ใต้ร่มธรรม

อริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมอันดี => มาลาบูชาครู => สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก => ข้อความที่เริ่มโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 30, 2012, 11:36:39 am

หัวข้อ: ปัญญากับความว่าง :สมเด็จพระญาณสังวร
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 30, 2012, 11:36:39 am


(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/c4.0.403.403/p403x403/383993_4539597298818_823425412_n.jpg)

ปัญญากับความว่าง
พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ทุกคนมีปัญญาและก็มีกิเลสควบคู่กันทั้งสองอย่าง
ไม่มีผู้ใดที่จะมีกิเลสอย่างเดียว
ไม่มีผู้ใดที่จะมีปัญญาอย่างเดียว
ความแตกต่างกันมีเพียง
บางคนมีปัญญาน้อย จึงมีกิเลสมาก
บางคนมีปัญญามาก จึงมีกิเลสน้อย
อาจกำหนดตายตัวได้ว่า
ถ้ามีปัญญามาก แล้วกิเลสจะต้องมีน้อย

ในทางตรงกันข้ามถ้ามีปัญญาน้อยแล้วจะต้องมีกิเลสมาก
เพื่อให้เข้าใจอย่างถูกต้อง จำเป็นต้องขยายความว่า
ปัญญาในที่นี้หมายถึงปัญญาที่แท้จริง
ปัญญาที่แท้จริงคือ สัมมาปัญญา ปัญญาในทางที่ชอบ
ส่วนปัญญาที่ไม่แท้จริงคือมิจฉาปัญญา ปัญญาในทางไม่ชอบ

ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้กำลังพูดถึง
ปัญญาที่แท้จริงคือปัญญาที่ชอบเท่านั้น
ไม่หมายถึง ปัญญาที่ไม่ชอบ

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTqwoAUtvsrYQDenAjA5rf5KSx3mCwLCeXibCnQ5wdko--SnSzN)

เมื่อเข้าใจความหมายที่แท้จริงของปัญญาแล้ว
ก็คงจะเข้าใจกันง่ายขึ้นว่า เหตุไฉนจึงกล่าวว่า

ผู้มีปัญญามากจะมีกิเลสน้อย ผู้มีปัญญาน้อยจะมีกิเลสมาก
เพราะกิเลส นั้นจะกำราบปราบด้วยอาวุธร้ายเพียงไรหาสำเร็จไม่
นอกจากจะกำราบปราบด้วยปัญญาเท่านั้น

ปัญญาเท่านั้นจะทำให้กิเลสพ่ายแพ้
ยอมถอยหนีไปจากใจ ให้ที่แก่ปัญญาโดยดี
ข้อสำคัญคือปัญญาเท่านั้น
ที่จะทำให้มีตาสามารถเห็นว่าตนเป็นผู้มีกิเลสมากน้อยเพียงไร

ปัญญามากตาก็จะสว่างมาก เห็นได้ชัดมาก
ปัญญาน้อยตาก็จะสว่างน้อย เห็นได้ชัดน้อย
กิเลสจะหลบยากจากผู้มีตาปัญญามาก
แต่กิเลสจะหลบพ้นได้จากผู้มีตาปัญญาน้อย

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/716/34716/blog_entry1/blog/2010-11-06/comment/657116_images/10_1289356889.jpg)

ใจของทุกคนเปรียบเหมือนห้องห้องหนึ่ง
มีของในห้องมาก ก็มีความว่างในห้องน้อย
มีของในห้อง น้อยก็มีความว่างในห้องมาก
จะเปรียบปัญญาเป็นความว่าง กิเลสเป็นของก็ได้
ถ้าต้องการให้ห้องว่างมาก

ก็ต้องพยายามนำของออกจากห้องให้มาก
นั่นก็คือถ้าต้องการให้ปัญญามีมาก
ก็ต้องพยายามถอดถอนกิเลสออกให้มาก
คือใช้ปัญญาที่มีอยู่นั่นเองถอดถอนกิเลสที่มีอยู่ให้น้อยลง

ทันทีที่กิเลสน้อยลงปัญญาจะเพิ่มขึ้น เกิดขึ้นแทนที่กิเลส
เหมือนย้ายของออกนอกห้อง
ทันทีที่ของชิ้นหนึ่งพ้นจากห้องไป
ความว่างจะเพิ่มขึ้น เกิดขึ้นแทนที่ของชิ้นนั้น

(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRoy5y47QhZPtI3V7jfY0558fXTJ3YkDfHB93DSjBYbBPUXyLBU)

ผู้ฝึกอบรมจิตน่าจะพิจารณาให้เห็นความต้องการของตนว่า
ต้องการเป็นผู้มีกิเลสน้อย มีปัญญามากยิ่งกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่
ถ้าต้องการเช่นนั้นก็จำเป็นต้องใช้ปัญญาที่มีอยู่ไม่ว่ามากหรือน้อยเพียงใด
ถอดถอนกิเลสที่มีอยู่ออกให้ได้

ทันทีที่ถอดถอนออกได้ ปัญญาจะเพิ่มขึ้นทันทีแน่นอน
แม้ว่าบางทีเจ้าตัวจะยังไม่ทันรู้สึกถึงความเพิ่มขึ้นของปัญญา
พร้อมกับ ความลดลงของกิเลส แต่ก็จะเพิ่มขึ้นจริง
ก็เหมือนดังเปรียบกับห้องที่มีของและความว่าง นั่นเอง

ลงว่าของลดไปจากห้อง ความว่างจะไม่เพิ่มข้นย่อมเป็นไปไม่ได้
จิตใจของเราทุกคน เปรียบเป็นเช่นนั้นจริง
ของคือความรกของห้อง
กิเลสคือความรกของจิตใจ
ลงว่ากิเลสลดลงจากจิตใจ ปัญญาจะไม่เพิ่มขึ้นย่อมไม่มี

(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSi6tOBC-3elQRr3V0KW6LTz8C7BtwJGoKehOrLSEIPsqwo__SNeg)

ทุกเวลานาทีที่ผ่านไป ห้องที่นำมาเปรียบก็ตาม จิตใจก็ตาม
ต้องมีความเปลี่ยนแปลง มีสิ่งเพิ่มขึ้นและน้อยลงอย่างแน่นอน
ห้องนั้นแม้จะไม่ยกของไปวางเพิ่ม
ฝุ่นละอองก็เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นเองได้

ทำให้ความว่างจากฝุ่นละอองลดน้อยลงได้
จิตใจก็ทำนองเดียวกัน
แม้จะไม่เพิ่มกิเลสอย่างจงใจ แต่กิเลสก็เพิ่มขึ้นเองได้
กลบทับปัญญาที่อยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหว
เหมือนพื้นห้องที่ปราศจากการกวาดถู
ย่อมมีฝุ่นละอองสุมทับอยู่ข้างบนได้

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcS2iTCYwik0WPX7RH9i-niYl_tl22zE8Sbgc0EbOVQ8krejQKnWzA)

ผู้ฝึกอบรมจิตทั้งหลายพึงรอบคอบระวังพื้นจิตใจ
อย่าให้ปัญญาอยู่นิ่งจนกิเลสท่วมทับได้
แต่จงพยายามทำสติ ใช้ปัญญาเท่าที่มีอยู่
ให้เคลื่อนไหวสลัดกิเลสให้หลุดพ้นจนเต็มความสามารถ

กิเลสนั้นถึงอย่างไรก็เอาชนะปัญญาไม่ได้ ต้องพ่ายแพ้ในที่สุด
สำคัญอยู่ที่ว่า จะต้องเข้มแข็งในการใช้ปัญญา
ไม่ว่ากิเลสจะมาในรูปใดต้องไม่อ่อนแอ พ่ายแพ้
โลภก็ตาม โกรธก็ตาม หลงก็ตาม ไม่ว่าจะมาในรูปใด

ต้องมั่นใจในปัญญาของตน
แล้วเพียรพยายามอย่างเข้มแข็งให้ติดต่อกันเอาชนะให้ได้
ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นผู้แพ้
คำว่าเสมอตัวไม่มีสำหรับ กิเลสกับปัญญา

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRH07eHBGPzD6GJRc_tTQRHBYzoIVvAQ5ulUpZveWdIq4xbyTqFyw)
-http://www.oknation.net/blog/times/2010/11/06/entry-5

.