ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านที่แท้จริงธรรมะฉบับรีไซเคิล  (อ่าน 1899 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด









https://k7591.blogspot.com/

ถ่ายภาพโดย....時々कभी कभी

ผมคิดว่าภาพขาว - ดำสวยกว่าภาพสีน่ะครับเห็นทีผมคงต้องลง Windows ใหม่ซ่ะแล้วไม่ไหว กระตุกแบบนี้คอม ฯ ก็ช้ากว่าจะพิมพ์ได้แต่ล่ะตัวอักษรเหนื่อยแทบตายขอนอนก่อนดีกว่าดึกมากแล้วคอม ฯ เดี้ยงแล้วครับ กระทู้นี้ก็เลยต้องแนบไฟล์ภาพ ๆ เพิ่งนี้ถ่ายมาได้ไม่นานครับผมเอามาลงห้อง Blog เพื่อง่ายแก่การค้นหาครับ



สัตว์ผู้เกิดแล้วทั้งหลายเป็นผู้ใคร่สุข

บุคคลใดแสวงหาสุขเพื่อตน

แต่เบียดเบียนสัตว์อื่นด้วยท่อนไม้

บุคคลนั้นละไปแล้วย่อมไม่ได้สุข

สัตว์ผู้เกิดแล้วทั้งหลายเป็นผู้ใคร่สุข

บุคคลใดแสวงหาสุขเพื่อตน

ไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยท่อนไม้

บุคคลนั้นละไปแล้วย่อมได้สุข




ระหว่าง สติปัฏฐาน กับ สมถกรรมฐาน


สิ่งที่เหมือนกันก็ คือ ไม่ว่าเราจะเข้าญานแบบไหน
มีชื่อเรียกว่าอะไร สุดท้ายแล้ว เมื่อมันเกิดญานขึ้นมา
ญานเหล่านั้นจะมีวิธีการทำ หรือ วิธีการเข้า ที่เหมือน ๆ กัน
ไม่มีแตกต่างกันเลย แต่ สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ

ถ้าเราฝึกเข้าญาน ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม
ญานที่เราเข้าไป ทำให้เรา สุขใจ จะเรียก
ญานเหล่านั้นว่า สมถะญาน หรือ สมถกรรมฐาน

แต่ญานไหนฝึกแล้ว ทำให้มี สติอยู่กับปัจจุบัน
จะเรียกญานแบบนี้ว่า สติปัฏฐานสี่ หรือ
สติปัจจุบันทั้งสี่อย่าง คือ
1 มีสติปัจจุบันอยู่กับ การพิจารณา กาย
2 มีสติปัจจุบันอยู่กัน การพิจารณา เวทนา
3 มีสติปัจจุบันอยู่กับ การพิจารณา จิต
4 มีสติปัจจุบันอยู่กับ การพิจารณา ธรรม

ดังนั้นจะแยกได้ว่า
ญานไหนทำแล้วสุขใจ จะเรียกว่า สมถะกรรมฐาน
ญานไหนทำแล้วมีสติ จะเรียกว่า สติปัฏฐาน

ทั้งนี้ หากอยากจะฝึกไปทางไหน
ก็จะต้องฝึกการ น้อมนำ ให้ได้ก่อน
ต้องรู้จัก กฏแห่งพระไตรลักษณ์ หรือ
กฏแห่งกรรม หรือ กฏแห่งอิทัปปัจยตา หรือ
กฏแห่งการเกิดแล้วดับ หรือ สุดท้ายคือ
กฏแห่งการดับอย่างเดียว คือ ทุกสิ่งดับหมด
หรือ กฏแห่งพระนิพพาน นั่นเอง


https://www.img.live/image/EKHOT




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2019, 08:35:35 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน