ใต้ร่มธรรม

ริมระเบียงรับลมโชย => รับสายลมเย็นหน้าระเบียง => ข้อความที่เริ่มโดย: sithiphong ที่ มิถุนายน 09, 2013, 04:23:24 pm

หัวข้อ: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ มิถุนายน 09, 2013, 04:23:24 pm
กระทู้นี้ ขอรวบรวมผู้ที่กระทำคุณงามความดี  ทุกๆท่าน

ขอยกย่อง ชมเชย และ ให้กำลังใจทุกๆท่านที่ได้ทำคุณงามความดี ครับ

 :07:  :07:  :07:  :07:  :07:

 :13:  :13:  :13:  :13:  :13:
.
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ มิถุนายน 09, 2013, 04:24:22 pm
2 พี่น้องเชียงราย พบเงินครึ่งแสนตามหาเจ้าของ
-http://news.sanook.com/1190485/2-%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87/-


(http://p3.s1sf.com/ns/0/ud/238/1190485/news04-1.jpg)

สองพี่น้องเชียงราย พบเงินกว่าครึ่งแสน ระหว่างรอแม่ออกกำลัง นำส่งตำรวจตามหาเจ้าของ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย มีเด็กนักเรียนเก็บเงินได้กว่า 50,000 บาท และนำส่งตำรวจ ทราบชื่อคือ ด.ญ.สมิตานันท์ นัยติ๊บ อายุ 11 ปี เรียนอยู่โรงเรียนอนุบาลญาเม็งราย ป.6 และ ด.ช.ศุภวิชญ์ คล้ายเดช อายุ 10 ปี เรียนอยู่โรงเรียนสันสะลีกวิทยา ป.5 ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ด.ญ.สมิตานันท์ กล่าวว่า ระหว่างนั่งเล่นกับน้อง บริเวณศาลาหน้าที่ว่าการอำเภอพญาเม็งราย พบซองสีน้ำตาลวางอยู่ จากนั้นก็เปิดออกดู ปรากฏว่าด้านในเป็นเงินสดจำนวนมาก ซึ่งตนก็ไม่รู้เท่าไหร่ เพราะไม่ได้เอาออกมานับ จึงปรึกษากับน้องว่าจะทำอย่างไร เพราะแม่กำลังออกกำลังกาย จึงได้ตัดสินใจที่เดินไปบอกตำรวจสายตรวจ 191 ที่กำลังเข้าเวรบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพญาเม็งราย ว่าพบเงิน

จากนั้น ร.ต.ต.นวิทธิวัฒน์ มาริรมย์ รอง สวป.สภ.พญาเม็งราย และ ด.ต.กิติพงษ์ จันทาพูน ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม มาถึงก็ทำการตรวจนับเงิน พบว่า ด้านในมีเงิน 54,730 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 54 ใบ และธนบัตร 500 บาท จำนวน 1 ใบ และธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 2 ใบ ที่เหลือก็เป็นใบ 20 บาท และเหรียญ 10 บาท จึงได้นำเด็ก 2 คน ไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่ามีเด็กพบเงินสดและนำส่งเจ้าที่ตำรวจ สภ.พญาเม็งราย


หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ มิถุนายน 15, 2013, 08:39:54 pm
ชาวเน็ตยกย่อง สาวจีนใจกล้า กระโดดลงช่วยชีวิตเด็กในสระบัว
-http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/jumjim/16579147.jpg-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/jumjim/16579147.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/jumjim/16579148.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/jumjim/16579149.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            ชาวเน็ตยกย่อง สาวช่วยชีวิตเด็กจมสระบัวในเมืองซีอาน ประเทศจีน โดยที่ไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเอง

            การช่วยชีวิตใครสักคนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มหาศาล โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกิดกับหญิงสาวชาวจีนคนหนึ่ง ที่ลงทุนกระโดดลงไปช่วยชีวิตเด็กให้ขึ้นมาจากสระบัวอย่างไม่คิดชีวิตของตนเอง ท่ามกลางความหวั่นวิตกของคุณปู่คุณย่าที่อยู่ในภาวะตกใจสุดขีด แต่โชคดีที่ทั้งเธอและเด็กน้อย ต่างรอดชีวิตด้วยกันมาทั้งคู่

            ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2556 โดยนายจางเจิ้งเสียง อายุ 68 ปี พร้อมด้วยภรรยาของเขา ได้พาหลานวัย 6 ขวบ ไปเที่ยวที่สวนพฤกษศาสตร์ เมืองซีอาน ประเทศจีน โดยในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการถ่ายรูปและชื่นชมธรรมชาติอยู่นั้น ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาว่า "มีคนจมน้ำ" แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง รีบกระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยเหลือเด็กทันที จากนั้นเธอจึงพาเด็กขึ้นมาข้างบนได้ทันเวลา ก่อนที่เด็กน้อยผู้เคราะห์ร้ายจะจมน้ำไปเสียก่อน

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/jumjim/16579150.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/jumjim/16579151.jpg)


            ด้านคุณปู่คุณย่านั้น ก็ได้แต่ยืนมองหลานอยู่ไกล ๆ เนื่องจากตกใจทำอะไรไม่ถูก ซึ่งคาดว่า การที่เด็กตกลงไปในสระบัวได้ ก็เป็นเพราะไปเดินเล่นบนหินที่เป็นทางที่พาดสระ แต่ด้วยความที่ไม่ระวังจึงทำให้เด็กตกลงไปในสระและเกือบจมน้ำ โชคดีที่หญิงสาวคนนั้นได้ช่วยเหลือทันท่วงที

            หลังจากที่เด็กน้อยปลอดภัยจากอันตราย คุณปู่คุณย่าก็รีบเข้ามาอุ้มหลานเพื่อไปปลอบขวัญทันที พร้อมกับสอบถามชื่อของหญิงสาวผู้กล้าหาญคนนี้ไป เธอก็ตอบไปเพียงว่า เธอชื่อเฉา เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยส่านซีในเมืองซีอาน



หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กรกฎาคม 06, 2013, 07:52:17 pm
สองแถวพัทยาน้ำใจงาม เก็บเงินกว่า 2 แสน คืนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น
-http://hilight.kapook.com/view/88236-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/ETC/baa5b2567aff57591e878aac085.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์

          นายนคร ศรีนพ โชว์เฟอร์รถสองแถวพัทยาน้ำใจงาม เก็บกระเป๋าสะพายพร้อมทรัพย์สินมูลค่า 200,000 บาทส่งคืนผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น ด้านชาวญี่ปุ่นปลื้มใจมอบเงินตอบแทนน้ำใจ 10,000 บาท

          เมื่อเวลา 12.00 น ของวานนี้ (5 กรกฎาคม 2556) มีรายงานว่า นายนคร ศรีนพ คนขับรถสองแถว ในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้เก็บกระเป๋าสะพายบนรถของตัวเองได้และนำมาส่งให้กับสำนักงานสหกรณ์เดินรถพัทยา เพื่อหาเจ้าของที่แท้จริง ภายหลังได้ตรวจสอบเอกสารภายในกระเป๋า พบว่ามีหนังสือเดินทางของ นายทาดะสุกุ ซูสุกิ ชาวญี่ปุ่น ซึ่งภายในมีทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ได้แก่

          ธนบัตร 10 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 31 ใบ
          ธนบัตร 1 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 8 ใบ
          ธนบัตร 10,000 เยน จำนวน 24 ใบ
          ธนบัตร 1,000 เยน จำนวน 4 ใบ
          กล้องถ่ายรูป 1 เครื่อง
          โทรศัพท์ 1 เครื่อง

          โดย นายนคร  เล่าว่า ตนรับนายทาดะสุกุ พร้อมเพื่อนอีก 1 คน จากที่พัทยาใต้ ไปส่งที่ท่ารถรุ่งเรืองพัทยาเหนือ หลังถึงปลายทาง ตนได้ขับรถออกมาและกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ เมื่อตนลงจากรถพบว่ามีกระเป๋าสะพายข้างตกอยู่ จึงรีบนำส่งที่สำนักงานสหกรณ์เดินรถพัทยาทันที เพื่อให้หาเจ้าของกระเป๋าดังกล่าว เพราะเกรงว่าเจ้าของกระเป๋าจะไม่มีเอกสารสำหรับเดินทางและเงินใช้จ่าย

          ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดต่อโดยเจ้าของให้มารับกระเป๋าคืน โดยนายทาดะสุกุ ได้ตรงเข้าสวมกอดนายนคร พร้อมแสดงความขอบคุณคนขับรถสองแถว และได้มอบเงินรางวัลตอบแทนน้ำใจของนายนคร ประมาณ 10,000 บาท



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

-http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-

-http://news.springnewstv.tv/31870/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2-2-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-

.
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กรกฎาคม 06, 2013, 08:26:08 pm
ข้าวก้นบาตร ลดอาชญากรรม
-http://www.dailynews.co.th/article/440/216508-
วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2556 เวลา 12:00 น.

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/216508.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/216508/1.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/216508/2.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/216508/3.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/216508/4.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/216508/5.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/216508/6.jpg)

บิณฑบาตรอาหารกลางวัน (http://www.youtube.com/watch?v=OhYng0DgE6A#)
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=OhYng0DgE6A-


ท่ามกลางกระแสข่าว กระเทือนความศรัทธา กับวงการต่างๆ ทั้งตำรวจกลายเป็นโจร  พระสงฆ์ที่ปฏิบัติตนไม่สมสมณเพศ ที่มีแทบไม่เว้นแต่ละวันก็ยังมีคนที่พร้อมจะทำประโยชน์แก่สังคม เป็นการยืนยันว่า ถึงอย่างไร เมืองไทยก็ไม่สิ้นคนดี

ความเพียรเพื่อสร้างเครือข่ายความดี ที่ปรากฏ ขึ้นในจุดเล็กๆของเมืองใหญ่ โดยนายตำรวจท่านหนึ่ง พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ซึ่งมีประสบการณ์ชีวิตช่วงบวชเรียน พบว่า อาหารจากการทำบุญ เหลือทิ้งขว้าง น่าเสียดาย จึงคิดหาวิธี นำไปแบ่งแก่คนยากไร้ ครั้นเมื่อกลับสู่อาชีพตำรวจ จนมีตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจ จึงนำความคิดนั้น มาต่อยอดเป็น "โครงการบิณฑบาตอาหารกลางวัน" โดยพ.ต.อ.ชยุต ซึ่งปัจจุบันเป็น ผกก.สน.บางเขน บอกว่าเป็นโครงการที่ทำมาตั้งแต่ปี 2553 ครั้งยังเป็นผู้กำกับอยู่สน.สามเสน เมื่อย้ายมาอยู่ สน.บางเขนก็ยังนำมาสานต่อด้วย

ผู้เขียน ได้มีโอกาสติดตามการทำโครงการอย่างใกล้ชิด โดยขึ้นรถตำรวจไปรับอาหารด้วย เริ่มตั้งแต่ สน.บางเขน จุดแรกไปที่ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต  ถ.รามอินทรา ก.ม.5 เมื่อไปถึงวัด ซึ่งทราบเวลาว่าจะมีตำรวจมารับกับข้าว อาหารที่พระสงฆ์แบ่งไว้ เป็นประจำทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ก็จัดรอ ไว้พร้อม

แม่ชีที่ท่านดูแลการคัดแยกอาหารทั้งคาวหวานและผลไม้ ช่วยกันยกมาเป็นเข่งใหญ่ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บอกวันนี้มีน้อย ปกติมากกว่านี้

หลังจากได้ของมาครบทุกวัด รถปิกอัพตราโล่ 3 คัน ก็มาเจอกันที่โรงเรียนบางบัว (เพ่งตั้งตรงจิตรวิทยาคาร) ซึ่งคุณครูจัดโต๊ะไว้รออยู่แล้ว ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาจัดแบ่งอาหารแยกตามประเภท เมื่อถึงเวลาเด็กตัวเล็กๆเริ่มเดินมาต่อแถวชะโงกมองด้วยความตื่นเต้น พอคุณครูให้สัญญาณก็รีบวิ่งเข้ามาต่อแถว เลือกหยิบอาหารและขนมด้วยสีหน้ายิ้มดีใจ พากันไปทานอาหารที่โต๊ะด้วยอารมณ์เบิกบาน

ปัจจุบันมีวัดเข้าร่วมโครงการถึง 5 วัด ประกอบด้วย วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร, วัดบางบัว, วัดไตรรัตนาราม, วัดราษฎร์นิยมธรรม (วัดหนองผักชี) และวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ซึ่งจะมอบให้เด็กนักเรียน4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบางบัว, โรงเรียนวัดราษฎรนิยมธรรม,โรงเรียนประชาภิบาล และล่าสุดโรงเรียนบ้านคลองบัว ทุกวันจันทร์ พุธ และวันศุกร์ หมุนเวียนกันไป

“ผมไม่ได้อยากเด่นดัง ทำเพราะรู้สึกปิติกับการให้ และจะทำต่อไปเรื่อยๆ ย้ายไปโรงพักอื่นหรือได้เลื่อนตำแหน่งก็จะทำต่อ ที่ผ่านมามีแต่ประชาชนชอบบอกอย่าเลิกทำ ทางวัดก็สนับสนุน ถือเป็นการทำบุญ และยังช่วยลด-ป้องกันอาชญากรรม เพราะเด็กรวมถึงพ่อแม่เกิดความละอายใจที่จะทำผิด สำนึกในคำสอนพุทธศาสนา ลบทัศนคติไม่ดีต่อตำรวจ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน-ตำรวจ-วัด-โรงเรียน”

ครูศิริลักษณ์ วัฒนจินดา ผู้ประสานงานโครงการบิณฑบาตอาหารกลางวัน กล่าวว่าเด็กๆ ดีใจกันมาก โครงการนี้ช่วยเด็กที่ขาดแคลนฐานะยากจน ให้มีข้าวกินอิ่ม ทั้งยังนำไปให้ครอบครัวที่บ้านเป็นการลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองได้ส่วนนึง และเมื่อเด็กได้รับอาหารครูจะย้ำว่าได้ข้าวจากการทำบุญต้องทำแต่ความดีเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องศาสนาลดปัญหาอาชญากรรม จำนวนนักเรียนที่มารับครั้งละประมาน 200 คน ซึ่งช่วยได้มาก เพราะถึงจะมีอาหารกลางวันที่รัฐจัดให้แล้ว แต่ได้ส่วนนี้มาเสริมให้เด็กๆอิ่มท้องมากขึ้น

เรื่องแบบนี้ ใครเห็น ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องดี เพราะนอกจากเป็นการแบ่งปัน แจกจ่ายอาหารที่ได้จากการทำกุศล ช่วยบรรเทาภาระกับเด็กและครอบครัว ซึ่งจะเป็นส่วนให้เด็กนักเรียน จดจำไปจนโตว่า เขาเติบใหญ่ขึ้นมาด้วยความเมตตาจากพระในพุทธศาสนา ได้ความเอื้ออาทรของชุมชน รอบข้าง ซึ่งจะเป็นช่วยเสริมสร้างให้เขามั่นคงอยู่กับความดี.
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กรกฎาคม 07, 2013, 07:23:52 am
ลูกกตัญญู ! เด็กชายลูกครึ่งเกาหลีขายจิ้งหรีด เลี้ยงดูแม่พิการ
-http://hilight.kapook.com/view/88175-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc2/1002397_543753605660484_141372027_n.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก krobkruakao3

            เด็กชายลูกครึ่งเกาหลีวัย 8 ขวบ สุดกตัญญูขายจิ้งหรีด-ทำงานบ้านแทนแม่นอนป่วยพิการ หลังพ่อชาวเกาหลีทิ้งครอบครัวกลับประเทศ

            เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบเด็กชายลูกครึ่งเกาหลีวัย 8 ขวบ ลูกกตัญญู ได้จับจิ้งหรีดขายเพื่อเลี้ยงดูแม่ที่นอนป่วยพิการอยู่ที่บ้าน จ.ชัยภูมิ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

            โดยที่บ้านพบ ด.ช.ภทรพล เฉิน อายุ 8 ปี และแม่ที่นอนป่วยอยู่บนเตียงโดยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดย แม่ของ ด.ช.ภทรพล เล่าว่า ตนประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้ แต่ก็มีลูกชายที่คอยดูแลรับผิดชอบทำงานในบ้านเองทั้งหมด ตอนเช้าไปโรงเรียน ตอนเที่ยงจะวิ่งกลับมาป้อนข้าวตนและเช็ดตัวให้ ก่อนจะวิ่งกลับไปเรียนที่โรงเรียน นอกจากนี้ลูกยังหาเงินเองด้วยการเลี้ยงจิ้งหรีดขายหารายได้มาดูแลครอบครัว โดยอาทิตย์หนึ่งก็จะมีรายได้ประมาณ 500-600 บาท คนในหมู่บ้านรวมถึงละแวกใกล้เคียงที่ทราบข่าวก็มีแวะมาเยี่ยมเยียนและซื้อจิ้งหรีดด้วย ส่วนสามีชาวเกาหลีหลังจากที่ตนประสบอุบัติเหตุ เขาก็กลับประเทศไปเลย


ดช.ลูกครึ่งเกาหลี 8 ขวบ ขายจิ้งหรีด เลี้ยงแม่พิการ (http://www.youtube.com/watch?v=rSMT4OFT6FA#)

ดช.ลูกครึ่งเกาหลี 8 ขวบ ขายจิ้งหรีด เลี้ยงแม่พิการ (http://www.youtube.com/watch?v=rSMT4OFT6FA#)

-http://www.youtube.com/watch?v=rSMT4OFT6FA-
คลิป ดช.ลูกครึ่งเกาหลี 8 ขวบ ขายจิ้งหรีด เลี้ยงแม่พิการ : เครดิต รายการครอบครัวข่าวเช้า โพสต์โดย คุณ CiNNtv3
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กรกฎาคม 14, 2013, 11:37:11 am
ชมคลิปอาม่าออกมวยจีน สอยคนร้ายล้มด้วยหมัดเดียวเท่านั้น
-http://hilight.kapook.com/view/88564-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/mueanphae/punch.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ onlinenewsvideostv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          โป้งเดียวจอด ! อาม่าโชว์ลีลามวยจีน สอยคนร้ายที่วิ่งหนีตำรวจลงไปกองกับพื้นได้ด้วยหมัดเดียวเท่านั้น

          เป็นอีกหนึ่งคลิปที่ทำให้เราได้รู้ซึ้งได้เลยว่า ไม่ว่าใครก็อย่าได้ริมองว่าผู้สูงวัยนั้นเชื่องช้าและไร้เรี่ยวแรงเลยเชียว เมื่ออาม่ารายหนึ่งได้จัดการสอยหัวขโมยวิ่งราวในสถานีรถไฟลงไปกองกับพื้นได้อย่างรวดเร็วด้วยการออกหมัดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จนใคร ๆ ต่างก็ทึ่งกับฝีมือของอาม่า

          โดยจากคลิป ที่ผู้ใช้ชื่อ onlinenewsvideostv นำมาเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูบเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น เราจะได้พบภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสถานีรถไฟของเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานีรถไฟกำลังวิ่งไล่จับชายคนร้ายที่น่าจะก่อเหตุโจรฉกชิงวิ่งราวมาอย่างสุดฝีเท้า และในตอนที่คนร้ายกำลังวิ่งตรงมายังอามานั้นเอง อาม่าผู้นี้ก็ออกหมัดสวนเข้าที่ใบหน้าของคนร้ายเข้าให้ จนคนร้ายล้มลงไปนอนกองกับพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงรีบเข้ามาตะครุบตัวคนร้ายไว้ได้ในที่สุด

          เห็นแล้วต้องขอยกนิ้วให้อาม่าเลยล่ะจ้า


Grandma punches robber to ground for others to catch him in train station (http://www.youtube.com/watch?v=t0xkX5di57k#)
คลิป Grandma punches robber to ground for others to catch him in train station โพสต์โดย คุณ onlinenewsvideostv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

Grandma punches robber to ground for others to catch him in train station (http://www.youtube.com/watch?v=t0xkX5di57k#)
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=t0xkX5di57k-

.

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 02, 2013, 10:22:30 pm
ครูมด ไพรวัลย์ ยาปัญ ผู้สานสร้างความฝันให้เด็ก ๆ ในดงไพร
-http://hilight.kapook.com/view/89251-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/apakorn/1.jpg)



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคนค้นฅน

          คำว่า "ครู" ในความเข้าใจของคนทั่วไป อาจจะหมายถึงบุคคลที่ให้ความรู้ ให้การศึกษา แต่ถ้าไปถามผู้ชายวัยสามสิบต้น ๆ อย่าง "ไพรวัลย์ ยาปัญ" หรือ "ครูมด" คำตอบที่ได้นั้นน่าจะรวมถึงการให้โอกาส และเติมความฝันให้กับเด็ก ๆ อย่างเต็มกำลังเท่าที่ตัวเองจะทำได้

          หากถามว่าโอกาสที่ว่านี้หมายถึงอะไร ก็ต้องตาม "ครูมด" เข้าไปในหมู่บ้านไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ดินแดนทุรกันดารที่ต้องเดินข้ามเขากว่า 20 กิโลเมตร ใครจะเชื่อว่าดินแดนไกลโพ้นเช่นนี้ เป็นจุดหมายปลายทางของ "ครูมด" ที่เสาะแสวงดั้นด้นเข้ามาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เพื่อจะมาเป็นครูอาสาให้กับเด็ก ๆ ชายขอบ ด้วยหัวใจและศรัทธาต่อหน้าที่ครู

          การสอนของครูมดนั้น หาใช่พร่ำสอนแต่หลักสูตรที่กำหนด เพราะเขาเล็งเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่เด็ก ๆ ต้องเรียนรู้ก็คือ ต้องรู้จักตัวเอง และรู้จักชุมชน ครูจึงเชิญชาวบ้านมาร่วมสอนวิถีชีวิตแบบชาวปกาเกอะญอให้เด็ก ๆ ได้เรียนทั้งภาษา วัฒนธรรม และสิ่งอื่น ๆ ที่ทำให้เด็ก ๆ ไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง

          และเมื่อเด็ก ๆ เรียนจบชั้น ป.6 พวกเขากลับไม่สามารถเรียนต่อได้ เพราะที่บ้านยากจน ครูมดก็ไม่อาจนิ่งเฉยต่อความฝันของพวกเขา ครูตัดสินใจใช้เงินส่วนตัวและขอรับบริจาคจากผู้ใจบุญส่งพวกเด็ก ๆ ไปเรียนต่อในเมือง ครูสู้ทุกวิถีทางเพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนหนังสือ ทั้งพาไปสมัครเรียน หาข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวให้ ดูแลไม่ต่างจากพ่อแม่คนที่สอง จนปัจจุบันครูมดส่งเด็ก ๆ ไปเรียนต่อในเมืองแล้วกว่า 50 คน

          เรื่องราวของครูมด คงไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องราวของเรือจ้างคนหนึ่งที่พาศิษย์ไปส่งถึงฝั่ง แต่ยังเป็นดวงประทีปที่ส่องแสงให้เด็ก ๆ ในวันที่ความฝันมืดบอด เพราะสิ่งที่เขาต้องการเห็นก็คือ เด็ก ๆ ที่เปรียบเสมือนต้นกล้าได้ผลิใบ เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง และกลับมาหยั่งรากในผืนดินบ้านเกิด

          ร่วมให้กำลังใจ "ครูมด" และเด็ก ๆ ในบ้านไล่โว่ ได้ในรายการ "คนค้นฅน" ตอน "ครูมด" ดวงประทีปกลางไพร วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคมนี้ เวลา 14.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/3.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/2.jpg)



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทีวีบูรพา
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/logo/tvburabha.jpg)


หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 06, 2013, 10:16:31 pm
ข่าวพลเมืองดี แท็กซี่น้ำใจงาม เก็บเงินกว่า 6 หมื่น คืนเจ้าของ
-http://hilight.kapook.com/view/89445-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc3/470726-01.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc3/470726-02.jpg)


แท็กซี่น้ำใจงามเก็บเงินกว่า6หมื่นคืนเจ้าของ (ไอเอ็นเอ็น)
 
            ข่าวพลเมืองดี โชเฟอร์แท็กซี่น้ำใจงาม เก็บเงิน 65,000 บาท คืนอดีตผู้จัดการขายอะไหล่รถ ที่ทำตกไว้บนรถ

            วันที่ 6 สิงหาคม 2556 นายวันชัย สุทธิสน โชเฟอร์แท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทร 579 กรุงเทพ ส่งมอบคืนกระเป๋าถือ สีน้ำเงิน บรรจุธนบัตรสกุลเงินเยน คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 65,000 บาท พร้อมด้วยสมุดบัญชีของธนาคารต่าง ๆ จำนวนรวม 11 เล่ม ให้กับนายสมชาย เชี่ยวชลาคม อดีตผู้จัดการฝ่ายขายอะไหล่ บริษัทธนบุรี จำกัด ซึ่งทำหล่นไว้บนรถเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีพนักงานสถานีวิทยุ สวพ. FM 91 ร่วมเป็นสักขีพยาน

            ทั้งนี้ นายสมชาย ได้มอบสินน้ำใจให้ นายวันชัย โชเฟอร์แท็กซี่คนดี จำนวน 5,000 บาท พร้อมกล่าวว่า พยายามตามหากระเป๋าและคิดว่าคงไม่ได้ทรัพย์สินคืน เพราะไม่มั่นใจว่าไปวางลืมไว้ หรือทำหล่นหายที่ไหนเป็นเงินที่เก็บสะสมหลังจากเกษียณงาน ดีใจมากที่สังคมไทยยังมีสิ่งดี ๆ มีคนดี ที่คอยให้ความช่วยเหลือกัน

INN
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/logo/inn_logo.jpg)

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 06, 2013, 10:29:29 pm
คนร้ายประกบยิง “ยะโก๊บ” อิหม่ามประจำมัสยิดปัตตานีดับกลางตลาด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    5 สิงหาคม 2556 20:38 น.
-http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000096868-

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000010180909.JPEG)

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000010180901.JPEG)

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000010180902.JPEG)

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000010180906.JPEG)
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย ขณะลงมือยิง“ยะโก๊บ”อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000010180907.JPEG)
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย ขณะลงมือยิง“ยะโก๊บ”อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี

ปัตตานี - คืบหน้าคนร้ายลอบยิง “ยะโก๊บ” อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานีต่อหน้าคนนับร้อย ดับกลางตลาดนัดจะบังติกอ สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวมุสลิม 3 จชต.
       
       วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในตลาดนัดจะบังติกอ ถ.ยะรัง ซอย 6 เขตเทศบาลเมืองปัตตานี จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เมื่อไปถึงพบกองเลือดจำนวนมาก และกับข้าวซึ่งอยู่ในถุงหลายอย่างกองไว้ และรองเท้า 1 คู่ ส่วนคนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี และเสียชีวิตระหว่างทาง
       
       ทราบชื่อ นายยะโก๊บ หร่ายมณี อายุ 49 ปี ตำแหน่งเป็นอิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี สภาพศพสวมใส่เสื้อโต๊ปมุสลิมสีขาว และมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ท้ายทอยทะลุปาก 1 นัด กระสุนทะลุมือซ้าย อีก 1 นัด ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
       
       สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตาย และภรรยากำลังเดินซื้อกับข้าวอยู่ในตลาดเพื่อเตรียมที่จะละศีลอด ปรากฏว่า มีคนร้าย 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ขับเข้ามาในตลาด ช่วงจังหวะที่ผู้ตายเผลอคนร้ายได้ขับตามหลังแล้วชักอาวุธปืนจ่อยิง 1 นัด จนล้มลงก่อนที่จะยิงอีกครั้งเข้าที่ศีรษะอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าประชาชนนับร้อยคนที่เดินซื้อของ จากนั้นคนร้ายจึงเร่งเครื่องหลบหนีไป สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นตั้งไว้เรื่องขัดแย้งโดยการใช้สถานการณ์ความไม่สงบมาก่อเหตุ
       
       สำหรับ นายยะโก๊บ หร่ายมณี เคยถูกคนร้ายลอบยิงด้วยอาวุธสงครามแล้ว เมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 ขณะที่ขับรถยนต์เก๋งพร้อมลูกสาวกลับมาจากมัสยิด แต่พอมาถึงหน้าบ้านคนร้ายซุ่มอยู่ข้างกำแพงพร้อมกราดยิงหลายนัด แต่ครั้งนั้นกระสุนได้แต่เพียงถากที่ศีรษะ 1 นัด ไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า คนร้ายเป็นกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบ
       
       นายยะโก๊บ หร่ายมณี ถือเป็นผู้นำศาสนาที่มีแนวคิดนักพัฒนาคนสำคัญของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกับหน่วยงานทั้ง ศอ.บต. กอ.รมน. และ ศชต. รวมไปถึงองค์กรหน่วยงานเอกชน ก็ได้มีการสนับสนุนการทำงานเชิงนักพัฒนา โดยเฉพาะมัสยิดกลางปัตตานีที่ได้มีการบูรณะ การส่งเสริมหลักศาสนาให้ประชาชนได้ปฏิบัติตามหลักศาสนาที่ถูกต้อง ทำให้ทุกปีของเดือนรอมฎอนจะมีประชาชน 3 จังหวัดมาร่วมละหมาดตาระเวี้ยะนับหมื่นคน สื่อทั้งใน และต่างประเทศต่างเสนอข่าวไปดังทั่วโลก และการเสียชีวิตครั้งนี้ได้สร้างความสูญเสีย และสะเทือนใจแก่ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่เป็นอย่างมาก





ออกหมายจับผู้ต้องหายิง “อิหม่ามยะโก๊บ” แล้ว 4 คน ตามภาพ CCTV
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    6 สิงหาคม 2556 20:17 น.
-http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000097455-

ปัตตานี - ตำรวจชุดคลี่คลายคดียิง “อิหม่ามยะโก๊บ” ตรวจสอบกระสุนปืน พบเป็นปืนชนิดเดียวกับที่มีคดีอยู่ในสารระบบเพียบ ออกหมายจับผู้ต้องหาตามในภาพวงจรปิดแล้ว 4 คน
       
       วันนี้ (6 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เรียกประชุมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีเหตุยิง นายยะโก๊บ หร่ายมณี โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตกลางตลาดนัดจะบังจิกอ อำเภอเมืองปัตตานีเมื่อวานนี้(5 ส.ค.) โดยที่ประชุมได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้าย 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์สองคันมาจอดบริเวณหน้าตลาด ก่อนที่คนร้าย 2 ใน 4 คน จะเดินลงจากรถ แล้วใช้ปืนขนาดจุด 38 จ่อยิง ในระยะกระชั้นชิดท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของจำนวนมาก
       
       และจากการตรวจสอบปลอกกระสุนปืนขนาด จุด 38 จำนวนสองปลอก คือ ลูกกระสุนปืนรีวอลเวอร์ทองแดงหุ้มตะกั่ว พบว่า มีคดีความมั่นคงตามสารระบบ 11 คดี และลูกกระสุนปืนรีวอลเวอร์ทองแดง พบว่ามีคดีความมั่นคงในสารระบบ 9 คดี ซึ่งถูกนำมาใช้ก่อเหตุในอำเภอยะหริ่ง และอำเภอเมือง ตั้งแต่ปี 2547 และอาจจะเป็นแนวร่วมกลุ่มเดียวกับ นายมะรอมลี สาเรป ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ ในคดียิง ร.ต.ต.พิสูตร เงินพจน์ ข้าราชการบำนาญ ในอำเภอเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2553 และในช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ออกจับผู้ต้องหาตามภาพแล้ว 4 คน





หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 01, 2013, 06:20:07 am
เรื่องนี้ไม่ใช่คน แต่เป็นสุนัขครับ


-----------------------------------------------------

สุนัขผลักเด็ก 4 ขวบห่างทางรถ แม้ตัวเองโดนชนปางตาย
-http://hilight.kapook.com/view/91719-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/natthida/inn/guidedog-protects-family_large.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/natthida/inn/concho500.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dogheirs.com , dbv.vn

          เจ้าไซม่อน สุนัขนำทางผู้เป็นฮีโร่ ผลักเจ้านายน้อยออกจากถนน แม้ตัวโดนรถชนเจ็บสาหัส และสิ้นใจในภายหลัง

          เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2556 เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์รายงานถึงเหตุการณ์เศร้าสลดที่สร้างวีรบุรุษสี่ขาขึ้นมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา บนถนนสายบราวน์วูด ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ ขณะที่นายเดฟ ฟุรุคาวะ คุณพ่อซึ่งมองอะไรไม่ค่อยเห็นนัก ได้พาลูกชายวัย 4 ขวบ เดินไปส่งที่โรงเรียน พร้อมกับเจ้าไซม่อน สุนัขนำทางพันธุ์บ็อกเซอร์คู่ใจ แต่จู่ ๆ ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับฝ่าไฟแดงมา และพุ่งใส่นายเดฟ และเจ้าไซม่อนล้มลง

          ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า หลังจากเจ้าไซม่อนถูกรถชนไปแล้ว มันก็ลุกขึ้นมาและผลักเจ้านายน้อยของตนออกไปให้พ้นจากทางที่รถได้พุ่งเข้ามาหา ทั้ง ๆ ที่ตัวของมันเองก็เดินกะเผลกและมีบาดแผลที่ตัว จากนั้นคนแถวนั้นก็ได้อุ้มเด็กชายไปส่งให้กับคุณแม่ที่บ้าน โดยที่ตัวมันเองก็เดินลากขาตามไปด้วย และเมื่อเห็นว่าเจ้านายน้อยของมันปลอดภัยดีแล้ว มันก็ทรุดลงนอนกับพื้น

          อย่างไรก็ดี เดฟที่ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในตอนนี้อาการปลอดภัยดีแล้ว ส่วนเจ้าไซม่อนที่บาดเจ็บทั้งภายนอก มีอาการบอบช้ำภายใน และขาหัก ก็ถูกนำตัวส่งแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลสัตว์ทันที แต่น่าเสียดายที่เจ้าวีรบุรุษสี่ขาผู้ภักดีตัวนี้ตายลงระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

          ทั้งนี้ เดฟกล่าวถึงความสูญเสียในครั้งนี้ว่า ไซม่อนเป็นสุนัขนำทางให้กับเขามาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มันเป็นทั้งดวงตาและเป็นเพื่อนคู่หูที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ และมันก็รักลูกชายของเขามาก ๆ ด้วย แม้เขากำลังจะได้รับการจัดหาสุนัขนำทางตัวใหม่มาให้ในไม่นานนี้ แต่ความกล้าหาญของไซม่อนจะถูกจดจำไว้ในจิตใจของเขาตลอดไป ทั้งในฐานะสัตว์เลี้ยงคู่ใจ สหาย และวีรบุรุษของครอบครัว ส่วนผู้ขับรถคันก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้ว และจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป


Simon the guide dog dies after saving boy (http://www.youtube.com/watch?v=PPtFL_gzGqI#)
คลิป Simon the guide dog dies after saving boy โพสต์โดยคุณ Klink11 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

Simon the guide dog dies after saving boy (http://www.youtube.com/watch?v=PPtFL_gzGqI#)
-http://www.youtube.com/watch?v=PPtFL_gzGqI-

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 04, 2013, 06:21:16 am
อีกเช่นกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องหมา  ที่เลี้ยงลูกเสือ  เป็นสิ่งที่ดีๆครับ

----------------------------------------------------------------


(ภาพน่ารัก) ไปสวนสัตว์หนานชาง ชมแม่หมา เลี้ยงลูกเสือโคร่ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    3 ตุลาคม 2556 17:29 น
-http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000124355-

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013035502.JPEG)

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013035501.JPEG)
สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ เพศเมีย ขณะให้นมกับลูกแฝดเสือโคร่ง แทนแม่แท้ๆ ที่พลาดทำลูกตัวเองตายมาก่อน (ภาพไชน่านิวส์)

       โกลบอลไทม์ส - สื่อจีนเผย ภาพสุนัขพันธ์ลาบราดอร์ เพศเมีย เป็นแม่นมให้กับลูกเสือโคร่งฝาแฝด 2 ตัว ในสวนสัตว์ หนานชาง มณฑลเจียงซี หลังแม่เสือของตัวเองเลี้ยงลูกไม่รอด
       
       รายงานข่าว อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์หนานชาง ที่บอกว่า แม่เสือของลูกแฝดคู่นี้ ไม่มีประสบการณ์ในการดูแลลูกอ่อนเกิดใหม่ของตน ก่อนหน้านี้ ลูกครอกแรกของเธอ ก็เสียชีวิตไป 3 ตัว แล้วเช่นกัน ดังนั้น ทางสวนสัตว์จึงตัดสินใจแยกลูกครอกใหม่นี้ ออกมาโดยให้สุนัขลาบราดอร์รับเป็นแม่นมให้แทน โดยหลังจากทดลองให้อยู่ร่วมกับแม่ใหม่ได้สักพักหนึ่ง พบว่าทั้งแม่นม และลูกเลี้ยงเข้ากันได้ดีมาก และรอดชีวิตทั้งสองตัว



หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 05, 2013, 07:37:06 pm
สื่อออสซี่ยกย่อง หนุ่มไทยสวมบทฮีโร่ ปกป้องสาวถูกคนร้ายไล่ฟัน
-http://hilight.kapook.com/view/91936-


(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/natthida/etc/4120718601741400344.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก cztv.com

         ณัฐพัฒน์ พันธ์พานุศักดิ์ หนุ่มไทยฮีโร่ ช่วยนักท่องเที่ยวสาวจากการถูกฟัน หลังจากที่มีคนร้ายไล่ทำร้ายนักท่องเที่ยวหน้าโรงแรมในออสเตรเลีย

         เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 เว็บไซต์เดลิเทเลกราฟ รายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยวัย 29 ปีคนหนึ่ง ได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ หลังจากที่เขาออกโรงปกป้องหญิงสาวคนหนึ่งจากการถูกทำร้ายที่ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ในกรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

         ทั้งนี้ นายณัฐพัฒน์ พันธ์พานุศักดิ์ ชายหนุ่มจากประเทศไทย ได้เอาตัวมาปกป้องเพื่อนนักท่องเที่ยวด้วยกัน ในตอนที่ชายวัย 36 ปีคนหนึ่ง เข้ามาทำร้ายนักท่องเที่ยวด้วยการใช้ของมีคมฟันและทุบตีนักท่องเที่ยว บริเวณด้านหน้าโรงแรม West End backpackers ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จนทำให้นายณัฐพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกมีดฟันบริเวณมือ แขน และลำตัว

         ด้านนายณัฐพัฒน์ เผยว่า ผมค่อนข้างโชคดี เพราะคนร้ายต้องการที่จะฆ่าผม เขาเอามีดมาฟันมือและลำตัวของผม มันเจ็บมาก เขาเหมือนกับคนบ้า ผมเองไม่ได้เห็นเขาชัด ๆ สักเท่าไหร่ แต่รู้ว่าเขามีมีดเล็ก ๆ ที่ซ่อนไว้ตรงหว่างนิ้ว และผม ในฐานะที่เป็นสุภาพบุรุษ ผมก็ต้องช่วยปกป้องหญิงสาวด้วยเช่นกัน

         ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษคนหนึ่ง กล่าวว่า ความกล้าหาญของนายณัฐพัฒน์นั้นได้ช่วยชีวิตหญิงสาววัย 26 ปีคนหนึ่งไว้ เขาเป็นฮีโร่ตัวจริง หากเขาไม่ลงมาช่วย ผู้หญิงคนนั้นอาจตายไปแล้วก็ได้

          นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวรายที่ 3 ที่ถูกทำร้ายนั้น คือ นักท่องเที่ยวผมบลอนด์วัย 19 ปีอีกคนที่พักอยู่ในโรงแรมแห่งนั้น ถูกคนร้ายฟันเข้าที่คอหลายครั้ง ซึ่งทำให้หน่วยกู้ภัย ต้องพาเขาออกจากที่เกิดเหตุ และนำตัวเขาไปส่งโรงพยาบาลในช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. โดยที่ตัวเขามีเลือดออกจำนวนมากและเขาก็เอาผ้าขนหนูซับเลือดเอาไว้

           ส่วนเหยื่อรายที่ 4 นั้น คือชายวัย 19 ปีเช่นกัน เขาถูกฟันแขนเช่นกัน จนทำให้เลือดกระจายไปทั่วล็อบบี้โรงแรมตรงด้านหน้าในจุดที่เขายืนอยู่ นอกจากนี้ ยังมีคราบเลือดเป็นทางยาวหลายเมตรห่างออกมาตรงนอกโรงแรมอีกด้วย

         ด้านนางสาวแอนนามาเรีย นาวา นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้อธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า คนร้ายน่าจะอยู่ในอาการมึนเมาหรือเสพยาเสพติดมา หลังจากนั้นแวบเดียวเขาก็เริ่มไล่ฟันนักท่องเที่ยวในบริเวณนั้น ตนมาถึงที่นี่ก่อนประมาณ 10 นาทีพร้อมเพื่อนชาวอิตาลี และจากนั้นความวุ่นวายก็ตามมา

         ด้านนายโจเซฟ ไอร่า นักท่องเที่ยวชาวเอสโตเนีย เผยว่า เราได้ยินเสียงคนกรีดร้อง แล้วก็มีเลือดนองตามพื้นเต็มไปหมด คนร้ายแทงนักท่องเที่ยวที่อยู่ในโรงแรมแล้วก็เริ่มไปทำร้ายผู้หญิงที่อยู่ข้างนอก ซึ่งเขาเข้าใจว่า ตอนนั้นผู้หญิงกำลังสูบบุหรี่อยู่

         ขณะที่ตำรวจเองได้มาถึงที่เกิดเหตุตอนประมาณ 02.15 น. และจับกุมคนร้ายไว้ได้ โดยคนร้ายเป็นฝรั่ง ตัวเล็ก ผมสั้นสีน้ำตาล และใส่เสื้อฟ้าสีเข้ม ตำรวจได้ใส่กุญแจมือคนร้ายเอาไว้ก่อนที่จะนำตัวไปใส่รถตำรวจ ซึ่งเชื่อกันว่า ชายคนนั้นเอาเศษแก้วมาใช้เป็นอาวุธด้วย


-------------------------------------------------


หนุ่มไอร์แลนด์ซึ้ง คนไทยเสี่ยงตายช่วยชีวิต วอนตำรวจช่วยตามหาตัว
-http://hilight.kapook.com/view/91938-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หนุ่มไอร์แลนด์ บุกโรงพักพัทยา วอนตำรวจช่วยตามหาคนช่วยชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ระบุ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ แม้วันนี้หน้าตาจะเสียโฉม

          เมื่อวานนี้ (4 ตุลาคม 2556) ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายโรแนน แบรดลี นักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์ วัย 35 ปี ได้เข้าแจ้งความเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหาคนที่ช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในวันที่ 2 มกราคม 2547 โดยเหตุการณ์ในวันนั้น นายแบรดลี เล่าให้ฟังว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ ชนกับรถจิ๊บ หน้าปากซอย 13/1 บริเวณพัทยาใต้ ส่งผลให้หมดสติอยู่ใต้ท้องรถจิ๊บ ที่ในขณะนั้นกำลังถูกไฟไหม้ อย่างไรก็ดี มีพลเมืองดีชาวไทยได้ช่วยนำร่างตนออกจากรถได้ทันทีทันใด รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด

          พร้อมกันนี้ นายแบรดลี เล่าอีกว่า ผลพวงจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้ตนมีบาดแผลจากการถูกไฟคลอกหลายแห่ง ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล จำนวน 8 วัน ก่อนที่จะกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดต่อไป นอกจากนี้ยังต้องมีการผ่าตัดศัลยกรรมตามใบหน้าและร่างกายกว่า 12 ครั้ง จนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องผ่าตัดอยู่ ส่วนสาเหตุที่กลับมาประเทศไทยครั้งนี้ ตั้งใจจะมาตอบแทนบุญคุณคนที่ช่วยเหลือตน และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือตน ที่เหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่ แม้ว่าใบหน้าของตนจะอัปลักษณ์ก็ตามที สุดท้าย ตนก็อยากบอกว่า รักคนไทยและรักประเทศไทย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1EZzVOemsxTWc9PQ==&utm_source=KhaosodOnline&utm_medium=KhaosodOnline-
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 06, 2013, 12:03:42 pm
ด.ต. อานนท์ หมื่นแสน ตำรวจน้ำดี เก็บกระเป๋าเงินคืนเจ้าของ ชาวเน็ตชื่นชม
-http://hilight.kapook.com/view/91954-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ratthakorn/variety/police_1.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02

          ด.ต. อานนท์ หมื่นแสน สน.พหลโยธิน ตำรวจน้ำดี เก็บกระเป๋าเงินได้และพยายามติดต่อคืนเจ้าของ บอก วันนี้ผมสบายใจแล้วที่ได้ทำความดี ชาวเน็ตร่วมชื่นชม

          เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2556 มีรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวของ ดาบตำรวจอานนท์ หมื่นแสน ตำรวจ สน.พหลโยธิน ซึ่งประจำอยู่ที่ตู้ตำรวจ ภาวนา โดย ด.ต. อานนท์ หมื่นแสน ได้เก็บกระเป๋าเงินของชายคนหนึ่งได้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ จึงเพียรพยายามโทรศัพท์ติดต่อหาเจ้าของกระเป๋าเงินใบนี้ จนกระทั่งสามารถติดต่อพูดคุยกันได้ และเจ้าของได้ไปรับกระเป๋าเงินคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ก็ได้กล่าวว่า "วันนี้ผมสบายใจแล้วที่ได้ทำความดี" สร้างความประทับใจให้ผู้ที่ได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าว และก่อให้เกิดกระแสชื่นชมอย่างล้นหลามจากชาวเน็ต

สำหรับเรื่องราวของ ดต. อานนท์ หมื่นแสน ตำรวจน้ำดีแห่ง สน.พหลโยธิน ซึ่งถูกแชร์ในโลกออนไลน์ มีดังนี้

          "แชร์ครับ นี่แหละจราจรไทย  ดต. อานนท์ หมื่นแสน สน.พหลโยธิน หมายเลข 6651 ตู้ภาวนา

          ผมเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานครับ และมักจะมีปัญหากับตำรวจจราจรเป็นประจำ (เพราะทำผิดกฎบ่อย 555) วันนี้หลังจากกลับจากที่ทำงานย่านสุขุมวิท ใช้เส้นทาง สุขุมวิท รัชดา ลาดพร้าว พอถึงบ้านย่านโชคชัย 4 ประมาณ 18.30 น. เพิ่งจะเปิดประตูเข้าบ้าน ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา ผมเห็นเป็นเบอร์แปลกก็เลยยังไม่รับ เพราะเพิ่งจะถึงบ้านและรู้สึกเหนื่อย ๆ ด้วย ก็เลยช่าง ๆ มันเหอะ ปลายสายก็โทรนานมาก จนระบบมันตัดสายไปเอง

          หลังจากเข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จ เปิดตู้เย็นกำลังจะเปิดเบียร์จิบเบา ๆ ให้หายเหนื่อย ก็มีโทรศัพท์เบอร์เดิมโทรเข้ามาอีกครั้ง ในใจคิด อะไรมันนักหนาวะ

          วันศุกร์แล้วนะเฟ้ย เลิกงานแล้วด้วย ใครยังจะมาจิกอีกวะ ไม่รับหรอก 555 ยังงัยก็จะโซ้ยเบียร์ให้จบก่อน แต่สังเกตอีกครั้งเห็นปลายสายกดโทรนานมาก ก็เลยเอาวะ รับก็รับ

          "สวัสดีครับ" แบบเสียงเข้ม ๆ ปลายสาย... "สวัสดีครับ คุณ..." (เสียงแก่ ๆ มาเลย) "ผมดาบตำรวจ อานนท์" (เสียงแบบอีสาน ๆ พูดไทยไม่ชัด) "ผมเป็นจราจรจาก สน.พหลโยธิน จะโทรมาแจ้งว่า" ...ในใจคิด เป๊ะเลย ตรงตามที่เคยได้ยินได้ฟังมา เบอร์แปลก รู้จักชื่อ อ้างตัวแบบนี้ สำเนียงแบบนี้ ไอ้พวก แก๊งคอลเซ็นเตอร์แน่ แต่แหม หามุกมาเล่นใหม่ ปลอมตัวเป็นตำรวจจราจรซะด้วย เข้าใจเลือกเวลาโทรอีกต่างหาก เอาสิ ผมก็ลองดูจะมามุกไหน

          "คุณได้ทำกระเป๋าตังหล่นหาย" ...(เสียงอารมณ์แบบพูดรัว ๆ ไม่ค่อยชัด) ความคิดผมสวนขึ้นมาทันที จะบอกใช่ไหมว่า แล้วมีคนเอาบัตรเครดิตกูไปรูด เป็นหนี้ อยู่เท่านั้นเท่านี้ บลา ๆ ผมชักมีอารมณ์แล้วเสียงเข้มไปว่า "แล้วไงครับ" ปลายสาย "ผมจะรอที่ป้อมจราจร ปากซอยลาดพร้าว 41 นะครับ" ด้วยอารมณ์ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับพวกนี้ผมก็เลยได้แต่พูดตอบ "เออเดี๋ยวไป" แบบส่ง ๆ แล้วกดวางทันที

          กำลังจะจิบเบียร์ พลันในใจคิด จราจรอยู่ปากซอยลาดพร้าว 41 นี่มันทางที่กูใช้สัญจรประจำนี่หว่า รีบล้วงกระเป๋าสตางค์ ตรงกระเป๋าหลังกางเกง ยิ้มแล้ว...กระเป๋าตังค์กู อยู่ไหน ยังไม่ทันที่จะอะไร สายเดิมก็โทรเข้ามา...ผมรีบรับทันที "คุณวัชเรศครับ บ้านอยู่ไกลจากป้อมไหมครับ จะมารับเอง หรือจะอย่างไรดีครับ ไม่ต้องสาธยายอะไรมาก ผมบอก คุณตำรวจรอผมสักครู่ เดี๋ยวผมไป

          ณ ป้อมตำรวจ ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นคือ รอยยิ้ม ^^ บนใบหน้าของคุณตำรวจ ผมรีบสวัสดี พร้อมกับแนะนำตัว ผมวัชเรศครับ ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง คุณตำรวจรีบหยิบกระเป๋าตังค์ให้ทันที พร้อมบอกว่า... ยังไงตรวจทรัพย์สินดูก่อนนะครับว่ายังอยู่ครบหรือเปล่า ทั้งเงินเงินสด บัตรเครดิต เอทีเอ็ม บัตรประชาชน เอกสารและทุกอย่างยังอยู่ครบ

          "พอดีผมกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แล้วสังเกตเห็นอะไรดำ ๆ หล่นอยู่ริมถนน" (จำได้ตรงที่ผมติดไฟแดงพอดี) เห็นเป็นกระเป๋าผมก็รีบไปหยิบมาเพราะกลัวจะโดนรถเหยียบ หรือใครจะหยิบไป ตอนแรกก็กังวลว่าจะทำอย่างไร แต่พอเห็นนามบัตรคุณ...(ข้อนี้แหละที่ทำให้ได้กระเป๋าคืนโดยเร็ว) มันตรงกับชื่อบัตรประชาชนก็เลยรีบโทรหา ยิ่งเห็นเป็นคนนครพนมผมยิ่งเข้าใจความรู้สึกเพราะผมก็เป็นคนอีสานเหมือนกัน อยู่ขอนแก่น (มิน่าล่ะ สำเนียงอีสานมาเลย) ผมไม่ได้เลือกปฏิบัติเพราะเห็นว่าเป็นคนอีสานเหมือนนะครับ ผมเป็นคนของประชาชน ก็ปฏิบัติแบบนี้กับทุกคน ตบท้ายด้วยว่า "วันนี้ผมสบายใจแล้วที่ได้ทำความดี"

          คำพูดนี้ มันทำให้ผมถึงกับขอจับมือกับคุณตำรวจและขอถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อที่ผมจะได้แชร์ประสบการณ์ดี ๆ เผื่อแผ่ให้กับเพื่อนในเฟซบุ๊กผม ซึ่งคุณตำรวจเองก็ยินดี ก่อนกลับ ผมแวะเซเว่นแถวนั้น ซื้อขนม น้ำดื่ม เพื่อเป็นน้ำใจให้คุณตำรวจ คุณตำรวจเองก็รับด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับฝากให้ผมดูแลทรัพย์สินให้ดี เพราะครั้งหน้าไม่แน่จะโชคดีแบบนี้หรือเปล่า

          ผมขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านด้วยรอยยิ้มครับ ยังจำคำพูดคำนี้ของคุณตำรวจประโยคที่ว่า "วันนี้ผมสบายใจแล้ว ที่ได้ทำความดี" แม้คุณตำรวจจะบอกว่าผมโชคดีมาก ๆ แต่ผมเองกลับคิดว่ามันไม่ได้เกิดจาดโชคอะไรเลย กระเป๋าตังค์หล่นกลางถนน เงินสดก็มี บัตรเครดิต บัตรเอทีอ็ม ที่สำคัญ เจ้าของไม่ได้รู้ตัวอะไรเลย แต่วันนี้ผมได้ทุกอย่างกลับคืนมาอย่างครบถ้วน สำหรับผมไม่มีคำว่าโชคดีอย่างที่คุณตำรวจพูด แต่นั่นเป็นเพราะผมได้มาเจอตำรวจไทยดี ๆ มากกว่าครับ ด.ต. อานนท์ หมื่นแสน ขอบคุณครับ ^^"


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.naewna.com/local/71446-

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 13, 2013, 08:08:18 am
คลิปตำรวจจราจร ช่วยชีวิตชาวต่างชาติ ที่น็อกล้มกลางถนน
-http://hilight.kapook.com/view/92200-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/general%20news/Untitled-1.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/general%20news/Untitled-2%20copy.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ SpringNews TV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          น่าชื่นชม ! คลิปตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา ช่วยชีวิตชาวต่างชาติที่น็อกฟุบล้มจากจักรยานยนต์กลางถนน จนฟื้นคืนสติ

          วานนี้ (11 ตุลาคม 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งว่า มีชาวต่างชาติพลัดตกรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส บริเวณถนนพัทยาใต้สาย 3 หน้าฟิตเนสโทนี่ ยิม จึงรุดไปตรวจสอบ

          ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากแยกไฟแดงพัทยาใต้ ประมาณ 50 เมตร พบ ดต.ยศ อารีวงษ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองพัทยา กำลังทำการปั๊มหัวใจและใช้ฝาถังขยะพัดโบกลมให้ชายผู้บาดเจ็บที่หายใจรวยรินอยู่บนทางเท้า โดยมี นางสาวนิภากร วงศ์นุกูล อายุ 53 ปี ภรรยานั่งกุมมือสามีอย่างลุ้นระทึก

          จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ Mr.Veli Matti Helin อายุ 78 ปี สัญชาติฟินแลนด์ อยู่ในอาการแน่นิ่งไม่ได้สติ ซึ่ง ดต.ยศ ก็พยายามปั๊มหัวใจและพัดโบกฝาถังขยะอยู่นานกว่า 10 นาที จนผู้บาดเจ็บรู้สึกตัวกลับฟื้นคืนสติอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ยังอยู่ในอาการไม่สู้ดีนัก ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงก็รีบน้ำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน เพื่อทำการรักษาต่อไป

          ขณะที่ นางสาวนิภากร ภรรยา เล่าว่า ตนกับสามีเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล หลังไปเจาะเลือดตรวจอาการความดัน และเมื่อตรวจเสร็จก็เดินทางกลับบ้าน โดยตนเป็นคนขับ ต่อมาเมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุ สามีก็บอกให้ตนหยุดรถ เพราะเกิดอาการหน้ามืด ตนก็เลยหยุดแต่ยังไม่ทันจะลงจากรถ สามีตนก็ล้มฟุบไปบนถนนทันที ซึ่งวินจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่แถวนั้น ได้ช่วยกันนำร่างของสามีตนขึ้นมาบนทางเท้า และสักพัก ดต.ยศ ที่กำลังทำหน้าที่อยู่แยกไฟแดง ก็วิ่งเข้ามาช่วยจนสามีตนฟื้นคืนสติอีกครั้ง

          ด้าน ดต.ยศ เผยว่า ตนเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็รีบรายงานไปยังศูนย์วิทยุฯ และวิ่งไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งพอไปถึงตนก็ตกใจเหมือนกัน แต่ก็พยายามรวบรวมสติ ตรวจชีพจร และเห็นว่าผู้บาดเจ็บชีพจรเต้นแผ่วแล้ว อีกทั้งบริเวณฝีปาก เล็บ เริ่มเขียว จึงทำการปั๊มหัวใจและปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ด้วยการนำฝาถังขยะมาพัด จนผู้บาดเจ็บฟื้นคืนสติขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ตนดีใจมากที่ช่วยผู้ชีวิตผู้บาดเจ็บไว้ได้

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/general%20news/Untitled-3.jpg)
ดต.ยศ อารีวงษ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองพัทยา

          สำหรับ ดต.ยศ จบนักเรียนพลตำรวจ รุ่น 34 ชลบุรี เป็นคน จ.ชัยภูมิ รับราชการอยู่ที่ สภ.เมืองพัทยา ตั้งแต่ปี 2544 ในตำแหน่งรถจักรยานยนต์นำขบวน รับผิดชอบงานจราจร และการนำขบวนเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่เสด็จมาประทับยังเมืองพัทยาและเส้นทางเสด็จผ่าน รวมไปถึงคณะผู้บังคับบัญชา และอื่น ๆ อีกหลายขบวน

ชาวพัทยาชื่นชม! ตร.จราจรช่วยยื้อชีวิตชาวต่างชาติกลางถนน (http://www.youtube.com/watch?v=qrRKj9JUmws#)
คลิป ชาวพัทยาชื่นชม! ตร.จราจรช่วยยื้อชีวิตชาวต่างชาติกลางถนน เครดิต สปริงนิวส์
โพสต์โดยคุณ SpringNews TV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ชาวพัทยาชื่นชม! ตร.จราจรช่วยยื้อชีวิตชาวต่างชาติกลางถนน (http://www.youtube.com/watch?v=qrRKj9JUmws#)
-http://www.youtube.com/watch?v=qrRKj9JUmws&feature=player_embedded-
ชาวพัทยาชื่นชม! ตร.จราจรช่วยยื้อชีวิตชาวต่างชาติกลางถนน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://news.springnewstv.tv/36993/%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%A1-%E0%B8%95%E0%B8%A3-%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B-
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 13, 2013, 10:00:33 am
ซูฮก!! เด็กชายไร้มือ-เท้า สร้างแรงบันดาลใจเป็นนักฟุตบอลโรงเรียน (ชมคลิป)
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381482308&grpid=&catid=07&subcatid=0701-

(http://www.matichon.co.th/online/2013/10/13814823081381482351l.jpg)
ฮอร์เก้ ดิ๊กเซ่น นักเตะไร้มือเท้า (ภาพจาก Good Morning America)

Teen Jorge Dyksen With No Arms Or Legs Plays Soccer For New Jersey High Cchool (http://www.youtube.com/watch?v=TUx-rKrilZM#)
Teen Jorge Dyksen With No Arms Or Legs Plays Soccer For New Jersey High Cchool

Teen Jorge Dyksen With No Arms Or Legs Plays Soccer For New Jersey High Cchool (http://www.youtube.com/watch?v=TUx-rKrilZM#)
-http://www.youtube.com/watch?v=TUx-rKrilZM-

ฮอร์เก้ ดิ๊กเซ่น เด็กชายชาวอเมริกันเชื้อสายปานามาวัย 16 ปี กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งโลก เมื่อเขาลงแข่งขันฟุตบอลให้กับทีมแมนเชสเตอร์ รีเจียนัล ไฮสคูล ทั้งที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ โดยฮอร์เก้ซึ่งเกิดที่ปานามาโชคร้ายล้มป่วยติดเชื้อตั้งแต่ยังเป็นทารก เลือดไม่ไปเลี้ยงนิ้วมือและนิ้วเท้าจึงต้องตัดมือและเท้าออกทั้งหมดตั้งแต่อายุเพียง 14 เดือนเพื่อรักษาชีวิต

เนื่องจากครอบครัวของเขามีฐานะค่อนข้างยากจนจึงไม่สามารถซื้อขาเทียมให้ฮอร์เก้ใส่ได้ แต่โชคดีเด็กชายได้รับการอุปการะจากครอบครัวดิ๊กเซ่นในสหรัฐอเมริกา ผ่านโครงการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสของโบสถ์แห่งหนึ่งในนิวเจอร์ซีย์ ฮอร์เก้จึงได้เดินทางไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมร่วมกับเด็กด้อยโอกาสอื่นๆ เป็นประจำทุกปี โดยแบ่งเวลาอยู่ในสหรัฐอเมริกา 9 เดือน เพื่อรับการศึกษา และกลับปานามา 3 เดือน โดยครอบครัวดิ๊กเซ่นร่วมกับทางโบสถ์เรี่ยไรเงินเพื่อซื้อขาเทียมมูลค่า 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ (810,000 บาท) ให้เขาใช้ หลังจากเจ้าตัวยืนยันว่าอยากหัดเดินด้วยตัวเองมากกว่านั่งวีลแชร์

เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ขั้นตอนทางกฎหมายในการรับบุตรบุญธรรมที่กินเวลา 3 ปีสิ้นสุดลง ฮอร์เก้จึงได้ใช้นามสกุลดิ๊กเซ่นก่อนหน้าวันเกิดปีที่ 16 ไม่นาน และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่ยังคงติดต่อกับครอบครัวที่ปานามาสม่ำเสมอผ่านทางโทรศัพท์ทุกๆ 2 สัปดาห์ ขณะที่เฟย์ ดิ๊กเซ่น แม่บุญธรรมของฮอร์เก้กล่าวว่า ทางครอบครัวของเด็กชายยังคงรักและผูกพันในตัวฮอร์เก้เป็นอย่างมาก แต่เชื่อว่าการให้เขามาอยู่กับครอบครัวบุญธรรมในสหรัฐจะเป็นประโยชน์กับเขามากกว่า ถือเป็นความรักที่เสียสละอย่างแท้จริง

หลังจากได้รับขาเทียมและเริ่มเดินได้คล่องแล้ว ฮอร์เก้ก็เริ่มหัดเล่นฟุตบอล แม้สภาพร่างกายจะไม่อำนวยนัก แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อ ครั้งหนึ่งตอนเกรด 7 ขาเทียมของเขาไปเกี่ยวกับคู่แข่งจนล้มกลิ้งและได้รับบาดเจ็บหนัก แต่เมื่อหายแล้วก็ยังกลับมาสู้ต่อ

หลังจากนั้น เขาไปขอร้อง "คุณแม่เฟย์" ให้อนุญาตให้เขาลงแข่งขันในฐานะตัวแทนของโรงเรียน ซึ่งเฟย์ยอมรับว่า รู้สึกห่วงมากเพราะอาจจะเจ็บตัวอีก แต่ก็ไม่อยากห้าม เพราะโดยปกติ เด็กๆ แบบเดียวกับฮอร์เก้มักจะเป็นพวกเก็บเนื้อเก็บตัว แต่เขากลับต่างออกไป มีพลังใจอันเต็มเปี่ยมในการดำเนินชีวิต จึงตัดสินใจอนุญาตให้ทำตามที่ต้องการ

ฮอร์เก้ทุ่มเทฝึกซ้อมและแข่งขันให้ทีมโรงเรียนโดยไม่ปล่อยให้ความเสียเปรียบเรื่องร่างกายมาเป็นอุปสรรค โดยให้คำมั่นกับโค้ชว่า เมื่อไรที่รู้สึกว่าไม่ไหวจะต้องแจ้งขอเปลี่ยนตัวทันที เนื่องจากความที่อวัยวะบางส่วนหายไปทำให้พื้นผิวในการระบายเหงื่อไม่เท่ากับคนธรรมดา

แดเนียล ซานเชซ ผู้ช่วยโค้ชของโรงเรียน กล่าวว่า ฮอร์เก้เล่นในตำแหน่งกองหน้า และตั้งเป้าจะยิงประตูให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าเขาจะทำได้อย่างแน่นอน ก่อนจะชมว่า เด็กชายคนนี้ไม่เพียงเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นลูกทีมที่น่าทึ่งมากๆ เมื่อใดก็ตามที่เพื่อนร่วมทีมรู้สึกท้อถอย เขาก็จะคอยกระตุ้นและสร้างกำลังใจ คอยย้ำว่าอย่ายอมแพ้ ทำให้คนอื่นๆ เกิดแรงฮึดตามไปด้วย

ฮอร์เก้กล่าวว่า ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิการเลย เพราะคนรอบข้างมักจะปฏิบัติกับตนเหมือนปกติ อาจจะมีคนแปลกหน้าบางคนที่มองจ้อง ทำท่ารังเกียจ หรือซุบซิบนินทา แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ และหันไปหัวเราะกับตัวเอง

"ผมบอกคนรอบตัวเสมอว่า ′อย่ายอมแพ้′ และให้ดูผมเป็นตัวอย่าง ผมไม่มีทั้งมือและเท้า แต่ก็ทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ ผมยังเตะบอลได้ ตีเบสบอลได้ พิมพ์คอมพิวเตอร์ได้ แม้แต่ส่งเมสเซจมือถือก็ยังได้ครับ" ฮอร์เก้กล่าวทิ้งท้าย



หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ตุลาคม 26, 2013, 09:22:35 am
พลทหาร มะอีลา โตะลู ผู้สละชีพเพื่อผืนแผ่นดินไทย

พลทหาร มะอีลา โตะลู ผู้สละชีพเพื่อผืนแผ่นดินไทย (http://www.youtube.com/watch?v=WYKjibf1XU4#ws)

พลทหาร มะอีลา โตะลู ผู้สละชีพเพื่อผืนแผ่นดินไทย (http://www.youtube.com/watch?v=WYKjibf1XU4#ws)
-http://www.youtube.com/watch?v=WYKjibf1XU4-

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ธันวาคม 06, 2013, 08:51:44 pm
หลวงพี่เดียว เจ้าอาวาสนักกู้ภัย ผู้ช่วยคนให้พ้นทุกข์

-http://hilight.kapook.com/view/94367-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/general%20news/1480558_10152021714297731_1287789806_n.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/general%20news/1465174_10152019860102731_1723991803_n.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก คนค้นฅน
 
             เปิดมุมมอง พระครูปรีชาภิวัฒน์ หรือหลวงพี่เดี่ยว เจ้าอาวาสนักกู้ภัย ผู้อุทิศตนช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี โดยไม่หวังค่าตอบแทนใด ๆ
 
          ทุกวันนี้เรามักเห็นภาพเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยในชุดฟอร์มรุดไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุอย่าง ๆ กันจนชินตา แต่ที่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เราจะพบพระสงฆ์ ผู้ทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนา ทำงานด้านกู้ภัยควบคู่ไปด้วย...
 
          แม้หลายคนจะมองว่า พระสงฆ์ มีหน้าที่เพียงเป็นตัวแทนในการเผยแพร่ศาสนา หรือตักเตือนให้ผู้คนทำความดี ยึดมั่นในศีลธรรม แต่หากเห็นผู้คนเดือดร้อนอยู่ตรงหน้า แม้แต่พระสงฆ์ก็คงอดที่จะยื่นมือเข้าเหลือไม่ได้ ดังเช่นพระครูปรีชาภิวัฒน์ หรือหลวงพี่เดี่ยว เจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับการเรียกขานว่า เจ้าอาวาสนักกู้ภัย เนื่องจากท่านได้อุทิศตนในการช่วยเหลือผู้คนมาอย่างยาวนาน
 
          ทั้งนี้ หลวงพี่เดี่ยว เล่าว่า เรื่องราวเริ่มต้นจากการพบเห็นชาวบ้านใน อ.พร้าว ประสบอุบัติเหตุไม่เว้นในแต่ละวัน เนื่องจากเส้นทางบริเวณนี้ทั้งคดเคี้ยวและมีแต่ป่าเขา ดังนั้น หากเกิดอุบัติขึ้นเมื่อใด ผู้ได้รับอาจได้รับการช่วยเหลือไม่ทัน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต หรือหากการช่วยเหลือนั้นทำโดยวิธีที่ไม่ถูกต้อง จากที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้มีอาการสาหัสได้
 
          ดังนั้นในเวลาต่อมา หลวงพี่เดี่ยว จึงริเริ่มก่อตั้งศูนย์กู้ภัยพร้าว-วังหิน ขึ้นมา เพื่อคอยช่วยเหลือผู้คนที่ประสบอุบัติเหตุ ในเขต อ.พร้าว และ อ.ใกล้เคียง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ถึงแม้ระยะแรกจะมีหลายคนมองว่า เรื่องนี้ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่หลวงพี่เดียวกลับคิดว่า การช่วยเหลือผู้คนให้พ้นทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ควรทำ ดีกว่าการนิ่งเฉยปล่อยผู้คนล้มตายโดยไม่ทำอะไร
 
          และด้วยปณิธานอันแน่วแน่เช่นนี้ หลวงพี่เดี่ยวและเจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัยพร้าว-วังหิน จึงยังคงออกปฏิบัติงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย โดยทำเช่นนี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ไม่ว่าอุบัติเหตุเหล่านั้นจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม สำหรับผู้ที่อยากติดตามเรื่องราวของ  พระครูปรีชาภิวัฒน์ หรือหลวงพี่เดี่ยว เจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ สามารถรับชมได้ในรายการ "คนค้นฅน" ซึ่งจะออกอากาศ ในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2556 เวลา 14.05 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/general%20news/1476521_10152021714152731_928742173_n.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/general%20news/1458442_10152021713602731_706948645_n%20copy.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/general%20news/1458601_10152021713337731_103768258_n%20copy.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/mob%20news/62323_559852824109705_1954538675_n.jpg)

http://hilight.kapook.com/view/94367 (http://hilight.kapook.com/view/94367)




หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ ธันวาคม 21, 2013, 06:55:26 am
แบบว่า เรื่องนี้เป็น "หมา"ครับ


--------------------------------------------------------


ชายตาบอดมะกันรอดถูกรถไฟทับ หลังสุนัขคู่ใจช่วยชีวิตไว้

-http://hilight.kapook.com/view/95074-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc4/20131217171755-dog_2-550x366.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก weaselzippers.us

            ชายตาบอดชาวอเมริกันรอดจากการถูกรถไฟทับ หลังจากสุนัขนำทางพยายามดึง-ปลุก หลังเป็นลมตกรางรถไฟ

            เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2556 เว็บไซต์เดอะมิร์เรอร์ของอังกฤษ รายงานว่า สุนัขในสหรัฐฯ สุดแสนรู้ ช่วยเจ้าของตาบอดรอดพ้นจากการถูกรถไฟชน ด้วยการพยายามดึงตัวเขาออกจากรางรถไฟ หลังเป็นลมล้มพับ

            รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สถานีรถไฟใต้ดินในมหานครนิวยอร์ก นายซีซิล วิลเลียมส์ ชายผู้พิการทางสายตา วัย 61 ปี ได้เดินไปรอขึ้นรถไฟกับเจ้าออร์ลันโด สุนัขลาบราดอร์สีดำคู่ใจ วัย 10 ปี แต่ระหว่างที่เขายืนรออยู่นั้น เขาได้ไปยืนอยู่บนขอบชานชาลา แล้วเกิดเป็นลมล้มพับลงไปในรางรถไฟ ทำให้เจ้าออร์ลันโดที่เขาจูงอยู่นั้น ตกลงไปด้วย

            หลังจากที่ทั้งคู่พลัดตกลงไปบนรางรถไฟแล้ว เจ้าออร์ลันโดก็ส่งเสียงเห่าทันที และพยายามเลียหน้าวิลเลียมส์เพื่อเป็นการปลุกให้เขาตื่นด้วย และเมื่อเขายังไม่ตื่น เจ้าออร์ลันโดพยายามดึงร่างของวิลเลียมส์ออกจากรางรถไฟ ซึ่งแน่นอนว่าสุนัขที่ตัวเล็กกว่ามนุษย์มากอย่างมัน ไม่สามารถทำได้ แต่โชคดีที่ระหว่างนั้น วิลเลียมส์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพอดี ขณะที่ทางด้านคนขับรถไฟก็สังเกตเห็นก่อนและลดความเร็วรถไฟลงด้วย จึงทำให้วิลเลียมส์และเจ้าออร์ลันโดรอดชีวิตจากการถูกรถไฟชน จากนั้นวิลเลียมส์ก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพร้อมกับเจ้าออร์ลันโด โดยเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการพลัดตกลงไปในราง

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc4/blind-man-service-dog-550x366.jpg)

   จากเหตุการณ์สุดประทับใจดังกล่าว วิลเลียมส์ได้เปิดเผยว่า เขากลายเป็นผู้พิการทางสายตาตั้งแต่ปี 1995 และหลังจากนั้นก็ไปไหนมาไหนด้วยสุนัขนำทางซึ่งมาจากศูนย์ฝึกสุนัขนำทาง "Guiding Eyes for The Blind" โดยเจ้าออร์ลันโดเป็นสุนัขนำทางตัวที่ 2 ของเขา และมันกำลังจะถูกปลดออกจากการเป็นสุนัขนำทาง สู่การเป็นสุนัขเลี้ยงในเร็ว ๆ นี้ เพราะมันมีอายุมากแล้ว แต่เมื่อทางศูนย์ได้รู้เรื่องราวอันน่าประทับใจเรื่องนี้ ก็นำเรื่องราวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กพร้อมขอระดมทุนเพื่อให้ออร์ลันโดได้อยู่ในอาณัติของวิลเลียมส์ต่อไป



หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ มกราคม 04, 2014, 09:27:05 pm
ชมเปาะ ด.ต.สุเทพ วารีหลั่ง เก็บขวดน้ำขาย ดีกว่าตั้งด่านรีดไถ

-http://hilight.kapook.com/view/95710-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/kanokwan/news-varity/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B5.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก กองทัพนิรนาม

          ด.ต.สุเทพ วารีหลั่ง เก็บขวดน้ำพลาสติกไปขายหารายได้พิเศษ ชาวเน็ตชื่นชมทำดี ไม่ต้องไปตั้งด่านรีดไถเงินชาวบ้าน

          เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2557 ชาวไซเบอร์ได้แชร์ภาพตำรวจนายหนึ่งกำลังตระเวนรวบรวมขวดน้ำพลาสติกที่อยู่ข้างถนนมาใส่ถุง แล้วผูกไว้กับรถจักรยานยนต์จนทั่วคัน เพื่อนำไปขายหารายได้เสริม โดยมีการระบุข้อความว่า ตำรวจนายนี้คือ ด.ต.สุเทพ วารีหลั่ง ผบ.หมู่ ป. สน.สำเหร่ กองพันราชวิถี บก.น.8

          ทั้งนี้ ในแฟนเพจ "กองทัพนิรนาม" ซึ่งเป็นผู้นำภาพมาเผยแพร่ ได้เขียนข้อความชื่นชม ด.ต.สุเทพ ว่า เป็นตำรวจดี หารายได้พิเศษด้วยการเก็บขวดน้ำไปขาย ไม่จำเป็นต้องไปตั้งด่านรีดไถเงินจากประชาชน

          "ตำรวจดี เราก็ชื่นชมนะ ... นี่ต่างหากศักดิ์ศรีคน ไม่ยอมทำตัวต่ำให้ใครดูถูกว่าทุจริต ศักดิ์ศรีอยู่ที่เราทำตัว เค้าก็ต้องเลี้ยงครอบครัวเหมือนกันน่ะ..###

          เพื่อน ๆ ตำรวจแดงครับ ดูพี่คนนี้บ้างสิครับ หากินสุจริต ไม่ต้องเก็บส่วยแบบคุณ ไม่ต้องทำนาบนหลังคนแบบคุณ"

          สำหรับภาพนี้ได้ถูกส่งต่อกันไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตเลยทีเดียว

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ มกราคม 15, 2014, 08:55:20 pm
ประกาศทางการ “เมย์” คว้ายอดเยี่ยมเอเชีย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    14 มกราคม 2557 13:03 น.


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000000500901.JPEG)
"เมย์" รัชนก ได้รับรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของเอเชีย

“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ยอดขนไก่แชมป์โลกชาวไทย ได้รับคะแนนโหวตถล่มทลาย ชนะทีมขนไก่ชายคู่จากแดนอิเหนา และสองสตาร์ดังอย่าง แมนนี ปาเกียว และ ชินจิ คากาวะ คว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของ “ฟ๊อกซ์ สปอร์ต”
       
       หลังปล่อยให้แฟนกีฬาทั่วโลกร่วมลงคะแนนในรอบสุดท้ายของรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของเอเชีย ประจำปี 2013 หรือรางวัล “เอเอสไอเอ หรือ เอเชียน สปอร์ติง ไอคอน อวอร์ด” ของสำนักข่าว “ฟ๊อกซ์ สปอร์ต” ในรอบสุดท้ายระหว่างวันที่ 9-12 มกราคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีการประกาศผลการโหวตออกมาแล้ว
       
       ซึ่งเป็น “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2013 ด้วยการคว้าแชมป์แบดมินตันโลกที่ประเทศจีน มีคะแนนโหวตถึง 55% ขณะที่อันดับ 2 เป็น เฮนดรา เซเตียวัน และ โมฮัมหมัด อัชซาน นักตบขนไก่ชายคู่ของอินโดนีเซีย มี 44% โดยมี แมนนี ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ และ ชินจิ คากาวะ มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นของทีม “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้คะแนนโหวตเป็น 0% ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2014, 07:59:29 am
อย่าให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม(ลูกคนโกง)

อย่าให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม(ลูกคนโกง) (http://www.youtube.com/watch?v=U2IlCGSS1Uo#ws)

-http://www.youtube.com/watch?v=U2IlCGSS1Uo-

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ มีนาคม 07, 2014, 10:39:31 pm
เรื่องราวชวนยิ้ม... กระเป๋าตังค์หาย 1 ปี ได้คืน เงินครบ !

-http://hilight.kapook.com/view/98979-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/pichaya/hot%20news/BiD1CHeCIAAjut0_1.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @hzkg_ll

          กระเป๋าตังค์หาย 1 ปี ได้คืน เงินครบ ! ชาวเน็ตแห่แชร์เรื่องราวชวนยิ้ม... เมื่อคนคนหนึ่งทำกระเป๋าตังค์หายไปกว่า 1 ปี แต่จู่ ๆ ก็มีพัสดุมาให้ เปิดเจอเงินอยู่ครบ

          เป็นเรื่องราวดี ๆ ที่อดจะส่งต่อให้ทุกคนได้อ่านกันไม่ได้เลยล่ะ สำหรับเรื่องจริงของคนคนหนึ่งที่เคราะห์ร้ายทำกระเป๋าสตางค์หาย แต่แล้วก็กลับได้คืน ทั้ง ๆ ที่เวลาผ่านล่วงเลยไปกว่า 1 ปี แถมข้าวของและเงินก็ยังอยู่ครบ !

          โดยเรื่องราวนี้ คุณ @hzkg_ll ได้ระบุว่า.. เพื่อนเรากระเป๋าตังค์หาย 1 ปี มีคนส่งพัสดุมาที่บ้าน พอมันแกะออกก็พบกับกระเป๋าตังค์และเงินอยู่ครบ #คนไทยแม่งเจ๋ง

          แถมในซองพัสดุยังมีกระดาษเล็ก ๆ จากผู้ที่เก็บได้เขียนถึงคนที่ทำหายด้วยว่า... "ขอโทษที่ส่งคืนช้านะคะ พอดีพี่ติดธุระและไม่สะดวกส่งคืนให้ในทันที เงินที่หายไป 50 บาทคือค่าส่งคืน ที่ไปรษณีย์เรียกเก็บนะคะ"

          ทั้งนี้ เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไปยังโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างมาก โดยชื่นชมในความดีของคนที่เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ ถึงแม้ว่าจะคืนให้ช้าไปกว่า 1 ปี แต่ก็ยังซื่อสัตย์ไม่เอาของของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ยังไงก็ขอปรบมือดัง ๆ ให้กับคนที่นำมาคืนด้วยนะคะ ^ ^




หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ เมษายน 14, 2014, 06:55:01 pm
ชอบครับ แนวคิดของท่านเนวิน


-----------------------------------------------------------------


หลายฝ่ายชื่นชมแนวคิดเนวิน ชิดชอบ จับวัยรุ่นเกเรขึ้นเวทีมวยดัดนิสัย

-http://hilight.kapook.com/view/100696-


(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc4/10250080_549570078496272_8085343552972958519_n.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc4/10154456_549446061842007_8503049787468309213_n.jpg)



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก BURIRAM UNITED

            เนวิน ปราบซ่าวัยรุ่นเกเร 5 คน จับขึ้นเวทีชกกับนักมวยอาชีพ ในงานสงกรานต์บุรีรัมย์ สุดท้ายพ่ายยับ ด้านหลายฝ่ายชื่นชมแนวคิด ช่วยดัดนิสัยวัยรุ่นเกเรเหล่านี้

            เมื่อวานนี้ (13 เมษายน 2557) ที่ จ.บุรีรัมย์ มีการจัดงานสงกรานต์ประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ของงานที่เป็นที่ฮือฮาในครั้งนี้อยู่ที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มีการจัด เวทีคนคัน เป็นเวทีมวยสำหรับวัยรุ่นที่ชอบทะเลาะวิวาท โดยที่ในปีที่แล้วนายเนวินก็ได้นำวัยรุ่นที่ชอบทะเลาะวิวาท 2 คนมาขึ้นเวทีชกกัน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมชก

            อย่างไรก็ตาม ในปีนี้แตกต่างจากปีที่แล้วตรงที่ นายเนวินได้จัดให้วัยรุ่นเหล่านี้ ไปชกกับนักมวยไทยอาชีพ ซึ่งก็สามารถจับวัยรุ่นเกเรได้ 5 คน ผลปรากฏว่า วัยรุ่นที่ถูกจับได้ ถูกนักมวยอาชีพสอนเชิง แพ้ทั้งความรวดเร็ว และความหนักหน่วง จนล้มลงไปกองบนเวทีหลายครั้ง

            ขณะเดียวกัน กระแสตอบรับเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวของนายเนวิน ค่อนข้างมีหลายคนชื่นชอบ เนื่องจากการทะเลาะวิวาทของวัยรุ่น มักสร้างความเสียหายและทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว ดังนั้นการจัดเวทีชกมวยให้เฉพาะ น่าจะเป็นทางออกที่ลดความห้าวของบุคคลเหล่านี้

            ทั้งนี้ นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า แนวคิดของนายเนวิน คือต้องการป้องปรามผู้ก่อเหตุให้เกิดความกลัวที่จะป่วนงาน แต่ตนไม่ทราบว่าการนำมาขึ้นเวทีมวยนั้นผิดกฎหมายหรือไม่

            ขณะที่นายนรินทร์วัต กระต่ายทอง วัย 63 ปี เปิดเผยว่า ตนคิดว่า จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของตนนั้น น่าจะนำมาเป็นแบบอย่างบ้าง เพื่อทำให้พวกนี้ไม่ต้องมาใช้อาวุธตีกัน ยิงกัน ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

            ด้านนายสุรพล กำพลานนท์วัฒน์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับวิธีการของนายเนวิน เพราะวัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องการให้ตนเองเป็นที่สนใจของคนอื่น และเป็นวิธีที่น่าจะทำให้วัยรุ่นแสดงออกได้อย่งถูกต้อง ลดความบ้าบิ่นลงไป แต่โดยส่วนตัวตนอยากให้วัยรุ่นเลิกก่อเหตุไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เนื่องจากจะมีความสูญเสียเกิดขึ้นแล้ว ก็อาจจะทำให้งานหมดสนุกลงได้


เจอแล้ว..คนซ่าส์ มาๆ มาเจอ GU !!! (http://www.youtube.com/watch?v=FYKI6QgN5YY#ws)

-http://www.youtube.com/watch?v=FYKI6QgN5YY-

คลิป เจอแล้ว..คนซ่าส์ มาๆ มาเจอ GU !!! โพสต์โดย คุณ Torkhet Oaka Keeratimas


เนวิน จัดหนัก!! จับวัยรุ่นกร่าง ขึ้นเวทีชกกับนักมวยอาชีพ (http://www.youtube.com/watch?v=1iuJmaLmXJg#ws)

-http://www.youtube.com/watch?v=1iuJmaLmXJg-

คลิป เนวิน จัดหนัก!! จับวัยรุ่นกร่าง ขึ้นเวทีชกกับนักมวยอาชีพ : เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official)


หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ เมษายน 15, 2014, 06:35:57 am
ไอ้พวกทิ้งตัวลงไปนอน ต้องลากขึ้นมาต่อย หรือตีเข่า  ต้องให้กองจริงๆ  หรือ เตะทั้งนอนอยู่


-----------------------------------------------------------



วิพากษ์สนั่น! คลิป "เนวิน" จับ 5 โจ๋ซ่าส์ขึ้นสังเวียนอัดกับนักมวยอาชีพ
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน    15 เมษายน 2557 04:56 น.

-http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000041954-

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000004345501.JPEG)

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์ กรณีคลิป "เนวิน" ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สั่งสอนวัยรุ่นนักเลง 5 คนด้วยการลงนวมขึ้นชกกับนักมวยอาชีพเพื่อเป็นการแก้เผ็ดที่ชอบก่อกวนและก่อเหตุทะเละวิวาทในงานสงกรานต์
       
        โดยทันทีที่คลิปเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางส่วนเห็นด้วย เพราะเป็นการดัดนิสัยพวกวัยรุ่นที่ชอบทำตัวเป็นนักเลง ในขณะที่บางคนมองว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และควรดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายมากกว่า
       
        เป็นอีกปีที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เนรมิต สนามฟุตบอลไอ-โมบาย สเตเดียมให้เป็นสถานที่จัดงานสงกรานต์ สำหรับปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ใช้ชื่อว่า "สงกรานต์มิวสิคเฟสติวัล" GU12 ใหญ่กว่า! มันส์มาก! เพื่อตอบแทนแฟนบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั่วประเทศได้มาร่วมสนุกกัน โดยภายในงานจะมีการเล่นน้ำ และปาร์ตี้ทะเลโฟมตลอด 2 วันเต็ม (13-14 เม.ย.57) รวมไปถึงการแสดงโชว์ของศิลปินนักร้องชื่อดังบนเวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ 2 เวที (สตริงกับลูกทุ่ง)
       
        แต่ที่ฮือฮา และสร้างความครึกครื้นแก่ผู้ชมคนดู เห็นจะเป็นเวทีมวยชั่วคราว "เวทีคนคัน" สำหรับจับพวกที่ก่อความวุ่นวายมาฟาดปากกันตัวต่อตัวให้หายคัน โดยปีที่แล้ว ก็สร้างความฮือฮาด้วยการจับนักเลงวัยกระเตาะ 2 คน ขึ้นมาชกกับนักมวยอาชีพเพื่อเป็นการแก้เผ็ด หลังจากที่ทั้ง 2 ก่อเหตุทะเลาะต่อยตีกันข้างสนาม แต่พอเอาเข้าจริง กลับฝ่อ ยืนสงบนิ่งบนเวทีกว่า 5 นาที
       
        เช่นเดียวกับปีนี้ ที่ดุเด็ดเผ็ดร้อนไม่แพ้กัน เห็นได้จากคลิป เจอแล้ว..คนซ่าส์ มาๆ มาเจอ GU !!! ซึ่งเป็นคลิปที่ถูกเผยแพร่ผ่านยูทิวบ์เมื่อวันที่ 13 เม.ย.57 โดยผู้ใช้ชื่อ Torkhet Oaka Keeratimas เป็นคลิปที่นายเนวิน คุมตัววัยรุ่น 5 คน ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในงาน มาขึ้นเวทีมวยชั่วคราวโดยไม่มีกติกาและกรรมการ แม้ก่อนหน้านี้ ได้มีคำเตือนจากนายเนวินบนเวทีคอนเสิร์ตในงานแล้วว่า ใครอยากเต้น..เต้น ใครอยากสนุก..สนุก ใครซ่าส์ เจอ GU แต่ก็ไม่วายที่จะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น


เจอแล้ว..คนซ่าส์ มาๆ มาเจอ GU !!! (http://www.youtube.com/watch?v=FYKI6QgN5YY#ws)

-http://www.youtube.com/watch?v=FYKI6QgN5YY-
เจอแล้ว..คนซ่าส์ มาๆ มาเจอ GU !!!


สำหรับตัวคลิปนั้น ได้ปรากฏภาพวัยรุ่น 5 คน ถูกจับคู่ให้ชกกับนักมวยไทยอาชีพที่ทางเจ้าของงานได้จัดเตรียมไว้ ซึ่งการชกของแต่ละคู่นั้นใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที โดยส่วนใหญ่ ฝ่ายวัยรุ่นจะถูกนักมวยอาชีพไล่ถลุงจนลงไปกองกับเวทีและบางคู่เมื่อฝ่ายวัยรุ่นถูกเตะจนล้มลงไปนอนแบบชนิดไม่มีทางสู ยังถูกนักมวยคู่ต่อสู้เตะซ้ำและลากตัวขึ้นมาตีเข่าใส่อย่างเมามัน
       
        ทันทีที่คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยฝ่ายที่เห็นด้วยมองว่าเป็นวิธีแก้เผ็ด และดัดนิสัยพวกนักเลงที่ชอบก่อกวนความสนุกของผู้อื่นในงานสงกรานต์­บุรีรัมย์ อีกทั้งยังไม่เชื่อว่ากฎหมายไทยจะสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้
       
        "การจัดการคนพวกนี้ปรับเงินไม่ใช่ทางออก ต้องให้พวกนี้เรียนรู้ความเจ็บ และความอับอาย" Jummy Meesawat1
       
        "อย่าไปคิดมากเรื่องล้มแล้วซ้ำ มันซ้ำแค่ที 2 ที แต่ถ้าพวกคุณลองโดนลูกหลงจริงๆ ละ มันเอาถึงตายเลยนะ ทั้งไม้ ทั้งขวด นี่แค่มือเปล่าๆ พวกมันไม่คิดหรอก เวลาทำคนอื่นเดือดร้อน" phuchong sangthong
       
        "กฏหมายเคยจัดการนักเลงได้ไหมครับ? กฏหมายเคยจัดการพวกนี้ได้จริงไหมครับ พวกนี้กลัวกฏหมายไหมครับ คุณไม่เคยเจออารมณ์คนเขาไปสนุกงานกันตามงาน งานวัด หรืองานอะไรก็แล้วแต่ แล้วคนพวกนี้ไปตีไปต่อย ขวางปาข้าวของโดนคนอื่นอีก กฏหมายทำอะไีด้ไหม" Pichate N
       
        "เอาจริงๆ คนธรรมดาก็อยากให้ใช้กฏหมายนะ แต่กฏหมายบ้านเรามันพึ่งไม่ได้ ยิ่งพวกเยาวชน ถูกตำรวจจับไปสอบสวนเดี๋ยวก็ปล่อยแล้ว มันมีองค์กรนิรโทษกรรมโลกสวยเต็มไปหมด เรียกร้องให้มีการอภัยแก่พวกอาชญากร จนกฏหมายไม่เป็นกฎหมาย ชาวบ้านถึงต้องมีกฏไว้ป้องกันตัวเอง
       
        ถ้าใช้กฏหมายลงโทษอาชญากรไม่ได้ แล้วจัดการกันเองยังไม่ได้อีก ชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร บ้านเมืองก็เป็นของอาชญากรหมดสิครับ ผมก็อยากให้เป็นไปตามกฏหมาย แต่กฏหมายต้องเคร่งครัด กฏต้องเป็นกฏจริงๆ ถ้ากฏหมายมันใช้ได้จริงๆ ชาวบ้านเขาคงไม่มาลำบากเสี่ยงไปจัดการกันเองหรอก" nosta nosta
       
        "สิทธิมนุษยชนและความโลกสวยจะหมดไป ถ้าคุณหรือลูกหลานคุณถูกพวกนี้คุกคาม บางคนไม่โชคดีเพราะถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนคนพวกนี้ก็เอ้อละเหยลอยชาย หรือไม่ก็พ้นโทษออกมาเช็คบิลคนเอาเข้าคุกทีหลัง เข้าใจอารมณ์นี้ไหม จุดยืนคุณจะบอกว่ากฏหมายต้องศักดิ์สิทธ์และบังคับใช้ได้ ถ้ามันทำได้จริง คนผิดต้องโทษตามการกระทำจริงๆ ผมจะเห็นด้วย ว่าแต่ มันเป็นอย่างนั้นไหม" Sorrow Stricken
       
        ขณะที่อีกฝ่ายรู้สึกว่า เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการสั่งสอนของนักมวยอาชีพ
       
        "เห็นด้วยที่ใช้วิธีนี้สอนให้พวกนี้หลาบจำ แต่การที่เขาต่อยกับนักมวย ถ้าคู่ต่อสู้ล้มไม่น่าเข้าไปซ้ำอีก เพราะมันไม่ใช่วิสัยของนักมวยเลย" Chonthicha Kangthong
       
        "ผมว่าวิธีการนี้เป็นวิธีที่ดี จะได้ไม่กล้าตีกันอีกเพราะเดือดร้อนคนอื่น แต่มองในอีกแง่หนึ่ง ควรบอกนักมวยบ้างก็ดีนะครับ (คู่สุดท้าย) การที่คู่ต่อสู่ล้มแล้วไปซ้ำเขาแบบนั้นจรรยาบรรณในอาชีพนักมวยมันไม่ได้มีในตัวคุณเลยครับ" malingpingss1
       
        "สั่งสอนคือให้มันได้เจอกับคนเป็นมวยจะได้รู้สำนึก ถึงมันจะไม่มีกติกา แต่ตัวเองขึ้นไปสั่งสอนให้อีกฝ่ายหลาบจำไม่ใช่เอาพวกมันมาต่อยเอาสะใจ คุณนักมวยที่ขึ้นไปถูกคนทั่วไปเขามองแล้วว่าคุณเป็นมวย คุณต่อยกับเด็ก แต่การที่ไปซ้ำคนที่ล้ม คุณลืมศักดิ์ศรีละเหรอคุณขึ้นไปในฐานะไหน
       
       คนสั่งสอน ถ้าซ้ำได้ ไม่ต้องบอกว่าสั่งสอนหรอก ต่อยเอาให้คนดูสะใจมากกว่า เห็นด้วยกับวิธีการของคุณเนวินนะ แต่คุณน่าจะเลือกคนที่มาสั่งสอนได้ดีกว่านี้ คลิปนี้ออกมาทำให้ภาพลักษณ์ดุแย่ซะเปล่าๆ" Mrnavapruk tantravanich
       
        อย่างไรก็ดี แม้จะมีหลายฝ่ายเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว แต่วิธีการอาจจะต้องกลับมานั่งทบทวนกันใหม่ เพราะดูจะเกินกว่าเหตุในสายตาใครหลายคน โดยเฉพาะวิธีสั่งสอนของนักมวยอาชีพบนสังเวียน ส่วนในทางกฎหมายนั้นก็คงต้องกลับมานั่งดูด้วยเช่นกัน
       
        ดังที่ นายถาวร จันทร์สม อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญและอดีตประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อฉบับหนึ่งในเชิงให้ความรู้ว่า หากผู้ก่อเหตุอายุเกิน 15 ปี การกระทำแบบนี้ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่เข้าข่ายละเมิดสิทธิ และในส่วนการเอาผิดก็สามารถแจ้งความได้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ก่อเหตุต้องการเอาผิดหรือไม่
       
       ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live


หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ เมษายน 15, 2014, 06:52:25 am
 In Pics : ภาพน้ำตาริน!คุณพ่อชาวจีนพลีร่างให้รถบรรทุกเหยียบช่วยชีวิตลูก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    15 เมษายน 2557 05:34 น.

-http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000041963-


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000004346301.JPEG)

    เดลิเมล์/มิร์เรอร์ - สื่อต่างประเทศเผยแพร่ภาพสุดเศร้า คุณพ่อวัยเกษียณชาวจีนถูกรถบรรทุกเหยียบเสียชีวิต หลังยอมพลีชีพผลักลูกชายให้พ้นจากล้อรถมรณะคันดังกล่าว
       
       ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นวินาทีที่นาย Hsiung Kuo ผลักนาย Yong ผู้เป็นลูกชายให้พ้นจากล้อรถขนาดใหญ่ของรถบรรทุกคันหนึ่ง หลังจู่ๆมันก็พุ่งเข้าหาสกูตเตอร์ของพวกเขา

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000004346302.JPEG)

       สื่อมวลชนรายงานว่าแม้แต่ตอนที่คุณพ่อวัย 71 ปีถูกล้อรถทับขาไปแล้ว เขาก็ยังพยายามตะเกียกตะกายผลักลูกชายวัย 47 ปีให้รอดพ้นจากการถูกเหยียบ และท้ายที่สุดแล้วนายHsiung Kuo ก็ต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าสลด
       
       เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางด้วยรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าบนท้องถนนสายหนึ่งในเมืองฉวนโจว ประเทศจีน โดยระหว่างที่พวกเขากำลังจอดอยู่ตรงทางข้าม จู่ๆก็มีรถบรรทุกแล่นเข้ามาด้วยความเร็วและพุ่งเข้าใส่เต็มๆ

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000004346303.JPEG)

       แรงกระแทกทำให้รถของพวกเขาล้มลง และก่อนที่มันจะเหยียบลูกชาย นาย Hsiung Kuo ซึ่งถูกล้อรถทับขาไปแล้ว ก็ยังพยายามตะเกียกตะกายผลักนายYong ให้พ้นจากอันตราย เป็นผลให้ตัวเขาเองถูกทับบริเวณหน้าอกอีก และสุดท้ายก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
       
       แม้ทีมแพทย์จะเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะเขาเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายYong ได้รับการปลอบโยนและรักษาอาการช็อคจากหน่วยฉุกเฉิน ขณะที่คนขับ ซึ่งอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ได้ถูกจับกุมในเวลาต่อมา และเวลานี้ตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000004346304.JPEG)


http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000041963 (http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000041963)

.
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ เมษายน 15, 2014, 07:11:16 am
 :27: เศร้าเลยครับพี่หนุ่ม เรื่องพ่อช่วยชีวิตลูก
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ เมษายน 18, 2014, 06:14:20 am
.

ชื่นชม ท่านเนวิน ครับ



-------------------------------------------------------------------

เนวิน ชิดชอบ แจงเหตุนำวัยรุ่นเกเรขึ้นเวทีมวย เป็นเพราะกฎหมายอ่อน

-http://hilight.kapook.com/view/100833-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ratthakorn/Politics/newin_2.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ratthakorn/Hot%20News/buriram01_1.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ratthakorn/Hot%20News/buriram02_1.jpg)



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก buriramunited.com และ เฟซบุ๊ก BURIRAM UNITED

          เนวิน ออกแถลงการณ์ หลังโดนติงเรื่องละเมิดสิทธิ์วัยรุ่นที่ขึ้นเวทีมวย ชี้ กฎหมายอ่อนแอ จึงต้องใช้มาตรการทางสังคมควบคู่ เพื่อให้เข็ดหลาบ

          เมื่อวานนี้ (16 เมษายน 2557) นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ buriramunited.com เกี่ยวกับประเด็นที่นำวัยรุ่นที่ก่อเหตุปั่นป่วนงานสงกรานต์ของ จ.บุรีรัมย์ 5 คน ขึ้นชกมวยกับนักมวยอาชีพ จนถูกวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ว่า ทุกวันนี้ประเทศไทยมีคนบางส่วนที่สร้างปัญหาแก่ส่วนรวม ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพกติกา ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการทางสังคม ควบคู่ไปกับมาตรการทางกฎหมายด้วย นอกจากนี้ สาเหตุที่คนเหล่านี้ไม่เคยเข็ดกับสิ่งที่ตัวเองทำ เป็นเพราะมีมาตรการกฎหมายที่อ่อนแอ

          สุดท้าย วัยรุ่นที่ถูกนำขึ้นเวทีมวย ทุกคนได้รับการป้องกันอันตรายและสวมนวมเหมือนนักมวยทั่วไป และหลังจากที่ลงจากเวที ก็ได้นำตัวส่งตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และส่งผลให้การจัดงานวันถัดมา (14 เมษายน 2557) ไม่มีผู้มาก่อเหตุวิวาทอีก

สำหรับแถลงการณ์ของนายเนวินทั้งหมด มีดังนี้

          "16 เมษายน 2557

          เรียน แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกท่าน

          ตามที่ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดงานสงกรานต์ มิวสิค เฟสติวัล GU12 ใหญ่กว่า มันส์มาก วันที่ 13-14 เมษายนที่ผ่านมา มีแฟนบอลและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานมากกว่า 100,000 คน นับเป็นงานสงกรานต์ที่มีผู้ร่วมงานมากที่สุดงานหนึ่งของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของสโมสรฯ

          สำหรับกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์วิธีการลงโทษทางสังคมกับผู้เข้ามาก่อกวน ทะเลาะวิวาท ไม่เคารพกติกาการเข้าร่วมงาน ละเมิดสิทธิของผู้เข้าร่วมงานคนอื่นๆ ด้วยการให้ขึ้นเวทีชกมวยกับนักมวยอาชีพนั้น ผมอยากจะเรียนชี้แจงว่า

          "สังคมไทยทุกวันนี้ คนบางส่วนที่ก่อปัญหาให้ส่วนรวม เป็นคนที่ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพกติกา ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น และละเมิดสิทธิของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย

          การดำเนินการกับคนที่ก่อปัญหาให้กับสังคมเหล่านี้ นอกจากจะใช้วิธีการทางกฎหมายแล้ว ต้องมีมาตรการทางสังคมควบคู่ไปด้วย

          คนพวกนี้ไม่เคยเข็ดหลาบ กับมาตรการทางกฎหมายที่อ่อนแอ และไม่เกรงกลัวกฎหมาย เนื่องจากมีผู้คอยปกป้อง ทั้งๆ ที่เป็นผู้กระทำความผิด ทำให้คนในสังคมส่วนใหญ่ ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย"

          สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีประสบการณ์การจัดงานใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมงานระดับ 100,000 คน มาแล้ว 4 ปี เรารู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ยอมรับกติกา และไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา แต่จะเกรงกลัวกับการถูกลงโทษทางสังคมมากกว่า เราจึงดำเนินการตามวิธีการที่เห็นว่าเหมาะสม ตามรูปแบบของเรา และได้แจ้งให้ทุกคนที่เข้าร่วมงานทราบล่วงหน้าแล้วว่า ถ้าทะเลาะวิวาทในงานจะได้รับผลอย่างไร ทั้งทางสังคม และทางกฎหมาย

          การจัดงานสงกรานต์ทุกครั้งของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดให้ผู้เข้าชมงาน เข้าชมฟรี โดยมีเงื่อนไขให้ทุกคนเคารพกติกาของสโมสรฯ ซึ่งได้ประกาศให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนทราบแล้ว ผู้ที่ไม่พอใจกฎกติกาของสโมสรฯ สามารถออกจากงานได้ แต่หากอยู่ร่วมงานต้องเคารพและปฏิบัติตามกติกาของสโมสรฯ ซึ่งผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ รับทราบและปฏิบัติ

          สำหรับผู้ก่อกวน ทะเลาะวิวาทในงานวันที่ 13 เมษายน ที่ถูกจับขึ้นชกบนเวทีมวยทุกคน ได้รับการป้องกันอันตราย ด้วยการสวมนวมเช่นนักมวยทั่วไป และเมื่อลงจากเวทีแล้ว สโมสรฯ ได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทำให้การจัดงานในวันที่ 14 เมษายน ไม่มีผู้เข้ามาก่อกวน ทะเลาะวิวาท อีก

          ผมขอเรียนว่าสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดำเนินการตามกฎกติกาของสโมสรฯ และกฎหมาย และยืนยันว่าผู้กระทำความผิดจะต้องได้รับการลงโทษ และขอให้ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ ปกป้องคนกระทำความผิด คำนึงถึงสิทธิของสโมสรฯ ในฐานะผู้จัดงาน และสิทธิของผู้เข้าชมงาน คนอื่นๆ ที่ถูกคนกระทำความผิดละเมิดด้วย

          ขอแสดงความนับถือ

          นายเนวิน ชิดชอบ
          ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"


หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ เมษายน 27, 2014, 12:17:44 pm
ชาวเน็ตร่วมสดุดีทหารปัตตานี ช่วยชีวิตเด็กจมน้ำ

-http://hilight.kapook.com/view/101258-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/pisitta/2557/04/27/6.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/pisitta/2557/04/27/7.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/pisitta/2557/04/27/8.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก อาสาสมัครกู้ชีพสันติ ปัตตานี

             ชาวเน็ตร่วมสดุดีทหารผู้กล้า ช่วยชีวิตเด็กจมน้ำ ที่ประตูส่งน้ำ พื้นที่ บ้านน้ำใส อ.มายอ จ.ปัตตานี จนสามารถช่วยเด็กได้

                วันที่ 26 เมษายน 2557 เหล่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างร่วมยกย่อง สดุดีทหารกล้าช่วยชีวิตเด็กจมน้ำ ใน จ.ปัตตานี หลังเฟซบุ๊กอาสาสมัครกู้ชีพสันติ ปัตตานี ได้เปิดเผยเรื่องราวของพลทหารชุดลาดตระเวนทั้ง 3 นาย ที่เข้าช่วยชีวิตเด็กจมน้ำอย่างกล้าหาญในทันทีที่ได้ยินเสียงชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือ เป็นผลให้สามารถช่วยเหลือเด็กชายได้ทันท่วงทีจนเด็กรอดชีวิต โดยมีเรื่องราวดังนี้

                "สุดยอดทหารไทย...ช่วยชีวิตเด็กจมน้ำ วันที่ 25 เมษายน 2557 เวลา 08.00 น. มว.ปล.ที่ 1 ร้อย.ร.15331 ฉก.ปัตตานี 25 จัดกำลัง จำนวน 6 นาย ประกอบด้วย จ.ส.อ.เอกพงศ์ สวัสดิ์พันธ์ ผบ.หมู่ ปล.ที่ 1 มว.ปล.ที่ 1 ร้อย.ร.15331 เป็น หน.ชุด ออกทำการลาดตระเวนและพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับชาวบ้านในพื้นที่ บ้านน้ำใส ม.5 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี

                ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ในขณะที่กำลังพลชุดลาดตระเวน กำลังเดินทางกลับเข้าฐานปฏิบัติการ ได้มีชาวบ้านตะโกนว่า “ช่วยด้วยมีเด็กจมน้ำ ที่ประตูส่งน้ำ” จ.ส.อ.เอกพงศ์ สวัสดิ์พันธ์, ส.ต.ไพรวัลย์ สุขพอ และ พลทหาร ทรงพันธ์ อินทรานนท์ ได้ถอดเสื้อเกราะ หมวกแคบร้า เสื้อชุดฝึก และวางอาวุธปืนไว้หน้าฐาน แล้วรีบวิ่งไปที่บริเวณประตูน้ำคลองชลประทาน ซึ่งอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการ ประมาณ 150 เมตร และกระโดดลงน้ำลงไปช่วยงมหาเด็กทั้ง 3 นาย จนพบร่างของ เด็กชาย ซูไฮมิง สาและ อายุ 7 ปี จมอยู่ใต้น้ำ และรีบนำขึ้นมาบนฝั่งปรากฏว่าเด็กชาย ได้หยุดหายใจไปแล้ว จีงได้ทำการผายปอด ปั๊มหัวใจ จนสามารถช่วยให้เด็กฟื้นคืนชีพสามารถหายใจได้เอง บิดา-มารดา (นายซุลฟา สาและ, นางยะฮาแว อูมา) ได้นำตัว เด็กชาย ซูไฮมิง สาและ ส่ง รพ.มายอ ทำการรักษาพยาบาล และส่งต่อไปที่ รพ.ปัตตานี ปัจจุบันอาการของ เด็กชายซูไฮมิง ฯ พ้นขีดอันตรายแล้ว

กำลังพล

                1. จ.ส.อ.เอกพงศ์ สวัสดิ์พันธ์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ปล.ที่ 1 ร้อย.ร.15331 ฉก.ปัตตานี 25
                2. ส.ต.ไพรวัลย์ สุขพอ ตำแหน่ง หน.ชุดยิง หมู่ ปล.ที่ 1 ร้อย.ร.15331 ฉก.ปัตตานี 25
                3. พลทหาร ทรงพันธ์ อินทรานนท์ ตำแหน่ง พลปืนเล็ก ร้อย.ร.15331 ฉก.ปัตตานี 25

ส่วนผู้บาดเจ็บคือ

                1.เด็กชาย ซูไฮมิง สาและ อายุ 7 ปี บ้านเลขที่ 40/3 ม.5 บ้านน้ำใส ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จว.ป.น. (บิดา นายซุลฟา สาและ มารดา นางยะฮาแว อูมา)"

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กรกฎาคม 05, 2014, 10:19:26 am
ชาวเน็ตชื่นชม! ทหารปีนระเบียงกล่อมสาวใหญ่โดดตึก

-http://news.sanook.com/1624813/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%A1-%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%81/-



นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพของทหารนายหนึ่งกำลังนั่งพูดคุยอยู่กับหญิงสาววัยกลางคนที่นั่งอยู่ริมขอบตึก และร้องไห้ด้วยความท้อแท้กับปัญหาชีวิต กลายเป็นภาพที่ถูกแชร์ส่งต่อในโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลายเพียงชั่วข้ามคืน ชาวเน็ตต่างชื่นชมกันเป็นอย่างมาก

ตามรายงานระบุว่า นายทหารที่ปรากฏอยู่ในภาพดังกล่าวคือ พ.ท.สุริยัน ประพิตรไพศาล ผบ.ควบคุม ร้อย.รส.พันขส.กรมสน.พล.ร.9 ซึ่งเมื่อวานนี้ (4 ก.ค.) ได้รับแจ้งเหตุผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะกระโดดลงมาจากอาคารเรียนชั้น 3 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านบางขุนเทียน เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร รวมทั้งหน่วยกู้ภัยจึงได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ บริเวณขอบระเบียบชั้น 3 ของอาคารเรียน พบหญิงวัยกลางคน สวมเสื้อกล้ามสีขาว ยืนร้องไห้โวยวาย พร้อมกับข่มขู่จะกระโดดตึกตาย ทราบชื่อคือ นายวัชรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี โดยหญิงคนดังกล่าวยืนอยู่ขอบระเบียงอย่างน่าหวาดเสียว

ต่อมาเจ้าหน้าที่พยายามเข้าเกลี้ยกล่อมหญิงคนดังกล่าว โดย พ.ท.สุริยัน ได้ปีนลงไปที่ขอบระเบียบ เพื่อขอพูดคุยกับหญิงคนดังกล่าว ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งลงและพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าหญิงคนดังกล่าวประสบปัญหาทางเงินของที่บ้าน ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร จึงตัดสินคิดสั้นจะกระโดดตึกตาย พ.ท.สุริยัน ได้นั่งพูดคุยอยู่ราว 10 นาที ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะมีทีท่าสงบลงและยอมลงมาข้างล่าวอย่างปลอดภัย ท่ามกลางเสียงปรบมือให้กำลังของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ยืนดูเหตุการณ์

ทั้งนี้ ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวมีการนำเอาไม่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียในเวลาต่อมา มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดชื่นชมและแชร์ภาพส่งต่อ นับเป็นเรื่องราวดีที่เกิดขึ้นในสังคม


(http://news.sanook.com/gallery/gallery/1624813/433205/)

(http://news.sanook.com/gallery/gallery/1624813/433209/)

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กรกฎาคม 22, 2014, 10:33:49 pm
มอบไม้กวาดทองคำให้คุณปู่วัย 86 คนดีศรีเมืองเลย

-http://ch3.sanook.com/26919/%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%9B-


ครอบครัวข่าวเช้า มอบไม้กวาดทองคำให้คุณปู่วัย 86 คนดีศรีเมืองเลย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.ค.57 นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนายณรงค์ จีนอ่ำ นายอำเภอนาด้วง,นายเสงี่ยม นาครังสี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะอาด พร้อมชาวบ้านนับร้อยร่วมแสดงความยินดีในพิธีมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณ บุคคลผู้อุทิศตนเพื่อสาธารณะดีเด่นให้ นายทา บึ้งซ้าย อายุ 86 ปี  โดยไม้มอบไม้กวาดทาสีทอง ตั้งชื่อว่า ไม้กวาดทองคำ เป็นสัญลักษณ์ความดีที่นายทา ทำไว้ พร้อมพระใส่กรอบสีทองไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลในบ้าน เป็นการยืนยันและเป็นกำลังแรงใจแก่ผู้ทำคุณงามความดีให้กับส่วนรวมโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ

นายทา เป็นผู้ที่ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่มั่วอบายมุขทั้งปวง ช่วยทำความสะอาดเก็บกวาด เก็บขยะ ตัดหญ้า ถางหญ้า ตามถนนทางหลวงแผ่นดินของแขวงการทาง ถนนในหมู่บ้าน บริเวณชุมชนหมู่บ้าน ตลาด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสะอาดและวัด รวมทั้งยังทำกิจกรรมในงานวัด งานบุญ ศพ งานการกุศล งานส่วนรวมต่างๆ ของชุมชนมาเป็นเวลา 39 ปีอย่างต่อเนื่อง ในระยะแรกที่ทำความสะอาด ประชาชน ข้าราชการจะมาบอกว่าบ้าหรือเปล่าลุง


(http://p3.isanook.com/c3/0/up/2014/07/Image-217.png)

(http://ch3.sanook.com/26919/%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%b3%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b8%9b/gallery-16739/image-26947)

(http://ch3.sanook.com/26919/%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%b3%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b8%9b/gallery-16739/image-26943)


คลิป  ชมได้ตามลิงค์ครับ


http://ch3.sanook.com/26919/%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%9B (http://ch3.sanook.com/26919/%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%9B)
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 03, 2014, 08:06:02 am
ร่วมความช่วยเหลือจากมนุษย์


ร่วมความช่วยเหลือจากมนุษย์ (http://www.youtube.com/watch?v=TwhOMnvEXJ8#ws)

-http://www.youtube.com/watch?v=TwhOMnvEXJ8-



.

