บทกวีในภาษาอังกฤษ
สำหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษค่อนข้างดี แต่ยังไม่คุ้นเคยกับบทกวีในภาษาอังกฤษ
และอยากจะทำความรู้จักบ้างนั้น หลักการในภาษาอังกฤษ จะมีความใกล้เคียงกับภาษาไทย
เช่น การสัมผัส (rhyme) การแบ่งองค์ประกอบเป็น บท(stanza) บาท (canto/feet)
บรรทัด(line) ในที่นี้ ขอเริ่มต้นด้วยการอ้างอิงถึง ซอนเน็ท ทบที่ 73 วิลเลี่ยม เซคสเปียร์
(1564-1616) ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นกวีและนักเขียนบทละครผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
Sonnet
ซอนเน็ท เป็นโคลง 14 บรรทัด โดยมีรูปแบบการสัมผัสตายตัว ซึ่งการแต่ง
ซอนเน็ทจะยากเกินไปสำหร้บผู้เริ่มต้น จึงนeเสนอเป็นความรู้เท่านั้น
That time of year thou mayst in me behold
When yellow leanes, or none, or few,do hang
Upon those boughs which shake against the cold,
Bare ruin'd choirs,where late the sweet birds sang.
In me thou seest the twilight of such day
As after sunset fadeth in the west,
Which by and by black night doth take away,
Death's second self, that seals up all in rest.
In me thou see'st the glowing of such fire
That on the ashes of his youth doth lie,
As the death-bed whereon it must expire
Consumed with that which it was nourish'd by.
This thou perceicvest, which makes thy love more strong.
To love that well which thou must leave ere long.
Sonnet 73
William Shakespeare
"เริ่มช่วงใบไม้ร่วงฤดู นคือผู้ที่ผ่านกลางวัย
ใบเหลืองไม่กี่ใบ บนต้นไม้ยังไม่ร่วง
เหลือติดอยู่กลับกิ่ง หนาวสั่นยิ่งกว่าหนาวทรวง
นกน้อยเงียบทั้งปวง ว่างวัดวาหามีเสียง
โพ้ลเพล้เวลาพี่ ใกล้เวลาจะจบเพียง
ชั่วครู่อยู่ข้างเคียง แต่สูรย์ดับลับเหลี่ยมเขา
ความมืดจะตามมา พรากชีวาพาสู่เงา
ความตายหมายมุ่งเฝ้า ที่จะเอาตัวพี่ไป
ดูเถิดดูตัวพี่ ก่อนขีวินจะสิ้นไฟ
ผ่านพ้นคนกลางวัย ช่วงไฟมอดวอดชีวิต
เมื่อครั้งพลังหนุ่ม คือไฟสุมรุนแรงฤทธิ์
ไฟนั้นเมื่อมืดสนิท ชีวินปลิดไปกับไฟ
รักพี่่เถิดมากมาก จวนจะพรากจากกันไกล
ไปแล้วจะเลยไป ไม่มีวันหันกลับมา"
ซอนเน็ทบทที่ 73
โดย วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์
แปลโดย หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุ รัชนี
สุดปลายทาง ณห้วงมหรรณพ
http://my.opera.com/Sudpaithang/blog/index.dml/tag/%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%97