ผู้เขียน หัวข้อ: รวมภาพพุทธประวัติเรียงลำดับเหตุการณ์ ทั้งหมด 81 ภาพ วัดพระบาทน้ำพุ ( ทำบุญได้ )  (อ่าน 57751 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



ภาพที่ 1 พระนางสิริมหามายาทรงบริจาคมหาทาน
อภินิหารแห่งพระนางสิริมหามายา
ในภาพ เแนวพระอัจฉริยธรรมที่ทรงปฏิบัติในวันอุโบสถศีล ทรงศีลบริจาคทานแก่มหาชนเทวทหะนคร
อันมีไพร่ฟ้าข้าราษฏร สมณีชีพราหมณ์โดยบัญญาธิการในทรัพย์นั้นมีปาฏิหาริย์
เป็นบุญกิริยาที่ทรงประพฤติปฏิบัติอยู่เป็นเสมอ




ภาพที่ 2 พระนางสิริมหามายารับสร้อยพระศอของหมั้นจากพระสุทโธทนะ
พระสิริมหามายาทรงรับของหมั้น (จากพราหมณ์ทิชาจารย์)
ในภาพ พระสิริมหามายาทรงเจริญวัย ๑๖ พรรษา เสด็จประพาสอยู่ในสวนหลวง
หมู่พราหมณ์ได้ค้นพบว่าทรงเป็นรัตนกัลยา จึงได้หมั้นหมายให้เป็นคู่อภิเษกสมรส
กับพระสุทโธทนะด้วยสร้อยประดับพระศอ




ภาพที่ 3 พระราชพิธีอภิเษกสมรสเจ้าชายสุทโธทนะกับเจ้าหญิงสิริมหามายา
พระราชพิธีอภิเษกสมรส
ในภาพ แสดงพิธีอภิเษกสมรสเจ้าชายสุทธโทนะกับเจ้าหญิงสิริมหามายาในมหามณฑป
ท่่ามกลางหมู่พระประยูรญาติทั้ง ๒ ผ่ายมีท้าวมหาพรหมชั้นสุทธาวาส
เป็นประธานในพิธีอิภิเษกสมรส และพระอินทร์พร้อมหมู่บริวารเข้าร่วมพิธี โดยแสดงไว้
ที่ฉากระยะหลังของภาพ




ภาพที่ 4 ปวงเทพยดาอัญเชิญพระโพธิสัตว์จุติเพื่อโปรดสัตว์โลก
หมู่ทวยเทพอัญเชิญจุติ
ในภาพ พระโพธิสัตว์สันตดุสิตประทับ ณ ทิพยอาสน์ในอากัปกิริยาตรวจดู
มหาวิโลกนะ ๕ ประการ
เพื่อตรวจดูความเหมาสะสมตามคำทูลเชิญปวงเทพที่เสด็จมาชุมนุม ณ ที่นั้น




ภาพที่ 5 พระสิริมหามายาราชเทวีทรงพระสุบินนิมิตเห็นพระยาช้างเผือก
พระสิริมหามายาราชเทวีทรงพระสุบินนิมิต
ในภาพ แสดงพระสุบินนิมิตแห่งความฝันของพระนางเจ้าสิริมหามายาราชเทวี
ผู้ที่่พระโพธิสัตว์ทรงเลือกให้เป็นพุทธมารดา พระโพธิสัตว์ทรงแสดงให้่พระมารดา
นิมิตเห็นพระยาช้างเผือกชูงวงจับดอกบัวขาวกระทำทักษิณาวัตร ๓ รอบ
ก่อนเสด็จเข้าพระครรภ์ทางด้านขวา



รวบรวมและเรียบเรียงโดย มหาแซม เว็บมาสเตอร์ www.mahamodo.com
ขอบพระคุณแหล่งที่มาของข้อมูล วัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด  อำเภอเมือง
จังหวัดลพบุรี  15000 www.phrabatnampu.org

หากท่านใดต้องการทำบุญ  ศึกษาดูงานหรือเยี่ยมผู้ป่วยเป็นหมู่คณะ 
กรุณาแจ้งวัน - เวลา และจำนวนคณะที่ศึกษาดูงานล่วงหน้า
สามารถติดต่อได้ที่  โทร/แฟกซ์ : 036 -451-020, 08-9742-0729  ต่อ 101,102,
08-9742-0730, 08-9742- 0731   
หรือสามารถติดต่อทางอีเมล์เฉพาะเรื่องได้ดังต่อไปนี้

Credit by : http://www.mahamodo.com/modo/dhama_bud/bud_history/history.asp
เรียนขออนุญาตนำมาเผยแพร่..
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 07, 2011, 01:59:37 pm โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 6 พระโพธิสัตว์ประทับอยู่ในพระครรภ์ครบบริบูรณ์ 10 เดือน
พระโพธิสสัตว์ขณะอยู่ในพระครรภ์
         ในภาพ แสดงถึงพระบุญญาธิการพระสิริมหามายาพุทธมารดา ระหว่างทรงครรภ์ ทรงมองเห็นพระโอรส พระโอรสนั้นประทับอยู่ในพระครรภ์ดุจห้องพระเจดีย์ และมีเหล่าท้าวจตุมหาราชาทั้ง ๔ ถวายการอารักขาความปลอดภัยแก่พระโพธิสัตว์และพระมารดาตลอดเวลา ทั้งกลางวัน กลางคืน ระหว่างที่ทรงบริหารครรภ์อยู่ครบบริบูรณ์ ๑๐ เดือน





ภาพที่ 7 พระกุมารโพธิสัตว์ประสูติแล้วเสด็จพระราชดำเนิน ๗ ก้าว มีดอกบัวทิพย์รองรับพระบาท
พระประสูติการพระโพธิสัตว์
         ในภาพ พระนางเจ้าสิริมหามายายื่นพระหัตถ์โน้มกิ่งสาละประสูติพระโพธิสัตว์ซึ่งเสด็จออกมาทางด้านขวาแห่งพระชนนี พระกุมารนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปได้ ๗ ก้าว ก็มีดอกบัวทิพย์รองรับพระบาททรงเปล่งพระวาจา อันอาจหารเป็นเบื้องต้นว่า ในโลกนี้เราเป็นยอด เป็นผู้เจริญที่สุด เป็นผู้ประเสริฐที่สุดการเกิดของเรานี้เป็นครั้งสุดท้ายภพใหม่ต่อไปไม่มี





ภาพที่ 8 สหชาติทั้ง 7 ที่บังเกิดขึ้นพร้อมกับการประสูติของพระโพธิสัตว์
สัตตสหชาติพระโพธิสัตว์
         ในภาพ แสดงถึงบุคคลที่เป็นบริวารแวดล้อมอยู่ในฐานะต่าง ๆ มีอุปการคุณต่อพระโพธิสัตว์รวมถึงม้ามงคลไม้มหาโพธิ และพระราชทรัพย์ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมพระโพธิสัตว์ผู้ซึ่งจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย





ภาพที่ 9 อสิตดาบสทำนายพระลักษณะมหาบุรุษ พระโพธิสัตว์ แสดงปาฏิหาริย์ปรากฏเหนือมวยผมของดาบส
อสิตดาบสทำนายมหาปุริสลักษณะ
         ในภาพ พระโพธิสัตว์ทรงแสดงปาฏิหาริย์ให้อสิตดาบสทราบว่าพระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ โดยเสด็จไปประทับอยู่ยอดมวยผมของพระดาบส พระดาบสตกใจ พนมมือยอมรับฐานะ ส่วนพระราชบิดาได้ไหว้พระโอรสเป็นครั้งที่ ๑ ขณะนั้นพระราชมารดาสิริมหามายาประทับอยู่ด้านซ้ายของพระราชา และมหาปชาบดี ประท้บอยู่ด้านขวา





ภาพที่ 10 พราหมณ์ทั้ง 8 ทำนายพระลักษณะว่า
ถ้าทรงครองราชย์จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าทรงผนวช
จะเป็นพระพุทธเจ้ามหาศาสดาของโลก
พราหมณ์ทั้ง ๘ ทำนายมหาปุริสลักษณะ
         ในภาพ พราหมณ์ทั้ง ๘ ทำนายมหาปุริสลักษณะ พราหมณ์คนที่อยู่ใกล้พระราชกุมารที่สุดชื่อโกณฑัญญะพราหมณ์ เป็นผู้ทำนายว่าจะเสด็จออกผนวช และจะทรงบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาที่ยิ่งใหญ่ระหว่างนี้พระราชมารดาสิริมหามายายังดำรงพระชนม์อยู่


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 09, 2011, 12:38:31 pm โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 11 พระราชกุมารสิทธัตถะทรงเจริญฌานได้บรรลุ
ถึงขั้นปฐมฌาน เมื่อพระชนม์ 7 พรรษา
ปฐมญาณในวัย ๗ พรรษา
         ในภาพ พระราชกุมารสิทธัตถะทรงเจริญฌาณได้บรรลุถึงขั้นปฐมณาน เกิดฤทธิ์ทางใจ อันเกิดจากการหลุดพ้นแห่งจิตที่เป็นณาน ทรงแผ่กสิณไปกำหนดให้เกิดเงาของร่มหว้าดุจเงาตอนเที่ยงพระเจ้าสุทโธทนะทรงเห็นเป็นมหัศจรรย์ ได้ถวายบังคมพระโอรสเป็นครั้งที่ ๒





ภาพที่ 12 พระราชกุมารสิทธัตถะช่วยชีวิตหงส์ที่บาดเจ็บจากศร
ของเจ้าชายเทวทัตต์
น้ำพระทัยเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อวัย ๑๒ พรรษา
         ในภาพ แสดงถึงการวินิจฉัยข้อพิพาทเรื่องหงส์ระหว่างเจ้าชายสัทธัตถะที่ประทับอยู่บนพระราชอาสน์ ทรงสวมภูษิตอาภรณ์สีน้ำเงินในอาการที่สงบสำรวม มีหงส์ซึ่งได้รับบาดเจ็บและเจ้าชายเทวทัตต์ที่ทรงถือศรเป็นอาวุุธประหารสัตว์นั้น ส่วนพรหมณ์ปุโรหิตนั่งอาสนะพิพากษาตัดสินว่าหงส์เป็นสิทธิ์ของเจ้าชายผู้ให้ชีวิตรอด





ภาพที่ 13 เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสวยสุขในปราสาท ๓ ฤดู คือ
ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ปราสาทเหล่านั้น
มีชื่อว่า รมยปราสาท สุรมยปราสาท และ สุภปราสาท ตามลำดับ
เจ้าชายสัทธัตถะทรงเสวยสุขในปราสาท ๓ ฤดู
         ในภาพ เสดงถึงพระโพธิสัตว์เสวยสุขสมบัติในปราสาทหนึ่งในฤดูร้อน ทรงได้รับการบำเรอด้วยหมู่สตรีงามที่ทำหน้าที่ต่าง ๆ กัน เช่น ฟ้อนรำ ขับกล่อมด้วยการขับร้องและเล่นดุริยดนตรีอันประณีตพระโพธิสัตว์ประทับเอนพระวรกายอยู่บนพระแท่นขณะเสวยกามสุขทางรูป รส กลิ่น เสียง และผัสสะ ที่พระราชบิดาประสงค์จักให้เป็นเจ้าชายทรงยึดติดอยู่แต่ในสิ่งที่งดงาม ยินดี และน่าลุ่มหลง อันเป็นเหตุที่จะให้ครองฆราวาส เป็นพระบรมมหาจักรพรรดิราช





ภาพที่ 14 เจ้าชายสิทธัตถะทรงประลองการยิงธนูที่มีน้ำหนักมาก
มีชื่อว่า สหัสสถามธนู ซึ่งใช้คน 1000 คนจึงยกขึ้นได้
พระโพธิสัตว์ทรงประลองศิลปศาสตร์การยิงธนู
         ในภาพ พระโพธิสัตว์ทรงยืนแสดงการยิงธนูพุ่งจากแหล่งไปยังขนหางจามรีในเวลาพลบค่ำ เป็นอัจฉริยภาพความสามรถพิเศษที่มิได้มีในบุคคลทั้วไป ในการสำแดงศิลปศาสตร์การยิงธนูอย่างพิเศษประเสริฐยิ่งนี้ กระทำในทามกลางหมู่พราหมณ์คหบดี ทำให้เกิดความปลาบปลื้มยินดีว่า พระองค์ทรงเป็นมหาบุรุษผู้จะทรงเป็นพระมหาจักรพรรดิราชได้





ภาพที่ 15 เจ้าชายสิทธัตถะทรงเลือกพระนางพิมพาเป็นพระชายา
ด้วยการพระราชทานสร้อยพระศอ
พระโพธิสัตว์ทรงเลือกคู่
         ในภาพ พระโพธิสัตว์เสด็จประทับบนบัลลังก์ มีหมู่สตรีที่ไเดินผ่านพระพักตร์ และพระนางพิพาที่ได้รับซองพระราชทานรางวัลเป็นสร้อยพระศอเป็นคนสุดท้าย ซึ่งต่อมาได้รับการอภิเษกเป็นพระอัครมเหสี

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 09, 2011, 01:48:23 pm โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 16 เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประพาสอุทยาน
ทอดพระเนตรนิมิต 4 ประการ คือ
คนแก่ คนเจ็บป่วย คนตาย และบรรพชิต
พระโพธิสัตว์เสด็จประพาสอุทยาน พบนิมิตร ๔
         ในภาพ แสดงการได้พบเห็นนิมิต ๔ ในการประพาสอุทยานหลวง โดยเทพยดานิรมิตขึ้นเพื่อให้พระโพธิสัตว์ทรงเกิดปัญญาเห็นอย่างลึกซึ้ง รูปบรรพชิตเป็นรูปสุดท้ายที่ทรงยึดถือเอาว่าเป็นรูปนิมิตที่น้อมอารมณ์ไปสู่ความสงบสุข เป็นหนทางหนึ่งของการค้นหาความจริงในทุกข์ที่มนุษย์ได้เผชิญอยู่





ภาพที่ 17 เจ้าชายสิทธัตถะทรงสดับคำนิมิต "นิพพาน"
จากพระนางกีสาโคตมี
พระโพธิสัตว์ได้คำนิมิต "นิพพาน"
         ในภาพ พระโพธิสัตว์เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชนิเวศน์พร้อมหมู่อำมาตย์ ส่วนขัตติยนารีที่ประทับอยู่่ช่องพระบัญชรคือ พระนางกีสาโคตมี ผู้กล่าวคำอุทานชมพระสิริโฉมของพระโพธิสัตว์





ภาพที่ 18 เจ้าชายสิทธัตถะทรงเบื่อหน่ายกามคุณ ๕
ทรงเห็นพระสนมมีอาการน่ารังเกียจ
พระโพธิสัตว์ทรงเบื่อหน่ายกามคุณ ๕
         ในภาพ พระโพธิสัตว์ประทับอยู่บนบัลลังก์ เมื่อตื่นแล้่วทรงเห็นสนมมีอาการน่ารังเกียจ ความสลดสังเวชก็เกิดขึ้นทำให้การปลุกเร้าเกิดพุทธภาวะมากขึ้น และทรงคิดหาหนทางพ้นทุกข์ ภาพนางสมน ๕ คนมีความหมายว่าเป็นกามคุณ ๕ อันเป็นกามฉันทะ ส่วนม้ากัณฐกะที่ยืนนั้นตื่นตัวอยู่ เป็นนิมิตว่าจะทรงได้คิดในการเสด็จลอบออกจากพระราชวังไปผนวช





ภาพที่ 19 พระโพธิสัตว์ทรงตัดสินพระทัยจะออกผนวช
ขณะที่มีพระชนม์ 29 พรรษา วันเดียวกับที่พระโอรสราหุลประสูติ
พระโพธิสัตว์ทรงตัดสินพระทัยจะออกบวช
         ในภาพ พระโพธิสัตว์เสด็จยืนอยู่หน้าธรณีพระทวารประตูห้องพระบรรทมยโธราพิมพา ทรงทัศนาพระโอรสอย่างเพ่งพินิศ แล้วได้ตัดสินพระทัยเสด็จออกผนวช โดยเวลานั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนของวันเพ็ญ เดือน ๘ ขณะที่มีพระชนมายุ ๒๙ พรรษา





ภาพที่ 20 พระโพธิสัตว์เสด็จออกผนวชโดยประทับบนหลังม้ากัณฐกะ
พร้อมกับนายฉันนะ และมีเหล่าเทพตามเสด็จ
เสด็จมหาภิเนษกรมณ์
          ในภาพ เป็นขบวนออกบวชของพระโพธิสัตว์สิทธัตถะ พระองค์เสด็จประทับหลังพญาม้ากัณฐกะเหาะไปทางอากาศ เป็นอภินิหาร มีความหมายว่าทรงข้ามโอฆสงสาร หรือการข้ามสังสารวัฎ ประมุขเทพอันมีพระอินทร์ถวายการถือฉัตรกั้น และท้าวมหาพรหมชื่อฆฎิการพรหมทรงถือเครื่องอัฐบริขารเหาะเสด็จไปเบื้องหน้า ที่มุมบนของภาพมีพระยามาร ชื่อวัสสวดีมารคอยติดตามขัดขวางด้วย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 09, 2011, 04:02:55 pm โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 21 พระโพธิสัตว์ตัดพระเมาลีอธิษฐานเพศเป็นนักบวช
พระอินทร์และพระพรหมเสด็จมารับมวยพระเกศา
เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ เทวโลก
ตัดพระเมาลีอธิษฐานเพศเป็นนักบวช
         ในภาพ พระโพธิสัตว์ทรงกระโดดขึ้นประทับบนเนินทรายอธิษฐาน เพศเป็นนักบวชโดยตัดพระเาลี และวตรัสสั่งให้นายฉันนะนำเครื่องทรงบางส่วนพร้อมม้ากัณฐกะกลับไปยังพระนคร พระอินทร์และพราหมณ์เสด็จมารับมวยพระเกศาและผ้าทรงไปประดิษฐานยังเทวโลก





ภาพที่ 22 พระโพธิสัตว์ทรงบิณฑบาตรและฉันในบาตรเป็นครั้งแรก
ทรงบิณบาตครั้งแรก
         ในภาพ แสดงถึงการฉันข้าวในบาตรครั้งแรกของพระโพธิสัตว์ ในอาหารปนเปคลุกเคล้ากันเป็นอาหารชาวบ้าน ซึ่งทรงเตือนสติตนเองว่าการที่ภิกษุบิณฑบาตรได้อาหารก็เพื่อให้มีชีวิตอยู่ การค้นพบคือการตรัสรู้ยิ่งในความจริงนั้นสำคัญยิ่งกว่าจึงควรรักษาชีวิตไว้และยินดีในการที่จะฉันอาหารนั้น





ภาพที่ 23 พระโพธิสัตว์ทรงศึกษาในสำนักอาฬารดาบส และอุททกดาบส
รามบุตร อาจารย์ผู้สอนสมาบัติ ณ กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ
ศึกษาธรรมลัทธิในสำนักอาฬารกาลามดาบส และอุททกรามบุตรดาบส
         ในภาพ พระโพธิสัตว์ทรงเลือกเขาศึกษาในสำนักครูที่มีชื่อเสียงในราชคฤห์ เพื่อศึกษาธรรมลัทธิสำหรับเป็นอุบายธรรม ทรงเข้าศึกษาในสำนักอาฬารกาลามดาบสเป็นสำนักแรก ซึ่ง เน้นการปฏิบัติทางบำเพ็ญจิตโดยเจริญสมาธิเกิดณานสมาบัติ ๗ แล้วทรงศึกษาต่อในสำนักอุททกรามบุตรสำเร็จสมาบัติ ๘ ทรงศึกษาปฏิบัติได้เทียนบเท่าครู แต่ทรงเห็นว่าน่าจะมีหนทางในวิธีปฏิบัติให้บรรลุได้ยิ่งกว่า จึงเสด็จไปบำเพ็ญตบะด้วยตนเองตามลำพัง





ภาพที่ 24 พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยาด้วยวิธีการต่างๆ
ตลอด 6 ปี โดยมีหมู่ปัญจวัคคีย์คอยเฝ้าปรนนิบัติ
บำเพ็ญอย่างอุกฤษฎ์
         ในภาพ พระโพธิสัตว์ทรงกระทำความเพียรอุกฤษฎ์จนพระวรกายเหี่ยวแห้ง มีหนังติดกระดูก ลักษณะมหาปุริสลักษณะหายไป หมู่ปัญจวัคคีย์ที่คอยเฝ้าปรนนิบัติอยู่เชื่อว่าพระองค์จะทรงบรรลุ ในที่สุดทรงค้นพบว่าวิธีปฏิบัตินี้เป็นทางสุดโต่ง ทำให้ตนเองลำบากไม่ใช่หนทางพ้นทุกขน์ทรงพบว่าควรปฏิบัติเป็นทางสายกลาง คือไม่ตกไปทางใดทางหนึ่ง





ภาพที่ 25 พระโพธิสัตว์ทรงสดับพิณ 3 สายที่เทวดาดีดถวาย
แล้วทรงวินิจฉัยว่า สายที่ 1 ตึงเกินไปดีดไม่นานก็ขาด
สายที่ 2 หย่อนเกินไปดีดไม่มีเสียง สายที่ 3 ขึงได้พอดีดีดได้ไพเราะ
ทรงระลึกถึงความพอดีอันเป็นทางสายกลางว่าอาจนำไปสู่การปฏิบัติ
เพื่อความหลุดพ้นได้
นิมิตทางสายกลาง
         ในภาพ พระโพธิสัตว์ทรงใสยาสน์ เป็นนิมิตว่าหากจะทรงปฏิบัติเคร่งอย่างอุกฤตก็จะทรงสิ้นชีวิตไปอย่างสูญเปล่่า ทรงได้ปัญญาจากนิมิตทางสายกลางโดยพระอินทร์ราชเจ้าทรงดีดพิณเป็นนัยว่า ความไม่หย่อน ไม่ตึงในการปฏิบัติ โดยอบรมกายอินทรีย์็และการบำเพ็ญจิตนั้นต้องสมดุลและเมื่ออินทรีย์แก่กล้าแล้วเจริญวิปัสสนาจึงจะนำไปสู่การตรัสรู้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 05:24:40 am โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 26 พระโพธิสัตว์ทรงพระสุบินนิมิต 5 ประการ
ที่พระโพธิสัตว์ได้เกิดนิมิตขึ้นคืนก่อนจะได้ตรัสรู้เกิดขึ้นในสมัยพระพุทธเจ้า และทรงตั้งศาสนาขึ้น




ภาพที่ 27 พระโพธิสัตว์ทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา โดยนาง
ได้หุงข้าวด้วยนมวัวที่เตรียมจากแม่วัว 1000 ตัว
พระโพธิสัตว์ทรงรับการถวายข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา
ในภาพ พระโพธิสัตว์ประทับใต้โคนไม้ไทร ทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา ซึ่งนางได้ถวายไปพร้อมถาดทอง ส่วนสาวใช้ชื่อปุณณาซึ่งนั่งอยู่ข้างหลัง เมื่อนางสุชาดาได้ทำพลีกรรมเสร็จแล้ว นางยกย่องแต่งตั้งให้เป็นน้องสาว





ภาพที่ 28 พระโพธิสัตว์ทรงลอยถาดทอง (ที่ทรงรับจากนางสุชาดา
พร้อมกับข้าวมธุปายาส) อธิษฐานเสี่ยงทายการตรัสรู้ว่า
หากพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าขอให้ถาดทองนั้นลอยทวน
กระแสน้ำ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา
ทรงอธิฐานเสียงทายการตรัสรู้
ในภาพ พระโพธิสัตว์เสด็จไปยังริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เพื่ออธิษฐานเสี่ยงทายการตรัสรู้โดยลอยถาดทองคำ ถาดทองนั้นแล่นทวนกระแสเป็นนิมิตความหมายว่่า "ได้ตรัสรู้" เพื่อนำไปแก้ปัญหาความพ้นทุกข์ คือการข้ามพ้นไปจากการเวียนเกิดเวียนตาย (นิพพาน)





ภาพที่ 29 พระโพธิสัตว์ทรงรับหญ้าคา 8 กำ จากโสตถิยะพราหมณ์
ในเวลาเย็นของวันเพ็ญเดือนหก
ทรงรับการถวายหญ้ากุสะ ๘ กำจากโสตถิยพราหมณ์
ในภาพ พระโพธิสัตว์ทรงรบหญ้ากุสะ ๘ กำ (ฟ่อน) จากโสตถิยพราหมณ์ และนำไปอธิษฐานเป้นรัตนบัลลังก์ยังทิศตะวันออกของโคนไม้มหาโพธิพฤกษ์





ภาพที่ 30 พระโพธิสัตว์ทรงผจญพญามาร ทรงชนะมารด้วยทศบารมี
ที่ทรงบำเพ็ญมานับประมาณไม่ได้

ทรงผจญมารและพิชิตมาร
ในภาพ พระโพธิสัตว์ประทับ ณ รัตนบัลลังก์ใต้ร่มมหาโพธิพฤกษ์ทรงอ้างถึงทศบารมีที่กระทำมานับไม่ถ้วน พระแม่ธรณีสุนทรีย์ทรงบีบมวยผมปรากฏน้ำไหลออกมาท่วมหมู่มารให้พ่ายแพ้ ส่วนพญามารมีจิตโกรธเป็นสีแดง แต่ด้วยพระโพธิสัตว์ทรงพระปัญญาและทศบารมีจึงทำให้มารนั้นแพ้พ่ายไปในที่สุด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 19, 2011, 10:48:02 am โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 31 พระโพธิสัตว์ทรงตรัสรู้อริยสัจสี่
สำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระศาสดาเอกของโลก ในวันเพ็ญเดือนหก
ทรงตรัสรู้เป็นพระอนุตรสัมมาสัมพุธเจ้า
ในภาพ หลังทรงตรัสรู้แล้วประทับ ณ รัตนบัลลก์ใต้ร่มมหาโพธิ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราเสวยสุขอันประณีต ๑ สัปดาห์ฺนับเป็นกาลสมัยอับัติขึ้นของพระพุทธเจ้าผู้มีพระนามว่าพระศรีศากยโคดมพุทธเจ้า





ภาพที่ 32 ท้าวสหัมบดีพรหมอาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แสดงพระธรรมโปรดสัตว์โลก
ท้าวสหัมบดีพรหมอาราธนาแสดงธรรม
ในภาพ พระพุทธเจ้ารับอาราธนาแสดงธรรมในท่าประทานพรพิจารณาหมู่เวไนยสัตว์แล้ว





ภาพที่ 33 พระพุทธองค์ทรงพิจารณาหมู่เวไนยสัตว์ที่สามารถรู้
ตามธรรมที่ทรงแสดงได้ เปรียบประดุจบัว 4 เหล่า
ทรงพิจารณาเวไนยสัตว์ ๔ ผู้จะรองรับพระสัทธรรมได้
ในภาพ พระพุทธองค์ได้ทรงเพ่งพินิจไปยังบัวที่อยู่ริมน้ำ เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เวไนยสัตว์ ๔ เหล่าที่ทรงจะได้มีพุทธกิจเสด็จไปโปรด





ภาพที่ 34 พระพุทธองค์ทรงรับไม้สีพระทนต์และผลสมอจาก
ท้าวสักกเทวราช ทรงอธิษฐานบาตรสี่ใบจากท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4
ให้เป็นใบเดียว
ทรงอธิษฐานบาตร
ในภาพ พระุพุทธเจ้าทรงออกจากณานสมาบัติในวันที่ ๔๙ ขณะนั้นประทับอยู่ใต้ร่มเกด พระอินทร์ได้นำไม้สีพระทนต์ และผลสมอมาถวายส่วนท้าวจตุโลกบาลที่กำลังเสด็จเหาะมา ได้นำบาตรแก้วอินทนิลมาถวาย





ภาพที่ 35 พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5
พระโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นอริยสาวกองค์แรก
ในพระพุทธศาสนา
ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์
ในภาพ พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาครั้งแรกในหมู่ปัญจวัคคีย์ โกณฑัญญะบรรลุเป็นพระอริยสาวกองค์แรก นั้่งอยู่ด้านขวาของพระพุทธเจ้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 19, 2011, 10:57:02 am โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 36 พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดยสะ
และบิดามารดาของยสะ
โปรดยสะกุลบุตร
ในภาพ พระพุทธองค์ทรงแสดงพระสัทธรรมเทศนาโปรด ยสะ บิดา มารดา ของยสะ โดยได้กำลังกายยสะไว้ ยสะได้ฟังธรรมรอบที ๒ ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ต่อมาขอบวชพร้อมสหาย ๔๕ คน เมื่อบวชแล้วได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น





ภาพที่ 37 พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดยักษ์ชื่ออาฬวก
โปรดอาฬวกยักษ์
ในภาพ พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดยักษ์ชื่ออาฬวกยักษ์ เป็นนัยความหมายว่่า ทรงล้างความเห็นผิดของชนพื้นเมืองขณะนั้นที่นับถือในศาสนาเทพศิวะ มีพิธีเซ่นสังเวยมนุษย์เป็นพลีกรรม ซึ่งการฆ่าเป็นอกุศลอย่างยิ่ง เป็นมิจฉาทิฎฐิ





ภาพที่ 38 พระพุทธองค์โปรดชฎิล ๓ พี่น้องพร้อมบริวาร
ที่ตำบลคยาให้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ 1000 รูป
โปรดชฎิล ๓ พี่น้องที่ตำบลคยา
ในภาพ เมื่อชฎิลผู้น้องที่อยู่ระหว่างกลางแม่น้ำและปลายแม่น้ำทราบว่าผู้พี่บวช ในสำนักพระพุทธองค์แล้ว โดยเห็นเครื่องบริขารของชฎิลลอยตามน้ำมา จึงได้ชักชวนกันไปบวชตามผู้ี่ยังสำนักพระพุทธเจ้า





ภาพที่ 39 พระพุทธองค์แสดงธรรมโปรดพระเจ้าพิมพิสาร
และข้าราชบริพาร พระอุรุเวลกัสสปเถระแสดงฤทธิ์และประกาศ
ความเป็นพระสาวกของพระพุทธองค์
โปรดพระเจ้าพิมพิสารและบริวารที่สวนตาลหมุ่ม
ในภาพ พระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานหมู่สงฆ์สาวก ทรงตั้งอยู่ในฐานะพระศาสดาอุรุเวลกัสสปเถระได้ทรงแสดงฤทธิ์ยืนยันในความเป็นพระสาวก ทำให้พระเจ้าพิมพิสารศรัทธาในพระพุทธเจ้า





ภาพที่ 40 พระเจ้าพิมพิสารถวายสวนหลวงเวฬุวันเป็นสังฆาราม
แห่งแรกแด่คณะสงฆ์
พระเจ้าพิมพิสารถวายเวฬุวันเป็นสังฆารามแห่งแรก
ในภาพ พระเจ้าพิมพิสารทรงถือสุวรรณภิงคาร หลั่งอุทกะาราลงบนพระหัตถ์พระพุ่ทธเจ้า ถวายที่ดินคือสวนหลวงเวฬุวสันให้เป็นที่ตั้งเสนาสนะแด่คณะสงฆ์เป็นแห่งแรก และได้มีการถวายตัวเป็นผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 19, 2011, 11:05:32 am โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 41 พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดพระสารีบุตรเถระ ณ ถ้ำสุกรขาตา
เชิงเขาคิชฌกูฏ
ทรงได้พระอัครสาวกคู่
ในภาพ พระพุทธเจ้าเสด็จไปโดยฤทธิ์เพื่อโปรดพระสารีบุตรซึ่งได้บรรลุช้า ขณะที่ท่านบำเพ็ญเพียรอยู่ถ้ำหมูขุดที่เชิงเขาคิชฌกูฎ ใกล้ที่ประทับของพระพุทธเจ้า ณ นครราชคฤห์





ภาพที่ 42 พระพุทธองค์ทรงบัญญัติให้สงฆ์ประชุมกันเพื่อสวดปาฏิโมกข์
ปักษ์ละ 1 ครั้ง คือ ทุก 14 ค่ำ หรือ 15 ค่ำ
ทรงบัญญัติสิกขาบทให้ลงสวดพระปาฎิโมกข์ครั้งแรก
ในภาพ พระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานนำสวดญัตติอุโบสถกรรมเป็นครั้งแรก ซึ่งกำหนดเป็นสิกขาบทให้ลงสวดทุกกึ่งเดือนระหว่างเข้าพรรษา การลงสวดครั้งแรกนี้ พระสารีบุตรได้บรรลุพระอรหันต์และอยู่ในที่ประุชุมด้วย





ภาพที่ 43 พระพุทธองค์ทรงแต่งตั้งพระสารีบุตรเถระเป็นพระอัครสาวก
ฝ่ายขวา พระโมคคัลลานะเถระเป็นพระอัครสาวกฝ่ายซ้าย
ทรงแต่งตั้งพระอัครสาวกคู่บริหารคณะสงฆ์
ในภาพ พระพุทธเจ้าทรงแสดงกิริยาชี้พระหัตถ์ฺไปที่พระอัครสาวกมีความหมายว่า ทรงได้แต่งตั้งให้พระสารีบุตรเป็นพระอัครสาวกฝ่ายขวา (ชี้ด้านขวา) พระโมคคัลลานะเป็นพระอัครสาวกฝ่ายซ้าย (ชี้ด้านซ้าย)





ภาพที่ 44 วันจาตุรงคสันนิบาต
พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม “โอวาทปาติโมกข์” ในวันนี้
วันจาตุรงคสันนิบาต ประกอบด้วยองค์ 4 คือ
1) พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" คือเป็นผู้ที่
ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า
2) พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็นผู้ได้อภิญญา 6 คือหูทิพย์ ตาทิพย์
ระลึกชาติได้ แสดงฤทธิ์ได้ รู้จักกำหนดใจผู้อื่น
และทำอาสวะกิเลสให้สิ้นไป
3) พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป ต่างมาประชุมพร้อมเพรียงกัน
โดยมิได้มีการนัดหมาย
4) พระจันทร์เต็มดวงเสวยมาฆฤกษ (วันเพ็ญกลางเดือน 3)
ในภายหลังเรียกว่า วันมาฆบูชา
จาตุรงคสันนิบาต
ในภาพ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระสัจจธรรมให้โอวาทแก่พระอรหันต์ในที่ประชุม ๑,๒๕๐ องค์ โดยแสดงด้วยเครื่องหมายพระหัตถ์ที่นิ้ว (๔ นิ้วที่ยกขึ้น) วันนั้นเป็นวันเพ็ญ เดือน ๓ พระอรหันต์ได้มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย เป็นอัศจรรย์





ภาพที่ 45 พระกาฬุทายีเถระนำบิณฑบาตจากพระราชนิเวศน์
กรุงกบิลพัสดุ์ ที่พระเจ้าสุทโธทนะพระพุทธบิดาจัดถวาย
เหาะไปถวายพระพุทธองค์ระหว่างเส้นทางเสด็จสู่กรุงกบิลพัสดุ์
เป็นประจำทุกวัน
กาฬุทายีเถระถวายบาตร
ในภาพ พระกาฬุทายีเถระได้เหาะไปบิณฑบาตในพระราชวังหลวง แล้วนำบาตรที่พระราชบิดาใส่มาถวายพระพุทธเจ้า เป็นเหตุการณ์ระหว่างเสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 19, 2011, 11:15:19 am โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7164
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




ภาพที่ 46 พระพุทธองค์กำลังเสด็จเดินจงกรมในเวลาจวนสว่าง
เมื่อทอดพระเนตรเห็นอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระองค์เสด็จลง
จากที่จงกรมแล้วตรัสเรียกว่า มานี่เถิด สุทัตตะ ครั้นแล้วทรงแสดง
อนุปุพพิกถาให้อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ดวงตาเห็นธรรม
สุทัตตะเข้าเผ้าพระพุทธเจ้าครั้งแรก
ในภาพ สุทัตตะหรืออนาถบิณฑิกเศรษฐีได้พบพระพุทธเจ้าครั้งแรกที่ป่าสีตวัน ซึ่งทรงเดินจงกรมอยู่ ในการเข้าเผ้าครั้งแรกนี้ทำให้สุทัตตะเข้าถึนงพระสัจจธรรมแล้วถวายตนเป็นอุบาสก





ภาพที่ 47 พระพุทธองค์ทรงแสดงปาฎิหาริย์ในที่ประชุมหมู่พระญาติ
ณ กรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อให้หมู่พระญาติสิ้นทิฏฐิมานะ
ถวายบังคมพร้อมกัน
อิทธิปาฎิหารย์ในที่ประชุมหมู่พระญาติที่กบิลพัสตุ์
ในภาพ พระพุทธเจ้าทรงแสดงอิทธิปาฎิหารย์ปราบทิฎฐิมานะ ของเหล่าพระประยูรญาติ รวมทั้งพระพุทธบิดา โดยเสด็จเหาะไปเดินจงกรมบนอากาศ แล้วทำให้ฝุ่นธุลีตกลงบนพระ เศียร ในครั้งนั้นเกิดฝนโบกขรพรรษตกเป็นมหัศจรรย์





ภาพที่ 48 พระพุทธองค์เสด็จบิณฑบาตรในกรุงกบิลพัสดุ์พร้อมหมู่สงฆ์
พระเจ้าสุทโธทนะตรัสว่าผิดธรรมเนียมของกษัตริย์ขัตติยวงศ์
พระพุทธองค์ตรัสตอบว่ามิใช่ธรรมเนียมของขัตติยวงศ์ก็จริง แต่เป็น
ธรรมเนียมของพุทธวงศ์ เป็นพุทธประเพณีของพระพุทธเจ้า
ทั้งหลาย พระพุทธองค์ประทับยืนตรัสพระธรรมเทศนาแก่พระเจ้าสุทโธทนะ
พอจบพระธรรมเทศนา พระเจ้าสุทโธทนะได้ทรงบรรลุโสดาปัตติผล
ในขณะที่ประทับยืนอยู่นั่นเอง
เสด็จบิณฑบาตชานเมืองราชคฤห์
พระพุทธเจ้าเสด็จบิณฑบาตซานกรุงกบิลพัสดุ์พร้อมพระสาวก 2.000 รูป พระบิดาสุทโธทนะเสด็จไปตัดพ้อติเตียนความประพฤติภิกขาจาร (บิณฑบาต) พระพุทธองค์ตรัสว่า “เป็นพุทธประเพณี” ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต





ภาพที่ 49 พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดพระนางพิมพาและพระราหุลราชกุมาร
เสด็จไปโปรดพิมพาเทวีและราหุล
พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระนางพิมพาและราหุลที่พระตำหนังพร้อมสาวก ครั้งนั้นพระพุทธบิดาเสด็จนำไป พระพุทธองค์ทรงแสดงเทศนาโปรดพิมพาเรื่อง “จันทกินรีชาดก” อันเป็นเรื่องคุณความดีของพระนางในอดีตชาติที่มีคุณต่อพระองค์





ภาพที่ 50 พระพุทธองค์ทรงโปรดให้บวชพระนันทราชอนุชา และให้
พระสารีบุตรเถระเป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาให้พระราหุล
เป็นสามเณรรูปแรกในพระศาสนา
ทรงบวชเจ้าชายนันทะและพระโอรสราหุล
พระพุทธเจ้าประทับอยู่นิโครธาราม ๒ เดือน ในครั้งนั้นทรงบวชให้พระนันทราชอนุชา และให้พระสารีบุตรเป็นอุปัชฌาย์บวชให้พระราหุลเป็นสามเณร (อนุสัมปัน) รูปแรกในพระศาสนา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 19, 2011, 11:30:45 am โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...