ผู้เขียน หัวข้อ: วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร ตอนที่ 5  (อ่าน 2104 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ होशདངພວན2017

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 625
  • พลังกัลยาณมิตร 291
    • ดูรายละเอียด

เริ่มจากพุทธยาน มาพลังจิต ปิดเขากะลา มาสุขใจ เข้าสู่ใต้ร่มธรรม

.....................ความสงบที่แท้จริงเมื่ออิสรจากความแตกต่าง.................

ในขณะที่พระเถระ สุภูติ ได้ฟังคำสอนนี้ก็บังเกิดความซาบซึ้งในความหมายขึ้นมาทันที จนเกิดความปิติ - ปราโมทย์เป็นอย่างยิ่งจึงได้กราบทูลพระพุทะองค์ว่า...มันเป็นสิ่งที่น่า ปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ทรงได้แสดงธรรมอันละเอียดลุ่มลึก เช่นนี้ข้าพระองค์มิเคยได้ฟังธรรมเช่นนี้มาก่อนเลยนับตั้งแต่ข้าพระองค์ได้ ดวงตาเห็นธรรม ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หากบุคคลใดได้สดับรับฟังพระสูตรนี้ด้วยใจที่บริสุทธิ์และสว่างมีปัญญาอัน หลักแหลมเขาย่อมบังเกิดความแจ้งชัดหลักธรรมนี้ทันทีและความแจ้งชัดในหลักสัจ จธรรมที่แท้จริงนั้นท้จริงแล้วหาใช่ความเป็นหลักสัจธรรมอันแตกต่างออกไปไม่ นั่นเอง ตถาคตจึงได้ทรงกล่าวไว้ว่า หลักสัจธรรมที่แท้จริงนั้นเป็นเพียงแต่ชื่อที่ใช้เรียกขานเท่านั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การได้ยินคำสอนนี้ข้าพระองค์ฟังแล้วเกิดความเข้าใจและศรัทธาได้อย่างไม่ยาก นักแต่ในภายภาคหน้าอีก 500 ปีล่วงไป หากบุคคลใดมารับฟังพระสูตรนี้แลเวก็เกิดความเข้าใจและศรัทธาอย่างลึกซึ้ง เช่นนี้เขาเหล่านั้นย่อมบรรลุถึงผลบุญอันยิ่งใหญ่เลยทีเดียวทำไมเล่า เพราะเขาเหล่านั้นอิสรจากความเห็นเรื่องอัตตา ตัวตน บุคล สัตว์และภพภูมต่าง ๆ เพราะเหตุใด ? เพราะการแปลกแยกโดยความเป็นอัตตาตัวตนนั้นล้วนเป็นความเห็นที่ผิด เฉกเช่น การแปลกแยกในเรื่องบุคคล สัตว์หรือภพภูมิต่าง ๆก็ล้วนเป็นความเห็นที่ผิดทั้งสิ้น บุคคลผู้นอกเหนือความเปลกแยกแตกต่างในทุก ๆ ปรากฏการณ์ ทุก ๆ สภาวะย่อมได้ชื่อว่า พระพุทธเจ้า ทั้งหลายพระพุทธองค์ทรงตรัสต่อไปว่า.....เป็นอย่างที่เธอกล่าว ถ้าบุคคลใดได้ฟังพระสูตรนี้ แล้วเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ตกใจ หวาดกลัว ครั่นคร้ามเลยนั้น จงรู้ไว้เถิดว่า บุคคลผู้นั้นจะบรรลุผลอันยิ่งใหญ่อย่างหาได้ยากยิ่ง เราะเหตุใดเล่า ? เพราะตถาคตสอนว่า ทานบารมี โดยความจริงแล้ว หาใช่ทานบารมีไม่มันเป็นชื่อสมมุติเท่านั้นสุภูติ.....ตถาคตได้สอนไว้เช่นเดียวกันว่าขันติบารมี แท้จริงแล้วหาใช่ขันติืบารมีไม่ มันเป็นชื่อสมมุติเท่านั้นทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
สุภูติ.....ในอดีตชาติ เมื่อคราวที่พระราชาแห่งแคว้นกาลิงคะ ได้ทรงหั่นร่างกายของเราออกเป็นท่อน ๆ ตอนนั้นเรามิได้มีความรู้สึกแห่งความเป็นอัตตา ตัวตนของเราแต่อย่างใด เพราะเหตุใดเล่า ? เมื่อแขน - ขาของเราถูกหั่นออกเป็นชิ้น ๆ หากเรายังมีความรู้สึกยึดมั่น - ถือมั่นให้ความแตกต่างในเรื่องอัตตาตัวตนอยู่ เราย่อมบังเกิดความโกรธแค้นอาฆาตเป็นแน่


...................อ่านและดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่นี่.................

http://www.buddhayan.com/board.php?subject_id=721&ss=
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2010, 11:54:10 am โดย ปู »
ตั้งมั่น แน่วแน่ แก้ไขทุกสิ่ง

ออฟไลน์ होशདངພວན2017

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 625
  • พลังกัลยาณมิตร 291
    • ดูรายละเอียด
Re: วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร ตอนที่ 5
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 09:37:51 am »


สุภูติ......เรายังระลึกได้ว่าเมื่อ 500 ชาติก่อนเราได้บำเพ็ญขันติบารมีแม้ตอนนั้นเราก็มีอิสระแล้วจากความเห็นแปลกแยกจากอัตตาตัวตน สุภูติ ดังนั้นโพธิสัตว์ทั้งหลายจึงควรอยู่นอกเหนือความแปลกแยกแตกต่างแห่ง ปรากฏการณ์ทั้งปวง และจะตื่นแจ้งเสมอต่อ วิมุติภาวะอันสูงสุดโโยไม่ปล่อยใจไหลไปตามการกระทบของ รูป - เสียง - กลิ่น - รส สัมผัสและธรรมมารมณ์ใด ๆ จิตควรอิสระจาจากการปรุงแต่งทั้งปวง ถ้าจิตยังพึ่งพิงสิ่งใดอยู่มันไม่มีทางที่จะพบกับความสุขที่แท้จริงได้นี้ เป็นเหตุว่าทำไมพระพุทธเจ้าจึงสอนว่า จิตของโพิธิสัตว์ไม่ควรยึดติดในรูปลักษณะและปรากฏการต่าง ๆ เมื่อบำเพ็ญทานบารมี สุภูติ.....เมื่อโพิธิสัตว์บำเพ็ญทานบารมีเพื่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เขาควรยึดถือหลักดังเช่นตถาคตได้แสดงไว้ว่า รูปลักษณ์ทั้งหลายหาใช่รูปลักษณ์ที่แท้จริงไม่ เฉกเช่นสรรพสัตว์ทั้งหลายความจริงก็หาใช่สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่เช่นกัน สุภูติ ตถาคตคือบุคคลที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งใดถุกสิ่งใดเป็นหลักการที่แท้จริง - สิ่งใดเป็นเลิศ ตถาคตจะไม่แสดงสิ่งที่หลอกลวงสิ่งที่ผิดจากธรรมชาิติ สุภูติ มันเป็นความจริงที่ว่าสิ่งที่ตถาคตบรรลุก็หาใช่สิ่งที่มีอยู่จริงหรือสิ่ง ที่ไม่มีอยู่จริงไม่ สุภูติ.....ถ้าโพธิสัตว์บำเพ็ญทานด้วยจิตที่ยังคงยึดติดอยู่ในสิ่งที่ได้ กล่าวมานั้น เขาก็เปรียบเสมือนบุคคลที่น่าสงสารกำลังคลำทางอยู่ในที่มืดมิด แต่สำหรับโพิธิสัตว์ผู้บำเพ็ญทานด้วยจิตที่ไม่ยึดมั่นถือมั่น นั่นเปรียบเสมือนคนตาดีที่ลืมตาต่อแสงสว่างในยามเช้าซึ่งจะสามารถมองเห็นทุก สิ่งทุกอย่างได้อย่างแจ่มชัด สุภูติ ถ้ากุลบุตร - กุลธิาในอนาคตจะท่องบ่นอ่านทบทวนพระสูตรนี้ทั้งหมดแล้ว ตถาคตย่อมหยั่งรู้ในพวกเขาด้วยญาณทัศนะ แล้วพวกเขาแต่คนล้วนจะได้รับกุศลผลบุญอันหาประมาณมิได้..............

....................จบวัชรเฉทิกปัชญาปรามิตตาสูตรตอนที่ 5......................

คัดลอกจากหนังสือ วัชรเฉทิกปรัชญาปรามิตาสูตร เรียบเรียงโดย ชยธมฺโม ภิกขุ

http://www.sookjai.com/index.php?topic=817.0


http://www.sookjai.com/index.php?topic=1036.msg3258#msg3258

[wma=250,00]http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma[/wma]
ตั้งมั่น แน่วแน่ แก้ไขทุกสิ่ง

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร ตอนที่ 5
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 09:42:03 pm »
 :13: อนุโมทนาสาธุครับ ขอบคุณครับพี่ปู
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~