ผู้เขียน หัวข้อ: อัษฎางคประดิษฐ์ กราบแบบทิเบต ต้นกำเนิดจาก สุเมธดาบสโพธิสัตว์ ( จารึขอม สมัยบายน)  (อ่าน 66 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




อัษฎางคประดิษฐ์

ทับหลังการกราบบูชาแบบ “อัษฎางคประดิษฐ์” (Aṣṭāṅga Namaskāra) ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

"อัษฎางคประดิษฐ์" เป็นการแสดงความเคารพบูชาสูงสุดด้วยการกราบที่กำหนดให้อวัยวะทั้ง 8 คือ หน้าผาก ฝ่ามือทั้งสอง หน้าอก เข่าทั้งสอง และปลายเท้าทั้งสอง แนบพื้นดิน
โดยการกราบเช่นนี้แพร่หลายในกลุ่มพุทธศาสนิกชนที่นับถือลัทธิวัชรยาน ตันตระ ซึ่งคงได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาพราหมณ์ฮินดู ในปัจจุบันหลายท่านอาจเคยพบเห็นการกราบแบบนี้จากผู้จาริกแสวงบุญในอินเดียทิเบต เนปาล และภูฏาน เรียกว่า Chag Tsel


สำหรับทับหลังของปราสาทพิมาย นับได้ว่าเป็นทับหลังสลักภาพการกราบแบบ “อัษฎางคประดิษฐ์" ที่เก่าแก่ในประเทศไทยและในวัฒนธรรมเขมรโบราณ กำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 17 หรือประมาณ 900 ปีมาแล้ว

โดยในภาพสลักเป็นภาพบุคคลกำลังกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์และถวายเครื่องบรวงสรวงบูชาแก่พระพุทธรูปนาคปรก เป็นไปได้ว่าผู้ที่กำลังบูชาพระพุทธรูปนาคปรกนั้น คือ กมรเตงอัญศรีวิเรนทราธิบดีวรมะเมืองโฉกวะกุล

กำลังถวายเครื่องบูชาแก่กมรเตงชคตเสนาบดีไตรโลกยวิชัยซึ่งเป็นเสนาบดีแห่งกมรเตงชคตวิมาย ตามที่ปรากฏในจารึกปราสาทหินพิมาย 3

สำหรับในประเทศกัมพูชา เราพบภาพสลักการกราบแบบ “อัษฎางคประดิษฐ์" ในปราสาทที่สร้างในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (สมัยบายน)
ซึ่งนับถือพุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 หรือประมาณ 800 ปีมาแล้ว เช่น ปราสาทบันทายฉมาร์ ปราสาทตาพรหม ปราสาทบันทายกุฎี ปราสาทบายน

อย่างไรก็ตามใน Angkor National Museum ได้จัดแสดงประติมากรรมรูปบุคคลกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ในสมัยบายนและระบุว่าเป็นสุเมธดาบส



สุเมธดาบส เป็นอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระชาติที่ได้รับพุทธทำนายจากพระพุทธเจ้าทีปังกร ว่าสุเมธดาบสผู้นี้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

เรื่องราวของสุเมธดาบสมีอยู่ว่า

พระพุทธเจ้าทีปังกรได้เสด็จมายังเมืองอมราวดี ซึ่งมีพื้นที่ช่วงหนึ่งขรุขระมีน้ำขัง ผู้มีศรัทธาจึงได้ช่วยกันถากถางทางและปรับพื้นที่เพื่อให้พระทีปังกรเสด็จดำเนินได้โดยสะดวก

เมื่อสุเมธดาบผ่านมาเห็นก็ขอร่วมในการปรับถนนด้วย แต่ยังไม่ทันเสร็จดี พระพุทธเจ้าทีปังกร พร้อมพระสาวก ก็เสด็จดำเนินมา

สุเมธดาบสเห็นไม่ทันการณ์ เพราะยังมีบ่อที่น้ำท่วมขังอยู่ช่วงตัวหนึ่ง จึงตัดสินใจทอดตัวลงนอนปิดทับแอ่งน้ำนั้น ตั้งใจถวายชีวิตให้พระทีปังกรและพระสาวกเดินไปบนแผ่นหลังของตน

และในครานั้นสุเมธดาบสได้ตั้งความปรารถนาไว้ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าเช่นพระองค์ท่าน เมื่อพระพุทธเจ้าทีปังกรเสด็จมาทอดพระเนตรเห็นก็รู้ด้วยญาณว่าสุเมธดาบสผู้นี้จะได้เป็นพระพุทธเจ้า
จึงแสดงพุทธทำนายแก่สุเมธดาบส ว่า สุเมธดาบสผู้นี้จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลข้างหน้า พระนามว่า พระโคตมพุทธเจ้า















จาก เว็บกรมศิลปากร https://www.finearts.go.th/phimaimuseum/categorie/general

เพิ่มเติม
<a href="https://www.youtube.com/v//sZn9sl6u-WE" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//sZn9sl6u-WE</a> 

https://youtu.be/sZn9sl6u-WE?si=F7qT_Tqv2ngxny_a

เพิ่มเติม http://www.tairomdham.net/index.php/topic,16389.0.html
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...