จักรพรรดิญี่ปุ่นทรงห่วงวิกฤตินิวเคลียร์

[มดเอ๊กซ]

 

เตาปฏิกรณ์ 4 ไฟไหม้ซ้ำ อพยพเจ้าหน้าที่หนีตาย ชี้เบตาดีนกันรังสีไม่ได้ “สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต” ทรงห่วงวิกฤตินิวเคลียร์ พร้อมทรงสวดมนต์ขอพรให้ประชาชนปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ และควบคุมสถานการณ์โรงไฟฟ้าไว้ให้ได้ ขณะวิกฤตินิวเคลียร์ยังโจมตี “ญี่ปุ่น” อย่างหนัก ไฟไหม้อาคารคลุมเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 ปล่อยสารกัมมันตรังสีทั่วบริเวณ ต้องอพยพเจ้าหน้าที่หนีตาย แต่โชคดีลดลง หลังดับไฟได้สำเร็จ “โสมขาว” ประกาศส่งธาตุ “โบรอน” ไปช่วยหล่อเย็น ธรณีพิโรธ ขย่มซ้ำอีก 6.0 ริคเตอร์ นอกชายฝั่ง จ.ชิบะ ขณะที่ยอดตายกับสูญหายพุ่งเกิน 11,000 คน องค์การอนามัยโลก เตือนอย่าตระหนก แห่ซื้อยาเม็ดไอโอดีน ชี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทานมอบให้แก่ผู้ประสบภัยญี่ปุ่น “กษิต” ยัน กต.พร้อมช่วยคนไทยในญี่ปุ่นกลับมาตุภูมิ ด้านทูตญี่ปุ่นซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ ขณะที่ “จุรินทร์” สั่ง อภ.ผลิตไอโอดีน 1.5 หมื่นเม็ดแจกคนไทยไปญี่ปุ่น  “อย.” สุ่มปลาฮามาจิ-ทูน่า ญี่ปุ่น ส่งตรวจการปนเปื้อนกัมมันตรังสี
   
จากกรณีมหาวิปโยคแผ่นดินไหวรุนแรง 8.9 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แต่ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศยกระดับแรงสั่นสะเทือนเป็น 9.0 ริคเตอร์ ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตประชาชนครั้งใหญ่ในฟรอบ 140 ปีของญี่ปุ่น เป็นบริเวณกว้างจากคลื่นยักษ์สึนามิและการระเบิดของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ภายในโรงไฟฟ้าฟูกูชิมา ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าจะรุนแรงคล้ายกับเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในยูเครนระเบิดเมื่อปี 2529  ทั้งนี้รัฐบาลญี่ปุ่นสั่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หลังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดรอบที่ 2 โดยมีรายงานพบศพผู้คนเสียชีวิตแล้วกว่า 2,000 ศพ หายสาบสูญอีก 15,000 คน ขณะที่ทั่วโลกต่างยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่นอย่างไม่ขาดสาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทรงสวดมนต์ให้ผู้คนปลอดภัย
   
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน จากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งญี่ปุ่นทรงมีพระราชดำรัสถ่ายทอดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า พระองค์ทรงสวดมนต์ขอให้ประชาชนมีความปลอดภัยหลังแผ่นดินไหวรุนแรงและสึนามิ โดยทรงยอมรับว่า ประเทศญี่ปุ่นเองก็ไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตมากขนาดไหนในเหตุการณ์ร้ายซ้ำซ้อนเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ทรงขอให้ทุกคนปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้คนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปอยู่ในพื้นที่สภาพเลวร้าย อากาศหนาวเย็น ขาดแคลนน้ำและน้ำมันเชื้อเพลิง พระองค์ทรงสวดมนต์อ้อนวอนให้การทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยราบรื่นและชีวิตของประชาชนดีขึ้นแม้สักเพียงเล็กน้อยก็ยังดี
   
นอกจากนั้น สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นยังทรงแสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา และหวังว่าเราจะสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้ โฆษกสำนักพระราชวังอิมพีเรียล เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระจักรพรรดิทรงมีพระราชดำรัสถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศอันเนื่องจากวิกฤติภัยธรรมชาติ

ระทึกไหม้เตาปฏิกรณ์หมายเลข4
   
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่อาคารคลุมเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาหมายเลข 1 ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 250 กม. สาเหตุนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีกลุ่มควันลอยขึ้นมาเหนือตัวอาคารปรากฏให้เห็น เจ้าหน้าที่ระบุว่า สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลาต่อมา และการปั๊มน้ำทะเลเข้าไปที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 หมายเลข 2 และ หมายเลข 3 ยังคงทำงานได้อย่างช้า ๆ สรุปว่า เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้เกิดระเบิดขึ้นมา 4 ครั้งและไฟไหม้ 2 ครั้ง ด้านสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส แถลงว่า บ่อบรรจุแท่งเชื้อเพลิงของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 เป็นสิ่งที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งสำหรับวิกฤติพลังงานนิวเคลียร์ เพราะสามารถปล่อยสารกัมมันตรังสีขึ้นสู่อากาศได้โดยตรง

อพยพเจ้าหน้าที่หนีตาย
   
เจ้าหน้าที่สำนักงานความปลอดภัยพลังงานปรมาณูของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังทำงานเพื่อหาทางควบคุมวิกฤติการณ์พลังงานนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ให้อพยพออกมาก่อนเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากระดับของสารกัมมันตรังสีสูงเกินปกติ ขณะที่นายยูกิโอะ เอดาโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงว่า บางส่วนของตัวอาคารคลุมเตาปฏิกรณ์ได้รับความเสียหาย เพราะไอความร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 อย่างไรก็ตาม ระดับของสารกัมมันตรังสีได้ลดลงมาแล้ว ซึ่งระดับของสารกัมมันตรังสีที่วัดได้นั้นอยู่ที่ 1,000 มิลลิซีเวอร์ต ก่อนที่จะลดลงมาเหลือ 800-600 มิลลิซีเวอร์ต ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่า ระดับของสารกัมมันตรังสี 1,000 มิลลิซีเวอร์ต เพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ทำให้ป่วยได้
         
โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงอีกว่า ระดับของสารกัมมันตรังสีที่ตรวจวัดในเขตพื้นที่ด้านนอกของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เมื่อมีการตรวจวัดเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันพุธเวลาท้องถิ่น โดยทำการวัดที่บริเวณประตูทางเข้าโรงไฟฟ้า พบว่ามีปริมาณ 1.5 มิลลิซีเวอร์ต ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์แต่อย่างใด ส่วนประเด็นอพยพเจ้าหน้าที่ออกมานั้น ทางบริษัทโตเกียว อีเลคตริค เพาเวอร์ จำกัด แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้เริ่มกลับเข้าไปทำหน้าที่ควบคุมวิกฤติพลังงานได้แล้ว หลังจากมีการอพยพชั่วคราวเพราะปริมาณสารกัมมันตรังสีสูง

ใช้ ฮ.บินวนฉีดน้ำลดความร้อน
       
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า 70% ของแท่งเชื้อเพลิงของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 1 ในจำนวนทั้งหมด 6 เตาได้รับความเสียหายอย่างมาก หลังเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ส่วนอีกเตานั้นมีแท่งเชื้อเพลิงประมาณ 33% ที่ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่มีแนวคิดที่ว่าจะใช้เฮลิคอปเตอร์และรถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำ เพื่อบรรเทาการแพร่สารกัมมันตรังสีและลดระดับความร้อนของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เนื่องจากระบบหล่อเย็นเสียหาย ซึ่งต่อมามีรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ขนส่งสองเครื่องยนต์แบบชินุค ซีเอช-47 ของกองทัพญี่ปุ่น ได้บินขึ้นไปฉีดน้ำแล้ว มีรายงานด้วยว่า สมาชิก 2 คนของทีมกู้ภัยออสเตรเลีย ได้รับสารกัมมันตรังสีแต่ในระดับต่ำ เพราะเฮลิคอปเตอร์ต้องลงจอดฉุกเฉินที่เมืองฟูกูชิมา ห่างออกมา 20 กม.จากเขตรัศมีอพยพผู้คน 20 กม.รอบโรงไฟฟ้า

