ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงกระซิบข้างหัวใจ  (อ่าน 1693 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ lek

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1724
  • พลังกัลยาณมิตร 687
    • ดูรายละเอียด
เสียงกระซิบข้างหัวใจ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 03:38:16 am »
นับจากนี้ พระภิกษุทั่วถ้วน ต่างหยุดการเดินค้างค้างแรมกันแล้ว
ด้วยเพราะต้องอยู่จำพรรษาหาความเจริญในธรรมวินัยกันอย่างเต็มที่

แล้วเราท่านผู้ครองเรื่องกันละ จะไม่หยุดกันบ้างหรือ ?

เวลาที่เหลือน้อยลงทุกวันๆ เราได้เตรียมพร้อมสำหรับตัวเราเองบ้างหรือยัง

เพราะเราทุกคนยังต้องเป็นผู้เดินทางไกลโดยลำพัง เดินไปในหนทางที่กว้าง

โดยไม่รู้กันเลยว่า จะต้องไปพบอะไรกันบ้าง ไม่มีโอกาสเตรียมตัวได้เลย

แล้วเราจะมีทางสู้กับโชคชะตาได้อย่างไรกัน..

อะไรกันละที่ดักรอเราท่านอยู่เบื้องหน้า....ทางนั้นก็ได้แก่





๑. ทางไปสู่อบายมีนรกเป็นต้น (เหฏฐิมสังสาระ)

๒. ทางไปสู่มนุษย์และเทวดา ๖ ชั้น (มัชฌิมสังสาระ)

๓. ทางไปสู่รูปพรหมและอรูปพรหม (อุปริมสังสาระ)

ทางทั้ง ๓ สายเป็นทางที่วนเวียนอยู่ในโลกที่เรียกว่า วัฏฏะสงสาร





๑. เหฏฐิมสังสาระ หมายถึงทางที่ทำให้มนุษย์ไปเกิดเป็นสัตว์ในอบาย ๔ มีนรกเป็นต้น ได้แก่บาปอกุศลมีการผิดศีล ๕ และอกุศลกรรมบถ ๑๐ บุคคลที่ผิดศีลผิดธรรมด้วยการเสาะหาประโยชน์โดย ไม่เอื้อเฟื้อต่อศีลที่เป็นกฎของสังคมมนุษย์จะต้องรักษาไว้ เมื่อตายแล้วก็จะต้องท่องเที่ยวไปรับผลกรรมเท่าที่ตนทำไว้ วนเวียนไปเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉานอยู่ในภูมิเบื้องต่ำอยู่จนกว่าจะหมดแรงกรรมเท่าที่ตนทำไว้

๒. มัชฌิมสังสาระ หมายถึงทางที่ทำให้มนุษย์กลับมาเกิดเป็นมนุษย์และเทวดา ๖ ชั้น สำหรับกรรมที่ทำให้มนุษย์ได้กลับมาเป็นมนุษย์หรือเป็นเทวดาสูงขึ้นไปนั้น ก็ได้แก่ศีล ๕ กรรมบถ ๑๐ หรือทาน ศีล ภาวนาที่เป็นกามาวจรกุศล ก็เป็นแรงส่งให้ผู้ปฏิบัติตามคุณธรรมดังกล่าวนั้น ได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีก มนุษย์เป็นผู้มีใจสูงมีโอกาสที่จะทำได้ทั้งความดีและความชั่ว เพราะคำว่า มนุษย์ นั้น ท่านเรียกว่ามุนษย์สมบัติ การที่บุคคลได้มาเกิดเป็นมนุษย์มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ มีร่างกายแข็งแรง มีจิตใจปลอดโปร่ง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ข้อนี้นับว่าเป็นลาภอันประเสริฐ คนที่มีสุขภาพอนามัยดีทั้งทางกายและทางใจ จะทำความดีหรือการงานอะไรก็สะดวกไปทุกอย่าง แต่นั่นแหละการทำความดีไม่ใช่เป็นกิจที่ทำได้ง่าย จำเป็นจะต้องประกอบด้วยเหตุหลายอย่างเข้าช่วยเหลือจึงจะสามารถทำความดีได้ ปัจจัยที่จะทำให้เกิดความดีนั้นมีหลายอย่าง เช่นการเกิดในประเทศที่สมควร เป็นต้น

๓. อุปริมสังสาระ การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภูมิเบื้องสูง อวิชชาความไม่รู้ว่า การเกิดเป็นพรหมที่มีรูปและไม่มีรูปว่าเป็นทุกข์ จึงเป็นเหตุให้อยากได้เกิดเป็นพรหม ความอยากหรือความต้องการเป็นกิเลสวัฏ ขณะเจริญฌานจนได้ฌานสมาบัติเป็นกรรมวัฏ เวลาตายหากฌานนั้นไม่เสื่อมก็จะเป็นนานากขณิกกรรมปัจจัยให้เกิดเป็นพรหม รูปร่างกายของพรหมนั้นเรียกว่า วิปากวัฏ ที่อยู่ของพรหมทั้งที่มีรูปและไม่มีรูปท่านเรียกว่า โอกาศโลก รูปร่างกายของพรหมท่านเรียกว่า สัตวโลก วิบากขันธ์พร้อมทั้งนามอีก ๔ ขันธ์ของพรหมนั้นเรียกว่า วิปากวัฏ จะทราบได้ว่าสิ่งที่รอการไปเยือนของท่านนั้นก็มีอยู่ 3 ทางดังกล่าว และท่านก็คงปรารถนาที่จะมีความเป็นอยู่แบบคุ้นเคยใช่ไหมค่ะ ( แต่ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย)

ดังนั้นพี่ดอกแก้วขอเสนอ การสร้างเหตุเพื่อให้ได้รับผล เพื่อให้ท่านสามารถ เข้าพรรษา กับเขาได้อย่างมีคุณค่าจริงๆนะค่ะ...จำเป็นต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ ๕ อย่างคือ





๑.จะต้องมีศรัทธา คือความเชื่อ ความเลื่อมใสในหลักคำสอนตามที่ผู้รู้ชักจูง แนะนำ ในหลักของกรรม ผลของกรรม เชื่อว่าสัตว์โลกต่างมีกรรมเป็นของตน และมีความเชื่อในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ในทางพระพุทธศาสนา หมายความว่าจะต้องมีความเชื่อ ๔ อย่างตามที่ได้กล่าวมานี้เท่านั้น ถ้าเชื่อนอกจาก ๔ อย่างนี้ ไม่จัดเป็นศรัทธาในพระพุทธศาสนา จัดเป็นศรัทธาเทียม ไม่ใช่ศรัทธาแท้นะคะ เป็นอกุศลจิตตุปบาท

ความเชื่อของชาวพุทธทุกวันนี้โดยมากมักจะหันเหไปเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อหวังลาภผลเท่าที่ตนจะพึงได้พึงถึง ความเชื่อแบบนั้นหาได้ชื่อว่าเป็นศรัทธาในพระพุทธศาสนานี้ไม่ ศรัทธาในพระพุทธศาสนาตามที่ได้กล่าวมานี้ เมื่อบุคคลใดสามารถปลูกให้เกิดมีขึ้นในจิตใจของตนได้แล้ว ศรัทธาก็สามารถเป็นปัจจัยให้เกิดกุศลธรรมได้หลายอย่างหลายประการทีเดียว เพราะเป็นเสมือนประตูหรือเหมือนกับบันไดที่เปิดทางให้ชาวพุทธขึ้นสู่คุณธรรมชั้นสูงได้ การที่เราได้มีโอกาสเข้ามานับถือพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นอุบาสก อุบาสิกา เป็นเณร เป็นพระได้มีโอกาสบริจาคทาน รักษาศีล ปฏิบัติวิปัสสนาเพื่อความพ้นทุกข์ได้ เพราะได้อาศัยศรัทธาเป็นตัวนำมิใช่หรือ หรือจะกล่าวให้ง่ายก็ได้เช่น การสร้างโบสถ์ วิหาร การเปรียญ เป็นต้น ที่สำเร็จลงได้เพราะได้อาศัยศรัทธามิใช่หรือ ดังนั้นศรัทธาจึงเป็นกำลังสำคัญทำให้งานทุกอย่างสำเร็จลงได้ สมตามเทศนานัยที่ว่า… สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตา แปลว่า ศรัทธาตั้งมั่นแล้ว ยังประโยชน์ทุกอย่างให้สำเร็จได้

