ใต้ร่มธรรม

คลายวิถีทุกข์ด้วยธรรมะ => ธรรมะเสวนา => ข้อความที่เริ่มโดย: ฐิตา ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 11:23:17 pm

หัวข้อ: ธรรมชาติของคน :สรรนิพนธ์ เมิ่งจื่อ
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 11:23:17 pm


(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTgbQKfIdRqH9VsFBEzTufmvPnDQ6E244erPohykYIlvgRIC4I)

ธรรมชาติของคน : สรรนิพนธ์ เมิ่งจื่อ

กงตูจื่อถามเมิ่งจื่อว่า ที่ เก้าจื่อ บอกว่า
" ธรรมชาติของคนไม่มีอะไรที่เรียกว่าดีหรือไม่ดี " หรือ บางคนบอกว่า
"ธรรมชาติของคนสามารถทำให้ดีก็ได้ และ สามารถทำให้ไม่ดีก็ได้
 
เพราะฉะนั้น เมื่อมีธรรมราชาอย่าง เหวินหวัง และ อู่ หวัง
ประชาชนก็จะประพฤติปฏิบัติไปในทางที่ดีงาม แต่เมื่อมีทรราช
อย่าง อิว หวัง และ ลี่ หวัง ประชาชนก็จะประพฤติปฏิบัติไปในทางเสื่อมเสีย

(http://www.bloggang.com/data/moonfleet/picture/1272341915.jpg)

หรือ มีบางคนบอกว่า " ธรรมชาติของคนที่ดีก็มี ที่ไม่ดีก็มี" เพราะฉะนั้น
จึงมีคนดีอย่าง "หยาว" เป็นพระราชา แต่ก็มีคนเลวอย่าง "เซี่ยง"
เป็นราษฏรใต้ปกครอง
มีคนเลวอย่าง "กู่โซว" เป็นบิดา แต่ก็มีคนดีที่เป็นธรรมราชา
อย่าง "ซุ่น"เป็นบุตร
มีคนโหดเหี้ยมอย่าง "โจว้" เป็นพระนัดดาและเป็นพระราชา แต่ก็มีคนที่มีคุณธรรม
อย่าง "เจ้าชายอุ๋ยจื่อฉี่ และ เจ้าชายปีกัน" เป็นพระปิตุลา

แต่ท่านอาจารย์เคยบอกว่า ธรรมชาติของคนล้วนดีงาม ถ้าเช่นนั้น
ความเห็นของเขาเหล่านั้น ที่เอ่ยอ้างข้างต้นก็ล้วนไม่ถูกต้องทั้งสิ้น ใช่หรือไม่ ?
เมิ่งจื่อตอบว่า "หากประพฤติปฏิบัติไปตามธรรมชาติที่มีอยู่
คนเราก็จะทำในสิ่งที่ดีงามได้
และ นี่คือความหมายที่ว่าธรรมชาติของคนล้วนดีงาม

ส่วนที่มีคนบางคนกระทำในสิ่งที่เสื่อมเสียนั้น
จะไปโทษว่าเป็นสันดานธรรมชาติของเขาหาได้ไม่
อันจิตสงสารผู้อื่น มีอยู่ในใจตัวคนทุกคน
จิตละอายและเกลียดชังต่อการกระทำความชั่ว มีอยู่ในตัวคนทุกคน
จิตเคารพนับถือผู้อื่น ก็มีอยู่ในตัวคนทุกคน
จิตรู้ผิด รู้ชอบ ก็มีอยู่ในตัวคนทุกคน

จิตสงสารผู้อื่นก็คือเมตตาธรรม
จิตละอายและเกลียดชังต่อการกระทำความชั่ว ก็คือความชอบธรรม
จิตเคารพนับถือผู้อื่นก็คือจริยธรรม
จิตรู้ผิดรู้ชอบก็คือปัญญา

ทั้งเมตตาธรรม ความชอบธรรม จริยธรรม และ ปัญญานั้น
หาใช่เกิดจากสิ่งนอกกายไม่ แต่มันมีอยู่ภายในตัวเราแต่ดั้งเดิมอยู่แล้ว
เพียงแต่ตัวเราไม่คิดที่จะแสวงหาเท่านั้นเอง

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQRNoGqKjxuw_xDac6_nBpjeCEolEQ_Gy9wYj5gijUg0EsGYT5L)

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า หากเพียรพยายามแสวงหาก็จะได้มา
หากละทิ้งไม่แสวงหาก็จะสูญเสียไป มีคนบางคนด้อยกว่าผู้อื่น 1 เท่า 5 เท่า
หรือ เหลือคณานับ ก็เพราะเขามิได้ส่งเสริมเพิ่มพูนธรรมชาติอันดีงาม
อย่างเต็มที่นั่นเอง

(http://www.bloggang.com/data/moonfleet/picture/1272342942.jpg)

ซือจิง (กวีสูตร) กล่าวไว้ว่า
"สวรรค์ให้กำเนิดมวลประชาชน มีสรรพสิ่งและมีกฏเกณฑ์
ประชาชนยึดถือกฏเกณฑ์แห่งสวรรค์ ชื่นชอบคุณธรรมอันดีงาม"

ขงจื่อชมเชยกวีบทนี้ว่า
"ผู้ที่รจนากวีบทนี้ เป็นผู้ที่เข้าใจธรรมชาติของคนเป็นอย่างดี
ดังนั้น สรรพสิ่งก็ย่อมมีกฏเกณฑ์เมื่อประชาชนยึดมั่นในกฏเกณฑ์แห่งสวรรค์
ก็ย่อมชื่นชอบคุณธรรมอันดีงาม"

-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=moonfleet&month=04-2010&date=27&group=146&gblog=35

หัวข้อ: Re: เมิ่งจื่อ (๑-๓) :สรรนิพนธ์ เมิ่งจื่อ
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 20, 2012, 04:28:23 pm


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=258725)
ภาพวาด “ทรงมังกร”บนผืนผ้าไหม จากสุสานโบราณสมัยจั้นกั๋ว
ถือเป็นภาพเขียนรูปมังกรที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในปัจจุบัน


เมิ่งจื่อ (1)
   ผู้ปกครองด้วยหลักเมตตาธรรมย่อมไร้ซึ่งศัตรูแผ่นดิน
       仁者无敌。
       
(คัดจากบทเหลียงฮุ่ยหวัง - เมิ่งจื่อ)


(http://www.artvalue.com/image.aspx?PHOTO_ID=1979069&width=500&height=500)

   เมิ่งจื่อ (2)
   หยิบฉวยได้ แต่ไม่หยิบฉวย หากหยิบฉวยย่อมเป็นที่เสื่อมเสีย
   สามารถให้ สามารถไม่ให้ หากการให้ไม่เอื้อประโยชน์
   สามารถตาย สามารถไม่ตาย หากตายแล้วทำลายชื่อเสียงความห้าวหาญ

(คัดจากบทหลีโหลว - เมิ่งจื่อ)       
   可以取,可以未取,取伤廉;可以与,
可以无与,与伤惠;可以死,可以无死,死伤勇。——《离娄下》


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=262384)

   เมิ่งจื่อ (3)
   ยามปรกติผู้คนสะสมทรัพย์เสบียง แม้เมื่อประสบภัยแล้งไม่อดตาย
   ผู้ที่สั่งสมจริยธรรมอันดีเป็นกิจวัตร แม้บ้านเมืองกลียุคย่อมไม่หลงผิด

(คัดจากบทจิ้นซิน - เมิ่งจื่อ)
   周于利者凶年不能杀,周于德者邪世不能乱。——《尽心下》

หัวข้อ: Re: เมิ่งจื่อ (๔) :สรรนิพนธ์ เมิ่งจื่อ
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 20, 2012, 04:31:15 pm