โสมขาวส่ง“โบรอน”ช่วยหล่อเย็น
   
โฆษกสำนักงานพลังงานปรมาณูและพลังน้ำของเกาหลีใต้ แถลงว่า เกาหลีใต้มีแผนที่จะส่งธาตุหล่อเย็นเข้าไปช่วยญี่ปุ่น ควบคุมเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่กำลังมีปัญหา โดยทางญี่ปุ่นได้ขอร้องให้ส่ง “โบรอน” ธาตุกึ่งโลหะซึ่งเป็นวัสดุสำคัญยิ่งที่จะช่วยลดความร้อนจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ และญี่ปุ่นเองก็ขาดแคลนธาตุกึ่งโลหะตัวนี้อยู่ ดังนั้น เกาหลีใต้จึงได้ส่งตัวอย่างของธาตุกึ่งโลหะตัวนี้ไปให้ดูแล้ว และเตรียมที่จะส่งให้เป็นหลายพันตัน หากได้รับไฟเขียว
   
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นแถลงว่า ผู้เชี่ยวชาญ 8 คนจากคณะกรรมการควบคุมบังคับด้านพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐ มีกำหนดเดินทางไปถึงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อให้คำแนะนำว่าด้วยการจัดการกับวิกฤติพลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาในขณะนี้

ยันโรงไฟฟ้าอื่นยังปลอดภัย
   
ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) แถลงที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฮามาโอกะ ยังสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย หลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหม่ 6.1 ริคเตอร์ ในแถบตะวันออกของเกาะฮอนชู และ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 120 กม. โดยยืนยันว่า เตาปฏิกรณ์ทั้งหมด 5 เตานั้น มีเตาที่ 1 กับเตาที่ 2 ที่ไม่ได้ใช้งาน เตาที่ 3 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและไม่ได้ใช้งานเช่นกัน ยกเว้นเตาที่ 4 กับเตาที่ 5 ที่ยังสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย

แห่ซื้อยาเม็ดโปแตสเซียม
   
องค์การอนามัยโลกได้ออกมาประกาศเตือนประชาชนว่าอย่าตื่นตระหนกแห่กันไปซื้อยาเม็ดโปแตสเซียม ไอโอดีน มารับประทานเพราะคิดว่าสามารถป้องกันสารกัมมันตรังสีได้ ถึงขนาดประมูลซื้อกันทางเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตด้วยราคาแพงถึง 540 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16,200 บาท) โดยองค์การอนามัยโลกระบุว่า ประชาชนควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินยาตัวนี้และอย่ากินยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะยาเม็ดไอโอดีนไม่ใช่ยาแก้พิษรังสี อีกทั้งไม่สามารถป้องกันสารกัมมันตรังสีได้ ผู้หญิงมีครรภ์อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ

พิโรธซ้ำ6.0ริคเตอร์ที่ชิบะ
   
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น แจ้งว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.0 ริคเตอร์ ในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งจังหวัดชิบะ แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารสูงในกรุงโตเกียวเกิดการสั่นไหว โดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่ 96 กม.ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว แรงสั่นสะเทือนยังรับรู้ได้เป็นบริเวณกว้างทั่วทั้งภาคตะวันออกของประเทศ ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายรุนแรง จากแผ่นดินไหวซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 25 กม. เมื่อเวลา 12.52 น.ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 10.52 น. วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย ยังไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิ แต่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาได้เตือนให้ระวังระดับน้ำในทะเลลดลง

เผยยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
   
ตัวเลขผู้เสียชีวิตและสูญหายนั้น เกินกว่า 11,000 คนแล้ว โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้มี 3,676 ศพ ตามรายงานคืบหน้าของสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น มีผู้สูญหายเพิ่มขึ้นจาก 800 คน เป็น 7,558 คนและผู้บาดเจ็บ 1,990 คน พื้นที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด เป็นพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชู อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 80,422 หลังคาเรือน และ ประชาชนต้องอพยพเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 556,132 คน

พระราชทานผ้าห่มกันหนาว
   
ส่วนการช่วยเหลือในประเทศไทย เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต รองหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ เป็นผู้แทนพระองค์ฯ นำผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 20,000 ผืน เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยมี นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ เป็นผู้รับมอบ และนายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าร่วมในพิธีด้วย นอกจากนี้ ตัวแทนจากบริษัท คิวพี โปรดักส์ จำกัด และบริษัท พรานทะเล จำกัด ร่วมกันบริจาคเสื้อกันหนาวและอาหารสำเร็จรูป รวมมูลค่า 2 ล้านบาท ขณะที่บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด มอบอาหารให้กับผู้ประสบภัยด้วย

เรียกประชุมรับมือผลกระทบ
   
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือและเตรียมรับมือหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่น ว่า  ได้หารือเกี่ยวกับการทำงานในขั้นตอนต่อไปเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เช่น การติดตามและการช่วยเหลือคนไทยที่กระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตและเครือข่ายที่มีอยู่ในประเทศญี่ปุ่นยังดำเนินการติดตามอย่างต่อเนื่องและยืนยันขณะนี้เที่ยวบินของบริษัทการบินไทยก็ยังมีที่ว่างอยู่และสามารถที่จะรองรับการเดินทางกลับได้ซึ่งราคาตั๋วเครื่องบินไม่ได้แพงอย่างที่เป็นข่าว 

ติดเครื่องมือตรวจอาหารนำเข้า
   
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการส่งสิ่งของให้ประเทศญี่ปุ่นนั้นอยู่ระหว่างการขนส่งโดยเครื่องบินของการบินไทย และเครื่องบิน ซี 130 ขนส่งไปในคืนวันที่ 16 มี.ค.ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางญี่ปุ่นแจ้งมาว่าสิ่งที่ต้องการที่สุดคือน้ำดื่ม ไฟฉาย ผ้าห่ม ถุงนอน ถุงเท้าและภาชนะใส่น้ำ นอกจากนั้นยังได้หารือถึงผลกระทบที่ตามมาในเรื่องของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยแบ่งเป็นด้านอากาศที่เรามีเครื่องมือที่สามารถที่จะติดตามระดับของรังสีเหล่านี้ในอากาศได้ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสิ่งที่บ่งบอกว่ามีความผิดปกติ และโอกาสที่เข้ามาสู่ประเทศไทยนั้นน้อยมาก ๆ ส่วนที่สองคืออาหารที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนั้นจะมีการประสานติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ที่บริเวณท่าเรือคลองเตยเพิ่มอีก 1 จุดหลังจากที่มีเพียงที่มาบตาพุด และส่วนที่ 3 คือคนที่เดินทางออกจากพื้นที่เสี่ยงกลับมาประเทศไทยนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขจะจัดระบบตรวจสอบ ให้ความรู้และคำแนะนำ เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลและมีความมั่นใจมากขึ้น               

กต.พร้อมช่วยคนไทยกลับบ้าน
   
ด้านนายกษิต กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์ล่าสุดที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า เท่าที่รับทราบจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย พบว่ากรณีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ยังไม่ถึงขั้นอันตราย ขณะนี้สหรัฐอเมริกาได้ส่งผู้เชี่ยวชาญลงไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งในส่วนของคนไทยสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว พร้อมประสานงานหากต้องการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังน่ากังวลคือระบบการสื่อสารที่บางจุดยังไม่สามารถใช้การได้ ทำให้การตรวจสอบคนไทยค่อนข้างลำบาก แต่ได้ขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่มีรายชื่อนักศึกษา ให้ช่วยกันตรวจสอบสถานะแล้ว

[มดเอ๊กซ]

เชิญบริจาคช่วยเหยื่อธรณีพิโรธ                   

นายกษิต กล่าวอีกว่า การให้ความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น ในระยะแรกที่ถือว่าเป็นสภาวะฉุกเฉิน ดังนั้นการให้ความช่วยเหลือจึงเป็นเรื่องของเครื่องนุ่งห่ม เครื่องกันหนาว ของใช้จำเป็น และอาหารสำเร็จรูป ส่วนระยะปานกลางเข้าสู่การฟื้นฟูประเทศนั้น ไทยมีความสามารถในเรื่องการก่อสร้าง ซึ่งเราอาจจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ แต่ไทยจะพยายามให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อถือเป็นการตอบแทนที่ญี่ปุ่นได้ช่วยไทยในเรื่องการพัฒนาประเทศมาตลอด และเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ทั้งนี้ ตนขอเชิญชวนประชาชนไทยร่วมกันบริจาคเงินผ่านช่องทางที่รัฐบาลเปิดรับ

ทูตซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ         
   
นายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวทันที รัฐบาลญี่ปุ่นรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างสูง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระทัย รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ ภัยที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่มีความทุกข์มาก บางคนหนาวไม่มีเครื่องนุ่งห่ม เพราะสูญเสียบ้านเรือน และยังมีผู้คนที่ยังติดต่อไม่ได้อีกประมาณ 15,000 คน ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นพยายามเร่งค้นหาและฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ทราบว่าหลายคนมีความเป็นห่วงกังวลเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แม้มีปัญหาทางด้านเทคนิค แต่ยังไม่มีอันตรายมากสำหรับมนุษย์ ซึ่งเราจะแจ้งข้อมูลให้ทราบอย่างต่อเนื่อง

วุฒิสภาเห็นชอบระดมช่วยเหลือ
     
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า วุฒิสภาได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 16 มี.ค. แสดงความรู้สึกเสียใจในความเสียหายและความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยประธานวุฒิสภาได้มีสารแสดงความเสียใจไปยังประธานวุฒิสภาญี่ปุ่น และที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน โดยการระดมการบริจาคเงินจากสมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยประเทศญี่ปุ่นเป็นการเร่งด่วน ทั้งนี้ ขอเชิญประชาชนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถบริจาคเงินได้ที่ศูนย์บริการ (Call Center) วุฒิสภา โทร. 0-2244-1777–8 หรือกลุ่มงานการเงิน สำนักการคลังและงบประมาณ อาคารรัฐสภา 2 โทร. 0-2244-1578 หรือสายด่วนวุฒิสภา โทร. 1102 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

โตเกียวไม่พบวัสดุกัมมันตรังสี
   
ศ.ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ  กล่าวว่า  เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 15 มี.ค. ทางสำนักงานฯได้รับแจ้งจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ว่ามีการยืนยันวัดระดับรังสีได้ 400 มิลลิซีเวิร์ทต่อชั่วโมง ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิชิ เป็นผลเนื่องมาจากไฟไหม้โรงไฟฟ้าหน่วยที่ 4 ต่อมาได้มีการวัดรังสีที่ประตูทางเข้าหลัก เวลา 07.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ตามเวลาในประเทศไทย วัดได้  11.9 มิลลิซีเวิร์ทต่อชั่วโมง จากนั้นในเวลา 13.00 น. ระดับรังสีลดลงเหลือ 0.6 มิลลิซีเวิร์ทต่อชั่วโมง และได้ให้ประชาชนอยู่ในบริเวณที่พักอาศัยขยายขอบเขตเป็นระยะ 30 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ส่วนบริเวณที่จำเป็นต้องมีการอพยพยังคงเดิมที่ระยะ 20 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ส่วนสถานการณ์ที่มีผลนอกบริเวณ ไม่พบวัสดุกัมมันตรังสีไอโอดีน และซีเซียม บริเวณใกล้กรุงโตเกียว

