แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - 時々होशདང一རພຊຍ๛

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 ... 102
1
บทความ (Blog) / บารมี 30 ทัศ
« เมื่อ: มกราคม 14, 2022, 07:11:24 pm »





ยามเช้ากับภาพแบบ Panorama
ถึงแม้จะมี Omicron
แต่ก็ต้องสดชื่นไว้ก่อน


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม 9 ภาค 2 หน้าที่ 44

บารมี 30 ทัศ

บารมี 10 เหล่านี้   อุปบารมี 10 ปรมัตถบารมี 10

ทรงสละมหาบริจาค 5 เหล่านี้คือ บริจาคอวัยวะ

บริจาคชีวิต บริจาคทรัพย์  บริจาคราชสมบัติ บริจาค บุตรภรรยา
 
บุญคือสภาพจิตที่ดีงาม เป็นเหตุนำมาซึ่งผลได้ นั่นคือวิบากที่เป็น

ผลของกรรมหรือที่เรียกว่าอานิสงส์ของบุญ

บุญจะมีผลมากหรือผลน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ

ตัวผู้อนุโมทนาเองเป็นปัจจัยหนึ่งสภาพจิตขณะที่อนุโมทนาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้

บุญจะมีผลมากหรือผลน้อยหากผู้มีปัญญาอนุโมทนาและเกิดด้วยจิตที่ผ่องใส มีความ

เห็นถูกก็มีอานิสงส์มากเช่นกัน ซึ่งไม่ว่ากุศลประเภทใดก็ตามจะมีผลมากผลน้อยก็

สำคัญที่สภาพจิตเป็นสำคัญ เช่นการ แสดงธรรม หากแสดงเพื่อต้องการให้เป็นที่รัก

เพื่อลาภ - สักการะ - สรรเสริญ - อานิสงส์ - ผลบุญก็น้อย แต่ถ้าแสดงธรรมเพื่อประโยชน์

เกื้อกูลกับผู้ฟังการแสดงธรรมนั้นก็มีผลมาแม้การอนุโมทนาและกุศลอื่นๆก็โดยนัย

เดียวกันจึงไม่ใช่ว่าถ้าเป็นการอนุโมทนาแล้วจะได้บุญ % ขึ้นอยู่กับ

ปัจจัยอื่นๆหลายประการตามที่กล่าวมาคือ ตัวผู้อนุโมทนาสภาพจิตและความเห็นตรง

ที่เป็นปัญญาในขณะนั้น


บารมี 10 เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการที่จะดับกิเลสเป็นสมุจเฉท

เพราะการเจริญกุศลนั้นต้องเจริญทุกประการเพื่อที่จะเป็นปัจจัยให้ปัญญา

เกิดขึ้นดับกิเลสได้หมดสิ้นเป็นสมุจเฉทเป็นลำดับขั้นจึงต้องเข้าใจให้ถูก

ต้องว่ากุศลใดเป็นบารมีและกุศลใดไม่ใช่บารมีบารมีเป็นปัจจัยสำคัญ

สำหรับการดับกิเลสเป็นสมุจเฉทจึงควรที่จะได้ศึกษาและเห็นความสำคัญ

ของบารมีทั้ง 10 เพื่อที่จะได้อบรมให้ยิ่งขึ้น


http://youtu.be/mo-sym1F4ww



2
บทความ (Blog) / คมปัญญาตัดกิเลส
« เมื่อ: มกราคม 12, 2022, 03:09:43 pm »
IMG_00258 by arnocha2002, on Flickr


Photecktung 2563 by arnocha2002, on Flickr

IMG_0000090120190410 by arnocha2002, on Flickr



จงลับกริชแห่งปัญญาให้คมกริบ เมื่อยามหยิบมาใช้จึงส่งผลตัดกิเลสอวิชชาในบัดตล มิต้องว่ายเวียนว่ายแม้ในคะนึงแต่ห่วงกริชมักมีสองคมให้พรั่นจิต หากใช้ผิดตัดเส้นชีวิตที่เฝ้าขึงจึงหวังศิษย์ลดความคิดที่ดึ้อดึง ข้านี้จึงวางใจให้ศิษย์เดินนานนานครั้งก็ดูศิษย์เดินถึงไหน รักสบายบำเพ็ญยังมัวเขินเพราะเจ้าคิดว่าตนเป็นส่วนเกิน พินิจเพื่อดำเนินถูกแลควรใช้ใจอะไรต้อนรับอาจารย์ (ใช้ความจริงใจ) ใจที่เป็นพุทธะ หรือใช้ใจธรรมะ หรือจิตใจนั้นมีอยู่สองอย่าง คือ จิตใจที่มีความเป็นคนสูงกับอีกใจหนึ่งเป็นจิตใจที่มีความเป็นธรรมะ แล้วใจของศิษย์เป็นจิตใจประเภทไหน ปกติแล้วทุกๆ วันที่เราดำรงชีวิตมา ไม่ว่าศิษย์จะมีชีวิตอยู่เป็น


