกัน แต่ต่างสาขา และคนร้ายก็ไปจัดการเปิดใช้ internet banking เอง ขโมยเงินเจ้าของบัญชีตัวจริงไป รวมกว่า 5 แสนบาท!!!
iT24Hrs เตือนภัย แม้ไม่มี e-banking ก็โดนขโมยโอนเงินได้ 20aug13 (http://www.youtube.com/watch?v=WCC74uxJTyo#)
-http://www.youtube.com/watch?v=WCC74uxJTyo-
iT24Hrs เตือนภัย แม้ไม่มี e-banking ก็โดนขโมยโอนเงินได้ 20aug13 (http://www.youtube.com/watch?v=WCC74uxJTyo#)
iT24Hrs เตือนภัย แม้ไม่มี e-banking ก็โดนขโมยโอนเงินได้ 20aug13
คุณเอ ไชยเดช ศิริวัฒนกุล ผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้ ได้ แจ้งความที่ สน.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม หลังพบว่าบัญชีของตัวเองเงินหายไปกว่า 560,000 บาท ซึ่งทางผู้เสียหายได้ไปตรวจสอบกับธนาคารแห่งดังกล่าวสาขาใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นสาขาที่เจ้าของบัญชีตัวจริงเปิดไว้ ใน ชื่อบัญชี ธนัท ศิริวัฒนกุล (ซึ่งเป็นชื่อเก่าของเจ้าของบัญชี ก่อนที่เปลี่ยนชื่อเป็น คุณชยเดช [ เมื่อ 14 มิย. 53 ] และเปลี่ยนชื่อเป็นคุณ ไชยเดช [เมื่อ 17 มิย. 53])
(http://www.tairomdham.net/index.php?action=dlattach;topic=738.0;attach=2356;image)
พบ ว่ามีคนร้ายไปสวมรอยเปิดบัญชีใหม่และเปิดบริการธนาคารบนอินเตอร์เน็ต (internet bangking) เมื่อวันทื่ 30 เมษายน โดยเปิดที่ธนาคารเดียวกัน แต่คนร้ายไปเปิดที่สาขา กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยหลักฐานการเปิดบัญชีนั้น คน ร้ายใช้เอกสารปลอมโดยยื่นบัตรข้าราชการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ระดับ 7 อ.หาดใหญ่ ที่ระบุชื่อ นาย ชยเดช ศิริวัฒนกุล ให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งความจริงแล้วเจ้าของบัญชีตัวจริง คุณชยเดช ศิริวัฒนกุล ไม่ได้รับราชการเลย และเปลี่ยนชื่อจาก ชยเดช เป็น ไชยเดช เมื่อ 17 มิย 53 จากที่ทีมงานสัมภาษณ์ผู้เสียหาย เค้าให้สัมภาษณ์ว่า คาดว่าคนร้ายทราบชื่อข้อมูลเราเป็น ชยเดช เลยทำบัตรราชการปลอมเป็นชื่อ ชยเดช ไว้ไปเปิดบัญชีธนาคาร
จากนั้นคนร้ายก็ขอเปิดใช้บริการ internet banking ด้วย! ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อคนร้ายเป็นคนเปิดใช้บริการ internet banking เอง… username และ password จึงเป็นสิ่งที่คนร้ายทราบแน่นอน เพราะเป็นคนเลือกเอง! ส่วนเบอร์มือถือสำหรับรับรหัส OTP (One time password) ที่ธนาคารจะส่งมาเข้ามือถือ ผ่านทาง SMS เพื่อให้รหัสอีกชั้นหนึ่งเวลามีการทำธุรกรรมการเงินผ่าน internet banking ก็ใช้เบอร์มือถือของคนร้าย (เพราะคนร้ายเป็นคนแจ้งเบอร์เอง)…
(http://www.tairomdham.net/index.php?action=dlattach;topic=738.0;attach=2358;image)
คราวนี้คนร้ายเข้า Login ผ่านทาง Internet Banking แล้วสั่งโอนเงินออกจากบัญชีไปได้อย่างสบายๆ เพราะได้ครบทั้ง username, password, OTP โดยขโมยเงินจากเจ้าของบัญชีตัวจริง ครั้งละ 100,000 บาท จำนวน 5 ครั้ง หลังจากนั้นคนร้ายก็สั่งโอนเงิน ขโมยอีกประมาณ 67,000 และยังสั่งโอนเงินทีละน้อยๆ โดยที่เจ้าของบัญชีตัวจริงไม่รู้ตัว จนกระทั่ง มารู้ตัวว่าโดนขโมย เมื่อวันที่ 16พฤษภาคม 2556 และไปแจ้งความ ที่ สน.หาดใหญ่ และตอนนี้อยู่ในระหว่างตามจับคนร้าย
(http://www.tairomdham.net/index.php?action=dlattach;topic=738.0;attach=2360;image)
จะเห็นได้ว่าคนร้ายได้พยายามใช้ช่องทางใหม่ที่ไม่ใช่การขโมยเงิน แบบเก่าๆแล้ว จะใช้วิธีสวมรอยเป็นคุณ ขโมยเงิน เป็นวิธีที่โจรเลือกใช้ที่ฮิตและแนบเนียนมากขึ้น …. ลูกค้าที่ใช้บริการธนาคารต้องหมั่นตรวจสอบบัญชี และระมัดระวังในเรื่องหลักฐานส่วนตัวต่างๆ เช่นบัตรประชาชน เป็นต้น และทางธนาคารเองต้องตรวจเฉพาะบัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น ไม่ใช่บัตรข้าราชการซึ่งสามารถปลอมแปลงได้ง่าย
“ในเมื่อกรณีแบบนี้ ก็จะเห็นได้ว่าลูกค้าไม่อาจจะป้องกันตนเองได้เลย แถมเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แม้ไม่มีบัญชี e-banking …. คุณคิดว่า ธนาคาร ควรปรับปรุงระบบไหม? ”
ทำอย่างไรเมื่อเป็นหนี้นอกระบบจนล้นพ้นตัว
-http://money.sanook.com/227669/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/-
ปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นปัญหาที่มีมานานและไม่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายรวดเร็วตราบที่คนยังมีปัญหาพื้นฐาน คือ รายได้ ไม่พอกับรายจ่าย ส่วนรากลึกของปัญหาค่อนข้างจะซับซ้อนลงไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องโอกาสในการสร้างรายได้ ขาดปัจจัยพื้นฐานในการประกอบอาชีพ หรือแม้กระทั่งบางคนติดการพนันจึงต้องไปกู้นอกระบบก็มี ฯลฯ
แต่ประเด็นหนี้นอกระบบถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญอีกครั้ง แม้จะมีความพยายามแก้ปัญหามาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย เมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรง ทั้งที่ลูกหนี้กระทำกับตัวเอง หรือ เจ้าหนี้กระทำกับลูกหนี้ จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้สั่งการให้ส่วนราชการมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
กรณีที่ลูกหนี้มีการกระทำรุนแรงต่อตัวเองไม่ว่า จุดไฟเผาตัวเอง หรือ ผูกคอตาย ก็ตาม ทำให้เกิดความสงสัย ว่า กลไกต่างๆที่รัฐบาลพยายามจะแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบมีปัญหาหรือไม่อย่างไร หรือ ลูกหนี้ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ามีกลไก ของทางการที่พร้อมจะเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้
ที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ทางการได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อเข้ามาดูแลแก้ไขอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะไกล่เกลี่ยหนี้ กับเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยโหด หรือ คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และ มีการดึงลูกหนี้นอกระบบเข้ามาในระบบโดยให้ธนาคารรัฐไม่ว่า ธ.ก.ส.หรือออมสิน เข้ามาดำเนินการ พร้อมกับ ส่งเสริมอาชีพเพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยของลูกหนี้รายเดิมขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของหนี้นอกระบบนั้น ยังมีผู้ที่ไม่เข้าใจในกลไกว่า เหตุใดการไปกู้ยืมเงินกับนายทุนแล้ว ไฉนหนี้เหล่านั้นถึงได้งอกงามใช้หนี้อย่างไรก็ไม่รู้จบรู้สิ้นเสียที่....?
ในเรื่องนี้ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ศคง. ให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ยิ่ง รวมถึงเสนอแนะว่า หากเป็นหนี้นอกระบบจำนวนมากมายแล้วจะมีหน่วยงานไหนบ้างที่สามารถช่วยเหลือแก้ไขหาทางออกในเรื่องดังกล่าวได้
ลักษณะกลโกงการเงินนอกระบบ
เงินกู้นอกระบบ/เงินกู้โดยตรง
ผู้ให้บริการเงินกู้นอกระบบมักเป็นผู้ให้กู้ที่ไม่อยู่ในระบบสถาบันการเงิน ส่วนมากจะคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าสถาบันการเงินกำหนด โดยจะบอกตัวเลขดอกเบี้ยหรือเงินคืนน้อย ๆ เพื่อดึงดูดผู้กู้
นอกจากนี้ผู้ให้กู้บางรายยังบังคับให้ลูกหนี้เซ็นสัญญาเงินกู้ที่ไม่ได้กรอกข้อความ หรือระบุจำนวนเงินกู้เกินจริง เช่น กู้ 10,000 บาท แต่ให้กรอกตัวเลขสูงถึง 30,000 บาท แต่ที่น่ากลัวคือ การทวงหนี้ด้วยวิธีที่โหดร้ายหรือผิดกฎหมาย เช่น ขู่กรรโชก ประจาน หรือทำร้ายร่างกาย
ข้อสังเกต
จำนวนจ่ายคืนหรือดอกเบี้ยที่นายทุนเงินกู้แจ้งต่อผู้กู้นั้น มักจะเป็นจำนวนจ่ายคืนหรือดอกเบี้ยต่อวันเพื่อให้ผู้กู้รู้สึกว่าเป็นจำนวนเงินน้อย แต่เมื่อคำนวณเงินที่ต้องจ่ายคืนเทียบกับเงินต้นแล้วจะพบว่าดอกเบี้ยที่นายทุนเงินกู้เรียกเก็บ จะสูงกว่าสถาบันการเงินที่มีทางการกำกับดูแลเป็นจำนวนมาก
สัญญาอำพรางเงินกู้ (หลีกเลี่ยงการให้กู้โดยตรง)
นายทุนเงินกู้จะให้ผู้กู้ใช้บัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรเครดิตซื้อสินค้าที่มีมูลค่าแพงว่าเงินกู้ เช่น ต้องการกู้เงิน 20,000 จะให้ซื้อสินค้ามูลค่า 26,000 บาท เมื่อได้สินค้านายทุนเงินกู้จะให้ผู้กู้นำสินค้านั้นมาแลกกับเงินกู้จำนวน 20,000 บาท แล้วผู้กู้จะต้องรับผิดชอบชำระค่าสินค้ากับบริษัทบัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรเครดิตพร้อมทั้งดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
ข้อสังเกต
นายทุนเงินกู้ไม่ต้องรับความเสี่ยงในการปล่อยกู้เงินในครั้งนี้ เพราะทันทีที่จ่ายเงินให้กับผู้กู้ไป นายทุนเงินกู้จะได้รับสินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินที่จ่ายให้ผู้กู้ไป
วิธีป้องกันกลโกงการเงินนอกระบบ /เงินกู้นอกระบบ
0วางแผนรายรับรายจ่ายล่วงหน้าและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันปัญหาเงินไม่พอใช้ซึ่งอาจนำไปสู่การก่อหนี้
0ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองก่อนก่อหนี้
0ศึกษารายละเอียดของผู้ให้กู้ เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบหรือการทวงหนี้โหด
0เลือกกู้เงินในระบบ เพราะมีสัญญาการกู้เงินที่ชัดเจนและเป็นธรรมมากกว่า
0หากจำเป็นต้องกู้เงินนอกระบบ ให้ศึกษาเงื่อนไข รายละเอียดสัญญาให้ดีก่อนเซ็นสัญญา
สิ่งที่ควรทำเมื่อตกเป็นเหยื่อกลโกงการเงินนอกระบบ/เงินกู้นอกระบบ
หนี้นอกระบบส่วนมากเป็นหนี้ที่ผู้กู้ต้องรับภาระดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ผู้กู้จึงควรหาแหล่งเงินกู้ในระบบที่มีดอกเบี้ยถูกกว่ามาชำระคืน แต่หากไม่สามารถกู้ยืมในระบบได้ ผู้กู้อาจต้องยอมขายทรัพย์สินบางส่วนเพื่อนำมาชำระหนี้ แก้ไขปัญหาดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจนไม่สามารถชำระคืนได้ หากตกเป็นเหยื่อเงินกู้นอกระบบ สามารถขอรับคำปรึกษาได้ดังนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรีได้ออกคำสั่งให้เข้ามาแก้ไขปัญหาในเรื่องหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่ง ศูนย์ดำรงธรรมมีอยู่ทุกจังหวัด ดังนั้น ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบสามารถเข้ามาปรึกษา นำข้อเท็จจริงมาหาทางออกในเรื่องดังกล่าวได้
หรือใครที่มีเพื่อน ญาติพี่น้อง ที่กำลังประสบปัญหาในเรื่องหนี้นอกระบบก็ช่วยกันแนะนำเข้าไปใช้บริการ เพื่อหาทางออกที่ดีกว่า อย่าปล่อยให้เขาจมอยู่กับปัญหาคิดว่าไม่มีทางออกจนต้องใช้วิธีการจบชีวิตเพื่อหนีปัญหาอีกเลย เพราะการหาทางออกแบบนั้นใช่ว่าปัญหาจะหมดไปอาจทิ้งปัญหาไว้ให้กับคนที่อยู่ข้างหลังต้องตามแก้อีกเช่นเดิม...
