ผู้เขียน หัวข้อ: ชมรมพระวังหน้า เพื่อพระวังหน้าและงานบุญต่างๆ  (อ่าน 356391 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 15 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
รูปพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ตอนตี 4 ในเช้าวันที่ 12 พฤษภาคม 2557

แสงไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
รูป พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
แสงสว่างจากพลังงานไฟฟ้า (โซล่าเซลล์)
รูปจากพี่แอ๊ว (ส่งมาให้ผมทางไลน์) จะได้ให้ชมภาพกัน
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ข้อความจากพี่แอ๊ว  แจ้งมาในไลน์กลุ่มพระวังหน้า

ขออนุญาตนำบางส่วนของการกล่าวคำถวายระบบโคมประทีปส่องสว่างที่พระอาจารย์นิล ได้นำกล่าวถวายแก่คณะสงฆ์  ณ พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เมื่อวันวิสาขบูชา มาให้ทุกท่านได้อธิษฐานจิตร่วมกันค่ะ ขอตัดภาษาบาลีออกนะคะ
"ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายระบบโคมประทีปส่องสว่าง พร้อมกับของบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ไว้ในพระพุทธศาสนา เพี่อเป็นมหาพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ขออานิสงส์แห่งการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยระบบโคมประทีปส่องสว่างนี้ จงเป็นพลวปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย แม้เกิดภพใด ชาติใด ขอให้ได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนา ในตระกูลสัมมาทิษฐิ มีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา มีดวงตาแจ่มใส ทั้งมังสะจักษุ ทิพยจักษุ และธรรมะจักษุ มีดวงปัญญาสว่างไสว แตกฉานในศาสตร์ทั้งปวง  รู้แจ้งแทงตลอดในสรรพวิชาทั้งหลาย ทั้งทางโลกและทางธรรม มีสุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณวรรณะผ่องใส สมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ  และเข้าถึงซึ่งนิพพานสมบัติในที่สุด หากยังไม่เข้าถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่า " ไม่มี " จงอย่าได้บังเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย นับตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ นิพพานะ ปัจโย โหตุ นิพพานะ ปัจโย โหตุ นิพพานะ ปัจโย โหตุ





ภาพจริงคืนวันวิสาขบูชาค่ะ พระเจดีย์สีทองอร่ามเรืองอยู่ท่ามกลางความมืด งดงามมากๆค่ะ




คือเบื้องหลังความสำเร็จ ที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ในชีวิต ท่านมาด้วยวิริยบารมี ขันติบารมีจริงๆ ทุกงาน ท่านลงมือทำเองหมด ด้วยความละเอียดละออ ต้านกระแสสิ่งที่มองไม่เห็นที่มาขัดขวางงานเกือบทุกระบบ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ด้วยความนิ่งสงบ ใช้กำลังกาย กำลังใจ อย่างยิ่งยวด ถึงกับงดฉันภัตตาหารใน7 วันสุดท้ายก่อนงานเสร็จ เพื่อแลกความสำเร็จกับบางสิ่งบางอย่าง   ข้อความที่พี่แอ๊ว ส่งมาให้ผม 

ผมเห็นด้วยมากครับ  รูปนี้โดนแอบถ่ายด้วย

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
คลิปเสียง หมอปลาย ทำนายหายนะของโลก

http://www.youtube.com/watch?v=OUZr2tne-4g#t=105

-http://www.youtube.com/watch?v=OUZr2tne-4g#t=105-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด

    ใต้ร่มธรรม »
    Forum »
    วิถีธรรม »
    กฏแห่งกรรม-ชาติภพ



แผนที่นรกดูซะ กันหลงทาง
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,708.0.html-


พิภพมัจจุราช (พญายมราช)
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,709.0.html-


การล่วงเกิน "ผู้มีธรรม"
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,6654.0.html-


กรรม
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,9646.0.html-


บุพกรรมของพระพุทธองค์
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,5657.0.html-


บุพกรรมของพระอัครสาวก
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,5665.0.html-


บุพกรรมของพระมหาโมคคัลลานะ
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,5658.0.html-


