ผู้เขียน หัวข้อ: ปาฏิหารย์แห่งความรัก ตอน ปฐมบทแห่งความรักและความทรงจำ  (อ่าน 13889 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนุษย์ค้างคาว

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 27
  • พลังกัลยาณมิตร 16
    • ดูรายละเอียด
>>>>>สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ใต้ร่มธรรมหลังจากผมได้นำเสนอบทความเรื่อง ปาฏิหารย์แห่งความรักครั้งที่ 2 ไปแล้วนั้น อาจจะมีหลายคนสงสัยว่าทำไมเรื่องราวแค่นี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปาฏิหารย์ เพราะอ่านดูแล้วมันก็เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปสำหรับคนอื่น แต่อยากจะบอกอย่างนี้นะครับสำหรับคนอื่นแล้วเรื่องแบบนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผมแล้วนั้นผมถือว่ามันเป็นปาฏิหารย์ก็ว่าได้ เพราะในชีวิตของผมเหตุการณ์และเรื่องราวแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นมาบ่อยเท่าไหร่นัก และไม่แน่ว่าครั้งที่ 2 นี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็เป็นได้.

>>>>>ส่วนสำหรับบางคนที่สงสัยว่าทำไมถึงได้นำเสนอปาฏิหารย์แห่งความรักครั้งที่ 2 ขึ้นมาแล้วครั้งที่ 1 หายไปไหน สาเหตุที่นำครั้งที่ 2 ขึ้นมาก่อนก็เพราะว่าเรื่องที่เกิดมีระยะเวลาสั้นอาจจะทำให้การดำเนินเรื่องไม่น่าติดตาม วันนี้ผมจะมานำเสนอปาฏิหารย์แห่งความครั้งแรก โดยใช้ชื่อตอนว่า ปฐมบทแห่งความรักและความทรงจำ

>>>>>ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมก็ยังเชื่อและยืนยันคำเดิมว่าความรักในโลกอินเทอร์เน็ทนั้นมีอยู่จริง เพียงแต่ใครจะได้เจอหรือได้สัมผัสเท่านั้น และก็อยากจะบอกย้ำอีกครั้งว่า ความรักไม่เคยทำร้ายเรา มีแต่เราที่ทำร้ายความรัก

>>>>>เรื่องราวที่เกิดขึ้นมานี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับผมและผมจะไม่มีวันลืมเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น จนกว่าลมหายใจผมจะหมดลง

ปาฏิหารย์แห่งความรัก ตอน ปฐมบทแห่งความรักและความทรงจำ
>>>>>ผมเป็นคน กทม โดยกำเนิด เป็นพนักงานบริษัทในกทมโดยประจำอยู่ตามไซร์งานก่อสร้าง หรือแล้วแต่ทางบริษัทจะจัดส่งไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งตัวผมก็ยังทำงานแบบนี้อยู่เพียงแต่คนละสถานที่เท่านั้นเอง ซึ่งขณะนั้นผมประจำอยู่ที่ไซร์งานในกทม ชีวิตในแต่ละวันของผมไม่ได้ตื่นเต้น หวือหวาหรือมีอะไรที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลกแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ทุกวัน ซึ่งคงเป็นเหมือนมนุษย์ทำงานใน กทม ทั่วๆไปคือเช้าไปทำงานและตกเย็นก็กลับบ้าน ต้องทนรับกับการจราจรที่ติดขัดรวมถึงควันพิษจากรถยนต์ แต่ใช่ว่าผมจะเจอแบบนี้คนเดียวซึ่งมนุษย์ทำงานใน กทม ทุกคนก็เป็นแบบผมเช่นกัน ผมไม่ค่อยได้มีเวลาที่จะร่วมพบปะหรือสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเท่าไหร่นัก อาจจะเป็นเพราะเวลาของผมนั้นค่อยข้างจะถูกจำกัดและมักไม่ค่อยจะตรงกันกับคนอื่นเนื่องมาจากงานที่ทำอยู่ จะมีแต่เพียงเพื่อนที่ทำงานร่วมกันไม่กี่คนที่พอจะได้พบปะพูดคุยหรือแม้จะสังค์สรรคบ้างเป็นบางเวลา นอกจากเพื่อนร่วมงานแล้วถือว่าน้อยมากสำหรับเพื่อนคนอื่นๆ โดยแต่ละวันนั้นผมคิดอย่างเดียวว่าจะต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นๆเท่าไหร่นัก ยิ่งเป็นเรื่องผู้หญิงแล้วดูจะห่างไกลจากตัวผมเหลือเกิน เรื่องแฟนนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ผมมักบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าผมอยากมีแฟนอยากมีเหมือนคนอื่นเขาบ้าง แต่ก็นั่นแหละครับถึงผมจะอยากมีแฟนแค่ไหนก็ตามผมก็ไม่คิดที่จะไปจีบใคร คงเป็นเพราะว่าหน้าตาของผมที่มันทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปจีบสาวคนไหน.
อ่านต่อวันพรุ่งนี้



>>>>>อาจเป็นเพราะผมไม่หล่อมั้งครับความมั่นใจและอะไรหลายๆอย่างก็เลยไม่มีไปด้วย เพราะแบบนี้ผมจึงไม่กล้าไปจีบใคร เพียงแต่หวังว่าสักวันฟ้าคงจะส่งคนที่มองเห็นข้างในตัวผมมากกว่ารูปร่างหน้าตาข้างนอกของผม เมื่อเป็นแบบนี้ผมจึงปล่อยให้เรื่องหัวใจของผมเป็นไปตามธรรมชาติ
>>>>>จากการทำงานของผมที่เข้างานตอนเช้าและเลิกงานตอนเย็น ก็สลับเปลี่ยนมาเข้างานตอนมืดและเลิกงานตอนเช้าตามสภาพของเนื้องาน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับงานของผม และนี่แหละครับเป็นจุดเริ่มต้นที่ชีวิตผมเปลี่ยนไป ซึ่งตอนนี้ผมกลายเป็นมนุษย์กลางคืนไปเสียแล้วละครับ เข้างานตอนมืดเลิกงานตีห้าเป็นแบบนี้ทุกวันเหมือนกับตอนที่ทำตอนเช้าเพียงแต่แตกต่างกันที่เวลาเท่านั้น แน่นอนละครับสำหรับงานตอนกลางคืนจะดีกว่ากลางวันก็ตรงที่งานจะน้อยกว่า ซึ่งคืนนี้ผมทำงานที่ได้รับมอบหมายแล้วเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้ ผมเหลือบมองดูนาฬิกาพึ่งบอกว่าเป็นเวลาตีสามเหลือเวลาอีกตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน ผมนึกออกแล้วผมเข้าไปเล่นแชทดีกว่าอย่างน้อยผมก็คงน่าจะมีเพื่อนคุยฆ่าเวลาได้จะว่าไปแล้วก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียว ผมเข้าไปที่เว็บๆหนึ่งซึ่งผมจำไม่ได้แล้วละครับว่าเป็นเวปอะไรเพียงแต่เวปนี้มีหัวข้อให้คุยแชทกันด้วย ผมจึงเข้าห้องแชทและทำการตั้งชื่อก่อนที่จะเริ่มหาเพื่อนคุย ผมใช้ชื่อว่า " หนุ่มรถไฟ " ครับ หากใครที่เคยดูซีรีย์ญี่ปุ่นเมื่อหลายปีก่อนทางไอทีวีคงจะนึกออกนะครับ สาเหตุที่ผมใช้ชื่อว่าหนุ่มรถไฟก็เพราะว่าเป็นตัวละครพระเอกในเรื่อง ซึ่งเป็นคนที่ไม่หล่อและไม่มีความมั่นใจในตัวเองซึ่งมันเหมือนตัวผมเลย และที่สำคัญเขาก็ได้พบนางเอกซึ่งเป็นคนที่สวย ฐานะดี แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่ทว่านางเอกก็ยังเลือกหนุ่มรถไฟมาเป็นแฟน เพราะว่าเขาไม่ได้ดูที่หน้าตา ผมก็เลยหวังว่าซักวันหนึ่งผมคงจะโชคดีเหมือนกับหนุ่มรถไฟบ้าง นี่แหละครับคือที่มาของชื่อที่ผมใช้สำหรับการเล่นแชท หลังจากผมตั้งชื่อเสร็จแล้วเข้าระบบแชทโดยผมเลือกเข้าห้องคุยทั่วไป บรรยากาศในห้องแชทคนค่อนข้างเยอะพอสมควร มิหนำซ้ำยังเป็นการคุยรวมกันที่หน้าบอร์ดซะอีก ทำให้ข้อความต่างๆของแต่ละคนที่คุยกันปะปน ดูสับสนวุ่นวายไปหมด ผมอ่านข้อความของคนอื่นที่คุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ขอบอกนะครับว่าผมเป็นคนแปลกอย่างหนึ่งเวลาเล่นแชท นั่นก็คือผมจะไม่เข้าไปคุยกับใครก่อน ไม่ต้องสงสัยหรอกครับมันเป็นเรื่องจริง แต่ผมก็มีเหตุผลของผมนะครับคือว่าถ้ามีใครอยากคุยกับเราเขาคงมาคุยกับเราก่อน ตอนนั้นผมคิดอย่างนั้น สิ่งที่ผมทำก็คือผมพิมพ์ข้อความผ่านบอร์ดแชทว่า “สวัสดีครับ ว่างนะครับ คุยกันได้” แล้วก็รอจนกว่าข้อความจะเลื่อนหมดหน้าจอบอร์ด ผมจึงพิมพ์ข้อความเดิมเข้าไปใหม่ ซึ่งหลังจากพิมพ์ข้อความแล้วก็รอการตอบกลับ ปรากฏว่าเงียบไม่มีใครตอบกลับ จนข้อความหมดหน้าผมก็พิมพ์ประโยคเดิมเข้าไปใหม่ จนข้อความผมส่งไปสามสี่รอบก็ยังเงียบอยู่ สงสัยว่าคงจะไม่มีใครอยากคุยกับผมแล้วละมั้งคืนนี้ แต่แล้วโชคก็เข้าข้างผมมีข้อความตอบกลับมาหาผม “สวัสดีค่ะ หนุ่มรถไฟ”

อ่านต่อวันพรุ่งนี้


>>>>>ผมรู้สึกดีใจปนกับสงสัยและคิดในใจว่าเธอคนนี้เป็นใครกัน เพราะอะไรหรือครับที่ทำให้ผมสงสัย ก็เพราะชื่อที่เธอใช้นะสิครับทำให้ผมสงสัย เพราะเธอใช้ชื่อว่า 69 ครับไม่ผิดหรอกครับ ชื่อนี้จริงๆ ผมไม่รู้ว่าใครคิดเหมือนผมหรือเปล่าแต่ในฐานะที่ผมเป็นผู้ชายผมว่าเธอคนนี้ทะลึ่งนะครับที่ใช้ชื่อนี้ หรือผมจะคิดไปเองก็ไม่รู้ ช่างเถอะครับชื่ออะไรก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยคืนนี้ผมก็มีเพื่อนคุยแล้วละ ผมคุยกับเธอเหมือนๆกับคนที่เล่นแชททั่วไปครับ คือ ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ อยู่ที่ไหน ทำงานอะไร แล้วก็สัพเพเหระทั่วๆไป ไม่น่าเชื่อครับคุยกันไม่เท่าไหร่ก็ตีห้าแล้ว แหมมันฆ่าเวลาได้จริงๆซะด้วย ผมขอลาเธอกลับบ้านซึ่งเธอก็จะกลับบ้านเช่นกัน หลังจากนั้นผมก็กลับบ้านใช้ชีวิตปกติทั่วไปเหมือนวันอื่นๆ กลับบ้านกินข้าวแล้วก็นอน ตกเย็นก็มาทำงานเหมือนเดิมเลิกงานตีห้า แต่สิ่งที่แปลกก็คือวันนี้ผมตั้งใจเข้าไปเล่นแชทเพื่อเผื่อว่าจะได้เจอเธอคนเดิมอีก แล้วก็เป็นอย่างที่คิดครับเธออยู่ในบอร์ดแชทจริงๆ ผมบอกได้เลยว่ารู้สึกดีใจ ผมเข้าไปทักเธอและคุยกันสนิทมากขึ้นหลังจากเมื่อวานเราเคยคุยกันมาแล้วรอบหนึ่ง เราคุยกันมากขึ้นครับ คุยเรื่องทั่วไปจนถึงเวลาเลิกงานผมจึงเอ่ยขอเบอร์โทรกับเธอ ซึ่งปกติแล้วก็จะไม่ขอเบอร์ใครหรอกครับ เพราะผมไม่ได้คิดจะจีบเธอหรอกครับ เผื่อว่าตอนเดินกลับบ้านจะโทรหาเธอ อย่างน้อยก็ยังดีมีเพื่อนคุยเพราะต้องรอรถเมล์ค่อนข้างนาน เธอให้เบอร์โทรของเธอมาครับผมจดไว้ในโทรศัพท์และขอลาเธอกลับบ้าน หลังจากผมเก็บของเรียบร้อยแล้วและก็ไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเธอ เธอรับโทรศัพท์ผมจึงแนะนำตัวไปว่าจำได้หรือเปล่าว่าให้เบอร์ใครมาเมื่อกี้นี้ เธอบอกผมว่าไม่คิดว่าผมจะโทรมาจริง ทีนี้จากคุยแชทกันก็มาเป็นคุยโทรศัพท์กันแทน ผมคุยกับเธอเหมือนกับคุยแชทนั่นแหละครับ เริ่มใหม่หมดถามโน่นถามนี่เธอบอกว่าเธอเป็นคนจังหวัดระยอง แต่ครอบครัวเป็นคนโคราช เชื่อไหมครับผมคุยกับเธอจนผมนั่งรถกลับถึงบ้านเลยทีเดียว ผมจึงขอตัวอาบน้ำอาบท่าเพราะง่วงเต็มทีแล้ว ล่ำลากันแล้วบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน
อ่านต่อวันพรุ่งนี้