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบบางส่วนจาก ศคง. -http://www.1213.or.th/-
ทำอย่างไรเมื่อเป็นหนี้นอกระบบจนล้นพ้นตัว
-http://money.sanook.com/227669/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/-
ปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นปัญหาที่มีมานานและไม่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายรวดเร็วตราบที่คนยังมีปัญหาพื้นฐาน คือ รายได้ ไม่พอกับรายจ่าย ส่วนรากลึกของปัญหาค่อนข้างจะซับซ้อนลงไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องโอกาสในการสร้างรายได้ ขาดปัจจัยพื้นฐานในการประกอบอาชีพ หรือแม้กระทั่งบางคนติดการพนันจึงต้องไปกู้นอกระบบก็มี ฯลฯ
แต่ประเด็นหนี้นอกระบบถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญอีกครั้ง แม้จะมีความพยายามแก้ปัญหามาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย เมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรง ทั้งที่ลูกหนี้กระทำกับตัวเอง หรือ เจ้าหนี้กระทำกับลูกหนี้ จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้สั่งการให้ส่วนราชการมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
กรณีที่ลูกหนี้มีการกระทำรุนแรงต่อตัวเองไม่ว่า จุดไฟเผาตัวเอง หรือ ผูกคอตาย ก็ตาม ทำให้เกิดความสงสัย ว่า กลไกต่างๆที่รัฐบาลพยายามจะแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบมีปัญหาหรือไม่อย่างไร หรือ ลูกหนี้ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ามีกลไก ของทางการที่พร้อมจะเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้
ที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ทางการได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อเข้ามาดูแลแก้ไขอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะไกล่เกลี่ยหนี้ กับเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยโหด หรือ คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และ มีการดึงลูกหนี้นอกระบบเข้ามาในระบบโดยให้ธนาคารรัฐไม่ว่า ธ.ก.ส.หรือออมสิน เข้ามาดำเนินการ พร้อมกับ ส่งเสริมอาชีพเพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยของลูกหนี้รายเดิมขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของหนี้นอกระบบนั้น ยังมีผู้ที่ไม่เข้าใจในกลไกว่า เหตุใดการไปกู้ยืมเงินกับนายทุนแล้ว ไฉนหนี้เหล่านั้นถึงได้งอกงามใช้หนี้อย่างไรก็ไม่รู้จบรู้สิ้นเสียที่....?
ในเรื่องนี้ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ศคง. ให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ยิ่ง รวมถึงเสนอแนะว่า หากเป็นหนี้นอกระบบจำนวนมากมายแล้วจะมีหน่วยงานไหนบ้างที่สามารถช่วยเหลือแก้ไขหาทางออกในเรื่องดังกล่าวได้
ลักษณะกลโกงการเงินนอกระบบ
เงินกู้นอกระบบ/เงินกู้โดยตรง
ผู้ให้บริการเงินกู้นอกระบบมักเป็นผู้ให้กู้ที่ไม่อยู่ในระบบสถาบันการเงิน ส่วนมากจะคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าสถาบันการเงินกำหนด โดยจะบอกตัวเลขดอกเบี้ยหรือเงินคืนน้อย ๆ เพื่อดึงดูดผู้กู้
นอกจากนี้ผู้ให้กู้บางรายยังบังคับให้ลูกหนี้เซ็นสัญญาเงินกู้ที่ไม่ได้กรอกข้อความ หรือระบุจำนวนเงินกู้เกินจริง เช่น กู้ 10,000 บาท แต่ให้กรอกตัวเลขสูงถึง 30,000 บาท แต่ที่น่ากลัวคือ การทวงหนี้ด้วยวิธีที่โหดร้ายหรือผิดกฎหมาย เช่น ขู่กรรโชก ประจาน หรือทำร้ายร่างกาย
