แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - คุณหนูขาวมณี

หน้า: [1] 2
1
หยาดฝนแห่งธรรม / อย่าเผลอสติ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2010, 05:07:18 am »
โอวาทธรรม
ของ
หลวงปู่เมตตาหลวง (พระญาณสิทธาจารย์ สิงห์ สนฺทโร)
วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

__________



ศีล สมาธิ ปัญญา
ทางสายนี้ต้องใช้สติปัญญาให้มากๆ
ให้ใช้ศรัทธาพากเพียรเป็นเครื่องบุกเบิก เพื่อจะได้ผ่านไปเป็นระยะๆ
โดยมีความมานะพยายามเป็นพลังช่วยหนุน สนับสนุนจิตใจ
ให้ผ่านพ้นกิเลส ตัณหา อวิชชา ทั้งหลายนั่นแหล่ะ
จึงจะได้รับประโยชน์ในเบื้องต้น เบื้องปลาย


จงน้อมนำจิตใจ ถวายสู่พุทธบูชา ตายเป็นตาย
แล้วนั่งภาวนาบริกรรมพุทโธ  ไม่มีวิธีอื่น มีวิธีนี้เพียงวิธีเดียว
นั่งภาวนามีสติความรู้ให้ทันกับความนึกคิดของจิต
จิตจะไปที่ไหน  เอาสติจับไว้ อย่าให้คลาดเคลื่อน ภาวนาไปเรื่อยๆ


หายใจเข้า พท  หายใจออก โธ ไปเรื่อยๆ
ไม่ต้องหวาดหวั่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น
ข้อสำคัญ..อย่าเผลอสติก็แล้วกัน


นั่นแหล่ะ เราจะได้ชื่อว่า
เป็นผู้ที่มอบกายถวายตัวเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาเพื่อการภาวนาโดยแท้
บุคคลเช่นนี้หายากที่สุด 
เกรงอย่างเดียว...ไม่เอาจริงเท่านั้น
มันจึงหละหลวมไม่มั่นคง แม้ใจก็อ่อนไหวได้นะ

ข้อสำคัญ  ขออย่ามองออกไปจนเกินตัว
จงพิจารณาอยู่ในกายนี้แหล่ะ  ธรรมะจะเกิดก็ตรงนั้นแหล่ะ


--------

น.นันทวันมุนี.  ร้อยธรรมพระกรรมฐาน.  กรุงเทพฯ : ไพลิน, ๒๕๔๙.  (หน้า ๕๕)

2
พระอริยบุคคล / นักปฏิบัติ คือ นักรบ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2010, 07:32:43 am »
โอวาทธรรม
ของ
พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

__________

ธรรมะเป็นอาวุธสำคัญที่กิเลสหวั่นไหวเกรงกลัว
เพราะรู้ทันกลอุบายของมัน 
ผู้ปฏิบัติจะมีความอิ่มแห่งธรรมเหมือนอิ่มอาหาร จะเข้าใจกันเอง ไม่ต้องถาม
เพราะธรรมเป็นของอิ่มพอ
แต่กิเลสมันไม่เคยมีความอิ่ม มันหิวกระหายอยู่เป็นนิจ


คนเราถ้ามีกิเลสเต็มตัวแล้ว  มันก็เหมือนหมูเราดีๆนี่เอง
กินแล้วนอนๆจนอ้วนพีเขาก็นำไปขึ้นเขียงสับบั่นเท่านั้น!
ฉะนั้น..ผู้ปฏิบัติธรรมเขาจึงไม่เลี้ยงกิเลส
เขาทำลายกิเลสกันทั้งนั้น


พระอริยเจ้าทั้งหลายในอดีตที่ผ่านมา
ท่านรู้ทันกิเลส เมื่อกิเลสโผนมา ธรรมะโผนไป
กิเลสโหดร้าย ธรรมะโหดดี
อยากรบต้องออกแนวรบ  นักปฏิบัติ คือ นักรบ !

เป็นต้องเป็น ตายต้องตาย  จึงจะเอากิเลสอยู่
กิเลสมีเท่าไร ธรรมะต้องมีเท่านั้น !

____________

จาก
ธรรมะพระอริยสงฆ์. พิมพ์ครั้งที่ ๑. สำนักพิมพ์คอมม่า : กรุงเทพฯ, ๒๕๔๘. (หน้า ๕๕)



3
โอวาทธรรมของพระอาจารย์ลี  ธมฺมธโร
วัดอโศการาม  อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

-----------

พูดโดยรวมแล้วก็คือ กาย วาจา ใจ เรานี้แหล่ะ ทำให้มันเป็นบุญเป็นกุศลขึ้น
กายของเราก็ต้องหล่อหลอมให้เป็นเงางาม ขัดถูด้วยศีลให้สะอาดสดใส
วาจาของเราก็ทำให้เป็นวาจาที่ดี


สิ่งใดที่ควรพูดก็พูด สิ่งใดที่ไม่ควรพูดก็อย่าพูด
เรื่องราวบางอย่างเป็นเรื่องที่ผู้ฟังชอบแต่เป็นเรื่องไม่ควรพูด เราอย่าพูด
เรื่องบางอย่างผู้ฟังไม่ชอบ แต่ควรพูด เราก็ต้องพูด


คนเรามีทั้งส่วนดีและส่วนชั่ว
คนที่มีชั่วก็มีดีอยู่บ้าง มิได้ชั่วไปเสียหมด
ต้องมองดูเขาในแง่ดีบ้างเหมือนลูกไม้บนต้นย่อมมีผลไม่เสมอกัน
คนก็ไม่เสมอกันแต่ต้องทำใจของเราให้เสมอไว้

ใจเราบางครั้งก็ดี บางครั้งก็ไม่ดี
ฉะนั้น  จงทำใจของเราอย่าให้มีโกรธ โลภ หลง

อย่าโกรธ เกลียด พยาบาทปองร้ายเขา ปรารถนาดีให้แก่เขาบ้าง
แผ่เมตตาอารีให้เขาบ้าง


(เทศน์โปรดสานุศิษย์ ๒๔ คนที่มาจากจันทบุรี ค่ำวันที่ ๙ ส.ค. ๙๗)

_______________

จาก
หนังสือแนวทางปฏิบัติ วิปัสสนา-กัมมัฎฐาน
พระสุทธิธรรมรังสี คัมภีรเมธาจารย์(พระอาจารย์ลี ธมมธโร)
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ. พิมพ์ครั้งที่ ๑,๒๕๕๒.หน้า ๒๔๒,๒๔๓.



4
ในหมู่คนดี ย่อมมีคนไม่ดีปะปนอยู่ด้วย ..เป็นของธรรมดาจึงไม่ควรใส่ใจ
คนไหนดีเราก็สรรเสริญ คนไหนไม่ดีเราก็ออกห่าง ไม่ยกย่อง


จงรักทุกคน ... ไว้ใจบางคน ... อย่าทำผิดต่อทุกคน

----

คนเรา..ก่อนที่จะแผ่เมตตาให้คนอื่นนั้น ตัวเราต้องมีเมตตาก่อน
เหมือนกับการจะช่วยเหลือคนอื่น เราต้องพร้อมแล้ว
เช่น ต้องมีทรัพย์ใช้ก่อนจึงจะนำไปช่วยเหลือคนอื่นๆได้
ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่มีเมตตาแล้วแต่จะแผ่ไปให้คนอื่นซึ่งก็ไม่ถูกต้อง
แผ่ให้ตัวเองมีเมตตาก่อนแล้วจึงจะแผ่เมตตาให้คนอื่นจึงจะได้ผล


โอวาทพระครูปราโมทย์ธรรมธาดา (หลวงปู่หลอด ปโมทิโต)
วัดสิริกมลาวาส เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

----

จาก

ธรรมพระอริยสงฆ์. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์คอมม่า,๒๕๔๘. (หน้า ๕๗)

6
เห็นด้วยทุกประการค่ะ  :13:

7
หัวใจคือน้ำจิ้มเลยล่ะเนี่ย  ^^   ถ้าน้ำจิ้มรสชาติมัดใจล่ะก็...ทอดอะไรมาขายก็หมดเกลี้ยง    :13:

8
เนื้ออะไรก็ได้ขอให้ไร้มันได้ไม๊อ่ะ  เพราะเราชอบกินมากๆๆ แต่เราไดเอท  :21:

9
คุยสบาย นานาสาระ / Re: “เหงา” ไม่ใช่ปัญหา
« เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 08:28:21 pm »
 :46:  ต้องอยู่ตามลำพังให้ได้เนี่ยดีสุด  สุข..ด้วยตัวเอง  ไม่ใข่เพราะสุขเพราะมีใครๆ สุขจากคนอื่นมันไม่ถาวร  :13:

10
ทั้งให้ทั้งรับเลยค่ะ

แต่ก็ให้...แก่ตัวเองเนี่ยล่ะ   :13:   ให้ตัวเองมีความสุขด้วยการรับความเจ็บปวดจากการเสียใจมา (พูดอะไรซับซ้อน - -")

เรารู้ดีว่าความเจ็บปวดนั้นมันอยู่กับเราไม่นาน  สักวันเราจะทำใจได้   แต่หลังจากนั้น...เราจะมีความสุขกว่าจากการเป็นอิสระจาก..ความรัก

เอาแค่ตอนนี้...ผ่านมาได้แค่อาทิตย์เดียว  เรายังรู้สึกโบยบิน อิสระที่ไม่ตอ้งพะวงถึง..ใครบางคน...อย่างที่เคยเป็น

กลิ่นอิสระมันหอมอโรม่าจริงๆเลย  :13:

หน้า: [1] 2