ผู้เขียน หัวข้อ: สันติในเรือนใจ 5. ความเมตตา  (อ่าน 2148 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สันติในเรือนใจ 5. ความเมตตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 08:01:39 pm »
สันติในเรือนใจ 5. ความเมตตา


คันฉ่องและโคมฉาย - สันติในเรือนใจ 5. ความเมตตา


ที่มา คมชัดลึก

มชัดลึก : ที่ใดก็ตามที่มีตัณหา มานะ ทิฐิ คือ อยากได้ อยากใหญ่ ใจแคบ ณ ที่นั้นก็จะไม่มีสันติภาพ ถ้าในใจของเราเต็มไปด้วยความอยากได้ อยากใหญ่ ใจแคบ ใจของเราก็ไม่มีสันติหรอก คนที่มีความโลภมาก ๆ มีแล้วก็อยากมีอีกหายุติไม่ได้ เพราะว่าจะนอนไม่หลับ คนที่อยากใหญ่ บ้าอำนาจ อยากเอาชนะคะคาน อยากอยู่เหนือผู้อื่นตลอดเวลา ก็ไม่มีสันติภาพ เพราะต้องเกรงว่าใครจะมาเทียบรัศมีฉัน และคนที่ใจแคบเห็นคนที่คิดต่าง พูดต่าง เทศน์ต่างก็ฟังไม่ได้ ก็ไม่มีความสุข ไม่มีสันติภาพอีก

ฉะนั้นตัณหา มานะ ทิฐิ อยากได้ อยากใหญ่ ใจแคบ มีที่ไหนไม่ว่าจะเป็นมิติของจิตใจ มิติขององค์กร มิติของสังคม วัฒนธรรม ประเทศชาติหรือในเวทีโลก ถ้าอยากได้ อยากใหญ่ ใจแคบ แทรกซึมอยู่ในมิติไหน ก็ มิตินั้นก็ไร้สันติภาพ ถ้าเราจะสร้างสันติภาพ เราจะทำอย่างไร ท่านอาจารย์ใหญ่ของเราบอกว่า ให้เรารู้จักใช้ชีวิตนี้ให้เป็นประโยชน์ เช่น ท่านได้ใช้คำว่า ธรรมะคือหน้าที่
ถ้าเราแต่ละคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของเราอย่างชัดเจนแน่นอนที่สุดสันติภาพ ก็เกิดขึ้น แต่ถ้าเราไม่ได้มุ่งมั่น ทำหน้าที่ของเรา เช่นว่า มีหน้าที่อย่างหนึ่งแต่ไพล่ไปทำอีกอย่างหนึ่ง ก็เกิดวิกฤต พอวิกฤตก็ไร้สันติภาพ ที่นี้ในทัศนะของพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมว่า หากอยากให้โลกนี้มีสันติภาพ ก็ต้องปฏิบัติตามหลักการที่ชื่อ สาราณียธรรม หรือ สามัคคีธรรม ทั้ง ๖ ประการต่อไปนี้
๑ คิดด้วยเมตตา
๒ พูดด้วยเมตตา
๓ ทำด้วยเมตตา
๔ สาธารณโพธิตา มีจิตสำนึกสาธารณะ ได้ทรัพยากรดี ๆ มา แบ่งกันกิน แบ่งกันใช้
๕ ทิฐิสามัญตา มีความคิด ความเห็นลงรอยเป็นหนึ่งเดียวกัน
๖ ศีลสามัญตา มีความประพฤติ หรือมีแบบแผนในการดำรงชีวิตลงรอยเป็นแนวเดียวกัน
ถ้ามี สาราณียธรรม ทั้ง ๖ ประการดังนี้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละสันติภาพในสังคม ในประเทศ และในโลกก็จะเกิดขึ้น
ขออธิบายสั้น ๆ เท่าที่เวลาจะอำนวยว่า ๑. คิดด้วยเมตตา หมายความว่า ให้เรารู้จักเปลี่ยนแปลงวิธีคิดหรือโลกทัศน์ของเรา เช่น ปกติเวลาเราเห็นคน เราก็จะรักเฉพาะคนที่มีรากร่วม ทางวัฒนธรรมเช่นเดียวกันกับเรา เช่นคนไทย ถ้าเป็นคนเหนือด้วยกันก็จะรู้สึกผูกพันกันง่ายกว่าคนใต้ ถ้าคนใต้ด้วยกันเจอกันที่ไหน พอแหลงใต้ด้วยกันก็จะรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันทันที ถ้าต่างศาสนา ถ้าชาวพุทธเจอชาวพุทธ ก็จะรู้สึกเป็นพวกเดียวกันทันที ชาวคริสต์เจอชาวคริสต์ เขาก็จะรู้สึกว่าเป็น คริสเตียนเหมือนกันก็จะจับมือกันได้ง่ายกว่า
นี่เป็นวิธีคิดที่แบ่งขั้ว เลือกข้าง แยกส่วน เราจะเลือกรักเลือกเมตตาเฉพาะคนที่มีรากร่วมทางวัฒนธรรมเช่นเดียวกันกับเราเท่านั้น นี่ยังไม่ใช่ความเมตตาที่แท้จริง


"ว.วชิรเมธี"




.

[url]http://www.komchadluek.net/detail/20110226/89958/%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%885.%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2.html

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ magicmo

  • ต้นไม้เล็กพริ้วไหวดั่งสายลม
  • ***
  • กระทู้: 127
  • พลังกัลยาณมิตร 30
    • ดูรายละเอียด
Re: สันติในเรือนใจ 5. ความเมตตา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2012, 12:06:44 pm »
ขอบคุณมากๆๆนะคับ