สิบๆ ปีที่ผ่านมาก็แล้วแต่ ศิษย์นั้นได้ใช้ใจของความเป็นคนอันได้แก่ ใจที่เป็นคนประเสริฐ เป็นผู้ที่เอื้อเฟึ้อเอื้ออารีต่อโลก เป็นคนที่มีความเมตตาแล้วก็ไม่เมตตาบ้าง ชอบทำๆ หยุดๆ ใจประเภทที่สองคือใจของธรรมใช่หรือเปล่า ใจของความเป็นคน แยกออกมาเป็นใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีเมตตา แต่ชอบทำๆ หยุดๆ กับประเภทที่สองหมายถึงใจที่มีความร้ายอยู่มากมายใช่หรือไม่ เคยเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่ฆ่ากันตายไหม ไม่ใช่ว่าเขานั้นจะไม่มีความดีเอาเสียเลย แต่ว่าได้มีใจสิ่งร้ายครอบงำจิตใจในส่วนที่ดีใช่หรือเปล่า จิตใจอย่างที่สองเป็นจิตใจแบบไหน (จิตใจธรรมะ) จิตใจธรรมะเป็นจิตใจประเภทไหน(มีเมตตา มีความเที่ยงธรรม จิตใจที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน ใจที่เป็นธรรมชาติ) ศิษย์ตอบได้ดี แต่ถ้าหากไม่มีการใช้ปัญญาของเราออกมาคิดเสียบ้าง อาจารย์สอนอะไรไปก็จะลืมหมดใช่หรือเปล่า จบจากสามวันนี้แล้ว หากศิษย์ตั้งใจจะศึกษาต่อไป อาจารย์ก็จะพูดให้มากหน่อยเพื่อให้ศิษย์ได้เก็บเอาไปคิดมากๆว่าใจของธรรมะเป็นเช่นไรโดยมากแล้ว บอกว่าใจธรรมะคือใจดี แต่ดีและร้ายเป็นสิ่งคู่กันเหมือน ดำกับขาว ทั้งดำและขาวเป็นสีไหม สีขาวเป็นสีเหมือนกันใช่หรือไม่ อาจารย์บอกว่าใจของธรรมคือใจที่อยู่เหนือสองสิ่งนี้เชื่อไหมในธรรมที่ศึกษากันอยู่ทุกอย่างที่คนเอามาพูด คือ สิ่งที่เป็นสีขาว ซึ่งหมายถึงสิ่งที่ดีให้ศิษย์เอาไปปฏิบัติแต่ถามว่าสีขาวยังเป็นสีหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าเป็นสี เพราะฉะนั้น ในสีขาวก็ยังเป็นสิ่งที่ขุ่นอยู่ แต่ธรรมะอยู่เหนือกว่านั้นการบำเพ็ญธรรมจึงต้องกลับไปสู่ใจธรรมะหมายความว่าใจที่อยู่เหนือดำเหนือขาวไปแล้วเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์พูดไหม(เข้าใจ)คนที่เข้าใจ เข้าใจจริงหรือไม่

(ใจธรรมะนั้นไม่มีคำว่า ขาว ไม่มีคำว่า ดำเพราะธรรมเป็นสิ่งที่ใส ไม่มีสี เป็นกลางๆ และอยู่เหนือสิ่งอื่นใด)ที่จริงศิษย์ของอาจารย์คนนี้พูดได้ดีแล้ว หากมีเส้นอยู่เส้นหนึ่งเส้นนี้มีหัวท้าย แล้วตรงกลางเส้นล่ะ ก็ยังอยู่ในเส้นนี้ แสดงว่ายังไม่พ้นไปจากเส้นนี้ใช่หรือไม่ สิ่งที่อาจารย์จะพูดก็คือ ธรรมเป็นสิ่งที่ใช้จิตของเราเป็นผู้ตรึกตรอง อธิบายเป็นคำพูดได้ยากยิ่ง เพราะฉะนั้น ศิษย์ของอาจารย์ที่ยังไม่เข้าใจ ศิษย์นั้นจะต้องใช้จิตลองไปตรึกตรอง การพิจารณานั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าใจของเรานี้ยังไม่ได้หยุด ไม่หยุดแล้วกำหนดใจให้นิ่งไม่ได้ เมื่อกำหนดใจให้นิ่งไม่ได้ ก็ยังกำหนดใจให้สงบไม่ได้ เมื่อกำหนดใจให้สงบไม่ได้ ก็จะกำหนดว่าใจนี้อยู่ไหนไม่ได้เมื่อทำเช่นนี้ไม่ได้ พิจารณาไม่ได้ ส่วนใหญ่ของพระภิกษุ หรือศิษย์ของอาจารย์ หลายคนชอบนั่งสมาธิ ถามว่าใจเรานั้นไม่เคยกำหนดให้นิ่งลงเลย สมาธิความสงบเกิดขึ้นได้อย่างไร สมาธิขึ้นสูงอยู่ที่ไหน อยู่ที่ทุกๆ ขณะจิตของเรานั้น สามารถกำหนดจิตให้นิ่ง ศิษย์ทำได้ไหมพิจารณาง่ายๆ ใจของศิษย์เป็นใจที่ศรัทธา หรือเป็นใจที่กังขา (ศรัทธา)กังขาแปลว่าอะไร (สงสัย) ใจของศิษย์นั้นเป็นใจที่ศรัทธาหรือกังขาอย่าให้สองสิ่งนี้สลับกันไปมา ขอให้สิ่งอยู่ในใจ สิ่งใดสิ่งหนึ่งเดียวใครมีคมบ้าง “คมปัญญาตัดกิเลส” ลองวาดรูปที่มีมีดสองคมคมหนึ่งเป็นคมปัญญา คมปัญญาตัดกิเลสใช่ไหม คมอีกข้างหนึ่งเป็นคมของความฉลาดดีไหม คมปัญญานี้เอาไว้ตัดกิเลส กิเลสนี้มาจากไหนกิเลสเกิดขึ้นได้จากอะไร กิเลสเกิดจากอายตนะใช่หรือไม่ อายตนะมีสิ่งใดบ้าง มีหู ตา จมูก ลิ้น กาย และใจ เมื่อตาไปมองสิ่งภายนอกเกิดเป็นการยึดติดในรูปก็อยากจะได้ของสิ่งนั้น เมื่อหูได้ฟังว่าของดี ยี่ห้อดีราคาแพง เราก็อยากได้ในสิ่งนั้นอีกใช่ไหม เมื่อลิ้นเราสัมผัสในรสชาติอาหาร เกิดเป็นกิเลส อยากลิ้มรสอันนั้นต่อไปใช่ไหมเมื่อคมปัญญาให้ตัดกิเลส แล้วคมฉลาดเป็นอย่างไร เช่นตอนนี้เดิน


ไปข้างหน้าต้องลำบากแน่ๆ ก็หลบเสีย รู้ว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบไม่พึงใจก็หลบเสีย อย่างนี้เรียกว่าความฉลาดไหม ความฉลาดคือรู้จักเอาตัวรอด ฉะนั้น ความฉลาดกับปัญญาต่างกันตรงไหนปัญญาทำให้เราไม่ได้รู้จักแต่จะหลบหลีกอย่างเดียว แต่จะรู้ว่าเมื่อไรควรหลบหลีก เมื่อไรควรตั้งใจรับ เช่นเมื่อเคราะห์กรรมมาถึงก็ให้ตั้งใจรับรับแล้วพ้นได้ ถ้ามีแต่ความฉลาดเคราะห์กรรมมาถึงก็หลบเสียหลีกเสียในที่สุดเคราะห์กรรมก็ต้องย้อนกลับมาหาเราอีก ฉะนั้น ศิษย์เลือกทีจะเป็นคนฉลาดหรือคนมีปัญญา มีดอันนี้มีสองคม คมหนึ่งเป็นคมดีคมหนึ่งเป็นคมร้าย จะเลือกใช้คมไหนคมแห่งปัญญาใช่หรือไม่คำว่า คมปัญญาตัดกิเลสนั้น เป็นคำที่ค่อนข้างจะสูง เพราะว่าทำได้ยาก มนุษย์นั้นมีกิเลสทุกคน กิเลสนั้นพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า เราจะเป็นคนที่ใช้ปัญญาของเราตัดกิเลส ปัญญาอยู่ที่ใจ ตัดได้ยามใด การเวียนว่ายตายเกิดก็หยุดลงง่ายเช่นเดียวกับมนุษย์นั้นอยู่ด้วย รัก โลภ โกรธ หลง จึงเวียนว่ายไปด้วย เกิด แก่ เจ็บ ตาย หากวันนี้ที่มีชีวิตอยู่ ไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ ไม่สามารถหลุดพ้นจากความรัก โลภโกรธ หลง ได้ อย่ามั่นใจว่าภายหน้านั้นจะหลุดพ้นได้ หากวันนี้สามารถดับอารมณ์ต่างๆได้ จงมั่นใจว่าวันข้างหน้าก็ดับได้เช่นเดียวกัน


พระอาจารย์จี้กง
พุทธสถานผูถี อ.เมือง จ.พิษณุโลก
11 พฤษภาคม 2540






3
บทความ (Blog) / Bangkok History
« เมื่อ: มกราคม 12, 2022, 02:08:33 pm »








ยังมีสถานที่สำคัญ ๆ ทางประวัติศาสตร์รอการฟื้นฟูและอนุรักษ์เพื่อให้ลูกหลาน

ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์

ชุมชนเก่าแก่บางแห่งมีอายุมากกว่า 100 ปี บางครั้งมนุษยชอบทำลายมากกว่า

การสร้างสรรค์ ความเจริญทางวัตถุทำให้เสื่อม-

4
บทความ (Blog) / Untitled
« เมื่อ: ธันวาคม 30, 2021, 08:25:50 pm »





 :09: :09: :09:

http://youtu.be/2aaEPNmQsaQ


จงสนใจรายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ สวัสดีปีใหม่ 2565 -2022 ขึ้นปีใหม่นอกจากต้องระวังเรื่อง Omicron แล้วต้องระวังรายจ่ายด้วยเพราะเศรษฐกิจไม่มีทางฟื้นตัวอย่างน้อยจากนี้ไปอีก 10 ปีถ้าใครอยู่ถึงตอนนั้นอาจได้เห็นเศรษฐกิจดีขึ้น เหตุการณ์ในวันข้างหน้าไม่มีใครอาจรู้ได้ว่าจะเกิดโรคระบาดอะไรอีก
« เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2553 15:41:17 »

คนเราเวลามีรายได้ มีเงินทองไว้ใช้จ่ายอย่างสบาย ๆ พอมีใครบอกให้สนใจรายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ แน่นอนว่าหลาย ๆ คนฟังแล้วก็คงไม่คิดอะไร เพราะเห็นอยู่ว่าเป็นรายจ่ายเล็กน้อย จึงไม่น่าก่อให้เกิดปัญหาเรื่องเงินได้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะคนส่วนใหญ่พอมีรายได้ในระดับหนึ่งเพื่อซื้อหาความสุข ความพอใจให้กับตัวเอง ก็มักจะไม่ค่อยไตร่ตรองหรือใคร่ครวญถึงความคุ้มค่า ความจำเป็นก่อนที่จะจ่ายเงินออกไปสักเท่าไหร่ต่างจากตอนที่ยังไม่มีเงิน จะซื้อของหรือใช้จ่ายอะไรสักทีต้องคิดแล้วคิดอีก บางคนก็พยายามหาเหตุผลสนับสนุนและเข้าข้างตัวเองเต็มที่ว่า ก็แต่ละเดือนต้องทำงานหนักกว่าจะได้เงินเดือนมาใช้ ก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือที่จะหาความสุขให้ตัวเองบ้าง ไม่เห็นจะผิดตรงไหนแต่ความสุขที่ว่านั้น เราไม่ควรลืมว่าส่วนใหญ่ต้องแลกด้วยเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้แทบทั้ง สิ้น เคยได้ยินคำคมถึงผลที่อาจเกิดขึ้นจากการละเลยค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ บอกไว้ว่า จงสนใจในรายจ่ายเล็ก น้อยๆ เพราะรอยปริเล็กๆ เพียงรอยเดียวสามารถจมเรือใหญ่ได้ ฟังแล้วก็คิดได้ว่า ถึงเงินที่ใช้ไปจะเป็นจำนวนเล็กน้อย แต่หากมองข้ามและใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ก็อาจทำให้ชีวิตต้องล่มเหมือนเรือจมได้เช่นกันขอยกตัวอย่างเช่น หลาย ๆ คนนิยมให้ความสุขตนเองแทบจะทุกวันอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยการใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อของกระจุกกระจิก ราคาต่อชิ้นไม่กี่บาท แต่ของเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มีความ

