ผู้เขียน หัวข้อ: ไว้ใจชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข  (อ่าน 1887 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ rain....

  • ศรัทธาในสิ่งที่ค้นหา มั่นคงในสิ่งที่เป็น แบ่งปันในสิ่งที่ค้นพบ
  • ทีมงานกัลยาณมิตร
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 994
  • พลังกัลยาณมิตร 379
  • สุขลึกๆในความเหงา แม้จะโดดเดี่ยวแต่ไม่เคยเดียวดาย
    • ดูรายละเอียด
ไว้ใจชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข
« เมื่อ: กันยายน 05, 2010, 08:59:21 pm »
  ไว้ใจชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข   

"การเรียนรู้" ที่จะ "ไว้ใจชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข" เน้นให้อยู่ตามลำพังและใช้เวลาอยู่กับ "ธรรมชาติ" แล้ว "ฟังเสียงภายใน" ของตัวเราเอง ว่าต้องการจะทำอะไร เราจะค่อยๆ พบว่าเราสามารถที่จะไว้ใจเสียงที่ได้ยินเหล่านั้นได้ และให้ลองเชื่อ "ความคิดแรก"...
 


คอลัมน์ จิตวิวัฒน์

ในการประชุมจิตวิวัฒน์ครั้งที่ 9 ประจำเดือนพฤษภาคม 2547 ทางกลุ่มได้เชิญ คุณณัฐฬส วังวิญญู มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันเกี่ยวกับแนวคิดของ มหาวิทยาลัยนาโรปะ และเรื่องของ นิเวศวิทยาแนวลึก ซึ่งคุณณัฐฬสได้ร่ำเรียนมา

นาโรปะเป็นมหาวิทยาลัยทางเลือกในสหรัฐอเมริกา ที่ใช้ปรัชญาแบบพุทธเป็นพื้นฐานในการเรียนการสอน เป็นมหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยพระชาวทิเบตท่านหนึ่งที่ชื่อ เชอเกียม ตรุงปะ ซึ่งเป็นผู้ที่เขียนหนังสือไว้หลายเล่ม และมีแปลเป็นภาษาไทยอยู่บ้างพอสมควร เช่น ชัมบาลา : หนทางอันศักดิ์สิทธิ์ของนักรบ, ลิงหลอกเจ้า : ลอกคราบวัตถุนิยมทางศาสนา(Cutting Through Spiritual Materialism)

แนวคิดหลักๆ ของนาโรปะคือ เน้นให้นักศึกษาเรียนรู้จากภายในตัวเอง ต้องรู้จักตัวเองก่อน คุณณัฐฬสเล่าหลายเรื่องได้อย่างสนุกและน่าสนใจมากในช่วงเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง แล้วปล่อยให้มีการแลกเปลี่ยนในกลุ่ม

เรื่องที่สะดุดใจผู้เขียนมากที่สุด เห็นจะไม่เกินเรื่องที่คุณณัฐฬสบอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่นาโรปะสอนไว้ก็คือ "การเรียนรู้" ที่จะ "ไว้ใจชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข" เรื่องที่เป็นรูปธรรมเรื่องหนึ่งก็คือ นักศึกษาปีแรกที่ไปเรียนที่นั่น จะมีหลักสูตรหนึ่งที่จะต้องออกไปอยู่ในทะเลทรายตามลำพังประมาณสามวัน ให้อดอาหารแต่มีน้ำให้ดื่ม โดยที่มีมาตรการด้านความปลอดภัยระดับหนึ่งในเรื่องของระบบบัดดี้ที่อยู่ห่างกันพอสมควร แต่โดยหลักๆ คือเน้นให้อยู่ตามลำพังและใช้เวลาอยู่กับ "ธรรมชาติ" แล้ว "ฟังเสียงภายใน" ของแต่ละคนว่ากำลังต้องการอะไร หรือฝึกการเรียนรู้ที่จะไว้ใจกับธรรมชาติ ว่าจะสามารถทำให้ตัวเองมีชีวิตรอดอยู่ได้ในสภาวะแบบนั้น

ด้วยการฝึกการ "ฟังเสียงจากภายใน" ของตัวเราเอง ว่าต้องการจะทำอะไร เราจะค่อยๆ พบว่าเราสามารถที่จะไว้ใจเสียงที่ได้ยินเหล่านั้นได้ และให้ลองเชื่อ "ความคิดแรก"

น่าสนใจที่ "เสียงจากภายใน" ตัวเราเองที่ว่านี้ เป็นเรื่องราวเดียวกันกับเรื่องของ "ญาณทัศนะ" ซึ่งเป็นการฝึกการใช้สมองชั้นที่สี่ตามที่โจเซฟ ชิลตัน เพียร์ซ(Joseph Chilton Pearce) ได้เขียนไว้อย่างละเอียดแล้วในหนังสือที่ชื่อ The Biology of Transcendence คือส่วนของ Prefrontal Lobe ซึ่งล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้เป็นส่วนที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทำงานวิจัยและพบว่ามีอยู่จริงในมนุษย์ที่ฝึกฝนเป็นพิเศษเรื่อง "สมาธิ" ซึ่งแดเนียล โกลแมน(Daniel Goleman) นักจิตวิทยาผู้โด่งดังมากจากเรื่อง E.Q. เขียนไว้ในหนังสือเล่มใหม่ของเขาที่ชื่อ Destructive Emotions ซึ่งเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ อ.วิศิษฐ์ วังวิญญู นำมาย่อยอย่างละเอียดในวงจิตวิวัฒน์แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

กระบวนการเรียนรู้แบบนี้เป็น "วิธีการสร้างคน" ที่เริ่มจาก "การสร้างความมั่นคงด้านในก่อน"

แต่ปัจจุบันพวกเรากลับมีระบบการศึกษาที่เน้นถึง "ความมั่นคงภายนอก" ตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ ถ้าคุณไม่มีปริญญาใบโตๆ จากสถาบันดังๆ คุณก็จะรู้สึกไม่มั่นใจ ถ้ามหาวิทยาลัยของคุณไม่มีตึกใหญ่โตโอ่อ่ายิ่งใหญ่อลังการ คุณหรืออย่างน้อยผู้บริหารสถาบันของคุณก็จะรู้สึกไม่มั่นใจ โยงใยไปถึงความพยายามในการสร้าง "ความมั่นใจภายนอก" ในรูปแบบอื่นๆ เช่น มือถือรุ่นล่าสุด เสื้อผ้านำสมัย รถยนต์คันใหญ่ ฯลฯ

ผู้เขียนคิดว่าเรื่องนี้ระบบการศึกษาต้องหันมามองอย่างจริงๆ จังๆ ไม่ใช่เพียงเฉพาะระบบมหาวิทยาลัย แต่เป็นการศึกษาทั้งระบบที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ปัจจุบันนี้เพียงแค่คนสองคนเริ่มจีบกัน ก็ต้องคิดไปถึงโรงเรียนอนุบาลของลูกแล้ว ว่าจะให้ลูกเข้าโรงเรียน "มีชื่อ" โรงเรียนไหน

อีกหน่อยสงสัยว่าต้องคิดข้ามช็อตไปขนาดว่า คลอดลูกคนนี้แล้วโรงเรียนอนุบาลของหลานจะเป็นโรงเรียนไหนด้วยกระมัง

ความมั่นใจและความมั่นคงด้านในของพวกเราหายไปไหนกันหมด

ผู้เขียนคิดว่าตรงนี้ถ้าพวกเราช่วยกันเริ่มสร้างสิ่งต่างๆ เหล่านี้กันตั้งแต่เดี๋ยวนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนและเกิดขึ้นกับตัวผมเลยในขณะที่ฟังคุณณัฐฬสพูดในวันนั้น ก็คือ "ความสุข" "ความรู้สึกมั่นคงลึกๆ" และเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยว่า "เราต้องฝึกและเรียนรู้ที่จะไว้ใจชีวิต" ของเรากันจริงๆ เสียที

และคิดว่าธรรมชาติมีความแปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือว่า "ไม่มีคำว่าสายเกินไป" สำหรับการเรียนรู้ เช่น ตัวผู้เขียนเพิ่งเข้าใจสิ่งที่คุณณัฐฬสพูดเมื่ออายุสี่สิบกว่าแล้ว แต่คุณณัฐฬสรู้เรื่องเหล่านี้ตั้งแต่อายุยี่สิบกว่า ผู้เขียนก็ไม่ได้รู้สึกว่าสายเกินไป กลับรู้สึกขอบคุณและดีใจที่ตัวเองได้เริ่มเห็น "มุมมอง" ตรงนี้ของชีวิต

ลองคิดดูนะครับว่า แค่เราไว้ใจชีวิตและใช้ "ญาณทัศนะ" ในการดำเนินชีวิตนั้น มันช่างเป็นชีวิตที่วิเศษมีความสนุกสนานและมีความเบาสบายเพียงไร

ไม่ต้องแบกภาระให้วุ่นวายใจ-ปล่อยให้เป็นไป แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ทำอะไรหรือขี้เกียจทำ ตรงกันข้ามเลย กลับทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมหาศาล เพราะไม่ต้องเสียเวลาคิดเรื่องไร้สาระ

เป็นชีวิตที่เหมือนกับหนังสือเล่มดังของ เปาโล โคเอโย เรื่อง The Alchemist ที่บอกว่าเหมือนกับมีใครมาคุ้มครองให้เราเดินทางในทิศทางที่ควรจะเป็นไป

ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตเป็น "การเรียนรู้" ความไม่พอเหมาะหรือขัดสนบางประการ "ไม่ใช่ความผิดพลาด" หากแต่เป็นเสมือน"สัญญาณ" ที่บอกอะไรบางอย่างกับชีวิต เช่น ถ้าคุณเดินชนประตูก็ควรจะแปลความหมายว่า คุณควรจะระวังตัวให้มากกว่านี้ หรือถ้าคุณป่วย ก็เป็นสัญญาณที่แสดงว่าคุณไม่ได้ดูแลตัวเองเลยนะ หรืออะไรประมาณนี้

การศึกษาในปัจจุบันที่ไม่ได้เน้นวิธีการสร้างคน หากแต่จะทำให้คนเกิด "ความมั่นใจจากภายนอก" ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถานที่ใหญ่โต ชื่อสถาบัน และใบประกาศที่บอกว่าสำเร็จการศึกษาตามที่ได้เกริ่นมานั้น ทำให้ใบปริญญาบัตรไม่ได้มีความหมายใดๆ เลย นอกจากเศษกระดาษแผ่นเดียว ที่แม้แต่ในปัจจุบันก็อาจจะไม่ได้ช่วยให้คุณมีงานทำได้ตามที่ต้องการด้วยซ้ำไป ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ "เจ้าเศษกระดาษ" แผ่นนั้นกลับทำให้ "อัตตา" ภายในของพวกเราแต่ละคนเติบโตไปผิดทิศทาง กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่สร้าง "ความขัดแย้ง" ในสังคมให้รุนแรงขึ้นอีกด้วย

กลับมาเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อสร้างความมั่นคงด้านในที่น่าจะดีกว่ากันเถอะ

____________________________________
น.พ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์ drwithan@hotmail.com
โครงการจิตวิวัฒน์ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
NewConsciousness@thainhf.org
มติชน วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9730
ขอบคุณโพสจาก  http://www.carefor.org/content/view/681/153/

...........................................
"ข้าพเจ้า ขอถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่อุบัติขึ้นมาในโลก  ทุกๆพระองค์
พร้อมทั้งพระธรรม และ พระสงฆ์
ว่าเป็น  สรณะ  ที่พึ่งตลอดชีวิต" 
 

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: ไว้ใจชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 05, 2010, 10:15:47 pm »
 :13: ขอบคุณครับน้องฝน^^  เรียนรู้และแสวงหา ชีวิตเราจะมีมุมมองที่เปิดกว้างมากขึ้นครับ^^
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~