แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - AnamCaraSHC

หน้า: [1] 2
1
     วันนี้สามารถรับบริการสะกดจิตบำบัด ด้วยมาตรฐานวิชาชีพทางจิตเวชได้แล้ว โดย อ.ผ่องพรรณ กฤษณะประกรกิจ M.Sc.(Nursing), Clinical Hypnotherapy, Cert. PLRT(Weiss Institute, USA) ที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ โทร. 044-233999 ต่อ 65635 ช่วยบำบัดอาการเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ และการปรับตัว ฝึกผ่อนคลายด้วยเครื่องมือ Biofeedback ทันสมัย (เบิกค่าใช้จ่ายได้ตามสิทธิ์)

2
    วันนี้สามารถรับบริการสะกดจิตบำบัด ด้วยมาตรฐานวิชาชีพทางจิตเวชได้แล้ว โดย อ.ผ่องพรรณ กฤษณะประกรกิจ M.Sc.(Nursing), Clinical Hypnotherapy, Cert. PLRT(Weiss Institute, USA) ที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ โทร. 044-233999 ต่อ 65635 ช่วยบำบัดอาการเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ และการปรับตัว ฝึกผ่อนคลายด้วยเครื่องมือ Biofeedback ทันสมัย (เบิกค่าใช้จ่ายได้ตามสิทธิ์)

3
จิตใต้สำนึกและสมองน่ารู้
จิตใต้สำนึกกับสมอง (Subconscious Mind and Brain)

     
          ความรู้ความเข้าใจในเรื่องควอนตัมฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบัน  ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างจิตใต้สำนึกและสมองได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่งที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ เปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมและอารมณ์ของมนุษย์ นำไปสู่สุขภาวะทางจิตใจที่สร้างสรรค์และยั่งยืน  ซึ่งทางศูนย์อนัมคาราฯ ได้ศึกษา เรียบเรียงสรุป เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจดังต่อไปนี้

ธรรมชาติของ สสาร-พลังงาน สมอง-จิตใจ  รูป-นาม
      ศาสตร์ของควอนตัมฟิสิกส์ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้ความเข้าใจในธรรมชาติของสสารและพลังงาน(Matter-Energy)  ว่าเราไม่อาจทราบได้ถึงธรรมชาติที่แท้จริงของสรรพสิ่ง  สิ่งที่เรารับรู้อยู่ผ่านการสังเกตุ(observation)หรือการวัดด้วยเครื่องมือใดๆก็ตามนั้น  คือปรากฏการณ์ของสสาร (particles) และพลังงาน(energy)  ซึ่งเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์กับ อวกาศและเวลา  (space and time)
     สสารในระดับที่เล็กที่สุดของอตอมและอิเลคตรอนนั้นสามารถแสดงตัวเป็นพลังงานและในทำนองกลับกัน พลังงานก็สามารถแสดงตนเสมือนเป็นสสารได้ด้วย  ในสมการของไอสไตน์ ที่แสดงว่าสสารและพลังงานสามารถเปลี่ยนแปลงไปมาได้ ( E= mc2)  และที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นคือ สสารและพลังงานในจักรวาลที่นักวิทยาศาสตร์ิสูจน์พบแล้วมีเพียง 4% แต่ยังมีอีกถึง 96% ยังคงเป็น พลังงานมืด (Dark Energy) และสสารมืด (Dark Matter) ที่เรายังไม่รู้จัก
     นั่นหมายถึง ธรรมชาติส่วนใหญ่ในจักรวาลนี้ อยู่ในสภาวะศักยภาพยิ่งใหญ่ที่สามารถนำมาใช้และเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เราต้องการ และเครื่องมือสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือ "จิตใต้สำนึก (Subconscious Mind)" นั่นเอง

     สมองของมนุษย์นั้นมีวิวัฒนาการเหนือกว่าสัตว์อื่นทั้งหมด  เป็นเสมือนกลไกที่ซับซ้อนมากที่สุดกว่าเครื่องมืออื่นใดที่มนุษย์จะประดิษฐ์

สร้างขึ้นได้  ข้อค้นพบที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมองนั้นคือ
     
 -  มี 20,000 รหัสพันธุกรรม(ยีนส์) ที่ควบคุมการสร้างโปรตีนในสมอง
     
-  มีเซลล์ประสาทในรูปแบบที่แตกต่างกันกว่า 100,000 รูปแบบ
     
-  ในสมองคนเรามี เซลล์ประสาท 85,000,000,000 เซลล์ (แปดหมื่นห้าพันล้านเซลล์)
     
-  มีการเชื่อมต่อกันอยู่ถึง 1,000,000,000,000,000 จุด (พันล้านล้านจุด)
     
-  ในปริมาตรเพียง 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร จะมีเซลล์ประสาทอยู่ 20,000-30,000 เซลล์
     
-  ในปริมาตรเพียง 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร มีเส้นใยประสาทรวมกันยาว 4 กิโลเมตร
     
ซึ่งทั้งหมดนี้จะก่อให้เกิดรูปแบบสภาวะจิตใจแบบต่างๆ ได้ไม่จำกัด


อ่านเพิ่มเติมได้ที่  http://www.anamcarawcp.com/p/blog-page_176.html

4
เป็นคำสอนที่ลึกซึ้งมากครับ

5
    หนทางสู่ความสุขด้วยการพัฒนาตนเองที่ได้มีการรวบรวมไว้ โดยจะเน้นเฉพาะวิธีการที่ปรับเปลี่ยนองค์ประกอบภายในของตัวเราเอง เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองนั้นย่อมง่ายกว่าและดีกว่าการที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงผู้อื่น หรือสิ่งแวดล้อมให้ได้ตามความปรารถนา

1.การมีจิตสำนึกแห่งการพัฒนาตนเอง
2. สภาพร่างกายที่แข็งแรงเหมาะกับการงาน
3. เรียนรู้จักความรักและการให้อภัย
4. การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
5. รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
6. ความสุขที่แท้คือความสงบ
7. จิตสำนึกแห่งการรู้คุณ
8. การปล่อยวาง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : http://anamcarashc.blogspot.com/2011/09/blog-post_2075.html

6
ขอประชาสัมพันธ์ คอร์สสะกดจิตย้อนอดีตชาติบำบัด (Past Life Regression Therapy) รุ่นที่ 6 โดยศูนย์อนัมคาราเพื่อปัญญาเมตตาและสันติสุข สำหรับผู้สนใจ ร่วมกับการฝึกพัฒนาจิตในแนวทางพุทธศาสนาแบบวัชรยาน ระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ โรงแรมพักพิงอิงทาง ถนนงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://anamcarashc.blogspot.com/p/blog-page_3703.html

7
 เปรมา  มาจากคำในภาษาสันสกฤต มีความหมายว่าความรัก  เป็นความรักเมตตาบริสุทธิ์ที่มาจากใจส่วนลึก  เป็นพลังที่ทำให้หัวใจบีบตัวสูบฉีดเลือดอยู่ตลอดเวลา  เราสามารถสัมผัสพลังความรักนี้ได้ด้วยการนั่งลงหลับตาในสถานที่เงียบสงัด  น้อมใจลงไปสัมผัสที่หัวใจ ทุกครั้งที่หัวใจเต้นเราจะสัมผัสได้ถึงกลุ่มก้อนพลังความรักเมตตาบริสุทธิ์เปรมานี้แผ่ออกมาจากใจส่วนลึก  พร้อมกับเลือดที่ส่งผ่านไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย
   
       พลังรักเปรมาเป็นบ่อเกิดของความเมตตาปราณี  เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข เป็นเมตตาที่ไม่มีประมาณ  หากเรารู้จักบ่มเพาะด้วยการเข้าถึงพลังรักนี้  จิตใจจะเข้าถึงความปีติสุขสงบ  เกิดความมั่นคง มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตท่ามกลางความกดดันนานัปการได้อย่างมั่นใจ
     ด้วยการนั่งหรือนอนหลับตาในท่าที่สบาย  หายใจเข้าออกลึกๆช้าๆ สามสี่ครั้งจนรู้สึกสงบ  ต่อจากนี้ให้น้อมใจเบาๆ (ขอเน้นคำว่า เบาๆ)  ระลึกคำภาวนา “ เปรมา” ให้พลังแห่งเปรมานี้ได้สัมผัสลงไปที่หัวใจ  ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จะรู้สึกได้ถึงความสุขสงบภายใน เพราะความรักทำให้เกิดพลังที่อ่อนโยนเยียวยาดูแลจิตใจ
       เมื่อภาวนา “เปรมาๆๆ”  จนจิตเกิดสมาธิแล้วจะพบว่าคำภาวนาจะไม่จำเป็นอีกต่อไป  คงมีไว้แต่สภาพหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักบริสุทธิ์  เกิดเป็นความปีติยินดี ความสุขลึกดื่มด่ำเย็น  และความสงบนิ่ง  จนหัวใจกลายสภาพเป็นความรักที่เต้นได้อยู่กลางทรวงอก  ซึ่งในขณะนี้จะเกิดเป็นบูรณาการของ สติ สมาธิ  ให้ประคองใจเช่นนี้ให้เป็นเวลานานๆ  เราได้เข้าถึงแหล่งแห่งพลังชีวิตที่อยู่ภายใน  จะเกิดผลดีต่อสุขภาพทั้งทางกายและจิต  เป็นเงื่อนไขที่จะให้เกิดการเติบโตทางจิตวิญญาณ 
        การภาวนาเปรมาอยู่เสมอ  จะทำให้จิตมีความรักความอ่อนโยน  มีความสุขสงบไม่ร้อนรน  ช่วยให้เกิดความมั่นคงทางอารมณ์จิตใจได้มากขึ้น  เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาทางจิตใจ เช่น เครียด ซึมเศร้า  วิตกกังวล นอนไม่หลับ  มีหลายคนที่นอนไม่หลับเรื้อรังมานานหลายปีก็สามารถนอนหลับได้อย่างง่ายดายด้วยสมาธิภาวนาเปรมานี้ก่อนนอนจนกระทั่งหลับไปไม่รู้ตัว โดยไม่ต้องพึ่งยานอนหลับอีกเลย  ขอให้เกิดประโยชน์แด่ท่านทั้งหลายโดยทั่วกัน