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=268910)

   เมิ่งจื่อ (4)
   หากประชาขาดไร้ปณิธานตั้งมั่น ปล่อยความชั่วร้ายเข้าครอบงำ ยอมทำทุกสิ่งเพื่อประโยชน์แห่งตน ต่อเมื่อพลัดหลงทำผิดอาญาอันใหญ่หลวงแล้ว จึงคิดหาวิธีการลงโทษทัณฑ์ต่อพวกเขา เช่นนี้ไม่ต่างจากการขุดหลุมพรางดักล่อประชาชน ผู้ปกครองที่หวังดีต่อประชาชนอย่างแท้จริง ไหนเลยกระทำเช่นนี้?
   ดังนั้น ผู้ปกครองที่มีปัญญาความสามารถย่อมวางระเบียบกฎเกณฑ์ให้ประชาชนสามารถประกอบสัมมาอาชีวะได้ เพียงพอต่อการเลี้ยงดูบุตรภรรยา บุพการีทั้งครอบครัว เมื่อมีพืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ได้มีกินอิ่มท้อง แม้เมื่อถึงคราวยาก ก็ไม่ถึงกับต้องอดตาย เพียงตรวจตราดูแลให้พวกเขาอยู่บนวิถีอันดีงาม อย่างนั้นประชาราษฎร์ย่อมคล้อยตามโดยง่ายแล้ว
   
(คัดจากบทเหลียงฮุ่ยหวัง - เมิ่งจื่อ)
   苟无恒心,放辟邪侈,无不为己。己陷于罪,然后从而刑之,是罔民也。焉有仁人在位,罔民而可为也?是故明君制民之产,必使仰足以事父母,俯足以畜妻子;乐岁终身饱,凶年免于死亡;然而驱而之善,故民之从之也轻。—— 《梁惠王上》

หัวข้อ: Re: เมิ่งจื่อ (๕-๗) :สรรนิพนธ์ เมิ่งจื่อ
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 20, 2012, 04:47:13 pm


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=262387)

   เมิ่งจื่อ (5)
   สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
   ชัยภูมิที่เป็นเลิศยังมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
   
(คัดจากบทกงซุนโฉ่ว - เมิ่งจื่อ)
   天时不如地利,地利不如人和。——《公孙丑下》


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=276511)

  เมิ่งจื่อ (6)
   เมื่อมีคำยกยอปอปั้นที่ไม่คาดหมาย
   ย่อมมีคำใส่ร้ายป้ายสีที่เกินจริง

   (คัดจากบทหลีโหลว - เมิ่งจื่อ)
   有不虞之誉,有求全之毁。
       —— 《离娄上》


(http://www.artvalue.com/image.aspx?PHOTO_ID=1979083&width=500&height=500)

   เมิ่งจื่อ (7)
   อันคำกล่าวว่ามนุษย์เรามีจิตใจที่ไม่อาจหักใจทำร้ายผู้อื่นนั้น เสมือนหนึ่งการได้พบเห็นเด็กทารกตกลงสู่บ่อน้ำแห่งหนึ่ง คนผู้นั้นย่อมจะตกตื่นใจด้วยเห็นใจห่วงใย มิได้คิดฉกฉวยโอกาสหยิบยื่นน้ำใจไมตรีต่อบิดามารดาของเด็กน้อย ทั้งมิได้คิดจะสร้างชื่อในหมู่ชนรอบข้าง อีกทั้งมิได้เป็นเพราะรำคาญใจต่อเสียงร้องไห้ของเด็ก  เช่นนี้แล้ว

หากไม่มีความเอื้ออาทร ไม่ใช่มนุษย์
ไร้ความละอาย ไม่ใช่มนุษย์
ไม่ยอมอภัย ไม่ใช่มนุษย์
ไม่รู้สำนึกผิดชอบชั่วดี ไม่ใช่มนุษย์

