แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - โทนาล

หน้า: [1]
1
(ต่อ) 

   ผมลงจากรถ เธอเหมือนจะจำผมได้ ความสง่างามแผ่รัศมีจากร่างของเธอ และเธอวิ่งมาหาผม ผมครุ่นคิดว่าเธอน่าจะงีบหลับพักกลางวัน และเสียงรถของผมปลุกให้เธอตื่น และเธอจึงออกมาดูว่าเกิดอะไรขณะที่เธอกำลังวิ่งมานั้นก็ไม่น่าระรู้ว่าเป็นใครตั้งแต่แรก ออกจะไม่เหมาะนักที่ผุ้หยิงวิ่งเข้ามาหาผม แล้วแสร้งยิ้ม เธอหยุดลง ชั่วขณะหนึ่งผมสงสัยว่าทำไม  เธอจึงคล่องแคล่วปานนี้ เธอดูไม่เหมือนมารดาของปาลิโตเลย

     "พระคุณเจ้า  อะไรจะวิเศษอย่างนี้! " เธอ อุทาน
     "โดน่า  โซเลเด๊ด?" ผมถาม แสงความสงสัย
    "ทำไมคุณจำฉันได้ละ?" เธอกล่าว พลางหัวเราะ
     
      ผมคงทำเรื่องโง่ ๆ เกี่ยวกับการวิจารณ์เธออย่างรวเร็ว
      "ทำไมคุณถึงมาขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงแก่ ๆ อย่างฉันเสมอเลยน่ะ?" นางถาม จ้องผมอย่างล้อเลียน ท้าทาย
      นางค่อนข้างจะขวานผ่าซากที่กล่าวต่อผม ผมเคยตั้งชื่อเล่นเธอว่า "คุณนายปิรามิด" ผมนึกถึงว่าครั้นหนึ่งเคยบอกกับเนสเตอร์ถึงรูปร่างทรง 3 เหลื่ยมของนางให้ฟัง นางตัวใหญ่ ศรีษะเล็กและเทอทะ ว่าตามปกติ
     "มองที่ฉัน"  เธอพูด " ฉันเหมือนปิรามิดหรือไงกัน?"
    เธอ กำลังยิ้ม กระทั้งสายตาของเธอทำให้ผมรู้สึกอึดอัดอย่างมาก  ผมพยายามที่จะป้องกันตัวด้วยการพูดหยอกเธอ กระทั้งเธอละผมออก และมีน้ำอดน้ำทนต่อผม ผมรู้สึกสำนึกผิดที่เรียกเธออย่างนั้น ผมทำให้เธอมั่นใจขึ้น ผมไม่เคยชัดเจนอย่างนี้ และแน่วแน่
     ขณะหนึ่งเธอเอนตัวออกจการูปร่างปิดรามิดให้มากที่สุด

     "บังเอิญหรืออย่างไร โดน่า โซเลเด๊ด " ผมถาม  "คุณเปลี่ยนไปน่ะ"
     "คุณพูดว่า.." เธอตอบด้วยความแข็งกร้าวในน้ำเสียง "ฉันเปลี่ยนไปงั้น"

     ผมตั้งใจจะเปรียบเทียบเท่านั้น  อย่างไรก็ตามละการพิจารณาได้จบลง ผมเพียงแค่อุปมาอุปไมยไปเท่านั้นเอง นางดูจริงจังกับการเปลี่ยนร่างกายตัวเอง  ทันใดนั้นผมรู้สึกเบื่อเหมือนโลหะเย็น ๆ ผมรู้สึกเสียใจอย่างมาก
     เธอวางกำปั้นบนสะโพกเป็นครั้งแรก  และยืดตัวขาเล็กน้อย แล้วหันหน้ามาทางผม  เธอปล่อยเวลาผ่านไปดั่งแสงสีเขียวของสีกระโปรง และเสื้อเช็ตสีขาวซีด ๆ  เธอรวบกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อย ผมเห็นผมบนหัวเธอ เธอโพกผ้าพันรอบศรีษะหนา ๆ ซึ่งชาวอินเดียนสวมกัน เธอย่ำเท้าเปล่าตามจังหวะ ตอบเท้าเบา ๆด้วยเท้าอันใหญ่ของเธอ เธอยิ้มอย่างเปิดเผยของหญิงมีอายุ  ผมไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อน ราวกับสิ่งแปลกประหลาดต่อการกระทำของเธอ ผมรู้สึกเหมือนมีแสงเรือง ๆ แวบหนึ่งในประกายแววตาของเธอ มันได้รบกวนให้น่าตกใจ ผมคิดว่าบางที ผมไม่เคยรับรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอปรากฏออกมาอย่างนี้ ท่ามกลางบางสิ่ง ผมรู้สึกผิดต่อแววตาภายในของพวกเขาตลอดหลายปีของผมกับดอนฮวน บังคับให้เวลาเหมือนรุดหน้าอย่างเต็มกำลัง ทุกฅนคงทำให้มันเกิดขึ้น และไม่มีความสำคัญอะไรเลย
     