ข้อสังเกต
จำนวนจ่ายคืนหรือดอกเบี้ยที่นายทุนเงินกู้แจ้งต่อผู้กู้นั้น มักจะเป็นจำนวนจ่ายคืนหรือดอกเบี้ยต่อวันเพื่อให้ผู้กู้รู้สึกว่าเป็นจำนวนเงินน้อย แต่เมื่อคำนวณเงินที่ต้องจ่ายคืนเทียบกับเงินต้นแล้วจะพบว่าดอกเบี้ยที่นายทุนเงินกู้เรียกเก็บ จะสูงกว่าสถาบันการเงินที่มีทางการกำกับดูแลเป็นจำนวนมาก
สัญญาอำพรางเงินกู้ (หลีกเลี่ยงการให้กู้โดยตรง)
นายทุนเงินกู้จะให้ผู้กู้ใช้บัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรเครดิตซื้อสินค้าที่มีมูลค่าแพงว่าเงินกู้ เช่น ต้องการกู้เงิน 20,000 จะให้ซื้อสินค้ามูลค่า 26,000 บาท เมื่อได้สินค้านายทุนเงินกู้จะให้ผู้กู้นำสินค้านั้นมาแลกกับเงินกู้จำนวน 20,000 บาท แล้วผู้กู้จะต้องรับผิดชอบชำระค่าสินค้ากับบริษัทบัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรเครดิตพร้อมทั้งดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
ข้อสังเกต
นายทุนเงินกู้ไม่ต้องรับความเสี่ยงในการปล่อยกู้เงินในครั้งนี้ เพราะทันทีที่จ่ายเงินให้กับผู้กู้ไป นายทุนเงินกู้จะได้รับสินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินที่จ่ายให้ผู้กู้ไป
วิธีป้องกันกลโกงการเงินนอกระบบ /เงินกู้นอกระบบ
0วางแผนรายรับรายจ่ายล่วงหน้าและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันปัญหาเงินไม่พอใช้ซึ่งอาจนำไปสู่การก่อหนี้
0ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองก่อนก่อหนี้
0ศึกษารายละเอียดของผู้ให้กู้ เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบหรือการทวงหนี้โหด
0เลือกกู้เงินในระบบ เพราะมีสัญญาการกู้เงินที่ชัดเจนและเป็นธรรมมากกว่า
0หากจำเป็นต้องกู้เงินนอกระบบ ให้ศึกษาเงื่อนไข รายละเอียดสัญญาให้ดีก่อนเซ็นสัญญา
สิ่งที่ควรทำเมื่อตกเป็นเหยื่อกลโกงการเงินนอกระบบ/เงินกู้นอกระบบ
หนี้นอกระบบส่วนมากเป็นหนี้ที่ผู้กู้ต้องรับภาระดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ผู้กู้จึงควรหาแหล่งเงินกู้ในระบบที่มีดอกเบี้ยถูกกว่ามาชำระคืน แต่หากไม่สามารถกู้ยืมในระบบได้ ผู้กู้อาจต้องยอมขายทรัพย์สินบางส่วนเพื่อนำมาชำระหนี้ แก้ไขปัญหาดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจนไม่สามารถชำระคืนได้ หากตกเป็นเหยื่อเงินกู้นอกระบบ สามารถขอรับคำปรึกษาได้ดังนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรีได้ออกคำสั่งให้เข้ามาแก้ไขปัญหาในเรื่องหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่ง ศูนย์ดำรงธรรมมีอยู่ทุกจังหวัด ดังนั้น ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบสามารถเข้ามาปรึกษา นำข้อเท็จจริงมาหาทางออกในเรื่องดังกล่าวได้
หรือใครที่มีเพื่อน ญาติพี่น้อง ที่กำลังประสบปัญหาในเรื่องหนี้นอกระบบก็ช่วยกันแนะนำเข้าไปใช้บริการ เพื่อหาทางออกที่ดีกว่า อย่าปล่อยให้เขาจมอยู่กับปัญหาคิดว่าไม่มีทางออกจนต้องใช้วิธีการจบชีวิตเพื่อหนีปัญหาอีกเลย เพราะการหาทางออกแบบนั้นใช่ว่าปัญหาจะหมดไปอาจทิ้งปัญหาไว้ให้กับคนที่อยู่ข้างหลังต้องตามแก้อีกเช่นเดิม...
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบบางส่วนจาก ศคง. -http://www.1213.or.th/-