http://anamcarashc.blogspot.com/2011/12/prema-meditation.html

8
โปรแกรมนี้ใช้การฝึกสมาธิเป็นฐาน (Meditation-based program) ประยุกต์และสังเคราะห์ขึ้นจากหลักการคำสอนภูมิปัญญาดั้งเดิมของโลกตะวันออกทางศาสนา หลักสัจธรรม และจิตบำบัดแบบตะวันตกหลายแนวเข้าด้วยกัน  โดยเลือกเฉพาะส่วนที่เป็นแก่นสาระสำคัญ และสามารถนำมาฝึกปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน มีหลักแนวคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ มีเหตุมีผล ซึ่งได้แก่

          1.  หลักสมาธิลมหายใจ(อานาปานสติ) 
          2.  หลักสติปัฏฐาน 4  และ Tantric Buddhism
          3.  คำสอนของวิปัสสนาจารย์  ท่าน Sathya Narayan Goenka
          4.  หลักคำสอนของ  Parthasarathi Rajagopalachari,  J. Krishnamurti
          5.  หลักการทำสมาธิแบบ  Sahaj Marg Meditation, Raja Yoga
          6.  John Ruskan’s Emotional Clearing, Cognitive Therapy, Rational 
               Emotive  Behavior Therapy, Transpersonal Psychotherapy

           เมื่อได้นำมาศึกษา วิเคราะห์ ปฏิบัติ และประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยในคลินิกสมาธิบำบัด ของภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ผู้ที่เข้ารับการฝึกครบหลักสูตร (8 ครั้ง) พบว่ามีสภาพจิตใจที่มีความสุขสงบมากขึ้น มีความรักความเข้าใจตนเองและผู้อื่น สามารถนำหลักปฏิบัติไปใช้ในชีวิตประจำวันจนทำให้ความเครียดลดน้อยลงตามลำดับ และมีบางคนที่สนใจขอกลับมาฝึกซ้ำ  ชวนบุคคลในครอบครัวมาฝึก หรือนำหลักการไปสอนให้กับผู้อื่นด้วย

          ขั้นตอนของการพัฒนาจิตตามโปรแกรมนี้ ประกอบด้วยหลักการและการปฏิบัติ 8 ขั้นตอน คือ


          1. การฝึกสมาธิลมหายใจขั้นตอนที่ 1 : การกำหนดรู้ลมหายใจ
          2. การฝึกสมาธิลมหายใจขั้นตอนที่ 2 : การเฝ้าดูลมหายใจ
          3. การเฝ้าดูความรู้สึกของร่างกาย
          4. การระลึกรู้อารมณ์ / การยอมรับอารมณ์
          5. การเฝ้าดูอารมณ์และความรู้สึกทางร่างกาย
          6. การเฝ้าดูความคิด และเงื่อนไขความคิด
          7. การยอมรับตนเองอย่างสมบูรณ์
          8. การพัฒนาจิตสำนึกแห่งความรัก/ ความเข้าใจ


รายละเอียดที่ : http://anamcarashc.blogspot.com/search/label/โปรแกรมสมาธิบำบัด

9
กฏแห่งกรรม-ชาติภพ / บทเรียนแห่งชีวิต
« เมื่อ: สิงหาคม 04, 2012, 07:37:43 am »
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนมีคุณค่าเป็นบทเรียน นำสู่ความเข้าใจในเรื่องกฏแห่งกรรม และขยายขอบเขตจิตใจสู่ความรักเมตตาและการให้อภัย

ขอเชิญอ่านเรื่องจากการบำบัดจิตด้วยการสะกดจิตย้อนอดีต/อดีตชาติ จะช่วยให้คำตอบในเรื่องของกรรมและผลของกรรม เพื่อเราจะดำเนินชีวิตโดยไม่เบียดเบียนกันและกัน

http://anamcarashc.blogspot.com/p/blog-page_5.html

10
        องค์ประกอบของชีวิตมนุษย์นั้น  เป็นสิ่งที่สลับซับซ้อน  มีทั้งส่วนที่มองเห็นเป็นรูปธรรม  ส่วนที่ละเอียดอ่อนอยู่ในรูปของพลังงานระดับชั้นต่างๆ
        จักระ คือศูนย์พลังงานที่สำคัญของชีวิต  ซึ่งมีทั้งจักระใหญ่และเล็กกระจายอยู่ทั่วทั้งร่างกาย  จักระใหญ่ที่มีความสำคัญั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 7 จักระ  ซึ่งเมื่อดูจากธรรมชาติและปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เราจำทำความเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง 
อ่านต่อได้ที่ :  http://anamcarashc.blogspot.com/2012/01/blog-post_31.html

หน้า: [1] 2