จำเป็นต่อการดำรงชีวิตนักหรอก ที่เห็นได้ชัดก็คือปัจจุบันนี้ ตลาดกลางวันที่เปิดใกล้ ๆ กับอาคารสำนักงานจะได้รับความนิยมอย่างมากจากคนทำงาน เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน แล้วก็จะเดินไปดูของ ไปชอบปิ้ง ซื้อขนมนมเนย เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ เป็นการฆ่าเวลาก่อนเริ่มงานตอนบ่ายซึ่งก็มักจะอดใจไม่ไหวต้องซื้อหาอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอยู่ทุก ๆ วัน ทำให้เราใช้เงินจ่ายเงินไปทีละนิดทีละหน่อยโดยเราไม่รู้สึกเดือดร้อนหรือแทบไม่รู้สึกเลยว่าเงินที่เราเหนื่อยหามาได้ นั้นได้ออกจากกระเป๋าไปแล้ว แบบไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือไม่มีความจำเป็น แบบ ที่เรียกว่าเกินพอดีต่อการดำรงชีวิตด้วยซ้ำในวันนี้จึงอยากแนะนำการตั้ง สติ ให้ดีลองนับเงินในกระเป๋าทุกวันให้เป็นนิสัย และจดลงสมุดไว้ว่า วันนี้เราใช้เงินออกไปเป็นค่าอะไรบ้างและของที่ได้มาคืออะไร เมื่อผ่านไปได้ระยะหนึ่ง แล้วลองเอารายการมาดู เราจะเห็นได้เลยว่าที่จ่ายออกไปทีละเล็กละน้อยนั้น เมื่อนำมารวมกันแล้ว สามารถกลายเป็นเงินก้อนโตได้แบบที่เรานึกไม่ถึงเลยทีเดียว บางคนรวม ๆ แล้วเป็นหลักพันหรือถึงหลายพันบาทถึงตอนนั้นเราจะได้เห็นความไม่จำเป็นหรือบางทีอาจจะนึกขำตัวเองด้วยซ้ำว่า นี่เราเป็นอะไรไป เสื้อผ้าพวกนี้ซื้อมาได้ยังไงทุกวัน ๆ ถุงเท้าราคาถูกชนิดซื้อง่ายขายคล่อง 5 คู่ร้อยบาท ก็ซื้อได้บ่อย ๆ จนหลายครั้งไม่มีที่จะเก็บ บางทีเห็นเพื่อนซื้อเพราะคนขายบอกว่าราคาถูกสุด ๆ หาซื้อไม่ได้อีกแล้ว ก็ซื้อตามเพื่อน โดยที่เราเองก็ไม่ได้อยากมีหรอกถ้าเราลองจดบันทึกรายการใช้จ่ายตามข้างต้นได้ ก็จะได้เห็นพฤติกรรมและพิจารณาถึงการใช้จ่ายของเราได้ชัดเจนขึ้น อาจส่งผลทำให้เรารู้ตัวและระมัดระวังพร้อมทั้งตั้งสติถามตัวเองก่อนจะใช้ เงินได้ดีขึ้น รวมถึงควรเปลี่ยนความคิดและตั้งเป้าหมายใหม่เป็น เราจะสะสมเงินทุกวัน วันละเล็กละน้อยแทนการใช้เงินอยู่ทุกวันถึงแม้จะวัน ละนิดละหน่อยก็ตาม เพื่อจะมีความสุขที่ได้เห็นเงินของ

เรางอกเงยอยู่ตลอดเวลาถึงแม้จะไม่ได้ เพิ่มแบบก้าวกระโดด ถ้าทำเช่นนี้ได้แล้ววันหนึ่งเราก็จะมีเงินกับจำนวนสิ่งของที่เพียงพอและจำเป็นต่อการดำรงชีวิต อย่างมีความสุขสบายได้ไปจนตายในทางกลับกันถ้าเราไม่ใส่ใจกับ การใช้จ่ายเพราะเห็นว่าไม่มากมายอะไรแถมมีความสุขไปวัน ๆ อนาคตเราอาจจะต้องนั่งทุกข์อยู่กับกองข้าวของที่เราซื้อมาทีละนิด และกองไว้ทุกวันจนกลายเป็นของจำนวนมากและเมื่ออยากใช้เงินก็ไม่มีเงินให้ใช้ อย่างเพียงพอ เพราะผลจากการใช้จ่ายเงินเล็ก ๆน้อย ๆ ที่เราไม่ใส่ใจและไม่นึกถึงมาตลอดเวลาในช่วงที่เรามีเงินนั่นเองลองตรองดูให้ดี ตามความจริงดังที่คำคมได้บอกไว้ว่า รอยปริเล็ก ๆ เพียงรอยเดียวยังสามารถจมเรือใหญ่ได้ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะ ไม่ปล่อยให้การใช้จ่ายเงินทีละเล็กละน้อย แต่บ่อย ๆ และไม่จำเป็น กลายเป็นรอยปริที่จะทำให้ชีวิตเราล่มจมไม่ต่างกับเรือใหญ่ในที่สุดเริ่มต้นจดบันทึกดูน่ะว่า แต่ละวันเราซื้ออะไร แล้วมานั่งอ่านแล้วบางทีจะขำว่า เรานี่บ้าจริง ๆ เชื่อเถอะ เพราะลองทำมาแล้ว-แล้วแถมยังต้องกลับบ้านมาหาของที่ซื้อแล้วซื้ออีกว่า เราเอาไปวางไว้ไหนกันหละนี่จำนวนขนาดนั้น หาก็ไม่เจอ นั่นเพราะไม่มีสติเวลาใช้สตางค์นั่นเอง


 :yoyo017: :yoyo017: :yoyo017:



5
บทความ (Blog) / Untitled
« เมื่อ: ธันวาคม 29, 2021, 08:24:03 pm »



http://youtu.be/l__Ol8itAp8


https://2017th.wordpress.com/2021/12/29/body/

ปีใหม่กำลังจะมาถึงแต่ Covid Omicron มาถึงก่อน
Omicron ติดง่ายตายเร็วหลังปีใหม่ 2565
ก็จะทราบเองว่าจะมีกี่ Cluster
:09: :09: :09:

