:13: :13: :13: :13:
***********************************
"แจกันใบนี้ต้องมีความหมายพิเศษซ่อนอยู่เป็นแน่" ผู้ที่เฝ้ามองการกระทำของชายชราอย่างชื่นชมกล่าว
--------------------------------------------------------------------------------
นักปราชญ์ชราผู้หนึ่ง ...โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าอยากเล่นสนุกแบบเด็กๆ....
ปั้นแจกันเล็กๆใบหนึ่งขึ้นจากก้อนดินเปียกๆ ขณะเดินเล่นอยู่ริมลำธาร
และนำมันกลับไปวางไว้บนโต๊ะทำงานที่บ้าน...
บ่อยครั้งเขาจ้องมองดูมันแล้วยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข
"แจกันใบนี้ต้องมีความหมายพิเศษซ่อนอยู่เป็นแน่"
ผู้ที่เฝ้ามองการกระทำของชายชราอย่างชื่นชมกล่าว
จากนั้นผู้คนก็พูดต่อๆ กันไป จนในที่สุดแจกันใบน้อยถูกกล่าวขวัญถึงในฐานะของล้ำค่า
วันหนึ่งเมื่อนักปราชญ์ชราออกเดินทางไกล
แม่บ้านจึงนำแจกันนี้ไปเก็บไว้อย่างดีรวมกับแก้วเจียระไน และเครื่องกระเบื้อง
บรรดาของมีค่าในตู้ต่างมองดูแจกันใบน้อยด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ
"ทำไมก้อนดินมอซออย่างเจ้าจึงมาอยู่รวมกับพวกเราในนี้ได้"
แจกันกระเบื้องกล่าว
"อย่าเข้ามาใกล้เชียวนะ ถ้ายังไม่อยากตกลงไปแตก"
โถแก้วใบสูง และเพื่อนๆ ของมันบอก
แจกันใบน้อยไม่ว่ากระไร มันมองออกไปนอกตู้
และนึกอยากไปให้พ้นจากที่แคบๆ ไร้สุขนี้โดยเร็ว
"แต่เหนือสิ่งอื่นใด ฉันอยากออกท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง"
แจกันใบน้อยรำพึง
และวันหนึ่ง....
ความฝันของมันก็เป็นจริง
เมื่อหลายสาวน้อยๆ ของนักปราชญ์เดินทางมาพักอยู่ที่บ้านตามประสาเด็ก
เธอมองหาของเล็กๆ ที่น่าสนใจ และนำมันใส่ตะกร้าออกไปเล่นนอกบ้าน
แจกันน้อยถูกวางรวมไว้กับแก้วเจียระไน ก้อนหิน ถ้วยกระเบื้อง
และกองใบไม้....บนพื้นหญ้าใต้ฟ้าคราม
"สมมติว่า เธอเป็นแจกันดอกไม้ในห้องกินข้าวนะ"
เด็กหญิงนำดอกต้อยติ่งสีม่วงสดใสมาปักไว้ในแจกัน
" นี่ก็เป็นชามใส่อาหาร ขวดน้ำหวาน จานขนม"
เด็กหญิงฉีกใบไม้เป็นฝอย เอาก้อนกรวดไปคลุกน้ำ
เติมทรายแล้วใส่ลงในชามแก้ว และถ้วยกระเบื้อง
แจกันน้อยสนุกมาก
"เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่านะ" มันทักดอกต้อยติ่ง
"ฉันน่ะฝันอยากเดินทางไกล แต่ก็ชอบเป็นแจกันใส่ดอกไม้
และรู้สึกดีที่มีน้ำใสอยู่ข้างในด้วย"
แต่ทว่าเพื่อนๆ ของมันกลับไม่คิดเช่นนั้น
"ฉันอยากกลับไปในตู้กระจกมากกว่า ที่นี่ดูไม่คุ้นตา และกว้างใหญ่เกินไป"
แจกันแก้วว่า
"ใช่ๆ ดูไม่ปลอดภัย เลอะเทอะไม่เหมาะกับเราเลยสักนิด"
ถ้วยกระเบื้องที่ถูกนำไปใส่ใบไม้เปียกๆ บ่น
"ทำไมแม่บ้านไม่ออกมาเก็บเราเข้าไปเสียทีนะ"
"แต่ฉันไม่อยากกลับ"
แจกันน้อยค่อยๆ กลิ้งตัวไปซ่อนในพงหญ้า
"หวังว่าคงไม่มีใครหาฉันเจอหรอกนะ"
เด็กหญิงเล่นขายของอยู่คนเดียวจนบ่าย พี่เลี้ยงจึงออกมาตามหา
และดูว่าในความซุกซนของเด็กหญิง
พร้อมกับเก็บจานชามกระเบื้องอันมีค่าเหล่านั้นกลับไป
โดยไม่สนใจกับแจกันดินใบเล็กๆ ที่แอบซ่อนอยู่เลย
"ในที่สุดฉันก็ได้อยู่ในโลกกว้างอย่างที่ฝันเอาไว้"
แจกันน้อยร้องอย่างดีใจ
"แม้ว่าวันหนึ่งเธออาจแตกสลาย
และไม่คงรูปเป็นแจกันอีกต่อไปอย่างนั้นหรือ"
ต้นหญ้าเอ่ยถาม
"ใช่แล้ว มีบางสิ่งสำคัญกว่าการเป็นแจกัน
และมีความหมายมากกว่าการคงอยู่ตลอดไป"
แจกันตอบพลางกลิ้งตัวไปมาบนพื้นดินอย่างสบายใจ
ท่ามกลางใบไม้ใบหญ้า และดงดอกต้อยติ่ง
เวลาผ่านไป...
แจกันใบน้อยถูกแดดแผดเผาในเวลากลางวัน
และเปียกชื้นด้วยหยาดน้ำค้างยามราตรี
จนในที่สุดไม่อาจคงรูปได้อีกต่อไป กลายเป็นเพียงก้อนดินเล็กๆ อ่อนนุ่ม
แต่สิ่งที่เคยเป็นแจกันใบน้อยก็ยังรู้สึกสบายดี และมีความสุข
"ฉันกำลังแตกสลาย....ไม่ได้ออกเดินทางไกลตามที่ฝันไว้
แต่ในขณะเดียวกันฉันกลับรู้สึกเป็นอิสระ...
ราวกับว่าจะบินไปในท้องฟ้าได้เลยทีเดียว"
ก้อนดินเล็กๆ พึมพำ
"ใครกันบอกว่าท่านจะไม่ได้ออกเดินทางไกล"
ต้นไม้ใบหญ้าที่งอกงามอยู่ใกล้ๆ พากันหัวเราะขำ
"และท่านเรียกการงอกงามของเมล็ดเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในว่า
กำลังแตกสลายอย่างนั้นหรือ"
ก้อนดินเล็กๆ มัวแต่เฝ้ามองออกไปในโลกกว้างจนไม่เคยสังเกตตัวมันเองเลยว่า
ข้างในเนื้อดินอ่อนนุ่มของมันนั้น...
เมล็ดพันธุ์น้อยๆ กำลังเติบโตงอกงามขึ้นอย่างช้าๆ....
"บางทีอาจเป็นต้นหญ้า หรือต้อยติ่งเล็กๆ สักต้น....
แต่จะเป็นไรไป"
สิ่งที่เคยเป็นแจกันใบน้อยรำพึง
"ขอเพียงมีหัวใจ ....
และพร้อมจะพาความฝันของฉันออกเดินทางไกลไปด้วยกัน...
......เพียงเท่านั้นก็พอ........."
--------------------------------------------------------------------------------
โดย รักษิตา มติชนรายวัน 25 มิ.ย. 2543
ขอขอบคุณ http://www.carefor.org/content/view/121/151/
:13: :13: :13: :13:
ศรัทธาในสิ่งที่ค้นหา มั่นคงในสิ่งที่เป็น แบ่งปันในสิ่งที่ค้นพบ