>>>>>ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนไปคือไม่ได้ความว่ามันเปลี่ยนอะไรไปขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแต่มันเพิ่มสิ่งที่ผมต้องทำขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างก็คือการโทรศัพท์คุยกับเธอนั่นเอง มันเป็นความรู้สึกที่ดีครับมีเพื่อนคุยแก้เหงาหนำซ้ำเป็นผู้หญิงซะด้วย จำได้ไหมครับที่ผมบอกว่าผมไม่หล่อจึงไม่กล้าจะเข้าไปจีบหรือเข้าไปคุยกับใคร แต่ถ้าคุยโทรศัพท์แบบไม่เห็นหน้าละก็ถึงไหนถึงกันครับ คุยได้ทุกอย่างไม่มีวันจบ ไม่มีอาการเขินอายน่าแปลกจริงๆ หลังจากนั้นผมก็โทรหาเธอทุกเช้าเป็นเวลา 3 วันผมจึงไม่ติดต่อเธอไม่โทรหาเธอ ไม่รับโทรศัพท์เธอ มันเป็นเหตุผลของผมครับ อาจจะแปลกซะหน่อยแต่ว่ามันได้ผลครับ คือผมอยากจะลองใจเธอดูครับ ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เป็นไปตามคาดคือเธอโทรหาผมหลายรอบ และหลายเวลาอยู่เหมือนกัน แต่ผมก็ไม่รับ สุดท้ายเธอส่งข้อความมาหาผมว่า “เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ เป็นห่วงนะค่ะ” ข้อความประโยคนี้มันทำให้มีรอยยิ้มออกมาจากใบหน้าของผมเลยทีเดียว แสดงว่าเธอเป็นห่วงผมจริง(ผมคิดเองนะ) วันรุ่งขึ้นผมจึงโทรไปหาเธอและบอกกับเธอว่าผมลองใจเธอดูถึงได้ไม่รับโทรศัพท์ เธองอนผมเล็กน้อย หลังจากนั้นผมก็โทรหาเธอ เธอโทรหาผม เราคุยกันสนิทสนมมากขึ้นแทบว่าคุยกันทุกเรื่อง ปรึกษากันได้ทุกเรื่องก็ว่าได้ จากวันเป็นหลายวัน จากหลายวันเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์เป็นหลายอาทิตย์ จากหลายอาทิตย์ก็กลายเป็นเดือน คุยกันวันละหลายครั้ง ผมฟังจากการที่เธอคุยกับผม ผมบอกอย่างไม่เข้าข้างตัวเองเลยนะครับว่าเธอมีใจให้กับผม ผมก็มีใจให้กับเธอเหมือนกันแต่ว่าเรายังไม่เคยเห็นหน้ากันเลยนะครับ ผมจึงตัดสินใจที่จะขอรูปเธอเพื่อจะได้เห็นหน้าเธอซะทีว่าคนที่ผมคุยอยู่ทุกวันจนเป็นเดือนนั้นมีหน้าตาอย่างไร เธอส่งรูปมาให้ผมทางอีเมลล์ส่วนผมนั้นหารูปที่ดีที่สุดที่คิดว่าขี้เหร่น้อยที่สุดไปให้เธอ เมื่อเราสองคนต่างได้รับรูปของกันและกันแล้ว ผมถามเธอว่าเป็นยังไงบ้างจริงเหมือนที่บอกหรือเปล่าว่าไม่หล่อจริงๆ เธอตอบว่าไม่เห็นมีอะไรเลยก็ปกติ  ผมไม่รู้ว่าเธอแกล้งพูดหรือพูดจริงแต่มันก็ทำให้ผมสึกดีเลยทีเดียว ส่วนรูปเธอนั้นก็ปกติทั่วไปครับ เธอส่งรูปที่เธอใส่เสือสีเหลืองวันพ่อนั่งอยู่ใต้ต้นไม้เล็กๆ หน้าตาเธอก็ไม่ได้สวยหรอกครับธรรมดาปกติทั่วไปครับ แต่รู้สึกว่าเธอจะเป็นคนตัวขาวแล้วก็ผมยาว เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วตอนนี้ผมก็ได้รู้แล้วละครับว่าคุยกับใครอยู่ ผมบอกเลยนะครับว่าหลังจากที่ผมเห็นรูปเธอความรู้สึกของผมก็ยังเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อก่อนที่ยังไม่เห็นหน้าเธอ ส่วนเธอก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรมากมายกับหน้าตาของผม เรายังคงคุยกันอยู่อย่างสนิทสนมและต่อเนื่องทุกวัน ผมชอบทีจะส่งข้อความหวานๆไปให้เธอแบบให้เธอต้องได้คิด ส่วนเธอเองก็มักจะส่งข้อความมาหาผมแนวแบบว่าให้ผมต้องคิดเหมือนกัน ประมาณว่า “คนเราจะมีความรักก็ต่อเมื่อมีใครมาทำให้หวั่นไหวในหัวใจ” ผมจึงถามเธอว่าแล้วมีใครมาทำให้หวั่นไหวในหัวใจหรือยัง เธอไม่ตอบครับ ทำให้ผมต้องคิดเองเออเองละกันและวันที่สำคัญกับผมก็มาถึง
อ่านต่อวันพรุ่งนี้


