(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/t1/p480x480/1557515_515665578547262_1655932287_n.jpg)
จาก 尊勝陀羅尼流布緣起 ในสมัยราชวงศ์ถังที่ ๑๑
ของกษัตริย์ถังไท่จง(ปี พ.ศ.๑๓๑๙) จารึกว่า
ทรงมีพระบรมราชโองการให้เหล่าภิกษุณีใต้หล้า
จักต้องสาธยายธารณีนี้ ๒๑ จบทุกวัน
เมื่อครบกำหนดทุกปีในวันที่ ๑ เดือน ๑ ตามจันทรคติ
ต้องยื่นถวายรายงาน
ธารณีนี้ถือเป็น ตรีมหาธารณี คือธารณีที่ยิ่งใหญ่ ๓ บท มี
๑.มหากรุณาธารณี (大悲陀羅尼)
๒. มหา วิชย พุทธอุษฺณีษ ธารณี (大佛頂尊勝陀羅尼) และ
๓.ศานฺติก ศรีเย ธารณี (消災吉祥神咒)
ที่พุทธศาสนิกชนต้องสาธยายเป็นบททำวัตร
ในพิธีโยคะตันตระ มุขชวาลเปรตพลี 瑜伽焰口 กล่าวว่า
"เมื่อกาลก่อนที่พระเถราจารย์(คือพระพุทธปาลิตะ ผู้แปลพระสูตรด้านล่างนี้)
ได้มายังบุรพประเทศ แลได้รับการชี้แนะจากพระมัญชุศรี
บุรพประเทศหากไร้ซึ่งวิชยธารณีแล้วไซร้
วิญญาณอนาถาก็จะหลุดพ้นจากทุกข์ได้โดยยาก"
「昔日尊者往東來,卻被文殊化引開,
東土若無尊勝咒,孤魂難以脫塵埃。」
อาจารย์เสถียร โพธินันทะ กล่าวว่า “อุณหิสวิชัยสูตร”
สูตรนี้เลือนแปรมาจาก “อุษณีวิชัยธารณี”
ในภาษาสันสกฤตของมนตรยานอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ตัวคาถา
กลับแต่งเป็นบาลีและไม่มีเค้าเหมือนฝ่ายสันสกฤตเลย
เข้าใจว่าจะเป็นด้วยท่านผู้แต่งคงไม่ได้ฉบับสันสกฤตมาเป็นแบบเป็นราก
แต่คงได้ทราบความขลังความศักดิ์สิทธิ์
ของอุษณีย์วิชัยธารณีมาเป็นอย่างดี จึงได้คิดแต่งเป็นสูตรในบาลีขึ้น
ที่จะแต่งในลังกาหรือในเมืองไทยนี้เอง ...
(จาก...กระแสมนตรยานในนิกายเถรวาท)
*******************************
大佛頂尊勝陀羅尼經
พุทฺธอุษฺณีษวิชยธารณีสูตฺร
罽賓國沙門佛陀波利奉 詔譯
พระตรีปิฏกพุทธปาลิตะ ชาวเมืองโขตาน (กปิศา)
แปลจากภาษาสันสกฤตสู่ภาษาจีนในสมัยราชวงศ์ถัง ของจีน
พระวิศวภัทร เส็กเซี่ยเกี๊ยก (釋聖傑)
แปลจากภาษาจีนสู่ภาษาไทย (11 พฤศจิกายน 2556)
ณ มูลนิธิพุทธจักษุวิชชาลัย กษิติครรภ์โพธิมณฑล (佛眼禪林:地藏道場)
*******************************
如是我聞,一時薄伽梵在室羅筏,住誓多林給孤獨園,與大芯芻眾千二百五十人俱,又與諸大菩薩僧萬二千人俱。爾時三十三天於善法堂會,有一天子名曰善住,與諸大天遊於園觀,又與大天受勝尊貴,與諸天女前後圍繞,歡喜遊戲,種種音樂,共相娛樂,受諸快樂。
ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้ สมัยหนึ่งสมเด็จพระภควันต์ ประทับ ณ นครสาวัตถี ในเชตวนาราม แห่งท่านอนาถบิณฑิกะ พร้อมหมู่มหาภิกษุจำนวน ๑,๒๕๐ รูป บรรดาสงฆ์ผู้เป็นมหาโพธิสัตว์จำนวน ๑๒,๐๐๐ รูป
สมัยนั้น ในสุธรรมสภา บนดาวดึงส์เทวโลก มีเทพบุตรองค์หนึ่งนาม สุปฺรติษฺฐิตะ พร้อมบรรดาอติเทพผู้เป็นใหญ่ ได้ท่องเที่ยวทรรศนาอยู่ซึ่งทิพยอุทยาน ยังมีอติเทพผู้มีศักดิ์ใหญ่กับทั้งบรรดาเทวกัญญาแวดล้อมอยู่ ตลอดเบื้องหน้าและเบื้องหลัง อันท่องเที่ยวอยู่ด้วยความรื่นรมย์โสมนัส บรรดาเครื่องดนตรีสังคีตนานาต่างล้วนบรรเลงขึ้น ได้เสวยอยู่ซึ่งสุขบันเทิงนานาประการ
爾時善住天子,即於夜分聞有聲言:[善住天子卻後七日,命將欲盡,命終之後生贍部洲,受七返畜生身,即受地獄苦。從地獄出,希得人身,生於貧賤,虛於母胎即無兩目。]
爾時善住天子聞此聲已,即大驚怖,身毛皆豎,愁憂不樂,速疾往旨天帝釋所,悲啼號哭,惶怖無計。頂禮帝釋二足尊已,白帝釋言:[聽我所說,我與諸天女共相圍繞,受諸快樂,聞有聲言:[善住天子卻後七日,命將欲盡,命終之後,生贍部洲,七返受畜生身。受七身已,即墮諸地獄,從地獄出,希得人身,生貧賤家而無兩目。]天帝!云何令我得免斯苦?]
ครั้งนั้น สุปรติษฐิตเทวบุตร ในเพลาแห่งราตรี ได้ยินเสียงว่า “ดูกร สุปรติษฐิตเทวบุตร จากนี้ไปอีก ๗ วัน เธอจักหมดอายุขัย ก็แลเมื่อจุติแล้ว จะเกิดยังชมพูทวีป เป็นเดรัจฉาน ๗ ครั้ง แล้วรับทุกขเวทนาในนรก เมื่อออกจากนรก จะเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลยากจนต่ำต้อย จะไร้ซึ่งดวงตาทั้งสองข้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา”
บัดนั้น สุปรติษฐิตเทวบุตร เมื่อได้สดับเสียงนี้แล้ว ก็บังเกิดความตระหนกหวาดหวั่นใหญ่หลวง จนโลมาทั่วทั้งสรรพางค์ล้วนตั้งชัน เกิดความปริวิตกเศร้าหมอง ไม่อาจเป็นสุขอยู่ได้ จึงรีบไปเข้าเฝ้ามูลบาทแห่งสักกเทวราช แล้วร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา ด้วยความหวาดกลัว ไร้ซึ่งหนทาง ได้น้อมศีรษะยังยุคลบาทแห่งสักกเทวราช แล้วกราบทูลเทวราชว่า “โปรดสดับฟังข้าพระบาทเถิด ขณะที่ข้าพระองค์ กำลังแวดล้อมอยู่ด้วยบรรดานางเทวกัญญา กำลังเสวยสุขโสมนัสนานาประการอยู่ ได้ยินเสียงกล่าวว่า
ดูกร สุปรติษฐิตเทวบุตร จากนี้ไปอีก ๗ วัน เธอจักหมดอายุขัย ก็แลเมื่อจุติแล้ว จะเกิดยังชมพูทวีป เป็นเดรัจฉาน ๗ ครั้ง แล้วรับทุกขเวทนาในนรก เมื่อออกจากนรก จะเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลยากจนต่ำต้อย จะไร้ซึ่งดวงตาทั้งสองข้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ข้าแต่เทวราช ข้าพระองค์ จักรอดพ้นจากทุกข์นั้นได้อย่างไรหนอ พระเจ้าข้า”
(มีต่อ.. โปรดติดตาม)
Vitsawapat Maneepattamakate
8 มกราคม 2557
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1/p480x480/1484256_513523795428107_799011495_n.jpg)
https://www.facebook.com/vitsawapat
(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/t1/p480x480/64165_557877320910384_1638933258_n.jpg)
(ตอนที่ 2)
爾時帝釋聞善住天子語巳,甚大驚愕,即自思惟,此善住天子,受何七返惡道之身? 爾時帝釋須臾靜住,人定諦觀,即見善住當受七返惡道之身,所謂豬、狗、野干、獼猴、蟒蛇,鳥、鷲等身,食諸穢惡不凈之物。爾時帝釋觀見善住天子,當墮七返惡道之身,極助苦惱,痛割於心,諦思無計,何所歸依,唯有如來應正等覺,令其善住得免斯苦。
เมื่อนั้น เทวราช ครั้นสดับสุปรติษฐิตเทวบุตรแล้ว ก็ให้บังเกิดความตระหนกหวั่นเกรงเป็นยิ่งนัก มีมนสิการว่า อันสุปรติษฐิตเทวบุตรนี้ ต้องเสวยชาติในอบายมรรคถึง ๗ ครั้งได้อย่างไรหนอ
ครั้งนั้น เทวราชจึงสงบนิ่งชั่วขณะ แล้วเจริญสมาธิพิจารณาเห็นตามจริง พบว่าสุปรติษฐิตเทวบุตร ต้องไปเกิดในอบายมรรคถึง ๗ ครั้ง อันมี สุกร สุนัข สุนัขจิ้งจอก (ศฺฤคาล) วานร อสรพิษ อีกา นกแร้ง บริโภคแต่บรรดาปฏิกูลอาจมที่น่ารังเกียจ ไม่สะอาดทั้งปวง
ครั้งนั้น เทวราชทรงพิจารณาว่า สุปรติษฐิตเทวบุตร จะต้องเกิดในอบายมรรค ๗ ครั้ง ได้รับทุกขเวทนาเป็นที่สุดอย่างนี้ ก็ให้เจ็บปวดรวดร้าวพระทัย มีเทวดำริไม่เห็นวิธีการใดๆ ว่าจะพึ่งพิงผู้ใดได้ เว้นแต่พระตถาคตผู้ตรัสรู้ชอบ ที่จะยังให้สุปรติษฐิตะได้รอดพ้นจากทุกข์นั้น
爾時帝釋,即於此日初夜分時,以種種花鬘、塗香、末 香,以妙天衣莊嚴執持,往旨誓多林園。於世尊所,到已頂禮佛足,右繞七匝,即於佛前廣大供養,佛前胡跪而白佛言:[世尊!善住天子云何當受七返畜生惡道之身?]具如上說。
สมัยนั้น เทวราช ในยามแรกแห่งราตรีของวันนั้น ทรงถือเอาเครื่องวิเลปนะ เครื่องสุคันธชาติ แลผงหอมนานัปการ กับทิพยาภรณ์อันอลังการ มาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังเชตวนาราม เมื่อถึงแล้วได้น้อมเศียรยังพระพุทธยุคลบาท กระทำทักษิณาวรรต ๗ รอบแล้วหยุดอยู่เฉพาะเบื้องพระพุทธพักตร์ เพื่อกระทำการถวายสักการะอย่างยิ่งใหญ่ แล้วคุกเข่าลงเบื้องหน้า พร้อมกราบทูลพระพุทธกรุณาว่า
“ข้าแต่พระผู้มีพระภาค อันสุปรติษฐิตเทวบุตร จะต้องไปเกิดในเดรัจฉาน อบายภูมิถึง ๗ ครั้ง ดังที่กล่าวแล้วด้วยประการอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า”
