ผู้เขียน หัวข้อ: "กษัตริย์จิกมี" ยก ในหลวงรัชกาลที่ 9 "ผู้เป็นดั่งอัญมณีล้ำค่า"  (อ่าน 2243 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


"กษัตริย์จิกมี" ยก ร.9 "ผู้เป็นดั่งอัญมณีล้ำค่า"

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ทรงยกย่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช "กษัตริย์ผู้มีสายพระเนตรอันยาวไกล-เป็นดั่งอัญมณีล้ำค่าสูงสุด"

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เสด็จพระ ราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เข้าถวายความอาลัยและถวายพวงมาลาพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ  ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมกันนี้ทั้งสองพระองค์ยังได้เสด็จฯ ไปลงพระนามและทรงเขียนข้อความถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช






ความว่า แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ผู้มีสายพระเนตรอันยาวไกลอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เปรียบดุจอัญมณีอันล้ำค่าที่สุด เกล้ากระหม่อมขอถวายความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อพระมหากษัตริย์ผู้เข้าถึงปรินิพพาน ขอตั้งจิตภาวนาด้วยความมุ่งมั่น ขอให้พระองค์ทรงจุติเป็นธรรมราชาตลอดไป เพื่อประโยชน์ของสรรพสิ่งทั้งมวล  (To the Incomparable, Visionary and Most Precious Jewel King, the King of Thailand, who attained Parinirvana, I would like to offer my deepest respect, and my heartfelt prayers. May Your Majesty always be born as Dharma Raja, to the benefit of all sentient beings.) ณ ห้องแดง ภายในพระบรมมหาราชวังด้วย กระทั่งเวลา 10.17 น. จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ











จาก http://www.komchadluek.net/news/royal/246163

<a href="https://www.youtube.com/v/7_jIm4vYqJA" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/7_jIm4vYqJA</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/QWeeWX14Lls" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/QWeeWX14Lls</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/MPQLWR8PndE" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/MPQLWR8PndE</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/AGrEqajMbqU" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/AGrEqajMbqU</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/MYlAroXGGEE" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/MYlAroXGGEE</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/rNVeKjAjxt0" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/rNVeKjAjxt0</a>


<a href="https://www.youtube.com/v/yW7iyeFpaZg" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/yW7iyeFpaZg</a>



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2016, 01:49:01 am โดย มดเอ๊กซ »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด

รายงานพิเศษ : สุขแบบภูฏานด้วยเศรษฐกิจพอเพียง เยี่ยงแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ



ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์ การพัฒนาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ทำให้มนุษย์มุ่งไปสู่การเสาะแสวงหาความสุขทางวัตถุมากขึ้น แต่ในเมื่อทรัพยากรนั้นมีอยู่อย่างจำกัด กับประชากรโลก กว่า7 พันล้านคน คงไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของทุกคนให้ถึงจุดที่สุขสูงสุดได้ ไม่นับความต้องการที่ไม่สิ้นสุด ประหนึ่งคนที่ไม่เคยพอใจกับปัจจุบัน เมื่อมีก็อยากมีมากกว่า เมื่อได้ใหม่มาก็ยังอยากได้ที่ใหม่กว่าอีก

ความเจริญทางเศรษฐกิจจะอาจจะวัดด้วยดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (Gross Domestic Product: GDP) นั่นทำให้ทุกคนต้องแก่งแย่งแข่งขัน เพื่อให้ได้เป็นผู้ชนะ หรือได้ยืนอยู่ในจุดที่ได้เปรียบในระบอบทุนนิยม แต่ในที่นี้ เราไม่ได้จะมาตำหนิ หรือชี้นำให้หันหลังแก่ระบบของโลก หากแต่ยังมีอีกความสุขหนึ่งที่เป็นความสุขทางจิตใจ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา เป็นความสุขที่เรียกว่า “สุขอย่างพอเพียง”



ในปี พ.ศ. 2515 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก กษัตริย์ลำดับที่ 4 แห่งราชวงศ์วังชุก ผู้ปกครองประเทศภูฎาน ทรงประดิษฐ์วลีที่แสดงความมุ่งมั่นในการสร้างเศรษฐกิจบนวัฒนธรรมที่มีพื้นฐานของคุณค่าจิตวิญญาณทางพุทธ แทนที่ค่านิยมการพัฒนาแบบตะวันตก เรียกสิ่งนั้นว่า “ดัชนีความสุขมวลรวมประชาชาติ” (Gross National Happiness: GNH) ซึ่งปัจจุบันนี้แนวความคิดนี้ก็ได้แพร่หลายออกไปทั่วโลก

