ผู้เขียน หัวข้อ: จุดมุงหมายของการสวดมนต์พื้นฐานแห่งใจ  (อ่าน 1035 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด



สวัสดีกัลยาณมิตร กัลยาณธรรมทุก ๆ วันนี้มีเรื่องราวมาแบ่งปันกันอีกเช่นเคยเนื้อหาของบทความ อาจลึกซึ้งแต่ขอให้อ่านจนจบน่ะครับชีวิต สั้นแสนสั้น ขณะทีประเสริฐ คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ สะสมเป็นความเข้าใจถูกเห็นถูกของตนเอง


พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้สวดมนต์เพื่อขอร้องวิงวอนให้ทรงบันดาลให้เกิด ความสุขสวัสดี โดยเจ้าตัวเองไม่ปฏิบัติดี ความหมายในบทสวดมีอยู่บริบูรณ์ ที่ผู้สวดจะได้รับผลเป็นความสุขความเจริญรุ่งเรืองสวัสดี ถ้าปฏิบัติตาม แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามความหมายของบทสวดมนต์ เช่น ถ้าไม่ปฏิบัติตามที่สวดว่า ข้าพเจ้าถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ก็จะไม่ได้รับผลอันเลิศที่ควรได้รับเลย ฉะนั้นจึงควรปฏิบัติให้ได้ถึง

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง คือปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติ ปฏิบัติตามที่พระธรรมทรงสั่งสอน และปฏิบัติตามพระสงฆ์สาวกที่ปฏิบัติเป็นแบบอย่างไว้เถิด จะได้รับความสุขสวัสดีอย่างยิ่งตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามความคิดนั้น ไม่ว่าความคิดดีหรือความคิดชั่ว เมื่อคิดขึ้นแล้วจะไม่ลบหายไปจากจิตใจ ความคิดดีก็จะฝังลงเป็นพื้นฐานที่ดี ความคิดชั่วก็ฝังลงเป็นพื้นฐานที่ชั่ว คิดดีนานก็จะฝังลงเป็นฐานที่ดีมาก คิดชั่วนานก็จะฝังลงเป็นพื้นฐานที่ชั่วมาก การพยายามควบคุมความคิดให้ถูกต้องไว้เสมอ เป็นสิ่งที่ควรทำด้วยกันทุกคน



โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวดมนต์ทำให้เราจิตสงบทุกเช้าของวันใหม่พยายามส่งเสริมกำลังใจของตัวเราว่าวันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานและพัฒนาความหวังให้อนาคตของเราขอให้ช่วยกันเติมเต็มหัวใจของเราด้วยการส่งเสริมกำลังใจที่อบอุ่นของเราเท่าที่เราสามารถจะมอบให้ได้ขอให้สร้างคลื่นแห่งผู้สืบทอดทองคำลูกแล้วลูกเล่าเพื่อการเผยแพร่พระธรรม


บุคคลผู้ซึ่งเพียรพยายามอยู่เสมอที่ให้มีมุมมองที่ชัดเจนถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการทำให้สำเร็จจะไม่มีทางตันชจงอย่ายอมแพ้กับความยากลำบากใด ๆ ขอให้ดำเนินชีวิตของเรา โดยทำงานหนัก มุ่งสู่การบรรลุภาระหน้าที่ของเราความหวังมีอยู่ภายในจิตใจของเราเสมอการอบรมเจริญปัญญาจากการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวันเพราะความเข้าใจถูกเห็นถูก นี้เองจะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ออกห่างจากกิเลสไปตาม

ลำดับ จนกว่าจะสามารถออกได้อย่างสิ้นเชิงเมื่อสามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้นผู้ที่อบรมเจริญปัญญาถึงขั้นรู้แจ้ง{อริยสัจจธรรม}ถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่าง ๆ กิเลสทั้งหลายก็ถูกดับได้ตามลำดับมรรค กิเลสทั้งหลายไม่ได้เป็นใหญ่อะไรไม่ได้มีกำลัง ไม่สามารถครอบงำทำอะไรกับสภาพธรรมฝ่ายดีเหล่านี้ได้ แต่ธรรมฝ่ายดี สามารถดับกิเลสได้






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2022, 07:48:39 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน