ผู้เขียน หัวข้อ: รวมธรรมบทคาถา (หมวดคู่)  (อ่าน 3511 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เลดี้เบื๊อก

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นไม้เล็กพริ้วไหวดั่งสายลม
  • *
  • กระทู้: 165
  • พลังกัลยาณมิตร 119
    • ดูรายละเอียด
รวมธรรมบทคาถา (หมวดคู่)
« เมื่อ: มกราคม 06, 2011, 10:57:55 pm »
   ใจเป็นผู้นำ...
   
   มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา
   มโนเสฏฺฐา มโนมยา
   มนสา เจ ปทุฏฺเฐน
   ภาสติ วา กโรติ วา
   ตโต นํ ทุกฺขมเนฺวติ
   จกฺกํ ว วหโต ปทํ . . . ฯ ๑ ฯ
   
   ใจเป็นผู้นำทุกสิ่งทุกอย่าง ใจเป็นใหญ่
   ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าคนเรามีใจชั่วเสียแล้ว
   การพูด การกระทำก็พลอยชั่วไปด้วย
   เพราะการพูดชั่วทำชั่วนั้นทุกข์ย่อมตามสนองเขา
   เหมือนล้อหมุนตามรอยเท้าโค
   
   Mind foreruns all mental conditions,
   Mind is chief, mind-made are they;
   If one speaks or acts with a wiked mind,
   Then suffering will follows him
   Even as the wheel, the hoof of the ox.
   
   [ ธรรมโลกีย์ มีใจนำ ทุกสิ่งอย่าง
   ใจผู้สร้าง วางให้เลิศ ประเสริฐได้
   ดังนี้จึง    หากพูด-ทำ หวังทำลาย
   ล้วนทุกข์หมาย ว่ายเวียนวน จนสิ้นกาย(สังขาร)
   ___นายศรี ]
   
   
   ใจเป็นผู้นำ...
   
   มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา
   มโนเสฏฺฐา มโนมยา
   มนสา เจ ปสนฺเนน
   ภาสติ วา กโรติ วา
   ตโต นํ สุขมเนฺวติ
   ฉายา ว อนปายินี . . . ฯ ๒* ฯ
   
   ใจเป็นผู้นำทุกสิ่งทุกอย่าง ใจเป็นใหญ่
   ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าคนเรามีใจบริสุทธิ์
   การพูด การกระทำก็พลอยบริสุทธิ์ไปด้วย
   เพราะการพูดและกระทำอันบริสุทธิ์นั้น
   ความสุขย่อมตามสนองเขา เหมือนเงาติดตามตน
   
   Mind foreruns all mental conditions,
   Mind is chief, mind-made are they;
   If one speaks or acts with a pure mind,
   Then happiness follows him
   Even as the shadow that never leaves.
   
   * พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐเขียน อนุปายินี แปลว่า ติดตาม
   แต่ฉบับของสมาคมบาลีปกรณ์เขียน อนปายินี (อนฺ+อป+อี)
   แปลว่า ไม่พราก หรือติดตามนั่นแล ในที่นี้ข้าพเจ้าถือตามฉบับหลัง

  ใครอาฆาต...
   
   อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ
   อชินิ มํ อหาสิ เม
   เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ
   เวรํ เตสํ น สมฺมติ . . . ฯ ๓ ฯ
   
   ใครมัวคิดอาฆาตว่า
   "มันด่าเรา มันทำร้ายเรา
   มันเอาชนะเรา มันขโมยของเรา"
   เวรของเขาไม่มีทางระงับ
   
   'He abused me, he beat me,
   He defeated me, he robbed me',
   In those who harbour such thoughts
   Hatred never ceases.
   
   
   ใครไม่อาฆาต...
   
   อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ
   อชินิ มํ อหาสิ เม
   เย จ ตํ นูปนยฺหนฺติ
   เวรํ เตสูปสมฺมติ . . . ฯ ๔ ฯ
   
   ใครไม่คิดอาฆาตว่า
   "มันด่าเรา มันทำร้ายเรา
   มันเอาชนะเรา มันขโมยของเรา"
   เวรของเขาย่อมระงับ
   
   'He abused me, he beat me,
   He defeated me, he robbed me'
   In those who harbour not such thoughts
   Hatred finds its end.
   

   เวรระงับด้วย...
   
   น หิ เวเรน เวรานิ
   สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ
   อเวเรน จ สมฺมนฺติ
   เอส ธมฺโม สนนฺตโน . . . ฯ ๕ ฯ
   
   แต่ไหนแต่ไรมา ในโลกนี้
   เวรไม่มีระงับด้วยการจองเวร
   มีแต่ระงับด้วยการไม่จองเวร
   นี้เป็นกฎเกณฑ์ตายตัว
   
   At any time in this world,
   Hatred never ceases by hatred,
   But through non-hatred it ceases.
   This is an eternal law.
   
      วิวาททุ่มเถียง...
     
      ปเร จ น วิชานนฺติ
      มยเมตฺถ ยมามเส
      เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ
      ตโต สมฺมนฺติ เมธคา . . . ฯ ๖ ฯ
     
      คนทั่วไปมักนึกไม่ถึงว่า ตนกำลังพินาศ
      เพราะวิวาททุ่มเถียงกัน
      ส่วนผู้รู้ความจริงเช่นนั้น
      ย่อมไม่ทะเลาะกันอีกต่อไป
     
      The common people know not
      That in this quarrel they will perish,
      But those who realize this truth
      Have their quarrels calmed thereby.

   ลมโค่นต้นไม้...
   
   สุภานุปสฺสึ วิหรนฺตํ
   อินฺทฺริเยสุ อสํวุตํ
   โภชนมฺหิ อมตฺตญฺญุํ
   กุสีตํ หีนวีริยํ
   ตํ เว ปสหตี มาโร
   วาโต รุกฺขํว ทุพฺพลํ . . . ฯ ๗ ฯ
   
   มารย่อมสามารถทำลายบุคคล
   ผู้ตกเป็นทาสของความสวยงาม
   ไม่ควบคุมการแสดงออก
   ไม่รู้จักประมาณในโภชนาหาร
   เกียจคร้านและอ่อนแอ
   เหมือนลมแรงพัดโค่นต้นไม้ที่ไม่แข็งแรง
   
   As the wind overthrows a weak tree,
   So does Mara overpower him
   Who lives attached to sense pleasures,
   Who lives with his sense uncontrolled,
   Who knows not moderation in his food,
   And who is indolent and inactive.
   
   
   ...ลมไม่โค่น...
   
   อสุภานุปสฺสึ วิหรนฺตํ
   อินฺทฺริเยสุ สุสํวุตํ
   โภชนมฺหิ จ มตฺตญฺญุํ
   สทฺธํ อารทฺธวีริยํ
   ตํ เว นปฺปสหตี มาโร
   วาโต เสลํว ปพฺพตํ . . . ฯ ๘ ฯ
   
   มารย่อมไม่สามารถทำลายบุคคล
   ผู้ไม่ตกเป็นทาสของความสวยงาม
   รู้จักควบคุมการแสดงออก
   รู้จักประมาณในโภชนาหาร
   มีศรัทธา และมีความขยันหมั่นเพียร
   เหมือนลมไม่สามารถพัดโค่นภูเขา
   
   As the wind does not overthrow a rocky mount,
   So Mara indeed does not overpower him
   Who lives unattached to sense pleasures,
   Who lives with his senses well-controlled,
   Who knows moderation in his food,
   And who is full of faith and high vitality.

คนที่กิเลส...
   
   อนิกฺกสาโว กาสาวํ
   โย วตฺถํ ปริทเหสฺสติ
   อเปโต ทมสจฺเจน
   น โส กาสาวมรหติ . . . ฯ ๙ ฯ
   
   คนที่กิเลสครอบงำใจ
   ไร้การบังคับตนเองและไร้สัตย์
   ถึงจะครองผ้ากาสาวพัสตร์
   ก็หาคู่ควรไม่
   
   Whosoever, not freed from defilements,
   Without self-control and truthfulness,
   Should put on the yellow robe -
   He is not worthy of it.
   
   
   ...ผู้หมดกิเลส...
   
   โย จ วนฺตกสาวสฺส
   สีเลสุ สุสมาหิโต
   อุเปโต ทมสจฺเจน
   ส เว กาสาวมรหติ . . . ฯ ๑๐ ฯ
   
   ผู้หมดกิเลสแล้ว มั่นคงในศีล
   รู้จักบังคับตนเอง และมีสัตย์
   ควรครองผ้ากาสาวพัสตร์แท้จริง
   
   But he who has discarded defilements,
   Firmly established in moral precepts,
   Possessed of self-control and truth,
   Is indeed worthy of the yellow robe.

 ผู้ใดเห็นสิ่ง...
   
   อสาเร สารมติโน
   สาเร จ อสารทสฺสิโน
   เต สารํ นาธิคจฺฉนฺติ
   มิจฉาสงฺกปฺปโคจรา . . . ฯ ๑๑ ฯ
   
   ผู้ใดเห็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระ
   เห็นสิ่งที่เป็นสาระ ว่าไร้สาระ
   ผู้นั้นมีความคิดผิดเสียแล้ว
   ย่อมไม่ประสบสิ่งที่เป็นสาระ
   
   In the unessential they imagine the essential,
   In the essential they see the unessential;
   They who feed on wrong thoughts as such
   Never achieve the essential.
   
   
   ...เข้าใจสาระ..
   
   สารญฺจ สารโต ญตฺวา
   อาสารญฺจ อสารโต
   เต สารํ อธิคจฺฉนฺติ
   สมฺมาสงฺกปฺปโคจรา . . . ฯ ๑๒ ฯ
   
   ผู้ที่เข้าใจสิ่งที่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระ
   และสิ่งที่ไร้สาระว่าไร้สาระ
   มีความคิดเห็นชอบ
   ย่อมประสบสิ่งที่เป็นสาระ
   
   Knowing the essential as the essential,
   And the unessential as the unessential,
   They who feed on right thoughts as such
   Achieve the essential.

เรือนที่มุงไม่...
     
      ยถา อคารํ ทุจฺฉนฺนํ
      วุฏฐิ สมตฺวิชฺฌติ
      เอวํ อภาวิตํ จิตฺตํ
      ราโค สมติวิชฺฌติ . . . ฯ ๑๓ ฯ
     
      เรือนที่มุงไม่เรียบร้อย
      ฝนย่อมไหลย้อยเข้าได้
      ใจที่ไม่อบรมฝึกหัด
      ราคะกำหนัดย่อมครอบงำ
     
      Even as rain gets into an ill-thatched house,
      Even so lust penetrates an undeveloped mind.
       
      เรือนที่มุง...
     
      ยถา อคารํ สุจฺฉนฺนํ
      วุฏฐิ น สมตฺวิชฺฌติ
      เอวํ สุภาวิตํ จิตฺตํ
      ราโค น สมติวิชฺฌติ . . . ฯ ๑๔ ฯ
     
      เรือนที่มุงเรียบร้อย
      ฝนย่อมไหลย้อยเข้าไม่ได้
      ใจที่อบรมเป็นอย่างดี
      ราคะไม่มีวันเข้าครอบงำ
     
      Even as rain gets not into an well-thatched house,
      Even so lust penetrates not an well-developed mind.

คนทำดีย่อม...
     
      อิธ โมทติ เปจฺจ โมทติ
      กตปุญฺโญ อุภยตฺถ โมทติ
      โส โมทติ โส ปโมทติ
      ทิสฺวา กมฺมวิสุทฺธิมตฺตโน . . . ฯ ๑๖ ฯ
     
      คนทำดีย่อมร่าเริงในโลกนี้
      คนทำดีย่อมร่าเริงในโลกหน้า
      คนทำดีย่อมร่าเริงในโลกทั้งสอง
      คนทำดีย่อมร่าเริง เบิกบานใจยิ่งนัก
      เมื่อมองเห็นแต่กรรมบริสุทธิ์ของตน
     
      Here he rejoices, hereafter he rejoices,
      In both worlds the well-doer rejoices;
      He rejoices, exceedingly rejoices,
      Seeing his own pure deeds.
     
      คนทำชั่วย่อม...
     
      อิธ ตปฺปติ เปจฺจ ตปฺปติ
      ปาปการี อุภยตฺถ ตปฺปติ
      ปาปํ เม กตนฺติ ตปฺปติ
      ภิยฺโย ตปฺปติ ทุคฺคตึ คโต . . . ฯ ๑๗ ฯ
     
      คนทำชั่วย่อมเดือดร้อนในโลกนี้
      คนทำชั่วย่อมเดือดร้อนในโลกหน้า
      คนทำชั่วย่อมเดือดร้อนในโลกทั้งสอง
      เมื่อคิดได้ว่า ตนทำแต่กรรมชั่ว
      ตายไปเกิดในทุคติ ยิ่งเดือดร้อนหนักขึ้น
     
      Here he laments, hereafter he laments,
      In both worlds the evil-doer laments;
      Thinking; 'Evil have I done', thus he laments.
      Furthermore he laments,
      When gone to a state of woe.
     
      คนทำดีย่อม...
     
      อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ
      กตปุญฺโญ อุภยตฺถ นนฺทติ
      ปุญฺญํ เม กตนฺติ นนฺทติ
      ภิยฺโย นนฺทติ สุคตึ คโต . . . ฯ ๑๘ ฯ
     
      คนทำดีย่อมสุขใจในโลกนี้
      คนทำดีย่อมสุขใจในโลกหน้า
      คนทำดีย่อมสุขใจในโลกทั้งสอง
      เมื่อคิดว่าตนได้ทำแต่บุญกุศล ย่อมสุขใจ
      ตายไปเกิดในสุคติ ยิ่งสุขใจยิ่งขึ้น
     
      Here he is happy, hereafter he is happy,
      In both worlds the well-doer is happy;
      Thinking; 'Good have I done', thus he is happy.
      Furthermore he is happy,
      When gone to the state of bliss.

คนที่จำตำรา...
     
      พหุมฺปิ เจ สํหิตํ ภาสมาโน
      น ตกฺกโร โหติ นโร ปมตฺโต
      โคโปว คาโว คณยํ ปเรสํ
      น ภาควา สามญฺญสฺส โหติ . . . ฯ ๑๙* ฯ
     
      คนที่ท่องจำตำราได้มาก
      แต่มัวประมาทเสีย ไม่ทำตามคำสอน
      ย่อมไม่ได้รับผลที่พึงได้จากการบวช
      เหมือนเด็กเลี้ยงโค นับโคให้คนอื่นเขา
     
      Though much he recites the Sacred Texts,
      But acts not accordingly, the heedless man
      Is like the cowherd who counts others' kine;
      He has no share in religious life.
     
      * สํหิต หมายถึง สํหิตา หรือคัมภีร์ว่าด้วยกฎสนธิของคำและวิธีสวด
      พระเวทให้ถูกต้องแบ่งเป็น ๓ คัมภีร์คือ ฤคเวทสํหิตา สามเวทสํหิตา
      และอถรรพเวทสํหิตา ภายหลังเพิ่มยชุรเวทสํหิตาอีก ๒ คัมภีร์ รวมเป็น ๕
      พุทธศาสนายืมศัพท์นี้มาใช้ เมื่อเราไม่มีพระเวทอย่างพราหมณ์ คำนี้จึง
      หมายความเพียง ตำรา หรือคัมภีร์ศาสนา ส่วนพระอรรถกถาจารย์ให้
      แปลว่า คำอันประกอบด้วยประโยชน์ ท่านคงคิดว่าคำนี้เขียน สหิตํ
      (ส + หิตํ) กระมัง
     
     
      ถึงจำได้น้อย...
     
      อปฺปมฺปิ เจ สํหิตํ ภาสมาโน
      ภมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารี
      ราคญฺจ โทสญฺจ ปหาย โมหํ
      สมฺมปฺปชาโน สุวิมุตฺตจิตฺโต
      อนุปาทิยาโน อิธ วา หุรํ วา
      ส ภาควา สามญฺญสฺส โหติ . . . ฯ ๒๐ ฯ
     
      ถึงจะท่องจำตำราได้น้อย
      แต่ประพฤติชอบธรรม
      ละราคะ โทสะ และโมหะได้
      รู้แจ้งเห็นจริง มีจิตหลุดพ้น
      ไม่ยึดมั่น ถือมั่น ทั้งปัจจุบันและอนาคต
      เขาย่อมได้รับผลที่พึงได้จากการบวช
     
      Though little he recites the Sacred Texts,
      But puts the precepts into practice,
      Forsaking lust, hatred and delusion,
      With right knowledge, with mind well freed,
      Cling to nothing here or hereafter,
      He has a share in religious life.
     
      http://board.srthinth.info/DhammaPhatha01.html

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: รวมธรรมบทคาถา (หมวดคู่)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 06, 2011, 11:51:04 pm »
 :13: อนุโมทนาครับพี่สาว ขอบคุณครับผม
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~