         ผมบอกเธอว่าผมสร้างภาพสมมุติว่าเธอน่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ด้วยความสะเพร่าอย่างใหญ่หลวงซึ่งผมควรได้รับคำติเตียนต่อความผิดที่ไม่ได้รู้จักเธอเลย  และไม่สงสัยว่าผมจะพบเธออีกครั้ง

         เธอหยุดลง เธอแย้มยิ้มและเธอคว้าแขนผมไว้อย่างสุภาพ
         "นั่นคือหลักประกัน" เธอกระซิบบอกข้างหูผม
 
        เธอยิ้มอย่างเยือกเย็น และ ดวงตาเธอเป็นประกาย เธอสะกดผมไว้ ผมรู้สึกได้ถึงหน้าอกที่เธอแนบชิดแขนของผม ผมเริ่มไม่สบายใจขึ้นเรื่อย ๆ ผมอยากให้แน่ใจด้วยเหตุผลมากกว่าความกลัว ผมย้ำเสมอว่าร่างกายของผมนั่นจะมากขึ้นและมากขึ้น ขณะที่ผมเข้าใจความจริงอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนถึงมารดาของปาลิโต และทั้ง ๆ ที่ มันออกจะแปลกเกินไป บางทีเธออาจมีพฤติกรรมอย่างนี้อยู่แล้ว บางอย่างทำให้ผมกลัว ผมรู้ถึงสิ่งเหล่านั้น เพียงแต่ต้องมั่นคงในความคิดต่อเหตุผลทั้งหมด เพราะไม่มีเนื้อหาใดมากไปกว่านี้ ผม
     


(ต่อ)

2
(ต่อ )


        ภายหลัง ชั่วครู่หนึ่ง  ผมได้ละทิ้งโอกาสของผมไป ผมครุ่นคิด แม้ผมจะต้องเริ่มต้นเปลี่ยนสถานที่ ผมออกเดินทางอย่างไม่มีเหตุผล
ถึงออกจะเสี่ยงที่ผมต้องผ่านอดีตที่ผ่านมาแล้วนับจำนวนไม่น้อยในสถานที่แห่งนี้

         ผมอยากกลับห้องพักที่โรงแรมเพื่อผักผ่อน และ ในตอนนั้น ผมต้องการจะเดินทางต่ออีกครั้งสู่ถนนอย่างไร้จุดหมาย ผมไม่ได้มีความหวัง
เท่าไรที่จะพบดอนฮวน แม้ผมจะอยู่ที่นี่ตลอดทั้งบ่าย ผมก็ไม่เลิกทำต่อไป ผมต้องการกลับไปที่ห้องพักในโรงแรมอีกครั้งเพื่อนอนหลับในค่ำคืน
ที่แสนหมองหม่น

        ก่อนที่ผมจะมุ่งหน้าสู่เนินเขาในตอนเช้า ผมขับรถเข้าไปและขึ้นสู่ถนนใหญ่ ด้วยเหตุผลบางประการ ผมรับรู้ว่าผมสูญเปล่าตลอดเวลา
ดอนฮวนไม่ได้อยู่ที่นี่.