>>>>>ผมจำได้ไม่มีลืมครับ วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ที่ 25 มีนาคม 2550 วันนั้นเป็นวันหยุดของผมครับแล้วก็เป็นวันหยุดของเธอด้วยครับ เราคุยกันตั้งแต่ตอนเที่ยงๆยิ่งคุยก็ยิ่งมีความสุข ผมบอกเธอว่าวันนี้ผมจะร้องเพลงให้ฟัง ความจริงแล้วเธอให้ผมร้องเพลงให้ฟังหลายครั้งแล้วครับแต่ผมยังไม่ร้องซักที ผมไม่เข้าใจเลยนะครับว่าทำไมผู้หญิงถึงอยากให้ผู้ชายร้องเพลงทางโทรศัพท์ให้ฟัง วันนี้เลยถือโอกาสร้องซะเลย ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบมาก เรียกได้ว่าเป็นเพลงประจำตัวเลยก็ว่าได้ ผมจึงร้องเพลงนี้ให้เธอฟังครับ
เพลง สงสารเถอะ ของ อนันต์ บุญนาค
“อยากระบายให้เธอได้ฟังให้รู้ในใจฉันบ้าง ว่าฉันเป็นคนเดินหลงทางอยู่ในรักที่ผิดหวัง
  ให้ความรักแท้และความจริงใจ ไม่เห็นมีใครจริงจัง จึงไม่อยากจะหวังรักจริงคงไม่มี
  แต่เมื่อเจอเมื่อเธอเข้ามา เป็นเพื่อนเวลาใจเศร้า เจ็บที่เคยก็เลยทุเราไม่เคยรู่สึกอย่างนี้
  อยากจะขอร้องให้เธอเห็นใจ อยากสมหวังดูซักที ให้ฉันเจอะกับรักที่ดีจะได้ไหม
  *นึกว่าสงสารฉันเถิดเพราะฉันไม่เคยมีใคร นึกว่าสงสารหัวใจที่ไม่มีใครดูแล
   หากมีเธอซักคนใจฉันคงไม่อ่อนแอ ขอเพียงแต่แค่เธอมีฉันในใจ
หลังผมร้องเพลงนี้จบผมก็เอ่ยขอเธอเป็นแฟน ไม่ผิดหรอกครับผมขอเธอเป็นแฟนทั้งที่ยังไม่เคยเจอกันและเป็นการขอทางโทรศัพท์ด้วย หลังจากผมเอ่ยปากขอเป็นแฟนกับเธอ เธอเงียบไปครู่หนึ่งมันทำให้ผมรู้สึกใจไม่ดีเสียเลย แล้วเธอก็ตอบตกลงเป็นแฟนกับผมพร้อมเสียงร้องไห้ของเธอ ผมรู้สึกดีใจมากครับ แบบว่าบอกไม่ถูกเหมือนกัน ผมกำลังจะมีแฟนแล้ว ดีใจครับดีใจมากถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เคยเจอหน้ากันเพียงแค่เห็นแต่ในรูปก็ตาม วันนั้นผมนั้นมีความสุขมากครับ หลังจากที่เราสองคนตัดสินใจที่จะเป็นแฟนกันแล้ว ผมก็คุยกับเธอยิ่งสนิทขึ้นอีก มีความเป็นห่วง มีความคิดถึงเพิ่มมากขึ้น ชีวิตมันช่างสดใสจริงๆเลยครับ ทุกข้อความที่ผมส่งให้เธอมีแต่ความเป็นห่วงเป็นใย มีแต่ความคิดถึงซึ่งตัวเธอเองก็เช่นกัน เราคุยกันอย่างมีความสุขทุกวัน วันละหลายครั้งเท่าที่จะมีเวลาว่างเลยทีเดียว หลายวันผ่านไปหลายอาทิตย์ผ่านไปจนล่วงเลยมาเป็นเดือน จุดอิ่มตัวก็เกิดขึ้นเราไม่ได้เลิกกันหรอกครับ แต่ว่าเธออยากจะเจอผมแล้วละครับ ใช่ครับเธออยากจะเจอผมมาตั้งนานแล้วละครับ แต่ผมเองยังไม่พร้อมครับแบบว่ากำลังทำใจเรื่องหน้าตาตัวเองอยู่ จนในที่สุดก็ตอบตกลงเธอที่จะเจอกัน ซึ่ง ณ เวลานั้นผมพร้อมและทำใจมาแล้วครับ หากว่าเธอเจอหน้าผมแล้วก็ไม่มาเจอกันอีก ผมว่ามันก็เป็นจังหวะเหมาะครับที่มาเจอกันช่วงนี้ เพราะผมพึ่งได้ห้องแฟลตเอื้ออาทรมาพอดีเลย เลยมีที่จะให้เธอพักไม่ต้องไปเปิดห้องให้เสียตังค์ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็คุยกันว่าถ้าเธอลงมาจากระยองจะไปเปิดห้องพักกัน แต่ว่าตอนนี้ไม่ต้องแล้วละครับผมมีห้องแล้ว แต่มันก็เป็นห้องเปล่าครับเพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ แต่ก็คงจะดีกว่าเสียตังค์ครับ เธอบอกเธออยู่ได้ไม่เป็นไร.

อ่านต่อวันพรุ่งนี้


>>>>>เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจึงนัดเจอกันวันที่ 12 สิงหาคม 2550 ที่สถานีเอกมัย เธอบอกว่าเธอจะมาถึงประมาณ 9 โมงเช้า บอกได้เลยครับว่ารู้สึกตื่นเต้นมากเลยทีเดียว กลัวด้วยครับกลัวเธอจะเปลี่ยนใจเมื่อเห็นหน้าผม ก่อนหน้าที่ผมจะนัดเจอกับเธอผมบอกเธอเกี่ยวกับหน้าผมไปแล้วละครับทุกอย่างว่า ตอนนี้ผมไว้ผมยาวแต่มันไม่เป็นทรงหรอกครับ ไว้ให้มันยาวเพราะผมจะตัดปีละครั้งครับ แล้วก็บอกกับเธอว่าผมขอไม่โกนหนวดนะครับเหตุผมก็คือว่าเวลาโกนหนวดแล้วสิวมันมักจะขึ้น ไม่ได้อยากจะเท่อะไรหรอกครับ เพราะจริงๆแล้วผมเป็นคนไม่มีหนวดหรอกครับ แบบว่ามีนิดหน่อยประมาณหนวดแมวอะไรประมาณนี้ เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
                วันนี้ 12 สิงหาคม 2550 ผมตื่นแต่เช้าเลยครับเพื่อเตรียมตัวจะไปรับเธอ อาบน้ำแต่งตัวใส่เสื้อภาพ ส่วนเสื้อผ้าก็ปกติครับชุดเดิมๆที่ใสอยู่ทุกวันไม่ได้เน้นอะไรเป็นพิเศษ ผมออกจากบ้านโดยคำนวณเวลาแล้วน่าจะพอดีกัน ผมนัดให้เธอไปรออยู่ตรงหน้าเสาธงครับ ถ้าใครเคยไปเอกมัยคงจะนึกออกนะครับว่าตรงไหน ผมตัดสินใจนั่งรถไฟฟ้าไปเลยครับเร็วดี พอผมลงจากรถไฟฟ้าเธอก็โทรมาพอดีบอกว่าถึงแล้วเช่นกัน ผมจึงบอกให้เธอรอแป๊บหนึ่งผมกำลังเดินไป เสียงเธอมีอาการหงุดหงิดเล็กน้อย ผมหาเธอไม่เจอครับผมถามว่าเธอรอตรงไหนเธอก็บอกว่ารอตรงหน้าเสาธง ผมมองหาเธอตั้งนานก็ยังไม่เจอ ซักพักหนึ่งผมก็เจอเธอแล้วเห็นเธออยู่ไกลๆ เธออยู่หน้าเสาธงจริงๆครับแต่เธอดันไปรอในที่พักรอขึ้นรถครับแต่มันก็หน้าเสาธงครับแต่มันอยู่ข้างใน ผมเห็นเธอแล้วครับเธอมาในชุดเสื้อยืดสีเขียว กางเกงยีนส์แล้วก็เสื้อคลุมสีเขียว ลืมบอกไปว่าเธอเป็นคนที่ชอบสีเขียว วันนี้เลยมาเขียวทั้งชุดเลย พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าใบกลางๆอีกหนึ่งใบ ผมเดินเข้าไปหาเธอ คำพูดแรกที่ออกจากปากผม ผมบอกเธอว่าเปลี่ยนใจหรือเปล่าพร้อม เธอไม่ตอบแต่ดูเธอแล้วรู้สึกจะหงุดหงิดที่ผมมาช้าหนำซ้ำเธอยังเมารถอีกต่างหาก ให้รีบไปซักที ผมจึงรีบพาเธอไปขึ้นรถไฟฟ้าเผื่อเธอเจอแอร์คงจะดีขึ้น เธอเมารถครับ เมาควันรถในกทมด้วย อย่างว่าละครับเธออยู่ต่างจังหวัดมาเจอมลพิษแบบนี้เล่นเอาเธอแย่เหมือนกัน แต่ผมสิครับหลังจากที่ผมได้เห็นเธอ ผมบอกตัวเองเลยครับว่าผมประทับใจครับ ผมชอบเธอครับ เธอตัวเล็กไม่สูง ผมยาว ผิวขาวเนียน รูปร่างสมส่วน แบบว่าดูดีกว่าในรูปครับ

อ่านนต่อวันพร่งนี้


>>>>>หลังจากลงจากรถไฟฟ้าผมจึงพาเธอขึ้นรถแท็กซี่เพื่อต่อไปที่ห้องผม เธอเริ่มรู้สึกดีขึ้นหลังจากได้แอร์ โดยสีหน้าเริ่มสดใส่ขึ้นแต่ก็คงยังมีอาการมึนจากการเมารถอยู่บ้าง ผมคุยกับเธอเหมือนที่คุยกับเธอทางโทรศัพท์ ครับเธอก็คุยกับผมเหมือนทางโทรศัพท์ไม่มีอันไหนแปลกไปจากที่เคยคุยกัน เธอคุยกับผมพร้อมดมยาดมไปด้วยแก้เมารถ อืมไหนๆก็เป็นแฟนกันแล้วผมเลยอยากจะขอจับมือเธอซักหน่อย อยากจะรู้ว่ามันจะเป็นยังไงกันหนอความรู้สึกนี้ ผมยื่นแบมือขวาไปให้เธอเพื่อให้เธอเอามือมาวางแต่ไม่เป็นเช่นนั้นครับ เธอกลับส่งยาดมมาให้ผม ผมขำตัวเองในใจแต่ก็หยิบยาดมมาดมครับแก้เขินตัวเอง โดยเธอไม่รู้หรอกครับว่าผมขอมือเธอไม่ได้ขอยาดมซักหน่อย ไม่เป็นไรครับแค่ขำๆ ไม่นานนักเราสองคนก็ถึงห้อง ผมพาเธอเข้าไปในห้องซึ่งมันอยู่บนชั้น 5 มันเป็นห้องโล่งๆเพราะไม่มีอะไร มีฝุ่นนิดหน่อย แต่ว่ามีอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ เธอเดินเข้าไปในห้องวางกระเป๋าเสื้อผ้าแล้วออกไปยืนรับลมตรงหน้าระเบียง ผมเดินตามเธอไปแล้วตรงเข้าไปโอบเธอจากทางด้านหลัง เธอหันมายิ้มแล้วบอกว่ายังไม่ถึงเวลา ผมรีบบอกเธอว่าไม่ใช่อย่างนั้นผมแค่อยากจะกอดเธอเท่านั้นเอง จริงแล้วผมไม่ได้คิดอะไรไปในทางนั้นหรอกครับผมอยากกอดเธอจริงๆ เป็นความรู้สึกของคนที่รักและคิดถึงเท่านั้นเองครับ หลังจากเราสองคนช่วยกันทำความสะอาดห้องเสร็จสรรพก็มานั่งคุยกันที่ระเบียง เธอบอกว่าเธอจะตัดเล็บเท้าให้ผม พร้อมบ่นผมนิดหน่อยว่าทำไมเล็บเท้าผมดำจังยังกะไปทำนามาเลย ผมขำแล้วบอกเธอว่าก็ไม่รู้เหมือนกันไม่ได้ไปทำอะไรมา เธอนั่งตัดเล็บเท้าให้ผม ส่วนผมก็นั่งมองหน้าเธออย่างมีความสุขบางครั้งเธอก็หันมามองหน้าผมพร้อมถามว่ามองอะไร ผมก็บอกเธอว่ามองคนน่ารักไง เธอก็ยิ้มๆไม่ได้พูดอะไร หลังจากเธอตัดเล็บให้ผมเสร็จแล้ว ผมถามเธอว่าง่วงนอนหรือเปล่าเธอบอกว่าง่วง ผมจึงบอกให้เธอนอนก็ได้ เพราะว่าตอนเย็นผมจะพาเธอไปดูหนัง เธอนอนลงโดยเอาผ้าขนหนูที่เธอเอามาด้วยมาคลุมตัว โดยผมก็นอนเช่นกันแต่ว่านอนห่างจากเธอประมาณหนึ่งช่วงแขน เรานอนคุยกัน ผมถามเธอว่าเธอรู้สึกยังไง เธอบอกว่าตอนนี้หัวใจเธอเต้นเร็ว ผมจึงเขยิบเข้าไปใกล้ตัวเธอแล้วเอาแขนไปวางที่ตัวเธอแล้วถามเธอว่ารู้สึกยังไง เธอตอบว่าตอนนี้หัวใจเธอหยุดเต้นไปแล้ว หลังจากนั้นผมจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติและความรู้สึก หลายคนอาจจะมองว่าสิ่งที่ผมและเธอได้ทำนั้นมันเหมาะสมหรือไม่อาจคิดว่าเธอนั้นเป็นคนใจง่ายหรือเปล่า สำหรับตัวผมแล้วนั้นผมไม่คิดว่าเธอเป็นคนใจง่ายและสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมและเธอนั้นมันเกิดมาจากความรักและความรู้สึก สำหรับคนที่เคยมีความรักที่บริสุทธิ์คงจะเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยรู้สึกถึงความรักที่บริสุทธิ์หรือคนที่ไม่เคยมีความรัก หรือแม้แต่คนที่มีความรักที่เป็นความฝันที่ไม่เป็นความจริง ผมก็คงจะอธิบายให้เข้าใจไม่ได้เพียงแต่ว่าวันไหนที่คุณหลุดออกมาจากความฝันเมื่อไหร่คุณถึงจะเข้าใจ ซึ่งมันก็เหมือนกับผมเพียงแต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเป็นความจริงแล้ว ผมรู้สึกว่าผมรักเธอและเธอก็คงเช่นกัน ตอนนี้เราเป็นมากกว่าแฟนแล้วรู้สึกยังไงบอกไม่ถูกเหมือนกันรู้สึกว่ามีความรักและความเป็นห่วงหวังดีมากขึ้นอีก เธอบอกรักผมและผมก็บอกรักเธอ ตอนที่เราเป็นแฟนกันเราไม่เคยบอกรักกันเลยนะครับ แต่ตอนนี้เราบอกรักกันแล้ว
อ่านต่อวันพรุ่งนี้