(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/s403x403/1486590_520011398112680_939306339_n.jpg)
(ตอนที่ 3)
爾時如來頂上放種種光,遍滿十方一切世界巳,其光還來繞佛三匝,從佛口入。佛便微笑告帝釋言:[天帝!有陀羅尼名為〈如來佛頂尊勝〉,能凈一切惡道,能凈除一切生死苦惱,又能凈除諸地獄、閻羅王界、畜生之苦,又破一切地獄能
迴向善道。
ครานั้น พระศิรอุษณีษะ แห่งพระตถาคตเจ้า ได้เปล่งรัศมีนานา ประภาสส่องสว่างไปยังโลกธาตุทั้งปวงในทศทิศ ครั้นแล้ว พระรัศมีนั้นก็หวนกลับมาเวียนรอบพระพุทธองค์สามคำรบ แล้วเข้าสู่พระโอษฐ์แห่งพระพุทธองค์ พระพุทธโลกนาถก็ทรงแย้มสรวล แล้วตรัสกับท้าวสักกะว่า
“ดูก่อน เทวราช มีธารณีชื่อว่า ตถาคตพุทฺธอุษฺณีษวิชย อันสามารถชำระอบายมรรคทั้งปวง สามารถชำระทุกข์เศร้าหมองแห่งสังสารวัฏทั้งปวง อีกสามารถชำระทุกข์แห่งนรก ยมราชาโลก เดรัจฉาน ให้บริสุทธิ์ อีกทั้งจะทำลายนรกทั้งปวง สามารถปริณามสู่กุศลมรรค
天帝!此〈佛頂尊勝陀羅尼〉,若有人聞,一經於耳,先世所造一切地獄惡業,悉皆消滅,常得清凈之身,隨所生處,憶持不忘。從一佛剎至一佛剎,從一天界至一天界,遍歷三十三天,所生之處,憶持不忘。
天帝!若人命欲將終,須臾憶念此陀羅尼,還得增壽,得身口意凈,身無苦痛,隨其福利,隨處安穩,一切如來之所觀視,一切天神恒常侍衛,為人所敬,惡障消滅,一切菩薩同心覆護。
ดูก่อน เทวราช อันพุทธอุษณีษวิชยธารณีนี้ หากมีบุคคลได้สดับผ่านโสตหนึ่งครั้ง บรรดาอกุศลกรรมแห่งนรกทั้งปวงที่ได้กระทำแล้วในบุรพชาติล้วนจะดับสูญไป จะบรรลุถึงกายที่บริสุทธิ์ ทุกสถานที่ถือกำเนิด จะตามระลึกจดจำได้ไม่ลืมเลือน จากพุทธเกษตรแห่งหนึ่ง ไปยังพุทธเกษตรอีกแห่งหนึ่ง จากเทวภูมิแห่งหนึ่ง ไปยังเทวภูมิอีกแห่งหนึ่ง ตลอดทั่วตรัยตรึงษ์เทวโลกอันเป็นสถานที่กำเนิด ก็จะตามระลึกจดจำได้ไม่ลืม
ดูก่อน เทวราช หากบุคคลที่จวนสิ้นชีพ ได้ระลึกถึงธารณีนี้เพียงชั่วขณะ ก็จะยังได้มีอายุขัยยืดยาวออกไป ได้บรรลุถึงความบริสุทธิ์แห่งกาย วาจา ใจ ร่างกายปราศจากทุกข์ แล้วได้เสวยกุศลคุณ (แห่งธารณี) นั้น ย่อมได้รับความผาสุกอยู่ทุกสถาน บรรดาพระตถาคตเจ้าล้วนทรรศนาสอดส่องแลดู บรรดาเทพก็ให้การอารักขาอยู่เป็นนิจสิน เป็นที่เคารพแห่งพหูชนทั้งปวง อกุศลวิบากมลายสิ้น หมู่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายล้วนมีจิตเดียวกัน จักปกป้องคุ้มครอง.
(มีต่อ.. โปรดติดตาม)
พระวิศวภัทร เส็กเซี่ยเกี๊ยก (釋聖傑)
16 มกราคม 2557
(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p480x480/1472822_500691466711340_281045800_n.jpg)
>>> F/B Vitsawapat Maneepattamakate