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 03, 2014, 11:20:24 am
บัณฑิตสาว ช่วยเหลือเหยื่อรถชนเลือดอาบทั้งเครื่องแบบ

-http://hilight.kapook.com/view/106104-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/natthida/facebook/Khongkha-1.jpg)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Boon Khongkha , เฟซบุ๊ก ว่าที่ร้อยตรีหญิง ธัญญ่า ตัวแสบ

          บัณฑิตสาวน้ำใจงาม เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุจนเลือดอาบ ไม่สนใจว่าเครื่องแบบจะเปื้อนหรือไม่ ชาวเน็ตแห่ชื่นชม

          วันที่ 1 สิงหาคม 2557 ในโลกโซเชียลได้มีการแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ของบัณฑิตสาวน้ำใจงามรายหนึ่ง ที่ตัดสินใจตรงเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบัณฑิตซึ่งประสบอุบัติเหตุรถจนจนเลือดอาบ แม้ว่าเธอกับคนเจ็บจะไม่รู้จักกันเลยก็ตาม แถม น้องธัญญ่า บัณฑิตน้ำใจงานรายนี้ยังให้การช่วยเหลือเพื่อนโดยไม่เกรงว่าชุดเครื่องแบบสีขาวของตัวเองจะเปื้อนเลือดด้วย โดยเฟซบุ๊ก Boon Khongkha ของช่างภาพเจ้าของเรื่องราวดังกล่าว ได้โพสต์ภาพของบัณฑิตสาวว่าที่ร้อยตรีหญิงรายนี้ ขณะเข้าช่วยเหลือเพื่อนบัณฑิตผู้ประสบอุบัติเหตุ พร้อมระบุว่า

          "คนงาม....หลังจากได้ยินผมบอก มีคนโดนรถชน เธอก็วิ่งเข้าไป และทำอะไรที่ผมไม่คาดคิด เธอเข้าไปช่วยโดยที่ไม่ต้องสวมถุงมือยางด้วยจนเลือดแปะเปื้อนที่แขนของเธอ ผมเองต้องเตือน และรีบเอาแอลกอฮอล์เช็ดให้ ผมไม่รู้ว่าวันนี้มีเพื่อนบัณฑิตรับปริญญาทั้งหมดกี่คน แต่....ผมรู้ว่า เธอเป็นบัณฑิตคนเดียวที่เข้าไปช่วยเหลือ ช่วยกดไลค์ให้บัณฑิตน้ำใจงามคนนี้ด้วยครับ"

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/natthida/facebook/Khongkha-3.jpg)

.

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 16, 2014, 08:29:28 am
บิ๊กไบค์ใจหล่อมาก ช่วยขับเปิดทางให้รถกู้ภัย


-http://hilight.kapook.com/view/106623-


(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/crime2/big.jpg)



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก กู้ชีพบูรณะ ศูนย์ สาม

            ชาวเน็ตชื่นชม คนขับบิ๊กไบค์น้ำใจงามขับเปิดทางให้รถกู้ภัย ระหว่างกลับจากไปรับผู้ป่วยที่สระบุรี

            วันที่ 15 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์ข้อความของคนขับรถศูนย์กู้ชีพบูรณะ โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ที่ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณคนขับบิ๊กไบค์น้ำใจงาม ช่วยขับนำเปิดทางระหว่างกู้ภัยกลับจากไปรับผู้ป่วยที่สระบุรี ทำให้รถกู้ชีพขับผ่านไปได้โดยสะดวก

            สำหรับข้อความดังกล่าวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก กู้ชีพบูรณะ ศูนย์ สาม ซึ่งเหตุการณ์ภายในคลิปเป็นช่วงที่รถกู้ชีพเปิดสัญญาณไซเรนเพื่อขอทาง ด้านหน้ามีผู้ขับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์อยู่ด้านหน้า โดยคนขับได้โบกให้รถยนต์ที่อยู่ด้านหน้ารถกู้ชีพเบี่ยงซ้ายออกไปเพื่อเปิดทางให้รถกู้ชีพขับผ่านไปตลอดทาง พร้อมกับระบุข้อความประกอบคลิปว่า...

            "วันที่ 11/8/57 ได้ไปรับผู้ป่วยที่ รพ. สระบุรี ขากลับรถติดมากแล้วก็มีพี่บิ๊กไบค์มาช่วยอำนวยทางให้ซึ่งไม่รู้ว่าพี่เขาเป็นใครมาจากไหน แต่รู้เพียงอย่างเดียวพี่โคตรหล่อสวยน้ำใจงามมาก ขอขอบคุณครับ"


(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/crime2/news_8.jpg)


อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวได้มีการส่งต่อก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมคนขับบิ๊กไบค์อย่างมากมายทีเดียว


https://www.facebook.com/photo.php?v=688347484589523 (https://www.facebook.com/photo.php?v=688347484589523)
-https://www.facebook.com/photo.php?v=688347484589523-
คลิป บิ๊กไบค์ใจหล่อมาก ช่วยขับเปิดทางให้รถกู้ภัย โพสต์โดย เฟซบุ๊ก กู้ชีพบูรณะ ศูนย์ สาม



หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 18, 2014, 09:57:05 pm
เด็กหญิงวัย 13 สู้ชีวิต ทำงานหาเลี้ยงดูคุณตา กับแม่พิการ

-http://hilight.kapook.com/view/106737-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/rungtip/1a/119_43_1408087350.jpg)


น้องปูเป้ ด.ญ.ณัฐริกา เบ้าบุญตี๋ เด็กหญิงวัย 13 สู้ชีวิต ทำงานหาเลี้ยงดูคุณตา กับแม่พิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
 
             น้องปูเป้ ด.ญ.ณัฐริกา เบ้าบุญตี๋ วัย 13 ปี เด็กยอดกตัญญู รับจ้างทำงานหาเงินเลี้ยงดูแลคุณตา กับแม่พิการ และน้องชายอีก 2 คน

             วันนี้ (18 สิงหาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า คุณครูจากโรงเรียนเซไลวิทยา อ.วังสะพุง จ.เลย แจ้งว่าที่โรงเรียนเซไลวิทยานั้น มีเด็กหญิงยอดกตัญญูอยู่ 1 คน คือ ด.ญ.ณัฐริกา เบ้าบุญตี๋ หรือ น้องปูเป้ อายุ 13 ปี นักเรียนอยู่ชั้น ม.1 โดยครอบครัวของน้องปูเป้ มีฐานะยากจน แต่น้องปูเป้เป็นเด็กเรียนเก่ง

             ปัจจุบัน น้องปูเป้ อยู่กับคุณแม่ อายุ 37 ปี ที่มีความพิการที่ขา คุณตา วัย 86 ปี ซึ่งตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง และน้องชายอีก 2 คน ก็กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 และป.3 ทำให้หน้าที่ในการดูแลคุณแม่ คุณตา รวมถึงการหารายได้มาจุนเจือครอบครัวตกเป็นหน้าที่ของน้องปูเป้ ซึ่งน้องปูเป้ จะมีรายได้จากการไปรับจ้างแยกขยะที่โรงงานทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และในแต่ละเดือนนั้น ครอบครัวของน้องปูเป้จะได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการและผู้สูงอายุ เดือนละ 1,300 บาท ส่วนคุณพ่อของน้องปูเป้นั้นได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่น้องปูเป้ยังไม่เกิด
 
             คุณครู เผยว่า ในตอนแรกนั้น คุณแม่ของน้องปูเป้ ได้ขอให้น้องปูเป้ลาออกจากโรงเรียน เพื่อมาทำงานหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ครูได้ขอร้องให้น้องปูเป้เรียนต่อ โดยทางโรงเรียนยินดีสนับสนุนค่าเล่าเรียนให้น้องปูเป้บางส่วน โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ นอกจากการไปรับจ้างแยกขยะที่โรงงานแล้ว น้องปูเป้ ยังไปรับจ้างที่ร้านรับชื้อของเก่าได้วันละ 120 บาท และหากเป็นช่วงฤดูตัดอ้อย น้องปูเป้ ก็จะขอลาหยุดเพื่อไปรับจ้างตัดอ้อย

             ซึ่งหลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปพบน้องปูเป้ ยังเลขที่ 45 บ้านน้อยคีรี หมู่ 15 ต.โคกขมิ่น อ.วังสะพุง จ.เลย ก็ได้พบคุณแพร เบ้าบุญตี๋ อายุ 37 ปี คุณแม่ของน้องปูเป้ และคุณตาของน้องปูเป้ ที่กำลังนอนป่วยอยู่บนบ้าน

             จากการพูดคุยกับคุณแพร ทราบว่า เมื่อปี 2550 ตนกับน้องปูเป้ ได้ยืมรถจักรยานยนต์เพื่อน เพื่อขับไปซื้อนมที่ตลาดให้ลูกชายคนเล็ก ซึ่งตอนนั้นมีอายุได้ 4 เดือนแล้ว แต่ปรากฏว่า ระหว่างเดินทางตนกับน้องปูเป้ถูกรถกระบะชน ทำให้ตนขาหัก 3 ท่อน  แพทย์ต้องผ่าตัดใส่เหล็กด้ามไว้ ส่วนน้องปูเป้ก็ได้รับบาดเจ็บที่ขาเช่นเดียวกัน
 
             ช่วงหลังเกิดเหตุนั้น ทางคู่กรณีก็ได้ให้เงินช่วยเหลือ จำนวน 45,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนั้น ตนได้นำไปให้เพื่อนบ้าน 10,000 กว่าบาท เพื่อชดใช้ค่ารถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ส่วนเงินที่เหลือก็นำไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ปรากฏว่าไม่พอ สุดท้ายตนก็ต้องอยู่รักษาตัวต่อในโรงพยาบาลในฐานะคนไข้อนาถา ก่อนที่แพทย์จะให้ตนออกจากโรงพยาบาล และมารักษาตัวต่อที่บ้าน
 
             คุณแพร เล่าต่อว่า หลังจากสามีคนที่ 3 ของตนทราบว่า ตนพิการไม่สามารถเดินได้ตามปกติก็ได้หนีจากไป ทำให้ตนต้องหาเงินจุนเจือครอบครัวเพียงลำพัง โดยตอนแรก ๆ ตนยังไม่สามารถเดินได้ ก็ต้องคลานไปขึ้นรถที่มารับคนงานไปตัดอ้อย นอกจากรับจ้างตัดอ้อยแล้ว ตนก็ยังรับจ้างทำงานทั่ว ๆ ไปเท่าที่คนพิการจะสามารถทำได้ เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว จนสุดท้ายกระดูกที่หักไม่เชื่อมต่อกัน เนื่องจากตนไม่ได้ไปพบแพทย์ตามนัด และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เหล็กที่ดามกระดูกโผล่ออกมา จึงต้องไปพบแพทย์อีกครั้ง ทางแพทย์ก็ได้ผ่าเอาเหล็กออก ทำให้ทุกวันนี้ เวลาเดินไปไหนมาไหนตนต้องใช้ไม้เท้าคอยพยุง

             ด้านน้องปูเป้ เล่าว่า ในแต่ละวันก่อนไปโรงเรียนนั้น ตนมีหน้าที่เตรียมกับข้าวไว้ให้แม่กับตา พร้อมทั้งต้องพาตาและแม่ลงมานั่งเล่นอยู่ที่ใต้ถุนบ้านทุกวัน เพื่อป้องกันการพลัดตกบันไดลงมา และเมื่อไปโรงเรียนแล้ว ตนก็จะไปช่วยทำความสะอาดห้องพักครู ซึ่งคุณครูก็ให้ค่าจ้างเดือนละ 200 บาท ส่วนช่วงกลางวัน ก็โชคดีที่แม่ค้าที่โรงเรียนแบ่งข้าวให้ตนได้ทานเป็นประจำ โดยตนก็จะเข้าไปช่วยล้างจานที่ร้านของแม่ค้า เพื่อตอบแทนบุญคุณ

             หากวันไหนตนมีเงินเหลือก็จะแวะซื้อกับข้าวมาให้ที่บ้าน และช่วงที่เงินซึ่งได้จากการรับจ้างทำงานของตนหมด ตนก็จะหยุดเรียน เพื่อไปรับจ้างทำงานหาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ซึ่งตอนแรก ๆ ก็รู้สึกท้อ เพราะคิดว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไปตนอาจไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือต่อ แต่โชคดีที่ตนได้มีโอกาสเรียนต่อ และก็หวังว่า ตนจะได้เรียนหนังสือได้สูงที่สุด ซึ่งหากเป็นแบบนั้น ตนเชื่อว่าจะสามารถหางานที่ดี และรายได้ที่ดี พอที่จะดูแลแม่ ตา และน้อง ๆ ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่


เรื่องเล่าเช้านี้ น้องปูเป้ ด.ญ.วัย13ยอดกตัญญู แบกภาระหาเลี้ยงครอบครัว ดูแลคุณตา-แม่พิการ(18ส.ค.57) (http://www.youtube.com/watch?v=lS0mBWxEq-0#ws)
-http://www.youtube.com/watch?v=lS0mBWxEq-0-
คลิป น้องปูเป้ ด.ญ. วัย 13 ยอดกตัญญู แบกภาระหาเลี้ยงครอบครัว ดูแลคุณตา-แม่พิการ (18 ส.ค. 57)
: เครดิตรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดยคุณ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร 



หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 24, 2014, 09:42:33 am
ทึ่งเลย น้องนะโม วัยแค่ 4 ขวบ สวดมนต์ยาวคล่องปร๋อ

-http://hilight.kapook.com/view/106981-


(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/hitnews/14086951141408695192l.jpg)



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

            พุทธศาสนิกชนน้อย น้องนะโม เด็กชายวัยแค่ 4 ขวบ แต่สวดมนต์ยาวได้คล่องปร๋อ แถมยังชอบนั่งสมาธิด้วย

            เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2557 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เผยเรื่องราวที่ทั้งน่าทึ่งและน่าเอ็นดู ของเด็กชายรตน โกมาสถิต หรือ น้องนะโม อายุ 4 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลสอง ที่โรงเรียนดรุโณทัย จังหวัดตรัง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 12/9 ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งมีความสามารถพิเศษไม่เหมือนเด็ก ๆ ทั่วไปในวัยเดียวกัน เพราะน้องนะโมสามารถสวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่วหลายบท ไม่ว่าจะเป็นบทบูชาพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ บทมงคล 39 บทแผ่เมตตา ฯลฯ โดยสวดได้อย่างแม่นยำจากความจำ ไม่ต้องอาศัยหนังสือบทสวดเลย

น้องนะโม วัยแค่ 4 ขวบ สวดมนต์ยาวคล่องปร๋อ

            นางปวีณา โกมาสถิต คุณย่าและแม่บุญธรรมของน้องนะโม เผยว่า น้องนะโมเป็นลูกของลูกชายคนเล็ก แต่ลูกชายทำงานต่างจังหวัดและต้องย้านสถานที่ทำงานบ่อย เลยขอรับน้องนะโมมาเลี้ยงตั้งแต่ 1 ขวบ แล้วก็จดทะเบียนให้น้องเป็นลูกบุญธรรมด้วย ส่วนนิสัยชอบสวดมนต์ของหลานนั้นเริ่มมาตั้งแต่ 2 ขวบ เห็นพระสงฆ์หรือเห็นใครไปวัดไม่ได้ จะชอบขอตามไปด้วย ซึ่งนอกจากจะสวดมนต์ได้คล่องแคล่วแล้ว น้องนะโมยังชอบนั่งสมาธิ และมีความจำดีเลิศ

            ส่วนตัวหนูน้อยคนเก่งรายนี้ บอกว่า ชอบสวดมนต์เพราะทำให้มีความสุข แล้วก็ภูมิใจด้วยเพราะยังไม่มีเพื่อนคนไหนทำได้เหมือนตน ถ้าโตกว่านี้ก็อยากจะบวชเณร ส่วนในอนาคตอยากเป็นคุณหมอ


เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ น้องนะโม หนูน้อยหัวใจธรรมะวัย4ขวบ สวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่ว (23 ส.ค.57) (http://www.youtube.com/watch?v=LPXRywPAzmM#ws)
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=LPXRywPAzmM-
คลิป น้องนะโม หนูน้อยหัวใจธรรมะวัย4ขวบ สวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่ว (23 ส.ค.57) : เครดิต รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ โพสต์โดย คุณเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ สิงหาคม 30, 2014, 08:45:53 am
แท็กซี่พลเมืองดี เก็บเงินไกด์ชาวจีนเกือบ 8 หมื่นบาท ส่งคืนเจ้าของ

-http://hilight.kapook.com/view/107258-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc5/BwHzdLHIAAACFS3.jpg)

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            แท็กซี่พลเมืองดี เก็บเงินไกด์ชาวจีน 7.8 หมื่นบาท ส่งคืน ด้านเจ้าของเงินสุดใจดี มอบเงินให้ 5 พันบาท เป็นการตอบแทน

            วันนี้ (29 สิงหาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า โชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดี ได้เก็บเงินของไกด์ชาวจีนแล้วนำส่งสถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและการจราจรหรือ สวพ.91 ทราบชื่อคือ นายนเรศ ลือชาโคตร อายุ 41 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทะเบียน ทม 9068 กรุงเทพมหานคร



            ทั้งนี้ นายนเรศ เล่าว่า ได้รับผู้โดยสารชาวจีน 2 คน มาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปส่งที่บ้านเอื้ออาทรคู้บอน หลังจากไปส่งเสร็จก็ได้มีผู้โดยสารท่านอื่นมาขึ้นต่อ หลังจากส่งผู้โดยสารรายล่าสุดแล้วตนจึงกลับบ้านไปนอนพัก เนื่องจากฝนตกหนัก รวมทั้งโช๊คแตก ตนจึงก้มลงดูโช๊คใต้เบาะคนขับ เห็นกระเป๋าสีน้ำตาลหนึ่งใบ จึงหยิบขึ้นมาดูพบธนบัตรสกุลหยวนจำนวนหนึ่งและธนบัตรไทยอีกจำนวนหนึ่ง รวมเป็นเงิน 78,000 บาท พอตรวจสอบเอกสารก็พบว่าเป็นผู้โดยสารชาวจีนที่ตนได้ไปส่ง ทราบชื่อคือ นายโฟ เจือนฟง สัญชาติจีน ไกด์บริษัท นิวฟู่ฮั่ว ตนจึงได้แจ้งไปที่ สวพ.91 ให้ช่วยตามหาเพื่อนำเงินไปส่งคืน



            ด้าน นายโฟ หลังจากได้รับเงินคืนแล้ว ก็ได้กล่าวชื่นชมในความซื่อสัตย์และมีน้ำใจของ นายนเรศ พร้อมกับมอบเงิน 5,000 บาท ให้เป็นค่าตอบแทนในความมีน้ำใจ

เรื่องเล่าเช้านี้ แท็กซี่น้ำใจงามเก็บเงินเกือบ8หมื่นบาทส่งคืนไกด์ชาวจีน (29ส.ค.57) (http://www.youtube.com/watch?v=h6ewWn28BnE#ws)
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=h6ewWn28BnE-
คลิป แท็กซี่น้ำใจงามเก็บเงินเกือบ8หมื่นบาทส่งคืนไกด์ชาวจีน (29ส.ค.57) : เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.dailynews.co.th/Content/crime/262654/%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%997.8%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-
หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กันยายน 20, 2014, 08:57:23 pm
ยกย่องตำรวจที่ทำหน้าที่ที่ถูกต้องครับ



------------------------------------------------------------------



คลิปตำรวจจับรถตู้คิดเกินราคา ไล่สาวท้องแก่ลงจากรถ คนแชร์ว่อน

-http://hilight.kapook.com/view/108345-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/crime2/page_2.jpg)


คลิปตำรวจจับรถตู้คิดเกินราคา ไล่สาวท้องแก่ลงจากรถ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด)

            โลกโซเชียลฯ แห่แชร์คลิปนายตำรวจตัวอย่าง จับคนขับรถตู้คิดเงินเกินราคา ไล่คนท้องลงจากรถ โดยไม่สนที่คนขับอวดเบ่งว่ารู้จักนายตำรวจยศใหญ่

            วันนี้ (20 กันยายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังมีการแชร์คลิปที่มีชื่อว่า "ตำรวจตัวอย่าง จับรถตู้คิดเกินราคา (19/09/57)" ซึ่งคลิปดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง YouLike (คลิปเด็ด) โดยผู้ถ่ายคลิป ระบุว่า คนขับรถตู้คันดังกล่าวคิดเงินเกินราคา โดยคิดเงินจากศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิล์ด สำโรงไป จ.ชลบุรี 120 บาท จะลงตรงไหนก็คิดราคาเดียวกัน ซึ่งต่อมามีหญิงท้องแก่ขึ้นรถและถามว่า ทำไมไม่คิดราคาตามระยะทาง คนขับรถตู้ก็โวยวายและขู่ว่าเถ้าแก่เคลียร์กับผู้กำกับท้องที่ต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ขนส่งไว้แล้ว พร้อมไล่คนท้องลงจากรถจนล้มลงริมฟุตบาท แต่เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจคนในคลิปเห็นจึงเข้ามาช่วยเหลือทันที

            ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจคันดังกล่าว ได้กล่าวกับคนขับรถตู้ว่า ตนเองไม่สนว่าใครจะใหญ่แค่ไหนก็ไม่เกี่ยว คุณจะไล่ผู้โดยสารลงจากรถตู้ไม่ได้ จากนั้นได้เขียนใบสั่งทันที และจะประสานงานกรมขนส่งเพื่อดำเนินคดีกับคนขับรถตู้ต่อไป

            จากการโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อาทิ ตนเจอบ่อยมากรถตู้ที่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ซึ่งตนคิกว่าน่าจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดกับรถตู้ทั่วประเทศ ถ้าเป็นไปได้ควรจะมีการทำตารางค่าโดยสารตามระยะทางติดไว้บนรถเพื่อความยุติธรรมให้กับผู้โดยสารด้วย นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่ปรากฎอยู่ในคลิปมีชื่อว่า ผู้กองตั้ม หรือ ร.ต.ท. ศฐา สัตยวาที สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมบอกว่า ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของตำรวจไทย


https://www.facebook.com/video.php?v=898712820249389 (https://www.facebook.com/video.php?v=898712820249389)
-https://www.facebook.com/video.php?v=898712820249389-
คลิป ตำรวจตัวอย่าง จับรถตู้คิดเกินราคา! (19/9/57) โพสต์โดย เฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด)



หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ มกราคม 24, 2015, 08:10:35 am
คนดีอยู่ยาก ตำรวจถูกขู่ฆ่า เหตุปฏิบัติหน้าที่ดีจนขัดผลประโยชน์

-http://hilight.kapook.com/view/114665-


(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/settawoot/z-1_394.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/settawoot/z-2_222.jpg)



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  คุณ veenono สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

                  ชาวเน็ตร่วมแชร์เรื่องราวตำรวจน้ำดี เคร่งครัดในการทำหน้าที่จนถูกขู่ฆ่า ชี้ตำรวจยังถูกขู่ฆ่า ประชาชนคงหาความปลอดภัยยาก วอนผู้มีอำนาจช่วยคุ้มครองดูแล

                 คงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธได้ยากว่าสังคมปัจจุบันนี้คนดี ๆ ชักจะอยู่ยากขึ้นไปทุกที ดังเช่นกรณีล่าสุดที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันในโลกออนไลน์ขณะนี้ เมื่อ ลุงป๋อม หรือ ร.ต.ท. วิชัย จิตสัจจพังศ์ รองสารวัตรจราจร สน.เทียนทะเล ได้ถูกผู้มีอิทธิพลขู่ฆ่า เหตุเพราะมีความเคร่งครัดจริงจังในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลงานจราจรบริเวณถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล จนไปขัดผลประโยชน์กับคนบางกลุ่ม ตามที่คุณ veenono สมาชิกเว็บไซต์พันทิป  ได้นำมาเปิดเผยในห้วข้อ "ตำรวจยังถูกขู่ฆ่า ประชาชนคงหาความปลอดภัยยาก" เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 โดยบอกเล่าเรื่องราว ดังนี้

                 "มีตำรวจไทยไม่กี่นายหรอกครับที่ใช้จักรยานในการออกตรวจเพราะทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน ทั้งไม่ปลอดภัย หนึ่งในนั้นคือหมวดป๋อม ร.ต.ท. วิชัย จิตสัจจพงศ์ รองสารวัตรจราจร สน.เทียนทะเล ที่ใช้จักรยานในการออกตรวจมาแล้วเป็นปีที่ 6

                 และด้วยการขี่จักรยานกวดขันเข้มตลอดเส้นทางบางขุนเทียน-ชายทะเล เพื่อป้อมปรามผู้กระทำผิดวินัยจราจร จึงมีคนประสงค์ร้ายมีทั้งฝากข่มขู่ พ่นเสา พ่นพื้นถนนข่มขู่

                 เมื่อประมาณ 6 ปีก่อนผมจำได้ว่าผมขี่จักรยาน trex 4500 เข้าไปเส้นบางขุนเทียนชายทะเล ได้พบลุงป๋อม จึงเข้าไปทักทายและขอถ่ายรูป พร้อมนำข้อมูลเรื่องราวดี ๆ ของลุงป๋อม ตำรวจจักรยานมาเขียนยกย่อง ในสิ่งที่ลุงทำในเวปไทยเอ็มทีบี (Thaimtb.com) จนมีหลายคนสนใจและมีผู้มีกำลังทรัพย์นำจักรยานที่ดี ๆ ไปมอบให้ลุงป๋อม

                 ภาพนี้ผมถ่ายลุงป๋อมภาพแรกเลยและเป็นภาพที่เคยมีปัญหา คือมีคนแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ผมบอกว่าให้ดูที่รถจักรยานผมที่จอดอยู่ในภาพ จากวันนั้นถึงวันนี้ ลุงป๋อมก็ยังใช้จักรยานในการตรวจตราความเรียบร้อย เพราะใช้จักรยานออกตรวจทุกวันจึงอาจทำให้ใช้จักรยานไปหลายคันมาก ๆ

                 เมื่อมีคนรักก็มีคนเกลียดครับ คนที่เสียผลประโยชน์ อันธพาล อิทธิพล มีเรื่องซ่อนเร้นมากมาย ใครสะดวกก็ชวนกันหาโอกาสไปให้กำลังใจลุงป๋อมกันสักรอบนะครับเพื่อน ๆ

                 วันนี้ผมแวะเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจลุงป๋อมมา แกบอกว่าตอนนี้ผู้กำกับจราจรสั่งแกว่าห้ามตรวจเกินเวลา 6 โมงเย็นเพราะสายข่าวแจ้งมาว่าแกอาจจะถูกทำร้ายได้


เปิดใจตำรวจจักรยานถูกขู่ทำร้าย (http://www.youtube.com/watch?v=d-NEFouuWxA#ws)
-http://www.youtube.com/watch?x-yt-ts=1421914688&v=d-NEFouuWxA&x-yt-cl=84503534-
คลิป เปิดใจตำรวจจักรยานถูกขู่ทำร้าย โพสต์โดย คุณ Ittipol Barameekriangkrai  สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

                 จากคลิป เผยให้เห็นลุงป๋อมที่ยืนกรานว่าจะขอปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะถูกผู้มีอิทธิพลหรืออันธพาลขู่ทำร้ายก็ตาม โดยยืนยันว่าจะขอทำงานเพื่อปกป้องคนใช้จักรยาน สำหรับผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ของลุงก็คงจะเป็นกลุ่มร้านอาหารที่ไม่มีที่จอดรถ จนต้องอาศัยพื้นถนนเป็นทื่จอดรถ ซึ่งนับว่ามีความผิดฐานกีดขวางการจราจร จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย

                 ทั้งนี้หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกบอกเล่าออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาร่วมให้กำลังใจแก่นายตำรวจน้ำดีผู้นี้ ซึ่งนับว่าหาได้ยากยิ่งในสังคมปัจจุบัน ขณะที่บางคนยังเข้ามาบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ของ ลุงป๋อม ซึ่งเป็นที่รักของชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวด้วย

                 อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวเน็ตอีกมากที่รู้สึกสงสัยว่า ทั้ง ๆ ที่ผู้บังคับบัญชาของ ลุงป๋อม ก็ทราบดีว่าอาจมีการดักทำร้ายลุง เหตุใดจึงไม่หาทางจัดการกับกลุ่มอันธพาลเหล่านี้ก่อน นอกจากนี้ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เสนอว่าน่าจะหาบัดดี้ออกปฏิบัติหน้าที่คู่กับ ลุงป๋อม เพื่อความปลอดภัย และฝากไปถึงผู้บังคับบัญชาและผู้มีอำนาจให้เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าว เพื่อคุ้มครองตำรวจดี ๆ ให้อยู่คู่สังคมไทยต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
pantip.com


หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2015, 09:11:56 am
เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...

-http://hilight.kapook.com/view/116244-

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/fontip/etc6/taxi_1.jpg)


 ตกใจสุด ๆ เมื่อทำโทรศัพท์ไอโฟนหล่นในรถแท็กซี่ กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไปกว่า 10 นาที กระหน่ำโทรไปเท่าไรก็ไม่มีคนรับ แล้วจะได้โทรศัพท์คืนหรือไม่

            มีหลายคนที่เผลอลืมข้าวของทิ้งไว้ในรถแท็กซี่ และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นของสำคัญอย่างกระเป๋าสตางค์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือโทรศัพท์มือถือเสียด้วย ซึ่งมีหลายคนไม่ได้ของคืน แต่ยังมีบางคนโชคดีได้รับของคืนจากคนขับแท็กซี่ที่มีความซื่อสัตย์

            ดังเช่นเรื่องราวของ คุณสมาชิกหมายเลข 1712601 ที่ตั้งกระทู้ชื่อ "ขอโทษครับ ผมรับโทรศัพท์ไม่เป็น" ไว้ในเว็บไซต์พันทิป เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เขาเผลอทำโทรศัพท์มือถือตกไว้ในรถแท็กซี่สีฟ้า ทะเบียน ทว 7692 ลองไปดูว่าเจ้าของกระทู้จะได้โทรศัพท์คืนหรือไม่

            เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย ๆ ของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ขณะที่เจ้าของกระทู้เรียกรถแท็กซี่จากห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ให้ไปส่งที่ย่านพระราม 9 ซึ่งตอนลงจากรถก็วุ่นวายพอสมควร เพราะต้องอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบด้วย อีกทั้งยังมีข้าวของพะรุงพะรัง ทำให้เผลอทำโทรศัพท์มือถือ iPhone 5s ที่เพิ่งซื้อมาไม่ถึง 7 วัน ตกไว้ในรถ กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไป 10 นาทีแล้ว จึงได้โทรศัพท์เข้าเครื่องของตัวเอง แต่ไม่มีคนรับสายเลย

            "รู้ตัวก็ผ่านไป 10 กว่านาที ผมเลยรีบเอาโทรศัพท์เพื่อนโทรเข้าเบอร์ผมแบบลน ๆ ใจสั่น ๆ ไม่มีใครรับสายผมเลย ผ่านไป 20 นาที ทำใจแล้วครับ คงเหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มา ไม่ได้คืนแน่ ๆ แต่ไหน ๆ ไม่ได้คืนแล้วก็ลองโทรให้มันถึงที่สุด จนมีคนรับสายเป็นเสียงสาวเสียงหวาน "มีคนเอาโทรศัพท์มาคืนค่ะ สะดวกลงมาเอาตอนนี้ข้างล่างไหมคะ"

            เสียงนั้นทำเอาเจ้าของกระทู้ดีใจมาก รีบวิ่งมาลงรับโทรศัพท์คืน โดยหวังจะได้เจอหน้าสาวเสียงหวานคนนั้น แต่...สุดท้ายก็ไม่เจอผู้หญิงคนที่เขาคุยด้วย เจอแต่ผู้ชายที่เป็นพี่คนขับรถแท็กซี่คันเกิดเหตุยืนถือโทรศัพท์รออยู่

            "ผมกำลังจะยกไหว้ขอบคุณ แต่พี่คนขับแท็กซี่ก็พูดขึ้นมาว่า "ขอโทษครับ ผมรับโทรศัพท์ไม่เป็น" ผมดีใจมาก ๆ ครับที่ได้โทรศัพท์คืน แต่ที่ดีใจกว่านั้นคือผมได้เห็นว่าในสังคมยังมีคนดี ๆ ที่สร้างเรื่องราวน่ารัก ๆ และน่าประทับใจในสังคม ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่ที่อุตส่าห์วนรถกลับคืนมาให้ ผมรู้ว่าพี่ต้องกลับรถไกลมาก ๆ และเสียเวลากับผมไม่น้อย ขอบคุณพี่มาก ๆ ครับ "คุณสมหมาย ประจญมอญ" คนขับ "แท็กซี่สีฟ้า ทว 7592" พี่โคตรจ๊าบเลยอะ หล่อกว่าพระเอกหนังอีก"

            งานนี้ชาวเน็ตเลยเข้ามาชื่นชมยกย่อง คุณสมหมาย ประจญมอญ เป็นการใหญ่ พร้อมกับบอกเจ้าของกระทู้โชคดีมากที่ได้เจอคนดี ๆ ในสังคม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก -Pattaradanai Beersod Laonukul-



หัวข้อ: Re: ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: sithiphong ที่ พฤษภาคม 09, 2015, 07:01:03 pm
 “โด้” บริจาค 5 ล้านช่วยเหยื่อภัยพิบัติที่เนปาล
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

-http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052827-


คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังของ รีล มาดริด และทีมชาติโปรตุเกส ตกเป็นข่าวร่วมบริจาคเงินจำนวน 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 260 ล้านบาท) เข้าองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่ประเทศเนปาล

โซ ฟุต สื่อของฝรั่งเศส รายงานข่าว โรนัลโด วัย 30 ปี ได้ร่วมบริจาคเงินเข้ามูลนิธี เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Chidren) ซึ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ได้ใช้ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ โพสต์ข้อความให้แฟนๆช่วยกันบริจาคเงินอีกด้วย

ทั้งนี้ โรนัลโด ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะใจบุญรายหนึ่งของวงการ โดยเคยออกเงินค่าใช้จ่ายผ่าตัดสมองให้กับเด็กอายุ 10 เดือนรายหนึ่ง จำนวน 6 หมื่นปอนด์ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) และหยิบยื่นน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกยากอยู่เสมอหากมีโอกาส

สำหรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประเทศเนปาล ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีประชาชนเสียชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารต่างๆ รวมถึงถูกหิมะบนภูเขาถล่มทับลงมา โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 7,759 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 16,000 คนแล้ว


------------------------------------------------------


เยี่ยมมาก มีแล้วรู้จักแบ่งปันช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน


.