10 อันดับการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
-http://football.kapook.com/news_inside.php?id=17513&key=news-
ข่าวฟุตบอล บันทึกจากช่วงเวลา 27 ปีแห่งประวัติศาสตร์ในการสร้าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ นี่คือ 10 อันดับการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ภาพประกอบจาก AFP
การประกาศอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในวงการยุโรป และเป็นประเด็นร้อนแรงที่เบียดพื้นที่ข่าวอื่นๆ ไปเกือบหมดตั้งแต่ช่วงเย็นวานต่อเนื่องถึงวันนี้
เซอร์ อเล็กซ์ จะนำทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนามเล่นกับ สวอนซี ในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม นี้ เป็นการทำหน้าที่ผู้จัดการทีมคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะสามารถหันกลับมามองผลงานความสำเร็จที่ตนเองได้สานสร้างไว้ให้กับสโมสรได้อย่างยิ่งใหญ่
ตลอดช่วงเวลา 27 ปี กับผลงานแชมป์ลีก 13 สมัย แชมป์ฟุตบอลถ้วยอีกรวมไม่ต่ำกว่า 20 รายการ "เฟอร์กี้" ได้สร้างทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นชั้นสู่ระดับตำนานชุดแล้วชุดเล่า มีนักเตะมากมายผ่านมือป๋า ได้รับการปลุกปั้นจนกลายเป็นดาวเด่นระดับซูเปอร์สตาร์ ทั้งที่เป็นผลผลิตจากทีมเยาวชนถูกดันขึ้นมา และผู้เล่นชั้นดีที่ถูกดึงเข้ามาเติมเต็มศักยภาพให้ทีม
และต่อไปนี้คือผู้เล่นในทำเนียบลูกรักป๋า ที่ถือเป็น 10 อันดับการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
1 ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล : 750,000 ปอนด์ จาก บรอนด์บี้
เซอร์ อเล็กซ์ คงสะใจกับการกระชากแชมป์ พรีเมียร์ลีก กลับมาจากอ้อมอกของคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ความสำเร็จนี้ก็ยังเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ทำให้กับทีม เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ปี 1999 นั่นก็คือการนำเพื่อนร่วมทีม "ปิศาจแดง" ชูถ้วยแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
"เฟอร์กี้" เคยบอกว่าการเจรจาคว้า ชไมเคิ่ล มาจาก บรอนด์บี้ ถือเป็นการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษ และมันก็ยากที่จะมีใครเถียงเรื่องนี้
นายทวาร "ยักษ์เดนส์" ทำสถิติลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด 292 นัด ก่อนจะอำลาทีมไปในค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
2 เอริค คันโตน่า : 1.2 ล้านปอนด์ จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด
คันโตน่า เล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 5 ปี และนั่นเป็นช่วง 5 ปีที่จะไม่มีวันถูกลืมไปจากประวัติศาสตร์สโมสร เฟอร์กูสัน จ่ายเงินไปแค่ราวๆ 1 ล้านปอนด์ ทว่า ดาวเตะชาวน้ำหอมสร้างเรื่องราวสุดประทับใจให้กับเหล่า เร้ด อาร์มี่ มากมาย ด้วยเทคนิคลีลาการเล่นในแบบฉบับศิลปิน
คันโตน่า ยิงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 82 ประตู ร่วมทีมคว้าแชมป์ลีก 4 สมัย กับ เอฟเอ คัพ 2 สมัย แต่ว่ากันว่าสถิติพวกนี้ไม่ได้เป็นความยอดเยี่ยมที่สุดของ "คิง ก็องโต้" เท่ากับการเป็นผู้สร้างแรงบรรดาลใจให้ดาวรุ่งวัยละอ่อนในยุคนั้นทั้ง พอล สโคลส์, เดวิด เบ็คแฮม หรือ 2 พี่น้อง เนวิลล์ ที่ต่อมากลายเป็นขุนพลชั้นเอกของ เซอร์ อเล็กซ์ นำทีมสู่ความสำเร็จในยุคต่อมา
3 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ : 12.25 ล้านปอนด์ จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน
ตอนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2009 แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนรู้สึกชอบใจเพราะมองว่า "เจ็ทโด้" ทำตัวเป็นคนทรยศ เห็นแต่ตัว และเรื่องเยอะสุดๆ
ทว่าคงไม่มีใครเถียงเช่นกันว่าความสามารถของ โรนัลโด้ ช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มากขนาดไหน เซอร์ อเล็กซ์ เองก็ชื่นชมในตัวปีกทีมชาติโปรตุเกสรายนี้เป็นอย่างยิ่งสำหรับความเก่งกาจในการพาบอลกระชากผ่านคู่แข่งได้ไม่มีหยุดและยังทำสิ่งเหลือเชื่อได้ทุกนาที
โรนัลโด้ นำทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2008 และเมื่อมองถึงความสำเร็จในโทรฟี่ใบนี้บวกกับกำไรจากค่าตัวถึง 67.75 ล้านปอนด์ อย่างนี้ไม่เรียกว่าคุ้มก็ไม่รู้จะว่ายังไง
4 เดนิส เออร์วิ่น : 625,000 ปอนด์ จาก โอลด์แฮม
เออร์วิ่น น่าจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้รับการพูดถึงน้อยไปสักหน่อย ทั้งที่ตลอดช่วง 12 ปี เจ้าตัวลงสนามให้ทีมไป 529 นัด ในประวัติศาสตร์สโมสรมีผู้เล่นแค่ 7 คนที่ทำได้มากกว่านี้
แบ็กชาวไอริชสามารถสังหารฟรีคิกแม่นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า เดวิด เบ็คแฮม และยังซัดจุดโทษได้เด็ดขาดพอๆ กับ คันโตน่า อีกด้วย ครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยถูกขอให้เลือก 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของ แมนฯ ยูไนเต็ด แน่นอนว่าด้วยความอ่อนน้อนถ่อมตน เออร์วิ่น ไม่ได้ใส่ชื่อตัวเอง แต่เลือก ยาป สตัม อยู่ในตำแหน่งแบ็กซ้ายแทน..ก็ถือว่าดีแล้วที่ เออร์วิ่น ไม่ได้หันมาจับงานคุมทีม
5 รอย คีน : 3.75 ล้านปอนด์จาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ดไวท์ ยอร์ค ดาวยิงฟันขาวเคยเล่าไว้ว่าตอนมาถึงสนามซ้อมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันแรก มีการซ้อมแบ่งข้างเล่นโต๊ะเล็กกันแล้วเจ้าตัวได้อยู่ทีมเดียวกับ รอย คีน
ครั้งนั้น ยอร์ค รู้ตัวทันทีว่าโดนรับน้องเข้าแล้ว เมื่อกัปตันคีน เอาแต่จ่ายบอลยัดมาให้ตัวเองทุกครั้งทุกจังหวะไม่ได้ว่างเว้น จนกระทั่งมาถึงช็อตที่เจ้าตัวทำพลาดจับบอลไม่อยู่ "คีโน่" ก็ปรี่เข้ามาหาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแล้วก็ตะคอกใส่ว่า "ยินดีต้อนรับสู่ ยูไนเต็ด นะ นี่ถ้า คันโตน่า ยังอยู่นายโดนฆ่าไปแล้ว"
เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของภาพโดยรวมที่ทำให้ใครบางคนสรุปไว้ว่า คันโตน่า คือผู้สร้างแรงกระตุ้นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีก แต่ คีน คือคนขับเคลื่อนทีมให้เดินต่อไปถึงแชมป์ยุโรป
6 โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ : 1.6 ล้านปอนด์ จาก โมลด์
โซลชาร์ เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่แฟน แมนฯ ยูไนเต็ด บางคนอยากให้เข้ามาคุมทีมต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ อดีตเพชรฆาตดาวยิงชาวนอร์เวย์ สั่งสมผลงานด้วยการพา โมลด์ คว้าแชมป์ลีกไปแล้ว 2 สมัย และแน่นอนว่าภาพการซัดประตูสู่ เทรเบิ้ลแชมป์ ในปี 1999 ยังคงเป็นที่จดจำไม่รู้ลืม
สมัยที่เล่นอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด โซลชาร์ ได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์ซับ เคยทำผลงานระบือลือลั่น ลงสนามมาเป็นตัวสำรองแล้วก็ซัดรวดเดียว 4 ประตูในช่วงเวลา 12 นาที อดีตศูนย์หน้าจอมขโมยซีนรายนี้ ได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่ฉลาดและมีความเข้าใจเกมมากที่สุดคนหนึ่งด้วย
7 สตีฟ บรู๊ซ : 825,000 ปอนด์ จาก นอริช ซิตี้
คงมีเซนเตอร์ฮาล์ฟไม่กี่คนในโลกที่จะสามารถยิงได้ถึง 19 ประตูในฤดูกาลเดียว แต่ สตีฟ บรู๊ซ ทำมาแล้วในฤดูกาล 1990-91 และในประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของ เซอร์ อเล็กซ์ "บรู๊ซซี่" เป็นอีกคนหนึ่งที่มีส่วนในช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 1992-93 ช่วงปลายซีซั่นซึ่งสถานการณ์ลุ้นแชมป์ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ แอสตัน วิลล่า กำลังขับเคี่ยวกันสูสี "ปิศาจแดง" ลงเล่นในบ้านตัวเองแต่กลับพลาดท่า โดน เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ นำอยู่ 3-1 ทำท่าเหมือนจะแพ้ แต่กลับกลายเป็น "กัปตันบรู๊ซ" ที่ขึ้นมาโขก 2 ประตูในช่วงท้ายเกม ช่วยให้ทีมไล่ตีเสมอคว้า 1 แต้ม ได้สำเร็จ
หลังเกมนั้น ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เรียกความมั่นใจคืนและเดินหน้าคว้าชัยชนะจนไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีกหนแรกในรอบ 26 ปี และแฟนบอลที่เกิดทันยุคนั้น ยังคงรู้สึกว่าลูกโขก 2 ประตูของ บรู๊ซ คือสิ่งที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของสโมสรให้มาถึงวันนี้ได้
8 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ : 2 ล้านปอนด์ จาก ฟูแล่ม
ฟาน เดอร์ ซาร์ มาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยวัย 34 ปี แต่นายทวารก้านยาวคนนี้กลับเป็นคนเดียวในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ ที่ได้รับการยอมรับว่าดีพอจะขึ้นไปเทียบชั้นตำนานระดับ ชไมเคิ่ล ได้
นายประตูทีมชาติฮอลแลนด์ถือได้ว่าครบเครื่อง ทั้งความเยือกเย็น, การมีสมาธิกับเกมและการออกมาตัดบอลได้อย่างถูกที่ถูกเวลา และการเปิดบอลจากหน้าปากประตูที่กลายเป็นสร้างโอกาสในเกมรุกให้กับทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่แพ้ต้นฉบับอย่าง ชไมเคิ่ล ด้วย
9 เนมานย่า วิดิช : 7 ล้านปอนด์ จาก สปาร์ตัค มอสโก
วิดิช ดูเหมือนจะดับตั้งแต่เกมแรกที่ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จากความผิดพลาดที่มีเหตุมาจากการไม่เข้าใจกันกับ ปาทริซ เอวร่า ซึ่งส่งผลให้ "ปิศาจแดง" แพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้ 1-4
"ผมกับ เอวร่า คุยกันเรื่องเกมนัดนั้นบ่อยมาก เราสองคนเริ่มต้นได้ไม่ดีทั้งคู่ และเราก็เคยถึงขนาดที่คุยกันว่าเราอยากจะย้ายออกจากทีมไปด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เราก็ได้แต่หัวเราะกัน"
แน่นอนว่า ถ้าย้อนกลับไปคิดถึงเกมแรก วิดิช น่าจะยิ้มให้กับตัวเองได้ เพราะหลังจากนั้น ปราการหลังทีมชาติเซอร์เบียก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเป็นที่เชื่อใจได้สำหรับแผงหลังของทีมมาจนถึงวันนี้
10 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ : 22.5 ล้านปอนด์จาก อาร์เซน่อล
แฟน อาร์เซน่อล บางรายยังเคยแอบสะใจที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงินขนาดนั้นแลกกับ ฟาน เพอร์ซี่ ในวัยใกล้ 30 ปี แถมมีประวัติบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว แสดงให้เห็นว่าใกล้เข้าช่วงขาลงแล้ว
แต่มาถึงวันนี้ ทุกอย่างพิสูจน์ให้เห็นแล้ว และไม่ใช่แค่แฟนของ "ไอ้ปืนใหญ่" เท่านั้นที่ต้องกัดฟันกรอดๆ แต่ยังมี โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ แมนฯ ซิตี้ ที่คงได้แต่เจ็บใจที่สโมสรไม่ยอมควักตังค์ชิงตัว "อาร์วีพี" ไปร่วมทีมให้ได้เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว
การมาของ ฟาน เพอร์ซี่ คือส่วนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ของสโมสร และถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เซอร์ อเล็กซ์ ก็อาจจะยังต้องฝืนสังขารอยู่ทำงานต่อไปอีกในฤดูกาลหน้า
แถมท้าย 10 การเซ็นสัญญา ที่ "เฟอร์กี้" อยากจะลืม
1 เบเบ้ : 7.4 ล้านปอนด์ จาก วิคตอเรีย กิมาไรช์
เบเบ้ เปิดใจเล่าให้ฟังด้วยตนเองถึงความล้มเหลวในการทำงานกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ว่า "เขาสั่งให้ผมไปตัดผมให้หน้าตามันดูได้หน่อย แน่นอนเย็นนั้นผมบึ่งรถไปร้านบาร์เบอร์ทันที แต่ปรากฏว่าไงรู้มั้ย พอลงสนามซ้อมวันถัดไปเขากลับจำผมไม่ได้ ผมพยายามเดินเฉียดหน้าเขาตั้งหลายที เขาก็ยังไม่รู้ว่าเป็นผม"
2 ราล์ฟ มิลน์ : 170,000 ปอนด์ จาก บริสตอล ซิตี้
เซอร์ อเล็กซ์ บอกว่า "ความจริงค่าตัวเขาแค่ 170,000 ปอนด์นะ แต่ผมก็ยังด่าตัวเองมาจนถึงวันนี้"
ความจริง มิลน์ ลงเล่นให้ ยูไนเต็ด ถึง 23 นัด ยิงได้อีก 3 ลูกด้วย แต่เชื่อไหม หลังออกจากทีมไปกองกลางชาวสกอตต์รายนี้ก็ไม่ได้เล่นฟุตบอลระดับอาชีพอีกเลย
3 มัสซิโม ตาอิบี้ : 4.5 ล้านปอนด์ จาก เวเนเซีย
ถือเป็นการลองของใหม่สำหรับ เซอร์ อเล็กซ์ ที่ดึงนายทวารจากอิตาลีมาลองใช้งาน ผลคือ ตาอิบี้ ได้ลงเล่นเกมลีกไปเพียง 4 นัด หลังจากวีรเวรสุดเฟอะฟะในเกมกับ เซาแธมป์ตัน หาดูได้จากในยูทูบ
4 ตง ฟางโจว : 3.5 ล้านปอนด์จาก ต้าเหลียน ไชด์
ตง เคยลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 1 นัด แต่ก็รู้กันอยู่ว่าเป็นเรื่องของการตลาดเท่านั้น
5 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ : 30.75 ล้านปอนด์ จาก สเปอร์ส
เบอร์บาตอฟ เป็นกองหน้าที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อเข้ามาด้วยราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แม้จะไม่ถึงกับล้มเหลว แต่ดาวยิงทีมชาติบัลแกเรียก็ทำผลงานโดยรวมได้น่าผิดหวังอยู่ดี
6 เอริค เฌมบ้า-เฌมบ้า : 3.5 ล้านปอนด์ จาก น็องต์ส
กองกลางทีมชาติแคเมอรูน ล้มเหลวเพราะใจแตกหลังย้ายมาสู่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เล่ากันว่าเจ้าตัวมือเติบจ่ายเงินซื้อรถโฟร์วีลเป็นสิบๆ คัน เปิดบัญชีทำบัตรเครดิตรูดปรื้ดจนเพลิน สุดท้ายโดนฟ้องล้มละลายซะด้วย
7 กาเบรียล โอแบร์กต็อง : 3 ล้านปอนด์จาก บอร์กโดซ์
โอแบร์กต็อง มีความเร็วเป็นเยี่ยม ล็อกหลบเป็นยอด แต่พอถึงเวลาผ่านบอลให้เพื่อนทีไร ไม่ได้เรื่องทุกที
8 เคลแบร์สัน : 6.5 ล้านปอนด์ จาก แอตเลติโก พาราเนนเซ่
เคลแบร์สัน เป็นนักเตะทีมชาติบราซิลดีกรีแชมป์โลก ที่เป็นที่จดจำน้อยกว่า เดวิด เมย์
9 ฮวน เซบาสเตียน เวรอน : 28 ล้านปอนด์จาก ลาซิโอ
เวรอน สั่งสมชื่อเสียงจากผลงานร้อนแรงในการค้าแข้งใน เซเรีย อา กับ ซามพ์โดเรีย, ปาร์ม่า และ ลาซิโอ จนได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 กองกลางที่ดีที่สุดในโลก แต่การย้ายมา แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่ความตกต่ำดำดิ่งของเจ้าตัวจริงๆ
10 ดีเอโก้ ฟอร์ลัน : 6.9 ล้านปอนด์ จากอินดีเพนเดียนเต้
ฟอร์ลัน ฝากชื่อไว้ด้วย 2 ประตูที่ซัดฝัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 2-1 ทีแอนฟิลด์ แต่นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วจริงๆ
ข้อมูลจาก -http://www.guardian.co.uk/-