ทุกวันนี้ การไปทำบุญ ตามวัดต่างๆ ต้องพิจารณาให้ดีว่า วัดที่เราไปทำบุญ เป็นวัดที่ดีหรือไม่
หากวัดไหนที่ไม่ดี ก็อย่าไปทำบุญ
เพื่อเป็นการไม่ส่งเสริมพระภิกษุที่ประพฤติผิดวินัยสงฆ์ ซึ่งพระภิกษุเหล่านี้ทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง
.
ผมจะทยอยนำลงให้ได้ทราบกัน
.
รู้จักพระวินัย รู้จักพระ รู้จักอลัชชี
พุทธศาสนา ดำรงอยู่ได้ ด้วยพุทธบริษัททั้งสี่
-http://www.oknation.net/blog/maijea/2010/03/03/entry-1-
อาบัติ คืออะไร
อาบัติ คือกิริยาที่ล่วงละเมิดสิกขาบท และต้องได้รับโทษต่อตน กล่าวโดยชื่ออาบัติมี ๗ อย่าง คือ ๑ ปาราชิก ๒ สังฆาทิเสส ๓ ถุลลัจจัย ๔ ปาจิตตีย์ ๕ ปาฏิเทสนียะ ๖ ทุกกฏ ๗ ทุพภาสิต กล่าวโดยโทษมี ๓ สถานคือ
๑.อาบัติอย่างหนัก ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้นขาดจากความเป็นภิกษุ อันหมายถึงอาบัติปาราชิก
๒.อาบัติอย่างกลาง ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้นต้องอยู่กรรม โดยประพฤติวัตรอย่างหนึ่งเพื่อทรมานตน อันหมายถึงอาบัติสังฆาทิเสส
๓.อาบัติอย่างเบา ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้นต้องประจานตนต่อหน้าภิกษุด้วยกัน แล้วจึงจะพ้นโทษนั้นได้ อันได้แก่อาบัติถุลลัจจัย ปาจิตตีย์ ปาฏิเทสนียะ ทุกกฏ และทุพภาสิต โดยอาบัติ
ปาราชิก โทษประหารชีวิต ของพระภิกษุ
ภิกษุล่วงอาบัติปาราชิกเพียงข้อใดข้อหนึ่งแล้ว ย่อมไม่สามารถอยู่กับภิกษุทั้งหลายเหมือนก่อนได้อีก เป็นปาราชิกหาสังวาสมิได้ แม้จะอุปสมบทอีก ก็ไม่เป็นภิกษุโดยชอบด้วยพระวินัยตลอดชาติ อาบัติในสิกขาบทนี้ จึงเป็น อเตกิจฉา คือแก้ไขไม่ได้ เป็น อนวเสสา คือหาส่วนเหลือมิได้ เป็น มูลเฉท คือตัดรากเหง้า ภิกษุจะล่วงมิได้เลยเด็ดขาด
สิกขาบทที่ ๑ ภิกษุใด ถึงพร้อมซึ่งสิกขาและสาชีพของภิกษุทั้งหลาย แล้วไม่บอกคืนสิกขา ไม่ทำความเป็นผู้ทุรพลให้แจ้ง เสพเมถุนธรรม โดยที่สุดแม้ในสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้
สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุใด ถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้ เป็นส่วนแห่งโจรกรรม จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี ในเพราะถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้เห็นปานใด ภิกษุถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้เห็นปานนั้น แม้ภิกษุนี้ ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้
สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุใด จงใจพรากกายมนุษย์จากชีวิต หรือแสวงหาศัสตราอันจะปลิดชีวิต ให้แก่กายมนุษย์นั้น หรือพรรณนาคุณแห่งความตาย หรือชักชวนเพื่ออันตาย โดยหลายนัย แม้ภิกษุนี้ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้
สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุใด ไม่รู้เฉพาะ [คือไม่รู้จริง] กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้ามาในตน อันผู้ใดผู้หนึ่งถือเอาตามก็ตาม ไม่ถือเอาตามก็ตาม [คือเชื่อก็ตาม ไม่เชื่อก็ตาม ถูกซักถามก็ตาม ไม่ถูกซักถามก็ตาม] เป็นอันต้องอาบัติแล้ว แม้ภิกษุนี้ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้ เว้นไว้แต่สำคัญว่าได้บรรลุ
ร้อง ป.ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรตหลอกทำเสน่ห์
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 16 พฤษภาคม 2557 16:39 น.