แนวคิดจีเอ็นเอช ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการเคลื่อนไหวด้านความสุขสมัยใหม่ผ่านผลงานของนักการศึกษา นักการเมือง และนักเศรษฐศาสตร์ทั้งในโลกตะวันตก และตะวันออกมากมาย จนในเดือน ก.ค. 2554 สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้ผ่านมติที่ 65/309 โดยที่ประชุมสมัชชาทั่วไปให้ “ความสุข” เป็นหัวข้อหนึ่งของการพัฒนาโลก โดยปรัชญาของจีเอ็นเอช ประกอบด้วย 4 เสาหลักได้แก่ การพัฒนาอย่างยั่งยืน การสงวนรักษา และส่งเสริมซึ่งคุณค่าทางวัฒนธรรม การอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และการมีธรรมภิบาล

ที่จริงแล้วแนวคิดจีเอ็นเอช ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับสังคมไทย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงพระราชทานแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” ให้เป็นปรัชญาในการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาเป็นเวลานานแล้ว

โดย สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์ภูฏาน รัชกาลที่ 5 รัชกาลปัจจุบัน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน ได้เสด็จมาร่วมพิธีเฉลิมฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และได้พระราชทานสัมภาษณ์ชื่นชมพระราชดำริ แนวทางที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ใช้ในการพัฒนาประเทศ ซึ่งทรงตรัสว่า จะยึดถือแนวทางนี้เป็นแบบอย่างในการเจริญรอยตาม เช่นเดียวกับแนวทางของพระราชบิดาในการพัฒนาราชอาณาจักรภูฏาน

ทั้งนี้ ประเทศภูฏานได้ก้าวไปสู่ขั้นตอนที่สำคัญตั้งแต่ต้นปี 2543 ในการที่จะกำหนด อธิบายและวัดความสุขมวลรวมประชาชาติ เพื่อที่จะแปลงปรัชญานี้ไปสู่การปฏิบัติจริง และพัฒนาแนวทางที่ชัดเจน ที่สามารถนำไปใช้ได้ในระดับประเทศ ภาคธุรกิจ ชุมชนและระดับบุคคล ซึ่งในปี 2556 ได้มีการก่อตั้ง ศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติภูฏาน ขึ้น


ดร.ฮาวิน โต (ซ้าย)เจ้าหญิง อาชิ เคเซง โชเดน วังชุก (กลาง)มร.ฮาราลด์ ลิงค์ (ขวา)

ดร.ฮาวิน โต ผู้อำนวยการศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติ ประเทศภูฏาน กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อทำนุบำรุง และสืบทอดราชสมบัติรุ่นที่ 4ใน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก กษัตริย์รัชกาลที่ 4ซึ่งทรงเป็นผู้ก่อตั้งจีเอ็นเอช โดยทรงเชื่อว่าความรับผิดชอบหลักของรัฐบาลคือ การสร้างสภาวะเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและความสุขของประชาชนในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรและประเทศที่จะเข้าใจว่า การพัฒนาที่แท้จริงต้องครอบคลุมทุกด้าน และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างไม่มีขอบเขตนั้นเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ และในรัชกาลของ พระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์องค์ปัจจุบันก็ทรงเปรียบจีเอ็นเอชเหมือน “การพัฒนากับคุณค่า” และการปฏิบัติตามแนวทางจีเอ็นเอชเป็นมโนธรรมแห่งชาติ ในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

ดร.ฮาวิน โต กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากค่านิยม 4 ด้านที่ศูนย์ฯ ในห้การสนับสนุนแล้ว ยังมีการถ่ายทอดความรู้เพื่อการเปลี่ยนผ่านการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีกว่า รวมไปถึงการรับรู้ และการเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความพยายามที่จะพัฒนาและให้การสนับสนุนวิธีการที่ยั่งยืนและเป็นองค์รวมในการพัฒนาสังคม เพื่อให้บรรลุความเท่าเทียมระหว่างวัตถุและคุณค่าที่ไม่ใช่ทางวัตถุ และยิ่งไปกว่านั้นคือการจัดลำดับความสำคัญของความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกชีวิตบนโลก

ล่าสุด ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติ ประเทศไทย” (Gross National Happiness Centre Thailand) โดยบี. กริม ขึ้น ซึ่งนับเป็นศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติระหว่างประเทศแห่งแรกของโลก ที่ตั้งอยู่นอกประเทศภูฏาน เพื่อเป็นศูนย์จัดโปรแกรมและหลักสูตรการอบรม ด้วยแนวคิดการส่งเสริมคุณค่าและหลักการของ “ความสุขมวลรวมประชาชาติ” (GNH) สำหรับภาคธุรกิจและภาคอาชีวศึกษาในประเทศไทย

ทั้งนี้ มร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธาน บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า ยังกล่าวว่าที่มาของการริเริ่มก่อตั้ง “ศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติประเทศไทย” เนื่องด้วยเล็งเห็นว่าจีเอ็นเอสนำเสนอพื้นฐานปรัชญาที่คล้ายคลึงกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงในประเทศไทย ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในพระบรมโกศ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 โดยทั้งสองแนวคิดตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพอประมาณ และให้ความสำคัญกับทางสายกลาง เพื่อทำให้เกิดความสมดุลและตอบสนองความต้องการของความเป็นมนุษย์ภายใต้ข้อจำกัดของผลผลิตจากธรรมชาติบนพื้นฐานที่ยั่งยืน



เนื่องจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง และจุดยืนทางการค้าระหว่างประเทศ ประเทศไทยและประชากรของประเทศต่างได้รับผลกระทบจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต การใช้และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การอพยพย้ายถิ่นจากชนบทสู่เมือง และการขยายตัวของลัทธิบริโภคนิยม ท่ามกลางความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและเศรษฐกิจอันส่งผลในวงกว้าง ซึ่งจีเอ็นเอสระบุอย่างตรงไปตรงมาถึงปัญหาเหล่านั้น โดยการชี้ให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตและการให้ความช่วยเหลือที่ไม่ได้มีรากฐานมาจากวัตถุ เป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าความก้าวหน้าทางวัตถุไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดและไม่แม้แต่จะนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีของคนและชุมชน



ในโอกาสนี้ เจ้าหญิง อาชิ เคเซง โชเดน วังชุก ประธานศูนย์มวลรวมความสุขประชาชาติ ประเทศภูฏาน ได้ทรงเข้าร่วมในพิธีลงนามสัญญาความร่วมมือก่อตั้งศูนย์ และได้ทรงมีพระดำรัสว่า การที่ค่านิยมจีเอ็นเอสถูกเผยแพร่ไปนอกประเทศภูฏานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติภูฏานก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะก่อตั้งศูนย์ความสุขมวลรวมฯ ระหว่างประเทศ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่พระองค์รู้สึกใกล้ชิดอย่างมาก รวมทั้งประชาชนภูฏาณเองก็มีความใกล้ชิดทางจิตใจกับประเทศไทยเช่นกัน

จาก http://www.siamrath.co.th/n/4212
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด

<a href="https://www.youtube.com/v/p85H74mouyk" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/p85H74mouyk</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/uN_gvJuQluY" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/uN_gvJuQluY</a>


“กษัตริย์จิกมี” เสด็จขึ้นเขาสูงกว่า 5,000 ม.เยี่ยมประชาชนภูฏานในพื้นที่ห่างไกล


สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ขณะเสด็จพระราชดำเนินขึ้นภูเขาสูง บนเส้นทางไปยังหมู่บ้านลูนานาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2559 (จากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck)

  MGR Online - กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏานเสด็จพระราชดำเนินขึ้นภูเขาสูงกว่า 5,250 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นเวลา 6 วัน เยี่ยมเยียนประชาชนชาวภูฏานในพื้นที่ห่างไกลทางตะวันตกเฉียงเหนือ พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปตั้งแคมป์ให้บริการ
       