      มันนำผมขับรถไปตลอดทั้งเช้ายังเมืองเล็ก ๆ ที่นี่ ที่ซึ่งปาลิโตและเนสเตอร์อาศัยอยู่
       ผมขึ้นไปด้านบนในช่วงเช้า ที่ดอนฮวนเคยฝึกสอน ผมไม่เคยขับรถเข้ามาถึงที่นี่โดยตรง เมืองนี้เหมือนไม่มีสิ่งเร้าใจใด ๆ ในอยากรู้อยากเห็น
ของผู้มาเยือน   ทุก ๆ เวลา ผมอยากมาที่นี่อยู่เสมอจึงขับรถออกห่างจากถนน
       
      กระทั้ง ก่อนที่จะไปยังเมือง ไปสู่พื้นที่ราบของทุ่งนา ที่นี่มีเด็กหนุ่มหลายคนเล่นช็อกเกอร์ ความสกปรกถูกอัดแน่นตามทางที่มองเห็น มากพอที่จะสังเกต
ผ่าน โดยปาลิโตดั่งที่ผมที่ต้องขับรถอยู่ริมขอบถนนของทุ่งนา  ผมพบว่าขณะที่เคลื่อนผ่านถนนก้อนกรวด
     
      ผมตรึกตรองอยู่ว่าจะไปบ้านเนวเตอร์ หรือ ปาลิโต ดี กระทั่งความรูสึกบอกว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่
แม้กระนั้นก็ยังมุ่งหน้าไป ผมเลือกที่จะไปยังบ้านปาลิโตที่
เขาอาศัยอยู่กับมารดาและพี่สาวทั้งสี่ฅน  ถ้าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นจริง ก็ยังมีเหล่าผู้หญิงที่พอให้ความช่วยเหลือเขาอยู่ 
ดังนั้นผมจึงสิ้นสุดยังบ้านของเขา ผมสังเกตถนนที่สำคัญเพื่อขึ้นไปยังบ้านซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวาง
ผมแลดูมันเหมือนพื้นจะเกยขึ้นมา และใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ มากพอที่จะเห็นรถของผม  ผมขับมาเกือบจะถึงหน้าประตู
ทางระเบียงที่มีหลังคากับกระเบื้องมุ่งหลังคาที่ทำจากอิฐตากแห้งต่อเข้ากับตัวบ้าน ที่นี่ไม่มีเสียงสุนัขเห่า
กระนั้นผมประติดประต่อความใหญ่โตของที่นั่งชุดหนึ่ง  ด้านหลังที่ล้อมรั้วรอบบริเวณ
ผมเฝ้าดูอย่างระแวดระวัง ฝูงแม่ไก่จับกลุ่ม ที่ถูกปล่อยทิ้งอยู่หน้าบ้าน และส่งเสียงร้อง  ผมดึงคันเบรกมือและยืดบริเวณคอและ
ศรีษะด้วยร่างกายที่เมื่อยตึง

       บ้านหลังนี้ดูท่าทางจะร้าง ไม่แน่ใจว่าปาลิโตและครอบครัวจะอยู่หรือเปล่า และบางครั้งก็เหมือนว่าจะอยู่ที่นี่ ทันใดนั้น ประตู
หน้าบ้านก็เปิดออกอย่างว่าง่าย และมารดาของปาลิโตก็ก้าวเท้าออกมาราวกับเชิญชวน นางเหมือนนักแสดงที่อยู่ในบทบาทขี้หลง
ขี้ลืม 

   
       

3
:06:
บทแรกก็เล่นเอาน่วมเลย นึกว่าน้อยแผ่น ตั้ง 20 หน้าแหน่ะ  :09:
 


วงเเหวนที่สองแห่งพลัง ; การเปลี่ยนแปลงของ โดน่า โซเลเด็ด




       ผมแทบไม่ทันรู้ตัวว่าทำไมเนสเตอร์และปาลิโตไม่ได้อยู่บ้าน ในความแน่ใจของผมสัมผัสบางอย่างว่าผมต้องหยุดรถ

        ผมจึงไปยังสถานที่ที่ซึ่งลาดยาดมะตอย(asphalt)โดยทันที และ ผมต้องการพิจราณาเรื่องนี้ใหม่ไม่ว่าจะต้องทำต่อไป 
วันที่ยาวนานและยากลำบากได้ผลักดันสู่ในความเศร้าสลด  ก้อนกรวดที่หยาบกระด้างบนถนนนำไปสู่ที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ในยอดเขาในเม๊กซิโกกลาง 

          ผมเเล่นรถลงมาเปิดหน้าต่างรถ  สายลมภายนอกค่อนข้างแรงและหนาว  ผมออกไปเยียดแข้งขา 
ความตึงเครียดตลอดที่ขับรถมาหลายชั่วโมงทำให้ขาและคอของผมคัดยอก ผมออกเดินริมถนนที่ปูด้วยก้อนกรวด
บริเวณนี้เปียกชุ่มก่อนที่ห่าฝนจะตก น้ำฝนยังคนตกลงมาอย่างหนักบนยอดเนินเขาทางใต้ช่วงสั้น ๆ   ไม่ไกลออกไปจากที่นั่น
ผมอยู่ด้านหน้าของมันเลยทีเดียว ทางนั้นไปสู่ทิศตะวันออกและทิศเหนือ  ท้องฟ้าเริ่งแจ่มใส แน่นอนว่าจากจุดถนน
ผมสามารถเห็นยอดภูเขาสีน้ำเงินของเทือกเขาส่องสว่างอยู่ในแสงแดดที่แสนวิเศษอยู่ไกล ๆ


         ต่อมา ชั่วครู่เมื่อได้ไตร่ตรอง ผมตัดสินใจที่จะหันหลังกลับและไปยังเมืองเพราะผมรู้สึกแปลก ๆ ต่อความรู้สึก
ว่าผมต้องไปพบดอนฮวนที่ตลาดนัด ภายหลัง ผมคิดเสมอว่าจะพบเขาที่ตลาด

         นับตั้งแต่เริ่มต้นของการค้นหาร่วมกับเขา ราวกับเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ ถ้าผมไม่พบเขาในโซโนร่า 
ผมจะขับรถไปยังเม็กซิโกกลาง และ ไปถึงที่ตลาดในเมืองโดยเฉพาะ และไม่ช้าหรือเร็ว  ดอนฮวนจะปรากฏตัวขึ้นมา

        ตลอดเวลาที่ยาวนาน ผมเฝ้ารอคอยการมาของเขาถึงสองวัน ผมทำให้เคยชินถึงการพบปะในลักษณะนี้
 เมื่อผมสมบูรณ์มากกว่านี้ สิ่งที่ผมตั้งใจคือเจอเขาอีกครั้ง อย่างที่เกิดขึ้นเสมอมา

       ผมรอคอยที่ตลาดตลอดทั้งเช้า ผมเดินไปเดินมาขึ้นและลงระหว่างสองข้างที่ตั้งขายของ แกล้งทำเป็นกำลังมอง
หาซื้อของ ผมเฝ้าอยู่โดยรอบสวน ปัดฝุ่นขากางเกง ผมรู้ว่าเขาจะไม่กลับมา ผมในตอนนั้นแค่ความรู้สึกอันตื่นเต้นว่าเขาจะมาที่นี่ เมื่อผมหันมองไปด้านข้าง 
ผมลงนั่งในสวนที่ม้านั่ง ที่นั่น  ผมเคยนั่งกับเขาและผู้ในฐานะผู้ถูกทดสอบ วิเคาระห์หลักการ  ด้านบนในเมืองนี้ ผมกลับภาคภูมิใจกับเขาถึงความรู้อันกระจ่าง
แม้ดอนฮวนจะมาที่นี่ในถนนแห่งนี้  อะไรที่ผมรู้สึกมาก ๆ ในตอนนั้น ต่อความทรงจำของการมีเขาต่อที่นี่นับไม่ถ้วนตลอดเวลา  ร่างกายของผมรับรู้ว่าเขาเฝ้าดูผมอยู่
ผมแน่ใจในความกรุณาของพลังได้อย่างแท้จริง  ผมรู้ว่าเขาจะไม่มายังที่นี่อีกต่อไป เขาหันให้และผมก็พลาดจากเขาไปอย่างน่าเสียดาย