พบ 23 คนเปรอะเปื้อนทางรังสี 
   
สำหรับการตรวจวัด คนจำนวน 150  คนโดยรอบที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และคนในเมืองที่อยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ผลการตรวจวัดพบว่า มีคนจำนวน 23 คน ต้องได้
รับการชำระล้างการเปรอะเปื้อนทางรังสีเนื่อง จากวัดการเปรอะเปื้อนได้สูงกว่า 13,000 ซีพีเอ็ม นอกจากนี้ได้มีการกำหนดบริเวณห้ามบิน ในระยะ 30 กิโลเมตร โดยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิชิ นอกเหนือจากบริเวณนี้สามารถทำการบินได้ตามปกติ และหน่วยงานป้องกันชายฝั่งของประเทศญี่ปุ่นได้มีการจัดตั้งระยะการเตือนเพื่อการอพยพโดยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกูชิมา ไดอิชิ เป็นระยะ 10 กิโลเมตร

ยันไทยปลอดภัยกัมมันตรังสี
   
ส่วนประเทศไทยปริมาณรังสีแกมมาในอากาศที่สถานเฝ้าระวังทางรังสีแห่งชาติ เก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่กรุงเทพฯ วัดได้ 0.045 ไมโครซีเวิร์ทต่อชั่วโมง  ที่เชียงใหม่ วัดได้ 0.042 ไมโครซีเวิร์ทต่อชั่วโมง  ที่ขอนแก่น  วัดได้ 0.054 ไมโครซีเวิร์ทต่อชั่วโมง ที่ตราด  วัดได้ 0.085 ไมโครซีเวิร์ทต่อชั่วโมง และที่สงขลา วัดได้ 0.050 ไมโครซีเวิร์ทต่อชั่วโมง  ซึ่งอยู่ในระดับต่ำมาก อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เพื่อให้การปฏิบัติตนในกรณีที่มีผลต่อเนื่องจากเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนคนไทยให้มากที่สุด

ส่งซี130ขนยาเครื่องมือแพทย์ 
   
น.อ.นิวัติ อินทรวิเชียร ฝ่ายอำนวยการแพทย์ทหารอากาศ กล่าวว่า การแพทย์ทหารอากาศ ใช้เครื่องบิน รุ่นซี 130 บินลำเลียงของใช้ที่จำเป็น เช่น ยา เครื่องมือทางการแพทย์
ของใช้อุปโภคบริโภค จากกระทรวงการต่างประเทศของไทยไปช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 มี.ค. เวลา 22.00 น. 2 ลำ  และขากลับจะรับคนที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยมาด้วย และ วันที่ 18  มี.ค. จะมีการบินไปรับคนไทยในประเทศญี่ปุ่น 1 ลำ ซึ่งเครื่องบินทั้ง 3 ลำจะลงจอดที่สนามบินฮาเนดะ

“เบตาดีน”กันกัมมันตรังสีไม่ได้
   
นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทย สภา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องการใช้เบตาดีนทาคอเพื่อป้องกันการได้รับสารกัมมันตรังสี ว่าความเป็นจริงแล้วเบตาดีนไม่มีสรรพคุณที่สามารถป้องกันสารกัมมันตรังสีได้ และไม่อยากให้คนตื่นตระหนกจนเกินเหตุ เนื่องจากโอกาสที่สารดังกล่าวจะแพร่กระจายจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาสู่ประเทศไทยน้อยมาก นอกจากนี้ยังเตือนถึงประชาชนที่จะรับประทานไอโอดีนเม็ดเพื่อป้องกันอันตรายและโรคมะเร็งจากสารกัมมันตรังสีว่า หากไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็ไม่ควรรับประทาน โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากหากทานมาก ๆ อาจส่งผลข้างเคียงและส่งผลกับทารกในครรภ์ได้

สั่งอภ.ผลิตไอโอดีน1.5หมื่นเม็ด
   
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สธ. ได้มอบให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตไอโอดีนเม็ดสำหรับรับประทานป้องกันกัมมันตรังสีจำนวน 1.5 หมื่นเม็ด เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงในประเทศญี่ปุ่น โดยจะเริ่มแจกจ่ายในวันที่ 17 มี.ค. ที่สนามบินซึ่งมีเที่ยวบินไปประเทศญี่ปุ่น อาทิ สุวรรณภูมิ ภูเก็ต โดยไอโอดีนเม็ดที่ผลิตแบ่งออกเป็นขนาด 130 มิลลิกรัม จำนวน 1 หมื่นเม็ด สำหรับผู้ใหญ่ และขนาด 65 มิลลิกรัม จำนวน 5,000 เม็ด สำหรับเด็ก ซึ่งเป็นไอโอดีนที่เข้มข้นกว่าที่ สธ. แจกให้หญิงตั้งครรภ์ 1,000 เท่า นอกจากนี้กรมควบคุมโรคยังได้จัดตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วยที่สนามบินเพื่อให้คำแนะนำและตรวจสุขภาพแก่ประชาชนที่เดินทางไปและกลับจากประเทศญี่ปุ่นตามความสมัครใจตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากพบว่าจำเป็นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมจะจัดส่งไปยัง รพ.ราชวิถี และ รพ.นพรัตนราชธานีต่อไป

สุ่มตรวจปลาฮามาจิ-ทูน่าญี่ปุ่น
   
ที่ด่านอาหารและยา คลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางเพียงฤทัย เสารัมณี ผอ.กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค พร้อมด้วย น.ส.สุภาภรณ์ อำนวยกิจ หัวหน้าด่านอาหารและยา คลังสินค้าสุวรรณภูมิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ทำการสุ่มตรวจสินค้าที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเฝ้าระวังการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี โดย น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า สินค้าที่นำเข้ามาในวันนี้เป็นปลาฮามาจิ จำนวน 60 กก. และปลาทูน่าตาโต จำนวน 39.2 กก. ทั้งนี้มีการเก็บตัวอย่างปลาอย่างละ 1 กก. ส่งตรวจที่สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 วัน แต่โดยปกติในการตรวจ 1 ตัวอย่างจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชม. และหลังจากนี้ด่านอาหารและยาจะมีการสุ่มตรวจในสินค้าทุกลอตที่นำเข้าจากญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศใกล้เคียงด้วย เช่น เกาหลี ไต้หวัน และจีนบางส่วน ขอยืนยันว่า สินค้าที่นำเข้ามานี้จะยังไม่อนุญาตให้นำไปประกบอาหารได้ จนกว่าจะผ่านการตรวจวิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว

ทสภ.-สธ.คัดกรองผู้โดยสาร
   
น.ส.วิไลวรรณ นัดวิไล โฆษกท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่นทำให้โรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ระเบิดขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมานั้น ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. เป็นต้นไป ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ในการคัดกรองผู้โดยสารคนไทยที่เดินทางเข้าออกประเทศญี่ปุ่น โดยผู้โดยสารขาออก จะมีเจ้าหน้าที่ ให้ความรู้และคำแนะนำ เพื่อจะได้ปฏิบัติตนให้ถูกต้องในระหว่างพำนักอยู่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งหากพบว่า ผู้โดยสารท่านใดที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง จะให้รับประทานยาเม็ดโปแตสเซียมไอโอไดด์ (ไอโอดีน) สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น จะมีทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ มาคัดกรองผู้โดยสาร ที่บริเวณประตูทางออกเครื่องบิน โดยให้ตอบแบบสอบถามคัดกรองสุขภาพ เพื่อดูระดับความเสี่ยงอันตรายต่อสารกัมมันตรังสี ในกรณีที่ผู้โดยสารมาจากเมืองที่มีความเสี่ยงสูงก็จะพิจารณาให้ยารักษา หรือแนะนำให้ไปโรงพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้

คนบันเทิงระดมทุนช่วยปลาดิบ
   
ที่ลานพาร์คพารากอน ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ และ วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา นำทีมเพื่อนพ้องในวงการบันเทิง ไม่จำกัดค่ายและสังกัด  จัดกิจกรรมร่วมระดมทุนรับบริจาคเงิน และช่วยกันจำหน่ายเสื้อยืด สกรีนลาย NIPPON 2011 ราคาตัวละ 300 บาท จำนวน 3,000 ตัวโดยรายได้ทั้งหมด นำไปมอบให้กับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อมอบต่อผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่น ซึ่งในกิจกรรมนี้มีศิลปินดาราเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ โดม-ปกรณ์ ลัม, ไก่-วรายุทธ มิลินทจินดา, จ๋า-ยศสินี ณ นคร, วงไทยเทเนียม, นาเดีย นิมิตรวานิช, หนิง-ปณิตา  พัฒนาหิรัญ, ไข่มุก-ชุติมา ดุรงค์เดช, เป้ย-ปานวาด เหมมณี, นุสบา ปุณณกันต์, เก๋-ชลลดา เมฆราตรี, บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา ศิลปินจากค่ายแกรมมี่ และอาร์เอส, นักแสดงจากค่ายจีทีเอช, นักแสดงจากเอ็กแซ็กท์, ศิลปินเอเอฟ และเดอะสตาร์, นักแสดงจาก M39, ดีเจคลื่นซี้ด 97.5 เอฟเอ็ม, ดีเจคลื่นเอไทม์ ฯลฯ รวมกว่าร้อยชีวิต
   
ทั้งนี้มีประชาชนให้ความสนใจและร่วมบริจาคและร่วมซื้อเสื้อกันอย่างล้นหลาม ทำให้เสื้อยืดขายหมดภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที จากนั้นมีการประมูลเสื้อสกรีนลาย NIPPON 2011 ที่ดาราสวมใส่ โดยของ ริท เดอะสตาร์ ได้ 105,000 บาท กัน เดอะสตาร์ 101,430 บาท และ โดม-ปกรณ์ ลัม 35,000 บาท นอกจากนี้ยังมีศิลปิน-ดารา ถือกล่องรับบริจาค เดินทางกระจายไปยังสถานีรถไฟฟ้า และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหลายสาย เพื่อรับบริจาค

ศิลปินดังแดนปลาดิบงดแสดง
   
เช่นเดียวกันกับ ที่หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์สแควร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้มีการจัดกิจกรรม คอนเสิร์ตการกุศลน้ำใจเพื่อผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวญี่ปุ่น “All Hearts For Japan” (ออล ฮาร์ท ฟอร์ เจแปน) โดยมีศิลปินดารา คนดัง มาร่วมงานอย่างคับคั่งอาทิ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, มาริโอ้ เมาเร่อ, เอมี่ กลิ่นประทุม, นัท มีเรีย เบเนเด็ตตี้, ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ ศิลปินจากค่ายอาร์เอส เคพีเอ็น แกรมมี่ เอไทม์ คลื่นเวอร์จิ้น ฯลฯ

นอกจากนี้ในงานยังมีกิจกรรมจุดเทียนร่วมไว้อาลัยและให้กำลังใจผู้ประสบภัยญี่ปุ่น พร้อมทั้งมีการพับนกกระเรียนร่วมกับดารานักแสดง รวมไปถึงการออกร้านเพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกด้วย ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศิลปิน “จอห์นนี่ จูเนียร์”ศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น แจ้งแฟนเพลงชาวไทยงดร่วมแสดงในงาน “พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล มิวสิค เฟสติวัล 2011” เนื่องจากภัยพิบัติสึนามิ จึงต้องขออภัยมายังแฟนเพลงชาวไทยด้วย.



 
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=5&contentID=127258