ผู้เขียน หัวข้อ: ความรัก รสบาร์บีคิว ของ “ครูอารี” ฝรั่งคนเก่งขับซาเล้งขายบาร์บีคิว  (อ่าน 997 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


ความรักรสบาร์บีคิว ของ “ครูอารี” ฝรั่งคนเก่งขับซาเล้งขายบาร์บีคิว

“บาร์บีคิวไหมคร้าบ ชิมไหมครับ มีเนื้อ มีไก่ ไม้ละ 20 บาท อร้อยอร่อย”

เสียงตะโกนเรียกลูกค้าด้วยสำเนียงอังกฤษปนไทยทำให้หลายคนหันมามอง เด็กนักเรียนที่เพิ่งเลิกเรียนต่างเดินเข้ามาสั่งบาร์บีคิวก่อนชวนเจ้าของเสียงคุยภาษาอังกฤษคล่องปร๋อ

“อร่อยมากค่ะ” เด็กนักเรียนในชุดคอซองยกนิ้วคอนเฟิร์ม เมื่อเราเดินเข้าไปถาม ก่อนกระซิบบอกว่า ฝรั่งคนนี้มีชื่อแบบไทยๆ ว่า “ครูอารี” เมื่อขายบาร์บีคิวหมด ฝรั่งตัวโตก็ขับซาเล้งกลับบ้านไปหา “เมีย” เรารีบตามติดแนบชิดชีวิตครูอารี ในที่สุดก็ได้พบ “คุณบี” เมียฝรั่งตัวจริง จึงรีบถามเรื่องราวของทั้งเขาและเธอ

“เด็กๆ บีก็ทำงานที่ปากช่อง บีเคยทำมาหลายอาชีพมาก ทำไร่ ทำสวนผัก งานโรงแรม ประชาสัมพันธ์ งานโรงงาน ขายหมูปิ้ง ขายก๋วยเตี๋ยวเรือ

“บีเจอกับครูอารีตอนเขามาเที่ยวเมืองไทย ตอนนั้นบีขายอาหารตามสั่งแบบมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างอยู่ที่หาดป่าตอง ภูเก็ต” หลังจากพบปะดูใจกันมาระยะหนึ่ง ทั้งคู่ก็ตกลงคบกันเป็นแฟนและย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ปากช่อง

“ถ้าฉันไม่มีเงินเลย…เธอจะรักฉันไหม…เธอจะให้ฉันอยู่เมืองไทยด้วยไหม” โดนฝรั่งตัวโตโปรยคำหวานซะขนาดนี้ คุณบีเลยยิ้มหวานก่อนตอบไปว่า “รัก…เพราะฉันไม่ได้ชอบคนที่เงินทอง…ฉันชอบคนที่จิตใจ”



ครูอารีจึงเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คู่ใจฟังว่า ก่อนหน้านี้เขามีภรรยา ลูกๆ มีเงิน บ้าน รถครบครัน ทว่าเมื่อต้องแยกกันอยู่กับภรรยา เขาก็จากมาโดยทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังก่อนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย

แม้รอบข้างจะพากันดูถูกที่เธอตัดสินใจร่วมชีวิตกับ “ฝรั่งกระจอก” แต่คำปลอบใจของคนรักฝรั่งก็ทำให้ความมั่นใจของเธอเพิ่มขึ้น “คนเราไม่ว่าอยู่เมืองนอกหรืออยู่เมืองไทย จะไทยหรือฝรั่ง ทุกคนก็ต้องทำงาน ถ้าไม่ทำงาน เราก็จะไม่มีเงินใช้ …ถ้าเราช่วยกันทำมาหากิน ยังไงก็ไม่อดตาย”

ลำพังเงินเดือนครูฝรั่งเพียงสามหมื่นต่อเดือนไม่สามารถจะเลี้ยงคนกว่า 5 ชีวิต ทั้งภรรยา พ่อแม่ของภรรยา และลูกบวกกับค่างวดรถยนต์ ค่าเช่าบ้าน และค่าเลี้ยงลูกได้

ครูอารีหรือนายอาลิสเตย์ เอียนมิเออร์ จึงพิสูจน์ความจริงในคำที่ตนได้พูดไว้กับคุณบีด้วยการตื่นเช้าไปเดินขายหมูปิ้งไม้ละ 5 บาท เป็นระยะทางเกือบสิบกิโลเมตรรอบปากช่อง บ้านเกิดของภรรยาก่อนไปสอนหนังสือที่โรงเรียนจนถึงเย็น

เมื่อเปลี่ยนมาขายบาร์บีคิว ใหม่ๆ ไปขายออกงาน ทั้งสองคนก็อาศัยเช่าที่กางเต็นท์นอน มีห้องน้ำตรงไหนก็อาบตรงนั้น

“อุ๊ย! ทำไมโชคดีจังเลย…แฟนดี๊ดี อะไรอย่างนี้คะ หาให้บ้างสิ” เหล่าแม่ค้าในตลาดปากช่อง เมื่อเห็นฝรั่งสุดขยันลุกขึ้นขายของทุกวันไม่เคยหยุด จากที่เคยค่อนขอดนินทาถึงความกระจอก ก็เริ่มชมเปาะถึงความโชคดีของคุณภรรเมีย

หลังจากนั้นไม่กี่ปีทั้งคู่ก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่หาดใหญ่ ครูอารีคอยช่วยซื้อพริก หอมใหญ่ สับปะรด เนื้อวัว เนื้อไก่ สำหรับทำบาร์บีคิวสูตรอร่อยจากอังกฤษในช่วงเช้า ก่อนเดินทางไปสอนหนังสือ เมื่อกลับบ้านก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าแปลงร่างเป็นนักปิ้งบาร์บีคิวมือฉมังในช่วงเย็น และคอยเก็บของกลับบ้านหลังจากของหมด

หลังจากสามีไปทำงาน คุณบีจัดการทำซอสบาร์บีคิวสูตรเด็ด เริ่มด้วยการเทความใส่ใจลงไปในซอสก่อนนำเนื้อและไก่ผสมคลุกเคล้า จัดการเสียบเนื้อพร้อมเครื่องเคียงเบาๆ เท่านี้ก็พร้อมขายทันใด

“ช่วยซื้อบาร์บีคิวหน่อยคร้าบ” ยังไม่ทันถึงจุดจอดขาย เพียงแค่เห็นรถซาเล้งบาร์บีคิวขับผ่าน ลูกค้าก็ชิงเรียกตัดหน้าซื้อไปก่อนหลายราย



ครูอารียิ้มแต้บอกลูกค้า “ช่วยซื้อหน่อยครับ…ต้องขายให้หมด ไม่งั้นเมียไม่ให้เข้าบ้าน” คนฟังหัวเราะคิกคักกับคารมฝรั่ง ก่อนอุดหนุนบาร์บีคิวเพิ่มอีกคนละไม้ บางคราวลูกค้าก็ช่วยถ่ายรูปครูอารีขึ้นเฟซบุ๊ก เพื่ออัพเดตให้ลูกค้าอื่น ๆรู้ว่าตอนนี้ครูอารีกำลังขายอยู่ ณ จุดใด

หากเป็นครูคนอื่น โดยเฉพาะ“ครูฝรั่ง” อาจอายที่ต้องออกมาค้าขายเพื่อหารายได้พิเศษ แต่สำหรับครูอารีแล้ว เขาเลือกที่จะสลัดภาพครู เปลี่ยนมาสวมผ้ากันเปื้อน ขับซาเล้งขายบาร์บีคิวทุกเย็นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เหมือนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย…

ขอเพียงให้ “เมีย” และ “ทุกคนในครอบครัว” อยู่อย่างสุขสบาย…เหนื่อยแค่ไหนฝรั่งก็ไม่หวั่น!

จากวันละ 100 ไม้ เริ่มขยับขยายขายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะรสชาติบาร์บีคิวแสนอร่อยและคารมของคนขายผมทองทำให้ผู้คนพากันมาอุดหนุนเนือง ๆ

“เราใช้ของดีทำค่ะ เนื้อสัตว์เราให้เต็มที่ ต้นทุนซอสก็หลายบาทแล้ว แต่เราคิดว่า เราชอบกินของดี ลูกค้าก็ต้องชอบกินของดีเหมือนกัน กำไรเลยไม่เยอะค่ะ เอาแค่พออยู่ได้”

บอกเคล็ดลับปรุงซอสแล้ว คุณบียังแอบกระซิบวิธีปรุงรสรักให้หวานชื่นด้วยการใช้ “รอยยิ้ม” สไตล์สาวสยาม ที่เห็นกี่ครั้งสามีก็ชื่นใจหายเหนื่อย

สำหรับบางคน ความรักอาจมีทั้งรสหวานและขมในชีวิต แต่สำหรับฝรั่งเมืองผู้ดีที่เสียหยาดเหงื่อและแรงกายเพื่อเลี้ยงครอบครัวให้ได้อยู่อย่างสุขสบายแล้ว…ความรักของเขาคงเป็นรสบาร์บีคิวที่มีทั้งความหวาน มัน เค็ม ผสมรวมกันอย่างกลมกล่อมลงตัวที่สุด…
 

เรื่อง ณัฐนภ ตระกลธนภาส www.facebook.com/nutthanop.tr ภาพ วรวุฒิ วิชาธร

จาก http://www.secret-thai.com/article/2635/nevergiveup09112558/
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...