ความเอื้ออาทรเป็นจุดเริ่มแห่งเมตตาธรรม ความละอายเป็นจุดเริ่มแห่งคุณธรรม
การให้อภัยเป็นจุดเริ่มแห่งจรรยามารยาท และความสำนึกผิดชอบชั่วดีเป็นจุดเริ่มต้นแห่งปัญญา
       
(คัดจากบทกงซุนโฉ่ว - เมิ่งจื่อ)
所以谓人皆有不忍人之心者,今人乍见孺子将入于井,皆有怵惕恻隐之心——非所以内交于孺子之父母也,非所以要誉于乡党朋友也,非恶其声而然也。由是观之,无恻隐之心,非人也;无羞恶之心,非人也;无辞让之心,非人也;无是非之心,非人也。恻隐之心,仁之端也;羞恶之心,义之端也;辞让之心,礼之端也;是非之心,智之端也。——《公孙丑上》

หัวข้อ: Re: เมิ่งจื่อ (๘-๑๐) :สรรนิพนธ์ เมิ่งจื่อ
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 20, 2012, 05:22:07 pm


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=1081631)

   เมิ่งจื่อ ( 8 )
   เก้าจื่อกล่าวว่า “อันว่าธรรมชาติของมนุษย์นั้นเปรียบได้กับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก หากเปิดทางออกทางทิศตะวันออกก็ไหลไปทางตะวันออก เปิดทางออกตะวันตกก็ไหลไปทางตะวันตก ธรรมชาติของมนุษย์นั้นไม่อาจแบ่งแยกดีเลว คล้ายกับสายน้ำที่ไม่แบ่งแยกทิศทางออกตก ”

   เมิ่งจื่อกล่าวว่า “สายน้ำไม่แยกทิศทางออกตกจริง หรือยังจะไม่แยกสูงต่ำด้วย? ความดีงามของมนุษย์นั้น เปรียบได้กับสายน้ำที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ความเป็นมนุษย์นั้นไม่มีที่ไม่ดีได้ เช่นดังสายน้ำที่โดยธรรมชาติย่อมจะไหลลงสู่ที่ต่ำ อันว่าน้ำนั้น หากถูกกระตุ้นก่อกวนจนกระเพื่อมขึ้น อาจสาดซัดขึ้นสูงเหนือศีรษะ หากขวางกั้นสายน้ำ อาจให้ไหลขึ้นสู่เขาสูง หรือนี่ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์? ด้วยการณ์เป็นไปเช่นนี้เอง คนเราที่จะประพฤติตนเลวร้ายลง ก็ด้วยเหตุดั่งนี้แล ”

(คัดจากบทเก้าจื่อ – เมิ่งจื่อ)
       告子曰:“性犹湍水也,决诸东方则东流,决诸西方则西流。人性之无分于善不善也,犹水之无分于东西也。”
       孟子曰:“水信无分于东西,无分于上下乎?人性之善也,犹水之就下也。人无有不善,水无有不下。今夫水,搏而跃之,可使过颡;激而行之,可使在山。是岂水之性哉?其势则然也。人之可使为不善,其性亦犹是也。”
       ——《告子上》


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=287928)

   เมิ่งจื่อ (9)
   เมิ่งจื่อกล่าวว่า “อันว่าหญิงงามดั่งไซซีแม้นถูกห่อหุ้มด้วยสิ่งอันเป็นปฏิกูลแล้ว ผู้คนย่อมจะปิดจมูกเดินหนีห่างไป ทว่าคนผู้หนึ่งแม้มีรูปโฉมอัปลักษณ์ แต่หากมีน้ำใจงาม อยู่ในศีลอันใสสะอาดทั้งกายใจ ย่อมจะสามารถกระทำการบวงสรวงต่อบรรพกษัตริย์”

