๓๔ ถาม สัจจะอย่างโลก หมายความว่าอะไร ?
ตอบ เธอจะไปทำอะไรกับไม้กาฝากชนิดนั้นนะ ? ความจริงคือความบริสุทธิ์ถึงที่สุด ทำไมจะต้องไปถกกันถึงคำที่ไม่บริสุทธิ์เหล่านั้นเล่า ? ความที่ปราศจากความคิดนึกต่าง ๆ อย่างเด็ดขาด เรียกว่า ปรีชาของความมีจิตปรกติ
ทกวัน ไม่ว่าเดินอยู่ ยืนอยู่ นั่งอยู่ หรือนอนอยู่ก็ตาม หรือในการพูดจาทั้งหมดก็ตาม จึงยังคงเป็นผู้มีจิตปราศจากการยึดถือทุก ๆ อย่างในสิ่งแวดล้อมทั้งปวง ไม่ว่าจะพูด หรือแม้เพียงแต่กระพริบตา ขอให้ทำมันไปด้วยความที่จิตปรกติถึงที่สุด
เดี๋ยว นี้ เรากำลังอยู่ในตอนปลายของระยะห้าร้อยปีที่ ๓ นับแต่พุทธปรินิพพานมา นักศึกษาเซ็นแทบทั้งหมด ได้เอียงไปในทางยึดถือเสียงและรูปทุกชนิด
ทำ ไม่พวกเธอจึงไม่ลอกแบบเรา ด้วยการปลดเปลื้องความคิดทุกอย่างออกไปเสีย ราวกะว่ามันมิได้มีอยู่เลย หรือราวกะว่ามันเป็นไม้ผุ ๆ ชิ้นหนึ่ง หิน ก้อนหนึ่ง หรอขี้เถ้าที่ชดแล้วเท่านั้นเล่า ? หรือลอกแบบเรา ด้วยการตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ อย่างแผ่วเบาที่สุด เท่าที่ควรจะทำได้ ในแต่ละโอกาสเล่า ? ถ้าเธอไม่ทำอย่างนั้น และเผอิญตายลงเดี๋ยวนี้ เธอจะถูกทรมานโดยยมบาล
พวก เธอต้องหลีกเลี่ยงจากคำสอนเรื่องความมีอยู่ และเรื่องความไม่มีอยู่เสียให้หมด เพราะ จิต นั้น เหมือนกับดวงอาทิตย์ในข้อที่มันอยู่ในความว่างตลอดนิรันดร ส่องแสงได้โดยธรรมชาติของมันเอง และส่องแสงโดยไม่ตั้งใจจะส่องแสง นี่ไม่ใช่สิ่งซึ่งพวกเธออาจจะทำให้สำเร็จได้ โดยปราศจากความพากเพียร แต่เมื่อเธอลุถึงขั้นที่ไม่มีความยึดถือต่อสิ่งใด ๆ หมดแล้ว เธอก็จะเป็นผู้ที่ทำอยู่เหมือนที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านทำ
การทำอย่างนี้ จะเป็นการกระทำที่เข้าร่องเข้ารอยกันได้จริง ๆ กับคำที่กล่าวว่า “จง ทำจิตให้เป็นจิตชนิดที่ไม่อิงอาศัยอยู่บนอะไรเลย เพราะว่านี่แหละ คือ ธรรมกายแท้ ของเธอ ซึ่งเรียกได้ว่า การตรัสรู้ที่สมบูรณ์ถึงที่สุด
ถ้า เธอไม่สามารถเข้าใจซึมซาบในข้อนี้ แม้เธอจะมีความรู้อย่างลึกซึ้งจากการศึกษาของเธอ หรือแม้เธอจะมีความพากเพียรอย่างสาหัส และบำเพ็ญทุกรกิริยาอย่างตึงเครียดที่สุด เธอก็จะยังคงล้มเหลวต่อการรู้แจ้งถึงจิตของเธอเองอยู่นั่นเอง ความพยายามทั้งหมดของเธอจะเดินทางผิด และเธอก็จะเข้าไปสมทบในครอบครัวของมาร โดยแน่นอน อานิสงส์อะไรกัน ที่เธอจะได้รับจากวัตรปฏิบัติชนิดนี้ ?
มันเหมือนกับที่ครั้งหนึ่ง ท่านอาจารย์ ชิกุง ได้พูดไว้ว่า “พุทธะ นั้น คือสิ่งซึ่งจิตของเธอเองสร้างขึ้นแท้ ๆ เมื่อเป็นดังนั้น จะแสวงหา พุทธะ นั้น จากพระคัมภีร์ต่าง ๆ ได้อย่างไรกัน ?” ดังนี้
แม้ พวกเธอจะได้ศึกษาถึงเรื่อง ทำอย่างไรจึงจะบรรลุถึงความเป็นพระโพธิสัตว์สามประเภท ความเป็นพระอรหันต์สี่ประเภท และภูมิทั้งสิบแห่งความก้าวหน้า ต่อการตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์ จนกระทั่งใจของเธอเต็มไปด้วยความรู้เหล่านี้แล้วก็ตาม เธอก็จะยังคงทำตัวให้เคว้งคว้างอยู่ตรงกลางระหว่าง “อย่างธรรมดา” และ “อย่างตรัสรู้แล้ว อยู่นั่นเอง
การ ที่ไม่ดูให้รู้ว่าวิธีการแห่งการปฏิบัติ เพื่อลุถึง ทาง ทางโน้นทุกวิธี ล้วนแต่กินเวลานิดเดียวทั้งนั้น นั่นเป็นสังสาริกธรรม (คือสิ่งที่ทำให้เวียนว่ายไปในวัฏสงสาร ไม่รู้สร่าง)
แรงยิงของมัน เมื่อใช้ไปแล้วครั้งเดียว (ก็หมด) ลุกศรก็ตกดิน
พวกเธอสร้างขึ้นแต่ชีวิตชนิดที่ไม่ทำให้ความหวังของเธอเต็มได้
ช่างอยู่ต่ำกว่าประตู โคตรภู เสียนี่กระไร
ซึ่งจากนั้น กระโดดแผล็บเดียว ก็ถึง พุทธเกษตร !
มัน เป็นเพราะว่า เธอไม่อยู่ในพวกที่กระโดดแผล็บเดียวถึง เธอจึงยังคงดันทุรังไปในทางที่จะเรียนให้ทั่วจบถึงวิธีการต่าง ๆ ที่พวกคนโบราณตั้งไว้ เพื่อการมีความรู้ที่ยังอยู่ในระดับของความคิดปรุงแต่ง
ท่านอาจารย์ ชิกุง ยังได้กล่าวไว้ด้วยว่า “ถ้าเธอไม่พบอาจารย์ชั้นยอด เธอก็กลืนยามหายานเข้าไป เป็นหมันเปล่า ?” ดังนี้
ขอบคุณที่มาบันทึกชึนเชา