บุพกรรมของพระสิวลี
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,5660.0.html-


บุพกรรมขององคุลีมาล
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,5659.0.html-



คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ความเชื่อโบราณกับเรื่องฮวงจุ้ย


-http://horoscope.sanook.com/1397852/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AE%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A2/-


ฮวงจุ้ยกับความเชื่อโบราณ เป็นสิ่งที่สั่งสมกันมาเป็นเวลานาน จากรุ่นสู่รุ่น เป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรม ความเชื่อมีผลต่อการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรในแต่ละท้องถิ่นและคนไทยก็ใส่ศาสตร์ฮวงจุ้ยไว้ในความเชื่อมายายนาน ความเชื่อ คือ สิ่งที่สั่งสมกันมาเป็นเวลานาน จากรุ่นสู่รุ่น เป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรม ความเชื่อมีผลต่อการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรในแต่ละท้องถิ่น Sanook! Horoscope รวบรวมมาไว้ให้คุณได้ทราบแล้วค่ะ

ซึ่งแต่ละท้องถิ่นก้จะมีความเชื่อ และประเพณี ปฏิบัติ ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละสังคมนั้นๆ อาทิเช่นการฝังศพของแต่ละเชื้อชาติ ศาสนา ก็จะมีพิธีกรรม พิธีการที่แตกต่างกันออกไป


ส่วนความเชื่อตามหลักการของชัยภูมิ และฮวงจุ้ยนั้น เป็นการสั่งสมประสบการณ์ ของผู้คนในยุคสมัยที่เทคโนโลยี่ยังไม่เจริญ แต่ประสบการณ์เหล่านี้เกิดจากการลองผิดลองถูก การพบจอของจริงมาก่อน แล้วจึงนำมาสั่งสอนลูกหลานกันต่อๆ มาอีกทอดหนึ่ง จึงกลายเป็น ความเชื่อ เป็นสังคม และเป็นวัฒนธรรม

การปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน อย่างคำสุภาษิต ที่ว่า "ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน" นั่นย่อมหมายถึง คนที่ผ่านประสบการณ์มาก่อนนั้น ย่อมที่จะได้พิสูจน์แล้วว่า สิ่งๆนั้นจริง หรือไม่ อย่างไร ควรที่จะปฏิบัติตาม หรือไม่





หลักความเชื่อของคนในการปลูกบ้าน

"อย่าปลูกเรือนค่อมตอ อย่านอนรอขวางตะวัน อย่าสร้างบ้านหน้าประจัญ อย่าปลูกบ้านเรียงแถว อย่างทำเรือนคูน้ำไหหล อย่าปิดรูทางไหล อย่าปลูกไหล่ทาง อย่าแยก 2 บันได อย่าปลูกบ้าน ทางโค้ง อย่าอยู่ 4 แยก อย่าแฉกทางไหล อย่านอนบนไฟ อย่าอยู่ใจกลาง อย่าไปทางลาด อย่าบาดขุนเขา อย่าเฝ้าปากถ้ำ

อย่าประจัญหน้าผา อย่าชะล่าดินไหล อย่าอยู่กลางไพร อย่า ใช้น้ำสด อย่าปลูกบ้านใต้ต้นไม้ อย่าเข้าซอยตัน อย่าประจัญบ้านใหญ่ อย่าเข้าทางลอด อย่าตั้งร้านตีนบันได อย่าฝังเสาตะเคียน อย่าเลียนแบบวัด อย่าจัดอย่างวัง อย่านั่งท่อนซุงอย่าปรุงเรือนคู่ อย่าจั่วแทงกัน อย่าหัน 4 ทิศ ทางลมอย่าขวาง อย่าปลูกมุมแหลม อย่าเข้าทางลอด อย่าออกคอสะพาน อย่าอยู่ชายธง อย่าตรงปากเหว อย่าเดินลอดคาน อย่าผ่านหน้าต่าง อย่าปลูกไม้ป่า อย่าบ้าไม้ว่าน อย่าพิศดารปลูกตานี อย่าหามผีเข้าบ้าน

อย่าพลีในเรือน อย่าเชือดในเล้า อย่าเฝ้าเรือนป่วย อย่าช่วยไกวเปล อย่าเห่ก่อนคลอด อย่าลอดก่อนเคราะห์ อย่าสะเดาะตอนโชคดี อย่าตีก่อนรุ่ง อย่ามุ่งก่อนแต่ง อย่าแข่งกับนาย อย่าชายกว่าหญิง อย่าอิงคำภีร์ อย่าดีกว่าอาจารย์ อย่าผลาญก่อนไถ อย่าจัญไรก่อนตาย อย่าใหม้ก่อนจุด อย่าฉุดก่อนรัก อย่าปักใจเชื่อ อย่าเจือจุนแกง"


ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อมาแต่โบราณกาล เรื่องการปลูกบ้านของไทยเรา และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงค่ะ ท่านผู้ใดที่คิดจะปลูกบ้าน ก็ลองพิจารณาดูทำเลให้ ดีๆ เหมาะ และไม่ขัดกับหลักความเชื่อโบราณ ก็จะสามารถ มีบ้านที่อยู่ยั้งยืนยงและคนใน ครอบครัวก็อยู่อาศัยกันอย่างร่มเย็นเป้นสุขไม่มีีภัยอันตรายใดๆ มาแผ้วพานได้เลย





รายละเอียดของหลักความเชื่อในการปลูกบ้าน

อย่าปลูกเรือนค่อมตอ หมายถึง ตอไม้ที่มีรากเยอะ มีมด แมลง งู อยู่ใต้ดิน เพราะใต้ต้นไม้ใหญ่เป็นโพรง เป็นดินร่วน จึงกลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ใหญ่น้อยได้ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสัตว์มีพิษต่างๆ สามารถปล่อยก๊าซพิษออกมาบนพื้นบ้านได้ ถ้าพื้นเป็นไม้ ไม้จะบวมดีดตัวหนีสารพิษ สารพิษจะซึมขึ้นมาทำให้คนในบ้านเจ็บป่วยง่าย อย่างไร้สาเหตุ โบราณจึงห้ามปลูกเรือนค่อมตอ

อย่านอนรอขวางตะวัน หมายถึง บ้านสมัยก่อนที่มีบริเวณ เค้าจะไม่ให้ปลูกเรือนขวางตะวันขึ้นลงจะร้อนยิ่งเป็นสมัยนี้บ้านเป็นตึกกันหมด ยิ่งทำให้คลายความร้อนยากขึ้นกว่าเดิม อย่าปลูกเรือนหันหน้ารับแดด แดดเช้ายังพอทน แต่แดดบ่ายสิสุดทน ร้อนทั้งวัน ทั้งคืนเชียวนะคะ

อย่าสร้างบ้านหน้าประจัญ

ประจัญหน้าวัด หรือศาลเจ้า ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีจิตใจมีพลังงานของคนอยู่ตรงนั้น

    ประจัญหน้าโรงพยาบาล เพราะมีวิญญาณคนเกิด คนตายมากมาย พลังงานที่พวยพุ่งเข้ามาบ้านเรา ก็จะมีทั้งวิญญาณ ทั้งเชื้อโรคจะทำให้คนที่อาศัยในบ้านป่วยง่าย ป่วยหนัก เหมือนที่เค้าห้ามไม่ให้คนป่วยไปโรงพยาบาลไม่ให้ไปงานศพเพราะจะติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย

    ประจัญทางสามแพร่ง เวลาแต่งงานเดินผ่านทาง 3 แพร่งก็ไม่รู้จะเลี้ยวไปทางไหนต้อง ยืนรอตรงทาง 3 แพร่ง เวลาแห่ศพก็มักจะมายืนรอตรงทาง 3 แพร่ง เพราะไม่รู้ทางไป พอรู้ทางเลี้ยวไปแล้ว ลืมเรียกผีไปด้วย ผีก็เดินเข้าบ้านเราเลย เพราะผีก็ไม่รู้ทาง

    ทาง 3 แพร่งเป็นจุดอันตราย เพราะเวลารถขับมาไฟรถทุกคันฉายเข้าบ้านเราตลอด คนในบ้านก็จะผวาตลอด คนยิงกัน วิ่งหนีมา ถ้าบ้านเปิดโล่งก็จะโดนลูกหลง โดนกระสุน ได้ง่าย คนในบ้านอาจโดนยิงตายโดยบังเอิญ





อย่าปลูกบ้านเรียงแถว จะเหมือนศาลาศพจะเกิดการประจัญหน้ากัน เปรียบเทียบกัน ต่อเติมบ้านเหลื่อมล้ำกัน เกินหน้าเกินตากัน ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ เกิดการกระทบ กระทั่งกัน ทะเลาะเบาะแว้งกัน อย่างบ้านทาวเฮาส์ในปัจจุบัน น้อยนักที่จะอยู่กันแบบสงบสุข

อย่าทำเรือนคูน้ำไหล คือ อย่าปลูกบ้านค่อมคูคลอง ทางน้ำไหลที่ลงมาจากยอดเขาเวลาหน้าน้ำ อาจจะพัดพาน้ำป่ามาพังบ้านเราได้ง่ายดายนัก งูเงี๊ยว เขี้ยวขอ สัตว์มีพิษจะขึ้น บ้านเราได้ง่ายดาย ลูกเด็กเล็กแดงจะตกน้ำตาย ของมีค่าตกน้ำตกท่าได้ง่าย พอน้ำแห้งดินก็ถล่มยุบตัว

อย่าปิดรูทางไหล อย่าปิดรูบ่อน้ำบาดาล อย่าเอาดินไปถม เพราะเวลาเราถ่ายของเสียลงไปในบ่อเกรอะ บ่อซึม ไหลลงไปที่ต่ำไปเจอบ่อน้ำบาดาลถ้าปิดรูทางไหลจะทำให้เกิด การอัดแน่นของแก๊ซทำให้เกิดเหตุการณื ส้วมระเบิดได้เพราะมีแก๊ซอัดแน่นมากเกินไป โดยเฉพาะทางภาคเหนืองของไทยที่ยังมีกาซกะฃำมะถันอยู่ในใต้ดินเยอะเป็นเขตภูเขาไฟนั่นเอง

อย่าปลูกไหล่ทาง ไหล่ถนน ไหล่เขา ไหล่แม่น้ำ ทางลาดทางไม่เสมอ ขาบ้านจะสั้นข้างยาวข้างจะทำให้เกิดการรับน้ำหนักที่ไม่สมดุลมีการถาโถมไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง มากเกินไป เพราะฉะนั้นบ้านที่ปลูกลักษณะนี้จึงพังง่ายกว่าบ้านแบบอื่นๆ ความสมดุลของฐานรากไม่มีขาบ้านด้านที่ยาวกว่าจะหักพังได้ง่ายกว่าขาข้างที่สั้นกว่า

อย่าปลูกเรือนอกแตก อย่าปลูกเรือนคู่ เรือนอกแตกไม่ดี เพราะเวลาฝนตกน้ำจะไหลลงมารวมอยู่กลางหลังคา มีปัญหาอะไรก็จะมาสุมอยู่ที่คนกลาง

อย่าแยก 2 บันได เพราะบ้านเราไม่ใช่โรงเรียน ไม่ใช่วัดจะทำให้คนในบ้าน่สนใจไม่แคร์กันทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่ช่วยกันทำมาหากิน





อย่าปลูกบ้านทางโค้ง อย่าโก่งคันศร อย่านอนทับคาน ปลูกบ้านทางโค้ง รถจะแหกโค้งเข้ามาชนบ้านเราบ่อย ไฟสาดส่องเข้ามาจะผวา คิดว่าขโมยเข้าบ้าน

อย่านอนทับคาน ไม่ดีเพราะในคานมีเหล็ก มีแร่ธาตุ ในตัวคนเราก็จะมีแร่ธาตุที่ดึงดูดกันได้เปรียบเสมือนแม่เหล็ก แต่ความเป็นจริงเค้ากลัวคานหล่นทับตัวเวลาบ้านพังลงมา คาน หรือเสา จะหล่นมาทับคนตายคาบ้าน

อย่าอยู่ 4 แยก บ้านที่อยู่ 4 แยก รถ หรือคนพุ่งมาจากทางไหน ก็เห็นเราหมด รถจะแหกโค้งพุ่งมาชนเราง่าย

อย่าแฉกทางไหล คล้ายทาง 3 แพร่ง ทางน้ำวน ปากคลอง มีวังน้ำวน อันตราย เรือไปล่มตรงนั้นบ่อยมาก มีสัตว์ดุร้ายชอบไปเล่นน้ำวนบริเวณนั้น

อย่านอนบนไฟ อย่านอนบนจอมปลวก โพรงงู ซึ่งมีก๊าซพิษต่างๆ จอมปลวกมีสัตว์เป็นล้านๆที่บ้านเรือนไทยสมัยโบราณทำใต้ถุนสูงเพราะต้องการให้อากาศถ่ายเทสะดวก มีอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์เข้ามาถ่ายเทก๊าซพิษออกไป จึงจะอยู่กันได้อย่างปลอดภัย

อย่าอยู่ใจกลาง พื้นที่ๆ เป็นแอ่งกะทะ อย่าปลูกบ้านในแอ่งกะทะ เพราะเมื่ออยู่นานไป อากาศเป็นพิษ น้ำท่วม พื้นที่ๆ ต่ำที่สุด จะเกิดมลภาวะได้ง่ายมาก เพราะลมไม่พัดผ่านลงไปถึงใจ กลางนั่นเอง เช่นพื้นที่แถบแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ อากาศเสียมากพอๆ กับ กทม เพราะเป็นพื้นที่แอ่งกะทะนั่นเอง จะให้ดี ซื้อที่รอบๆนอก อากาศจะดีกว่าค่ะ

ุ>>> อ่านต่อเรื่องความเชื่อโบราณอื่นๆ คลิก!

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.fengshuiwin.com/
ขอบคุณภาพประกอบจาก


http://horoscope.sanook.com/1397852/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AE%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A2/
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ธงชาติ เพลงความหมายดี จาก คสช. หวังคนไทยสำนึกคุณแผ่นดิน
โพสต์เมื่อ : 27 พฤษภาคม 2557 เวลา 15:44:07

-http://hilight.kapook.com/view/102826-

ธงชาติ เพลงความหมายดี จาก คสช. หวังคนไทยสำนึกคุณแผ่นดิน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
       
            เพลง ธงชาติ เพลงเนื้อหาดี ๆ ที่ คสช. โพสต์ในเฟซบุ๊ก เพื่อหวังปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รู้คุณแผ่นดิน

            หลังจากที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ระงับการออกอากาศช่องฟรีทีวีและเคเบิล ตั้งแต่ประกาศรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา และได้มีการเปิดเพลงปลุกใจรักชาติมากมาย จนกลายเป็นกระแสฮิตให้บรรดาชาวเน็ตเข้าไปขอเพลงจากเฟซบุ๊กของ คสช. กันอย่างมากมายนั้น

            แต่มีเพลงเพลงหนึ่ง ซึ่งทาง คสช. ได้โพสต์มิวสิควิดีโอลงในเฟซบุ๊ก (25 พฤษภาคม 2557) เพื่อหวังกระตุ้นจิตสำนึกให้คนไทยรักชาติ นั่นก็คือเพลง "ธงชาติ" พร้อมระบุข้อความว่า.. "ธงชาติ ปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน" โดยหวังว่าเพลงนี้จะปลุกจิตสำนึกคนไทยให้กับมารักและสามัคคีกันได้ดังเดิม


สำหรับ เนื้อเพลง "ธงชาติ" มีดังต่อไปนี้

เพลง ธงชาติ
เนื้อร้อง : หลง ลงลาย
ขับร้องโดย : คณะนักร้องประสานเสียง Wattana Little Angels (จากรายการ ครอบครัวเดียวกัน ช่อง TPBS ออกอากาศเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555)

    ธงชาติไทยไม่ใช่เพียงผืนผ้า
    เอาสีมาทาให้เป็นสามสี
    แต่กว่าจะเป็นไตรรงค์ผืนนี้
    เบื้องหลังยังมีเรื่องราวตั้งมากมาย