(คัดจากบทหลีโหลว – เมิ่งจื่อ)
孟子曰:“西子蒙不洁,则人皆掩鼻而过之;虽有恶人,齐戒沐浴①,则可以祀上帝。” —— 《离 娄 下》


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=287943)

   เมิ่งจื่อ (10)
   จริยที่ไร้ซึ่งจรรยา ธรรมที่ไร้ซึ่งคุณธรรม ผู้มีจริยธรรมอันดีย่อมไม่(ลดตัว)ไปกระทำ
       
(คัดจากบทหลีโหลว – เมิ่งจื่อ)
       孟子曰:“非礼之礼,非义之义,大人弗为。”
       —— 《离 娄 下》

.
หัวข้อ: Re: เมิ่งจื่อ (๑๑-๑๔) :สรรนิพนธ์ เมิ่งจื่อ
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 20, 2012, 05:38:29 pm


(http://www.artvalue.com/photos/auction/0/47/47076/xu-beihong-1895-1953-china-sparrow-on-rock-2449282-500-500-2449282.jpg)

   เมิ่งจื่อ (11)
   แคว้นซ่งมีชายคนหนึ่งเกรงว่าข้าวในนาจะเติบโตช้าเกินไป จึงลงมือถอนดึงต้นกล้าให้สูงขึ้น เมื่อกลับถึงบ้านด้วยความเหน็ดเหนื่อย จึงบอกกับผู้คนทางบ้านว่า “วันนี้ช่างเหน็ดเหนื่อยจริง ข้าช่วยให้ต้นกล้าสูงขึ้นแล้ว ” บุตรชายของเขาได้ฟังดังนั้นก็รีบวิ่งไปดู พบว่าต้นกล้าล้มตายลงหมดสิ้น

   แผ่นดินนี้ผู้ที่ไม่ถอนดึงต้นกล้าช่างน้อยนัก ผู้ที่ไม่เห็นประโยชน์คุณค่าย่อมหลงลืมละทิ้ง เกียจคร้านที่จะกำจัดวัชพืช ส่วนผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ ก็ด้วยลงมือถอนดึงขึ้น วิธีการเช่นนี้ มิเพียงไม่ได้ประโยชน์ กลับรังแต่จะเป็นการทำร้ายกัน

(คัดจากบทกงซุนโฉ่ว – เมิ่งจื่อ)
       宋人有闵其苗之不长而揠之者,芒芒然归。谓其人曰:“今日病矣,予助苗长矣。”其子趋而往视之,苗则槁矣。天下之不助苗长者寡矣。以为无益而舍之者,不耘苗者也;助之长者,揠苗者也。非徒无益,而又害之。—— 《公孙丑上》


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=297842)
 
   เมิ่งจื่อ (12)
   การกุศลอันเป็นไปเพื่อไขว่คว้าหาศรัทธาแห่งตนนั้น ย่อมไม่อาจให้ผู้คนยอมสยบได้ แต่หากบำรุงเลี้ยงจิตใจผู้คนด้วยศรัทธาแห่งความดีงามแล้วไซร้ ย่อมได้ครองใจคนทั้งแผ่นดิน

(คัดจากบทหลีโหลว – เมิ่งจื่อ)
       以善服人者,未有能服人者也;以善养人,然后能服天下。—— 《离 娄 下》


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=297849)

   เมิ่งจื่อ (13)
   ยามยาก เฝ้ารักษาคุณความดีเฉพาะตน เมื่อบรรลุผล อย่าหลงลืมส่งผ่านความดีงามสู่แผ่นดิน

(คัดจากบทจิ้นซิน – เมิ่งจื่อ)
       穷则独善其身,达则兼善天下。《尽心上》


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=305190)