>>>>>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 10, 2010, 09:27:57 am โดย มนุษย์ค้างคาว »

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
 :06: แหม๋นะมีภาคต้นด้วย รออ่านครับพี่ค้างคาว สู้ๆครับ
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ มนุษย์ค้างคาว

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 27
  • พลังกัลยาณมิตร 16
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ มนุษย์ค้างคาว

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 27
  • พลังกัลยาณมิตร 16
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ มนุษย์ค้างคาว

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 27
  • พลังกัลยาณมิตร 16
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ sasita

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นไม้เล็กพริ้วไหวดั่งสายลม
  • *
  • กระทู้: 173
  • พลังกัลยาณมิตร 150
    • ดูรายละเอียด
 :12:

รออ่าน ...รอลุ้นต่อจ้า *-*
@ ดูแลความรู้สึกของกันและกันนิดนึงนะคะ ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยกับข้อเขียนของเพื่อนคนอื่นๆ หรือไม่ก็ตาม

@ ช่วยกันใช้ "ภาษาไทย" ให้ถูกต้อง และงดโพสข้อความโฆษณาค่ะ

ออฟไลน์ ดอกโศก

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 862
  • พลังกัลยาณมิตร 595
    • rklinnamhom
    • ดูรายละเอียด
มีอะไรเหรอคะ  :39:

ยาวเนอะ... อ่านไม่ไหว รอฟังภาคเสียงอ่านได้ไหมคะ   :06:

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
 :06: หวานดีครับ ความรักในอุดมคติจากสายใยแก้วดิจิตรอนเป็นสายไหมทานอร่อย 55+ น่าติดตามครับ สู้ๆครับพี่ค้างคาว
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ มนุษย์ค้างคาว

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 27
  • พลังกัลยาณมิตร 16
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
 :42: โห ต่อไปจะเป็นไงนะ
ที่พี่ๆอยู่ด้วยกัน เป็นแฟนกันอย่างจริงจัง ด้วยอายุและวุฒิภาวะคงคิดว่าพี่ๆคงเหมาะสมแล้วเน้อ(แก่แล้ว) อิอิ

เข้มข้นแล้วแฮะ จะเป็นไงต่อนะ.....
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~