(ต่อ)


4
แปลคำนำเสร์จแล้ว บทที่ 1 ใกล้จะแปลเสร็จ แล้วจะเอามาลงให้ภายหลังนะครับ  :39:
เพื่อคนที่ชองงานเขียนของ คาลิตอส.  :32:

เล่ม 5

The Second Ring of Power

BY

CARLOS CASTANEDA



SIMON AND SCHUSTER
New York

วงแหวนที่สองแห่งพลัง

คำนำ

        ที่ราบดอนเนินเขาแห้งแล้งตลอดทิศตะวันตก   ไล่ลงไปตามแนวเขามาดราในเม๊กซิโกกลาง  ซึ่งครั้นนั้นเป็นการพบปะครั้งสุดท้ายของผมกับดอนฮวนและดอนเกนาโร  รวมทั้งผู้ฝึกฝนอีกสองคนคือปาลิโตและเนสเตอร์ ความจริงจังของการกระทำนำเราไปสู่สถานที่ที่ซึ่งปลดปล่อยความสงสัยในตัวของเราตลอดระยะเวลาที่ร่วมฝึกฝนไปสู่ข้อสรุปของพวกเขาขณะหนึ่ง และผมอดไม่ได้จริง ๆ เนื่องจากดอนฮวนและดอนเกนาโรมาถึงช่วงสุดท้ายของเวลา ตอนนั้นเองเราทุกฅนกล่าวอำลาซึ่งกันและกัน  และปาลิโตกับผมต่างกระโดนไปด้วยกันจากดอนหน้าผาสูงสู่หุบเหว

       ก่อนหน้ากระโดด ดอนฮวนชี้แจงแสดงหลักพื้นฐานอย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นกับผม  ตามที่เขาได้กล่าวไว้ บนการกระโดไปในหุบเหว ผมควรอยู่ในสภาระที่บริสุทธิ์เพื่อเฝ้าสังเกต และเคลื่อนไหวกลับไปมาระหว่างความเรียบง่ายของดินแดนที่ถูกสร้างขึ้นโดย " โทนาล" และ นาฮ์วาล"

       ในการกระโดดของผมตามที่ผมสังเกต โดยผ่านความยืดหยุ่นกระเดงกระโดงขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่าง "โทนาล" และ "นาฮ์วาล"  ถึง ๑๗ หน  ในการเคลื่อนไหวของผมสู่ "นาฮ์วาล" ผมตระหนักว่าร่างกายของผมแยกออกจากกัน ผมไม่สามารถคิดหรือรู้สึกเชื่อมโยง  ความเป็นหนึ่งเดียวที่ผมรับรู้นั้น ผมผ่อนคลายไม่ว่าผมจะหาวิธีใดวิธีหนึ่งครุ่นคิดและรู้สึก  ในการเคลื่อนไหวกายเข้าสู่ "โทนาล" ผมกร่ำกรายเข้ามาสู่เอกภาพหนึ่งเดียว ผมรวมทั้งสิ้น ผมประจักษ์เห็นการเชื่อมผนึก ผมได้คุมสายตาไว้ พวกเขากำลังบังคับอำนาจพลังที่แรงกล้าและพวกเขาแฝงไปด้วยปริศนาที่ลี้ลับ ดังนั้นผมไม่กระทำใด ๆ ได้โดยการอธิบายของเขาตามความพอใจของผมได้ ถึงพูดว่าพวกเขานั้นได้ประจักษ์ด้วยสายตา ความรุ่งโรจน์ในความฝันหรือสม่ำเสมอดั่งภาพจิตนาการที่เลยเถิด จนไม่อาจพูดว่าสิ่งใดชัดเจนในความเป็นตัวตนของพวกเขา

       ในภายหลังการตรวจสอบและวิเคราะห์ตามหลักวิชาการอย่างละเอียด  และความสนใจตามแบบของตัวผมเอง  ผมตระหนักเห็นและตีความของการกระโดดสู่หุบเหว และอีกอย่างหนึ่งมีบางส่วนยึดในความแน่วแน่ตามที่รู้สึกว่านั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง ผมมิได้กระโดด.

       ดอนฮวน กับดอนเกนาโรไม่ปรารถนาและพวกเขาหลีกเลี่ยงผมอย่างมากด้วยความเร่งด่วนที่จะทำการพัฒนาก้าวหน้าท่ามกลางประจักษ์พยาน โดยไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ดั่งเดิมเพื่อล้มล้างเหตุผล

       ผมตั้งใจกลับไปเม๊กซิโกเพื่อพบปาลิโตและเนสเตอร์ จึงแสวงหาพวกเขาให้ช่วยในความตั้งใจอันแสนสับสนของผม  ดังนั้นผมเริ่มเผชิญหน้าในการเดินทางครั้งนี้ ที่ไม่อาจบรรยายให้คนอื่นได้ เพียงแต่เป็นหนสุเท้ายที่รุกทะยานยังเหตุผลของผม ความเข้มข้นรุกคืบกะแผนการโดยดอนฮวนเอง ผู้ฝึกงานของเขาโดยลึก ๆ แล้วเขาไม่ร่วมแนะนำวิธี  อย่างมากที่สุดก็ตามระเบียบวิธีและย่อความอย่างน้อย ๆ หลายวันที่ตั้งปราการเพื่อเหตุผลของผม อย่างน้อย ๆ ก็หลายวันที่พวกเขาได้แสดงให้เห็นกับผมไม่หนึ่งก็ในสองทางปฏิบัติหลาย ๆ ด้านของพวกเขาด้วยเวทย์มนตร์ "ศิลปะของการนิมิตฝัน "(the art of dreaming : ผู้แปล) สิ่งใดคือแก่นแท้สำหรับขณะนี้ที่ดำเนินอยู่. 

--------------////--------------------

ตัวต้นฉบับ
Preface

A flat, barren mountaintop on the western slopes of the Sierra
Madre in central Mexico was the setting for my final meeting
with don Juan and don Genaro and their other two appren-
tices, Pablito and Nestor. The solemnity and the scope of
what took place there left no doubt in my mind that our ap-
prenticeships had come to their concluding moment, and that
I was indeed seeing don Juan and don Genaro for the last time.
Toward the end we all said good-bye to one another, and then
Pablito and I jumped together from the top of the mountain
into an abyss.

Prior to that jump don Juan had presented a fundamental
principle for all that was going to happen to me. According
to him, upon jumping into the abyss I was going to become
pure perception and move back and forth between the two
inherent realms of all creation, the tonal and the nagual.

In my jump my perception went through seventeen elastic
bounces between the tonal and the nagual. In my moves into
the nagual I perceived my body disintegrating. I could not
think or feel in the coherent, unifying sense that I ordi-
narily do, but I somehow thought and felt. In my moves
into the tonal I burst into unity. I was whole. My perception
had coherence. I had visions of order. Their compelling
force was so intense, their vividness so real and their complex-
ity so vast that I have not been capable of explaining them to
my satisfaction. To say that they were visions, vivid dreams
or even hallucinations does not say anything to clarify their
nature.

After having examined and analyzed in a most thorough and
careful manner my feelings, perceptions and interpretations
of that jump into the abyss, I had come to the point where I
could not rationally believe that it had actually happened. And
yet another part of me held on steadfast to the feeling that it
did happen, that I did jump.

Don Juan and don Genaro are no longer available and their
absence has created in me a most pressing need, the need to
make headway in the midst of apparently insoluble contra-
dictions.

I went back to Mexico to see Pablito and Nestor to seek
their help in resolving my conflicts. But what I encountered
on my trip cannot be described in any other way except as a
final assault on my reason, a concentrated attack designed by
don Juan himself. His apprentices, under his absentee direc-
tion, in a most methodical and precise fashion demolished in
a few days the last bastion of my reason. In those few days
they revealed to me one of the two practical aspects of their
sorcery, the art of dreaming, which is the core of the present
work.

The art of stalking, the other practical aspect of their sor-
cery and also the crowning stone of don Juan's and don Ge-
naro's teachings, was presented to me during subsequent visits
and was by far the most complex facet of their being in the
world as sorcerers.


5
น่าจะมีเว็บต่างประเทศที่ให้โหลดน่ะ  เว็บหนังสือออนไลน์น่ะ   
เอามาแปลคนละหน้าดีไหมครับ มดX 
แปลเอง อ่านเองไปเลย  :25:   ตนละ 300 หน้าเอง 
(ปล. งานนี้มีฮาแน่   ภาษาไทยแปลไทยยังไม่รอด  ให้แปลภาษาอังกฤษอีก  ) 

 :12:

ลองเปิดดู  มีให้เลือกหลายตัว  บางเรื่อง(ไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้) ก็มีแต่พิมพ์ขาด ๆ เกิน ๆ 
http://ebookbrowse.com/carlos-castaneda-05-the-second-ring-of-power-doc-d5759366

6
คะน้า ผัด เด๊ยวนี้น่ากัวมาก   ผมซื้อคะน้ามาจากตลาด   เอาแช่น้ำแปปเด๊ยว  ตอนแรกก็สดดีอยู่หรอก  ปรากฏว่า  ต้นมันช้ำหมดเลย  พอผ่าดูก็ช้ำหมด  กลิ่นสารเคมีฟุ้งเลย

ผักสมัยนี้อันตราย  ต่อไปจะกินผักอะไร  บ้านเราก็ไม่มีทีทางจะให้ปลูกผักกิน... :21:

7
 :11:   เลิกขี่ เครื่องยนตร์เล็กไปชั่วชีวิต  ปั่นจักรยาน , นั่งรถโดยสาร หรือ เดินเท้าแทน

8
รายชื่อหนังสือของ  คาร์ลอส  คาสตาเนด้า

- The Teaching of Donjuan : A Yaqui way of knownledge. [1968]
-A Separate Reality : Further conversation with Don Juan.
- Journey  to Lxtlan :  the les sond of Don Juan.[1972]
(แปลไทยในเรื่อง "หยุดโลก" )
- Tales of power.[1974]
(แปลเป็นไทย " วิถีแห่งพลัง" หนทางฯลฯ)
-The Second Ring of power[1977]
- The Eagle's Gift.[1981]
- The Fire from withim.[1984]
- The power of Silence : Fur ther Lessons of Don Juan.[1987]
- The Art of Dreaming. [1993]

ผมพิมพ์มาจากด้านหลังปกเล่ม "วิถีแห่งพลัง" นะครับ  สงสัยว่า  ถัดจากรายชื่อน่าจะเป็นเล่ม 4  แล้ว... เล่มถัด ๆ มาละครับ?   เป็นภาคต่อใช่ไหม  จะหาอ่านได้ยังไง  มีสำนักพิมพ์ไทยแปลไว้หรือเปล่า
หรือว่าหยุดอยู่แค่เล่มนี้เพียง 2 ภาค 


9
ครับ  แล้วถามอีกว่า   ที่เอามาลงเนี่ย  ครบเหมือนตัวตันหนังสือแปลหรือเปล่า  ครบถ้วนไหม
(ผมช่างสงสัยเหมือนคาร์ลิตอสไหมครับ"
ช่วยเอามาลงให้อีก 3 ตอนเถอะ  ผมอยากอ่านมาก   ไม่อ่านแล้วโทนาลในตัวมันกระเจิงครับ

10
 :39:
ขอบคุณครับ   มีทั้งหมด 17 ตอนใช่ไหมครับ
ผมไม่ได้อ่าน หยุดโลก เพราหาซื้อไม่ได้  และขอบคุณที่นำมาให้อ่าน  จึงอยากรู้ว่ามันจบแค่ตอนที่ 17 ใช่ไหม
ผมอ่าน วิถีแห่งพลัง เล่ม 2 ครับ
ชอบดอนฮวนและดอนเกเนโรมาก   อ่านแล้วซาบซึ้งใจจนบอกไม่ถูก  ได้หาซท้อมาอ่านแล้วเก็บไปข้างๆ หิ้งพระเลยละครับ 
ตอบอีเมลล์มาก็ได้นะครับ  ผมมาใหม่

หน้า: [1]