อีกประการหนึ่งนอกจากศรัทธาจะทำให้ความเป็นอุบาสก อุบาสิกา หรือความเป็นพระเป็นเณรได้มั่นคงในพระพุทธศาสนาแล้ว ยิ่งกว่านั้นศรัทธายังจะเป็นธรรมที่มีอานุภาพคุ้มกันให้ศีลตั้งมั่นและเจริญงอกงามอีกส่วนหนึ่งด้วย





๒. จะต้องมีศีล ซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิดกุศลธรรมต่างๆ ขึ้นอีกมากมาย ดังเทศนานัยที่ว่า

อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยานานญฺจ มาตุกํ ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย

แปลว่า ศีลเป็นสรณะที่พึ่งในเบื้องต้น ศีลเป็นเสมือนมารดาของกุศลธรรมทั้งหลาย ศีลเป็นหัวหน้าของธรรมะทุกอย่าง เพราะฉะนั้น พึงชำระศีลให้หมดจดเถิด

เรื่องของศีลโดยเฉพาะศีล ๕ จัดเป็นมนุษยธรรม คือทำคนให้เป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ จะขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้ ปกติของมนุษย์จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ ทุกคนจะต้องมีเมตตากรุณาต่อกัน เพราะความเมตตากรุณาทั้งสองประการนี้ เป็นรากฐานของสิกขาบทข้อที่ ๑ สถานที่ใดก็ตามถ้ามวลมนุษย์เป็นผู้มีแต่ความเมตตากรุณาต่อกันแล้ว นอกจากสถานที่นั้นจะร่มเย็นเป็นสุขแล้ว ยังจะทำให้ชีวิตมีความปลอดภัยสูงด้วย แต่โบราณมาประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันของเราพระองค์ก็ทรงทศพิธราชธรรม ทรงบำเพ็ญพระองค์เป็นแบบอย่างที่ดีของจักรีวงศ์เป็นต้นมา พระองค์จึงเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจของประชาชนชาวไทย พระองค์ทรงเป็นสมมติเทพของชาวไทย สมัยปัจจุบันนี้เป็นสมัยที่ทุกคนต่างรักษาผลประโยชน์ของตน ไม่ยอมอนุวัติปฏิวัติตามศีลธรรมอันดีงามของพระพุทธศาสนา เพราะเหตุนี้เอง ชีวิตของคนไทยจึงไม่ปลอดภัยแทบทุกที่ไป ต้องเป็นอยู่กันด้วยความระแวง นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ ประชาชนเป็นโรคประสาทกันมาก จะมองไปทางไหนหาใบหน้าที่ยิ้มแย้มยาก ดูเหมือนว่าทุกคนต่างมีปัญหาติดตัวไปตามๆ กัน คล้ายๆ กับว่า ต่างคนมีปัญหาชีวิตเหมือนกับหาทางออกไม่ค่อยจะได้ จะหันหน้าเข้าพึ่งพระศาสนา ศาสนาเองก็มีปัญหาดูช่างสับสนวุ่นวายไปหมด ความจริงพระพุทธศาสนาทรงสอนไว้ครบถ้วนแล้ว ไม่มีความขาดตกบกพร่องที่ตรงไหน ขอให้พวกเราชาวพุทธลองหันกลับมาพิจารณาดูตัวเองว่า การที่เรานับถือพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นอุบาสก อุบาสิกานั้น เราเชื่อกรรมที่เราทำหรือเปล่า เราเชื่อผลของกรรมที่เราทำไหม กรรมที่เราได้ทำลงไปแล้ว เราใช่ไหมที่เป็นผู้ต้องรับผลของกรรม และเราเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ถ้าเรากลับมาพิจารณาตัวของตัวเองแล้วกลับปฏิบัติตัวเองเสียใหม่ ให้มันถูกต้องตามหลักของอุบาสกอุบาสิกาได้ นั่นแหละเห็นว่า ปัญหาทั้งหลายที่กำลังสุมหัวใจจะหมดไป แล้วหมั่นเจริญเมตตาภาวนา สงสารสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน ความสงบเยือกเย็นเป็นสุขก็จะเกิดขึ้น ศีลข้อต้นคือ ปาณาติบาตก็จะบริสุทธิ์ เราก็จะมีชีวิตอย่างปลอดเวรปลอดภัย ก็ไม่ต้องอยู่ด้วยความระแวง ส่วนทรัพย์สมบัติคือ ลาภ ยศ สรรเสริญ และความสุขกายสบายใจทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสมบัติเครื่องประดับชีวิต ทุกคนจำเป็นต้องเสาะหา เมื่อเราเกิดมาก็มิได้มีสมบัติอะไรติดตัวมาเลย เรามาหาได้เอาตอนหลังที่เกิดมาแล้วทั้งนั้น อาจได้มาด้วยมรดกตกทอดหรือได้มาจากการประกอบการงานของเราก็ได้ สมบัติภายนอกเป็นของจำเป็นในความเป็นอยู่ หากบุคคลใดขาดสมบัติเครื่องบริหารชีวิต บุคคลนั้นก็ไม่เป็นสุข แต่นั่นแหละปัจจุบันนี้ คำว่า ประกอบการงานที่ปราศจากโทษ เป็นกิจที่ทำได้ยาก เพราะความสันโดษยินดีเฉพาะสิทธิและหน้าที่เท่าที่ตนจะพึงได้พึงถึงไม่ค่อยจะมีในสังคมโลกเสียแล้ว คำว่า สัมมาชีพ คืออาชีพที่ชอบโดยไม่ไปล่วงล้ำก้ำเกินในทรัพย์สินของบุคคลอื่นนั้น ไม่ค่อยอยู่ในห้วงแห่งความคิดของคนในสมัยใหม่นี้ เข้าทำนองว่า มือใครยาว สาวได้สาวเอา เรื่องศีลธรรมไม่ค่อยอยู่ในความสนใจของคนสมัยนี้เสียแล้ว ข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชน ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องมิจฉาชีพทั้งนั้น จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน หาทางหลีกเลี่ยงเอาตัวรอด มีมากมายไม่ว่าคนในเครื่องแบบหรือคนนอกเครื่องแบบ รู้สึกว่ามีมากมายเหลือประมาณ ทรัพย์ที่ได้มาจากการงานที่ปราศจากโทษ เป็นทรัพย์ที่มาจากสายศีลธรรม เป็นทรัพย์ที่ถูกหลักในความเป็นอุบาสกอุบาสิกา จะบริโภคหรืออุปโภคหรือจะทำบุญด้วยทรัพย์ดังกล่าว ก็มีความภูมิใจชื่นใจว่าเป็นทรัพย์ที่เราได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ทุกคนจึงต้องเจริญคุณธรรมข้อที่ว่าด้วย สันโดษ ข้อนี้ไว้นะคะ เพราะพระบาลีได้รับรองไว้ว่า สนฺตุฏฺฐี ปรมํ ธนํ แปลว่า ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง





๓. ต้องไม่เชื่อมงคลตื่นข่าวที่ไม่มีเหตุผล เพราะข่าวคราวต่างๆ เท่าที่มีปรากฏทุกวันนี้ ส่วนใหญ่มักเป็นข่าวที่เชื่อไม่ได้ โดยมากมักเป็นข่าวที่ก่อให้เกิดความหายนะในทางธรรม ทำให้เสียความเป็นชาวพุทธ เชื่อไม่ได้ เพราะสื่อสารมวลชนทุกวันนี้ เขามิได้มุ่งความผิดความถูก แต่เขามุ่งขายข่าวเป็นสินค้ากันมากกว่า ข่าวจะจริงหรือเท็จอย่างไร เขาไม่สนใจ ขอให้ข่าวของเขาขายดีมีคนสนใจซื้อมากๆ ก็เป็นอันว่าพอใจแล้ว อีกอย่างหนึ่งรสนิยมของสังคมทุกวันนี้ ชอบรู้เรื่องความพินาศ ความหายนะของคนอื่น เช่นพระเสียหาย คนฆ่ากันตาย ข่าวการรบราฆ่าฟัน ข่าวไฟไหม้ รถชนคนตายมาก อย่างนี้ชอบฟังชอบอ่านกัน เพราะรู้สึกว่าสะใจดี สังคมไทยทุกวันนี้จึงกลายเป็นสังคมที่ใจร้าย ใจxxxมโหด เป็นสังคมที่ขาดความเมตตาปราณี เป็นสังคมที่ร้อนไปด้วยเพลิงกิเลส ในทางธรรมท่านให้ชาวพุทธ ที่มีฐานะเป็นอุบาสกอุบาสิกาควรเชื่อแต่เรื่องกรรมเท่านั้น ว่าคนและสัตว์ทั้งหลายจะดีหรือชั่ว จะสุขหรือทุกข์ ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำทั้งนั้นที่เป็นเหตุบันดาล อย่างที่จะมีอิทธิพลเหนือกรรมเป็นอันว่าไม่มี เท่าที่สรรพสัตว์ทั้งหลายมีฐานะไม่เหมือนกัน บางคนมีโรคน้อย บางคนมีโรคมาก บางคนมั่งมี บางคนยากจน โง่หรือฉลาด เป็นต้น เป็นเพราะกรรมทั้งนั้นที่จำแนกแจกให้แตกต่างกันไป ต้องด้วยเทศนาที่ว่า กมฺมํ สตฺเต วิภชติ แปลว่า กรรมย่อมจำแนกสัตว์ทั้งหลายให้แตกต่างกัน ดังนั้นอุบาสกอุบาสิกาที่ดีก็จะต้องรักษาความเชื่อ ให้อยู่ในขอบเขตเท่าที่พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้จึงจะถูกต้อง





๔. ต้องเสาะแสวงหาความดีแต่เฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น เพราะพระสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญ เป็นเขตที่ทำบุญอันประเสริฐยิ่งกว่าเขตบุญทั้งหลาย บรรดามี เพราะสามารถอำนวยผลแก่ผู้ทำได้จริง





๕. ต้องไม่เสาะแสวงหาบุญนอกจากพระพุทธศาสนา เพราะการเสาะหาบุญนอกเขตเป็นการเสี่ยงต่อความผิดความถูก เกี่ยวกับความเป็นจริงเท่าที่ควรจะเป็น เพราะในศาสนาที่เป็นเทวนิยมส่วนใหญ่มักจะอ้างเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากผู้วิเศษมาเป็นผู้บันดาล ปฏิเสธกรรมคือ การกระทำ ปฏิเสธเหตุ ปฏิเสธผล คนและสัตว์ทั้งหลาย เมื่อทำความชั่วแล้ว เมื่อสารภาพกับท่านผู้วิเศษแล้วจะไม่มีผล เมื่อตายแล้วก็ไปอยู่กับพระเจ้า ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกต่อไปเลย จัดเป็นนิยตมิจฉาทิฏฐิอย่างแรง เป็นตอวัฏฏะทีเดียวถือเป็นโทษอย่างมหันต์ ตายแล้วต้องไปตกโลกันต์ทีเดียว ทางที่ดีจึงไม่สมควรจะเข้าไปข้องแวะเสียเลยดีกว่า..



นี้แหละค่ะที่พี่ดอกแก้ว ต้องการมากระซิบข้างหัวใจของท่านในเดือนนี้ เดือนที่มีความสำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา นั่นก็คือ..เป็นเดือนที่มีวันอาฬาหบูชา และเป็นเทศกาลเข้าพรรษาด้วยค่ะ.







ด้วยความปรารถนาดีเสมอค่ะ

พี่ดอกแก้ว. 
 

_________________
 
ขอบพระคุณที่มา http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=393

ออฟไลน์ ดอกโศก

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 862
  • พลังกัลยาณมิตร 595
    • rklinnamhom
    • ดูรายละเอียด
Re: เสียงกระซิบข้างหัวใจ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 09:19:25 pm »
อนุโมทนาค่ะ คุณเล็ก

 :13: