ผู้เขียน หัวข้อ: สารคดี  (อ่าน 1224 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด
สารคดี
« เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2018, 08:55:50 pm »






วัน พุธที่ 15 พฤษภาคม 2562 19.30 น.สามเณรทำวัตรเย็นเสร็จแล้วเก็บตกสัพเพเหระธรรมมาแบ่งปัน เหลืออีก 4 วันเหล่าสามเณรจะลาสิกขาแล้ว

1 วัน บำเพ็ญ 1วัน  คือบุญ   
1 วัน ไม่บำเพ็ญ 1 วัน สูญเปล่า
1 วัน ทำงานธรรมะ 1 วัน คือ พุทธะ

จิตเปรียบดั่งผืนนา
หากไม่หว่านพันธุ์ข้าวที่ดี
ก็จะไม่ได้ข้าวพันธุ์ดี

3 ม.คือ มั่นใจ 
มั่นหมาย
มุ่งมั่นประคองรักษา   
คิดดี ทำดี พูดดี




เรายินดีที่จะฟังคำพูดที่ไพเราะ อบอุ่น และอ่อนโยนเช่นไร
เราก็จะพูดให้คนอื่นฟังเช่นนั้น

เราไม่ชอบถูกนินทา ไม่ชอบถูกด่าว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายเช่นไร
เราก็จะไม่ทำกับคนอื่นเช่นนั้น

ความรักจึงเริ่มจากตัวเอง ก่อนที่จะเผื่อแผ่ไปยังผู้อื่น
เมื่อรู้ว่าสิ่งใดมีประโยชน์ต่อตนเอง เราจึงคิดแบ่งปันสิ่งนั้นให้ผู้อื่น

เราจะมอบความรักและสิ่งที่มีคุณค่าให้กับคนอื่นได้ก็ต่อเมื่อ
เรารู้จัก ? รัก ? และมอบสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่ตนเอง

แต่เรารู้จริง ๆ หรือว่าอะไรคือสิ่งที่มีคุณค่าแก่ตัวเองอย่างแท้จริง...


เราอาจจะคิดว่าตัวเองจะมีความสุขก็ต่อเมื่อร่ำรวย มีชื่อเสียง เป็นที่รัก
มีตำแหน่งหน้าที่การงานหรือฐานะทางสังคมที่ดี

แต่สิ่งเหล่านั้นสามารถมอบความสุขให้เราได้จริง ๆ หรือ...

เราเชื่อว่าถ้าตัวเองร่ำรวย มีเงินมีทอง มีฐานะมั่นคงก็จะมีความสุข
เพราะเงินสามารถซื้อความสะดวกสบายได้
เงินทำให้เราซื้อสิ่งของมากมายที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดได้

จริงอยู่ ที่เราอาจจะมีความสุขเมื่อได้กินอาหารที่อร่อย...

จริงอยู่ ที่เราอาจจะมีความสุขเมื่อได้นอนบนที่นอนนุ่มๆ แอร์เย็น ๆ ...

แต่เพื่อนๆ ลองคิดดูนะครับ
ถ้าเกิดวันไหนเราไปทำอะไรไม่ดีมาแล้วต้องกังวลร้อนใจ
เช่นมีเรื่องโกหกปิดบังพ่อแม่ ผิดใจกับเพื่อนที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน
หนักเข้าหน่อยก็แอบยักยอกเงินบริษัท ฉ้อราษฎร์บังหลวง
หรือลักขโมยของคนอื่น แล้วกลัวว่าสักวันจะถูกเปิดโปง ฯลฯ

ต่อให้ได้กินอาหารที่อร่อยระดับกุ๊กเทวดาเหาะลงมาทำก็ไม่ช่วยให้จิตใจเบิกบาน

ต่อให้ได้นอนบนที่นอนที่นุ่มราวกับปุยเมฆก็ไม่ช่วยให้เรานอนหลับสบาย

ทั้งนี้เพราะความสบายใจที่แท้จริงของเราไม่ได้อยู่ที่
"ความสุขทางกาย" "ลาภ" (เงินทองทรัพย์สมบัติ)
"ยศ" (ตำแหน่งหน้าที่การงาน) หรือ
"สรรเสริญ" (ชื่อเสียง คำชม ความนิยม เกียรติยศ)

พระพุทธเจ้าตรัสว่า
? ทำกรรมใดแล้วร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นไม่ดี ?

เราจะมีใจเป็นปรกติไม่ทุกข์ร้อนก็ต่อเมื่อเราไม่ได้
"คิด" "พูด" หรือ "ทำ" สิ่งใดที่เป็นการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

และเราจะพบความสุขที่แท้จริงก็ต่อเมื่อ
มีใจที่ไม่หวั่นไหวแม้เผชิญความทุกข์ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ และนินทา

ทรัพย์สมบัตินั้นอาจช่วยมอบความสะดวกสบายให้เรา
แต่มันไม่สามารถมอบความสุขใจที่ยั่งยืนให้แก่เราได้

ตำแหน่งหน้าที่การงานก็เป็นเพียงหัวโขนที่เขาสมมุติให้เราเป็น
(แต่ก็แน่นอนว่าเราต้องรับผิดชอบให้ดีตามตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับ
เช่นเป็น "พ่อที่ดี" ของลูก
เป็น "สามีที่ดี" ของภรรยา
เป็น "หัวหน้าที่ดี" ของลูกน้อง ฯลฯ)

ความนิยมชมชอบและสรรเสริญก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะไปบังคับใจทุกคนได้
ไม่มีใครไม่เคยถูกนินทาและไม่มีใครไม่เคยทำเช่นนั้นกับคนอื่น
แม้แต่พระพุทธเจ้าซึ่งดีพร้อมทุกอย่าง
ยังมีคนเกลียด มีคนนินทา และถูกใส่ร้ายป้ายสี

ความสบาย ลาภ ยศ สรรเสริญ จึงเป็นสิ่งที่เมื่อ "มีได้" ก็ "มีเสื่อม"
คนที่ดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งเหล่านี้...
คนที่มัวเมาอยู่กับสิ่งเหล่านี้...
คนที่หวาดกลัวว่าจะสูญเสียสิ่งเหล่านี้...
จึงไม่พ้นต้องเป็นทุกข์ กระวนกระวายใจอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

หากเราเรียนหนังสือหรือทำงานโดยมี "เป้าหมายหลัก"
ที่จะมีแสวงหาความสบาย ลาภ ยศ สรรเสริญนั้น
ถือเป็นความพยายามเพื่อสิ่งที่มีคุณค่าน้อยจนน่าเสียดาย

อย่างไรก็ดีไม่ได้หมายความว่า
ผมสนับสนุนให้เพื่อนๆ เป็นคนขี้เกียจ ไม่หนักเอาเบาสู้
หรือขาดความตั้งใจนะครับ (- -")

ตรงกันข้ามเรา ควรจะมีความเพียร มุ่งมั่นตั้งใจเรียนและทำงานให้ดีที่สุด
เพื่อที่จะพัฒนาตนเอง ยกระดับจิตใจของตนเอง

หากเรามองว่าการทำงาน และปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา
เป็นบททดสอบที่เราต้องฝ่าฟัน
การทำงานย่อมเป็นการฝึกให้เรารู้จัก
"อดทน" "เพียรพยายาม" "มีระเบียบวินัย" "เสียสละ" "กล้าหาญ"
"ให้อภัย" "มีสติ" "มีไหวพริบ" และ "ใช้ปัญญา"

คุณธรรมเหล่านี้เป็นสมบัติที่จะติดตัวเราไป
และใครก็พรากมันไปจากเราไม่ได้
แต่สิ่งเหล่านี้ก็เสื่อมได้เช่นกัน
หากเราไม่หมั่นฝึกฝนให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป
....ดังตฤณ

พบความทุกข์ พบความสุข ทุกสิ่งนั้น
เจอทุกวัน มันคือรัก มักพบเห็น
อยากจะได้ อยากจะมี อยากจะเป็น
สุขทุกข์เข็น เป็นเพราะใจ ใช่ใครทำ





ขอให้เริ่มต้นแต่ละวันด้วย
การพัฒนาที่สดชื่นอย่างแท้จริง
เพื่อนรักขอให้มีชัยชนะในตอนเช้า จนกระทั่งเข้านอน



จงเผชิญกับความยากลำบากที่ปะทะเข้ามา
การท้าทายเพื่อเอาชนะความยากลำบากและความทุกข์ทั้งหลาย
โดยไม่ยอมแพ้ แม้เรื่องราวจะยากลำบากเพียงไรก็ตาม
จะทำให้เราเข้มแข็ง
และทำให้เราส่องแสงเหมือนดาบที่มีค่าได้อย่างแน่นอน














สงกรานต์เมื่อ 5 ปีก่อน
นานมากแล้ว
ยามเย็น เย็น
บรรยากาศดี


時々๛༢༠༡༦ कभी कभी 一.....17 มิถุนายน 2559

ที่ผมนำบทความมาลงก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรน่ะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันแทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น บทความเหล่านี้ผมได้อ่านแล้วเรียบเรียงใหม่อันไหนคิดว่าพอมีประโยชน์ก็นำมาแบ่งปัน

ตณฺหาย อุฑทิโต โลโก ชราย ปริวาริโต มจฺจนา ปิหิโต โลโก ทุกฺเข โลโก ปติฏฺฐิโต

ตันหายะอุฑทิโตโลโกชรายะปะริวาริโต มัจจะนาปิติโตโลโกปะติทิทิดฐี

โลกถูกตัณหาก่อขึ้น ถูกชราล้อมไว้ ถูกมฤตยูปิดไว้ จึงตั้งอยู่ในความทุกข์


ความสุขพบได้จากที่ไหน เราสามารถมีความสุขได้อย่างไร นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ชาวรัสเซีย ลีโอ ตอลสตอย(1828-1910)ประกาศว่า ความสุขพบได้ในการทำจุดมุ่งหมายของชีวิตให้สำเร็จอย่างดีอกดีใจไม่ใช่ความร่ำรวย ไม่ใช่ชื่อเสียง ไม่ใช่ชีวิตที่สะดวกสบาย ที่รับประกันว่ามีความสุข แต่ความสุขพบได้ในการทำภาระหน้าที่ของเราอย่างแน่วแน่ พร้อมกับเผชิญและพากเพียรผ่านความทุกข์ยาก การถูกโจมตีอย่างไม่ยุติธรรม และสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากอย่างกล้าหาญความปีติยินดี ความภาคภูมิใจ และความพึงพอใจ จะพวยพุ่งออกมาจากการอุทิศตนที่ไม่ถอยดังกล่าว นี่เป็นแก่นสารที่แท้จริงของความสุข

เวลาเป็น ทรัพย์สมบัติล้ำค่า

จงใช้เวลาอันจำกัดทั้งหมดที่เรามีอยู่

ให้เป็นบ่อเกิดและทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของเรา

บนพื้นฐานของชีวิตที่เต็มไปด้วย พลัง

ขอให้กระทำอย่างฉลาดและใช้ปัญญา





ถ่ายภาพโดย...時々होशདང

กรุงเทพ ฯ ได้ยกเลิกการใช้รถรางมาแล้ว 51 ปี ถ้าคงกรุงเทพ ฯ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปคงได้นั่งรถราง(รถราง)ทั้งรถวิ่งเดียวและรถรางพ่วงปัจจุมีการจำลองแบบรถรางขึ้นมแต่ใช่เครืองยนต์ในการขับเคลื่อนและมีไว้ขนส่งนักท่องเที่ยว สมัยก่อนราคารถราง 25 สตางค์ และ 50 สตางค์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 15, 2022, 12:57:22 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน