สมัยอาตมามาอยู่วัดสวนโมกข์...
การปักเขต...ผูกพัทธสีมา...
เขาทำเป็นเขตแดนของโบสถ์... ไม่มีพิธีกรรมอะไรเลย...
ทำกันไม่กี่คน...
เอาผู้ใหญ่บ้านมาชี้เขต... พระมาบอกจุดสิ้นสุด...
ทำเสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง...
แต่เดี๋ยวนี้ มันจัดกัน ... ห้าวัน ห้าคืน ...
เจ็ดวัน เจ็ดคืน ... เก้าวัน เก้าคืน ...
มีความรู้สึกว่า...
ลูกนิมิตนี่ ... มันฝังยากเหลือเกิน ... หนักหนาสาหัสมาก ...กว่าจะฝังได้...
โยม...นึกถึงหลักความจริงสิ...
ลูกนิมิตนี่...ฝังยาก หรือ ฝังง่าย ...?
ฝังง่าย ...
แค่ขุดหลุมเข้า ... หลุมหนึ่ง ...
แล้วเอาลูกนิมิตใส่เข้าไป...แล้วกลบ...
ชั่วโมงเดียว ...เสร็จแล้ว ...
แล้วยังมีบางวัดนี่ ...พิเรนทร์...
"ดองลูกนิมิต"....
จัดงานเสร็จแล้ว... ไม่ยอมตัดลูกนิมิต...
ลูกนิมิตนี่... เขาใส่สาแหรกหวาย ...ห้อยไว้...
พอได้ฤกษ์... เอากรรไกรตัดหวาย..
ลูกนิมิตหล่นตุ๊บ..ลงหลุม..เป็นอีนเสร็จพิธี...
แต่นี่...มันไม่ยอมตัดหวาย...
เก็บไว้อีก ๓ เดือน...
แล้วทำพิธีตัดหวายลูกนิมิตอีกครั้งหนึ่ง...
จัดงานหาเงินอีกรอบ...
ถึงวันตัดลูกนิมิต...
ลุ้นกันแทบตาย...ทั้งพระและญาติโยม ...
เพราะหวายที่ห้อยลูกนิมิตมันผุ...
ยืนลุ้น...กลัวมันจะขาดซะก่อนประธานในพิธีตัด...
เจ้าอาวาสลุ้นซะเหงื่อท่วมเลย...
แล้วคนเรานี่...มันบ้าเกียรติ..มันเชื่ออะไรแปลกๆ...
มันบอกว่า...
ใครได้หวายลูกนิมิต..ถือเป็นคนมีบุญ ...เป็นเกียรติ...เป็นมงคลแก่ชีวิต...
เป็นมงคลต่อวงศ์ตระกูล...
โอย...แย่งกันเป็นเจ้าภาพตัดลูกนิมิต...แทบจะเหยียบกันตาย...
กรรมการวัด หัวใส...
เห็นแย่งกันดีนัก...จัดประมูลซะเลย...
ใครทำบุญเยอะกว่ากัน...ให้เป็นเจ้าภาพ...
ใครอยากเป็นเจ้าภาพ...เลยต้องเสียเงิน 5 พัน 7 พัน ...
เอามีดเฉาะหวาย...ฉึกเดียว...เสียห้าพัน...
แหม... มันน่ารวยจริงๆ...
พอตัดหวายเสร็จ...
ผู้คนมาแย่งหวายแขวนลูกนิมิตกันอีก...
ถามว่าเอาไปทำอะไร...?
มันบอกว่า...เอาไปบูชา...
หวายผุๆ... ผู้คนแย่งกันอุตลุด...
เห็นหวายผุ...เป็นของวิเศษ...
เอาไปบูชา...
ทีของวิเศษ... คือ ธรรมะ ... คำสอนของพระพุทธเจ้า...
มันทิ้งๆ ..ขว้างๆ ...
เห็นแล้ว กลุ้มใจจริงๆ ...คนไทยนี่ ...
**นิมิต ความหมาย -:
1. เครื่องหมาย ได้แก่วัตถุอันเป็นเครื่องหมายแห่งสีมา***, วัตถุที่ควรใช้เป็นนิมิตมี ๘ อย่าง ภูเขา ศิลา ป่าไม้ ต้นไม้ จอมปลวก หนทาง แม้น้ำ น้ำ
2. (ในคำว่าทำนิมิต) ทำอาการเป็นเชิงชวนให้เขาถวาย, ขอเขาโดยวิธีให้รู้โดยนัย ไม่ขอตรง ๆ
3. เครื่องหมายสำหรับให้จิตกำหนดในการเจริญกรรมฐาน, ภาพที่เห็นในใจของผู้เจริญกรรมฐาน, ภาพที่เป็นอารมณ์กรรมฐานมี ๓ คือ
๑. บริกรรมนิมิต นิมิตแห่งบริกรรม หรือนิมิตตระเตรียม ได้แก่ สิ่งที่เพ่ง หรือกำหนดนึกเป็นอารมณ์กรรมฐาน
๒. อุคคหนิมิต นิมิตที่ใจเรียน หรือนิมิตติดตาติดใจ ได้แก่ สิ่งที่เพ่งหรือนึกนั้นเอง ที่แม่นในใจ จนหลับตามองเห็น
๓. ปฏิภาคนิมิต นิมิตเสมือน หรือนิมิตเทียบเคียง ได้แก่อุคคหนิมิตนั้น เจนใจจนกลายเป็นภาพที่เกิดจากสัญญา เป็นของบริสุทธิ์ จะนึกขยาย หรือย่อส่วนก็ได้ตามปรารถนา
4. สิ่งที่พระโพธิสัตว์ทอดพระเนตรเห็นก่อนเสด็จออกบรรพชา ๔ อย่าง
***สีมา ความหมาย -:
เขตกำหนดความพร้อมเพรียงของสงฆ์, เขตชุมนุมของสงฆ์, เขตที่สงฆ์ตกลงไว้สำหรับภิกษุทั้งหลายที่อยู่ภายในเขตนั้นจะต้องทำสังฆกรรมร่วมกัน แบ่งเป็น ๒ ประเภทใหญ่คือ
๑. พัทธสีมา แดนที่ผูก ได้แก่ เขตที่สงฆ์กำหนดขึ้นเอง
๒. อพัทธสีมา แดนที่ไม่ได้ผูก ได้แก่เขตที่ทางบ้านเมืองกำหนดไว้แล้วตามปกติของเขา หรือที่มีอย่างอื่นในทางธรรมชาติเป็นเครื่องกำหนด สงฆ์ถือเอาตามกำหนดนั้นไม่วางกำหนดขึ้นเองใหม่
http://www.dhammathai.org/dhammastory/story36.php