ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเปรตผีมีฤทธิ์ร้ายจนหลวงปู่แหวนเอาไม่อยู่...ต้องให้หลวงปู่มั่นออกโรงถึงจะยอม  (อ่าน 1930 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



เมื่อเปรตผีมีฤทธิ์ร้ายจนหลวงปู่แหวนเอาไม่อยู่...ต้องให้หลวงปู่มั่นออกโรงถึงจะยอมศิโรราบ!!




ระหว่างอยู่ที่นาหมีนายูง วันหนึ่ง ท่านหลวงปู่มั่นได้บอกกับหลวงปู่แหวนว่า ที่ถ้ำใกล้ฝั่งโขง นั้นมีเจ้าของเขาอยู่ จึงบอกหลวงปู่แหวน ให้ไปลองพูดกับเขาดู เผื่อจะเป็นบุญ เคยช่วยเหลือกันมา หลวงปู่แหวน จึงได้พักบริเวณใกล้ถ้ำนั้น สองคืนผ่านไป ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากเสียงสัตว์ป่าที่ออกหากินเวลากลางคืน พอคืนที่สาม ขณะนั่งภาวนาอยู่ ก็มีร่างกำยำใหญ่โตมายืนนอกถ้ำ ท่านเพ่งแผ่เมตตาไปให้ ร่างนั้นก็ยืนเฉยไม่แสดงกิริยาอาการรับรู้อะไรเลย อยู่สักพักก็หายไป



วันต่อมาก็มาอีก เข้ามายืนสงบอยู่อย่างนั้น หลวงปู่ก็แผ่เมตตาเจาะจงให้เขาอย่างที่เคยทำ คราวนี้เขาแสดงความยินดี จึงกำหนดจิตถามเขาว่า เคยทำกรรมอะไรมาได้คำตอบว่า ตอนเป็นมนุษย์ เขาเป็นนักเลงไก่ชน เที่ยวตีไก่อย่างโชกโชน ตายแล้วจึงมาเป็นเปรตอยู่บริเวณถ้ำนี้ หลวงปู่ได้กำหนดจิตถามไปว่า ทำไมไม่สละถ้ำไปที่อื่น ได้ความว่า เขาหวงสถานที่ เพราะป่าบริเวณนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปตัดต้นไม้ เพราะเขาสำแดงเดช ให้คนกลัวบ่อย ๆ คนจึงเอาไก่ เอาหัวหมู เอาเหล้า มาเซ่นไหว้อยู่เนือง ๆ เขามีอาหารจากการเซ่นไหว้นั้น จึงไม่ยอมไปจากที่นั้น



หลวงปู่พยายามแผ่เมตตาชี้แนะ แต่เขาไม่ยอมหนี เป็นอันว่าหลวงปู่แหวนไปทรมานเปรต เจ้าของถ้ำไม่สำเร็จ จึงได้กราบเรียนให้หลวงปู่มั่นทราบ ภายหลังหลวงปู่มั่น ท่านได้มาแผ่เมตตาให้เขา แล้วบอกให้เขาย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ ปรากฏว่า คืนที่เขาเคลื่อนย้ายที่อยู่นั้น เวลาดึกสงัด ขณะที่หลวงปู่มั่นนั่งสมาธิ แผ่เมตตาให้ เขาได้ย้ายออกไป เกิดเสียงสะเทือนไปทั้งป่า พอรุ่งเช้า ชาวบ้านมาถามว่า เมื่อคืนได้ยินเสียงอะไรดังมาก หลวงปู่มั่นไม่ตอบ เพียงแต่หัวเราะ แล้วพูดกับชาวบ้านว่า ใครจะเอาไร่ เอานาก็เอาเสีย เจ้าของเขาย้ายที่ไปอยู่ที่อื่นแล้ว"

ต่อมาไม่นาน พื้นที่บริเวณนั้น จึงกลายเป็นไร่นา ตั้งแต่นั้นมา ที่ใดประชาชน เข้าไปจับจองไม่ได้ เขาก็นิมนต์พระกรรมฐาน เข้าไปอยู่ก่อน แล้วพวกชาวบ้าน จึงตามเข้าไปบุกเบิกจับจอง เอาทีหลัง เพราะที่ใดที่เจ้าของที่ดุร้าย เมื่อมีพระกรรมฐานเข้าไปแผ่เมตตาให้แล้ว ประชาชนเข้าไป ทำไร่ทำนา ก็ไม่มีอันตรายต่อไป

ที่มา :http://www.poweropject.com

จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/206034/
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...