-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000054460-
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000005631401.JPEG)
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000005631402.JPEG)
ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร้องกองปราบฯ ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรต ย่านรามคำแหง หลอกผู้หญิงทำเสน่ห์
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสำนักทำไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ของอาจารย์พรต หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผู้หญิงกว่า 20 รายว่าได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล โดยนายสงกานต์ได้นำภาพถ่ายของ อาจารย์พรตขณะกำลังทำพิธีเสริมเสน่ห์ให้แก่หญิงสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมามอบไว้เป็นหลักฐาน
นายสงกานต์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับข้อมูลว่าอาจารย์พรตเป็นหมอทำพิธีทางไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ โดยมีการจำหน่ายเครื่องรางของขลังต่างๆ ในหน้าเฟซบุ๊ก ชื่อ “ศูนย์พระเครื่อง พรปู่เจ้า” เช่น รูปปั้นแม่ (อี)เป๋อ ไอ้งั่ง น้ำมันพราย กระดูกผีตายโหง เป็นต้น ซึ่งราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,000-40,000 บาท ส่วนค่าทำพิธีมหาเสน่ห์นั้น ราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้รับข้อมูลจากสำนักข่าวต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ ว่าอาจารย์พรตได้ไปตั้งสำนักและรับทำพิธีดังกล่าวในต่างประเทศ พร้อมทั้งได้ส่งภาพขณะที่กำลังทำพิธีมาให้เป็นข้อมูล เนื่องจากในการทำพิธีนั้นมีการนำเครื่องรางที่เรียกกันว่าไอ้งั่งมาวางบนหน้าอกและอวัยวะเพศหญิง เพื่อทำพิธี ถือว่าเป็นการทำอนาจาร
นายสงกานต์กล่าวต่อว่า สำนักของอาจารย์พรตมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยนั้นเปิดอยู่ย่านรามคำแหง อีกทั้งยังมีร้านที่ขายเครื่องรางตั้งอยู่ในห้างดังย่านลาดพร้าวอีกด้วย ทั้งนี้ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหายประมาณ 20 คน ทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล แสดงให้เห็นว่าอาจารย์พรตมีการหลอกลวงผู้ซื้อ อย่างไรก็ดี ทางผู้เสียหายจะเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินคดีต่ออาจารย์พรตในวันข้างหน้านี้
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า หลังจากนนี้จะนำหลักฐานที่ได้มาส่งไปให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นหากตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงประชาชน ส่วนหากมีข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมก็จะเพิ่มข้อหาต่อไป
แชร์ว่อน คลิปพระเปิดเพลงหมอลำ แดนซ์กระจาย
-http://hilight.kapook.com/view/103090-
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc5/mon.jpg)
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Show Clip
โลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก แชร์ว่อน คลิปพระสงฆ์ 2 รูป ร้องเพลงและเต้นตามจังหวะเพลงหมอลำด้วยความสนุกสนาน ชาวเน็ตวิจารณ์ ไม่สมควรได้รับการกราบไหว้ ทำศาสนาเสื่อม
วันนี้ (1 มิถุนายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังมีการแชร์คลิปที่มีชื่อว่า "ช่วยกันแชร์หน่อยครับ แบบนี้ไม่เหมาะสม !!" ซึ่งคลิปดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง Show Clip เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยในคลิปปรากฎภาพของพระสงฆ์ 2 รูป ที่กำลังร้องเพลงและเต้นตามจังหวะเพลงหมอลำอย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งดื่มสุราไปด้วย
ทั้งนี้ จากการโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิมากมาย อาทิเช่น พระสงฆ์แบบนี้ไม่สมควรได้รับการกราบไหว้ พร้อมทั้งขอให้สึกจากการเป็นพระ ในขณะที่บางความคิดเห็นได้ต่อว่าแอดมินเพจ Show Clip ว่า ถึงจะไม่เหมาะสมก็ไม่ควรแชร์ต่อ เพราะพระดี ๆ ก็มีเยอะ การแชร์ต่อจะทำให้ศาสนาเสื่อม ทำให้คนกล้าไปทำบุญน้อยลง
https://www.facebook.com/photo.php?v=480005315467487 (https://www.facebook.com/photo.php?v=480005315467487)
http://on.fb.me/1oEK58A (http://on.fb.me/1oEK58A)
คลิป บวชทำไม แบบนี้อย่าบวชเลย แชร์ให้ดัง !!! โพสต์โดย เฟซบุ๊ก Show Clip
:: ช่วยกันแชร์หน่อยครับ แบบนี้ไม่เหมาะสม !! ::
ที่มา : http://on.fb.me/1oEK58A (http://on.fb.me/1oEK58A)
รวบเจ้าอาวาส 5 วัดดัง ระเริงกามเด็กชาย ของลามกเพียบ
-http://hilight.kapook.com/view/102821-
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc5/27-5-2557-13-00-15.jpg.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/pree/ee/pp_6.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc5/27-5-2557-12-58-45.jpg.jpg)
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์, ข่าวสด
รวบเจ้าอาวาส 5 วัดดัง ระเริงกามเด็กชายหลายคน ทำเป็นขบวนการค้ามนุษย์ มีพระลูกวัดเป็นนกต่อ ลวงเด็กชายมาเสพเมถุน ได้ค่าจ้าง 300-500 บาท ตรวจค้นกุฏิพบของกลางเป็นของลามกเพียบ ทั้งเจล อวัยวะเพศชายปลอม ซีดีโป๊
วันนี้ (27 พฤษภาคม 2557) พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 แถลงข่าวการจับกุมแก๊งเจ้าอาวาสวัดชื่อดังใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน จำนวน 5 ราย ดังนี้..
พระธีรเดช สีลธโร
พระเสาร์แก้ว เกี๋ยวหล้า
พระครูปลัดเปี๊ยก โอภาโส
พระจำรัส อธิมุตโต
พระครูประภัศร์ วรการ วัชระ พุดเกิด
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำหมายจับคดีกระทำชำเราหรือกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และข้อหาค้ามนุษย์ กระจายกำลังเข้าจับกุมตามวัดต่าง ๆ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากเด็กอายุ 15 ปี ว่าตนเองและเพื่อนอีกหลายคนถูก พระดำ หรือ นายธวัชชัย มูลปานัน หลอกให้ไปพบกับ พระธีรเดช สีลธโร เจ้าอาวาส จากนั้นเจ้าอาวาสก็ข่มขืนกระทำชำเราในโฮมสเตย์แห่งหนึ่ง ใน อ.แม่ริม จ.ลำพูน ก่อนที่จะมอบเงินให้จำนวน 300 บาท
ต่อจากนั้น พระดำ ก็ลวงเด็กชายคนอื่น ๆ ไปค้ากามให้กับเจ้าอาวาสตามวัดต่าง ๆ ใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน โดยพระธวัชชัยรับหน้าที่เป็นนายหน้า ได้รับเงินครั้งละ 300-500 บาท ซึ่งภายหลังเด็กชายผู้เสียหายได้หลบหนีออกมาได้ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รวบเจ้าอาวาส 5 วัดดัง ระเริงกามเด็กชาย ของลามกเพียบ
ด้านเจ้าหน้าที่ขยายผลการติดตาม พบว่ามีเด็กชายตกเป็นผู้เสียหายทั้งหมด 8 คน จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับ โดยคนแรกคือ พระดำ ต่อจากนั้นก็ขออนุมัติหมายจับเจ้าอาวาสอีก 5 รูป และเมื่อค้นภายในกุฏิ พบของกลางจำนวนมาก ทั้งซีดีลามก วัตถุลามก อวัยวะเพศชายเทียม ขวดสุรา เจลหล่อลื่น และอุปกรณ์จัดปาร์ตี้ในกุฏินับร้อยชิ้น รวมทั้งอาวุธปืนยาวติดลำกล้องและมีดพก ก่อนถูกจับสึกและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ ยังเชื่อว่ามีพระภิกษุหลายรายมีพฤติกรรมเสพเมถุนและค้ามนุษย์อีกมากมาย จึงอยากจะขอความร่วมมือให้กับประชาชนที่ทราบข้อมูลและเบาะแสมายังตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อนำไปสู่การจับกุมและทลายเครือข่ายโดยเร็วที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก -http://news.springnewstv.tv/48580/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%AA-5-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2-15-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B3-
ภาพพระสงฆ์หมอบกราบ ชายอ้างตัวเป็นร่างทรงพระพุทธเจ้า
-http://hilight.kapook.com/view/105402-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ร้องทุกข์ดอทคอม
แชร์ว่อน ! ภาพพระสงฆ์หมอบกราบ ชายชุดขาวอ้างตัวเป็นร่างทรงพระพุทธเจ้า โดยนั่งอยู่บนแท่นสูงพร้อมเครื่องบูชาล้อมรอบให้คนมากราบไหว้
เป็นภาพที่ถูกส่งต่อกันอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว สำหรับภาพของพระสงฆ์หลายรูปหมอบกราบชายชุดขาว ที่อ้างว่า เป็นร่างทรงของพระพุทธเจ้า !
โดยภาพดังกล่าวนั้นถูกเผยแพร่ที่ เว็บไซต์ร้องทุกข์ดอทคอม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาพชุดของกลุ่มพระสงฆ์ที่ก้มลงกราบชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีขาว นั่งอยู่บนแท่นสูงสีทอง ล้อมรอบไปด้วยพานเครื่องเซ่นบูชามากมายเลยทีเดียว โดยมีการอ้างว่า ชายคนนั้นเป็นร่างทรงของพระพุทธเจ้า ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่ภาพเก่าแต่เป็นเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงอยากให้คนในสังคมช่วยเป็นหูเป็นตาว่าสถานที่ประกอบพิธีกรรมนี้คือที่ใด เพื่อป้องกันการหลอกลวงประชาชนโดยอาศัยความเชื่อ
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/settawoot/10556485_10201260098143965_4941829258323263433_n.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/settawoot/10513309_659064410838355_1042891005561454850_n.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/settawoot/936074_659064457505017_4031108659534654247_n.jpg)
-------------------------------------------------------------------------------
รับไม่ได้เลย นี่คือ "การปรามาสผู้มีธรรมอย่างร้ายแรง"
.
ชาวเน็ตระอา! พระโชว์เสพยาคาผ้าเหลือง ตร.รู้ตัวแล้ว
-http://news.sanook.com/1650957/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%95%E0%B8%A3.%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7/-
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(18 ส.ค.) จากกรณีที่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กเผยแพร่คลิปวิดีโอชื่อว่า "พระกาฬสินธุ์เสพยาบ้า" เป็นภาพชายคล้ายพระสงฆ์กำลังเสพยาชนิดหนึ่งอยู่ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมอย่างหนัก ล่าสุดพบแล้วว่าเป็นพระที่อยู่วัดแห่งใด เชื่อปล่อยคลิปเพราะไม่พอใจเจ้าอาวาสวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีคลิปชายคล้ายพระเสพยา นายบัณฑิต ชนะกาญจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ชี้แจงว่า คลิปภาพดังกล่าวคือพระสงฆ์จริง เป็นพระลูกวัดที่วัดชัยสมุทร อ.เมืองกาฬสินธุ์ ล่าสุด ทางเจ้าอาวาสวัดได้สั่งขับไล่ออกไปแล้วเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน
ขณะที่รายละเอียดอื่นๆ ทราบว่า คลิปดังกล่าวมีการบันทึกเอาไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งเจ้าอาวาสวัดทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้เรียกพระลูกวัดมาว่ากล่าวตักเตือน เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผิดวินัยสงฆ์ชั้นต้น แต่ปรากฏว่าพระลูกวัดยังคงมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่เช่นเติม จนว่ากล่าวตักเตือนไม่ไหวและตัดสินใจขับไล่ออกจากวัดไปในที่สุด
ทั้งนี้ ทางสำนักงานพระพุทธฯ เชื่อว่า คลิปภาพที่หลุดเผยแพร่ออกมาดังกล่าว น่าจะถูกปล่อยออกมาเพื่อดิสเครดิตเจ้าอาวาสวัด เนื่องจากไม่พอใจที่โดนขับไล่ออกจากวัด ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว อดีตพระอุเทน ไชยสุด อายุ 24 ปี อดีตพระสมศักดิ์ คำเนตร อายุ 36 ปี และ อดีตพระอรัญ ดลอารมณ์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว โดย อดีตพระอุเทน เป็นผู้ถ่ายคลิปและนำไปเผยแพร่ หลังถูกขับออกจากวัดชัยสมุทรและไปจำวัดอยู่ที่วัดป่าบึงอร่าม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบกัญชาแห้ง น้ำหนัก 0.70 กรัม อยู่ภายในกุฏิด้วย
(http://pe1.isanook.com/ns/0/ud/330/1650957/news04-1.jpg)
.
หลวงปู่เณรคำยังอยู่ดี เพจ CSI แฉภาพล่าสุดที่อเมริกา
-http://hilight.kapook.com/view/111328-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก CSI LA
หลวงปู่เณรคำ ยังสบายดี ไม่ได้หนีไปไหน เพจ CSI LA แฉภาพล่าสุดจากอเมริกา ญาติโยมยังร่วมทำบุญ ถาม DSI ทำอะไรอยู่
หากยังจำกันได้เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา เรื่องราวมหากาพย์ของหลวงปู่เณรคำ หรือพระวิรพล ฉัตติโก หรือ พระเณรคำ ฉัตติโก แห่งสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง ไล่เรียงมาตั้งแต่นั่งเครื่องบินส่วนตัว ซุกเงินจำนวนมหาศาล และยังเคยเสพสีกากับหญิงสาวจนมีลูกด้วยกัน ทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ต้องเข้ามาตรวจสอบ และเป็นเหตุให้ พระวิรพล เดินทางหลบหนีไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาโดยไม่กลับมาเมืองไทยอีกเลย กระทั่งเรื่องเงียบหายไป
แต่ล่าสุดวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2557) ในเฟซบุ๊ก CSI LA ได้โพสต์ภาพล่าสุดของหลวงปู่เณรคำที่พักอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และยังคงมีญาติโยมเดินทางมาทำบุญอย่างต่อเนื่อง โดยระบุข้อความว่า
"ภาพล่าสุดจากเมกา หลวงปู่เณรคำยังสบายดีที่อเมริกา ไม่ได้หนีไปไหน DSI ของไทยทำงานหนักมาก ๆ เลยนะครับ"
"Latest picture from the USA. Nenkum is still doing very well in Southern California. He is not running away. What is DSI doing ? Are you just a paper tiger ?"
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/hitnews/984254_739128949498166_7297365249982729149_n.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/hitnews/CSI.jpg)
.