ผู้เขียน หัวข้อ: วิจัยพบ เดินจงกรม สร้างสมรรถภาพทางกาย  (อ่าน 963 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


วิจัยพบ‘เดินจงกรม’สร้างสมรรถภาพทางกาย แนะส่งเสริมผู้สูงวัยปฏิบัติสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน

           26พ.ย.2558 นางนงนุช แย้มวงศ์ หัวหน้างานการพยาบาลด้านตรวจรักษาพิเศษ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เปิดเผยงานวิจัย เรื่อง “ผลของการเดินจงกรมสมาธิต่อสมรรถภาพทางกาย ระดับความจำระยะสั้นและความฉลาดทางอารมณ์ผู้สูงอายุ” ในการประชุมวิชาการกิจกรรมทางกายระดับชาติ ครั้งที่ 1 ว่า ตนและคณะได้ทำการวิจัยนี้ เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง โดยศึกษาผลของการเดินจงกรมสมาธิต่อสมรรถภาพกาย ระดับความจำระยะสั้นและความฉลาดทางอารมณ์ของผู้สูงอายุที่ปฏิบัติธรรม ใน จ.นครนายก กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่ปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกรมสมาธิและกลุ่มผู้สูงอายุที่ปฏิบัติธรรมด้วยการนั่งสมาธิ กลุ่มละ 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1 คอร์สการฝึกปฏิบัติธรรม ภาวะนาแบบอานาปานสติ2แบบประเมินสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุ 3 แบบคัดกรองสมองเสื่อมเบื้องต้น และ4แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ และนำมาวิเคราะห์เชิงสถิติก่อนและหลังการทดลอง

           นางนงนุช กล่าวอีกว่า ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มผู้สูงอายุที่ปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกรมสมาธิมีคะแนนเฉลี่ยสมรรถภาพทางกาย7ด้าน คือ การทรงตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ความอดทนด้านแอโรบิก ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ความอ่อนตัวด้านล่าง ความอ่อนตัวด้านบน และความว่องไว หลังการทดลอง12สัปดาห์ พบว่าก่อนและหลังการทดลอง มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ พบว่าค่าเฉลี่ยสมรรถภาพทางกายกลุ่มผู้สูงอายุที่ปฏิบัติด้วยการเดินจงกรม สูงกว่ากลุ่มที่นั่งสมาธิในทุกด้าน และกลุ่มที่ปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกลม ยังมีค่าคะแนนความจำมากกว่ากลุ่มที่นั่งสมาธิ ส่วนค่าเฉลี่ยความจำนั้น พบว่าก่อนทดลองมีคะแนนค่าเฉลี่ยของความจำแตกต่างกัน แต่เมื่อทดลองด้วยทั้ง2วิธีแล้ว คะแนะเฉลี่ยนั้นไม่มีความแตกต่างกัน

           “การออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างสม่ำเสมอ และมีการปฏิบัติภาวนาสมาธิ ควบคู่กันสามารถเพิ่มสมรรถภาพทางกาย ทั้งระดับความจำ และความฉลาดทางอารมณ์ จึงควรมีการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีการปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ1ในการประชุมวิชาการกิจกรรมทางกายระดับชาติ ครั้งที่1ภายใต้หัวข้อActive Living for allหรือ กิจกรรมทางกายเพื่อทุกคน”นางนงนุช กล่าว

.....................

(หมายเหตุ : ขอบคุณภาพจาก dinnamfa.wordpress.com)

จาก http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/217541
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...