   เมิ่งจื่อ (14)
   เมิ่งจื่อกล่าวว่า “หากผู้เป็นที่รัก ไม่ต้องการเข้าใกล้ชิดสนิทสนม ให้ถามถึงความเมตตาการุณย์แห่งจิตตน หากไม่อาจปกครองคน ให้ทบทวนตนถึงสติปัญญาความสามารถ(ความรอบรู้และประสบการณ์) หากปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยมารยาท แต่ไร้ผู้คนใส่ใจ ให้ใคร่ครวญท่าทีแห่งความเคารพนั้น การณ์ใดที่ไม่บรรลุผลดังคาดหวังไว้ ให้ย้อนทวนถามไถ่ตนเองก่อนเสมอ ต่อเมื่อแก้ไขปรับปรุงตนได้ดังนี้แล้ว การณ์ใดในแผ่นดินย่อมเป็นได้ดังต้องการ ”

(คัดจากบทหลีโหลว – เมิ่งจื่อ)
       孟子曰:“爱人不亲,反其仁;治人不治,反其智;礼人不答,反其敬。行有不得者皆反求诸己,其身正而天下归之。—— 《离 娄 上》

หัวข้อ: Re: เมิ่งจื่อ (15 น้ำใส น้ำขุ่น) :สรรนิพนธ์ เมิ่งจื่อ
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 20, 2012, 06:52:35 pm


(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=449104)

    เมิ่งจื่อ (15)   
    น้ำใสล้างพู่ประดับหมวก น้ำขุ่นล้างเท้า       
   เมิ่งจื่อกล่าวว่า “กับคนที่ไร้ซึ่งเมตตาธรรม ยังจะสามารถปรึกษาหารือสิ่งใดได้? พวกเขาไม่ใส่ใจใยดีต่อความปลอดภัยของผู้อื่น ทั้งยังแสวงหาผลประโยชน์ท่ามกลางความพินาศของผู้อื่น เห็นความเสียหายล่มจมของประเทศชาติครอบครัวเป็นเพียงความตื่นเต้นเร้าใจ หากยังสามารถปรึกษาเจรจากับพวกเขา หรือยังจะมีเรื่องราวของประเทศชาติที่ล่มสลายอยู่อีกเล่า? เมื่อกาลกระโน้น มีเด็กน้อยคนหนึ่งร้องว่า

“สายน้ำข้างล่างช่างสวยงามสดใสนัก สามารถล้างพู่ประดับบนหมวกฉัน
สายน้ำข้างล่าง ช่วงยามเจ้าขุ่นนัก เจ้าสามารถ(นำมา)ล้างเท้าข้าได้”

ขงจื่อพอได้ฟัง กล่าวว่า “ศิษย์ทั้งหลาย จงฟังให้ดีเถิด น้ำใสใช้ล้างพู่ประดับหมวก
น้ำขุ่นใช้ล้างเท้า ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับน้ำนั้นเองทั้งสิ้น”

   ดังนั้นเอง หากคนผู้หนึ่งประพฤติตนให้เป็นที่น่าอัปยศอดสูแล้ว ผู้อื่นย่อมถือเป็นเหตุให้เหยียดหยามเขา ครอบครัวหนึ่งอันจะพังพิณลงก็ด้วยมีเหตุจากภายใน ผู้อื่นจึงฉวยเหตุทำลายล้างลง ประเทศชาติหนึ่งย่อมต้องมีเหตุให้ผู้อื่นบุกเข้าทำลายล้างได้ ดังบันทึกบทหนึ่งของซ่างซู กล่าวไว้ว่า

“เภทภัยร่วงหล่นจากฟ้ายังสามารถหลีกลี้หนีห่าง
แต่บาปกรรมความชั่วอันตนเองก่อขึ้นนั้นไม่อาจหลีกพ้นได้”
       
(คัดจากบทหลีโหลว – เมิ่งจื่อ)

                   (http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=1128699)

เรียบเรียงจาก -http://www.sinology.cn/main/book/sswj/
โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์
HS8EVL -http://forum.groovygang.net/index.php?topic=1121.0