พระพทธองค์ทรงสอนเรื่องมิตร ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏกมากแห่งเช่น ฑีฆนิกาย - ปาฎิกวรรค เป็นต้นเป็นเหตุให้ผุ้นับถือพระพุทธศาสนา รู้จักปฏบัติตนในฐานะเป็นมิตรของมิตร รู้จักอ่านผู้เป็นมิตรและรู้จักเลือกคบมิตร

ประการสำคัญคือ

การปฏิบัติตนให้เป็นกัลยาณมิตรของมิตรที่เป็นกัลยาณมิตร เพื่อรักษาความเป็นกัลยาณมิตรในจิตของตนให้มั่นคงคุณค่าแห่งกัลยาณมิตรในจิต ก็จะทำให้เกิดความงามในจิตของตนโดยประการต่าง ๆ ความงามในจติของตน ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
คัดลอกจากหนังสือ"ธรรมมะให้ลูกดี"โดย สมเด็จพระพุทฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ)


 :46: :46: :46:




6
108 โทรโข่ง / Merry Christmas ทำบุญรับปีใหม่
« เมื่อ: ธันวาคม 27, 2021, 01:04:04 pm »



http://youtu.be/elvmflG8hi0


เรื่องก็มีอยู่ว่าได้รับ SMS พอเข้าไปอ่านแล้ว
รู้สึกอยากจะแบ่งปันใครมีกำลังทรัพย์ก็ช่วย ๆ
กันตามกำลังศรัทธา
ในวาระปีใหม่นี้ 2565 - 2022




หลายคนไม่เคยได้ยินโรคลมชักโรคลมชักเป็นโรคที่รุนแรงและเรื้อรัง ถ้าชักรุนแรง และเป็นบ่อย ๆ ส่งผลต่อไอคิวมีเด็กบางคนอายุ 10 ขวบแต่ไอคิวเหลือเพียง 1 ขวบ ทำให้เด็กไม่สามารถเข้าสู่ระบบการศึกษา ช่วยตัวเองไม่ได้มีเด็กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการชัก เด็กจึงต้องอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอดเวลา ทำให้พ่อหรือแม่ต้องออกจากงานเพื่อมาดูแลลูก ทำให้ขาดรายได้และเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกเพื่อการรักษา เด็กต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง  แต่อาจมีอาการดื้อยา ทำให้ชักอย่างต่อเนื่อง บางรายอาจรุนแรง ชักกว่า 100 ครั้งต่อวัน จำเป็นต้องใช้การผ่าตัดสมอง ซึ่งมีโอกาสหายขาดได้สูงมาก ในรายที่ไม่สามารถผ่าตัดสมองได้ แพทย์จะทำการผ่าตัดหน้าอกเพื่อใส่อุปกรณ์บรรเทาอาการชักเนื่องจากการผ่าตัดมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก คือ 500,000 ถึง 750,000 บาทต่อราย ทำให้เด็กไม่สามารถได้รับการผ่าตัดขอโอกาสให้เด็กเหล่านี้ได้มีชีวิตได้ตามปกติ ด้วยการบริจาคของท่านเพียงคนละเล็กน้อย จะสามารถสร้างโอกาสชีวิตให้กับอนาคตของชาติ ท่านสามารถร่วมบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี สมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 051-2-09873-5 หรือ ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 0202-395-98996(ใบเสร็จรับเงินสามารถลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า) โดยสแกนคิวอาร์โคดเพื่อขอใบกำกับภาษี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.02-354-8321 หรือ 090-663-1479


ตามลิงค์นี้......https://childrenhospitalfoundation.hubmember.com/donate/detail/stopping-epilepsy-seizures


7
บทความ (Blog) / Merry Christmas
« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2021, 09:07:43 pm »



Merry Christmas 2022
ฉลองด้วย Omicron คอยดู
Cluster ใหม่หลังเทศกาล
หยุดยาวเชื้อตัวนี้ติดง่ายตายเร็ว


สังขารไม่ใช่แปลว่ากาย แต่หมายถึงธรรมชาติชนิดหนึ่ง เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมาคำว่าปรุงแต่งนี้ เราต้องเข้าใจว่า ปรุงแต่งนั้นไม่ได้มาจากชิ้นเดียว แต่เป็นของที่รวมกันมา เหมือนคำว่า ข้าวผัด นี่เป็นรสข้าวผัดหรืออาหารประเภทยำต่าง ๆ ปรุงด้วยอะไรบ้างและถ้าเราจะปรุงให้รสดี ก็ต้องมีหลาย ๆ อย่างปรุงเข้ามาฉะนั้น ต้องมีเหตุที่ทำให้เกิดผลขึ้นมา จึงต้องถูกปรุงแต่ง ธรรมชาติที่ถูกปรุงแต่งต่าง ๆ ขึ้นมา เป็นกายสังขารให้มีรูปธรรมต่าง ๆ ปรุงแต่งในที่นี้หมายถึง ถ้าเป็นเรื่องของชีวิตก็คือ ปรุงแต่งจากการเสพอารมณ์แต่ละครั้ง ให้มีการเป็นไปตามสิ่งที่ถูกปรุงแต่งตัวเจตสิกนั่นเองวิญญาณ แปลว่า จิต จิต หมายถึงตัวรู้ในอารมณ์ อารมณ์จึงหมายถึงสิ่งที่จิตรู้อารมณ์มีอะไรบ้างอารมณ์มีมากมาย ตัวอย่างเช่น อารมณ์โลภ อารมณ์โกรธ อารมณ์หดหู่ อารมณ์เศร้าหมองต่าง ๆ อย่างนี้เราเรียกว่าอารมณ์ทั้งสิ้น คือสิ่งที่เรารู้ได้แล้วก็เสพเข้าไป

ฉะนั้นขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ต้องมีการประชุมกัน แล้วเราใช้คำว่าสมมุติสัจจะ เรียกไปเองว่าคน ว่าสัตว์ ว่าคนไทย ว่าฝรั่ง ว่าแขกต่าง ๆ สิ่งเหล่านั้นเป็นภาษาสมมุติ ซึ่งไม่มีความเป็นจริง ความเป็นจริงอยู่แต่ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณลักษณะหัวใจคนเรามี 4 ห้อง แต่ละห้องมีกล้ามเนื้อ มีหลอดเลือดดำ มีเยื่อเมือก มีการสูบฉีดโลหิต มีหลอดที่สำหรับฟอกโลหิตส่งไปเลี้ยงนั่นคือ รูปธรรมแต่เราพูดถึงเรื่องวิญญาณ คือนามธรรม เพราะว่าเวลาเราเห็น วิญญาณต้องเข้าร่วมด้วย เราไม่เห็นตัววิญญาณเลย แต่เราเห็นสิ่งต่าง ๆได้ เป็นนามธรรม เป็นของที่เราพิสูจน์ได้ทั้งนั้นฉะนั้น ชีวิตที่แท้จริง เมื่อเราปฏิเสธสมมุติสัจจะออกจนหมดสิ้นแล้ว คือ รูป - นามเท่านั้นมีรูป มีนาม มีนาม มีนาม มีนาม 5 อย่าง รวมเป็นคนเป็นสัตว์ขึ้นมา ฉะนั้น เราย่นย่อ แทนที่จะบอกว่า รูป นาม นาม นาม นาม เรื่อยไป ย่นเสียเหลือ 2 คำ เป็นรูปนามขันธ์ 5 คือมีรูป มีนาม เป็นหมวดอยู่ 5 อย่างฉะนั้นคำว่าขันธ์ 5 จึงได้แก่ชีวิต ๆ หนึ่งเท่านั้นเองนี่พอเข้าใจเราต้องเรียนเรื่องนี้ให้เข้าใจ เรามีศรัทธาเชื่อแน่ นี่แหละครับคือภูมิของปัญญา ถ้าเราไม่เคลียร์ตัวเอง ยังไม่ทำลาย

วิจิกิจฉานี้ เราจะปฏิบัติอะไรให้เกิดผลดีไม่ได้เลย เพราะเราไม่ยอมรับความจริง ถ้าหากว่าเรายอมรับความจริงได้แล้ว แม้เราจะเอาไปพิสูจน์ตอนหลัง ก็จะออกมาเป็นบทพิสูจน์ได้เรายอมรับของจริงแล้ว เราก็เอาของจริงนั้น ไปพิสูจน์ในสิ่งที่เราพบอยู่ทุกวัน มันต้องพบความจริงจนได้แต่ถ้าเราเรียนจนเรายอมรับแล้ว แต่เราไม่ทำลายมานะ ความยกตัว ถือตัว อวดดื้อถือดี ไม่ทำลายทิฏฐิอันเป็นมิจฉาทิฏฐิ เราก็ไม่สามารถก้าวสู่ความเป็นจริงได้ในหลักของพระพุทธศาสนา มีการปฏิบัติอยู่ 2 อย่างคือ การทำสมาธิ สมถกรรมฐาน กับการทำวิปัสสนา ไม่ใช่อย่างเดียวกันครับ ที่พูดว่า นั่ง - วิปัสสนา เดินวิปัสสนานั้นไม่ใช่คำว่าวิปัสสนากรรมฐานรวมกันแล้ว หมายถึงการกระทำฐานที่ตั้งแห่งปัญญา ปัญญา คือ ความรู้จริง รู้ชัด และรู้ในสิ่งที่เป็นปรมัตถ์ทั้งสิ้น ไม่ใช่รู้ในของสมมุติ แต่รู้ของจริงขณะนี้เราต้องมีศรัทธาเชื่อเกิดขึ้นมาแล้ว เพราะเราพิสูจน์เอง ไม่มีใครมาสอนเรา ที่ผ่านมาเ จึงต้องมีศรัทธาเชื่อ เพราะพระธรรมคงทนต่อการพิสูจน์ไม่ว่าคุณจะเกิดมาในประเทศไหน คุณก็จะต้องรู้ว่าชีวิตนั้นจะต้องมี รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ไม่ว่าเด็กในครรภ์มารดาคนนี้ จะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร

ก็ตาม ออกมาต้องมีรูป นาม ขันธ์ 5ศึกษาแล้วจะต้องมีศรัทธา และเป็นศรัทธาอันแรงกล้า ที่เชื่อมั่นอย่างจริงใจว่า ชีวิตจะต้องประกอบไปด้วย รูป นาม ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ รูปคือสิ่งที่มองเห็นได้ทางตา นามคือ สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา แต่เป็นของมีจริงฉะนั้นรูปนี้ก็ยังคงสภาวะรูปอยู่ เวทนา อารมณ์ที่เสวยเข้าไป ไม่มีรูป เมื่อสักครู่เราพิสูจน์แล้วว่ามีจริง เราเรียกว่านามธรรม สัญญาความจำได้หมายรู้ ไม่มีรูปปรากฏ แต่มีจริง เรานึกคิดอะไรแล้วไปถึงที่นั่นที่นี่ได้ถูก มันอยู่ในความทรงจำซึ่งไม่มีรูปปรากฏ แต่ก็เก็บอยู่ในจิตตลอดเวลา เป็นนามธรรม สังขารการปรุงแต่งขึ้นมาได้ตามเหตุตามปัจจัย เรามองไม่เห็นเหตุปัจจัย มองไม่เห็นการปรุงแต่ง แต่เรารับรู้อารมณ์นั้นได้ เรียกว่านามธรรม วิญญาณ คือ จิต หัวใจคือรูปเป็นที่ตั้งให้จิตอาศัย หัวใจกับจิตคนละอย่าง(จิต)นี่เป็น นามธรรม นั่นเอง




8
บทความ (Blog) / ความงดงามแห่งชีวิต
« เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2021, 09:40:33 pm »






http://youtu.be/RcSkiopAxno


ถ่ายภาพโดย...時々होशདང一

ความงดงามแห่งชีวิต

เพียรทำใจให้ออกห่างสร้างทุกข์-สุข
ความสนุกจากกิเลสเวียนเผาไหม้
ให้ได้เห็นความจริงยิ่งห่างไกล
ให้เห็นใจใสสะอาดปราศหมองมัว


กระแสสายฝายวารีที่ล้นหลาก
บรรจบจากหุบเขาลำเนานั่น
สู่หุบเขาอีกลำเนามนุษย์ปัน
ตามความคิดความฝันของม่านใจ


มัชฌิมประภาสปุญสถาน

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ





9
บทความ (Blog) / ความงดงามแห่งชีวิต
« เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2021, 07:28:42 pm »







ผมไม่ใช่ญาติของเขา
แต่ผมดูแล้วน้ำตาไหล
เพราะนี่ คือ
ความงดงามแห่งชีวิต
ผมนั่งดูเป็นสิบ ๆ รอบ

:24: :24: :24:

เพลงประกอบคือ นางฟ้าโปรยดอกไม้ :46: :46: :46:

http://youtu.be/cJeEY3T7xFI


ความงดงามแห่งชีวิต
กราบขอบพระคุณครอบครัว
ผู้วายชนม์ที่ให้ความรู้
ไม่มีอะไรงดงามกว่านี้อีกแล้ว


มัชฌิมประภาสปุญสถาน

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ




10
บทความ (Blog) / ความงดงามแห่งชีวิต
« เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2021, 06:47:11 pm »







ความงดงามแห่งชีวิต

เพลงประกอบ Butterfly Lover

ที่ตัวฉันมีสติอยู่ คู่กายใจ
(สติ)เอยไฉนเจ้าอยากละทั้ง
บุญบาป
(สติ)คงทราบทุกสิ่งไม่จริงแท้
ไม่เที่ยงเป็นทุกข์มีผันแปร
ไม่เที่ยงแท้หาใช่ตัวตน


กุศโลบาย มีมาแต่ พุทธกาล
ก็เล่าขาน สืบต่อ อย่าทอดทิ้ง
แต่สานต่อ เพราะรู้เห็น ตามยอดยิ่ง
รู้เห็นจริง จึงได้ดื่ม น้ำทิพย์เอย....


http://youtu.be/XxO6Zo3ZqmI


มัชฌิมประภาสปุญสถาน

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ





หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 ... 102