ผู้เขียน หัวข้อ: ตอบไปว่า.. "แม่สอนไว้" นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์  (อ่าน 2246 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด




ตอบไปว่า.. "แม่สอนไว้"
โดย : นพ. พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์



 "แม่".........คำสั้นๆที่มีความหมายที่ลึกซึ้งยากที่จะบรรยายให้เข้าใจ
อย่างซาบซึ้งได้ในเวลาอันสั้น

ครั้งหนึ่งได้นั่งรถแท็กซี่ไปกับเพื่อนคนหนึ่งเพื่อที่จะไปให้ทันเที่ยวบินที่จะไปต่างประเทศ  พอขึ้นรถก็บอกเล่าให้คนขับฟังว่ามีความจำเป็นดังกล่าวแต่ไม่ได้อยากให้เขาทำอะไรที่เป็นการเสี่ยงอันตรายหรือทำอะไรที่ผิดกฏจราจรแต่อยากไปถึงที่หมายให้เร็วขึ้นเพราะความจำเป็นดังกล่าว  คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ได้พยายามที่จะขับพาเราสองคนไปจนถึงจุดหมายปลายทางทันเวลา  หลังจากยื่นเงินค่าโดยสารให้เขาแล้วก็บอกเขาว่า..."ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยเหลือเราทั้งสองคนให้มาทันเวลาขึ้นเครื่องบิน"

เขาทำท่างงแต่ก็ยิ้มให้แล้วขับรถจากไป    เพื่อนถามขึ้นว่า"ไปขอบใจเขาทำไม ก็เราจ่ายค่าจ้างแล้วนี่นา"
ตอบเพื่อนไปว่า......."แม่สอนไว้"

แม่สอนไว้ว่าเวลาใครทำอะไรให้ควรจะต้องกล่าวคำขอบคุณเขาทุกครั้ง  เพราะจะทำให้เรารูสึกถึงความมีน้ำใจของเขาที่ได้กระทำบางสิ่งบางอย่างให้เรา และเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณคนซึ่งเป็นสมบัติของผู้ดี

อธิบายให้เพื่อนฟังต่อว่า"คุณรู้ไหมว่าแค่คำพูดของเราที่บอกขอบคุณเขานั้น เราทำให้เขามีความสุขมากขึ้นทันทีโดยที่เราไม่ได้เสียอะไรไปเลย แถมยังได้รอยยิ้มจากเขาเสียด้วย และแค่คำว่าขอบคุณของเราคำเดียวนั้นวันนี้จะทำให้เขามีความสุขและอารมณ์ดีซึ่งก็จะทำให้ผู้โดยสารคนต่อไปได้รับการบริการที่ดีจากเขา และทุกคนก็จะมีความสุขกัน  เห็นไหมว่าแค่คำว่าขอบคุณนั้นมันมีค่าและความหมายมากขนาดไหนถ้ารู้จักกล่าวให้ถูกคน ถูกสถานที่และถูกเวลา นั่นแหละที่แม่ผมสอนเอาไว้"

อีกหลายวันต่อมา ได้ดูแลรักษาคนไข้สูงวัยท่านหนึ่งที่ลูกชายเป็นคนพามา  หลังจากตรวจรักษาเป็นอย่างดีเรียบร้อยแล้ว ก็อธิบายให้ลูกชายฟังเกี่ยวกับการดูแลรักษามารดาของเขา และทั้ยสุดได้กล่าวว่า  " ขอบคุณแทนคุณแม่นะ นานๆทีจึงจะเห็นลูกชายพาคุณแม่มาหาหมอด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมีความสุข คุณเป็นลูกกตัญญูจริงๆ ผมคิดว่าผลของกุศลกรรมที่คุณทำในวันนี้จะปกป้องคุ้มครองคุณให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุอันตรายทั้งหลายในชีวิต  ขอให้สุขภาพทั้งแม่และลูกแข็งแรงไปนานๆนะ"   ทั้งสองคนจากไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเป็นสุข

ผู้ช่วยถามว่า "อาจารย์ไปขอบคุณลูกเขาทำไม ก็เรารักษาแม่เขาอย่างดีแล้ว เขาซิควรจะต้องขอบคุณเรา"
ตอบผู้ช่วยไปว่า  "แม่สอนไว้"

แม่สอนไว้ว่า เวลาเห็นใครทำอะไรที่ดีต่อคนอื่น ไม่ว่าจะเห้นเขาทำความดีต่อคนในครอบครีวของเขา หรือทำความดีต่อสังคมประเทศชาติ เราควรจะต้องขอบคุณเขาแทนคนที่ได้รับอานิสงค์จากคุณงามความดีของเขา เขาจะได้มีกำลังใจที่จะทำความดีเพิ่มขึ้น ถ้าเราช่วยกันทำแบบนี้ไปเรื่อยๆเราจะมีคนที่อยากทำความดีต่อผู้อื่นเพิ่มขึ้นแล้วอีกไม่นานโลกเราใบนี้จะน่าอยู่กว่านี้

หลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับเชิญไปบรรยายให้คุณครูที่มารับการอบรมในเรื่องของการเข้าใจวัยรุ่น การให้คำปรึกษาวัยรุ่น รวมทั้งการดำเนินชีวิตให้เป็นสุข หลังจากบรรยายและตอบข้อซักถามจนเป็นที่พอใจของทุกคนที่เข้าร่วมรับฟังและผู้เข้าฟังได้กล่าวขอบคุณที่ได้มาบรรยายแล้วก้ได้ตอบไปว่า

"ขอบคุณทุกท่านที่ชื่นชมในเรื่องที่บรรยาย คำกล่าวอวยพรและความขอบคุณทั้งหลายด้วยความจริงใจของทุกท่านเปรียบเสมือนกับพลังที่จะทำให้มีกำลังที่จะประกอบกิจการใดๆให้สมประสงค์ แต่ก่อนที่จะจบการบรรยายผมขออณุญาติที่จะบอกทุกท่านว่าที่ท่านได้รับฟังเรื่องดีๆนั้นทุกเรื่องเป็นเรื่องราวที่ได้รับการสอนจากผู้มีพระคุณในชีวิตซึ่งก็คือครูบาอาจารย์ทุกท่านที่ได้ถ่ายทอดความรู้ต่างๆเพื่อที่จะสามารถนำความรู้ที่ท่านได้สั่งสอนและพยายามจดจำมาสอนทุกคนต่อๆไป เพราะฉะนั้นขอให้คำอวยพรและคำขอบคุณของทุกท่านจงไปสู่ครูทุกท่านที่ได้สั่งสอนมาเป้นอย่างดี ขอให้คุณครูทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง มีจิตใจที่แจ่มใส และมีความสุขไม่ว่าท่านจะยังคงมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ หรือจากไปยังโลกหน้า ก็ขอให้บูญกูศลที่ท่านได้ทำมาจนเป็นผมในวันนี้จงตกแก่ครอบครัวของท่านด้วย"

ผู้ร่วมงานที่ติดตามไปด้วยถามในภายหลังว่า "อาจารย์ไปยกความดีให้ครูอาจารย์ของอาจารย์ทำไม  ก็เห็นอาจารย์หาความรู้ด้วยตนเองต่อมาอยู่แล้ว"
ตอบผู้ร่วมงานไปว่า"แม่สอนไว้"

แม่สอนไว้ว่า ครูอาจารย์เปรียบเสมือนพ่อแม่ของเราอีกคน ท่านรักลูกศิษย์ของท่านเหมือนลูกๆของท่าน พยายามที่จะสั่งสอนเรื่องที่ดีๆและเป็นประโยชน์แก่ลูกศิษย์เพื่อที่จะนำไปใช้ในอนาคต ลูกต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณครูบาอาจารย์  เพราะอานิสงค์ของการเป็นคนกตัญญูรู้คุณคนนั้นไม่มีอะไรจะเปรียบได้ และจะเป็นเกราะคุ้มครองลูกตลอดไปเหมือนคำกล่าวที่ว่า ....ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้นั่นแหละ

เช้าวันอาทิตย์วันหนึ่งได้พาแม่ไปไหว้พระที่วัดมหาธาตุซึ่งแม่ชอบไปทำบุญ หลังจากทำบุญเรียบร้อยแม่ก็ชอบไปเดินตลาดเพื่อซื้อของที่แม่ค้านำมาขาย  ตอนนั้นสายตาเหลือบเห็นแม่ค้าขายข้าวมันส้มตำก็เลยขอเงินแม่เพื่อที่จะซื้อไปรับประทานเป็นอาหารกลางวัน แม่บอกแม่ค้าว่า..."ซื้อสองถุง" ตอนแรกนึกว่าแม่คงอยากจะรับประทานบ้างแต่ก้งงอยู่เพราะปกติแม่จะไม่รับประทานส้มตำ พอส่งแม่ที่บ้าน แม่ยื่นส้มตำอีกถุงหนึ่งให้บอกว่า "เอาไปให้คุณหมอผุ้หญิงภรรยาเธอนะ  เขาทำงานทั้งวันทุกวันอาทิตย์คงไม่มีเวลาหาอาหารอร่อยถูกปากรับประทาน แม่เห็นเขาชอบกินส้มตำไทยนี่แหละฝากไปให้เขาด้วยนะ เขาจะได้รู้ว่าเวลาที่เขาทำงานนั้นเราก็คิดถึงเขาอยู่นะ เพราะสะไภ้ดีๆที่ทำงาน รู้คุณค่าของการทำงานและการใช้เงินเดี๋ยวนี้หายาก อย่างน้อยถึงไม่ได้ช่วยเขาทำงานแต่ก้อยากจะหาอะไรให้เขาบ้างเหมือนกัน"

มาถึงที่ทำงานเพื่อนแซวว่าต้องรักภรรยามากเลยถึงซื้อของมาฝาก
ตอบเพื่อนไปว่า "แม่สอนไว้"

แม่สอนไว้ว่า  การจะอยู่เป็นครอบครัวอย่างมีความสุขนั้นจะต้องคิดถึงกัน
ห่วงใยกัน ช่วยเหลือกัน รู้คุณค่าของกันและกัน
มีมิตรจิตมิตรใจกัน  จนเกิดความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่แยกเขาแยกเรา
 
ที่จริงแม่สอนไว้มากกว่านี้   ......................
แต่แปลกไหม   .................แม่ไม่เคยสอนให้รักแม่เลย
แต่ไม่จำเป็น..........เพราะแม่สอนโดยไม่ต้องเอ่ยปากสอน

แม่ทำให้ดู.......................
จนเรารู้ว่า...........แม่รักเรา
และแม่ก็รู้ว่า.........เรารักแม่
เพราะ.............เราทำตามที่แม่สอนเสมอ



http://www.trangzone.com/