       เมื่อวันที่ 20 ต.ค. เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เผยแพร่ภาพและข้อความแจ้งว่ากษัตริย์จิกมีเริ่มต้นการเดินทางขึ้นภูเขาสูงไปที่หมู่บ้านลูนานา (Lunana) หมู่บ้านห่างไกลที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศภูฏาน โดยเริ่มต้นเดินทางจากเมืองลายา (Laya) ในเขตกาซา โดยเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ยากลำบาก และได้ขึ้นชื่อว่าเส้นทางมนุษย์หิมะ โดยหมายกำหนดการเดินทางครั้งนี้มีระยะเวลาทั้งสิ้น 6 วัน
       
       ต่อมาในวันที่ 24 ต.ค. เฟซบุ๊กของกษัตริย์ จิกมี ก็เปิดเผยว่า พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาถึงเลอดิ (Lhedi) ในเขตหมู่บ้านลูนานาตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. โดยต้องเดินทางขึ้นเขาบนความสูงกว่า 5,250 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทั้งนี้ พระองค์ทรงแวะตามจุดต่าง ๆ ที่มีราษฎรชาวภูฏานอาศัยอยู่ โดยชาวบ้านได้จัดเลี้ยง เต้นรำ และเล่นเกมต้อนรับ พร้อมกับมีฉายภาพยนตร์ภูฏานให้ชมในเวลาค่ำด้วย
       
       ทั้งนี้ กษัตริย์จิกมี ยังได้นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปตั้งค่ายพักแรมเพื่อตรวจรักษาประชาชน ที่มิอาจเดินทางไกลเพื่อไปหาบริการทางการแพทย์
       
       สำหรับประเทศภูฏานมีพื้นที่ประมาณ 38,394 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 750,000 คน พื้นที่ส่วนใหญ่มีภูเขาสูงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยระหว่างประเทศอินเดีย และประเทศจีน โดยบางพื้นที่มีระดับความสูงมากถึง 7,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล


จากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck

FB คิง จิกมี และ ราชวงศ์วังชุก : https://www.facebook.com/KingJigmeKhesar/posts/10154511105758260:0

Wangchuck : https://www.facebook.com/WangchuckDynasty

Jetsun Pema : https://www.facebook.com/QueenJetsun/

 The Royal Family of Bhutan : https://www.facebook.com/bhutaneseroyalfamily

จาก http://astv.mobi/A1b3cSh


กษัตริย์จิกมีเยือนพื้นที่ห่างไกลของภูฏาน ตรวจ “ธารน้ำแข็ง” ที่อาจละลายสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck

MGR Online - พระมหากษัตริย์หนุ่มของภูฏาน เสด็จถึงหมู่บ้านที่ใหญ่และห่างไกลที่สุดทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน และตรวจสอบธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็ง อันเป็นต้นตอของแม่น้ำสำคัญหลายสาย แต่ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายกับชาวบ้านกรณีละลายเข้าท่วมพื้นที่
       
       วานนี้ (28 ต.ค.) เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เผยข่าวสาร และแพร่ภาพ ระบุ กษัตริย์จิกมี ซึ่งเริ่มต้นเสด็จพระราชดำเนินขึ้นภูเขาสูงไปที่ลูนานา (Lunana) พื้นที่ห่างไกลที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศภูฏาน ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยล่าสุด พระองค์เสด็จถึงธันซาหมู่บ้านที่ใหญ่และห่างไกลที่สุดของเขตลูนานา โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค. เสด็จเยือนธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็งหลายแห่ง ประกอบไปด้วย Thorthomi Rapstreng และ Lugge
       
       ทั้งนี้ ธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็งดังกล่าว ถือเป็นต้นธารของแม่น้ำหลักหลายสายของภูฏาน แต่ในอีกทางหนึ่ง อาจก่อให้เกิดอันตรายให้กับประชาชนได้ในกรณีที่น้ำแข็งละลายจนกลายเป็นน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยเหตุน้ำท่วมใหญ่ครั้งล่าสุดในพื้นที่ดังกล่าว เกิดขึ้นในปี 2537 ด้วยเหตุนี้สภาวะความเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็ง รวมไปถึงการหดและขยายตัวของทะเลสาบน้ำแข็ง จึงมีความสำคัญและเป็นเรื่องต้องบริหารจัดการ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก โดยเฉพาะในยุคที่เกิดภาวะโลกร้อน และภูมิอากาศมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
       
       เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ระบุว่า กษัตริย์จิกมีได้พบปะ และหารือกับเจ้าหน้าที่ผู้คอยตรวจสอบสถานการณ์ของทะเลสาบ ทั้งยังได้ตรวจการณ์สภาพของธารน้ำแข็งด้วยพระองค์เอง พร้อมกับนักธารน้ำแข็งวิทยา
       
       ต่อจากนี้ กษัตริย์จิกมี จะออกจากธันซา เพื่อเสด็จพระราชดำเนินข้ามหุบเขา Rinchenzoe la ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 5,350 เมตร ไปยัง Sephu มณฑลตงซา อนึ่ง ครั้งหลังสุดที่กษัตริย์จิกมีเสด็จเยือนหมู่บ้านห่างไกลในลูนานา รวมไปถึงธารน้ำแข็งสำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศภูฏาน ก็ต้องย้อนไปในปี 2551


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck


ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck

เพิ่มเติม https://www.facebook.com/KingJigmeKhesar/posts/10154522696088260

จาก http://astv.mobi/ALGRjOg


ถึงกับจุก!! สาเหตุที่ “กษัตริย์จิกมี” เเละชาวภูฏาน ทรงนับถือในหลวงของเรา มากๆนั้นเพราะสาเหตุเหล่านี้!!

ในหลวงของเรา…จากไลน์เพื่อนตื่นขึ้นมายังวังเวง..แต่ได้รับคำตอบที่ค้างคาใจมานานแบบง่ายๆซื่อๆว่าเหตุใดภูฎาณจึงสั่งหยุดงานทั้งประเทศวันที่14ตุลาคม59ก่อนไทยที่อาจจะยังตั้งหลักกันไม่ได้เหตุใดคิงส์จิ้กมี-พระราชินี..จึงเสด็จฯมาเป็นประเทศแรก



ผมสงสัยระคนงงๆ กับประชาชนชาวภูฏานอยู่เล็กน้อย มาถามคำถามกับตัวเองว่า ถ้าพระมหากษัตริย์ประเทศอื่นเสด็จสวรรคต ผมซึ่งเป็นประชาชนไทย จะแสดงความอาลัยแบบเดียวกับประชาชนภูฏานแสดงต่อพระเจ้าอยู่หัวของเรามั้ย คำตอบคือ ไม่น่าจะ แล้วชาวภูฏาน ทำทำไม ?
คำตอบข้อสงสัยเพิ่งมาถึงวันนี้



ครั้งหนึ่งที่สำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ ที่ผมได้ทำงานอยู่ มีข้าราชการจากหน่วยงานปศุสัตว์จาก ภูฏาน มาเรียนรู้งานที่สำนักฯ เมื่อครบกำหนดเวลา ก่อนกลับผมได้มอบเมล็ดพันธุ์ข่าวพระราชทาน (The Royal Seed) แก่ข้าราชการจากภูฏานผู้นั้น เธอรับถุงพันธุ์ข่าวเล็ก ๆ ที่ผมยื่นให้ พร้อมกับพูดคำว่า “ขอบคุณ” (Thank you) ด้วยเสียงเครือ ๆ และบอกกับผมว่า



ชาวภูฏาน ได้รับสิ่งที่พิเศษจาก คิง ภูมิพล อีกแล้ว ถึงตอนนี้ น้ำตาเธอก็ซึม ๆ แล้วก็เล่าให้ผมฟังว่า กษัตริย์จิกมี่ได้รับความรู้มากมายมาจาก พระเจ้าแผ่นดินภูมิพล ผู้นี้ โดยเฉพาะการเกษตร การปศุสัตว์ และ ประมง และทุกครั้งที่กษัตริย์จิกมี่ นำไปทำตามแล้วสัมฤทธิ์ผล พระองค์จะเขียนเป็ฯ กิตติกรรมประกาศ หรือแจ้งต่อราษฏรภูฏานว่า “ทั้งหมดนี้เราได้รับมาจากกษัตริย์ภูมิพลแห่งประเทศไทย” ผมนี่จุกในอกไปเลยครับ



จาก http://jaizaa.com/2016/10/24/ ถึงกับจุก-สาเหตุที่-กษั/

https://www.facebook.com/fongsanan.chamornchan
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...