ผู้เขียน หัวข้อ: เตรีมตัวกักตุนแบบลัทธิเกรียน หรือจะเอาแบบพระพุทธเจ้าอ่าจ๊ะ  (อ่าน 1723 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

น้องต๊ะเจ้าเก่า

  • บุคคลทั่วไป
 สาส์นจากปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)
 
เขียนโดย chaichan ที่ 22:15 ป้ายกำกับ: สถานที่หลบภัยพิบัติ
ผ่านทางทิพย์นิมิต พระอาจารย์เพลิน นนทโก ให้แจ้งต่อผู้ศรัทธาในปู่ใหญ่ หลวงปุ่เทพโลกอุดร ว่าในอีก ประมาณ....ปี ข้างหน้านี้ จักเกิดภัยพิบัติอันใหญ่หลวงต่อมวล มนุษยชาติทั่วโลก ขอให้ลูกหลานทุกคนจงพากันเตรียมตัว ร้บสถานการณ์ให้ดี โดยให้มีสติอันมั่นคงอย่าวิตกกังวล จงพา กันเร่งบำเพ็ญภาวนาทำสมาธิฝึกฝนพลังจิตให้เข้มแข็ง และ ให้พากันหาสถานที่อันสงบในป่าเขาแหล่งที่ห่างไกลความเจริญ ปลูกต้นไม้ให้มาก ๆ ล้อมรอบที่พักอาศัย แล้วบำเพ็ญภาวนา เก็บกักตุนเสบียงไว้ใช้ในยามขัดสนอันมีปัจจัยสี่ เช่น เครื่อง นุ่งห่ม อาหารแห้ง ยารักษาโรค หากผู้ใดมีเงินขอให้เปลี่ยน เป็นของมีค่าอย่างอื่น เช่น ทองคำเป็นต้น อย่าฝากธนาคาร อย่าซื้อหุ้นให้ฝังดินไว้ทำแผนที่ลายแทงไว้ในพื้นที่ที่ห่างไกล กรุงเทพฯ เชื้อเพลิงให้พากันกักตุนแบตเตอรี่แห้งเป็นต้น อย่าห่วงทรัพย์ในเมืองหลวง จงพากันไปหาที่ปลูกสร้างที่พักไว้ ตามวัดป่า วัดเขาในชนบท ตามถ้ำต่าง ๆ จึงจะพากันรอด จากภัยพิบัติ จงเร่งบำเพ็ญภาวนา

ผ่านกระแส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2539
ณ ธรรมสถานวงษ์จิต
บ้านนาคำน้อย หมู่ 7
ตำบลบ้านก้อง อาเภอนายูง
จ้งหวัดอุดรธานี 41380



ที่มา: http://www.palungjit.com/

 :24: :24: :24:

เราจะบอกธรรมเป็นที่พึ่ง แก่สัตว์ทั้งหลายผู้ที่ตั้งอยู่ในท่าม
                          กลางสงสาร เมื่อห้วงกิเลสเกิดแล้ว เมื่อภัยใหญ่มีแล้ว
                          ผู้อันชราและมัจจุถึงรอบแล้ว. ดูกรกัปปะ เราจะบอกธรรม
                          เป็นที่พึ่งแก่ท่าน.
             [๓๗๘]    เราขอบอกนิพพานอันไม่มีกิเลสเครื่องกังวล ไม่มีตัณหา
                          เครื่องถือมั่น ไม่ใช่ธรรมอย่างอื่น เป็นที่สิ้นไปแห่งชราและ
                          มัจจุนี้นั้นว่า ธรรมเป็นที่พึ่ง

น้องต๊ะเจ้าเก่า

  • บุคคลทั่วไป
พระอริยะเจ้า ไม่สอนให้กักตุนหรอกอ่า
นั่นมันคนธรรมดา ปุถุชนธรรมดา ที่สอนให้กักตุนอย่างนั้น

ไปหาอ่านพระไตรปิฎกซะมั่งน๋าเหล่าคุณพี่เกรียนทั้งหลาย
จะได้หูตาสวาง ไม่เชื่อมารมาหลอกหลอน

ไม่หลงไปตามอำนาจโวหารของมารอ่าจ๊ะ

คำว่า พระอรหันตขีณาสพเหล่านั้นเป็นผู้ไม่ไปตามอำนาจมาร ความว่า พระอรหันต-
*ขีณาสพเหล่านั้น ย่อมไม่เป็นไปในอำนาจมาร. แม้มารก็ยังอำนาจให้เป็นไปในพระอรหันตขีณาสพ
เหล่านั้นไม่ได้. พระอรหันตขีณาสพเหล่านั้นครอบงำ ข่มขี่ ท่วมทับ กำจัด ย่ำยีซึ่งมาร พวกของ
มาร บ่วงมาร เบ็ดมาร เหยื่อมาร วิสัยมาร ที่อยู่แห่งมาร โคจรแห่งมาร เครื่องผูกแห่งมาร
ย่อมอยู่ ดำเนินเป็นไป รักษา บำรุง เยียวยา เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า พระอรหันตขีณาสพ
เหล่านั้น เป็นผู้ไม่ไปตามอำนาจมาร.
             [๓๘๗] คำว่า พระอรหันตขีณาสพเหล่านั้น ไม่ไปบำรุงมาร ความว่า พระอรหันตขีณาสพ
เหล่านั้น ไม่ไปบำรุง เที่ยวบำรุง บำเรอ รับใช้แห่งมาร. พระอรหันตขีณาสพเหล่านั้น เป็น
ผู้บำรุง เที่ยวบำรุง บำเรอ รับใช้แห่งพระผู้มีพระภาคผู้ตรัสรู้แล้ว เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า พระ-
*อรหันตขีณาสพเหล่านั้นไม่ไปบำรุงมาร. เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า
                          พระอรหันตขีณาสพเหล่าใด รู้ทั่วถึงนิพพานนั้นแล้ว เป็น
                          ผู้มีสติ มีธรรมอันเห็นแล้ว ดับแล้ว. พระอรหันตขีณาสพ
                          เหล่านั้น เป็นผู้ไม่ไปตามอำนาจแห่งมาร ไม่ไป