    ทั้งความทุกข์ ทั้งชีวิตของบรรพชน
    หล่อรวมปะปนอนาคตลูกหลานไว้
    แต่วันนี้ที่ได้เห็นผืนธงไทย
    น้ำตาแทบจะไหลให้สงสารแผ่นดิน

    นานแค่ไหนที่เหมือนคนไทยลืมรักชาติ
    ปล่อยไตรรงค์โบกสะบัดอย่างเดียวดายเสียจนชิน
    ถึงเวลาเหลียวมองธงคู่แผ่นดิน
    ฟังเพลงชาติให้ได้ยินเสียงหัวใจกันและกัน

    ให้ลึกซึ้งถึงความทุกข์ของบรรพชน
    รู้สึกกังวลอนาคตของลูกหลาน
    ถ้าเห็นสามสิ่งจากผืนธงเหมือน ๆ กัน
    เมื่อใดก็เมื่อนั้น สันติสุขจะคืนมา



ชมได้ที่ -http://hilight.kapook.com/view/102826-
คลิป ธงชาติ ปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน โพสตโดย เฟซบุ๊ก กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย



http://www.youtube.com/watch?v=lyUahtJ9reo#t=13
-http://www.youtube.com/watch?v=lyUahtJ9reo#t=13-
คลิป ธงชาติ หลง ลงลาย โพสต์โดย คุณ Nattawut Laorsuwan
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
งานพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่สุภา กันตสีโล  พระอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ณ วัดคอนสวรรค์ อ.วาริชภูมิ จ.สกุลนคร

พระอาจารย์นิล เป็นประธานกองบุญในการตั้งโรงทานเลี้ยงพระสงฆ์และญาติธรรมที่เดินทางมากราบสรีระสังขารหลวงปู่สุภาฯ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากพี่แอ๊ว

สำหรับท่านใดมีความประงค์ที่จะร่วมทำบุญ แจ้งผมผ่านpmได้ครับ

โมทนา สาธุครับ
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.







ขอน้อมกราบองค์หลวงปู่สุภา สู่แดนพระนิพพาน

กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ คือ สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ หรือกล่าวอย่างง่ายๆว่า การกระทำที่เกิดเป็นบุญ เป็นกุศล แก่ผู้กระทำดังต่อไปนี้

-http://www.dhammakaya.org/dhamma/boon01.php-

๑. บุญสำเร็จได้ด้วยการบริจาคทาน (ทานมัย) คือการเสียสละนับแต่ทรัพย์ สิ่งของ เงินทอง ตลอดจนกำลังกาย สติปัญญา ความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นโดยส่วนรวม รวมถึงการละกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ออกจากจิตใจ จนถึงการสละชีวิตอันเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเพื่อการปฏิบัติธรรม

๒. บุญสำเร็จได้ด้วยการรักษาศีล (สีลมัย) คือการตั้งใจรักษาศีล และการปฏิบัติตนไม่ให้ละเมิดศีล ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ หรือศีล ๘ ของอุบาสกอุบาสิกา ศีล ๑๐ ของสามเณร หรือ ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุ เพื่อรักษากาย วาจา และใจ ให้บริสุทธิ์สะอาด พ้นจากกายทุจริต ๔ ประการ คือ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ ละเว้นจากการลักทรัพย์ ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม และเสพสิ่งเสพติดมึนเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท วจีทุจริต ๔ ประการ คือไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดปด ไม่พูดเพ้อเจ้อ และไม่พูดคำหยาบ มโนทุจริต ๓ ประการ คือ ไม่หลงงมงาย ไม่พยาบาท ไม่หลงผิดจากทำนองคลองธรรม

๓. บุญสำเร็จได้ด้วยการภาวนา (ภาวนามัย ) คือการอบรมจิตใจในการละกิเลส ตั้งแต่ขั้นหยาบไป จนถึงกิเลสอย่างละเอียด ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นโดยใช้สมาธิปัญญา รู้ทางเจริญและทางเสื่อม จนเข้าใจอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เป็นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ บรรลุมรรค ผล นิพพานได้ในที่สุด

๔. บุญสำเร็จได้ด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ (อปจายนมัย) คือการให้ความเคารพ ผู้ใหญ่และผู้มีพระคุณ ๓ ประเภท คือ ผู้มี วัยวุฒิ ได้แก่พ่อแม่ ญาติพี่น้องและผู้สูงอายุ ผู้มี คุณวุฒิ หรือคุณสมบัติ ได้แก่ ครูบาอาจารย์ พระภิกษุสงฆ์ และผู้มี ชาติวุฒิ ได้แก่พระมหากษัตริย์ และเชื้อพระวงศ์

๕. บุญสำเร็จได้ด้วยการขวนขวายในกิจการที่ชอบ (เวยยาวัจจมัย) คือ การกระทำสิ่งที่เป็นคุณงามความดี ที่เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม โดยเฉพาะทางพระพุทธศาสนา เช่น การชักนำบุคคลให้มาประพฤติปฏิบัติธรรม มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ในฝ่ายสัมมาทิฎฐิ

๖. บุญสำเร็จได้ด้วยการให้ส่วนบุญ (ปัตติทานมัย) คือ การอุทิศส่วนบุญกุศลที่ได้กระทำไว้ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งปวง การบอกให้ผู้อื่นได้ร่วมอนุโมทนาด้วย ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ ได้ทราบข่าวการบุญการกุศลที่เราได้กระทำไป

๗. บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนา (ปัตตานุโมทนามัย) คือ การได้ร่วมอนุโมทนา เช่น กล่าวว่า “สาธุ” เพื่อเป็นการยินดี ยอมรับความดี และขอมีส่วนร่วมในความดีของบุคคลอื่น ถึงแม้ว่าเราไม่มีโอกาสได้กระทำ ก็ขอให้ได้มีโอกาสได้แสดงการรับรู้ด้วยใจปีติยินดีในบุญกุศลนั้น ผลบุญก็จะเกิดแก่บุคคลที่ได้อนุโมทนาบุญนั้นเองด้วย

๘. บุญสำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม (ธัมมัสสวนมัย) คือ การตั้งใจฟังธรรมที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อน หรือที่เคยฟังแล้วก็รับฟังเพื่อได้รับความกระจ่างมากขึ้น บรรเทาความสงสัยและทำความเห็นให้ถูกต้องยิ่งขึ้น จนเกิดปัญญาหรือความรู้ก็พยายามนำเอาความรู้และธรรมะนั้นนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สู่หนทางเจริญต่อไป

๙. บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม (ธัมมเทสนามัย) คือ การแสดงธรรมไม่ว่าจะเป็นรูปของการกระทำ หรือการประพฤติปฏิบัติด้วยกาย วาจา ใจ ในทางที่ชอบ ตามรอยบาทองค์พระศาสดา ให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุคคลอื่น หรือการนำธรรมไปขัดเกลากิเลสอุปนิสัยเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มาประพฤติปฏิบัติธรรมต่อไป

๑๐. บุญสำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ตรง (ทิฏฐชุกัมม์) คือ ความเข้าใจในเรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ สิ่งที่เป็นแก่นสารสาระหรือที่ไม่ใช่แก่นสารสาระ ทางเจริญทางเสื่อม สิ่งอันควรประพฤติสิ่งอันควรละเว้น ตลอดจนการกระทำความคิดความเห็นให้เป็นสัมมาทิฏฐิอยู่เสมอ

บุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการนี้ ผู้ใดได้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือยิ่งมากจนครบ ๑๐ ประการแล้ว ผลบุญย่อมเกิดแก่ผู้ได้กระทำมากตามบุญที่ได้กระทำ ยิ่งได้มีการเตรียมกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ตั้งใจจรดเข้าสู่ศูนย์กลางกาย หยุดในหยุด เข้าไปแล้วก็ยิ่งได้รับบุญมหาศาลตามความละเอียดประณีตที่เข้าถึงยิ่งๆ ขึ้นไป

ที่มา
http://www.dhammakaya.org/dhamma/boon01.php
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)